ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #105 : ส่งสาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27.08K
      1.57K
      19 เม.ย. 61

    เกือบเที่ยงกลุ่มของวาดก็กลับออกมาจากศูนย์อาหาร พวกเขาใช้เวลาสนทนากันซะส่วนใหญ่จนได้รับรู้เรื่องราวของกันและกันมากขึ้น  โดยเฉพาะเก้า เท็นและสองซึ่งมีเป้ามายในชีวิตค่อนข้างชัดเจน คนทั้งสามคาดหวังจะเปิดร้านอาหารผสมผสานหลากวัฒนธรรม ถึงแม้การเดินทางทั่วโลกในยุคนี้จะสะดวกปลอดภัยและราคาถูกจับต้องได้ทุกฐานะไม่ว่ารวยหรือจน แต่การมีความคิดริเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่างไม่ถือว่าสูญเปล่า  วาดจึงรู้สึกชื่นชมพวกพี่เลี้ยงอยู่ในใจ เทียบกับตัวเองแล้วพลันห่อเหี่ยวลงถนัดตาเพราะวาดยังไม่รู้เลยจะไปเอาดีทางด้านไหน

    อัจฉริยะก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่เหมือนกัน

    ข้าจะกลับไปออนไลน์เร็วหน่อย  นัดกับแก๊งวัยชราไว้เมื่อเช้า ส่วนเรื่องความปลอดภัยเอ็งไม่ต้องห่วง รับรองข้าจะใช้ทุกอย่างเพื่อปกป้องกลุ่มของเราเต็มที่

    ลุงกรกล่าวน้ำเสียงมาดมั่น

    มีของดีอยู่ในมือแล้วก็อย่าให้เสียเปล่าล่ะลุง

    วาดตอบกลับยิ้ม ๆ แสดงความไว้วางใจ

    ลุงคิดว่าจะชักชวน สามมารเฒ่าหังโจว เข้าร่วมสมาพันธ์ได้จริง ๆ หรือครับ?

    เก้าอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้

    คำเรียกขานในตำนานแห่งเมืองหังโจวเป็นที่รู้กันไปทั่วยุทธภพ สามมารเฒ่านับเป็นกลุ่มคนเก่งฉกาจและไม่ควรเป็นศัตรูด้วยอย่างแท้จริง   แม้ประกอบด้วยจำนวนคนเพียงแค่สามกลับสร้างเรื่องเป็นที่โจษจันไปทั่วแดนดิน   สามมารเฒ่าปฏิเสธทุกคำเชื้อเชิญ ไม่มีวี่แววจะตบเท้าเข้าร่วมกับสังกัดกิลด์ใดจนมาถึงบัดนี้  ทั้งลี้ลับ  อันตราย และน่าหลงใหลเชิดชูเกียรติ

    ถึงขนาดมีประโยคหนึ่งผุดขึ้นมาว่า  สามมารเฒ่าปักหลักต้านทัพเรือนแสน

    ข่าวลือมักแต่งแต้มจินตนาการเกินจริงเสมอไปซะทุกเรื่อง  กระนั้นดันมีคนโง่หลงเชื่อเสียนี่!

    ต้องได้สิวะ  ที่ข้ามาเล่นเกมนี้ก็เพราะพวกมันสามตัวเป็นคนชวน  ถึงทีข้าชวนพวกมันบ้าง

    ลุงกรตอบโดยไม่รู้สึกกังวลอะไรนัก

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  แบบนี้ได้เปลี่ยนชื่อแก๊งเป็นสี่มารเฒ่าชัวร์ป้าบ  อย่าให้หลุดมือไปได้เชียวนะลุง

    วาดกล่าวปนหัวเราะชอบใจ  ขณะลุงกรเหล่มองไอ้ตัวแสบอย่างรู้ทันพลางตอบกลับไปว่า

    ข้ารู้นะเอ็งคิดอะไร  แต่เอาเถอะ  เพื่อความรุ่งโรจน์ของสมาพันธ์เรา  ข้าเห็นดีด้วย  ฮ่า ฮ่า

    เพื่อนคนอื่นพลันนึกสงสารผู้ที่กำลังตกเป็นเหยื่อของสองคนนี้จริง ๆ

    ถ้าลุงมั่นใจว่าจะคุมสามมารเฒ่าได้แบบนี้พวกผมก็สบายใจ เราคงไม่ได้รวมทีมกันอีกสักพัก

    เก้ากล่าวขึ้นยิ้ม ๆ

    พวกพี่จะแยกออกไปหลังจากนี้หรือคะ?

    มุกทิตาเอ่ยถามสีหน้าตกใจ  ในช่วงที่กลุ่มตัวเองมีศัตรูทั่วสารทิศ การลดจำนวนลงไม่ใช่เรื่องดี

    ติดภารกิจประจำกิลด์จ้ะน้องมุก  พวกเราคงได้เจอกันอีกทีก็งานแข่งขันประจำปีนู่นเลยมั้ง

    เท็นตอบตามตรง  ก่อนจะเป็นเก้าที่ช่วยเสริมขึ้นอย่างนึกเอ็นดู

    พี่เชื่อว่าวาดจะดึงวังฟีนิกซ์เยือกแข็งเข้าเป็นพันธมิตรได้ ยิ่งมีสามมารเฒ่าหังโจวที่ลุงกรจะพามาร่วมด้วยอีกแบบนี้ ไม่มีศัตรูหน้าไหนโง่พอจะขุดหลุมฝังตัวเองด้วยการโจมตีพวกเราแน่ ๆ

    อันที่จริงมุกทิตาไม่ได้ห่วงเรื่องความปลอดภัยแต่แรก เธอเข้าใจดีในสิ่งที่ได้ยิน เพียงแค่รู้สึกว่าการแยกจากกับเพื่อนที่เพิ่งสนิทใจคงจะทำให้กลุ่มเงียบเหงาและน่าเสียดายอยู่บ้าง

    พยายามเข้าแล้วกันนะคะ

    มุกทิตาผงกศีรษะพลางฝืนยิ้มกล่าว

    พอเอ่ยล่ำลากันเสร็จแล้วลุงกรก็เป็นคนแรกที่แยกกลับไปก่อน  ตามด้วยสามพี่เลี้ยงจนเหลือแค่นายวาดกับสองสาว

    พวกเธอล่ะ  จะกลับบ้านยังไง?

    วาดเอ่ยปากถามด้วยความหวังดี

    ฉันขับรถมาเหมือนกันค่ะ  ว่าแต่เธอจะไปกับฉันหรือเปล่าหยก

    มุกทิตาตอบและหันไปถามเพื่อนสาว

    ไม่ต้องลำบากหรอก  บ้านเธอกับฉันอยู่คนละทาง  เดี๋ยวฉันให้อีตานี่ไปส่งแทนแล้วกัน

    หยกรฐาปฏิเสธด้วยรอยยิ้มขอบคุณ  ส่งให้ชายหนุ่มถึงกับเลิกคิ้วประหลาดใจ

    เอ่อเธอแน่ใจแล้วเหรอ  ไม่ใช่ว่าไปตีกันบนรถจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาหรอกนะ?

    มุกทิตาถามยืนยันสีหน้าไม่ค่อยดียิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก  ขณะวาดผงกศีรษะเห็นด้วยยกใหญ่

    เดี๋ยวเถอะเธอนี่…!

    หยกรฐาดุเพื่อนสนิทและคิดจะตีแขนสั่งสอนสักเพียะแต่อีกฝ่ายชิงกระโดดหนีไปหารถของตัวเองพร้อมกับเสียงกรี๊ดน้อย ๆ ก่อนแล้ว

    คิดอะไรอยู่ถึงต้องการจะให้ฉันขับรถไปส่งเธอเนี่ย

    วาดถามอย่างไม่มั่นใจ  พวกเขาทั้งสองยืนมองรถของมุกทิตาค่อย ๆ วิ่งออกไปยังถนนใหญ่

    ตามที่ได้ยินแหละ  ฉันไม่อยากให้เพื่อนลำบาก  หรือนายก็จะปล่อยให้ฉันกลับเองอีกคน?

    หยกรฐาตอบและถามกลับ

    โอเค  เชิญที่รถเลยครับคุณนาย  ผมจะบริการให้อย่างดีเยี่ยม  ขับขี่ปลอดภัยไม่มีตกหลุมอากาศ

    วาดรีบวิ่งนำไปที่รถ  จากนั้นโค้งตัวพร้อมเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทางนอบน้อม

    แบบนี้ก็มากไปนะ

    หยกรฐาส่ายศีรษะยิ้ม ๆ กระทั่งยอมขึ้นไปนั่งแต่โดยดี

    เมื่อรถแล่นออกสู่ถนนใหญ่ความเงียบก็เข้าปกคลุมหนุ่มสาวทั้งสองคน วาดไม่จำเป็นต้องถามว่าบ้านเธออยู่แถวไหนเพราะช่วงทานอาหารเขาได้ทราบข้อมูลของเพื่อนทุกคนมาพอสมควรแล้ว

    ขอบใจพวกเธอมากนะที่สละเวลามา

    วาดตัดสินใจกล่าวขึ้นก่อน  ถึงแม้ความจริงแล้วคนทั้งหมดจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม  ถ้าเป็นชายหนุ่มก่อนหน้านี้บางทีเขาอาจจะพูดตรง ๆ ไปแล้วแต่การได้เข้าสังคมกับคนวัยใกล้เคียงกันทำให้วาดเริ่มเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนจะชอบใจเมื่อได้ฟังความจริงไปซะทุกเรื่อง

    เก็บไว้ไปพูดกับพวกพี่เลี้ยงและลุงกรเถอะ  ฉันไม่ใช่คนต้นคิดสักหน่อย

    แต่เธอเองก็ยอมมาด้วยเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?

    วาดสวนกลับพลางส่งเสียง หึ ส่งให้หญิงสาวคนข้าง ๆ เถียงไม่ออก

    ไว้คราวหน้าหาจังหวะเหมาะ ๆ ชวนเหนือฟ้ามาด้วยคงจะสนุกกว่านี้  เธอว่าไหม

    วาดวางแผนไปถึงอนาคตเรียบร้อยแล้วโดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่าเรื่องมันยุ่งเหยิงขนาดไหน   หยกรฐาที่มองออกไปไกลรู้สึกอึดอัดรำคาญใจขึ้นทุกที  กระทั่งเธอตัดสินใจเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น

    ทำไมนายถึงเลือกแสดงอัจฉริยภาพออกมาในวันสอบที่สถาบันเหรอ

    เธอรู้ด้วยว่าเป็นฉัน?

    วาดถามกลับยิ้ม ๆ

    ไม่รู้สิแปลก  สื่อเอาแต่ประโคมข่าวของนายข้ามวันแบบนี้

    หยกรฐาตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย  จากนั้นกล่าวต่อไปว่า

    หรือจริง ๆ แล้วนายโกงข้อสอบ  จึงไม่ได้กลับไปสอบใหม่อย่างที่หลายคนเขาต้องการ

    เธอคิดว่าไงล่ะ

    เลิกอ้อมค้อมแล้วตอบมาตรง ๆ เถอะน่า

    หยกรฐาเริ่มคาดคั้น  ส่วนวาดเผยยิ้มบาง  หลังจากไตร่ตรองดูแล้วถึงยอมเล่าให้อีกฝ่ายฟัง

    ฉันโดนเพื่อนสนิทคนเดียวกับแฟนสาวหักหลักน่ะ

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการสอบด้วยล่ะคะ?

    หยกรฐาหันไปจ้องชายหนุ่มพลางกะพริบตาและแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ วาดหัวเราะก่อนจะเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นเริ่มจากฐานะของไอ้เทพเวรตะไลกับผู้อำนวยการใหญ่สินทอง  จากนั้นเรื่องราวค่อยถูกร้อยเรียงผ่านตัวผู้เสียหายเอง  ซึ่งกระแสเสียงบางช่วงบางตอนเผยความเจ็บปวดลึก ๆ จนไม่อาจบ่งบอกบรรยายให้เข้าใจได้   หยกรฐาหุบปากเงียบปล่อยให้ชายหนุ่มระบาย  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเมินเฉยความทรงจำที่ถึงแม้มันจะเป็นการโกหกหลอกลวงก็ตาม

    นายควรจะกลับไปสอบใหม่เพื่อตอกหน้าพวกมัน!

    หลังฟังมาจนจบหยกรฐาก็ระเบิดโทสะเต็มที่

    ฉันเบื่อแล้ว  ไม่อยากเป็นข่าวด้วย

    วาดตอบกลับสั้น ๆ เล่นเอาหญิงสาวเหวอไปอึดใจหนึ่ง  แต่พอนึกได้ว่ามันเป็นคำตอบที่เรียบง่ายเกินไป  วาดจึงได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า

    คนพวกนั้นไม่ธรรมดา  อำนาจของพวกเขามากมายกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ และฉันไม่ต้องการให้พ่อกับแม่เป็นกังวลไปมากกว่านี้ด้วย เชื่อเถอะว่าการอยู่เฉยนับว่าฉลาดอย่างที่สุดแล้วในตอนนี้

    ฉันไม่เห็นด้วยหรอกนะ  การไม่ทำอะไรเลยอาจยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายลงไปอีกก็ได้

    หรือการไปแหย่เสือมาก ๆ เข้าก็จะยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายกว่าเดิมเร็วขึ้น  ใช่ไหม?

    วาดสวนกลับทันทีอีกครั้ง  ส่งให้หยกรฐาเม้มปากแน่นก่อนจะแนะนำเสียงอ่อนลงว่า

    นายควรจะบอกพ่อกับแม่  อย่างน้อยให้พวกท่านได้ตัดสินใจร่วมด้วย  ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้

    ฉันเองตั้งใจไว้แบบนั้นมาสักพักใหญ่แล้วเหมือนกัน  แต่ก็ขอบใจที่แนะนำนะ

    วาดตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม  ช่วยให้บรรยากาศค่อย ๆ ผ่อนคลายจนกลับเป็นปกติ

    แล้วนายคิดจะทำยังไงกับไอ้ลูกชายของผู้อำนวยการใหญ่นั่นล่ะ  อีกฝ่ายคงไม่เลิกราไปง่าย ๆ

    หยกรฐาเปลี่ยนไปถามเรื่องเล็ก ๆ บ้าง  การทะเลาะกันของเด็กคงไม่มีอะไรหนักหนาเท่าไร

    อย่างน้อยเธอก็คิดเช่นนั้น

    ไม่เห็นมีอะไรยาก  อีกอย่างฉันก็ตัดสินใจไปแล้วด้วย

    วาดตอบเสียงเรียบ  หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลันหรี่ตาเล็กลงและรู้สึกเสียวสันหลังวูบ

    เป้าหมายต่อไปของนายคืออะไร  อย่าลืมนะว่าตอนนี้ตัวละครยี่ฟงเลเวลค้างอยู่ที่ 57-62 เท่านั้น

    นั่นไม่เป็นปัญหาหรอก  เพราะยังมีอีกหลายวิธีจะให้ฉันใช้ทำลายพวกมันทั้งสองตัวได้

    วาดตอบขณะหยุดรถบนสี่แยกไฟแดงโล่ง ๆ  พอมีเวลาให้ละสายตาออกจากถนน  เขาก็หันไปสบตาหยกรฐาพลางกล่าวว่า

    เชื่อเถอะว่า  ต่อให้พวกมันสามารถหนีไปอยู่ใต้กิลด์ใหญ่อันดับหนึ่งของเซิร์ฟเวอร์ ฉันก็จะตามไปทำลายเส้นทางสู่อนาคตที่พวกมันคาดหวังไว้จนไม่เหลือซากได้อยู่ดี ฉันพร้อมสละเวลาเพื่อผลลัพธ์เพียงหนึ่งเดียวนั่น  ไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่ปีก็ตาม

    หยกรฐารู้สึกหวาดหวั่นในความมุ่งมั่นที่แสดงออกมาของชายหนุ่มตรงหน้า  จากน้ำเสียงและแววตาคู่นนั้นเขาคงไม่เกี่ยงวิธีการแน่ ๆ  เธอกลืนน้ำลายได้อย่างยากลำบากก่อนจะใช้ความพยายามทั้งหมดในการตอบกลับไปว่า

    ถ้านั่นคือเป้าหมายของนาย ฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ  ถ้าเป็นในโลกเกมล่ะก็ไม่ว่านายตั้งใจจะทำสิ่งใด  ฉันยินดีจะช่วยเหลือนายเอง  ซึ่งคนอื่น ๆ คงจะไม่ต่างกันนัก

    วาดหันกลับไปมองถนนอีกครั้งพร้อมเหยียบคันเร่งเมื่อไฟเขียว  กระทั่งประโยคหนึ่งดังขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนโอ๊ย

    เธอนี่  ไม่กลัวอะไรเลยจริง ๆ นะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×