คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ขั้วอำนาจของแต่ละฝ่าย
เนื่องจากกิลด์ใหญ่ทั้งห้าส่งคนออกไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว การฝ่าเข้าไปครั้งนี้จึงแทบไม่มีอุปสรรคใดขัดขวาง ส่วนเหล่าผีลืมหลุมในอาณาเขตชั้นนอกตามรายทางนั้นเพียงแค่ถูกแรงลมซึ่งเกิดขึ้นจากการพุ่งทะยานผ่านไปของเพลเยอร์ระดับสูงก็พากันล้มคะมำกลิ้งไปกับพื้นโดยไม่ทันได้แสดงฝีมือแม้แต่กระบวนท่าเดียว
พื้นที่แห่งนี้มีเส้นทางฝ่าเข้าไปได้มากกว่าหนึ่งเส้นทาง และทั้งหมดล้วนไปบรรจบลงยังที่เดียวกันซึ่งก็คือทางเข้าสู่มหานครฉางอาน ขณะนี้จ้าววังทั้งห้าต่างก็แข่งกับเวลา พวกเขาเลือกเส้นทางคนละสายที่ตัวเองคิดว่ามีระยะทางสั้นที่สุด แต่ความจริงไม่มีเส้นทางใดสั้นหรือยาวไปกว่ากัน ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากันอยู่ดี
กลายเป็นว่าผู้ลอบติดตามอยู่ด้านหลังอย่างกลุ่มของหนวดพยัคฆ์เริ่มจะถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ เพราะพวกเขาไม่สามารถทะยานฝ่าผีลืมหลุมไปได้ง่ายนัก
“อะไรวะเนี่ย!
พวกมันผ่านตรงนี้ไปทั้งที่ไม่ได้สังหารมอนสเตอร์สักตัวเลยหรือ”
ศัสตราเทพอุทานเสียงเครียด
“รีบเคลียร์เส้นทางเถอะ คนของเรารวมกันก็มากพอที่จะจัดการได้โดยไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
อินทรีเหินกล่าวขึ้น ซึ่งก็ไม่มีใครทักท้วง
หนวดพยัคฆ์
จางเหมย อินทรีเหิน และศัสตราเทพต่างนำยอดฝีมือภายใต้ปกครองที่พามาด้วยเข้าโรมรันกับผีลืมหลุมอย่างรีบเร่ง ทุกคนไม่มีใครออมแรงเพราะต่างก็มีทรัพยากรเป็นเดิมพัน
ห่างออกไปทางกลุ่มของสังหารเทพ จ้าววังเดชกระบี่มารหรือกิลด์ใหญ่อันดับสอง
“ฮึ! ถ้ากระจอกแบบนี้ฉันฝ่ามันเข้ามาตั้งแต่คืนแรกซะก็ดี”
น้ำเสียงอวดดีดังขึ้นมาจากสังหารเทพ
เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัด เส้นผมยาวปรากฏรัดเกล้าตรึงเป็นทรง คิ้วตั้ง หน้าตาหยิ่งผยองเชิดสูงอย่างมั่นใจ ชุดจอมยุทธ์สีดำทับด้วยเกราะเบาที่สวมใส่อยู่เพียงมองด้วยตาก็ยากจะประเมินราคา
“คุณก็คิดง่ายเกินไปครับ ซอมบี้พวกนี้ตายยากกว่ามอนสเตอร์ประเภทอื่นเยอะ ถ้าถูกมันรุมเข้ามาเป็นร้อย ๆ ตัวพวกเราคงไม่เหลือซาก”
ลมหวน
ผู้ควบทั้งตำแหน่งองครักษ์และเทพกลยุทธ์กล่าวตามที่คิด
เขาคือหนึ่งในเจ็ดเทพยุทธ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในหมู่หญิงสาว ด้วยทุกอย่างบนใบหน้านั้นราวกับถูกสลักขึ้นโดยตรงจากหัตถ์พระเจ้า แม้จริง ๆ แล้วตัวละครในเกมจะรังสรรค์เกินจริงไปมากโขก็ตาม
“แกจะเห็นตรงกับฉันบ้างไม่ได้เลยหรือไงไอ้เด็กเวร”
สังหารเทพเอ่ยกระแทกเสียงสวนกลับไป
“เลิกเห่าได้แล้วโว้ย!
พวกนายกำลังทำให้เราช้า”
มารคลั่ง
ตะโกนแทรกขึ้นมา
“ผมไม่ใช่หมานะครับ”
ลมหวนแทบจะแย้งกลับในทันทีอย่างไม่พอใจ
มารคลั่งเป็นอีกหนึ่งคนที่สนับสนุนสังหารเทพมาตั้งแต่เริ่มเล่นเกม เขายังเป็นผู้ที่ดึงตัวลมหวนเข้ามาร่วมกิลด์ นั่นทำให้มารคลั่งกับคนทั้งสองไม่ต่างอะไรจากเพื่อนสนิทต่างวัย ตัวละครของเขาค่อนข้างสมถะ ชุดที่สวมใส่อยู่ซีดจางไม่มีความโดดเด่น ใบหน้าและรูปร่างก็ไม่ต่างจากตัวจริงมากนักซึ่งดูเซอร์
ๆ
ขณะที่สังหารเทพพลันสังเกตเห็นมอนสเตอร์กลุ่มใหม่ที่ดูน่าเกรงขามกว่าผีลืมหลุม เขาทดลองเหวี่ยงดาบกวาดขวางออกไปครั้งเดียวมอนสเตอร์เลเวล
40 ก็พากันล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นท่าเสียแล้ว พริบตากลุ่มของสังหารเทพก็ทะยานฝ่าเข้าไปถึงอาณาเขตชั้นกลางโดยไม่จำเป็นต้องหยุดชะงักแม้แต่ก้าวเดียว
อีกเส้นทางหนึ่งที่มีกลุ่มของนที จ้าววังเทวาห้วงสมุทรหรือกิลด์ใหญ่อันดับสาม
พวกเขาเองเพิ่งจะฝ่าเข้าสู่อาณาเขตชั้นกลางได้ในเวลาไล่เลี่ยกับกลุ่มของสังหารเทพ กลุ่มนี้หลัก ๆ ประกอบไปด้วย นที ขุนเขา และเทพกลยุทธ์พันหน้า
ทั้งสามคนล้วนเป็นชายหนุ่มและนอกเกมก็ยังนับเป็นเพื่อนสนิทไปไหนไปกัน สำหรับนที เขามีหน้าและแววตาเป็นมิตรอยู่เสมอ
แม้จะไม่หล่อเหลาแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนรอบข้างมากกว่าใคร
ส่วนขุนเขามีหน้าตาไร้ความรู้สึก เพื่อน ๆ เล่นมุกขบขันกันสนุกสนานแต่เขาคนนี้ยังคงนิ่งเฉยราวรูปปั้นได้หน้าตาเฉย ชายหนุ่มแทบจะเตี้ยกว่าชาวบ้านเขาทว่าหากได้ลุยแล้วต้องบอกเลยว่าตามยันถิ่นของศัตรู นับเป็นบุคคลบ้าระห่ำที่แสดงออกทางการกระทำตรง
ๆ มากกว่าเห่าไปเรื่อย
สุดท้ายคือเทพกลยุทธ์พันหน้า แม้จะไม่ติดโผหนึ่งในสิบทำเนียบยอดยุทธ์แต่เขาก็รั้งอยู่ในอันดับที่สิบเอ็ดถัดลงมานิดเดียวไม่ได้น้อยหน้าใคร หากกล่าวว่าขุนเขามีหน้าเดียวแล้วล่ะก็ ชายคนนี้ก็ตรงกันข้ามเลยทีเดียว สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเรื่อยได้ตามใจนึก คนอื่น ๆ
จึงยากจะคาดเดาอารมณ์ความคิดของเทพกลยุทธ์พันหน้าได้ มีน้อยคนที่จะดูออก นทีกับขุนเขาก็เป็นคนส่วนน้อยที่ไม่หลงไปตามเกมของเพื่อนคนนี้ง่าย
ๆ
“ถ้าฉันได้เป็นจ้าววัง ไม่มีทางที่ฉันจะให้สาว ๆ มาเห็นอะไรน่ากลัวแบบนี้เด็ดขาด”
เทพกลยุทธ์พันหน้ากล่าวและหันกลับไปส่งสายตาเศร้า
ๆ ให้สมาชิกหญิงในกิลด์ที่ได้แต่ยิ้มแห้ง
“พวกเธอเก่งและใจแข็งกว่านายเยอะไอ้พันหน้า ฉันถึงมั่นใจให้ติดตามไปด้วยทุกครั้งไงล่ะ”
นทีเอ่ยปากอธิบายยิ้ม
ๆ อย่างไม่ถือสา
“พวกเราไม่ทำให้พี่นทีผิดหวังแน่ค่ะ!”
เหล่าสาว
ๆ จำนวนหกคนแทบจะกล่าวประสานเสียง ส่วนสมาชิกชายคนอื่น ๆ จะร้องไห้ที่ถูกพวกเธอเมินราวกับเป็นแค่ลมพัดผ่าน
“ถ้านายได้เป็นจ้าววังจริงล่ะก็ฉันจะลาออกจากกิลด์เป็นคนแรก”
ขุนเขากล่าวเสียงเรียบด้วยใบหน้านิ่งไม่มีการแสดงอารมณ์ร่วมใด
ๆ
“นี่นายกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหมเพื่อน!?”
เทพกลยุทธ์พันหน้าถามอย่างไม่แน่ใจ
ขุนเขาเป็นคนเดียวที่ชายหนุ่มแยกไม่ออกว่ากำลังพูดจริงหรือพูดเล่น
“นายอ่านสีหน้าคนเก่งไม่ใช่หรือ แล้วจะมาถามฉันทำไม”
ขุนเขาตอกกลับพลางส่ายศีรษะคล้ายผิดหวัง ส่งให้เทพกลยุทธ์พันหน้าอ้าปากหวอรีบแย้งเสียงหลงขึ้นว่า
“แล้วแกมีหน้าอะไรให้ฉันอ่านบ้างเล่าไอ้บ้า!”
หลังจากกวาดมอนสเตอร์ที่ขวางเส้นทางออกไปเรียบร้อยแล้วนทีก็หันไปหัวเราะเยาะเทพกลยุทธ์พันหน้าด้วยท่าทางชอบใจมาก
เกือบครึ่งชั่วโมงห่างออกไปอีกสองเส้นทางที่คล้ายจะตัดมาบรรจบเร็วกว่าเส้นทางอื่น
จักรพรรดิมังกร
จ้าววังจักรพรรดิหรือกิลด์ใหญ่อันดับสี่กระทั่งนำกลุ่มตัวเองบรรลุถึงเส้นทางแยกที่ว่า แต่อีกด้านหนึ่งก็ปรากฏเซียนหิมะ จ้าววังฟีนิกซ์เยือกแข็งนิรันดร์ซึ่งเป็นกิลด์ใหญ่อันดับห้า ทั้งสองกลุ่มต่างชะงักเมื่อสังเกตเห็นกันในที่สุด
“เธอมาโผล่นี่ได้ไงไม่ทราบ!”
จักรพรรดิมังกรตะโกนถาม
เขาเป็นชายร่างใหญ่หน้าตากร้านโลก สวมใส่ชุดเกราะหนักท่าทางดูทนทาน
“ฉันต่างหากที่ต้องถาม พวกนายลอบติดตามมางั้นรึ!?”
เซียนหิมะกล่าวอย่างไม่ไว้วางใจ
เธอเป็นหญิงสาวหุ่นนางแบบ สูงขาวใบหน้าดูเก๋น่ารักเป็นเอกลักษณ์ ดวงตาหวานไม่เหมือนใครคล้ายมีเสน่ห์ดึงดูดพิกล
“เฮอะ!
จะยกหางตัวเองก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย”
จักรพรรดิมังกรกล่าวข่มอย่างผู้เหนือกว่า ก่อนจะมีชายหนุ่มของฝ่ายเซียนหิมะก้าวออกมาเอ่ยคาดการณ์ว่า
“ดูเหมือนเส้นทางที่พวกเราเลือกจะมาบรรจบกันที่นี่ ฉันว่าเราพักรบชั่วคราวและอาศัยฝ่าไปด้วยกันดีกว่าไหม ไม่งั้นสามกิลด์ใหญ่คงไปถึงเมืองโบราณก่อนแน่ ๆ”
“ข้าไม่ได้ขอความคิดเห็นแก เมฆาอัสนี!”
จักรพรรดิมังกรคำรามสีหน้าไม่พอใจชัดเจน
“นายพูดกับเพื่อนแบบนี้หรือ”
“แกมันก็แค่อดีตเพื่อนว่ะ”
จักรพรรดิมังกรสวนกลับอย่างเกรี้ยวกราด ดูท่ามันจะไม่ยอมง่าย ๆ แต่ทางฝ่ายของมันเองก็ปรากฏชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวออกมาเช่นกัน
“สถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรมาเสียเวลาขัดกันเองหรอก จักรพรรดิมังกรนายช่วยอดทนไว้จนกว่าพวกเราจะไปถึงเมืองโบราณกันก่อนเถอะ”
“พิชิตหล้าพูดถูกต้อง
รวมกลุ่มกันชั่วคราวพวกเราอาจจะฝ่าไปถึงได้เร็วกว่าสามกิลด์ใหญ่”
เมฆาอัสนีรีบกล่าวสนับสนุน
เมื่อเทพกลยุทธ์ของแต่ละฝ่ายออกหน้ากันถึงเพียงนี้แล้วจักรพรรดิมังกรก็ไม่สามารถทำตามใจได้อีก
“อย่ามาถ่วงข้าก็แล้วกัน พวกเราไป!”
จักรพรรดิมังกรกล่าวทิ้งท้ายและรีบทะยานร่างนำออกไปทันที ส่วนเซียนหิมะไม่ถือสา เธอเองก็นำกลุ่มพุ่งทะยานไล่ติดตามไปไม่ห่าง
จวบกระทั่งหนึ่งชั่วโมงเศษก็ปรากฏเงาร่างมากมายพุ่งทะยานมาจากหลายทิศทาง ทว่าเป้าหมายล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาบรรลุถึงทางเข้าสู่มหานครฉางอานได้ในที่สุด เศษซากกำแพงหินและโบราณสถานสะท้อนอยู่ในดวงตาของทุกคน เมื่อเส้นทางทุกสายมาบรรจบกัน การเผชิญหน้าของกิลด์ใหญ่ทั้งห้าก็บังเกิดขึ้น
“พวกน่ารำคาญเอ๊ย!”
สังหารเทพแหกปากโวยวายขึ้นเป็นคนแรก
“ไร้มารยาทไม่เปลี่ยนเลยนะคะลุง”
นภาสวนกลับด้วยรอยยิ้มบาง ขณะเดียวกันนทีก็เสนอหน้าออกมาผายมือพลางกล่าวขึ้น
“เชิญสุภาพสตรีก่อนได้เลยนะครับ”
“นายอย่าประเจิดประเจ้อนักจะได้ไหมเพื่อน”
เทพกลยุทธ์พันหน้ารีบสะกิดนทีเพราะสายตาของเพื่อนเขาสบจ้องอยู่ที่นภาไม่เคลื่อนไปไหนเลย ผิดกับนางที่ไม่เห็นหัวชายใดในสายตาแม้แต่น้อย
“อย่าทำเป็นไม่เห็นหัวข้าคนนี้นะโว้ย!”
จักรพรรดิมังกรตะโกนลั่นขึ้นมากลางวงและคิดจะทะยานฝ่าเข้าไปเป็นคนแรก
“ไอ้โง่!”
ลมหวนจากวังเดชกระบี่มารดีดเท้าทะยานเข้าปะทะขวางหน้าเอาไว้ จักรพรรดิมังกรพลันถูกผลักสะท้อนถอยหลังกลับไป มันจึงรีบกล่าวรักษาหน้าเอาไว้อย่างรวดเร็วขึ้นว่า
“จะเอาหรือ
แต่คงเสียเวลาพวกแกน่าดูถ้าคิดจะล้มข้าในตอนนี้”
“พวกฉันมาถึงก่อนย่อมมีสิทธิ์เข้าไปด้านในเป็นกลุ่มแรก”
นภาเอ่ยปากแทรกขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่สนใจความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
“เช่นนั้นเชิญคุณเข้าไปได้เลย เดี๋ยวผมคุ้มกันให้เอง”
นทีไม่รักษามาดใด
ๆ ไว้อีก เขาเสนอตัวปกป้องคล้ายลืมตำแหน่งเพลเยอร์อันดับหนึ่งของอีกฝ่ายไปแล้ว
“นายเล่นมุขใช่ไหม ถ้าปล่อยให้พวกเธอเข้าไปก่อนจริง ๆ ฉันจะอัดนายเดี๋ยวนี้ล่ะ”
ขุนเขากล่าวสีหน้าตายด้าน
เทพกลยุทธ์พันหน้าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบออกตัวกล่าวขึ้นว่า
“ใจเย็นเพื่อน
เดี๋ยวฉันเรียกสติไอ้นทีมันกลับมาให้เอง นายอย่าใช้กำลังเปล่าประโยชน์จะดีกว่า”
“นายจะจริงจังทำไม ฉันก็แค่เล่นมุข”
“ทีหลังก็หัดแสดงอารมณ์ทางสีหน้าซะบ้างเซ่!!”
ได้เห็นมุขบาทสองบาทของสามหนุ่มตรงหน้านี้แล้วทางกลุ่มของนภาก็ได้แค่ถอนหายใจเบื่อหน่าย
ความคิดเห็น