[fanfic knb] Cruel Clocks Ver.akafuri
อยากรู้ก็เชิญเขามาชมเลยจ้า เพราะอธิบายไปถูกเหมือนกัน
ผู้เข้าชมรวม
2,708
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Cruel Clocks Ver.akafuri
ในเมืองๆ หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนต่างไขว่คว้าซึ่งอำนาจและชื่อเสียง ได้มีร้านนาฬิกาเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งไม่เคยที่จะต้องการอำนาจหรือชื่อเสียงเลย เป็นเพียงครอบครัวที่แสนเรียบง่ายครอบครัวหนึ่ง
ผู้เป็นพ่อเป็นช่างทำนาฬิกา ผู้เป็นแม่ก็เป็นเพียงแม่บ้านคนหนึ่ง ส่วนลูกชายเพียงคนเดียวของทั้งสองก็เป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง
จนกระทั่งวันหนึ่งครอบครัวนี้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่เสียชีวิต เหลือเพียงลูกชายวัยสิบขวบอยู่เพียงคนเดียว...
เด็กชายผู้สูญเสียครอบครัวไปทำได้เพียงร่ำไห้ แต่ยังคงต้องสืบสานกิจการของครอบครัวต่อไปเพื่อความทรงจำในครั้งที่อยู่ด้วยกันจะไม่หายไป...
หลังงานศพเด็กชายเดินเข้าไปยังห้องเก็บของ และเดินไปที่นาฬิกาเรือนหนึ่ง ซึ่งสำหรับเขามันคือนาฬิกาที่คล้ายกับโลงศพมาก และเขาคงไม่เข้ามาใกล้เลยถ้าพ่อแม่ของเขาไม่เคยบอกไว้ว่า 'ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วให้ใช้กุญแจดอกนี้เปิดมาซะ นี้คือสมบัติโบราณตั้งแต่บรรพบุรุษของเรา แต่ไม่มีใครสามารถเปิดได้เลย พ่อแม่เชื่อว่าลูกจะสามารถเปิดมันได้...' ซึ่งเขาต้องทำตามคำกล่าวเหล่านั้น อย่างน้อยเพื่อพ่อแม่ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย
เด็กชายนำกุญแจดอกน้อยไขตรงประตูนาฬิกาจนมีเสียงดังคลิก เขาเปิดประตูนาฬิกาและพบกับ...
...ตุ๊กตา
ในนั้นมีตุ๊กตาผู้ชายที่เหมือนมนุษย์มากจนแทบแยกไม่ออก สูงราว 170 ซม. ผมสีแดงชาด ใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์
เด็กชายลองเอื้อมมือไปสัมพัสแล้วก็ถึงกับสะดุ้ง! เมื่อจู่ๆ ดวงตาของตุ๊กตาตรงหน้าก็ลืมตาโพลกขึ้นมา!
"นาย...คือคนที่ปลุกฉันขึ้นมาสินะ?" นัยน์ตาสองสีของตุ๊กตาจับจ้องไปที่คนตรงหน้าที่เริ่มสั่นด้วยความกลัว
"อ...อืม ใช่" เด็กชายตอบพลางเหลือบดวงตาสีน้ำตาลของตนมองอีกฝ่ายอย่างหวั่นๆ เมื่อเห็นอย่างนั้นคน เอ้ย! ตุ๊กตาผมแดงก็ยกมือลูบผมสีน้ำตาลนุ่มมือเชิงปลอบ
"งั้นเหรอ...เข้าใจล่ะ แล้วนายชื่ออะไรล่ะ"
"ฉันฟุริฮาตะ โคกิ..."
"ฉันอาคาชิ เซย์จูโร่ จะมาอยู่กับนายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...ยินดีที่ได้รู้จักนะ โคกิ"
"อ...อืม ยินดีที่ได้รู้จักนะ อาคาชิ"
ตั้งแต่วันนั้นที่ฟุริฮาตะ โคกิพบกับอาคาชิ เซย์จูโร่นั้นได้ผ่านมาห้าปีแล้ว กิจการร้านของฟุริฮาตะก็ดำเนินมาด้วยดี และฟุริฮาตะกับอาคาชิก็สนิกกันมากขึ้นไม่เหมือนตอนแรกที่ฟุริฮาตะกลัวอีกฝ่ายจนแทบไม่กล้าที่จะคุยด้วยเลย
บัดนี้เด็กชายได้กลายเป็นเด็กหนุ่ม ตอนนี้ก็สูงใกล้เคียงกับอาคาชิแล้วด้วย แม้อาคาชิจะไม่เปลี่ยนไปเลยก็ตาม...
พวกเขาต่างใช้ชีวิตสงบมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งมีเศษฐีผู้ร่ำรวยคนหนึ่งจ้างให้ฟุริฮาตะสร้างกลไกนาฬิการของหอคอยนาฬิกาขึ้น ซึ่งฟุริฮาตะก็รับงานนี้มาเพราะมันไม่ได้เกินความสามารถเขานัก...
...โดยไม่รู้เลยว่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถกลับมาได้อีกเลยตลอดกาล
การสร้างกลไกหอคอยนาฬิกาของฟุริฮาตะ โคกิดำเนินมาเป็นเวลา 5 วัน เพราะเป็นนาฬิกาขนาดใหญ่เลยทำให้ทำงานได้อย่างลำบากเล็กน้อย เขากับอาคาชิช่วยกันสร้างมันขึ้น ซึ่งวันนี้เป็นวันที่พวกเขาทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"เสร็จซะทีเนอะอาคาชิ จะได้กลับบ้านซะที" ฟุริฮาตะพูดพลางบิดขี้เกียจจากการทำงานเป็นเวลานาน
"อืม...นั้นสินะ" อาคาชิตอบก่อนที่จะสังเกตสิ่งผิดปกติที่พุ่งเขามา เขาพลักอีกฝ่ายให้พ้นจากวิถีของสิ่งนั้น "โคกิ!!!"
ฉับ!
วัตถุลักษณะคล้ายหอกด้ามยาว จากกลุ่มคนที่พยายามที่จะทำร้ายบุคคลทั้งสอง พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่ พวกเขาพยายามหลบเต็มที่ และพยายามที่จะหนีออกไปจากที่นี่
ฟุริฮาตะกับอาคาชิวิ่งหนีออกมาใกล้ถึงประตูทางออก แต่กลับมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งในคนกลุ่มนั้นจับขาฟุริฮาตะไว้ได้ และเงื้องหอกขึ้นหมายจะฟันใส่คนตรงหน้า!!!
"โคกิ!!!" อาคาชิพุ่งเข้าไปหมายคว้าตัวอีกฝ่ายกลับมา แต่...
"อ้ากกกก!!!" หอกที่ถูกฟันลงมาเร็วเกินกว่าอาคาชิจะช่วยได้ทัน ถึงฟุริฮาตะจะหลบทันจึงรอดจากความตายมาได้ แต่เขาได้สูญเสียดวงตาที่มองเห็นไปเสียแล้ว
อาคาชิถีบเจ้าคนที่ทำร้ายฟุริฮาตะจนกระเด็น และคว้าตัวฟุริฮาตะแบกขึ้นบ่าพร้อมวิ่งกลับไปที่ร้านทันที...
เมื่อพวกเขากลับมาถึงร้าน และได้เข้าไปแอบในห้องเก็บของแล้ว อาคาชิก็รีบทำแผลให้อีกฝ่ายทันทีถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่อาจมองเห็นได้อีกแล้วก็เถอะ
"ขอโทษนะ...ที่ฉันช่วยนายไม่ได้..." อาคาชิพูดออกมาขณะทำแผลให้อีกฝ่าย...เขาเจ็บใจที่ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม้แต่จะช่วยอีกฝ่าย
"ไม่เป็นไรหรอกอาคาชิ ในเมืองนี้เป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว..." ฟุริฮาตะส่งยิ้มให้อาคาชิ ซึ่งตอนนี้เริ่มคิ้วขมวดอย่างไม่เข้าใจ
"ประจำ...นั้นเหรอ?" อาคาชิไม่เข้าว่าที่อีกฝ่ายพูดหมายความว่าไง...
"อืม ใช่แล้วล่ะ เมืองนี้ผู้คนจะแก่งแย่งชื่อเสียงกับอำนาจกัน ฉันเดาว่าคงเพราะไม่อยากให้ฉันได้หน้าเรื่องการทำกลไกนี่และอยากได้ชื่อว่าเป็นคนสร้างหอนาฬิกานั้นคนเดียว เลยหาทางกำจัดฉันเหมือนพ่อแม่ฉันนั้นแหละ" ฟุริฮาตะเข้าใจเรื่องนี้ดี เพราะตลอดมามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเมืองนี้ ราวกับไม่อาจหนีพ้นได้เลยถ้ายังอยู่ในเมืองนี้
"งั้นหมายความว่าพวกนั้นจะมาอีกสินะ?" ฟุริฮาตะพยักหน้าตอบอาคาชิ "งั้นเรารีบหนีเถอะ!" อาคาชิดึงแขนอีกฝ่ายเป็นเชิงว่าให้หนี
แต่ฟุริฮาตะกลับส่ายหน้าพร้อมพาอีกฝ่ายไปที่หน้านาฬิกาซึ่งเป็นที่ที่เขาเจออาคาชิครั้งแรก พร้อมเปิดประตูของนาฬิกาและผลักอีกฝ่ายเข้าไปในนั่น แล้วเอาตัวดันประตูไว้ไม่ให้อีกฝ่ายออกมา
"จะทำอะไรน่ะ!?! โคกิ!!!" อาคาชิทุบประตู พยายามที่จะออก
"ขอโทษนะ อาคาชิ" ฟุริฮาตะพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ "พวกเราหนีไม่ทันแล้วล่ะ พวกน้นคงมาถึงแล้ว... ฉันคงจะปล่อยให้นายรับเคราะห์ไปด้วยไม่ได้หรอก ขอโทษนะ"
ตึงๆๆ
เมื่อพูดจบฟุริฮาตะก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมาที่ห้องนี้ และเพียงไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงตรงหน้าเขา เขาพร้อมที่จะรับซะตากรรมของเขาแล้ว
"ลาก่อน..." ฟุริฮาตะพึมพำออกมาเบาๆ เพราะเขารู้ว่าภายในนาฬิกานั้นได้ยินเสียงจากภายนอกชัดเจนแค่ไหน "...และขอบคุณมากนะ อาคาชิ"
"อย่านะ! โคกิ!" อาคาชิพยายามตะโกนเรียกอีกฝ่าย แม้รู้ว่าจากถายในนี้เสียงที่ออกไปจะเบามากแค่ไหนก็ตาม
ฉับ!
เสียงของมีคมตัดผ่านประตูนาฬิกาทำให้เกิดเป็นว่างเล็กๆ พร้อมกับที่อาคาชิเห็นร่างของอีกฝ่ายล้มลง หยาดโลหิตสีแดงชาดสาดกระเซ็นราวกับสายฝน อาคาชิหยุดนิ่งอย่างตกตะลึงมองชายสองที่น่าจะเป็นเดียวกับที่ทำร้ายพวกเขาวิ่งหนีออกไป
เมื่อคนพวกนั้นออกไปแล้วได้สักพัก อาคาชิก็ออกมาจากนาฬิกา และก้มลงไปประคองร่างที่ตอนนี้เริ่มเย็นไว้ในอ้อมกอด
"โคกิ...ตื่นสิ! ลุกขึ้นมาสิ! ขอร้องล่ะ!" อาคาชิตะโกนใส่ร่างของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่รู้...รู้ว่าอีกฝ่ายไม่วันลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม
"โคกิ..." หยาดน้ำใสเริ่มหลั่งไหลออกมาจากในตาสองสี
อาคาชิยังคงไม่เข้าใจ ทั้งที่เขาเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้น ไม่ควรมีทั้งความรู้สึกทั้งน้ำตาแท้ๆ
เขาเป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกสร้างเลียนแบบคนคนหนึ่งเท่านั้น เลียนแบบเพื่อนสนิกของคนที่สร้างเขาขึ้นมาทั้งชื่อและนามสกุล เป็นเพียงสิ่งของเท่านั้น...
...ทั้งที่เป็นอย่างนั้น แล้วทำไมกันเขาถึงเจ็บขนาดนี้?
ตอนที่ผู้ที่สร้างเขาจะตายและได้ขังเขาไว้ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่สิ ต้องพูดไม่มีเยื้อไยเลยดีกว่า
แต่เมื่อถึงคราวของฟุริฮาตะ โคกิกลับต่างออกไป ทั้งรอยยิ้มทั้งสัมพัสทั้งความอ่อนโยนที่ได้รับจากอีกฝ่าย ทุกอย่างนั้นตรึงในใจเขา ถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจ...ทำไมเขาถึง 'รัก' อีกฝ่ายขนาดนี้
อาคาชิวางร่างไร้วิญญาณลง เขียนบางอย่างและทิ้งสิ่งนั้นไว้ข้างร่างของอีกฝ่าย สิ่ง...เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายตายอย่างไร้ความเป็นธรรมอย่างนี้เด็ดขาด!
แล้วเด็กหนุ่มผมแดงก็ได้เดินออกไปยังที่ที่หนึ่ง...ที่ที่เป็นสาเหตุทำให้คนที่เขารักจากไป
"ไม่ต้องห่วง..." อาคาชิเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา "ฉันจะเป็นคนจบทุกอย่างเองนะ...โคกิ"
ท่ามกลางซากปรักปัดพัง และซากศพมากมาย ได้มีร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงยืนอยู่ตรงกลาง ตามร่างกายเปอะเปื้อนด้วยสีของโลหิต ในมือนั้นถือหอกด้ามยาวไว้คาดว่าแย่งมาจากศพไหนสักศพ
"ก...แก ต้องการอะไร" เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มคือคนที่เขาจำได้ดี...คนที่ทำลายทุกอย่างของเขา
เมื่อตอนที่เขามาถึงที่นี่ก็เผลอได้ยินที่คนพวกนี้พูดพอดี ทุกอย่างรวมทั้งเรื่องที่คนคนนี้ส่งคนไปฆ่าคนที่สำคัญที่สุดของเขา...ด้วยเหตุผลแค่ว่าอยากได้ชื่อเสียงเพียงคนเดียวเท่านั้น...เพียงแค่นั้นกลับทำถึงขนาดนี้!
เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้สังหาร กลุ่มคนที่ทำร้ายคนคนนั้นไปเรียบร้อยแล้ว...
ร่างของอาคาชิ เซย์จูโร่ย่างสามขุมไปยังอดีตลูกค้าคนสุดท้าย...ในชีวิตของคนคนนั้น
"แกต้องเงินใช้ไหม! ฉันให้แกได้นะ! ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย!" ร่างตรงหน้าอาคาชิสั่นเท่าด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้เรียกความสงสารจากอาคาชิเลยแม้แต่น้อย ภายในหัวเขามีเพียงคำว่า 'อภัยให้ไม่ได้' กับ 'ต้องแก้แค้น' อยู่เต็มไปหมด
"ของพรรค์นั้นฉันไม่ต้องการหรอก..." อาคาชิพูดเสียงเย็นจนน่าขนลุก และเงื้องหอกในมือขึ้น...
"เพราะสิ่งสำคัญของฉันแกได้พรากมันไปแล้ว!" ...แล้วคนตรงหน้าอาคาชิก็ถูกปลิดชีพอย่างเลือดเย็น เหมือนกับสิ่งที่เคยทำไว้
เมื่อความแค้นทั้งหมดได้ถูกชำระแล้ว เหลือเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องทำ...นั้นคือทำร้ายหอนาฬิกานี่
เหลือเวลาอีกสองนาทีก่อนที่ระเบิดที่เขาติดตั้งไว้จะทำงาน...เขาไม่เสียดายเลยที่ต้องตายที่นี่ เพราะเขาไม่ที่ให้กลับไปอีกแล้ว
"หยุด! ยอมให้จับซะดีๆ !" พวกหน่วยรักษาความสงบที่มาถึงได้รายล้อมหอนาฬิกาด้านนอกไว้
"หึ..." อาคาชิหัวเราะเบาๆ พร้อมกับที่ระเบิดทำงาน...
ตู้ม!!!
เหล่าหน่วยรักษาความสงบต่างวิ่งหนีตายกันอลมาน กับระเบิดและหอคอยที่พังลงมา...
อาคาชิยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสิ่งต่างๆ ที่พังลงมาอย่างไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ถาวนาสิ่งหนึ่งเท่านั้น...ถึงมันเป็นไปไม่ได้แต่เขาก็ยังขอที่จะเชื่อในสิ่งนั้น
ขอในสักวันเราจะได้พบกันอีกนะ โคกิ...
เพียงไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไปกับซากของสิ่งที่เป็นหอคอย ซึ่งพังลงมาอย่างไม่มีชิ้นดี
ต่อมาหน่วยรักษาความสงบก็ไปพบร่างไร้วิญญาณของฟุริฮาตะ โคกิพร้อมจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งเขียนเรื่องราวทั้งหมดไว้ ถึงได้ทราบถึงเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด...
...และโศกนาฏกรรมนี้ทำให้มีการปฏิวัตบ้านเมืองขึ้นใหม่ ทำให้ไม่มีใครต้องพบโศกนาฏกรรมแบบนี้อีก แล้วเรื่องราวของทั้งสองนี้ก็ได้หายไปตามกาลเวลา
เฮือก!!!
ร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงชาดตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ พลางคิดใจใน...
...ทำไมฝันแปลกๆ หว่า
เด็กหนุ่มส่ายหัวปัดเรื่องนี้ทิ้งพร้อมลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้มีพิธีเปิดการแข่ง wc
เด็กหนุ่มเดินออกจากบ้านพลางคิดว่าที่ตนฝันแปลกๆ คงเพราะเมื่อวานเขาไปอ่านบันทึกโบราณที่ไม่รู้มาจากไหนเข้า...
...ในบันทึกนั้นเขียนถึงเหตุการณ์หนึ่ง
เป็นเรื่องราวเด็กหนุ่มคนหนึ่งกับตุ๊กตาตัวหนึ่งซึ่งขยับได้ดั่งมนุษย์ เด็กหนุ่มคนนั้นครั้งหนึ่งถูกจ้างไปทำกลไกหอนาฬิกา และเมื่อสร้างเสร็จก็ถูกฆ่าเพราะผู้จ้างต้องการชื่อเสียงในการสร้างแต่เพียงผู้เดียว ตุ๊กตาที่รอดมาได้ไงไม่รู้ก็ไปฆ่าคนที่ฆ่าเด็กหนุ่ม และทำลายหอคอยทิ้งพร้อมกับตนเอง
ที่น่าขำคือตุ๊กตาตัวนั้นมีชื่อว่าอาคาชิ เซย์จูโร่...
...ชื่อเดียวกับเขาพอดี
แภมมีต่อท้ายๆ อีกว่าสุดท้ายฝาแฝดที่แยกจากกัน เพราะในเมืองนั่นถือว่าฝาแฝดนั้นเป็นตัวอันตรายต้องกำจัด จึงได้แยกฝาแฝดคนหนึ่งให้ญาติที่อยู่ต่างเมืองช่วยเลี้ยงดู ก็มางานศพของฝาแฝดตนและเมื่อจบงานก็ได้หายสาปสูญไป
เมื่อเขาลองพลิกหาว่าบันทึกเล่มนี้เป็นของใคร เขาก็เจอชื่อเขียนไปที่หน้าท้ายสุดแต่ก็เลอะอะไรไม่รู้จนอ่านไม่ค่อยออก '□u□i□□□a masaki'
เด็กหนุ่มผมแดงคิดว่าหนังสือเล่มนี้คงติดมาอยู่ที่บ้านเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งสำหรับเขามันรู้สึกคาใจแปลกๆแฮะ แต่ช่างเถอะตอนนี้เขาต้องเตรียมแข่ง wc มากกว่าสนใจเรื่องพันธ์นี้
เมื่อมาถึงเขาก็เกิดนึกคึกอะไรไม่รู้ อยากเห็นควมมเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสมัยม.ต้นชอบกล เขาจึงส่งเมลเรียกทุกคนมา
พอเดินไปหาเหล่าเพื่อนสมัยม.ต้นของเขา เขาก็ถึงกับชะงักเมื่อเห็นคนที่มากับคนที่จืดจางที่สุดในเพื่อนตอนม.ต้นของเขา
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ เพื่อนร่วมทีมตน นัยน์ตาสีน้ำตาลมองเขาอย่างหวั่นๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกับว่าเขาคุ้นเคยกับอีกฝ่ายเหลือเกิน...
การเจอกันของพวกเขาในตอนนี้ทำให้ฟันเฟือนแห่งโชคชะตาที่เคยหยุดลง ได้เริ่มหมุนอีกครั้ง และคราวนี่จะไม่มีใครแยกทั้งสองออกจากกันได้อีกแล้ว...ตลอดไป
ENG
ผลงานอื่นๆ ของ shiko akaki ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ shiko akaki
ความคิดเห็น