คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #122 : หมู่มารอาละวาด หังโจวหวนไห้ (2)
กองกำลังหลักทั้งเจ็ดคนข้างกายเทพจำแลงเผยสีหน้าเครียดขึ้งเป็นครั้งแรก สี่คนผู้ที่เป็นคนลงมือออกกระบวนท่าวิชายุทธ์สายกระบี่เข้าจู่โจม บัดนี้ถูกแรงดีดสะท้อนจากสายพลังที่ยังเชื่อมต่ออยู่กับตัวจนได้รับบาดเจ็บกระอักโลหิตกันออกมา ร่างเซถลาไปด้านหลังคล้ายกับโดนผลักกระแทก พร้อมกันนั้น คลื่นปราณมังกรดำสายมารหนึ่งในสามระเบิดสลายไปด้วยกันกับพลังวิชาสายกระบี่เมื่อครู่ อีกสองส่วนที่ยังทรงอำนาจย่อมพุ่งทะยานเข้าโจมตีศัตรูต่อไม่เลิกรา สายฝนที่ระเหยเป็นไอตามเส้นทางเข้าปกคลุมจนทำให้ดูเหมือนปราณมังกรกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ภายใต้ม่านหมอกทะเล น่าเกรงขามและยิ่งทวีเพิ่มความอันตรายให้แก่พลังวิชาลึกสุดหยั่ง
ฝูงชนเห็นผลลัพธ์แล้วต่างพากันหวาดหวั่นผวา กลุ่มของช้างพลายเองก็กลายเป็นไม่กล้าเคลื่อนไหวลงมือตามที่คิดไว้แต่แรกอีก สีหน้าของมันเรียกได้ว่าไม่อาจบิดเบี้ยวไปได้มากกว่านี้แล้ว
แต่ช่วงเวลาการปะทะต่อสู้ทั้งหมดนี้ช่วยทำให้เทพจำแลงมันสามารถกลับมาตั้งหลักได้ในที่สุด เพลเยอร์อาวุโสเช่นมันย่อมเจนสนามไม่ใช่น้อย มองปราณมังกรดำสองสายโหมทะยานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีสติพร้อมรับมือ เมื่อเห็นว่าคงไม่ทันการณ์ถ้ามัวแต่ออกคำสั่ง เทพจำแลงจึงตัดสินใจลงมือด้วยตัวเองทันที กระบี่ในมือเปล่งประกายส่องสว่างลี้ลับขณะที่ตัวของมันก็กระโดดข้ามศีรษะคนทั้งกลุ่มกองกำลังออกไปเผชิญหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
เคล็ดกระบี่เหินหาวท่องเทวโลก : เทพจำแลงผลักฝ่ามือทิ่มแทงกระบี่ออกไป เกิดเสียงดังกระหึ่มพร้อมกับตัวกระบี่พุ่งทะยานเหินหาวเข้าปะทะฟาดฟันใส่ปราณมังกรดำสองสาย เคล็ดวิชาสายคุณธรรมเช่นกระบี่เหินหาวท่องเทวโลก และเคล็ดวิชาอื่น ๆ ในสายเดียวกันต่างเน้นไปที่การชำระล้างมิใช่ทำลาย ขณะนี้จึงจะเห็นว่าปราณมังกรดำสองสายกำลังถูกชักนำเปลี่ยนทิศให้เหินทะยานขึ้นไปบนฟ้าในแนวตั้งฉาก จากนั้นเคล็ดกระบี่เหินหาวท่องเทวโลกก็ระเบิดพลังแสงสุกสกาวที่สั่งสมไว้กระจายไปทั่วน่านฟ้า เมฆฝนบริเวณนั้นถึงกับโดนปัดเป่าพัดหายเป็นรูโหว่กว้าง ส่งผลให้ลานกว้างตะวันตกไม่มีสายฝนกระหน่ำเทลงมาอีก ซึ่งปราณมังกรดำที่เป็นสายมารย่อมไม่มีทางรอดพ้นการชำระล้าง พลังปราณมังกรดำทั้งสองจึงกำลังแตกสลายลงมาจากส่วนศีรษะจรดปลายหางกระทั่งสิ้นฤทธิ์ไปโดยไม่ทันได้ทำลายล้างสิ่งใด
ตัวกระบี่ที่เหินหาวขึ้นสูงไปบนฟ้าดีดกระเด็นย้อนกลับลงมาสู่มือเจ้าของอัตโนมัติ ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั้งแขนเพราะเคล็ดกระบี่ไม่ได้เหนือไปกว่าปราณมังกรดำเท่าไร ทั้งยังต้องรับมือพร้อมกันถึงสอง แต่เทพจำแลงก็ฝืนยันไว้ และหันมายกกระบี่ชี้ปลายคมไปเบื้องหน้าเงาร่างของเหล่าบุรุษวัยชราทั้งสามด้วยความคับข้องใจต่อการกระทำครั้งนี้แทนทุกคนโดยรอบ
“ตาเฒ่ามาร! ก่อนหน้านี้พวกเจ้าก็แส่เข้ามายุ่ง ตอนนี้ยังไม่เลิกวุ่นวายอีกงั้นรึ?”
ผู้ที่ปรากฏตัวเข้าช่วยเหลือยี่ฟงเอาไว้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามมารเฒ่าเอง การประลองวิชาชั้นสูงเมื่อครู่ดำเนินไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว แต่ก็มากพอจะให้มังกรเฒ่าเหินร่างตามลงมายืนอยู่ข้างยี่ฟงและเอ่ยทักทายกันตามประสา จนเมื่อเทพจำแลงร้องตะโกนถามหาจุดยืนของสามมารเฒ่ากลับมาอย่างไม่เป็นมิตร ทำให้ยี่ฟงพอคาดเดาออกได้ว่ามังกรเฒ่าคงไม่ได้จ่ายค่าผ่านทางมาเหมือนกันซึ่งก็น่าจะได้แก๊งเพื่อนวัยชราช่วยเหลือไว้เช่นนี้มาก่อนหน้าทีหนึ่งแล้ว
วงล้อมของเหล่าเพลเยอร์ทั่วไปยิ่งมายิ่งขยายออกกว้างขึ้น ระดับพลังฝีมือของกลุ่มคนทั้งสองฝ่ายเหนือล้ำผงาดฟ้าเกินไป ตอนนี้แทบไม่มีช่องโหว่ให้ใครสามารถสอดมือเข้าไปยุ่งได้เลยจริง ๆ
“เป็นแกเองไม่ใช่รึที่โยนความผิดมาให้พวกข้า เมืองหังโจวแห่งนี้ถูกคนนอกมองเป็นเมืองคนเถื่อนเพราะอะไร? พวกข้าไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะโว้ยที่จะอยู่เฉยให้เด็กอวดดีอย่างแกมาใส่ร้ายป้ายสีตามใจ แกลองหันไปถามดูสิ ใคร ณ ที่นี้เวลาเห็นตัวละครชายวัยชราผ่านมาที่เมืองแล้วไม่มีความคิดจะโจมตีบ้าง…การคงอยู่ของสามมารเฒ่าไม่เกี่ยวข้อง แต่เป็นเพราะพวกแกทุกคนเองต่างหากที่พาลหาเรื่องไปทั่วไม่รู้จบ” ตาเฒ่าภูผาเพลิงตอบโต้กลับเสียงแข็งปนสั่งสอน
“วันนี้พวกข้าจะเฆี่ยนตีเสียให้หลาบจำ!” เฒ่าทารกตะคอกอย่างดุดันจนเพลเยอร์หลายคนสะดุ้งเฮือก
“พวกเอ็งตัดสินว่าเป็นเพราะตัวตนของสามมารเฒ่าทำให้หังโจวมีชื่อเสีย ดี! หลังจากนี้พวกข้าขอตัดขาดกับเมืองบัดซบนี่ ก่อนจากลาก็ขอได้อาละวาดให้สมกับที่พวกเอ็งพยายามยัดเยียดฐานะมารร้ายซะหน่อยแล้วกัน” มารตะกละหาช่องกล่าวผสมโรงขึ้นมาเสียงดังสนั่น ทว่าใจความที่เรียบเรียงได้ส่งผลให้เหล่าเพลเยอร์โดยรอบรวมถึงกองกำลังจากพรรคพญายักษาตื่นตระหนกขวัญผวา
“พะ…พวกเจ้าคิดจะทำอะไร!?” เทพจำแลงรีบถามจนลิ้นพัน
สามมารเฒ่าไม่ใคร่จะใส่ใจคำถามของอีกฝ่าย พวกเขาหันกลับไปมองชายหนุ่มนามยี่ฟงกันแล้วด้วยซ้ำ เหล่าสมุนกองกำลังหลักส่วนตัวของเทพจำแลงรู้สึกไม่พอใจ ฉะนั้นเจ้าตัวอย่างมันเองย่อมต้องรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า
“เฮอะ! นับว่าเด็กอย่างเอ็งพอมีดีอยู่บ้าง สนใจอยากจะลองอาละวาดไปพร้อมหมู่มารดูสักหน่อยไหม” เฒ่าทารกเอ่ยชักชวนขึ้นก่อนด้วยสีหน้าแววตาไม่คาดหวัง
“ถ้ามันช่วยให้พวกตาเฒ่าเกเรมาเข้าร่วมกับสมาพันธ์ของฉันได้ล่ะก็นะ…” ยี่ฟงหยั่งเชิงกลับไปอย่างไม่รีบร้อนแม้สถานการณ์จะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ แล้วก็ตาม
“เฮ้ย ๆ พูดจาดี ๆ หน่อย ใครกันตาเฒ่าเกเรที่เอ็งกำลังกล่าวหา?” ภูผาเพลิงใช้สายตาดุ ๆ จ้องกลับมา เขาที่องอาจผ่าเผยย่อมไม่ชอบถูกว่าร้ายไปในทางเสียหายมากกว่าใครเพื่อน
“เอาเป็นว่าฉันตกลง มาลองดูกันว่าสามมารเฒ่าจะมีดีสมกับฐานะหรูหราใหญ่โตแค่ไหน” ยี่ฟงขณะนี้ทำเหมือนหูหนวกตาบอด ไม่รับรู้ถึงความเกรี้ยวกราดของตาเฒ่าภูผาเพลิงตรงหน้าสักนิด ยังมีมังกรเฒ่าคอยหัวเราะขบขันอยู่ข้าง ๆ เสริมส่งอีกแรง
สามมารเฒ่าแทบจะควันออกหู โดนเด็กหนุ่มยั่วยุท้าทายระยะเผาขนขนาดนี้แต่ทำอะไรไม่ได้ กระนั้นภูผาเพลิงก็ไม่ปิดปากเงียบยอมแพ้ไปเฉย ๆ จึงได้กล่าวขึ้นว่า “อย่าตายไปก่อนซะล่ะ ถ้าเอ็งโชว์กากจนพวกข้ารับไม่ไหวก็เลิกพูดถึงเรื่องดึงตัวไปได้เลย แค่เสนอหน้ามาก็ไม่ต้อง”
ระหว่างที่สามมารเฒ่ากำลังข่มขู่ชายหนุ่มอยู่นั้น ทางฝั่งเทพจำแลงก็ได้ออกคำสั่งเรียกระดมพลครั้งใหญ่ไปแล้ว ส่วนเหล่าเพลเยอร์ทั่วไป ตอนแรกคิดจะถอยห่างไม่ยุ่งเกี่ยว ทว่าพอเห็นท่าทางไม่ยี่หระของสามมารเฒ่าก็เหมือนถูกกระตุ้นไฟโทสะขึ้นมาปัจจุบันทันด่วน ในหัวไม่คิดอะไรมากอีก สำหรับพวกเขาสถานการณ์เลวร้ายที่สุดก็แค่ตายสักครั้งเท่านั้น แต่จากคำกล่าวของสามมารเฒ่าเมื่อครู่บ่งบอกชัดเจนว่ากำลังคิดจะลงมืออาละวาดใส่เมืองหังโจว ทั้งยังต้องการตัดขาดสัมพันธ์ต่อเมืองเมืองนี้ หรือนี่หมายความว่าสามมารเฒ่าคิดจะตีจากไปทันทีหลังมอบหายนะให้แก่เมืองหังโจวแล้ว?
มองเห็นประมุขพรรคพญายักษาเรียกระดมพลใหญ่โตมุ่งตรงมาที่นี่ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ฝูงชนที่ล้อมมุงมาสักพักใหญ่พลันนึกขึ้นได้ถึงเรื่องราวอันแสบเจ็บปวดที่ประสบพบเจอมาจนถึงขั้นฝังใจ ต้นตอแห่งความชั่วร้ายสามมารเฒ่า! ความเสียหายตลอดสองปีเศษที่ทุกคนได้รับ ทั้งการปล้นชิงเข่นฆ่าสังหาร พื้นที่เก็บเกี่ยวทรัพยากรก็โดนสามมารเฒ่าฉกฉวยแก่งแย่งเอาไป!
และทุกครั้งเมื่อตาเฒ่าพวกนี้ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้วยังอ้างว่า พวกข้าตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทางสายมารที่ยากลำบาก มีเหตุผลอะไรให้ต้องประพฤติตัวดีอยู่ในกรอบ? ไม่ว่าจะปล้นชิงหรือเข่นฆ่าสังหารผู้ใดล้วนถูกต้องตามกฎของเกม เพียงแค่สามมารเฒ่าโดดเด่นสะดุดตามากกว่ามารตนอื่น ดึงดูดเหล่าเพลเยอร์มือปราบและจอมยุทธ์คุณธรรมเข้าหาไม่สิ้นสุด
…แต่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจกดข่มพวกข้าได้ นานวันเข้าย่อมก่อให้เกิดพลังงานด้านลบไปทั่ว
ทุกคนโกรธแค้นชิงชังสามมารเฒ่า แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยกระทืบคนกลุ่มนี้ให้สาแก่ใจได้แม้แต่ครั้งเดียว ถึงที่สุดแล้วความอัดอั้นตันใจต้องปะทุออกมาอย่างไม่อาจยับยั้ง เฉกเช่นในเวลานี้ ฝูงชนหายใจรุนแรง หน้าอกสะท้อนขึ้นลงถี่ระรัวเพราะตื่นเต้นยินดีที่จะได้เข้าร่วมจัดการปิดตำนานสามมารเฒ่าหังโจว! ความเคียดแค้นผูกใจเจ็บที่พวกเขากักเก็บมานานปีกำลังจะได้ปลดปล่อยระบายออกแล้วจริง ๆ
แม้ตัวตนของเพลเยอร์ทั่ว ๆ ไปจะเป็นแค่ตัวตนเล็กจ้อยไม่ต่างไปจากเศษดินกรวดทรายข้างทาง แต่หากได้รวบรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก็ยังสามารถขัดแข้งขัดขาสร้างความลำบากให้ยอดฝีมือหรือนักสู้ได้เหมือนกัน
ไม่มีเหตุผลที่ชาวเมืองหังโจวจะปล่อยให้สามมารเฒ่าอาละวาดได้ตามใจ จนกระทั่งพวกเขาจากไปอย่างผู้ชนะในท้ายสุด ณ ขณะนี้สมควรเป็นนิมิตหมายอันดีแล้วที่ทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจทำลายล้างต้นตอแห่งความชั่วร้ายเสียให้สิ้นซาก ลุกขึ้นเป็นฝ่ายขับไล่ไสส่งสามมารเฒ่าออกไปแทน!
…
ลานกว้างตะวันตกภายเมืองหังโจว จู่ ๆ กระแสพลังจำนวนมากมายมหาศาลพลันปะทุระเบิดออก ผู้ที่เลเวลแตะหกสิบปลดปล่อยจิตสังหารด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านดุดัน ถึงขนาดทำให้บรรยากาศโดยรวมกดดันหนักหน่วงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าทวี ลานกว้างที่มีไว้จัดแสดงโชว์บัดนี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสนามรบคุกรุ่นไอฆ่าฟันสังหารไปทุกอณู แต่เป้าหมายของจิตอาฆาตแค้นและชิงชังสุดหัวใจนี้กลับกองรวมกันอยู่ที่จุดเดียวกันทั้งหมด บีบให้สามมารเฒ่าและพวกยี่ฟงต้องตื่นตัวเต็มที่ ขนแขนลุกตั้งชันเป็นครั้งแรก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดจะจัดงานเลี้ยงส่งพวกข้ากันด้วยวิธีนี้หรือไง ไม่เห็นต้องลำบากเลย” เฒ่าทารกหมุนคอไปพร้อม ๆ กับสะบัดข้อต่อตามร่างกายจนเกิดเสียงกระดูกลั่น
“พูดตามตรงข้าเซอร์ไพรส์มากจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าพวกลูกหมูลูกหมาจะกล้าเหิมเกริมต่อหน้ามังกรกันได้ขนาดนี้” ภูผาเพลิงยืดอกเชิดหน้าด้วยรอยยิ้ม เขายืนตรงเผชิญหน้าต่อขุมกำลังแทบทุกภาคส่วนภายในเมืองหังโจวโดยไม่แสดงอาการหวั่นไหวขลาดกลัวให้เห็นสักเศษเสี้ยว
บัดนี้ไม่ใช่เพียงพรรคพญายักษาเท่านั้นแล้วที่เรียกระดมพล สำนักทุกสำนัก พรรคทุกพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มเพลเยอร์ออนไลน์ทั่วไปก็เคลื่อนไหวใหญ่โตอย่างไม่น้อยหน้า เพื่อนใครที่ยังออฟไลน์ไม่ได้อยู่ในเกมเวลานี้ พวกเขาล้วนถูกสั่งให้ออกไปตามกลับมาออนไลน์กันอย่างเอิกเกริกบ้าคลั่ง นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าคนทุกคนให้การยอมรับพลังฝีมือของสามมารเฒ่ามากมายเพียงไร
ทว่าที่นี่เวลานี้ยังคงมีมังกรซ่อนเหลืออยู่ด้วยอีกหนึ่งและก็กำลังจะผงาดค้ำฟ้าขึ้นมาก่อนพวกอย่างไม่คิดจะเอ่ยถามไถ่ใด ๆ ทั้งสิ้น!
ยี่ฟง ชายหนุ่มผู้ที่หยัดยืนมั่นอยู่ข้างหลังสามมารเฒ่า ขณะนี้ได้พึมพำออกมาห้าคำว่า “วิหคอหังการ”
ความคิดเห็น