Sex appeal เสน่ห์รักอันตราย
Akai Shuichi x Miyano Shiho
แฮ่ก แฮ่ก...
เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ขึ้นสีแดง
ไอร้อนจากลมหายใจที่ถูกส่งออกมา บ่งบอกอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นมากเกินกว่าปกติของร่างกาย
แฮ่ก แฮ่ก...
ร่างสูงหอบหายใจก่อนจะล้มตัวลงเอนชิดกับขอบกำแพง
พร้อมกับอารมณ์รุนแรงภายในที่ยากเกินยับยั้ง
‘นี่มัน..นี่มันบ้าอะไรกัน...’
ดวงตาคมกริบกวาดสายตาไปเจอโทรศัพท์ตนเองบนลิ้นชัก
เขายันตัวขึ้นอย่างยากลำบากแล้วเดินไปหยิบมัน
ก่อนจะกดปุ่มต่อสายไปยังหมายเลขที่คุ้นเคยด้วยอาการร้อนรน
ติ๊ด...
“ครับ คุณอากาอิ”
“คา..เมล..
ยาอะไร..ยาอะไรที่ให้ฉันกิน”
เสียงทุ้มนั้นเงียบไปครู่
ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ยาแก้ปวดไงครับ
คุณอากาอิบอกว่าปวดหัว
ผมเลยเอายากระปุกสีฟ้าให้กิน”
ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏเม็ดเหงื่อไหลเต็ม
พร้อมอุณหภูมิที่สูงมากขึ้นกว่าเดิมจนแทบแผดเผาภายในให้มอดไหม้
“ไม่ใช่..ไม่ใช่สีฟ้า...
นาย..ให้ฉันกินสีขาว..”
“สีขาว...ว่าไงนะครับ!!!
ผมตั้งใจจะเอาไปสอบสวนคนร้าย
เผื่อตอนที่มันสติหลุดจะเผลอพูดอะไรออกมาบ้าง
แล้วตอนนี้คุณอากาอิเป็นยังไงบ้างครับ!!?”
คาเมลเอ่ยถามอาการเจ้านายด้วยความเป็นห่วงในท้ายประโยค
เสียงทุ้มสั่นจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่นั่น
สามารถใช้อธิบายแทนคำพูดตอบกลับได้
“ร้อน...ร้อนไปหมด”
“นี่เป็นอาการเบื้องต้นครับ
อาการเหนื่อยอ่อนจะหายไป
แทนที่ด้วยอารมณ์..นั้น
คุณอากาอิพอจะ..ทนไหวมั้ยครับ”
“อือ...งานวันนี้ฝากด้วยนะ คาเมล..”
เมื่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอทั้งสองสื่อสารกันเสร็จ
ร่างสูงจึงวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะตามเดิม
ร่างกายที่ยังรู้สึกร้อนรุ่มอยู่ภายในนั้น
ทำให้เขาต้องลุกประคองร่างตนไปยังห้องน้ำเพื่อหวังจะใช้สายน้ำที่เย็นเฉียบช่วยบรรเทาความทรมานที่เกิดขึ้น
ทั้งล้างหน้า
เปิดฝักบัวเอาน้ำสาดรดตนเอง ชกต่อยผนัง...
แต่ความร้อนรุ่มในตัว
มันก็ช่างยากเกินจะฝืนทน...
แฮ่ก แฮ่ก...
ความรุ่มร้อนภายในที่ก่อตัวขึ้นนั้นค่อยๆพุ่งทะยานไปจนขีดสุด
อาการหน้ามืดเริ่มเข้ามาแทนที่
ไม่นานเรี่ยวแรงที่หายไปก็ฟื้นกลับคืนมา
หากแต่อารมณ์รุนแรงที่ก่อตัวขึ้นใหม่นี้เรียกให้ใบหน้าคมขึ้นสีแดงซ่าน
ปวดหนึบภายในจนต้องกัดฟันกรอด
ปังง! ตุ้บบ!
ครืน!!!
เสียงข้าวของถูกระแทกจากแรงเตะ ต่อย
มากมายราวคนบ้านั้น ไม่ได้ช่วยระบายอารมณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ชายหนุ่มพิงตัวชิดผนังอีกครั้งอย่างต้องการใช้มันช่วยพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลง
ก่อนเสียงออดที่หน้าบ้านจะดังขึ้น
ออด
‘ฮึ่ย บ้าน่ะ
ใครมากวนเวลานี้กัน’
ความร้อนรุ่มปวดหนึบภายในกายทำให้เขาไม่ต้องการที่จะพบหน้าใครตอนนี้
ก่อนเสียงหวานที่คุ้นหูจะดัง
เรียกให้หัวใจเต้นโครมครามขึ้นมา
“ฉันเอง จะเข้าไปล่ะนะ”
‘ชิโฮะ..เป็นเธองั้นเหรอ
ไม่ได้!
จะให้เธอเข้ามาใกล้เราตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!’
กึก..
กลอนประตูเปิดออกพร้อมร่างระหงส์ที่เดินเข้ามา
หญิงสาวเดินสอดส่องหาชายหนุ่มในห้องนั่งเล่นสักพัก
เมื่อไม่พบตัวจึงเดินต่อไปยังส่วนของห้องนอนที่คาดว่าเขาน่าจะอยู่
ร่างสูงที่ได้ยินเสียงเธอเรียก รีบออกมาจากห้องน้ำเพื่อที่จะห้ามเธอ
แต่เหมือนจะสายไป...
“นาย...ทำไมห้องเป็นแบบนี้”
เมื่อชิโฮะเดินเข้ามาก็ต้องตกใจกับสภาพข้าวของกระจัดกระจายไม่เป็นที่ซึ่งผิดกับวิสัยชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
และเมื่อได้เห็นสภาพเปียกปอนของเขาก็ยิ่งมีอาการวิตกหนักกว่าเดิม
“ทำไมถึงเปียกแบบนี้ล่ะ”
ว่าพลางเดินเข้าไปประคองชายหนุ่มที่ทรุดล้มตัวลงกับพื้นห้อง
“ออกไป..ออกไปชิโฮะ”
อากาอิเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองมองหน้าเธอ
วงหน้าสวยที่ทำใจสั่นแบบนั้น..มันไม่ใช่เรื่องดีเลย
และยิ่งในตอนที่เธออยู่กับเขาตามลำพังเช่นนี้...
“นี่ เอ๊ะ ทำไมตัวร้อนล่ะ
ไม่สบายรึเปล่า”
มือบางวางทาบลงที่หน้าผากชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง
ก่อนจะเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อที่เปียกชุ่มของเขาออกจากตัว
เพราะไม่อยากให้คนที่ดูเหมือนกำลังไม่สบายตรงหน้าต้องช็อกหมดสติไป
แต่การกระทำนั้นของเธอกลับทำให้สติที่เกือบแตกของร่างสูงกระเจิดกระเจิงไปอย่างรวดเร็ว
ลมหายใจอุ่นพร้อมกลิ่นกายหอมหวานตรงหน้าทำให้เขาคุมอารมณ์ที่เพิ่มสูงของตัวเองไม่อยู่
มือหนากำหมัดแน่นเมื่อความอดทนพุ่งถึงขีดสุด
จนเขาไม่คิดจะหยุดอีกต่อไป
“นี่ ฉันถามว่าเป็น อ๊ะ-”
ร่างบางเหวอไปเมื่อชายหนุ่มผุดลุกขึ้นแล้วดึงร่างเธอเข้าไปกอดพร้อมจ้องมองมาด้วยสายตาอันร้อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นไม่ก่อน
อากาอิดันตัวของหญิงสาวมาทางเตียงนอนก่อนจะกดร่างเธอให้จมลงสู่เตียงนุ่ม
“น นาย..”
ร่างบางเอ่ยอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะผวาลุกขึ้น
แต่ก็ไม่ทันร่างสูงที่ตามลงมาตรึงแขนสองข้างของเธอเอาไว้
แล้วจึงก้มหน้าลงมาประกบปิดปากพร้อมมอบจูบอันร้อนแรงหนักหน่วงให้
“อือ..”
ร่างบางส่ายศีรษะไปมาพยายามปฏิเสธสัมผัสจาบจ้วงที่ถูกมอบให้
พร้อมปิดเปลือกตาและเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น จนเผลอกลั้นลมหายใจตามไปด้วย
เธอไม่ต้องการให้เขารุกล้ำเข้ามา
“ชิโฮะ...” อากาอิผละออกห่างจากใบหน้าของหญิงสาวเล็กน้อย
แล้วกระซิบเรียกชื่อเธอเสียงเบา
“เปิดปากสิ”
คำขอที่มาพร้อมกับเสียงแหบพร่าเรียกให้คนถูกเรียกต้องลืมตาหันกลับมามอง
“นาย..อือ”
เมื่อเผลอเปิดปากเพียงเล็กน้อยก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้เข้าไปลิ้มรสความหอมหวานภายใน
‘นายเป็นอะไรเนี่ย...’
ความคิดขาดห้วงไปเมื่อถูกจู่โจมด้วยลิ้นร้อน
เรี่ยวแรงที่เคยมีพลันสลายไป
จากดิ้นรนขัดขืนก็เปลี่ยนเป็นตอบรับสัมผัสของเขา
แต่ไม่นานเธอก็ได้สติคืนกลับมา
เมื่อในหัวปรากฏภาพเจ้าหน้าที่เอฟบีไอสาวที่อยู่ทีมเดียวกับผู้ชายตรงหน้าของเธอ
ภาพความทรงจำจากเมื่อวาน
ที่ทำให้เธอเข้ามาหาเขาวันนี้...
.
.
‘ขอโทษด้วยนะ
ดูหนังกับกินข้าวเย็นนี้คงต้องยกเลิกไปก่อน ฉันมีงานด่วนน่ะ’
“เหรอ อืม...”
เมื่อจบการสนทนาร่างบางที่กำลังเดินเลือกเสื้อผ้าอยู่ภายในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองก็กดตัดสายโทรศัพท์
พลางคิดไปถึงเรื่องนัดที่ถูกยกเลิกเมื่อครู่
...ทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนนัดหมายเอาไว้เองก่อนหน้า
แต่กลับเป็นคนโทรมายกเลิกนัด...
‘ถ้ามีงานก็ช่างเถอะ...’
มือเรียวที่กำลังไล่ดูเสื้อผ้าสตรีตามราวแขวนหยุดลงตามความคิด
เพราะคงไม่จำเป็นต้องซื้อมันไปใช้แล้ว
ก่อนร่างระหงส์จะได้ออกมาจากร้านเพื่อไปหาอะไรดื่มก่อนกลับ
ใช้เวลาไม่นานเธอก็เดินมาจนถึงหน้าร้านกาแฟชื่อดัง
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างของหญิงสาวชาวต่างชาติที่คุ้นเคยเดินสวนออกมา
แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะไม่ทันมองเห็นตัวชิโฮะที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าหน้า
เพราะสาวฝรั่งต่างชาติคนนั้นกำลังมัวแต่สนใจคุยโทรศัพท์
“เธอว่าอย่างนั้นเหรอชู โอเค ได้เลย...
แล้วรีบมารับฉันด้วย
อย่าปล่อยให้สาวสวยต้องรอนานล่ะ”
ชิโฮะที่กำลังจะเอ่ยทักหยุดชะงักไป
เพราะคำพูดของหญิงสาวคนเดิม
ก่อนเธอจะก้าวเดินตามผู้หญิงคนนั้นไป
‘ชู? มารับ? แล้วงานล่ะ?
ที่ยกเลิกนัดเธอเพื่อไปกับอีกคนเหรอ?’
เดินออกมาจนถึงลานจอดรถใต้ดินของห้างสรรพสินค้า
หญิงสาวก็สังเกตเห็นชายหนุ่มคนที่เพิ่งยกเลิกนัดเธอ
กำลังยืนเอนตัวพิงกับรถของเขา
โดยมีเจ้าหน้าที่เอฟบีไปสาวเดินเข้าไปหาพร้อมรอยยิ้มร่าเริง
“แหม มาไวจริงๆเลยนะชู”
โจดี้เดินเข้าไปหาชายหนุ่มก่อนจะเกี่ยวแขนของเขาขึ้นมากอด
ความรู้สึกบางอย่างพุ่งขึ้นมาที่กลางอก...
ชายหนุ่มเพียงผินหน้ามองหญิงสาวที่เกาะแขนของตนอยู่ด้วยสีหนาเรียบเฉย
“รีบไปกันเถอะ”
คำพูดราบเรียบของร่างสูง ทำให้เจ้าหน้าที่สาวที่เกาะแขนเขาอยู่เขย่งตัวขึ้นเบียดชิดแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ต๊ายตาย
แค่นี้ก็รอไม่ไหวแล้วหรอคะชู”
เสียงออดอ้อนของหญิงสาวทำให้ชิโฮะเกิดอาการฮึดฮัดขึ้นมา
เธอรู้สึกไม่ชอบใจเลย ไม่ชอบใจ
หรืออาจไม่พอใจ
“ขึ้นรถเถอะ”
ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะหมุนตัวไปเปิดประตูรถให้โจดี้ขึ้นไปนั่ง
แล้วตนเองจึงเดินไปขึ้นรถที่ประตูอีกฝั่ง
แล้วภาพทั้งสองคนที่เห็นก็ทำให้เธอยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
ไม่พอใจเขา หรือเธอ
หรืออาจจะทั้งสองคน...
ภาพของชายหนุ่มกำลังกุมใบหน้าของเจ้าหน้าที่สาว
แล้วเคลื่อนหน้าเข้าหากัน
ชิโฮะเบือนหน้าหนี
ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากลานจอดรถ ด้วยความรู้สึกหน่วงอยู่ในใจแบบแปลกๆ
ที่เธอเองก็ไม่สามารถเข้าใจว่ามันคืออะไร
แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งพาลหงุดหงิด
มันเลยทำให้เธอเผลอตัดสายเขาทิ้งตอนที่โทรมาหาอีกครั้งช่วงค่ำ
แล้วก็ปิดเครื่องไม่ยอมพูดคุยกับชายหนุ่มไปเลย
จนกระทั่งความหงุดหงิดภายในใจเริ่มจางหายในตอนเช้า
เธอเลยอยากจะมาพูดคุยขอโทษเขาเรื่องเมื่อคืน
.
.
ชิโฮะหยุดตอบรับการกระทำของชายหนุ่มพลางเบนหน้าหนีจูบหนักหน่วงของเขา
“อย่า..อาจารย์โจดี้...”
เสียงหวานเรียกให้ใบหน้าหล่อต้องผละขึ้นมองดูคนสวยใต้ร่างตัวเอง
ก่อนจะกัดฟันกรอดข่มอารมณ์รุนแรงในตัวเพื่อพูดคุยกับชิโฮะ
“ทำไม โจดี้เกี่ยวอะไร”
หญิงสาวหันหน้ามองร่างสูง
ก่อนจะรีบเบนหน้าหนีจากสายตาคมของเขา
“ก็อาจารย์..กับนาย..คบกัน...”
“เธอไปได้ยินมาจากไหน”
คำตอบจากร่างบางทำให้ชายหนุ่มต้องขมวดคิ้วมุ่น
ถามกลับเธอด้วยความสงสัย
“...” ไร้การตอบรับ
“ช่าง‘คนอื่น’เถอะ”
อากาอิก้มลงจูบชิโฮะอีกครั้งแต่เธอส่ายหน้าหนีปฏิเสธ
“แต่เมื่อวานฉันเห็นอาจารย์ขึ้นรถไปกับนาย
แล้วยัง...”
“อะไร?”
มือหนาของชายหนุ่มยกขึ้นกุมใบหน้าร่างบางเอาไว้ให้หันมองเขา
“ก็นายจูบกับอาจารย์บนรถนี่”
สายตาคมจ้องมองลึกลงไปในนัยน์ตาสีสวย
“เมื่อวานฉันไปรับโจดี้ที่ห้างเพื่อไปลอบจับตาดูผู้ต้องสงสัย
...แล้วตอนที่อยู่ในรถนั่นโจดี้จะต้องปลอมตัวใส่คอนแทคเลนส์
แต่มันเคลื่อนฉันเลยช่วยดูให้”
อากาอิมองหญิงสาวด้วยแววตาจริงจังเพื่อยืนยันสิ่งที่พูด
“โจดี้กับฉันเคยคบกันแต่เลิกกันไปนานแล้ว
ตอนนี้ก็มีแต่เรื่องงาน เธอเลิกคิดไปเองได้เลย”
“อือ...”
ชายหนุ่มกดจูบหนักหน่วงรุนแรงกว่าเดิม
อาจจะเป็นผลมาจากการข่มกลั้นอารมณ์ในตอนที่คุยกับเธอเมื่อกี้
“อืม..”
รสจูบที่บดขยี้ร้อนแรงทำให้ร่างบางตอบสนองตามอย่างเผลอไผล
แต่หญิงสาวก็คืนสติอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสจากมือหนาที่ไล้ไปตามต้นขาเรียวของเธอ
“นาย..คงไม่ทำแบบนั้นใช่มั้ย”
“ก็ไม่แน่..”
ชายหนุ่มจูบปลอบเธออีกครั้งอย่างนุ่มนวลก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร้าร้อนตามแรงอารมณ์และความปรารถนาในใจ
ร่างบางเองก็ตอบสนองตามสัมผัสที่ได้รับ
อากาอิถอนจูบจากริมฝีปากสวยก่อนเลื่อนลงมาที่ลำคอระหงส์แล้วกดจูบจนขึ้นรอยแดง
“ชิโฮะ”
มือหนาลากผ่านขาเรียวขึ้นมาหยุดที่หน้าท้องแบนราบก่อนจะล้วงเข้าไปด้านใน
“อย่า”
ร่างบางเด้งตัวขึ้นพลางยกมือดันร่างสูงออกห่าง
“นายเป็นแฟนพี่นะ”
ชายหนุ่มชะงักไป ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆเข้าปอดเพื่อข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองอีกครั้ง
อย่างรู้ตัวดีว่าอีกไม่นานเขาจะทนความทรมานที่เกิดขึ้นนี้ไม่ไหวแล้ว
“เรื่องอาเคมิ ฉันขอโทษจริงๆ
ฉันคงทำได้แค่นี้
...แต่ที่เหลือเอาไว้ค่อยคุยหลังจบ‘เรื่องนี้’นะ”
หญิงสาวสะดุ้งด้วยอารามตกใจที่มือหนาเคลื่อนมาปลดตะขอบราออกอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะดิ้นขัดขืนจนหมดแรง
แม้จะรู้ตัวดีว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมันไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก แต่ภายในใจของเธอกลับไม่ยอมปฏิเสธมัน
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้
แต่มันก็นานพอจะทำให้ฤทธิ์ยาบ้านั่นหมดลง...
...ยาปลุกเซ็กส์...
หลังจากนี้ต้องสั่งสอนคาเมลซะหน่อยแล้ว
ที่สะเพร่าเลินเล่อหยิบยาผิดมาให้เขากิน
จนทำให้เขาต้องมาระบายออกแบบนี้
อากาอิจูบปลอบร่างบางอย่างอ่อนโยน
ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างเธอ
แต่หญิงสาวกลับพลิกกายหันหน้าหนี
“ครั้งแรกสินะ”
“เงียบนะ!” เสียงหวานตวาดแว้ดใส่เพื่อปกปิดความเขินอายที่เกิดขึ้นของเธอ
แต่อาการขัดเขินของเธอช่างดูน่ารักสำหรับเขายิ่งนัก
“ฉันนึกว่ายินจะ...”
“อะไร...นะ นายนี่
...ทะลึ่ง ลามกที่สุด”
อากาอิยกยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย
เขาคิดมาตลอดว่าลูกแมวน้อยอย่างเธอจะโดนหมาป่าสีดำตัวนั้นกินไปแล้วเสียอีก
แต่ความจริงที่เพิ่งได้รู้ก็ทำให้เขาดีใจจนต้องเผลอยิ้มออกมา
ชายหนุ่มมองแผ่นหลังขาวเนียนของร่างบางก่อนจะยกแขนขึ้นโอบกอดเธอ
“ขอโทษนะ ชิโฮะ...”
“ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ.. นายจะพูดแบบนี้สินะ”
ชิโฮะพูดกระทบ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าหากเป็นในนิยายน้ำเน่าทั่วไปพระเอกก็มักจะพูดประโยคนี้ออกมาเสมอ
“ใครว่าฉันไม่ตั้งใจ...
ฉันตั้งใจจะทำแบบนี้กับเธอ แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เท่านั้น”
อากาอิพลิกตัวร่างบางกลับมามองหน้า
ก่อนจะพูดขึ้นต่อ
“หลังจากแต่งงานต่างหาก”
“พูดอะไรน่ะ”
เสียงหวานแว้ดใส่
ก่อนจะก้มหน้างุดซุกกับอกแกร่งของชายหนุ่มอย่างต้องการปิดบังสีแดงเรื่อที่ขึ้นมาจากความเขินอาย
“เรื่องอาเคมิ
ฉันต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถช่วยพี่สาวเธอได้
แล้วก็อยากจะขอโทษพวกเธอเรื่องที่เคยโกหกไป”
ร่างบางเงยหน้ามองชายหนุ่มอีกครั้ง
“ฉันกลับไปเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้
แต่จากนี้ไปฉันสัญญาด้วยชีวิตว่าจะดูแลและปกป้องเธอให้ดีตราบเท่าชีวิตของฉัน
...เธอจะให้อภัยฉันได้มั้ย”
“ถ้าเป็นพี่..ก็คงให้อภัยนายอยู่แล้วล่ะ
...ฉันก็เหมือนกัน”
ร่างสูงยกยิ้มมุมปากตอบรับ
เพราะเขาเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
“นั่นสิ ถ้าเป็นอาเคมิ
ก็คงจะอวยพรให้เราสองคนในวันแต่งงานเหมือนกัน
...แต่งงานกันนะ ชิโฮะ”
อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดร่างบางแน่นขึ้นอย่างแสนหวง
“บ้า พูดเรื่องอะไรของนาย”
เสียงหวานตอบกลับอู้อี้เพราะซุกใบหน้าเข้ากับอกของเขาอีกครั้ง
“ใครจะไป...
ปฏิเสธคนที่รักได้ล่ะ”
คำพูดจากร่างบางทำให้ชายหนุ่มคลายกอดออก
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ”
แล้วเปลี่ยนเป็นลุกขึ้นคร่อมตัวร่างบางเอาไว้
“...”
ที่ตอบกลับมามีเพียงใบหน้าที่ขึ้นสี
“งั้นซ้อมก่อนเข้าหออีกรอบละกัน”
ชายหนุ่มว่าพลางโน้มตัวลงไปกดจูบร่างบางแสนรัก
อย่างไม่ปล่อยให้โอกาสต้องหลุดลอยไป
“ห๊า ตาบ้า...อือ”
เพลงรักบทใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ไม่อาจรู้ได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ มีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้...
แต่ความรักที่เพิ่งงอกเงยของพวกเขา
ไม่มีวันจบลง
หัวใจของเธอและเขารับรู้มันดี...
Fin.
__________________________________________________
ปล.เป็นไปได้อยากให้มีลูกด้วยซ้ำ????????????
แต่แอบสงสัยว่า
ถ้าคนที่เข้ามาหาอากาอิ เป็นคนอื่น อย่างโจดี้
เฮียชูจะทำแบบนี้ไหมน้าาา // ดราม่าไปอี๊ก
5555555 ไรท์ฯไม่ได้ลำเอียงนะ
ไม่งั้นมันจะดูเหมือนไม่มีอะไรเลย T^T
ช่าง'คนอื่น'เถอะ นั่นไรท์ฯตั้งใจมากค่ะ (ไม่ชอบโจดี้ส่วนตัว)
ส่วนเรื่องแต่งงานไรท์ฯไม่มีพล็อตจะสานต่อนะคะ
ถ้าอยากต่อคงต้องอ่านของ ธิดาซุส 55555555555555555
เรื่องติดตามผลงานนี่ ต่อไปนี้คงไม่มีแล้วล่่ะค่ะ
ไรท์ฯงยาว //โดนรุมตื้บแน่ๆ 5555
ล้อเล่นนะ มีไฟก็ปั่นเน้อ กรุณารอฟิคค่อยๆคืบคลานมาค่ะ