คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #108 : เปิดใจ
“ข้าว่าเอ็งนั่นแหละจะทำให้พวกเรากลายเป็นตัวตลกไอ้หิน” มังกรเฒ่าเอ่ยเตือนเพื่อนวัยชรา
ขณะเดียวกันทางด้านพรรคพญายักษาที่นำโดยกลุ่มเล็ก
ๆ ของช้างพลายก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว มันไม่ยอมเสียหน้าไปเฉย ๆ เช่นนี้แน่ จะอย่างไรพวกตนก็มีมากกว่า อีกฝ่ายแค่สี่คนทำไมต้องหวั่นเกรงจึงรีบกล่าวเสียงดังขึ้นว่า
“ช่วยเคารพกฎกันด้วยเหล่าอาวุโส…” ช้างพลายมันยังเอ่ยไม่จบประโยคก็จำต้องกลืนถ้อยคำที่เหลือกลับลงไป นั่นเพราะมารตะกละเพิ่งจะโยนถุงเงินมาให้ด้วยท่าทีไม่แยแส ชายชราร่างอ้วนแทบไม่หันหน้ากลับมาสนใจพวกมันเลยด้วยซ้ำ
ถุงเงินลอยมาตกลงห่างปลายเท้ากลุ่มของช้างพลายเพียงก้าว แม้จะเจ็บใจมันก็ยังสั่งให้สมุนไปเก็บค่าผ่านทางขึ้นมาเพื่อยืนยันจำนวน สมุนคนนี้รายงานอย่างกระอักกระอ่วนทันที
“สองพันห้า? กฎเปลี่ยนไปแล้วนะเหล่ามารเฒ่า” ช้างพลายรีบร้องบอกกล่าว
“เด็กหนอเด็ก…มาขอตังค์ผู้หลักผู้ใหญ่ก็หัดยกมือไหว้กันซะบ้าง” มารตะกละเอ่ยสั่งสอน
“สหายข้าคนนี้เข้าเมืองมา กฎต่าง ๆ ที่เด็กอย่างพวกแกสร้างขึ้นก็ยังไม่เปลี่ยนสักนิด ยอมจ่ายให้ก็ดีเท่าไรแล้ววะ! หรือถ้ายังไม่พอจะลองเข้ามาไถกับพวกข้าดูก็ได้นะ” เฒ่าทารกเอ่ยขึ้นมาบ้างท่าทางไม่ยี่หระ คำท้าทายของเขาไม่ใช่เพียงแค่ปากดีหรือเกรียนท้าไปทั่วแต่เป็นของจริงที่ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือสนองตอบต่ออำนาจมืดนี้!
“ปกติพวกข้าไม่แคร์กับกฎยิบย่อยน่ารำคาญ วันนี้ยินยอมจ่ายให้ถือได้ว่าช่วยรักษาหน้าพรรคพญายักษาผู้บุกเบิกเมืองหังโจวมากแล้ว ถ้ายังมีปัญหาอยู่อีกคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันล่ะนะ” ภูผาเพลิงกล่าวปิดท้ายอย่างเด็ดขาด เหลือทางเลือกให้อีกฝ่ายไม่มากนัก
การกระทำนี้ของสามมารเฒ่าเพียงพอให้วงล้อมคลายออกกระจัดกระจาย ชาวยุทธ์ที่มองทะลุปรุโปร่งถึงต้นตอปัญหาย่อมทราบดีว่าเป็นมายังไงจึงไม่ให้ความสนใจอีก ต่างก็แยกย้ายไปตามทางของตน แน่นอนว่ากลุ่มของช้างพลายไม่มีขวัญกล้าพอจะแตกหักกับสามมารเฒ่า ทำให้ฝูงชนคาดเดาได้ล่วงหน้าทันทีว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ใหญ่โตอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง เวลานี้ช้างพลายกับคนของมันจำนวนหนึ่งได้แต่ยืนทื่อจนกระทั่งมังกรเฒ่าติดสอยห้อยตามแก๊งวัยชรากลืนหายไปกับฝูงชนในที่สุด
“แม่งเอ๊ย!
ฉันว่าพรรคเราต้องจัดการสามมารเฒ่าให้หนัก ๆ สักที” ช้างพลายเดือดดาล
“ผมว่าเป็นไปได้ยากครับ
พลังฝีมือของคนกลุ่มนี้แกร่งถึงขั้นกิลด์ใหญ่ยังไม่อยากยุ่งด้วย”
“กูรู้อยู่แล้วเว้ย! แต่พรรคพญายักษาเป็นคลังสมุนไพรพิเศษที่ใหญ่กว่าใคร กิลด์ใหญ่ต่างก็พึ่งพาซื้อขายโดย ตรงกับพรรคเรา
ถ้าใช้ประโยชน์จากจุดนี้ยืมเทพยุทธ์มาได้สักกลุ่มแลกกับการลดเปอร์เซ็นต์ราคาสมุนไพรล่ะก็ เป็นไปได้อยู่บ้าง ฉันไม่เชื่อว่าไอ้แก่เพียงสามคนสี่คนจะรับมือกับเทพยุทธ์ไหว” ช้างพลายสาธยายสิ่งที่ตนคิดออกมา เหล่าสมุนข้างกายได้แต่พยักหน้าตอบรับ
“ฉันจะลองนำเรื่องนี้ไปคุยกับประมุขพรรคดูก่อน ส่วนพวกแกคนหนึ่งก็คอยจับตาดูสามมารเฒ่าเอาไว้อย่าให้คาดตำแหน่งไปได้ล่ะ” ช้างพลายสั่งการเล็กน้อย จากนั้นเดินแยกออกไปจากกลุ่มเงียบ ๆ
มังกรเฒ่ากับกลุ่มแก๊งวัยชราสืบเท้าก้าวเดินมาบรรจบลงที่ร้านอาหารแบบเปิดโล่ง มันค่อนข้างเป็นร้านที่นิยมในหมู่เพลเยอร์ประจำเมืองหังโจวจึงหาโต๊ะว่างได้ไม่ง่ายนัก แต่สามมารเฒ่านำพาสมาชิกใหม่เอี่ยมเดินลึกเข้าไปภายในร้านโดยไม่สนใจสายตาใคร กระทั่งตัดเข้าไปยังระเบียงทางเดินไม้แคบ ๆ
และเลือกห้องอาหารแบบส่วนตัวห้องหนึ่งที่มีราคาสูงจนเพลเยอร์ทั่วไปไม่คิดจะแวะเวียนเข้ามากัน ขณะที่พนักงานเอไอในจุดนี้แทบจะรับรองลูกค้าอย่างดีเยี่ยมแตกต่างกับหน้าร้านเปิดโล่งอันเต็มไปด้วยเสียงเอะอะฉุนเฉียวคนละเรื่อง
“พวกเอ็งใช้จ่ายเกินไปเปล่าวะ” มังกรเฒ่าหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้เตี้ยตัวหนึ่งจึงกล่าวขึ้น
“เหอะเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่ทั้งทีแถมยังเป็นไอ้เฒ่าหัวรั้นเพื่อนยากด้วย ต้องจัดเต็มให้สมศักดิ์ศรีหน่อยโว้ย” ตาเฒ่าภูผาเพลิงตอบกลับน้ำเสียงยินดี
ทั้งหมดนั่งล้อมวงโดยมีโต๊ะรองรับสำรับอาหารกั้นกลาง
“ตามใจ อย่ามาโอดครวญทีหลังล่ะพวกเอ็ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มังกรเฒ่าหรี่ตาเอ่ยกลั้วหัวเราะ
ระหว่างสนทนาเรื่อยเฉื่อย สำรับอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟทีละอย่างจนเกือบเต็มโต๊ะ กลิ่นหอมตลบอวลไปทั่วห้องครอบงำให้ผู้คนรู้สึกกระหายอยากลิ้มลองรส มังกรเฒ่าไม่รีรอ ชิงเปิดก่อนคนแรก อีกสามคนเห็นดังนั้นมีหรือจะอยู่เฉยทั้ง ๆ
ที่เสียเงินค่าอาหารไปแล้ว พริบตาชายแก่ทั้งสี่กินไปคุยไปฟังดูสนุกสนานท่ามกลางเสียงหัวเราะฮาที่ดังขึ้นประปราย กระทั่งค่าความอิ่มทำพิษยากจะกลืนสิ่งใดลงท้องเพิ่มอีก ไม่เช่นนั้นคงได้ถูกระบบบังคับอ้วกออกมาเป็นแน่ ซึ่งมันก็ช่วยเปิดโอกาสให้มังกรเฒ่าชักนำเข้าเรื่องหลักที่ตนตั้งใจจะมาหารือกับผองเพื่อนทั้งสามคนนี้
“ข้าอยากแนะนำคนให้พวกเอ็งรู้จักหน่อย” มังกรเฒ่าโพล่งออกไปตรง
ๆ ไม่มีอ้อมค้อมอีก
“หือ แนะนำใคร แต่ขนาดทำให้แกพูดถึงได้แบบนี้คงไม่ใช่ธรรมดา” เฒ่าทารกแปลกใจ ขณะอีกสองเฒ่าเพียงวางอาหารตรงหน้าลงและตั้งใจฟังเงียบ ๆ
“เป็นไอ้ตัวแสบเลยแหละ และใช่
ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง…” มังกรเฒ่าตอบติดตลก จากนั้นเริ่มเล่าความเป็นมา
สาเหตุที่ทำให้ตัวเขาพัฒนามาได้รวดเร็วและแข็งแกร่งเฉกเช่นตอนนี้ ตัวตนของยี่ฟง วีรกรรมเกรียนในช่วงเวลาหนึ่งที่เดินทางร่วมกันมา ย่อมไม่พลาดเรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยนลับใต้ดิน
ณ มหานครฉางอาน รวมไปถึงการตัดหน้าช่วงชิงคัมภีร์ยุทธ์สะท้านฟ้าสะเทือนดินไปจากห้ากิลด์ใหญ่ หัวหอกบุกตะลุยจ้าวพยัคฆ์ ท้าท้ายสำนักพยัคฆ์หมอบ สุดท้ายคือการริเริ่มก่อตั้งสมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉางอานผ่านการสยบกลุ่มนักฆ่าของมัจจุราชซานจื่อไว้แทบเท้า มังกรเฒ่าบอกเล่าทุก ๆ วีรกรรมสู่แก๊งวัยชรา อัจฉริยภาพของยี่ฟงแทบจะสัมผัสได้แม้จะเป็นแค่การฟังไม่ใช่พบเจอด้วยตัวเองก็ตาม น้ำใจกว้างที่มีให้กับพวกพ้องของชายหนุ่มผู้นี้ก็น่านับถือ แน่นอนว่ามังกรเฒ่าประสบพบเจอมาหมดแล้วทั้งสิ้นถึงได้กล้านำมาบอกต่ออวดโอ่เช่นนี้
“ที่สำคัญ ไม่ช้าวังฟีนิกซ์เยือกแข็งต้องถูกไอ้ตัวแสบดึงมาเข้าร่วมสมาพันธ์ด้วยแน่” การบอกเล่าจบลงตรงนี้
มังกรเฒ่าสูดหายใจลึกพลางยกจอกเหล้าขึ้นซดหมดในอึกเดียว
“แกกำลังจะบอกว่า อยากให้สามมารเฒ่าเข้าร่วมอย่างนั้นใช่ไหม” เฒ่าทารกยิงคำถาม
“จะกลายเป็นสี่มารเฒ่าเมื่อพวกเอ็งยอมติดตามข้ากลับไป” มังกรเฒ่าตอบ จิตใจไม่มีหวั่นไหวลังเล ส่วนสามมารเฒ่าหันมองสบตากันเองเล็กน้อย จากนั้นให้คำตอบเพียงคำเดียวอย่างพร้อมเพรียงกันว่า
“ไม่”
“ในอีกห้านาทีจากนี้ รบกวนเพลเยอร์ทุกท่านกรุณาช่วยออฟไลน์ออกจากเกมเพื่อให้ทางเราสามารถอัปเดตแพตช์ได้สำเร็จลุล่วง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับตัวละครของทุกท่านในภายหลังทางระบบจะทำการออฟไลน์อัตโนมัติให้สำหรับตัวละครที่
AFK หรือที่ยังไม่ออฟไลน์ตามกำหนดเวลา เพลเยอร์สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ของเกมลำนำจ้าวยุทธจักร ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือค่ะ” เสียงประกาศจากระบบดังไปทั่วยุทธภพทำให้เพลเยอร์หงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ยินดีทำตามคำแนะนำ ทว่าปรากฏความตื่นเต้นที่ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้บ่อย
ๆ นักอันมีต้นสายปลายเหตุมาจากคำว่าอัปเดตแพตช์ทุกครั้งของตัวเกม
นอกเกม ก่อนหน้าที่ระบบจะประกาศการอัปเดตแพตช์
วาดที่เสียเวลาไปส่งหยกรฐาบัดนี้วนรถกลับมาถึงคอนโดเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มหาน้ำมาดื่มให้ชื่นใจเป็นอย่างแรกพร้อมกับเดินตรวจความเรียบร้อยภายในห้องไปด้วย ถึงแม้ปัจจุบันโจรขโมยจะลดน้อยลงก็ยังไม่ควรย่ามใจเกินไปอยู่ดี กระทั่งกลับมาล้มตัวลงนั่งบนโซฟา นำเอาบุ๊กไทป์ขึ้นมาติดต่อไปหาพ่อกับแม่โดยไม่เสียเวลาคิดหรือลังเลใด
ๆ เสียงสัญญาณติดต่อดังให้ได้ยินครู่หนึ่ง พออีกฝ่ายรับสาย ภาพดิจิตอลก็ฉายเป็นจอสี่เหลี่ยมบางเฉียบ เป็นการทำงานของฟังก์ชั่นวิดีโอคอลล้ำ ๆ บนจอภาพแสดงใบหน้าของดาราเพียงคนเดียว ดูเหมือนวาทินจะยังไม่ว่างมาร่วมสนทนาในครั้งนี้
“พ่อเขากำลังรีบเคลียร์งานอยู่น่ะจ้ะ” ดาราเอ่ยแก้ตัวแทนให้อย่างฝืนยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ…งั้นเรามาคุยกันเลยไหม” วาดตอบและถามกลับด้วยสีหน้านิ่ง ดาราเห็นท่าไม่ค่อยดี จะชวนคุยเรื่องยิบย่อยก็อาจทำให้ลูกชายเสียเวลาเปล่า รวมถึงเธอเองก็ใช่ว่าจะผละออกมาจากงานตรงหน้าได้นานนัก จึงถามเข้าเรื่องในทันที
“ผมกับลูกสาวของประธานใหญ่วีระเลิกกันแล้วครับ” วาดเองก็โพล่งเข้าตรงประเด็นสุด ๆ
“หือ! เกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือมันจะเกี่ยวโยงไปถึงเทพกับผู้อำนวยการใหญ่สินทองด้วย!?” ดาราหัวไวอย่างที่คิด น้ำเสียงก็เปลี่ยนมาจริงจังที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไรนัก
นายวาดจึงเริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟังแต่โดยดีหลังจากปิดเอาไว้สักพักใหญ่เพราะกลัวว่าเรื่องนี้จะกระทบกับงานของพ่อแม่โดยตรง
กลายเป็นว่าเรื่องราวบานปลายจนผู้เป็นแม่เช่นดาราจำต้องติดต่อมาถามไถ่ด้วยตัวเอง หากยังรั้นไม่บอกกล่าวเกรงว่าพ่อแม่ของเขาจะว้าวุ่นกังวลใจถึงขั้นอาจทำ ให้เสียงานใหญ่ได้
แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต้องบอกกับแม่ของตนว่า ความสัมพันธ์ทุกอย่างระหว่างเขากับลูกสาวประธานใหญ่วีระ แท้จริงแล้วเพียงเพื่อต้องการใช้ความสัมพันธ์เหล่านี้ผูกมัดดึงตัวดาราและวาทินให้เข้าร่วมโครงการประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก ความรัก? แฟน? เพื่อน? หลอกลวงไร้ซึ่งความจริงโดยสิ้นเชิง…
“แม่กับพ่อตั้งใจทำงานตรงหน้าให้เต็มที่เถอะครับ อย่าให้เรื่องแบบนี้มารบกวนจิตใจเลย” วาดกล่าวเสียงเบา
“ลูกต้องการเราไหม?” ดาราถามกลับอย่างอดทนอดกลั้น ใบหน้าที่แสดงออกเผยความเจ็บช้ำแทนลูกชายของตน
“แน่นอน ผมต้องการพ่อกับแม่อยู่แล้วสิ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ” วาดตอบกลับตามตรง ทว่าคำกล่าวของเขาทำให้ดาราสงสัย วาดฝืนยิ้มกล่าวต่อไปว่า “เมื่อพ่อกับแม่เสร็จงานจากตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว ทริปเที่ยวที่สัญญากันไว้คงต้องขอใช้ให้สุดเหวี่ยงไปเลย ส่วนเรื่องของผมจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็ไม่ใช่…ผมเจ็บปวดมาก เสียใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
โชคดีที่ผมมันฉลาดผิดมนุษย์
ครู่เดียวก็เข้าใจและทนอยู่กับมันได้
แม่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ
ผมไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่างการทำร้ายตัวเองอยู่แล้ว”
“แม่จะส่งพวกน้าอาไปอยู่เป็นเพื่อนดีไหม…” ถึงขนาดนี้แล้วดาราก็ยังไม่วางใจ ตัวเธอเข้าใจดียิ่งกว่าใครถึงอัจฉริยภาพของลูกชายคนนี้ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ กันไว้ดีกว่าต้องมาแก้และเสียใจภายหลัง
“ไม่ต้องลำบากหรอกครับแม่ ช่วงนี้ผมติดเกมออนไลน์ ผมเองก็ไม่ใช่หัวเดียวกระเทียมลีบ ในเกมตอนนี้ผมมีเพื่อนกลุ่มหนึ่ง คราวนี้รับรองได้เลยว่าจริงใจ ไม่มีความสัมพันธ์ปลอม ๆ อีกแน่นอน เมื่อช่วงเที่ยงเองก็เพิ่งเจอกันนอกเกมจริง ๆ
เป็นครั้งแรก ผมสนุกมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า” วาดตอบด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย สีหน้าแววตาแม้จะยังเจือด้วยความเศร้า แต่ไม่ถึงกับย่ำแย่มากมายอะไรนัก สมกับที่บอกว่าเข้าใจและทนอยู่กับความเจ็บปวดได้อย่างเต็มปากเต็มคำจริง ๆ
ความคิดเห็น