ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #22 : กลับเมือง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.37K
      1.23K
      22 ธ.ค. 60

    หนวดเส้นบาง ๆ บนแก้มของซวงหลานเหอกระดิกเล็กน้อย  หางสีดำแซมขาวก็แกว่งไปมาเมื่อได้ยินที่ยี่ฟงกล่าว

    นอกจากจะเก่งกล้าแล้วท่านยังฉลาดล้ำเลิศอีกด้วย!

    ซวงหลานเหอเดินเข้าใกล้พร้อมเอ่ยชื่นชมยี่ฟง

    หยกราตรีจ้องเด็กสาวตาเป็นประกาย  ส่วนเหนือฟ้ากวาดมองไปทั่วก่อนหยุดลงที่ลู่เหวินพลางถามขึ้น

    ชาวบ้านไม่ใช่มนุษย์หรอกหรือ  แล้วเป็นอะไรกัน!?

    พวกข้าคือหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่มีเชื้อสายปีศาจขอรับ

    ลู่เหวินตอบ

    เผ่าแมวหรือวะ

    มังกรเฒ่าเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง

    จะเรียกเช่นนั้นก็ไม่ผิดนัก  แต่แท้จริงแล้วพวกข้าคือเผ่าปีศาจเก้าเงามรณะ

    ลู่เหวินเงยหน้าตอบแววตาสะท้อนประกายแสงดูลี้ลับ

    รูปลักษณ์ของพวกเอ็งดูไม่โหดเหมือนชื่อเผ่าเลยจริง ๆ

    มังกรเฒ่ากล่าวพลางส่ายศีรษะ

    ทว่าสำหรับยี่ฟงแล้วความน่ารักเพลินตาเหล่านี้หากมีอันตรายซ่อนเร้นอยู่ล่ะก็  มันจะน่ากลัวมากเสียยิ่งกว่าอื่นใด

    ท่านยี่ฟงโปรดวางใจ  ยามนี้เผ่าพันธุ์ข้าอ่อนแอไร้ซึ่งเขี้ยวเล็บ  กระทั่งโจรป่าโจรเขายังไม่อาจเอาชนะ

    ลู่เหวินเอ่ยอย่างรู้ทัน  เมื่อทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาแล้วจึงอธิบายต่อว่า

    ในอดีตเผ่าปีศาจเก้าเงามรณะเคยอาศัยอยู่ ณ วิหารบรรพชนเทพมังกร  มีศักดิ์เป็นข้ารับใช้ ทูต และนักรบถวายแด่ท่านจ้าววิหารมาเนิ่นนาน  จวบกระทั่งพวกข้าไม่เป็นที่โปรดปรานอีกต่อไป  สุดท้ายถูกขับไล่ออกจากวิหารบรรพชนเทพมังกรและมาสิ้นสุดลงที่ป่ากลืนวิญญาณแห่งนี้  แต่ก็ยังไม่พ้นต้องเผชิญพบกับกลุ่มคนปริศนารุกรานทำลายผู้ปกปักรักษาวิหคเทวะเรา  ยอดนักรบที่หลงเหลือสละชีวิตไปในสงครามครานั้นพวกข้ามีแต่จะยิ่งอ่อนแอลงเรื่อย ๆ

    ยี่ฟงพยักหน้าเข้าใจก่อนจะถามอย่างสงสัยว่า

    เหตุใดพวกเจ้าจะต้องปกปิดร่างแท้จริงเอาไว้หรือ

    เพราะศัตรูของเผ่าพันธุ์ข้ามีมากมาย  อดีตเมื่อครั้งที่ยังดำรงอยู่ใต้ฐานะอันทรงเกียรติภายในวิหาร ฯ  เผ่าพันธุ์อื่นต่างริษยาโดยไม่อาจทำอย่างไรได้  แต่ยามนี้พวกข้าไม่มีอำนาจใดคอยปกป้องย่อมเสี่ยงเผชิญพบอันตรายได้ทุกเมื่อ

    จ้าววิหารที่ว่านั่นช่างเห็นแก่ตัวนัก!

    หยกราตรีเอ่ยอย่างไม่ชอบใจ

    พวกท่านไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร  จนป่านนี้เผ่าปีศาจเก้าเงามรณะสมควรถูกลืมเลือนไปแล้ว

    ลู่เหวินกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว

    การสนทนาดำเนินต่ออีกสักพักก็หยุดลง  เหล่าชาวบ้านปกปิดตัวตนแท้จริงเอาไว้อีกครั้งและพากันล่ำลากลุ่มยี่ฟงกระทั่งลับสายตาไป

    ยี่ฟงและเพื่อน ๆ ยังมีซวงหลานเหอกับมารดาร่วมทางมาด้วย  พวกเขามุ่งหน้าออกจากป่าตรงกลับไปที่เมืองจงหยางในทันที  เนื่องจากเกมนี้ไม่มีใบวาร์ปหรือจุดเทเลพอร์ตอย่างเกมอื่น  การเดินทางแต่ละครั้งเหล่าเพลเยอร์จึงต้องคำนวณเสบียงอาหารและเวลาเอาไว้คร่าว ๆ เพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดฝัน อาทิ อาหารหมดกลางทาง น้ำยาเพิ่มเลือดไม่พอ

    เหนือฟ้า  นายคิดว่าคนพวกนั้นจะดักรอเราอยู่ที่เมืองหรือเปล่า

    มุกทิวากังวลจนต้องเอ่ยปากถามขึ้น

    ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    เหนือฟ้าตอบตามตรง  จนเป็นยี่ฟงซึ่งกล่าวแทรกขึ้นว่า

    พวกมันไม่กล้าแสดงตัวหรอก  ทุกคนอาจยังไม่รู้แต่ไอ้หอกหักน่ะมันวางแผนและลงมือโดยไม่ได้แจ้งคนระดับสูงในกิลด์  ถ้ามันยังมีสมองอยู่ล่ะก็  คงไม่มีทางย้อนกลับมาวุ่นวายกับพวกเราในเร็ว ๆ นี้แน่

    ใครสนไอ้พวกเลวนั่นกัน  ว่าแต่นายเถอะ  เป็นถึงยอดฝีมือได้ไงกันทั้งที่ยังใส่แค่ชุดเริ่มต้นอยู่แบบนี้!?

    หยกราตรีโพล่งขึ้นมาพร้อมเดินเข้าไปจี้ถามใกล้ ๆ ชายหนุ่ม

    ลืมเรื่องที่ฉันเผลอไปนอนกอดเธอแล้วหรือจ๊ะถึงได้กล้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้

    ยี่ฟงเบี่ยงประเด็นออกไปอย่างรวดเร็วเพราะเขาไม่ต้องการอธิบายที่มาของตัวเองมากนัก

    ไอ้บ้า!  หยกราตรีอุทานและผลักยี่ฟงออกห่าง  เหนือฟ้า!  นายดูสิ  อีตานี่ไม่ได้มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย

    ฮ่า ฮ่า  ฉันก็แค่หยอกเธอเล่น ๆ  ขอโทษแล้วกัน

    ยี่ฟงกล่าวขึ้นยิ้ม ๆ

    นายไม่ต้องมาพูดกับฉัน!

    หยกราตรีถอยลงไปเดินกับมุกทิวาและเหนือฟ้าตามเดิม  ส่วนยี่ฟงเพียงขานรับสั้น ๆ โดยไม่คิดจะแย้งให้เป็นเรื่อง

    ไอ้ตัวแสบ  ดูเหมือนมันจะมีความลับ

    มังกรเฒ่าคิดในใจเพราะจำได้ว่ายี่ฟงมักจะเบี่ยงประเด็นทุกครั้งที่ถูกถามเรื่องนี้  ชายแก่ยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับเข้าไปจี้ถามบ้าง

    นี่ไอ้ตัวแสบ  สรุปเอ็งเก็บเลเวลไปจนถึงคลาสยอดฝีมือได้ยังไงวะ

    ไม่เห็นยากอะไรนี่ลุง  แค่อดทนเล่นไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงเอง

    ยี่ฟงเลิกคิ้วตอบกลับโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

    ถ้ามันง่ายแบบนั้นคนอื่นเขาจะแปลกใจกันหรือวะ  เป็นเพราะมันยากและแทบเป็นไปไม่ได้เลยต่างหากล่ะโว้ย!

    มังกรเฒ่าเนียนโวยวายเพื่อดึงความสนใจเพื่อนร่วมทางทุกคน

    หือ  ดูเหมือนลุงจะไม่ได้เคี้ยวง่าย ๆ ซะแล้ว

    ยี่ฟงลอบคิดในใจ  คนอื่น ๆ เองก็รอเงี่ยหูฟังกันแล้ว

    ฉันก็ไม่ได้บอกว่ามันง่ายสักหน่อยลุง  ที่ฉันไม่เปลี่ยนเป็นชุดอื่นก็เพราะชุดเริ่มต้นมันซ่อมแซมตัวเองได้  สะดวกดี

    ยี่ฟงตัดสินใจอธิบายตามที่เขาคิดจริง ๆ

    เออว่ะ!  ชุดเริ่มต้นเวลาขาดหรือเสียหายมันก็จะซ่อมแซมได้เอง  ต่างจากชุดอื่นที่ต้องเสียเงินเพื่อใช้ซ่อม

    มังกรเฒ่าเหมือนเพิ่งนึกออกซึ่งเข้าทางยี่ฟงพอดี

    เพราะงั้นแหละลุง  ไอ้ฉันมันคนจนพเนจรยากไร้  ไม่มีปัญญาสละเงินเพื่อไปซ่อมชุดที่ใส่อยู่หรอก

    อย่าเวอร์ ๆ  ไม่มีเพลเยอร์ใหม่คนไหนเขาย่ำแย่อย่างที่เอ็งว่าหรอกไอ้ตัวแสบ

    มังกรเฒ่าหลงประเด็นตามที่ยี่ฟงหวังในที่สุด  จากนั้นชายหนุ่มก็ลากซวงหลานเหอที่มัวแต่ชมทิวทัศน์เข้ามาร่วมวง  การสนทนาจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

    ตลอดการเดินทางพวกเขาได้ปะทะกับมอนสเตอร์ถี่ยิบ  ดูเหมือนว่าดอกไม้หมาป่าราตรีจะไม่แสดงผลนอกพื้นที่ป่ากลืนวิญญาณ  แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเกมแนวนี้  ยี่ฟงจึงปล่อยให้คนอื่นฟาร์มกันไปโดยไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยหากไม่จำเป็น

    กระทั่งท้องฟ้าเริ่มมืดกลุ่มของยี่ฟงก็ย้อนกลับมาจนถึงทางแยก

    พวกเราจะพักกันที่นี่ก่อนไหม  หรือจะเดินทางรวดเดียวไปจนถึงเมืองจงหยางเลยดี!?

    เหนือฟ้าเอ่ยปากถามความคิดเห็น

    ข้าว่าพวกเราเดินทางต่อเถอะ  เมืองก็อยู่ไม่ไกลแล้วดีกว่ามาเสี่ยงอยู่ที่นี่ซึ่งไม่รู้ว่าจะถูกกลุ่มไหนลอบโจมตีอีกหรือเปล่า

    มังกรเฒ่าแนะนำ

    ฉันก็เห็นด้วยกับลุง  ว่าแต่อีกทางจะนำเราไปไหนหรือ

    ยี่ฟงสนับสนุนและถามถึงเส้นทางแยกอีกสาย

    เมืองเจี้ยนหลงหรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าเมืองดาบมังกรไง  นี่เอ็งไม่รู้เรื่องจริงหรือวะ

    มังกรเฒ่าตอบและไม่พลาดที่จะแซะถามกลับไป

    จริง ๆ นอกจากเมืองดาบมังกรแล้วยังมีเมืองจิตมังกร และเมืองเศียรมังกรอยู่ด้วยนะ  ทั้งสามเมืองนี้ต่างก็มีเส้นทางสัญจรหลักเชื่อมต่อกันอยู่  มันเป็นเขตแดนยอดฝีมือซึ่งอันตรายกว่าเขตจงหยางอยู่มากทีเดียว

    เหนือฟ้าอธิบายเพิ่มเติม

    พวกเราเดินไปคุยไปเถอะ  อยู่ตรงนี้นาน ๆ เดี๋ยวจะถูกมอนสเตอร์ล้อมโจมตีเอา

    มังกรเฒ่ากล่าวเตือนขึ้น

    เมื่อไม่มีใครคัดค้าน  คนทั้งหมดจึงออกเดินทางต่อเนื่อง  ระหว่างทางยี่ฟงก็ถามเก็บข้อมูลอยู่เป็นระยะ ๆ จนมั่นใจแล้วว่าตนจะเริ่มต้นที่ไหนอย่างไรต่อจากนี้ดี

    เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป

    ยี่ฟงและกลุ่มเพื่อนก็กลับมาถึงเมืองจงหยางได้อย่างปลอดภัย  ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดมิดซึ่งถูกแต้มด้วยแสงดาว

    พวกนายแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ  เดี๋ยวฉันจะพาหลานเหอกับแม่ของนางไปส่งยังที่หนึ่งก่อน

    ยี่ฟงกล่าวกับเหนือฟ้า

    คนอื่นจะเอาไงก็ช่างแต่ข้าจะไปกับเอ็งด้วย

    มังกรเฒ่าตัดสินใจเสียงเข้ม

    ความจริงแล้วเพลเยอร์สามารถตรงไปส่งมอบภารกิจที่อาคารนักผจญภัยได้ทันที  ไม่จำเป็นต้องแยกไปรายงานกับเจ้าของภารกิจให้เสียเวลาแต่อย่างใด

    งั้นค่อยเจอกันอีกทีพรุ่งนี้เช้าแล้วกันนะ

    เหนือฟ้านัดแนะก่อนจะพาเพื่อนสาวทั้งสองตรงไปยังอาคารนักผจญภัยเป็นลำดับแรก

    ลุงแก่แล้วจะลำบากไปกับฉันทำไมกัน

    ยี่ฟงหันกลับมาถามชายแก่ยิ้ม ๆ

    อย่าตลกให้มาก  นอกเกมข้าก็ยังแข็งแรงมากพอจะไล่เตะเอ็งได้แล้วกัน

    มังกรเฒ่าสวนกลับพลางถอนหายใจคล้ายเหนื่อยอ่อน

    ยี่ฟงได้แต่อมยิ้มส่ายศีรษะ  ก่อนจะจูงมือซวงหลานเหอก้าวนำตรงไปยังที่หนึ่ง

    ว่าแต่เอ็งจะพาสองแม่ลูกไปพบหลันอี้ทำไมวะ

    มังกรเฒ่าที่ตามมาเอ่ยถาม  เพียงเห็นเส้นทางที่มุ่งไปเขาก็ทราบจุดหมายได้ทันที

    ลุงลองสังเกตสร้อยคอของหลานเหอดี ๆ สิ

    ยี่ฟงกล่าวเป็นปริศนา  ชายแก่จึงกวาดมองลงไปยังลำคอของเด็กสาว  ในขณะที่มารดาของซวงหลานเหอกล่าวแทรกขึ้นมาว่า

    ท่านเองก็ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับสร้อยเส้นนี้ด้วยหรือ

    ข้ายังไม่ทราบความเป็นมาอะไรหรอก  เพียงแต่ข้าเคยเห็นอีกครึ่งหนึ่งของลูกกุญแจที่ห้อยอยู่กับสร้อยเส้นนี้

    ยี่ฟงตอบอย่างสบาย ๆ  แต่คนอื่นเขาไม่สบายไปด้วย

    สร้อยที่ซวงหลานเหอสวมใส่อยู่นั้นมันห้อยโลหะขนาดเล็กที่ดูไม่สมบูรณ์เอาไว้  หากสังเกตดี ๆ จะทราบว่ามันมีลักษณะคล้ายลูกกุญแจ

    ไอ้ตัวแสบ!  ข้าข้าเคยเห็นมันมาก่อน

    มังกรเฒ่าเพิ่งนึกออกจึงอุทานออกมา  สองแม่ลูกเองก็กำลังมีสีหน้าตื่นตะลึงอย่างไม่อาจปกปิด

    ท่านกำลังหมายถึงอีกครึ่งหนึ่งของมรดกที่สาบสูญไปแล้วจริง ๆ หรือ

    มารดาของเด็กสาวถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหว

    ไม่รู้หรอกนะว่ามรดกที่ว่าคืออะไร  แต่ข้าจะพาพวกเจ้าไปเห็นด้วยตาตัวเองเดี๋ยวนี้ล่ะ

    ยี่ฟงกล่าวตัดบทพลางก้าวเท้าเร็วขึ้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×