ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #131 : สิ้นสุดการฝึก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.36K
      1.1K
      4 ก.ย. 61

    ชายหนุ่มสมควรตายไปแล้วหากไม่ได้ร่างอมตะช่วย  โลหิตทั่วร่างหยุดไหล  บาดแผลฉีกขาดค่อย ๆ รักษาฟื้นฟูด้วยความรวดเร็วระดับหนึ่งแม้ไม่ต้องดื่มน้ำยาเลือดของระบบเกมก็ตาม

    ฮะฮะ  สงสัยจะก้าวกระโดดมากเกินไปหน่อยยี่ฟงเอ่ยเสียงเบาหวิว  สาเหตุที่เขายังไม่หมดสตินั่นก็เพราะกระบวนท่าหน้าด้านไร้ยางอาย  ยังมีผลของร่างอมตะ  ค่าความเสียหายจึงลดทอนเบาลงไปมากเกือบจะ 20% เลยทีเดียว

    ยี่ฟงฝืนดันร่างขึ้นมานั่งพิงกับก้อนหิน  สถานะของหมัดมารเมรัยใกล้จะหมดลง  ระหว่างนี้เขาจึงนำเอาไหสุราออกมาดื่ม  พลังชีวิตและการฟื้นฟูค่อย ๆ เพิ่มประสิทธิภาพกว่าเดิม  ผ่านไปประมาณสิบห้านาที  ยี่ฟงก็ลุกมาเดินเหินได้สะดวกอีกครั้ง พลังวิชาก็คูลดาวน์กลับมาใช้ได้ใหม่แล้ว ซึ่งเขาไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าเริ่มต้นฝึกฝนต่อทันที วนลูปเดิมเฉกเช่นนี้ไปอย่างไม่รู้ตัว  สิ่งรอบข้างค่อย ๆ ถูกตัดขาด หลงเหลือเพียงตัวเองกับธารน้ำเชี่ยว กระทั่งอาจารย์เหิงตื่นจากภวังค์และเดินย้อนกลับมาใกล้บริเวณที่เขาฝึกฝนก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว ทางด้านกลุ่มเพื่อนที่ทำการทดสอบด่านประลองตัวเบาอยู่ข้างล่าง  ทยอยกันผ่านจนครบถ้วนทุกคน  เหิงอีจำต้องออกไปรับหน้า  ปล่อยให้ศิษย์ของตนพร่ำเพียรฝึกฝนต่อไปอย่างเต็มที่

    พวกเจ้าทำได้ไม่เลวเหิงอีกล่าวชมขณะยืนกอดอกอยู่บนหินสูงก้อนหนึ่ง

    ยี่ฟงหายไปไหนแล้วมังกรเฒ่าถามออกไปแทนทุกคน

    ศิษย์ของข้ากำลังปิดด่านฝึกตนเพื่อที่จะก้าวข้ามอุปสรรคทางพลังยุทธ์เหิงอีตอบและชิงกล่าวตัดบทขึ้นว่า  ข้าจะถ่ายทอดทักษะยุทธ์ไต่กำแพงให้พวกเจ้าเดี๋ยวนี้  ฉะนั้นเรื่องอื่นอย่าเพิ่งไปกล่าวถึง

    ขออภัย  พวกข้าสามคนมีทักษะการไต่กำแพงอยู่แล้วภูผาเพลิงตัดสินใจบอกกล่าว

    เช่นนั้นพวกเจ้าสามคนก็ไม่มีอะไรต้องเรียนรู้จากข้าอีกเหิงอีกล่าวเสียงเรียบพลางหันไปให้ความสนใจคนที่เหลือ

    สามมารเฒ่าไม่ถือสาเอาความ  พวกเขาแยกออกไปนั่งพักรอคอยเหล่าเด็ก ๆ กับมังกรเฒ่าบริเวณหนึ่งเงียบ ๆ กระทั่งการถ่ายทอดทักษะยุทธ์เริ่มขึ้น  ซึ่งปัจจุบันกลุ่มของยี่ฟงได้รับค่าสถานะพลังกาย +1% กับความเร็ว +1% อย่างถาวรเรียบร้อยแล้วจากการผ่านด่านประลองกำลังและด่านประลองตัวเบาแห่งนี้  ตัวละครของสามมารเฒ่าแข็งแกร่งขึ้นตามที่ยี่ฟงได้บอกไว้จริง ๆ

    กับตัวละครขั้นเทพยุทธ์นี้  เพียงค่าสถานะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  ความแตกต่างก็มหาศาลแล้ว

    หลังผ่านพ้นขั้นตอนการถ่ายทอดทักษะยุทธ์  คนทั้งสี่ก็สละเวลาอันมีค่าไปกับการฝึกฝนให้ช่ำชอง  กระทั่งพอที่จะสามารถไต่กำแพงสูงชันขึ้นไปสู่ที่ราบสูงได้สำเร็จ  ทำให้พวกเขาดำเนินแผนต่อโดยไม่จำเป็นต้องให้ยี่ฟงมาสั่งการเพิ่ม  เป้าหมายจากนี้ไปก็ไม่มีอะไรยากหรือซับซ้อน  เมื่อล่ำลาเหิงอีแล้วกลุ่มของยี่ฟงก็เดินทางข้ามสะพานขุมสมบัติไปอย่างสบาย ๆ และแทบจะบรรลุถึงเขตป้อมปราการพายุหอกที่อันตรายได้รวดเร็วกว่ากลุ่มอื่นหลายเท่าตัว

    พวกเราจะลุยเก็บค่าประสบการณ์บริเวณป้อมปราการนี้ไปจนกว่าจะถึงกำหนดการณ์ตามแผน”  ภูผาเพลิงกลายเป็นคนที่ขึ้นมาสั่งการแทนชั่วคราว

    พวกเอ็งสี่คนเป็นตัวหลัก  ส่วนพวกข้ามารเฒ่าจะคอยสนับสนุนอยู่ไม่ห่าง  ฉะนั้นไม่มีอะไรต้องกลัว”  ภูผาเพลิงอธิบายแผนการที่ยี่ฟงวางไว้อีกครั้งหนึ่งเพื่อคลายแรงกดดันให้คนในกลุ่ม

    มังกรเฒ่าพยักหน้ากล่าวตอบรับแทนพวกเหนือฟ้าไปว่า เริ่มกันเลยเถอะ

    คนทั้งเจ็ดชักอาวุธเตรียมพร้อมสู่สมรภูมิรบ  พอก้าวขาล้ำเขตแดนป้อมปราการพายุหอกไปได้เพียงครู่  เสียงแหวกอากาศดุดันก็ปรากฏ ซึ่งมันคือตัวหอกที่ถูกขว้างปาออกมาโดยฝีมือของนักรบตายซากที่ประจำการอยู่บนป้อมปราการ  ทว่าเมื่อมีสามมารเฒ่าคอยคุ้มครองระวังภัยให้  การจะฝ่าคมหอกเหล่านี้ไปก็ไม่ใช่ปัญหา

    แผนการฝึกฝนเก็บระดับเลเวลของยี่ฟงต้องใช้คำว่า ป่าเถื่อนตะกละตะกลาม จึงจะเหมาะสม  เพราะคนทั้งเจ็ดนี้กำลังจะต้องเข้าปะทะแตกหักกับทางป้อมปราการพายุหอก  ซึ่งหลังจากเคลียร์มอนสเตอร์จนว่างเปล่าแล้ว  พวกเขาต้องย้อนกลับออกมาตามแผนเพื่อให้เวลาป้อมปราการพายุหอกรีเซ็ตตัวเอง  จากนั้นค่อยเปิดฉากเข้าปะทะใหม่วนเวียนไปเรื่อย ๆ ให้ได้มากรอบที่สุด  ยี่ฟงคำนวณดูแล้ววิธีนี้จะทำให้กลุ่มของเขาเก็บค่าประสบการณ์ได้มหาศาลในเวลาอันสั้น

    ตัวแปรสำคัญในแผนนี้ที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือสามมารเฒ่า  ด้วยความแข็งแกร่งระดับ 75 จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้แก่กลุ่มได้อย่างเด็ดขาด อีกทั้งเมื่อมีเพลเยอร์ระดับสูง ศัตรูในดันเจี้ยนใต้มหานครฉางอานก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย  แต่เพดานเลเวลสูงสุดเท่าที่ดันเจี้ยนนี้จะเพิ่มขึ้นได้ก็เพียงแค่เลเวล 60 เท่านั้น  ส่งผลให้ในขณะนี้เหล่านักรบตายซากบริเวณป้อมปราการพายุหอกต่างก็แสดงพื้นฐานที่เลเวล 60

    ระดับเลเวลที่แตกต่างกับสามมารเฒ่าอยู่ถึง 15 ระดับ  นับเป็นระยะห่างที่มากถึงขนาดกลายเป็นคนละชั้น

     

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สามวัน  ในช่วงจังหวะที่กลุ่มของยี่ฟงแยกย้ายฝ่าดันเจี้ยนใต้มหานครฉางอานกันอยู่

    เมืองเศียรมังกร ตั้งอยู่บนจุดศูนย์กลางของทวีปต้าเซี่ย  เส้นทางจากเมืองต่าง ๆ ล้วนเชื่อมต่อมาถึงที่นี่ได้  หากจะกล่าวว่าเมืองดาบมังกรที่มีอาณาเขตติดกับจงหยางคือเขตแดนยอดฝีมือแล้ว เช่นนั้นเมืองเศียรมังกรก็คือเขตแดนยอดฝีมือระดับสูงที่เต็มไปด้วยเหล่าเพลเยอร์ระดับเลเวล  65  หรือสูงกว่า  พื้นที่ภายในเมืองเศียรมังกรมีขนาดกว้างใหญ่เป็นสามเท่าของทุก ๆ เมืองที่ยี่ฟงเคยผ่านมาทั้งหมด  และยังเต็มไปด้วยพรรคขนาดกลางไปถึงใหญ่ที่ปักหลักแข่งขันแย่งชิงทรัพยากรกันอย่างดุเดือดไม่เว้นแต่ละวัน

    ยามนี้สายตาเกือบทุกคู่จับจ้องมองดูอยู่ที่คนกลุ่มหนึ่ง  เกิดเสียงซุบซิบนินทาไปตลอดทางที่คนกลุ่มนี้ก้าวผ่าน  หากสังเกตบริเวณทรวงอกด้านซ้ายของพวกเขาก็จะสามารถพบเห็นตราสัญลักษณ์กิลด์ที่สังกัดได้อย่างชัดเจน  ซึ่งมันเป็นตราที่สลักเป็นรูปสามง่ามกับคลื่นทะเลคลั่ง

    กลุ่มคนที่ว่านี้เป็นศิษย์จากวังเทวาห้วงสมุทรหรือกิลด์ใหญ่อันดับสอง!

    พวกนายมาช้าชายหนุ่มใบหน้าหล่อปานเทพบุติกล่าวตำหนิเสียงเรียบ  ข้าง ๆ กายเขา  มีหญิงสาวงดงามเฉิดฉายไม่แพ้กันยืนกอดอกอยู่ด้วยสีหน้าบึ้ง  สายตาแทบไม่เหลือบมามองใครด้วยซ้ำ

    สองหนุ่มสาวคู่นี้มายืนรอพรรคพวกอยู่สักพักแล้ว

    นายมาเร็วเกินไปต่างหาก  เดชสวรรค์หนึ่งในคนที่เพิ่งมาถึงเอ่ยสวน

    เมื่อกี้แกว่ายังไงนะ!?เดชสวรรค์จ้องอีกฝ่ายเขม็งพลางถามเสียงเข้ม ชายคนนี้ก็คืออดีตเพื่อนรักของยี่ฟงเอง

    ไม่มีอะไรเพื่อน  ใจเย็น ๆ สิ  เอาเป็นว่าพวกฉันช้าเองแหละ  แต่ก็มากันแล้วนี่”  ชายคนเดิมตอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ  ไม่สะทกสะท้านหวาดหวั่นให้เห็นแม้แต่น้อย  กระทั่งสายตาเหล่ไปมองหญิงสาวแทนตามนิสัยเจ้าชู้ที่คนเขารู้ไปทั่ว

    มองอะไรของนาย?เธอขึ้นเสียงถามอย่างไม่พอใจ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ธิดาแห่งห้วงสมุทร  ตัวละครของเธอสวยไม่แพ้ตัวจริงอย่างที่คนอื่นเขาว่า

    ความจริงคำเรียกธิดาแห่งห้วงสมุทรเป็นเพียงฉายาของหญิงสาวเท่านั้น  ส่วนนามแท้จริงคือ  คมอักษร  และโลกจริงเธอก็คืออดีตแฟนเก่าของยี่ฟง

    พูดจบหรือยัง?  พวกเรากำลังจะเดินทางกันแล้วเดชสวรรค์ก้าวขึ้นมาขวางบดบังแฟนสาวเอาไว้  แววตาเหี้ยมโหดกวาดมองพรรคพวกตรงหน้า  โดยเฉพาะกับชายหนุ่มที่เอ่ยสนทนาหยอกล้อกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเสแสร้งเมื่อครู่  ซึ่งมันมีนามว่า มังกรสมุทร  หัวหน้ากองกำลังร่วมที่สาม

    เพลเยอร์กลุ่มนี้ไม่มีใครไร้ชื่อเสียงเรียงนาม  ทุกคนล้วนเข้มแข็งแกร่งกร้าว

    ปัจจุบันเซิร์ฟเวอร์ไทยยังคงมีจำนวนเพลเยอร์ที่ระดับเลเวล 70 ขึ้นไปน้อยนิดอย่างน่าเวทนา  นับรวมดูแล้วยังไม่ถึงหนึ่งร้อยดีด้วยซ้ำ  เพลเยอร์ส่วนใหญ่ระดับเลเวลจะค้างอยู่ที่ประมาณ  65 – 69  เนื่องเพราะความยากในการเก็บระดับค่าประสบการณ์

    แต่คนกลุ่มนี้ผู้ที่มีเลเวลสูงสุดก็คือมังกรสมุทร ซึ่งอยู่ที่ 75  ส่วนสมาชิกในสังกัดที่ติดตามมาด้วยเลเวลเฉลี่ย 70 – 73  ทางเดชสวรรค์นั้นเพิ่งจะทะลวงคอขวดจนขึ้นมาแตะระดับเลเวล 70 ได้ไม่นาน  และคมอักษรก็เพียงอ่อนกว่าเขาแค่หนึ่งระดับเท่านั้น

    พวกเขาทั้งเก้าคน  สามารถกล่าวได้ว่ายืนอยู่แถวหน้าของเซิร์ฟเวอร์ไทยแล้ว

    ความจริงในใจเดชสวรรค์  ไม่อยากจะร่วมทางไปกับมังกรสมุทรเท่าไรนัก แต่เพราะกฎของกิลด์  เขาจะทำอะไรจึงต้องผ่านอนุมัติจากหัวหน้ากองกำลังที่สังกัดอยู่เสียก่อน ด้วยเหตุนี้มังกรสมุทรผู้รั้งตำแหน่งหัวหน้ากองกำลังร่วมที่สามเมื่อได้ทราบว่าเดชสวรรค์กำลังจะเดินทางย้อนกลับไปยังเมืองดาบมังกร มันก็เลยขอติดสอยให้ตามมาด้วย  เป้าหมายส่วนตัวก็คือการไปลองของที่ดันเจี้ยนใหม่ใต้มหานครฉางอานซึ่งกำลังเป็นกระแสข่าวอยู่เต็มเว็บบอร์ดนั่นเอง

    ทำตัวตามสบายน่ามังกรสมุทรหัวเราะขำ  พลางก้าวเดินขึ้นไปอยู่หน้าสุด จากนั้นหันมากล่าวว่า เดินทาง! เดินทาง!  ฉันจะปกป้องทุกคนจากอันตรายให้เอง

    สิ้นสุดถ้อยคำกวนบาทา   มังกรสมุทรก็ออกเดินนำไปยังประตูเมืองทางทิศใต้ทันที   เหล่าสหายของเดชสวรรค์ต่างเดินเข้ามาตบบ่าเข้าอกเข้าใจ  และทยอยกันติดตามหัวหน้ากองกำลังไปอย่างไม่มีทางเลือก  ทิ้งให้สองหนุ่มสาวเดินรั้งอยู่ท้ายกลุ่ม

    อีกไม่นานหรอก  ฉันจะต้องยึดตำแหน่งของมันมาให้ได้เดชสวรรค์คำรามด้วยความโกรธเคือง

    ถึงวันนั้นเมื่อไร  ฉันจะใช้มันยิ่งกว่าทาสให้ดูคมอักษรกล่าวเสริมส่งอย่างอาฆาต

    เส้นทางทิศใต้ของเมืองเศียรมังกรที่กลุ่มกองกำลังจากวังเทวาห้วงสมุทรเพิ่งพากันเดินไปนั้น  เชื่อมต่อตรงไปยังเมืองดาบมังกรด้วยระยะทางที่ไกลมาก เพลเยอร์ทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าหรือหกวันในการเดินทาง แต่ทว่า  สำหรับเพลเยอร์แถวหน้ากลุ่มนี้สมควรใช้เวลาแค่สี่วันก็อาจจะบรรลุถึงแล้ว อย่างที่ทราบกันดี เส้นทางไกลสายนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีภารกิจคุ้มกันขบวนรถขนสินค้าอยู่ด้วย และนั่นคือเป้าหมายของเดชสวรรค์กับพรรคพวก  พวกเขาคิดว่าในขบวนรถขนสินค้ายามนี้ มียี่ฟงร่วมเดินทางมาด้วย ฉะนั้นหากในกรอบสายตาของพวกเขาพบเห็นเป้าหมายเมื่อใด  ย่อมกระโจนเข้าใส่เพื่อทุบทำลายอย่างดุร้ายทันทีเป็นแน่!

     

    ปัจจุบัน

    วันเวลาเดินหน้าไม่มีย้อนกลับ  กระทั่งวันครบกำหนดแผนการฝึกฝนเป็นเวลาสี่วันโลกจริงของยี่ฟงมาถึง  นั่นหมายความว่าเหลือเวลาอีกเพียงสามวัน  งานแข่งขันประจำปีก็จะเริ่มขึ้นแล้ว  จึงจะเห็นได้ว่าสื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาอีสปอร์ต  แทบจะโหมประโคมข่าวอย่างคึกครื้นบ้าคลั่งไม่เว้นแต่ละวัน  ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ที่น่าจับตามองมากที่สุดยังคงเป็นยักษ์ใหญ่เจ้าเดิมผู้ครองแชมป์ต่อเนื่องยาวนานมาถึงสามปีซ้อน  เซิร์ฟเวอร์หลักของทางประเทศจีน  ถัดมาก็คือรองแชมป์ตลอดสามปีซ้อนจากทางประเทศเกาหลี

    ทั้งโลกจริงและโลกเกมกำลังตื่นเต้นอลหม่าน  กระนั้นภายในดันเจี้ยนใต้มหานครฉางอาน  ยี่ฟงเพิ่งจะหยุดท่าร่างฝึกฝนของเขาลง  สถานะชั่วคราวที่จุดชีพจรถูกทะลวงเปิดออก  กินเวลานานเกือบจะหนึ่งวันโลกจริงเลยทีเดียว  นับเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของชายหนุ่มมากจริง ๆ  จนในที่สุดเมื่อสิบชั่วโมงก่อน  เสียงระบบก็รายงานขึ้นว่า

    เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับค่าประสบการณ์สามเท่าจากการฝึกฝนอยู่ภายในเขตแดนลมปราณประตูฟ้า  ระดับเลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 60

    เนื่องจากตัวละครยี่ฟงเข้าสู่คลาสยอดฝีมือระดับสูง  วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดจึงเลื่อนขึ้นเป็น วิชาท่องเมฆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×