Happy Love! ภูติน้อยไดอารี่ (ลงใหม่ค่ะ)
จ๊าก!! ไอ้เจ้าตัวจิ๋วนี่มันตัวอะไรกันน่ะ หา? จะทำให้ความรักของฉันสมหวังงั้นเหรอ ฮิๆๆ แต่ เอ๊ะอ้าว! แล้วเจ้าหัวทองนี่มันใครกัน ไดอารี่จัง เจ้านี่มันเป็นคร้ายยยยยยย
ผู้เข้าชมรวม
1,434
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
SherrY
Happy love! ภูติน้อยไดอารี่
‘วันนี้วันฟ้าใส และได้เจอกับ โอโคอุจิคุงตั้งแต่เช้าด้วยล่ะ ทำให้วันทั้งวันมีความสุขที่ซู้ดเลยล่ะค่ะ แต่ก็ได้แต่มอง ฉันจะทำยังไงดีนะ ขอเค่ให้โอโคอุจิคุงมาคุยด้วยนิดเดียวก็เพียงพอแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะ โอโคอุจิคุง’
“ฮิๆ ขอให้พรุ่งนี้ได้เจอกับ โอโคอุจิคุงด้วยเถอะจ๊ะ เพี้ยง!” ฉันกระโดดขึ้นเตียงนอนแผ่ร่างนอนลงอย่างสบาย (เห็นพุงด้วยอ่ะ) แล้วก็นอนหลังลึก อ้า ฟันเห็นโอโคอุจิคุงด้วยล่ะ กรี๊ด อ๊ะ เมื่อกี้ฉันเขียนไดอานี่น่ะค่ะ
อะแฮ่ม แนะนำตัวก่อนเลยนะคะ แต่ขอฝันเห็นโอโคอุจิคุงให้จบก่อนได้ป่ะล่ะ.......................
ฮิๆๆ ฝันจบแล้วจ้า อารมณ์ดีแบบนี้ ขอเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวฉันให้ฟัง (อ่าน) ก็แล้วกันนะจ๊ะ
ชื่อจริงว่า ฮาเซคุระ นามิ ผู้ร่าเริง ชื่อเล่นที่เพื่อนๆมักเรียกกันคือ นามิจัง และเรียกอีกอย่างคือ ฮาจัง ตรงกับนิสัยฉันเลยแฮะ ชอบหัวเราะ ฮาๆๆๆ ดังลั่น ฮะๆๆๆ
ปีนี้ก็อายุ14ปี แล้ว อยู่ชั้น ม.2 จ๊ะ เรียนอยู่ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในแถบนี้ การเรียนก็.....ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวอิจฉากันตายพอดี อ๊ะ บอกก็ได้ การเรียนน่ะนะ คะแนนเต้ม 100 คะแนน ฉันสอบได้ตั้ง10คะแนนแน่ะ อุ๊ย ตก 0 ไปตัวนึง 100คะแนนเต็มต่างหากล่ะ ฮาๆๆๆๆๆ
ส่วนสูงกับน้ำหนัก.......ไม่บอกอ่ะ -*- แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดีนะ สูง 160 กะ หนัก 45 หรือ 48 ก็ไม่แน่ใจ อ๊ะ แล้วฉันจะบอกทำไมอ่ะเนี่ย รู้ความลับกันหมดพอดี เฮ้อ ไม่พล่ามมากมายอะไรอีกละ จะขอเล่าเรื่องสำคัญให้ฟังล่ะนะ
โอโคอุจิคุงที่ฉันพูดถึง นึกถึง ฝันถึง คิดถึง อยู่ตลอดเวลานั้นน่ะ เป็นนักเรียนชายห้อง 2-c (ฉันอยู่ 2-a) คุณผู้อ่านทุกคนที่กำลังมีความรักก็คงรู้กันดีใช่มั้ยล่ะคะ ว่าฉันคิดยังไงกับผู้ชายคนนี้@ ^//////////^@ คิดเองละกันนะ เพราะฉันไม่อยากบอก ก็มันอายนี่@ - ////////// - @
เหตุผลที่..............กรี๊ด เสียงกริ่งนาฬิกาปลุกของฉันดังแล้ว มาปลุกอะไรตอนนี้นะ ตื่นไปดูสักหน่อยดีกว่า เจ้านาฬิกาของฉันนี่ไม่ให้ความร่วมมือเลยนะ เฮอะ ฮึ เชอะ
“ห๊า หะ ...ห่ะ ๆๆๆ หกโมงเช้า” ตายแล้ว ฉันเล่นเรื่องของฉันช้ามากเลยหรอเนี่ย ทำไมอะ ฉันเพิ่งหลับเมื่อกี้นี้เองนี่นา นาฬิกาฉันเสียแหง๋ๆแน่ๆชัวเลย ลงไปดูนาฬิกาข้างล่างดีกว่า ฉันจัดการมุ่งหน้าเปิดประตูห้องนอนแล้วลงไปข้างล่างดูให้ชัดแจ๋วแจ่มแจ้งว่านี่มันโกหกกันแน่ๆ อะไรเวลามันผ่านไปเร็วป่านนั้น
“อ๊ากกกกกก ไอ้นาฬิกาเสีย เจ๊งบ๊ง” นาฬิกาข้างล่างนี่ก็เหมือนกัน อะไรกัน แกล้งกันชัดๆ ไม่ย้อมมมมมม
“นามิจัง พูดจาไม่เพราะเลยนะลูกเป็นผู้หญิงแท้ๆตอนเช้าเป็นแบบนี้ทุกที” อ๊ะ แม่ฉัน
“ค่ะ คุณแม่” แหะๆ ใช่อย่างที่แม่พูดนั่นแหละ ทุกเช้าฉันจะสติแตกบ่อยๆ ธรรมดาฉันเป็นผู้หญิงเรียบร้อยที่แสนน่ารักนะ ถึงจะบ้าๆบอๆไปหน่อยก็เถอะ อย่าถือสากันเลยนะคะ
จากนั้นฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัว แต่หน้า เอ๊ย! อันหลังนี่ไม่จำเป็นสำหรับฉัน เพราะฉันน่ารักสวยเช้งอยู่แล้ว อ่ะ...พูดเล่นนะ พูดเล่นจ้า ถ้าสวยจริงก็ต้องมีคนมาจีบเยอะๆสิ แงๆๆๆ แต่ฉันไม่มีคนมาจีบอ่ะ มีแต่คนส่งจดหมายรักให้ฉันเฉยๆ
“ไปล่ะนะคะแม่”
“อย่าเดินไปกินไปสิลูก”
“ค่ะๆ” ถึงจะตอบไปว่า ‘ค่ะ’ ก็เถอะ ฉันไม่ทำตามที่แม่บอกหรอกะ ก็ฉันชอบที่สุดเวลาเดินไปกินขนมปังปิ้งไปมันมีความสุขออกจะตาย อ้าม......ม....ม เปรี้ยง! ปิ้ว วิ้ว วิ้ว แปะ
อ่ะ (เหงื่อแตก) นั่นมันอะไร
“ขนมปังปิ้งชิ้นโปรดช้านนนนน.............ฮึ๋ม นายตรงนั้นน่ะ” ทนดูไม่ได้ที่ขนมปังปิ้งของฉัน ไปหล่นแปะอยู่กับพื้นถนนที่แสนสกปรกแบบนี้ จะอะไรซะอีก เจ้าบ้าที่ไหนหนีควายมาก็ไม่รู้มาชนฉันจนขนมปังฉันปิวออกจากมือเลยง่ะ
“แหกปากอยู่ได้นะเธอ เสียงแสบแก้วหูชะมัด”
“ยังจะมาพูดมากอีก ดูสิขนมปังฉันหล่นพื้นไปแล้วนะ เพราะนายคนเดียว ไอ้ผมทอง!”
“ฉันเนี่ยนะชน?”
“ห๊ะ! มาทำหน้าซื่อ แถวนี้ก็มีนายคนเดียวแหละที่เดินผ่านฉันมา จะเป็นใครนอกจากนายได้”
“อ้อ คงเป็นบอลนี่สินะที่โดนเธอเข้า ฉันไม่ได้เป็นคนทำสักหน่อย มันลอยมาจากบ้านนั้นต่างหากล่ะ แล้วมาโดนเธอเข้า” หา?
“งั้นนายก็.....ไม่ได้ชนฉันงั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ” หา? งั้นฉันก็ด่าผิดคนเหรอเนี่ย
“ขอโทษนะ ที่ด่านายเมื่อกี้นี้น่ะ ขอโทษจริงๆ > <” ฉันโค้งขอโทษผู้ชายตรงหน้า เอ๊ะ! เครื่องแบบโรงเรียนฉันนี่
“ฮึๆๆ เอ้านี่ฉันให้” เขายื่นขนมปังมาให้ฉันห่อนึง......ไส้สตรอเบอรี่
“ให้ฉัน?”
“ใช่ หรือเธอจะไม่เอา”
“เอาสิ หิวอยู่พอดีเลย”
“ฮะๆๆ ฉันไปก่อนล่ะนะครับ” ว้าว ผู้ชายอะไรกัน ทำไมถึงได้ใจดีแบบนี้นะ ด่าเขาไปซะเยอะ แต่ยังอุตส่าห์ให้ขนมปังฉันอีก
เขาเดินไปไกลลับตาแล้วล่ะ นี่ฉันเจอคนดีหน่อยไม่ได้เลยหรือไงนะ เหม่อลอยทุกทีเมื่อมีคนมาทำดีด้วย ฉันบรรจงแกะขนมปังห่อนั้นออก เอ๊ะ มันแกะไว้อยู่แล้วนี่
“
ทุเรศที่สุดเลย! >o<” ฉันปาขนมปังห่อนั้นลงถังจขยะใกล้ตัว เพิ่งจะชมอยู่หยกๆว่าใจดี ดูเขาทำสิ ดูเขาทำ เขายัดทิชชู่เปื้อนน้ำมูกไว้ในห่อขนมปังที่กินหมดแล้วให้ฉันอ่ะ ร้ายชะมัดเลย.........ลืมๆมันซะ ฉันขอแค่คิดถึง โอโคอุจิคุงคนเดียวก็พอแล้วล่ะ
ทางด้านของผู้ชายคนตะกี้
“ฮะๆๆๆ ผู้หญิงอะไรหลอกง่ายชะมัดยาด ฮะๆๆๆ” ถึงนามิจะว่าเขายังไง เขาก็เป็นผู้ชายรูปงามทีเดียวเลยนะ แต่ออกจะเกเรนิดหน่อยแฮะ...............-*-
-*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*-
“ยู้ฮู เรจาง” พอฉันเปิดประตูห้องเรียนยามเช้าเข้าไปเท่านั้นแหละ ก็โผล่เข้ากอดเจ้าพื่อนสนิทตัวดีของฉัน อายามิ เร
“อะไรอีกล่ะ หายใจไม่ออกแล้ว! ไปเจอ โอโคอุจิคุงมาอีกล่ะสิ” เรแกะมือฉันและผลักฉันออกจากตัวเบาๆ ฮึ 3 -- ^o^
“ใช่เลยจ้า เพื่อนฉันฉลาดที่สุด” ฉันตบบ่าเรจังแรงๆเอาคืนที่ผลักเพื่อนที่แสนน่ารักอย่างฉันออก
“โอ้ย!ยัยบ้านี่ แล้วบอกว่าฉันฉลาดนี่ไม่ค่อยภูมิใจนักหรอก เธอน่ะกระดี๊กระด๊าทุกเช้าถ้าฉันไม่รู้ว่าเธอไปเจอใครมาก็....”
“อะไรต่อเหรอ จะบอกว่าโง่เต็มทนน่าสิ ฮาๆๆๆ”จากนั้นคุณครูสอนภาอังกฤษก็เข้ามาพอดี แล้วเข้ามาถึงก็พูดภาษาอังกฤษ จ้อๆๆ ไอ้คำที่ออกเสียง s น่ะ น้ำลายครูนี่พุ่งกระจัดกระจายเป็นน้ำพุเชียวล่ะ โชคดีที่นั่งหลังสุดนะเนี้ย ฮาๆๆ(เมื่อกี้เรจังทำหน้าเซ็งด้วยอ่ะ)
อันที่จริงน่ะฉันไม่ได้เบื่อภาษาอังกฤษนะ แต่เพราะอาจารย์คนนี้แหละ ทำให้ฉันเสียอารมณ์เรียนหมด ความอยากเรียนของฉันคงกำลังบินหนีไปเที่ยววาวาย เลยทให้ฉันต้องมาคุยกับเรจังตลอดทุกชั่วโมงของอาจารย์ คนนี้ทุกคาบ
“ฮาเซคุระ! ไหนอ่านหน้า 20 ซิ” กรี๊ด สกปรกซกมก ไอ้คำว่า 20 ซิ น้ำลายพุ่งจากหน้าห้องถึงหลังห้องเนี่ยรู้มั้ยว่ามันกี่เมตร แบบนี้ถ้ามีแข่งรายการ น้ำลายพุ่ง ฉันจะส่งอาจารย์ไปแข่งมีหวังชนะชัว แล้วเงินรางวัลล้านเย็นก็ตกเป็นของฉัน โฮะๆๆๆๆ
“ฮาเซคุระ!! เหม่ออะไรรีบอ่านหน้า ยี่.......” อ๊าก อย่าเพิ่ง
“กรี๊ด อ่านแล้วค่ะ อ่านแล้ว” ถ้าฉันไม่ห้ามเพื่อนๆคงโดนน้ำลายอาจารย์คนนี้ไปอีกรอบแน่ๆ ทีหลังฉันควรจะเตือนเพื่อนๆพกร่มมาด้วย ดีไม่ดี เตรียมชุดเกราะป้องกันไว้สักชุดก็ได้
“Naomi Campbell was born in
“พอๆ” เย้
“ยังเก่งเหมือนเดิมเลยนะเพื่อนฉัน”
“ก็แหง๋สิ”
หลังจากหมดชั่วโมง พออาจารย์ออกจากห้องไป เพื่อนๆ ทุกคนก็มารุมล้อมฉันแล้วชมฉันใหญ่เลยล่ะ
“เจ๋งจังเลย เธอนี่ สำเนียงสุดยอดอ่ะ น้ำลายก็ไม่กระเด็นเหมือนอาจารย์นั่นน่ะ อี๋ รู้ป่าว ทุกวันหลังจบชั่วโมงฉันต้องไปล้างหัวล้างหน้าล้างมือที่ห้องน้ำทุกวัน อี๊ ฉันไปห้องน้ำก่อนดีกว่า
นี่คือเพื่อนฉันอีกคนนึง ชื่อ มิกะจัง พูดจบเธอกับเพื่อนๆก็เร่งรีบไปที่ห้องน้ำกันทันที ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ฉันกับเรจัง เพียง 2 คน เท่านั้น
“ฉันไปด้วยดีกว่า เดี๋ยวติดโรค” เรจังบ้าทำไมไม่รอฉันมั่งล่ะ
“รอด้วยสิ โอ๊ย!” อูย~ ฉันวิ่งออกจากประตูไปชนโดนใครเข้าอ่ะเนี่ย ที่รู้ๆคือผู้ฃาย อู้ยยย~ จมูกฉัน
“ไม่เป็นไรนะครับ” ฉันเงยหน้าขึ้นมอง..........
“โอโคอุจิคุง!”
“อุ๊บ” อ๊ะ เขาเอามือปิดปากทำท่าจะหัวเราะทำไมอ่ะ
“มานี่สิ” เขายื่นมือมาด้วย ฉันจึงได้จับมือเขาแล้วลุกขึ้น อะไรจะสุขป่านนี้ ฉันมีความสุขจริงๆ
“อ๊ะ! อะไรน่ะ อะไร” ว้าย เขาอุ้มฉันทำไมอ่ะ จู่ๆก็อุ้มฉันขึ้นมัน มัน ตกใจสุดขีดเลยนะ!
“อย่าก้มหน้าสิ เงยหน้าเข้าไว้”
“เอ๊ะ” ฉันงงนะ แต่ฉันก็ทำตามที่เขาบอก..........เขาพาฉันไปไหน กรี๊ด คนมองกันเต็มเลย หน้าฉันชักร้อนแล้วแฮะ
“อ้าว นี่เธอ ไม่สบายด้วยเหรอ หน้าแดงเชียว”
“///// ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ////”
เฮ้อ ฉันเกือบๆจะหลับในอ้อมแขนของเขาซะแล้ว ห๊ะ! โอโคอุจิคุงพาฉันมาที่ห้องพยาบาลทำไมกันนะ ฉันไม่ได้ไม่สบายสักหน่อย
“อาจารย์ครับ ช่วยดูแลผู้หญิงคนนี้ทีได้มั้ยครับ”
“ได้สิจ๊ะ” โอโคอุจิคุงวางฉันลงบนเก้าอี้ และพยายามเตือนให้ฉันเงยหน้าเข้าไว้ แล้วเขาก็เดินออกไปเฉยเลย ฮือๆๆ จะจากกันแล้ว
“ไปโดนอะไรมาเนี่ยจ๊ะ” อาจารย์ห้องพยาบาลถามขณะทำอะไรสักอย่างที่จมูกฉัน แล้วฉันก็รู้สึกถึงอะไรเหลวๆเหมือนน้ำที่จมูกฉัน เอ๊ะ! ฉันไม่ได้เป็นหวัดนะ
“เอ่อ เมื่อกี้หนูวิ่งออกจากห้องแล้วชนโดนโอโคอุจิคุงเต็มๆหน้าเลยค่ะ แล้วจมูกหนูเป็นอะไรเหรอคะ”
“คิกๆ ยังไม่รู้อีกหรอจ๊ะ ดูนี่สิ” อาจารย์ยื่นสำลีมาให้ฉันดู.......มันๆๆๆ เป็นสีแดง!
“หนูเลือดกำเดาไหลงั้นเหรอคะ”
“ใช่สิจ๊ะ” กรี๊ดดดด> <
“มันคงไหลตั้งแต่ตอนชนแล้วล่ะ ถ้าไม่งั้นเจ้าชายจะอุ้มหนูมาทำไมกันล่ะจ๊ะ” ว้าย! งั้นโอโคอุจิคุงก็เห็นหน้าตาที่ทุเรศน่าเกลียดของฉันตอนที่เลือดกำเดาไหลน่ะสิ ฉันจะทำยังไงดี งั้นเมื่อกี้ก็หัวเราะฉันงั้นสิ แงๆๆ พระเจ้ากลั่นแกล้งอ่ะ แงๆๆๆ ทำไมฉันถึงได้เฟอะฟะถึงขนาดนี้นะ TT TT กรี๊ด ลืมล้างน้ำลายอาจารย์!!!!!
-*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*-
‘เจ้าไดอารี่จังจ๊ะ วันนี้ฉันทำขายหน้าต่อหน้า โอโคอุจิคุงซะแล้วล่ะ อุตส่าห์ได้คุยกัน ไม่รู้ควรจะดีใจหรือเปล่า...’
เปรี้ยง!!! ว้าย ข้างนอกฝนตกตั้งแต่ตอนไหนกันน่ะ
ฉันเปิดผ้าม่านตรงข้างหน้าโต๊ะหนังสือ พอเปิดได้เท่านั้นล่ะ แว๊ป!เปรี้ยง!
“กรี๊ด!!”ฉันหลับตาปี๋ ชั่วแว๊ปเมื้อกี่ทุกอย่างตรงหน้าขาวโพลนไปหมดทุกอย่าง แล้วเสียงฟ้าร้องนั้น ถ้า 2 อย่างมารวมกันช่างเหมือนกับฟ้าผ่าไม่มีผิด (ฟ้าแลบ+ฟ้าร้อง)
พอฉันตั้งสติได้ ก็เดินไปปิดผ้าม่านให้เหมือนเดิม ถ้าเจอแสงนั้นอีก ตาฉันคงบอดแหง๋มๆ - -; เฮ้อ เขียนไดอารี่ต่อดีกว่า
“โอ๊ยๆ”
เฮ้ย! ไม่ใช่เสียงฉันนะ
“ท่าจะบ้าแฮะ เพราะเสียงฟ้าร้องเมื้อกี้แน่เลย ทำให้ฉันหูเพี้ยน” - -; จากนั้นฉันก็หยิบดินสอขึ้นมาจะเขียนไดอารี่ต่อ
“โอ๊ย เจ็บนะ อย่ากดหนังสือลงมาสิ เจ็บจะตายอยู่แล้ว”
“กรี๊ด! เสียงใครน่ะ” ฉันถอยหลังกรูดไปพิงประตูห้อง แอ๊ก!เสียงมันมาจากโต๊ะฉัน ผีหลอกแน่ๆ ผีหลอก!
“เสียงฉันเองแหละ” ว้าย ไอดารี่ฉันเกิดอะไรขึ้น หนังสือฉันขยับกระดุกกระดิก ทันใดนั้นหนังสือก็ปิดลงให้เห็นแค่หน้าปก เอ๊ะ! อะไรมันนูนๆ ตรงหน้าปกไดอารี่น่ะ มันค่อยๆโผล่ขึ้นมาแล้วววววว
“สวัสดีจ้า ไดอารี่จังเองค่ะเจ้าค่ะ” มันโผล่ออกมาเต็มตัวแล้ว ใช่แล้วฉันฝันไปใช่แน่ๆ หยิกซักหน่อยเผื่อจะตื่น
ผ่านไปซักครู่
“ทำไมไม่ตื่นนะ นี่มันฝันชัดๆ เจ้าตัวจิ๋วจะโผล่ออกมาจากหนังสือได้ไง มันเป็นความฝันแน่ๆ ตื่นสิ ตื่น!
“ฮึ๋ม (เส้นเลือดบูดตรงหน้าตัวจิ๋ว) มาฉันจะทำให้รู้ว่าเธอฝันไปหรือมันเป็นความจริง” ทันใดนั้น เจ้าตัวจิ๋วก็บินมาจับแก้มฉัน นี่ฉันคงจะฝันไปจริงๆ
เพี๊ยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ไงล่ะ ตื่นยัง” โอ้ยยยยยยยย แก้มฉัน เจ็บอ่ะ ฮือๆๆๆๆ
“
เธอ เธอเป็นใคร เธอมาได้ยังไง”
“ฉันชื่อ ไดอารี่จังไง เธอเป็นคนตั้งชื่อให้ฉันเองแท้ๆ แล้วฉันก็มาจากสมุดไดอารี่นั้น” เธอชี้นิ้วเล็กๆไปที่สมุดไดอารี่สุดหวงของฉัน แล้วฉันก็ลุกขึ้น แต่ไม่กล้าไปแตะโดนเจ้าไดอารี่จังอะไรนั่นหรอก ฉันเดินตรงดิ่งไปที่โต๊ะหนังสือ ค่อยๆชะเง้อมอง อึ๋ย ยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ตาของฉันก็ยิ่งเล็กขึ้นเท่าตัว แต่เพื่อดูให้แน่ใจอ่ะนะต้องขยายตาให้ใหญ่ขึ้น
“....................” - -; สิ่งที่ฉันเห็นก็คือ ไดอารี่ของฉันนั้นไม่มีเจ้าตัวเล็กของฉันอยู่ เจ้านี่มันออกมาจากสมุดไดอารี่ของฉันจริงๆงั้นเหรอ........ แต่มันออกมาได้ยังไง เจ้าตัวจิ๋ว.........
“ไง!”
“กรี๊ดดดดดดดด” > O < (สีหน้าฉัน) > . < (สีหน้าเจ้าตัวจิ๋ว)
ตึงๆๆๆๆ เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยกำลังเดินขึ้นบันไดมา ครืด
“เป็นอะไรไปจ๊ะลูก”
“มะ แม่ๆๆ” ฉันวิ่งพรวดไปกอดแม่แน่น จนแม่แทบจะตัวรีด
“อะไร เจอปีศาจเข้ารึไงกัน หะ?” แม่ตบเข้าที่หัวฉันเบาๆ ฉันได้แต่พยักหน้า
“เชอะ เสียมารยาทจัง หาว่าฉันเป็นปีศาจได้ไง” เจ้าตัวจิ๋วบินไปบ่นไป แล้วใจที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าฉันอีกครั้ง
“กรี๊ดด!” เพี๊ยะ!
“โอ้ย! > . <” ตึง + ~ +
“อะไรอีกล่ะ ลูก”
“ก็เจ้าตัวจิ๋วนั้นไงคะ” ฉันชี้ไปตรง.....ถังขยะให้แม่ดู ในนั้นน่ะมีร่างของตัวจิ๋วอยู่เพราะแรงจากฝ่ามือพิฆาตของฉันตบเข้าให้อย่างจัง จนกระเด็นปิวหวิวไปลงถึงขยะเลยน่ะสิ
“ไหน ลูกล้อแม่เล่นหรือไง นอนได้แล้วนะ นั่นมันแค่ตุ๊กตา” แม่กระแทกเสียงใส่ฉันยังไม่พอยังจะเอาประตูปิดดังปังมากระแทกก้นฉันอีก ก็ฉันกำลังหันหลังให้กับประตูอยู่ไง พอปิดปุ๊ปก็โดนประตูดีดเลย เฮ้อ
“ฮึ ฮือๆๆ แงๆๆๆ”
“อ๊ะ! เอ่อ ขอโทษนะ อย่าร้องไห้หน่า นะ” ฉันจับเจ้าตัวจิ๋วออกมาจากถึงขยะ เหอะๆ หน้าตาดูไม่ได้เลย - -;
“ขอถามอะไรหน่อยเถอะ เป็นครั้งสุดท้ายละ เธอเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไรที่นี่”
“พรืด” ไดอารี่จัง.........ใช่เหรอ...ช่างเถอะ เจ้านี่มันสั่งน้ำมูกใส่เสื้อผ่าตัวเองเฉยเลย อ๊าก ทำไมสกปรกแบบนี้
“ฉันบอกไปตั้งหลายทีแล้วนะ หัดจำซะมั่งสิ” ฮึ๋ย ยัยนี่ปากจัดชะมัด “ฉันชื่อ ไดอารี่จัง เธอเป็นคนตั้งชื่อให้ฉันแท้ๆ ยังจำไม่ได้อีก ชื่อ ไดอารี่จัง” จ้าๆ รู้แล้วย่ะ
“แล้วก็มาจากหนังสือไดอารี่ของเธอรู้มั้ย” รู้ตั้งนานแล้วล่ะค่ะ.........
“เรื่องสุดท้าย ฉันมาเพื่อให้ความรักของเธอสมหวัง เพราะฉันเบื่อมากเลยที่ต้องมาอ่านสิ่งที่เธอบ่นใส่ มันน่าเบื่อรู้มั้ย วันๆก็แค่ได้เจอโอโคอุจิคุงแค่นี้เมื่อไหร่จะมีเรื่องตื่นเต้นๆให้อ่านบ้างก็ไม่รู้ ถึงได้ถือโอกาสฟ้าแลบเมื้อกี้ออกมาเพื่อให้รักเธอสมหวังไงล่ะ”
“โอ้ย ขี้บ่นชะมัดเลย ............. ฮ้า! เธอจะทำให้รักฉันไม่สมหวังเหรอ!”
“อ๊าก! ไม่ใช่ซักหน่อย ฉันจะทำให้เธอ สมหวังในความรักต่างหาก”
“จริงอ่ะ! โอ้ ขอบใจมากนะ”
“เจ้าค่ะเจ้าค่ะ”
ว้ายไม่น่าเชื่อเลย ว่าฉันจะมีภูติน้อยมาเป็นยมฑูต.......เอ๊ะ! เขาเรียกว่าอะไรนะ อ้อ คิวบิด แผลงศรปักอกของฉันกับโอโคอุจิคุงให้มารักกัน แต่อย่าใช้ธนูจริงๆมาปักอกนะ ไม่งั้นตายคาที่แหง๋
ไดอารี่จังบอกว่าจะเริ่มแผนการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ว่าจะทำให้โอโคอุจิคุงมาชอบฉันให้จงได้ ฮิๆ สาวน้อยน่ารักกำลังจะมีความรักที่ผลิดบานแล้ว โฮะๆๆๆๆ!
-*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*-
“ตื่นเจ้าค่ะ นามิ ตื่นได้แล้วนามิ”
“หืม~อืม~” ฉันได้ยินเสียง อ้อใช่ไดอารี่จัง แล้วก็นาฬิกาเรือนโปรดรูปหัวใจกำลังชี้ในเวลา 7.30น.
“ว๊าก!”ฉันลุกขึ้นพรวดจากเตียง พร้อมทั้งกระชากนาฬิกามาจากไดอารี่จังอย่างแรง > <
“ไม่นะ นาฬิกาเสียอีกแล้ว T-T แม่คะ!” ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น วิ่งตุบๆไปยังชั้นล่าง ชูนาฬิกาให้แม่ดู “แม่ดูสิ”
“7.30น.อืม” แม่ตอบ
“ใช่ มันเจ้งอีกแล้วค่ะ ซื้อเรือนใหม่ด้วยนะคะ โอ้ย นาฬิกาบ้านนี้เสียบ่อยจัง”
“ลูกคนนี้นี่....จะรีบไปแต่งตัวเลยมั้ย!!” อ๊ากแม่สติแตก
“เธอแหละสติแตก” ไดอารี่จังพูดขึ้น ฉันหันไปมองระหว่างขึ้นบันได
“อะไรนะ เธอว่าฉันสติแตกเหรอ เธออ่านใจคนได้เหรอ”
“เปล่าหรอกเจ้าค่ะ แค่ดูจากสีหน้าของนามิก็พอจะรู้กันอยู่หรอกค่ะ” ไดอารี่จังยิ้มเฉ่ง........เจ้าบ้า!
ตอนนี้ฉันมาถึงโรงเรียนแล้ว ฉันสั่งไว้กับไดอารี่จังว่า ห้ามออกมาเด็ดขาด ถ้าใครเห็นนะ บรื๋อ คงเอาไปชำแหละ เพราะนึกว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว - -
ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะเดินไปเก็บรองเท้าโดยไม่สนใจอะไร
“อ้าย!” > < แต่แล้วฉันก็ชนโดนคนๆนึง อูย จมูกฉัน อ๊ะ! น้ำกำเดาไหลรึเปล่าเนี่ย
“ขอโทษครับ อ้าว เธอ ที่เมื่อวานเลือดกำเดาไหลนี่นา ^ ^” อ๊ะ ยิ้มน่ารักเหมือนเรนเลย > < O o O โอโคอุจิคุงนี่
“
เออ...” ฉันลุกลี้ลุกลนแตะจมูกตัวเองดูว่าเลือดออกรึเปล่า แล้วโอโคอุจิคุงก็เปิดปากพูดว่า
“คราวนี้เลือดไม่ไหลแล้วครับ” แล้วก็ยิ้ม ใจฉันงี้แทบละลาย
กริ้งๆๆ เสียงกริ่งบอกเวลาเข้าเรียนแล้ว โธ่ T-T อดอยู่ต่อเลย แต่ว่า เราต้องห้ามเอาความรักมาปนกับเรื่องเรียน ฉันจะต้องตั้งใจเรียนให้ได้คะแนนดีๆ (พรึบ! เสียงประกายไฟในดวงตา) โย่ สู้ตายค่ะ
อีกด้านนึง ไดอารี่จัง ทำอะไรอยู่นะ?
คร่อกฟี้ คร่อกฟี้ (อ๊ากกก! ไดอารี่จังลืมภาระกิจของตัวเอง ตื่นได้แล้วนะ)
ลัน ล้า ล้า อ้าก! > / / / / < เจ็บจมูก ทำไมหมู่นี้ฉันต้องเจ็บจมูกอยู่เรื่อยเลย แล้วไอ้บ้าที่ไหนมาชนจมูกฉันตอนที่จะเข้าห้องเรียนเนี่ย
“นาย!”
“ไง ขนมปังสตรอเบอรี่อร่อยมั้ย ฮ่าๆๆๆ” หา? ไอ้บ้านี่ ประสาทไม่ดี
“ทิชชู่เนี่ยนะ อยากรู้รสชาติก็ไปกินเองเซ่” ฉันสบัดหน้าเดินเข้าห้องเรียนไปอย่างอารมณ์เสีย
“แล้วเจอกันนะครับ ห้อง 2-c แล้วไปกินข้าวกันนะครับ ฮะๆๆ”
“ไปกินขึ้ไป!” อึ๋ย เพื่อนๆในห้องมองฉันด้วยสายตาที่ ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะพูดแบบนั้น เอ๊ะ หรือไม่ใช่
พักกลางวันแล้ว ฉันเดินไปยังห้อง 2-c ขอให้อย่าเจอเจ้าผมทองเลยนะ เฮ้อ หืม เจอแล้วโอโคอุจิคุง! แต่ว่าฉันไม่กล้าเรียก -- -- ^
“อ้าว ยัยขนมปังปิ้ง ^ ^” > < ตายๆ > <
“อย่าเข้ามานะ ฉันไม่ได้มาหานายนะ อย่าเข้าใจผิด” ทันใดนั้นเอง นายผมทองก็ทำหน้ามุ่ย -- --^
“แล้วเธอมาหาใคร”
“เรื่องอะไรจะบอกนายล่ะ โธ่เอ้ย ไปแล้วดีกว่า” โอ้ย ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครทั้งนั้น แต่ถ้าโอโคอุจิคุงมาคุยด้วยนะ ฉันจะอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง ^ V ^
ยังไม่ได้ขอบคุณโอโคอุจิคุงเลย กลับไปดีมั้ย อ๊าก! แต่ฉันไม่อยากเจอนายผมทองนั้นนี่........ คิดหนักล่ะ
ฉันเดินไปเดินมาที่หน้าห้องเรียนของตัวเองนานสองนาน โอ้ย~ หิวข้าวชะมัด เอาล่ะ ตัดสินใจละ กลับไปดีกว่า หุๆๆ
อาเด๊ะ? o ? ทำไมพอฉันมาถึง ทุกคนก็หายเกลี้ยง เห็นฉันเป็นปีศาจหรือไงกันง่ะ แงๆๆ น้อยใจ เอาเหอะ เอาล่ะ ฉันเตรียมของสำหรับขอบคุณเขาแล้วนะ เป็นเครื่องรางจากศาลเจ้า จุ๊ๆๆ อย่าบอกใครเชียว ฤทธิ์ของมันน่ะ ว้าว! ไม่อยากจะบอก อิอิอิ 555+ เพราะไม่รู้เหมือนกัน หุๆๆ แต่มันเป้นเครื่องรางกันพวกอะไรก็ไม่รู้นะ (ก็ไม่รู้อยู่ดี - -)
ฉันดินเข้าไปในห้องเรียน เอ้ ที่นั่งโอโคอุจิคุงอยู่ไหนนะ
แถว1.....ไม่มี ..... แถว 2 ..... ก็ไม่มี ..... แถว 3 ..... อ๊ะ! นี่ไงโต๊ะของโอโคอุจิคุง เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน โอโคอุจิ จิน.........เห? โอคุจิคุงชื่อ จุนนี่ หรือว่าเขียนผิด คงใช่ อืม เครื่องรางๆ
ฉันหยิบเครื่องรางออกมามันเป็นกระดิ่ง 2 พวงใช้ผูกเข้าด้วยกัน น่ารักนะ อิอิ ฉันเอามันวางไว้ใต้โต๊ะ พร้อมกระดาษ 1 แผ่น OK ^ _ O
ลันล้า ลันๆล้า ไปโรงอาหารดีกว่า หิวจนท้องร้องแล้ว หิวแล้ว แงๆๆ หิวแล้ว
โอ้ตายแล้ว ฉันมาช้าไป อ๊าก! ฝูงคนตรึม ร้านขนมปังล่ะ อยู่ไกลสุดขอบฟ้า ลับหูลับตาไปแล้ว ถึงจะหิวยังไงฉันไม่ขอเข้าไปให้คนเหยียบตายแบนแต๋หรอกนะ โอย ท้องร้อง ร้องกรุๆๆ
ทางด้าน ไดอารี่จัง เอ้ ตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“โอโคอุจิคุงอยู่ทางไหนนะ อ้ะเจอแล้ว ทีนี้จะสร้างโอกาสให้ทั้ง 2 ได้อยู่ด้วยกันล่ะนะ โอม มะ ลึก กึก กึ๊ย เพี้ยง” ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง
กลับมาที่โรงอาหาร
เอ ทำไมในใจตอนนี้อยากไปที่สวนหย่อมของโรงเรียนจังเลย อืม หิวชะมัด สมองฉัน ~ . ~ เบลอ อ๋อย หิวจนตาลาย โอ้ะ
“โอ้ย” สะ.....สะดุดก้อนหินแข็งๆเข้าให้ซะแล้ว
“โอ้เย้ ในที่สุดก็มาถึงนะเจ้าคะ ทีนี้ก็อยู่กับโอโคอุจิคุงให้เต็มอิ่มละกันนะ ฮิๆ” ไดอารี่จัง โผล่มาข้างๆ กระซิบที่ข้างๆหูของฉันตอนที่ฉันสะดุดล้มนอนกับพื้นหญ้าในสวนหย่อมที่มีต้นซากุระ เยอะๆ อา...สวยจัง พอไดอารี่จังพูดเสร็จก็แวปหายไปทันที เป็นผีหรือไงกันแวปไปแวปมา แต่ก็ไม่เชิงนะ อิอิ
“ยัยขนมปังปิ้ง จะทับฉันไปถึงเมื่อไหร่กันน่ะ” อึ๋ย โอโคอุจิคุง > < เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ คนที่เรียกฉันว่า ยัยขนมปังปิ้ง มีแค่คนเดียวเท่านั้น แถมยังเสียง (หล่อๆ) แบบนี้!!!
ฉันลุกขึ้นพรวดแล้วก็ต้องล้มพรวดหน้าทิ่มพื้น ตาฉันกลายเป็นวงกลมๆหมุนติ้วไปซะแล้วล่ะ ทำไมความหิวมันทำให้ฉันทรมานอย่างกับตกนรกทั้งเป็นด้วยนะ รวมทั้งหมอนี่แล้วล่ะก็ นรกขุม18 OH! NO!
“ฮะๆๆ ^ o ^ เธอหิวน่ะสิ ท้องร้องซะดัง” เจ้าผมทองยิ้มหน้าระรื่น ท้องฉันร้องดังหรอ อ๊าก! ฉันคิดว่าโชคดีแล้วที่ไม่ใช่โอโคอุจิคุง ไม่งั้นฉันอายตายมากว่าหิวตายละ ฉันยังคงนอนอยู่ที่เดิม แต่ฉันหันหน้าตรงข้ามกับพื้นหญ้าแล้วนะ - -;
“แล้วนายมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ”
“ฉันก็มากินขนมปังน่ะสิ เอ้านี่ เอาป่ะ ขนมปังปิ้ง”
“ฉันไม่ใช่ขนมปังปิ้งนะ” ฉันเหวใส่ เจ้าผมทองทำหน้างอ
“ฉันไม่ได้ว่าเธอซะหน่อย นี่......” เขายื่นขนมปังปิ้งให้ฉันชิ้นนึงมีเนยกับนมข้นด้วยล่ะ อ๊าก! ฉันหน้าแตกสินะ แตกดังแพล้งด้วย อ้ากก! ร้าว~
“หรือว่าเธออยากเป็นขนมปังปิ้ง” o เพล้ง ๆ ๆ
“ไม่ใช่นะ” ฉันรับขนมปังปิ้งของเขามา แล้วจัดการอ้าปากหม่ำซะหมดเกลี้ยง
“อร่อยจัง!”
“ฮะๆๆ เอาอีกป่ะ เอานี่ เอาไปให้หมดเลย” เขายื่นขนมปังปิ้งให้ฉันทั้งถุง ฉันรับไว้ด้วยความดีใจ อ๊าก! ของโปรดค่ะ
“กินให้หมดนะ ฉันอุตส่าห์ทำมาจากบ้าน แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ”
ฉันลังเลซักพัก อีกนานกว่าฉันจะตอบ เหอๆ อีตาย้าผมทองกำลังจะหลับละ สัปงกตลอด อิอิ
“ฮาเซคุระ นามิ” ฉันตอบไปในที่สุด เจ้าผมทองถึงได้ตื่นตามเสียงของฉัน
“อืม นามิ”
“อย่ามาเรียกฉันว่า นามิเฉยๆนะ ต้องเรียกนามสกุลสิ”
“ครับ o ฮาเซงุระ”
“ฮาเซคุระย่ะ”
“ครับ ^ v ^ ฮาเซงาวะ”
“ไม่ใช่ > < ฮาเซคุระ!”
“อามาอุระ”
“แล้วกัน นายความจำเสื่อมหรือไง” ฉันตีเข้าให้ที่แขนของเขาซะเขาสะดุ้ง
“ครับๆ ไม่เล่นละ ฮาเซคุระซัง”
“อืม แล้วนายล่ะ ชื่ออะไร”
“โอโคอุจิ จิน ผมไปก่อนนะ แล้วเจอกันใหม่นะ นามิจัง”
“เรียกนามิอีกแล้ว ต้องเรียก ฮาเซคุระสิ”
“ฮะๆๆๆๆ” เหอะ เดินไปไกลแล้วยังจะหัวเราะกลับมาอีกนะ สงสัยจะประสาท.........เมื่อกี้เขาชื่ออะไรนะ
“โอโคอุจิไงคะ” ไดอารี่จังโผล่มาอีกแล้ว ... โอโคอุจิ
“.......โอโคอุจิ จิน” ฉันทบทวนตอนที่ฉันเอาเครื่องรางไปที่ห้อง 2 C
<แถว1...แถว2...แถว3...โอโคอุจิ จิน เอ๊ะ? โอโคอุจิคุง ชื่อจุนนี่..............>
โอ๊ะ! โลกแตก!!! ว้ายยยยยย!!!
-*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*-
ห้อง 2 c ซึ่งเป็นห้องเรียนของโอโคอุจิ จิน ที่นามิชอบ เรียนอยู่รวมกับ - -; เจ้าบ้าผมอง สุดกวน ที่นามิเกลียดแสนเกลียดเรียนอยู่ด้วย ด้วยความที่นามินึกว่าโต๊ะโอโคอุจิ จิน เป็นโต๊ะของโอโคอุจิ จุน เพราะนึกว่าเขียนผิด จึงได้เกิดเรื่องป่วนๆชวนปวดหัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน สำหรับนามินั้นตอนนี้วิ่งหืดหอบ แฮ่กๆ ขึ้นมาบนชั้นเรียน ซึ่งอยู่ชั้น 2 ตึกกลางซึ่งเป็นชั้นเรียนของ ม. ต้น
“ขอบคุณที่ช่วยเมื่อวันก่อนนะคะโอโคอุจิคุง จากกนามิ 2 A” จุนเข้าไปในห้องเรียนแล้วเห็นใต้โต๊ะตัวเองมีกระดาษกับเครื่องรางวางอยู่ เขาหยิบออกมาอ่านซะดังเชียว
“เฮ้ยยยยย! > < แฮ่กๆๆๆ นาย!”ฉันวิ่งเข้าไปกระชากกระดาษแผ่นนั้นกลับมาด้วยหน้าแดงก่ำ พร้อมแก้ตัวไปว่า
“ฉันไม่ได้จะให้นายนะ เอาคืนมา” ฉันกะจะหยิบเครื่องรางคืนจากไอ้ผมทองนี่ แต่เขากลับหลบอย่างรวดเร็ว เหรือว่าฉันช้าแน่นะ ตัวฉันจึงได้วืด! ฉันทำกรรมอะไรไว้ กำแล้วแบงั้นเหรอ บ้าแล้วเรานี่
“เฮ้ย!!” นึกว่าจะล้มซะแล้วล่ะ โชคดีที่เจ้าผมทองรับไว้ทันนะ อ๊าก! ต้องไม่โชคดีสิ เพราะไม่ใช่โอโคอุจิคุง เอ แต่ก็ใช่อ่ะนะ แต่ถึงไงก็ไม่ใช่ โอโคอุจิคุงที่ฉันชอบอยู่ดี
“ปล่อยฉัน”
“อ้ะ ปล่อยก็ได้” เขาปล่อยมือจากเอวฉัน
“เอาเครื่องรางของฉันมาด้วย!” ฉันกระแทกเสียงใส่ “เครื่องรางนั้นฉันให้โอโคอุจิคุงต่างหากไม่ใช่นายซะหน่อย”
“ก็ฉันนี่แหละ โอโคอุจิ” เขาทำหน้างง
“ฉันหมายถึง โอโคอุจิ จุน” เขาขมวดคื้วอย่างไม่พอใจทันที
“อ้อ ไอ้นั่น ไม่ชอบหน้าหมอนั่น ชื่อดันมาเหมือนกันอีก” เขาเสยผมที่เป็นสีทองของเขาขึ้น พร้อมกันนั่งลงไปที่เก้าอี้อย่างเซ็งๆ แล้วหมุนกระดิ่งที่เป็นเครื่องรางเล่นไปด้วย ฉันเม้มปาก
“แต่ยังไงเขาก็ดีกว่านายละกันนา เอาคืนมา” ฉันแบมือออกไปตรงหน้าของเขา แต่เขากลับ.........
“อะ เอาไปซื้อมาสิ” เขายื่นเงินออกมาแล้วเอากระดิ่งเครื่องรางเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขาซะงิ้น
“เอาคืนมานะ > <” ฉันทนไม่ไหวจึงได้แต่ดึงผมของเขาเท่านั้นเอง แต่แค่เบาๆอ่ะนะ ถ้าเขาดึงผมฉันคืนก็แย่สิ
“โอ้ย ยัยขนมปังปิ้ง เดี๋ยวผมก็ร่วงหมด เฮ้ย”
“ดีร่วงไปเลย” ฮิๆๆ ฮ้าๆๆ ตลกชมัดเลย ^ o ^
“วี้ด วิ้ว สามีภรรยาทะเลาะกันวุ้ย” หือ? ใครมาล้อห๊ะ! อึย เจ้านี่ใครกันเนี่ย แล้วฉันกับหมอนี่เป็นสามีภรรยาหรอ แกใช้ตาที่ไหนมอง!
“พูดแบบนั้นฝ่ายหญิงเขาเสียหายนะเว้ย” อ๊าก! โอโคอุจิคุง ตาฉันกลายเป็นรูปหัวใจ ว่าแต่เข้ามาตอนไหน ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย
“จิน ปล่อยเธอซะ” โอโคอุจิคุงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า จินที่จับมือฉันอยู่ตอนที่โดนฉันดึงผม
“โอโคอุจิคุง~ ฮึๆ” ไอ้ผมทองกลายเป็นกระเทยไปซะแล้ว หน้าตาหล่อซะเปล่า แต่ไหง๋ดันดัจริตซะล่ะ
“อะไร” โอโคอุจิคุงทำหน้างง
“เหอะ นายไม่เกี่ยวไม่ต้องมายุ่ง” จินยิ้มเยาะ หน้าตบจริงจริ้ง แถมยังดึงฉันเข้าไปใกล้อีก จะบ้าตาย ได้ยินเสียงหัวใจของเขาด้วย
“บ้า > o <” ฉันผลักเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่โอโคอุจิคุงสวมหมัดชกเข้าให้ที่หน้า (หล่อๆ) ของนายผมทองเต็มๆ จนหน้าหันไปด้านนึงเลย
เขาหันกลับมาปาดเลือดที่ไหลออกมาจากริมฝีปากตรงมุมๆ
“ฉันทำอะไรแกยัง!” นายผมทองกระแทกเสียงแล้วทำหน้าดุใส่โอโคอุจิคุงพร้อมทั้งจะสวมหมัดต่อยกลับ แต่โอโคอุจิคุงจับกำปั้นนั้นทันซะก่อนจะถึงหน้า
“อะไรที่ว่าไม่ทำ ขืนใจผู้หญิงเนี่ยนะ” โอโคอุจิคุงปัดมือของหมอนั่นออกแล้วทำไม่สนใจ
“วู้ๆๆ ศึกชิงนาง ฮะๆๆๆๆๆ”
“นี่แกเงียบได้ยังวะ” เจ้าผมทองเอามั่ง ตวาดจนเจ้านั่นตัวหด เขาสบัดผมสีทองของเขาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจซักเท่าไหร่นัก ฉันคงทนอยู่แบบนี้ไม่ไหวแน่นอน เหอๆ ฉันไม่ชินกับเหตุการผู้ชายต่อยกัน แถมยังโอโคอุจิคุง เขาต่อยคนด้วย > <
“อ้าว ไปไหนละ นามิจัง” จุนหันมาก็ไม่เห็นนามิซะแล้ว
“ห้ามเรียกชื่อยัยนั่น! แล้วเพราะแกแหละ นามิถึงได้หนีไปเพราะกลัวแกแหละ” จินด่าใส่หน้าจุน
โอ้ย~ อย่าไปดูฉากป่าเถื่อนเลยค่ะ มาทางนามิจังก่อนดีกว่าเนอะ
กลับมาที่ห้อง2-A
“แหมๆๆ คนนั้นเขาอยู่ดีๆก็ชกโอโคอุจิคุงเฉยเลยนะเจ้าคะ นิสัยไม่ดีเลย” ไดอารี่จังยืนอยู่ที่ขอบหน้าต่างตรงข้างๆที่นั่งของฉันพอดี ฉันเอาคางลองไว้บนโต๊ะ ตางี้จะปิดให้ได้เพราะความเหนื่อย ยิ่งไปกว่านั้น เธอว่าโอโคอุจิของฉันนิสัยไม่ดีงั้นเหรอ เขาช่วยฉันนะยะ
“เฮอะ” ฉันทำเสียงในคอเบาๆ
“ดีแล้วนะเจ้าคะที่เลือกท่านจิน ว้าว ผมทอง หน้าตาหล่อเหลาแบบนั้น สมแล้วที่เป็นท่านนามิ ที่ไม่ตาต้ำไปเลือกคนใจทราม ฮิๆๆ” เออ ฉันตาต่ำ หา! เธอว่าโอโคอุจิของฉันใจทรามเหรอ.........เหอๆๆ โอโคอุจิคุงไม่ใช่คนแบบนั้นนะ
“ฮึ~” ฉันทำเสียงในคอเช่นเดิม ระงับความโกรธไว้ งับมันเอาไว้ ไม่ให้ความโกรธมันหลุดไปอาละวาดเด็ดขาด งึบๆๆ
“ท่านนามิ อย่าตกใจเลย เดี๋ยวจะเสกคาถาให้จุนคุงมาหาก็ได้นะ”
“โห เธอ ไม่ต้องแล้วล่ะย่ะ เธอเข้าใจผิดอย่างมหาศาล ฉันชอบโอโคอุจิ จุน ไม่ใช่ จิน เธอก็ด่าๆๆ โอโคอุจิคุงอยู่นั่นแหละ มันทำให้ฉัน.........” โอย! หน้ามืดตามัวอีกแล้ว เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้บ่อยจัง ตั้งแต่ไดอารี่จังเข้ามาในชีวิตนี่แหละ หรือว่านี่จะเป็นความฝัน ถ้าใช่ก็คงดี...............
“อืม” โอย ตื่นซักที นาฬิกาปลุกฉันเช้านี้ไม่ยอมปลุกเลยนะ แล้วทำไมมันมืดแบบนี้ล่ะ
ฉันคลำหานาฬิกา โอ้ย! นี่มันอะไรหว่า เหมือนขาโต๊ะที่โรงเรียน ทำไมเตียงฉันมันแข็งแบบนี้เนี่ย
“ว้ายยยยยยยยยย!!! > O <!” ฉันร้องลั่นโรงเรียนได้มั้ง เว่อร์ไปละ.......ฮะๆๆ เหอๆ หัวเราะไม่ออก ที่นี่มันโรงเรียนน่ะสิ ห้อง 2 A ฉันกลัวนะกลัวสุดๆเลยนะ
“นี่” ว้าย!
“อ๊ากกกกกก > <” ผะ ผะ ผี ผี หลอก !!
ฉันสะบัดมือเหมือนกับคนบ้า แล้วร้องไห้ฟูมฟาย ไปซุกตัวอยู่ระหว่างโต๊ะนึงกับอีกโต๊ะนึง พร้อมกอดกระเป๋าเอาไว้
ท่ามกลางความมืด ฉันเห็นเพียงเงาดำๆเท่านั้น ทันใดนั้น!
“แบร่” หน้านั้นสว่างขึ้น แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“กรี๊ดดดดดด!!!” ไม่ไหว ผีๆๆ ฉันเอาแต่ตบหน้าผีนั้น เขาร้อง โอ้ยๆ อ๊ากกก ฉันสัมผัสผีได้!! > o <!! ม้ายยยยยยย
-*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*-
กรี๊ดดด! ผี !!! ฉันใช้หน้ามือหลังมือฟาดๆๆเข้าให้ที่หน้าผีตนนั้น ซ้ายทีขวาที
“โอ้ยย!” ผีตนนั้นร้องโอ้ยพลางใช้มือเหนียวๆ เหมือนเหงื่อมาจับมือฉันแน่น แสงไฟสลัวๆ สาดส่องจากนอกหน้าต่างเพราะแสงจันทร์ ทำให้เห็นหน้าเจ้าผีเพียงมัวๆเท่านั้นเอง มันยิ่งทำให้ฉันกลัวขึ้นอีก
“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ > < T- T ฉันจะทำบุญไปให้เยอะๆเลย > /|\ <” ฉันกราบไหว้ พร้อมหลับตาบี๋
“เฮ้ย! ดูให้ดีๆ” อ๊าก! ผีตนนั้นใช้มือเหนียวๆมาจับใบหน้าของฉันขึ้น แต่ฉันยังคงหลับตา > < เม้มปาก >-<
“ถ้าเธอไม่ลืมตา ฉันจะจูบเธอ” O _ O ฉันรีบลืมตาขึ้น
“นี่ไง ฉันลืมตาแล้ว ฉันไม่อยากให้ผีมาจูบหรอก > < O_O”
“เฮ้ย นามิจัง ดูให้ดีๆอีก!”แสงไฟจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามาหลังจากก้อนเมฆก้อนใหญ่ลอยผ่านไป ทำให้มองเห็นหน้าของเจ้าผีนั่นได้ชัดขึ้น - -;
“โอ้ย!ตกใจหมดเลย นายเองหรอเนี่ย” ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลันลุกจากที่ๆนั่งอยู่ทันที
“ฉันไม่ใช่ผีจะกลัวทำไม” จะเป็นใครไปได้ล่ะ ก็อีตาบ้าผมทองนี่น่ะสิ ตามมาอยู่ได้ ฮึ
“เชอะ ไม่ใช่ผี ยิ่งน่ากลัวใหญ่ หน้านายอัปลักษณ์จะตาย” ฉันเดินอยู่ที่ระเบียงมืดๆกับอีตานี่เพียง 2 คน ฉันล้ำหน้าไปหลายก้าวก่อนจะค่อยๆชะรอฝีเท้ารอคนด้านหลัง
“- -“ เขาทำหน้าเซ็ง นายจะเซ็งทำไมยะ ฉันไม่ยิ่งเซ็งกว่านายหรอ มาหลอกกันได้ บอกว่าตัวเองไม่ใช่ผี แล้วเมื่อกี้เอาไฟฉายส่องหน้าแล้วแลบลิ้นใส่ฉันทำไมล่ะ
“
.” พวกเราเดินลงมาถึงชั้น 2 แล้ว ทำไมโรงเรียนตอนกลางคืนมันน่ากลัวแบบนี้นะ วังเวง พิกล ฉันหยุดเดินส่วนเขาก็มาหยุดอยู่ข้างฉัน
“อะไรเหรอ” เขาถาม
“ได้ยินมั้ย นั่นเสียงอะไร” ฉันหันไปถามเขา แถมทำเสียงโหยหวนนิดหน่อย
“อะไร ไม่ได้ยิน เสียงอะไรล่ะ” เขาเอียงหัวลงมาใกล้ๆฉัน จะใกล้ทำไมนักหนา เอ้อดี เจอดีแน่
“ตั้งใจฟังสิ นี่มองและฟังตามที่ๆฉันชี้ไปนะ” ฉันชี้ไปที่หน้าต่างลงไปอีกนิดนึง ก็คือสนามและประตูใหญ่
“กรี๊ดดดดดดดด!!”
“โอ้ย! หูจะระเบิดเสียงแหลมชมัด เธอแกล้งฉันเหรอไงห๊ะ!” เขาหน้าโกรธ ควันออกหู ส่วนฉันหน้าถอดสี ขอโทษทีนะตอนแรกฉันจะกรี๊ดใส่นายจริงๆ แต่นี่ฉันกรี๊ดจริงไม่ได้แกล้งนายอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่ตอนที่เห็นเงาดำวิ่งเข้ามาจากประตูใหญ่
“ฉะ....ฉะ...ฉันไม่...ได้...กะ...แกล้ง”
“หา?”
“นามิจัง!” เอ๊ะ! เสียงใคร
“โอโคอุจิคุง”
“อื่ม” สีหน้านายผมทองเริ่มโหดอีกแล้วล่ะ
“โอโคอุจิคุง มาได้ไงเหรอ”
“มาหาเธอ.......ผม......เป็นห่วงเธอ” เขาตอบตะกุกตะกัก
“เชอะ เพิ่งจะมาห่วงตอนนี้ นามิจังเขาไม่กลัวตายไปซะก่อนเรอะ!” นายผมทองพูด
“ละ...” ไม่ทันที่โอโคอุจิคุงจะพูดจบ ฉันก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
“อะไรเล่า! นายแหละ มาทำให้ฉันกลัว แล้วห้ามเรียกชื่อฉันด้วยนะ เรียก ฮาเซคุระสิ”
“ไม่ จะเรียก นามิจัง ^ ^” แหน่ะ ยิ้มอีก ประสาทจริงด้วยหมอนี่ โอโคอุจิคุงเท่กว่านายอีก :P แบร่
“แก มีสิทธิ์อะไรมาเรียกว่า นามิจัง” โอโคอุจิกระชากคอเสื้อเจ้าผมทองขึ้น แล้วทำหน้า อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“แล้วแกล่ะ แกก็เรียกนามิจังนี่ นายมีสิทธิ์อะไรพิเศษกว่าฉันเหรอวะ!” เจ้าผมทองกระชากคอเสื้อโอโคอุจิคุงเช่นกัน แหม เริ่มสนุกแล้วสิ อิอิ O o O เฮ้ย! อ๊าก ไม่สักนิด ไม่สนุก ฉันไม่ใช่พวกซาดิสน้า -_-
ขณะที่พวกโอโคอุจิคุงทะเลาะกันอยู่นั้น เจ้าไดอารี่จังตัวต้นเหตุก็เริ่มแผนการอีกทีทันที เธอเตรียมพร้อมพุ่งจากบ้านของนามิมาที่โรงเรียนทันที หลังจากดูรายการโปรดจบ (หวงดูหนังจริงนะ)
“เอ้นามิจังอยู่ไหนนะ อ้า อ๊ากก!! ท่านโอโคอุจิ จุน กำลังโดนไอ้หมาป่าทองเจ้าเล่ห์ตัวนั้นทำร้ายนี่เจ้าคะ ฮึ่มๆๆ ต้องเจออย่างงี้ รู้ฤทธิ์ไดอารี่จังซะมั่ง” ทันใดนั้นเองรอบนิ้วอันเรียกเล็กของไดอารี่จังก็มีดาวเต็มไปหมด ดาวเหล่านั้น แวบขึ้นไปบนท้องฟ้ามนหมองนั้น สักพักพื้นดินก็เหมือนกับเกิดการแผ่นดินไหว แต่ว่ามันสั่นไหวเฉพาะที่ๆพวกนามิยืนแค่ที่เดียวเท่านั้นเอง ไดอารี่จังได้แต่หัวเราะ สะใจ เป็นมารร้าย
“โฮะๆๆ ก๊ากๆๆ ฮะๆๆๆๆ” ทางนี้ปล่อยให้เจ้าตัวยุ่งบ้าไปก่อนเถอะ กลับไปดูพวกนามิจังก่อนเถอะ
“ว้าย!” > < ง้า! มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย จู่ๆแผ่นดินไหวได้ไง ตัวฉันตอนนี้กลิ้งเป็นลูกมะนาวไปๆมาๆแล้ว โอ้ย! ชนโดนกำแพง อ๊ากก หัวฉัน!
“เฮ้ยๆๆ” โอโคอุจิคุงจับคอเสื้อของเจ้าผมทองอยู่นั้น เซไปเซมา แต่ก็ทรงตัวไม่ได้ เพราะแรงสั่นสะเทือนมันมีมากเหลือเกินที่จะทรงตัวได้
“อ๊าก ไอ้บ้า แก ไปไกลๆ” นายผมทองหลับตาบี๋ พลันดันโอโคอุจิคุงที่ทับตัวเองอยู่ให้ออกห่าง
“ไม่ต้องมาสั่งก็รู้แล้ว....โอ้ย ผลักมาได้” เจ้าผมทองผลักโอโคอุจิคุงกระเด็นมาหลังชนกำแพง ตอนนี้โอโคอุจิคุงมาอยู่ข้างๆฉันแล้ว กรี๊ดด! ^ ^ว้ายมีความสุข ขอบใจนะเจ้าผมทอง ถึงจะแผ่นดินไหวอย่างไรก็ตาม ถ้าได้อยู่ใกล้ๆโอโคอุจิคุงฉันก็ไม่กลัวหรอก งิ ฮิๆ
“นี่ ยัยขนมปังปิ้ง อย่ามองมันด้วยสายตาหวานเยิ้มอย่างงั้นได้มั้ย - -;” นายผมทองยืนขึ้นโซเซ ส่วนฉันหน้าแดง /////// โอโคอุจิคุงจะรู้มั้ยนะว่าฉันมองด้วยสายตา ................ ///////// ง้า/////
“นายจะลุกทำไม” โอโคอุจิคุงถามขึ้น พร้อมมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“ฮึ๋ย อย่าทัก เดี๋ยวล้ม” นายผมทองตอบด้วยหน้าตาโลเลมากๆ เขาทรงตัวอยู่อย่างนั้นแล้วเดินช้าๆ........
“ฉันว่านายคลานมาจะดีกว่านะ” โอโคอุจิคุงยิ้มเยอะนิดหน่อย กึ๋ย O o O ไหล่เขามาชนโดนไหล่ของฉัน ตัวของเรา 2 คนอยู่ใกล้กันมากจนรู้สึกถึงไออุ่นและเสียงหัวใจ ฮึๆ ^ ^ มีความสุข......
“ทำไม” นายผมทองถามหน้านิ่วคิ้วขมวด
“จะได้เหมือนหมาไง ก๊ากๆๆ” ฮิๆ โอโคอุจิคุงน่ารักจังเลย
“เดี๋ยวแกตาย!”
“ฮะๆๆๆๆ”
“อะไร ยัยขนมปังปิ้ง” นายผมทองมานั่งข้างๆฉัน นั่งชิดฉันทำไมยะ ฉันเถิบหนีเขาไปด้านโอโคอุจิคุง อยู่กับโอโคอุจิคุงดีกว่าเยอะ ฮิๆ
“แล้วว่าไงล่ะจ๊ะ หมาน้อย ฮิๆๆ”
“.......... เพราะเป็นเธอหรอกนะ ถ้าเป็นไอ้บ้าที่นั่งข้างๆเธอ ฉันต่อยไปนานแล้ว” เขาลดกำปั้นลูกใหญ่ของเขาลงด้วยหน้าตาขี้เล่นสุดๆ
“งั้นเหรอ หาว~” งืม ง่วงชมัด เมื่อไหร่จะหยุดแผ่นดินไหวสักทีนะ > <
“พิงไหล่ฉันสิ ^ ^”
.หมาน้อยพูด.....กรี๊ด ฉายาน่ารักน่าชัง
“ไม่ย่ะ” ฉันสะบัดหน้า
“ฮึๆๆ” โอโคอุจิคุงกลั้นหัวเราะ.........จะดูยังไงเขาก็ยังเท่ห์ ฮิๆ
........สายลมจากหน้าต่างพัดผ่านเข้ามา ทำให้บรรยากาศในตอนนี้น่านอนมากๆ - - ง่วงชมัด ฮืม! O o O แผ่นดินไหวอยู่อย่างงี้ เจ้าหมาน้องยังนอนได้อีกเหรอ ไม่น่าเชื่อ
ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเขา สุดยอดเลย..........สักพัก........
เพียงแค่ นายผมทอง งึม ขอเรียกว่า วู้ดดี้ละกัน หลับไปเท่านั้น แผ่นดินก็หยุดกลับสู่สภาพปกติ ฉันกับโอโคอุจิคุงมองหน้ากัน แล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ฮิๆ นึกอะไรสนุกๆออกแล้ว ฮะๆๆๆๆ
“ทีนี้แผนการของฉันไดอารี่จัง กามเทพแห่งความชั่ว เอ้ย ความรักก็เสร็จสิ้นไปอีก 1 ขั้นตอน ทีนี้ทั้งคู่จะได้กลับบ้านด้วยกัน โดยไม่มีใครมารบกวนได้ อิอิ.....แล้วท่านจินก็จะได้เป็นของไดอารี่จังผู้นี้ ^ ^( อ้าว เมื่อกี้ยังบอกว่าเป็นไอ้หมาป่าทองเจ้าเล่ห์อยู่เลยนะ - -) โฮะๆๆๆๆๆ > < ไม่นะ ภูติน้อยห้ามรักกับมนุษย์ ต้องตัดใจลูกเดียว บ๊ายบายท่านจิน แล้วก็นอนหลับให้สบายถึงเช้าเลยนะคะ” เจ้าไดอารี่จังเปลี่ยนสีหน้าทีเดียวหลายๆแบบ เธอบินกลับจากนอกหน้าต่างกลับสู่บ้านนามิอย่างรวดเร็ว
“ว้าย!หนังเรื่องโปรดของฉันกำลังฉายอยู่นี่ โอ้ เสียดาย แต่แหม ทำไมนิโนะน่ารักแบบนี้นะ ^ ^ หล่อชมัด” หนังเรื่องโปรดของไดอารี่จังก็คือเรื่อง MINAMI’S GIRLFRIEND สงสัยชอบดูเพราะนางเอกตัวเล็กเหมือนตัวเธอล่ะมั้ง แอ ดูท่าว่าจะชอบนิโนะมากกว่านะเนี่ย
-*- + ทางด้านนามิกับโอโคอุจิ จุน + -*-
“โอโคอุจิคุง ขอบคุณนะที่มาส่ง ^ ^” ฉันกับโอโคอุจิคุงกำลังเดินอยู่ที่หน้าโรงเรียน (จินล่ะ?) ตอนนี้อย่าพูดถึง อ๊ะ บอกก็ได้ นอนอยู่ตรงระเบียงในโรงเรียนนั่นแหล่ะ นี่คือเหตุผลที่ฉันกับโอโคอุจิคุงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ไงล่ะ พอละ - -
“ไม่เป็นไรครับ”
“แล้วโอโคอุจิคุงมาทำอะไรที่โรงเรียนดึกๆล่ะ”
“เอ่อ........ก็เป็นห่วงเธอไง ตอนเลิกเรียนเห็นเธอนอนอยู่ในห้องเรียนน่ะ ผมก็เลยย้อนกลับมาดู แล้วได้ยินเสียงกรี๊ดพอดีเลย” เหอๆ จะบอกได้ไงว่าฉันนึกว่าโอโคอุจิคุงเป็นผี เลยร้องกรี๊ดดังลั่น
“อืม” เงียบ..........(บอกได้เลยว่าทั้งคู่หาเรื่องคุยไม่ออก)
“ฮัดจ้า ย้าๆๆ จบแล้ว สนุก อิอิอิ นามิยังไม่กลับอีกเหรอเนี่ย ไปดูสักหน่อยดีกว่า” ว่าแล้วไดอารี่จังจอมยุ่งก็เริ่มวนหาตัวนามิจนเจอ
“ฮึ่ม อุตส่าห์ให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ไม่ยอมคุยกันอีก แล้วจะได้ประโยชน์อะไรยะ ท่านจุน นี่ก็ ฉันทำให้นายชอบนามิจังแล้วนะ รีบๆบอกรัก นามิจังสักทีสิยะ นามิจังก็ยังยืดยาดอืดอาดอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวความรักก็ไม่สมหวังหรอก........เฮ้อ ต้องให้ฉันช่วย (ยุ่ง) ทุกทีสินา -- --” วิ้ง วิ้ง วิ้ง วิ้ง
“นามิจัง คือว่า ผมน่ะ.........”
“หืม? ^ ^”
“ชะ.....ชะ....> <”
“ว้าวๆๆ ท่านจุนจะสารภาพรักแล้ว กรี๊ด” ไดอารี่จังตบมืออย่างลืมตัวขณะที่ร่ายเวทมนตร์บางอย่างอยู่ แต่แล้วก็............
ซ่า O _ O ฝนเม็ดใหญ่เทลงมาอย่างหนักแบบไม่ทันตั้งตัว จะเป็นฝีมือใครไปได้นอกจากไดอารี่จัง
“ไปกันเถอะ เปียกหมดแล้ว เดี๋ยวเป็นหวัดกันพอดี”
“เอ่อ อืม.......” จากนั้นทั้งนามิและจินก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งกลับบ้านกันไปทันที
“ฮัดชิ้ว แงๆๆๆๆ ไม่น่าเลย ทั้งที่ทั้งคู่จะได้สมหวังจะได้เป็นแฟนกันแล้ว ฮือๆ ฝนดันตกลงมาซะนี่ เจ้าฝนบ้า T T”เพราะเธอแหละ ดันจุ้นไม่เข้าเรื่อง ทั้งที่จุนคุงจะสารภาพรักละ ดันร่ายมนตร์ผิด เป็นไงล่ะ ภูติแห่งความรัก ทำลายรักล่ะสิไม่ว่า เป็นตัวยุ่งจริงๆเล้ย
“ฮือ ไม่เห็นจะต้องด่ากันขนาดนั้นเลยนี่ กลับบ้านแล้ว ฮัดชิ้ว”
สรุปว่า แผนของไดอารี่จังก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย เพราะความเปิ่น SUPER เปิ่น ของเจ้าไดอารี่จังจอมยุ่ง.............
ณ บ้านนามิ
‘เอ้?โอโคอุจิคุงจะบอกอะไรฉันนะ อยากรู้จังแต่ฝนดันตกลงมาซะนี่ แถมตอนแรกยังมีแผ่นดินไหวอีก มันผิดปกติแท้ๆเชียว.........แต่ครั้งนี้จะยกโทษให้นะ ราตรีสวัสดิ์เจ้าไดอารี่จังจอมยุ่ง > < :p กลับมาก็รีบๆนอนซะนะ from nami’
“เขาจะบอกอะไรฉันนะ โอ้ย คิดไม่ออก > <”
ฉันพลิกตัวกลับไปกลับมาหลายตลบ......คิดไปคิดมา.............คิดว่า.......หลับดีกว่า อิอิ
อ๊าก > < ^ ^ อยากรู้จัง วู้ดดี้จะเป็นไงบ้างนะ...........ไม่ใช่ว่านอนจนพรุ่งนี้เช้านะ อย่างงั้นน่าอายเลยล่ะ ฮิๆ ฮะๆๆๆ
-*- + เช้าวันต่อมา + -*-
* โรงเรียน *
“คร่อกฟี้ คร่อกฟี้” ร่างของจุนที่กลังหลับสบายอยู่ที่ระเบียงที่ตอนนี้ผู้คนกำลังเดินขวักไขว่กันไปมาเต็มไปหมด ไม่มีสักคนที่จะไม่มองเจ้าของเสียงกรนคร่อกๆคนนี้ ต่างก็ซุบซิบกัน เช่น
“มันตายยังวะ ฮะๆๆ”
“นี่ดูสิ จินคุงนอนอยู่ล่ะ ^ ^ น่ารักจังเลย”
จนกระทั่ง
“เฮ้ย! เดี๋ยวก็เหยียบตายซะหรอก - -;” คนนี้ก็คือคนที่ล้อเขาในวั้นนั้นว่า สามี ภรรยาทะเลาะกันนั่นเอง แหม เดี๋ยวก็ตัวหดหรอกนาย
“หืม เฮ้ย!” จินสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที ถ้าอยู่ในท่านอนอีกคงอายตายเลย
“นอนตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย อย่าบอกนะว่าตั้งแต่เมื่อคืน แล้วภรรยาแกล่ะ เมื่อวานรอภรรยาที่นอนอยู่ไม่ใช่เหรอ แต่นายกลับมานอนตายอยู่ตรงนี้
“หนวกหูโว้ย! เงียบๆไปเลย แกนี่”
“ครับ.......” คนนั้นตัวหดแล้ว เตือนแล้วไม่เชื่อ
“ยัยขนมปังปิ้ง แกล้งฉันงั้นเหระ ^ ^ รวมหัวกับเจ้าจุนมันสินะ -- -- ฮึ๋ยๆๆ ....... ฮึๆๆ นึกออกแล้ว จะจัดการยังไงกับยัยขนมปังปิ้ง ^ ^” เขาลุกจากระเบียงทันที แล้วยิ้ม.........เฮ้ สาวๆอย่าเป็นลมเพราะรอยยิ้มเท่ห์ๆ เจ้าเล่ห์ๆ ของเจ้าหมาน้อยผมทองผู้น่ารักกันหมดนะจ๊ะ
-*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*- + -*-
“นามิจัง!”เสียงหวานๆมาแต่ไกล ลอดเข้ามาใจประตูห้อง 2 A ก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงซะอีก
“อ้าว! ไงจ๊ะ” วันนี้ฉันสดใสเหมือนเคย......วู้ดดี้จะเป็นอะไรมั้ยนะ เมื่อคืนนอนใจโรงเรียนทั้งคืนนี่นะ.....ฮืม หืม? ทำไมฉันต้องเป็นหว่งอีตานั่นด้วย ไปๆๆ
“นามิ T o T เธอ.....เธอเมื่อคืนนอนในโรงเรียนกับจินงั้นเหรอ เธอคงเสียไปแล้วน่ะสิ ฮือๆๆๆ”
“เสีย ? o ? เสียอะไร เธออย่าบอกนะว่า!”
“อืม หมายความงั้นแหละ”
“ใช่ซะที่ไหน!” อยู่ๆฉันก็ขึ้นเสียงสูง เรื่องอะไรจะยอมล่ะ ข่าวมันมาจากไหน
“เรจัง เธอได้ข่าวนี้มาจากไหน”
“ไม่รู้สิ.......มันบอกว่าเมื่อคืนไอ้จินกับนามิห้อง 2-A นอนในโรงเรียนด้วยกันทั้งคืน พวกผู้หญิงเลยลือกันแซ่ดว่าเธอ......กับจินแล้ว”
ปึง! เสียงตบโต๊ะดังขึ้นเพราะฝ่ามือของฉันที่ตบลงบนโต๊ะสุดแรง
“ไอ้นั่นมันเป็นใคร!” ไม่รอช้า ฉันผลุนผลันวิ่งไปที่ห้อง 2 C เพื่อว่าตัวต้นเหตุตัวดี ที่ทำให้ฉันเสื่อมเสีย
“ไอ้บ้าตัวแพร่ข่าว! ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน! ออกมาเดี๋ยวนี้!” รู้สึกว่าฉันจะฉุนขาดซะแล้ว ถ้าไม่ควบคุมสติให้ดี อาจจะมีจะมีข่าวหน้าหนึ่งออกมาว่า สาวฆาตกรรมโหด ฆ่าตัดคอสดๆภายในห้องเรียน..........ว้าย! ^ ^ สยองขวัญดี
“อ้าวยัยขนมปังปิ้ง” ฉันหันขวับไปด้วยสายตาเย็นชา แต่ไม่ใช่ เพราะนายหรอกนะ วู้ดดี้ เพราะไอ้เจ้าคนที่อยู่ข้างๆนายไง
“นาย!!!”
“หา?” วู้ดดี้ตอบ
“ฉันไม่ได้เรียกนายซะหน่อย เรียกไอ้หน้าจืดปากหมานี่ต่างหาก”
“เธอชี้มาแบบนี้ไม่น่ารักเอาซะเลย” แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันห๊ะ ไอ้หน้าจืดนี่
“ฉันไม่เห็นจะต้องทำน่ารักให้นายเห็นซะหน่อย....ใช่! นายใช่มั้ยที่แพร่ข่าวออกไปว่าฉันนอนกับวู้ดดี้”
“วู้ดดี้?” หมาน้อยถามงงๆ หน้าตามีแต่เครื่องหมายคำถาม
“เอ่อ.......จินน่ะ”
“........ใช่ ฉันเอง”
“อะไรเหรอ งงนะเนี่ย” วู้ดดี้ถาม
“นายไม่รู้เหรอ เพื่อนนายน่ะ บอกว่าฉันไปนอนในโรงเรียนกับนายมา....แล้วก็พวกผู้หญิงเลยเอาไปลือกันว่า .......... กะ นาย
“ O o O” หน้าของวู้ดดี้ เขาค่อยๆหันไปแยกเขี้ยวใส่เจ้าหน้าจืดทันทีที่ได้ยินฉันพูด
“แก วันนี้แกตายแน่!”
“ขะ....ขอโทษ > < ก็เพราะพวกผู้หญิงแหละ เอาไปพูดกันเอาเอง”
“ขอโทษแล้วมันหายมั้ย! ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่นามิจังเสียหายนะเฟ้ย แกจะรับผิดชอบมั้ยวะ!”
“โฮ......ย....แกก็ไปเอาเรื่องกับพวกผู้หญิงสิ”
“....ได้ ใครที่ทำให้นามิเสียหายฉันไม่ปล่อยไว้แน่” จากนั้นจิน......เอ๊ะ! ทำไมฉันต้องเรียกชื่อเขาด้วย > < ช่างเถอะ.......เขาเดินออกไปจากห้อง อย่าบอกนะว่า นายจะไปเอาเรื่องกับพวกเด็กผู้หญิงน่ะ ฉันรีบซอยเท้า วิ่งไล่ไป แต่ว่า!
“ว้าย!” โอ๊ะ หยุดภาพไว้ก่อน จะดูมุมไหนก็เห็นว่า นามิจังลอยอยู่กลางอากาศ ที่มีขั้นบันไดเยอะๆ ใช่แล้ว! นามิกำลังจะตกบันได
“เฮ้ย ยัยบ้า” ฉันจะตายมั้ย เพราะนายคนเดียว > < T T น้ำตาฉันซึมออกมานิดนึง ฉันไม่มีเวลาพอที่จะคิดแล้ว ฉันเห็นเขาอ้าแขนอยู่ด้านล่าง เขาจะรับฉันงั้นเหรอ ฉันหลับตาบี๋ เมื่อตัวกำลังจะตกลงสู่พิ้นอยู่แล้ว
“เธอตัวหนักชมัดเลย > . O” ฉันตายยังเนี่ย แต่รู้สึกจะยังแฮะ
“ว้าย เธอ ดูสิ กอดกันในโรงเรียนแน่ะ” หืม?
“ใช่ ดูสิยัยนามิหน้าใกล้กับจินคุงเชียวนะ หมั่นไส้” พวกนี้พูดอะไรน่ะ หาใช่! ฉันตกลงมาตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของวู้ดดี้ อ๊ากก! อยู่ไม่ได้แล้ว พวกนั้นยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่ ฉันพยายามดันแขนหมอนี่ออกแต่หมดนี่แรงเยอะชมัด
“นามิ เธอเกลียดฉันรึเปล่า”
..ฉันเงียบสักพักก่อนจะตอบ
“อืม เกลียด........ซะเมื่อไหร่” ฉันตอบว่าเกลียด วู้ดดี้ทำหน้าใจเสีย
ฉันเลยรีบพูดไปอีกว่า ซะเมื่อไหร่ ทำไมฉันต้องแก้ตัวเนี่ย ทั้งๆที่เกลียดนายจนเข้าไส้ แต่พอฉันเห็นสีหน้าแบบนั้น ฉันก็ไม่สบายใจทุกที
" ทำไมเธอต้องยิ้มด้วย " > < เขากอดฉันเข้าไปอีก ฉันเห็นเขาหน้าแดงนิดๆ แต่ที่ยิ่งแปลกใจก็คือ หัวใจของฉัน หัวใจฉันกำลังเต้นรัว
ตึกตัก ตึกตัก
“ถ้าผมบอกว่าผมชอบเธอ เธอจะทำไง” คำถามนี้ทำให้ใจฉันเต้นเร็วขึ้นอีก ฉันคงเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ฉันผลักเขาออกเต็มแรง เพื่อที่จะหยุดระงับสติของฉันที่กำลังบ้านั้นไว้
“ฉัน.....ฉัน...ไม่รู้...ฉันชอบโอโคอุจิคุง แล้วก็ไม่ใช่นาย...........” ฉันเห็นสีหน้าเขาเจ็บปวด เขาทำหน้าตาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วทำไมฉันต้องเจ็บปวดไปด้วย
“พอแล้ว” เขาพูดเสียงเบา
“คะ......คือ” ฉันอ้ำอึ้ง
“บอกว่าพอได้แล้ว!” แล้วตะคอกใส่ฉัน ทำไมต้องตะคอกด้วยเล่า.........แต่พอเขาตะคอกใส่ฉันแบบนั้น ฉัน..... เจ็บแปล๊บที่หัวใจเหมือนโดนไฟช็อตเข้าเต็มๆ
แต่ของมันก็แน่อยู่แล้ว ฉันเป็นพวกแพ้เสียงตะคอกดังๆนี่ อ้อ ใช่แล้ว ที่ฉันเห็นหมอนั่นแล้วปวดใจเพราะฉันทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ ก็แต่ไหนแต่ไรฉันก็เป็นคนแบบนี้.......
“ขอโทษนะ” ฉันพูดแล้ววิ่งหนีทันที มันสับสนจริงๆ.......
ตุบ!
“ขอโทษค่ะ......... โอโคอุจิคุง”
= * = * = * = * = *
“โธ่เว้ย! ฉันมันไม่ดีตรงไหน!” จินตะโดนดังลั่นไปทั้งระเบียงทางเดิน
“แหม จินคุง เธอน่ะดีที่สุดเลยนะ ยัยงี่เง่านั่นต่างหากที่ไม่ดีน่ะ นี่......ฉันดีกว่ายัยนั่นตั้งหลายเท่านะ ฮิๆๆ” ผู้หญิงที่ว่านามิว่าหมั่นไส้เมื่อครู่นี้ มาหยุดตรงหน้าของจุนที่กำลังทำหน้าตาไม่พอใจสักเท่าไหร่ เธอใช้นิ้วที่ใบหน้าของจุนช้าๆ
“เอามือ....ของเธอออกไป” จินพูดเบามาก คงเป็นเพราะความโกรธ
“หา พูดว่าอะไรนะ” เธอยิ้มนิดๆแล้วยังเอานิ้วลูบหน้าจินต่อไปเรื่อยๆ จนจินทนต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
“บอกว่าให้เอามือสกปรกๆของเธอออกไปไงเล่า! แล้วห้ามเรียกนามิว่ายัยงี่เง่าเพราะเธอมันงี่เง่ากว่าหลายร้อยเท่า จำไว้ซะด้วย! แล้วอย่ามาหัวเราะ ฮิๆ ให้ได้ยินอีกนะ มันน่าสยดสยอง....เข้าใจมั้ย ยัยงั่ง” พูดจบจินก็เดินจากไปอย่างไม่มีเยื่อใย ยัยงั่งก็ได้แต่ทำจมูกฝึดฝัดเหมือนหมูอยู่อย่างงั้น
“ฮึ๋ย! ผู้ชายเฮงซวย > < กรี๊ดดดดดด” ยัยงั่งกรีดร้อง ขอถามหน่อย ไม่อายบ้างหรือไง ท่ามกลางหนุ่มๆสาวๆเยอะแยะ กระแทกเท่าตึงตังอย่างงี้น่ะ.....สายตาหลายคู่กำลังจับจ้องมาที่เธอที่กำลังมีท่าทางเหมือนคนบ้าข้างถนนที่อกละวาดอย่างบ้าคลั่งแบบไม่มีผิดเพี้ยน
= * = * = * = * = *
“เฮ้อ เหนื่อยชมัด ไดอารี่จัง o ” ฉันกลับถึงบ้านก็ล้มนอนบนเตียงของตัวเองทันที เตียงที่แสนจะสบายของฉัน หาว~
“ว่าไงจ๊ะ ^ ^” เจ้าตัวเล็กบินมาอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันจึงพูดออกไปว่า
“วู้ดดี้ชอบฉัน.....มั้ง”
“หา? เจ้านายมีหมามาชอบด้วยเหรอ ก๊ากๆๆๆๆ” เธอขำกลิ้งอยู่บนเตียงของฉัน ฮึ่มๆๆ
“ฉันหมายถึง จิน น่ะ เจ้าผมทองนั่นแหละ ฉันลำบากใจ.......”
“เอ๋ ฮะๆๆ เอ้อ ลืมบอกไปอย่างน่ะเจ้าค่ะ แหะๆ”
“อะไรเหรอ” ฉันขมวดคิ้วถาม
“ตั้งใจฟังนะเจ้าคะ คนที่โดนเวทมนตร์ทำให้ชอบน่ะ อย่างจินชอบนามิ เพียงแค่ 3 วัน เวทมนตร์ก็จะเสื่อมหายไป ส่วนคนที่โดนเวทมนตร์จะกลับเป็นเหมือนเดิมถ้าหากไม่ได้ถูกฝ่ายตรงข้ามสารภาพรักตอบ ก็คือ หลังจาก 3 วัน จินจะไม่ชอบนามิ อีกแล้ว เข้าใจมั้ยล่ะ”
“เอ่อ..คือ....งงๆ.... แต่ก็เข้าใจนิดหน่อย ถ้าเกิดว่าเกิน 3 วันแล้วจินจะไม่ชอบฉันอีกต่อไปแล้วเหรอ”
“อืม....แล้วก็มีอีกอย่างที่ฉันอยากให้นามิรีบๆสารภาพรักกับจุนคุงให้เร็วที่สุดนะ เพราะจุนคุงก็โดนเวทมนตร์เหมือนกัน”
“เอ๋” ฉันทำหน้างงนิดหน่อย”
“
..”
“งั้นเหรอ” ฉันพูดออกมาว่า ‘งั้นเหรอ’ แค่นี้อ่ะนะ ถามแค่นี้อ่ะนะ ไม่สมกับเป็นฉันที่ปลื้มโอโคอุจิคุงเลย - -;
“ไดอารี่จัง พรุ่งนี้ช่วยมที่โรงเรียนทีสิ”
“ทำไมเหรอ”
ฉันลุกขึ้นนั่ง มองไปยังไดอารี่จังด้วยสายตาอ้อนวอนสุดๆ
“ก็ได้เจ้าค่ะ” ไดอารี่จังตอบ
“
”
รู้สึกว่าหัวใจของฉันจะกำลังหลงทางนะ....................
= * = * = * = * = *
“นามิจัง~” เช่นเดิมค่ะ เรจังนั่นเอง อยู่กับมิกะจังด้วย ฮี่ๆ
“ว่าไงจ๊ะ” ฉันตอบหน้าระรื่น ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องเรียนเหมือนเดิมน่ะแหล่ะ แต่ฉันกำลังจะออกไปที่สวนหย่อมซะหน่อย
“จะไปไหน” เรถาม
“ไป......ไม่บอก อย่าตามมาล่ะ แล้วจะเลี้ยงขนม”
“โอ้ โอเชเลย เอาโค๊ก 2 แก้ว แฮมเบอร์เกอร์ 5 ชิ้น ช้อกโกแลต 5 แท่ง พิซซ่า 2 ถาด ว้าว” เหอๆๆ ยิ้มตาละห้อยจนน้ำลายจะห้อยตามแล้ว แค่โค๊ก 2 แก้ว พอไหว แต่นอกนั้นฉันไม่เลี้ยงหรอกนะจ๊ะ ไปซื้อเอาเองจิ
“จ้า แล้วจะเลี้ยง”ซะเมื่อไหร่ ฮะๆๆ
ฉันวิ่งไปตามนัดที่โอโคอุจิคุงนัดไป แทนที่จะตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน นี่หัวใจฉันด้านชาไปแล้วเหรอเนี่ย อ๊ะ ! เห็นโอโคอุจิคุงแล้วล่ะ!
“สวัสดีจ๊ะ”
“เอ่อ อืม ^ ^คือ.....”
“โอโคอุจิคุง ฉันว่าคืนนี้ค่อยมาคุยกันดีกว่านะ ^ ^ ”
“
..ก็ได้นะ”
“เวลา 11:55 นาฬิกา”
“ดึกขนาดนั้นเลย O _ O” เขาทำตาโต ฮิๆ
“นา...ตกลงมั้ย”
“อืม^ ^”
จากนั้น โอโคอุจิคุงก็เดินขึ้นตึกไป ฉันหันซ้ายหันขวา ตรวจดูรอบคอบว่าไม่มีใครอยู่ฉันจึงเรียกไดอารี่จังออกมา
“ยัยนั่นไปไหนนะ......อุตส่าห์ซื้อขนมปังมาให้....”
“ว่าไง” เสียงไดอารี่จังตะโกนพร้อมโผล่หน้ามาตรงหน้าของฉันอีก ถ้าหัวใจฉันวายตายขึ้นมาจะทำไงห๊ะ!
“รู้รึยังภายใต้จิตใจของโอโคอุจิคุงคิดกับฉันยังไงน่ะ”
“อื้ม รู้แล้ว”แล้วไดอารี่จังก็มากระซิบบอกที่หูฉันเสียงแผ่วเบา
“งั้นเหรอ ไดอารี่จัง ถ้าเกิดว่าฉันไม่ตอบรับรักไปทุกอย่างจะกลับสู่สถาพเดิม คือ จุนจะไม่รักฉันใช่มั้ย”
ทันใดนั้นหูจุนก็ผึ่งกางออกมาเป็นหูช้าง
“ก็คงใช่นะ ไม่ใช่ ‘คง’ แต่ใช่แล้วล่ะ - -; แหม จะห่วงอะไรอีก เดี๋ยวจะสมหวังแล้วนี่นะ”
“อืม........แล้วจินคุงก็คงเลิกชอบฉันเหมือนกัน”
“แฮ้? เธอบอกว่าฉันไม่รักเธอเหรอ....แล้วเธอคุยอยู่กับใครเนี่ย?” จินบ่นอุบคนเดียวหลังพุ่งหญ้าที่ต้นไม้ใหญ่ๆ บังตัวจินไว้มิด
“เจ้านายถามแล้วถามอีกนะ เวทมนตร์ฉันคงอยู่ไม่ได้ตลอดนะ ยังไงถ้าเธอไม่ชอบจิน เมื่อถึงเวลาเลยเที่ยงคืนเขาก็จะเลิกชอบเธอ”
ฮึก....เจ็บที่หัวใจอีกแล้ว T T
“เจ้าตัวเล็กนั่นมันตัวอะไรกัน” จินทำหน้าเหวอเมื่อเห็นโฉมหน้าและขนาดตัวที่เล็กจิ๋วของเจ้าภูติน้อย
“แล้วที่ว่าเวทมนตร์อะไรนั่น ฉันจะเลิกชอบยัยขนมปังปิ้งมันโกหกกันใช่มั้ย....” จินลุกขึ้นพรวดเดินออกมาหานามิ
ฉันถึงกับต้องสะดุ้งโหยง พร้อมซ่อนไดอารี่จังไว้ด้านหลังของฉัน นายมาได้ไง > <
“ไม่ต้องซ่อนแล้ว ออกมาเลย!” จินสั่งเสียงแข็ง ไดอารี่จังหน้าซีด เธอยอมออกมาแต่โดยดี
“.....ฉันไปล้างตาก่อนดีมั้ยเนี่ย” จินขยี้ตาตัวเอง
“ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ”
“อืม.....มีเรื่องอยากบอก นามิ” เขามองมาทางฉัน
“ฉันจะไม่มีทางเลิกชอบเธอเด็ดขาด จำไว้ซะ!” โป๊ก! เขาดีดหน้าผากฉัน ฉันทำหน้าโกรธ แต่ในใจกำลังยิ้มไม่หุบเลยล่ะ.........
เขาจะไม่มีทางเลิกชอบฉัน.....จริงๆงั้นเหรอ
= * = * = * = * = *
และแล้วก็ถึงเวลา 11:55 นาฬิกาตรงแป๊ะ
ฉันอยากพิสูทธิ์ว่าถ้าฉันไม่ตอบตกลง โอโคอุจิคะงจะเลิกชอบฉันรึเปล่านะ
เวลาของค่ำคืนอันเหน็บหนาว ณ สวนหย่อม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สวยอะไรนักหนา แต่หิ่งห้อยที่อยู่ใกล้ๆบ่อน้ำ มันสวยเกินคำบรรยาย
“นามิจัง คือว่า ผม........” 11.59.05 น. (ไดอารี่จังกำลังลุ้น เธออาจจะโกรธฉันก็ได้ถ้าฉันทำสิ่งนั้นลงไป)
“ผม...ชอบ...เธอ” 11.59.30 น. > < สีหน้าไดอารี่จัง
“......ฉัน.” 11.59.40 น. > <;;;
“รีบๆพูดออกไปสิ นามิจัง”
“จิน!”
“จุนคุง ฉันขอโทษ!!!” 12.00.00 น. จุนตาสว่าง สีหน้าเขาบ่งบอกถึงความงง
“เธอขอโทษฉันเรื่องอะไรเหรอ?”
“........”
“........”
“........”
“........”
ต่างคนต่างเงียบกริบ
“ฉันขอโทษที่เรียกนายออกมากลางดึกนะ” ฉันพูดออกไปหน้าตายิ้มแย้ม
“อ้อ งั้นเหรอ ไม่เห็นเป็นไรเลย งั้นผมกลับก่อนละกันนะครับ”
“อืม ^ ^”
ฟิ้ว ลมเย็นพัดโชย หิ่งห้อยบนสว่างไสว่าเต็มไปหมด ท่ามกลางความมืดมนของท้องฟ้า
“นามิจัง แงๆๆๆ บ้าไปแล้ว ทำไมพูดขอโทษออกไปล่ะ > <”
“......ก็เพราะ.....ฉันไม่ได้ชอบจุนคุงนี่ แล้วเขาก็คิดกับฉันแค่น้องสาวไม่ใช่หรือไง” ฉันมองไปยังจิน เขามองฉันนิ่งเฉย สายตาว่างเปล่า น้ำตาฉันเหมือนจะระเบิดออกมา
“......จิน......”ฉันเรียก
“ทำไมเหรอ” ท่าทางเขาเฉยมาก เหมือนกับว่าเขาเลิกที่จะชอบฉันไปแล้ว ฉันเห็นเขาพูดเย็นชาแบบนั้น ในใจก็ยิ่งเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
“ฮือ....ฉันมันโง่เอง.....ฮือๆๆ” ฉันทรุดตัวลงปิดหน้าร้องไห้ พลางพูดออกมาแล้วสะอึกสะอื้นตลอด
“ฉันน่าจะรู้ใจตัวเองให้เร็วกว่านี้ อือๆๆ ฉันมันโง่ ฮือๆ ฮึก ฮือ นายคงเลิกชอบฉันแล้วสินะ ฮือ แต่ถึงแม้นายจะเลิกชอบฉันแล้ว แต่ว่า ฮือ.....” ฉันปาดน้ำตา ฉันจ้องมองจินคุงด้วยดวงตาที่เปียกขื้นไปด้วยน้ำตา
“ ^ ^ ฉันอยากให้นายรู้ไว้ว่า ‘ฉัน ชอบ ‘โอโคอุจิ จิน’ ”
“.....” หน้าตาเขายังเฉยชา แต่แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำให้ฉันตกใจสะดุ้ง ก็อยู่ดีๆ ถอนหายใจซะแรง
“ ^ ^ พูดออกมาได้สักทีนะ ยัยขนมปังปิ้ง” เขากอดฉัน ฉันทำตัวไม่ถูก ทำไมนายยังเหมือนเดิมล่ะ!?
“ทำไมนายเหมือนเดิมน่ะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีทางเลิกชอบเธอ ^ ^”
“เอ๊ะๆๆ! กลิ่นนี่มัน” ไดอารี่จังล้วงของในกระเป๋าเสื้อจิน - -;
“เฮ้ย!”
“เอ๊ะ! นั้นมันเครื่องรางวันนั้นนี่นา” ฉันมองพลางถาม
“อืม.....ใช่”
“อ้า! นี่มันเครื่องรางป้องกันเวทมนตร์นี่นะ”
“หืม?” ฉันสงสัย ( > < ยังอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของจินอยู่เลย > <)
“ ^ ^” จินยิ้ม พร้อมปล่อยตัวฉัน - -;
“งั้นก็หมายความว่าท่านจินไม่โดนเวทมนตร์ของฉันเลยงั้นสิ!” ไดอารี่จังตะลึง
“อืม......^ ^ ถึงโดนก็ไม่มีปัญหา เพราะฉันชอบ นามิมาตั้งนานแล้ว” O O ฉันเอ๋อมั่ง ว่าไงนะ ชอบฉันมานานแล้ว!
“นายชอบฉัน? ตั้งแต่เมื่อไหร่” เพียงแค่ฉันถามแค่นั้น จินก็หน้าแดงก่ำ พร้อมส่งถุงให้ฉัน
“ตั้งแต่วันที่เธอกินไอ้นี่ในวันแรกที่เปิดภาคเรียน ก่อนนู้น.......แล้วก็คิดแผนการจะได้คุยกับเธอจนหัวแทบระเบิด จนถึงวันนั้นแหละ ลูกบอลที่โดนเธอน่ะ ฝีมือฉันเอง ^ ^”
“หา!?” ฉันตกใจ งั้นก็หมายความว่านายชอบฉันตั้งครึ่งปีเชียวหรอ!
“นี่ ไปกินด้วยกันใต้ต้นไม้นั่นดีกว่า” จินจับมือฉันเดินไปยังใต้ต้นไม้ ต้นใหญ่ ซึ่งเป้นต้นซากุระนั่นเอง กลีบซากุระนี่สวยจังเลย ^ ^
“นามิ......เธอชอบฉันจริงเหรอ” จินถาม ฉันมองหน้าเขา เขาก้มหน้า หน้าเขากำลังแดงก่ำขึ้นอีกหน //////// ฉันก็เช่นกัน
“เอ่อ...อืม”
“นามิ ฉันก็รักเธอนะ” เขาโน้มตัวลงค่อยๆหอมแก้มใสๆของฉันอย่างแผ่วเบา
เรายังอยู่อย่างงั้นอีก สัก10วิ พวกเรา 2 คนแทบจะไม่กล้ามองหน้ากันเลยต่างคนต่างหันหน้าไปคนละข้าง ฉันสังเกตเห็นหิ่งห้อยที่บินไปบนมา มันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนรอบตัวฉันกับจินมีแต่ความสว่างไสว
ฉันรู้สึกว่าฉันมีความสุขมากเหลือเกิน ฉันกับจินกินขนมปังปิ้งด้วยกันอย่างเอร็จอร่อยกัน 2 คนท่ามกลางหิ่งห้อยนับไม่ถ้วน สายลมเย็นๆ กลีบซากุระโปรยปราย เป็นเวลาแห่งความสุขจริงๆเลย ^ v ^
“ > < ฉันก็อยากมีความรักมั่งน้า” ไดอารี่จังโวยวาย
เอานา เดี๋ยวฉันจะแต่งให้เธอมีความรัก แต่อีกนานนะจะบอกให้
“แงๆๆ.....งั้นตอนนี้ฉันจะเป็นภูติน้อยแห่งรักไปก่อนละกัน ไดอารี่คนนี้จะทำให้คุณมีความสุขสมหวังในความรักให้เองเจ้าค่ะ ^ ^ แต่ถึงจะผิดคุ่ไปหน่อยก็เถอะนะ - -;
Happy Love
Ending
SherrY
ผลงานอื่นๆ ของ SherrY WonG ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SherrY WonG
ความคิดเห็น