ศิษย์น้องหญิง - นิยาย ศิษย์น้องหญิง : Dek-D.com - Writer
×

    ศิษย์น้องหญิง

    ซูเหมยถูกเพื่อนซี้สุดเลิฟชวนไปทำงานอาสาแต่กลับเกิดเหตุการณ์ดินถล่มขึ้นแต่พอเธอรู้สึกตัวกลับพบว่าตัวเองมาโพล่ในยุคโบราณแต่รอบตัวยังเต็มไปด้วยศพซูเหมยต้องเอาตัวรอดในที่ๆเต็มไปด้วยผู้ยอดยุทย์อย่างไร

    ผู้เข้าชมรวม

    116

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    30

    ผู้เข้าชมรวม


    116

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ย. 67 / 11:14 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ท่ามกลางธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ยืนต้นตั้งตระหง่าน สายลมพัดอ่อนๆ คณะแพทย์อาสาออกเดินทางจากโรงพยาบาลมาเยือนยังชนบทหลังเขาที่การแพทย์ยังเข้ามาไม่ถึง

    ซูเหมย ทิ้งตัวลงนั่งถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยขณะที่รับน้ำจากเพื่อนร่วมชะตากรรมที่ส่งให้ดื่ม หมู่บ้านเป้าหมายของเธอต้องเดินขึ้นเขาไปราวๆ หกกิโลแต่หกกิโลคือการเดินไปตามทางลาดชัน

    "ขอบใจน่ะอาลี่"

    ซูเหมยกล่าวพลางส่งขวดน้ำกลับไปให้เพื่อนสนิทที่สภาพไม่ต่างกัน คนที่ถูกเรียกว่าอาลี่รับขวดน้ำมาก่อนจะดื่มเข้าไปอย่างกระหายเช่นกัน

    "เฮ้ออออ เมื่อไรเราจะถึงสักทีน่ะเดินกันมาเกือบสามชั่วโมงแล้วน่ะ"

    อาลี่ดื่มน้ำเสร็จก็บ่นอุบอิบอย่างเหนื่อยหน่าย หันไปพยักพเยิดให้ซูเหมยหันไปมองเพื่อนผู้ชายอีกสามสี่คนที่ลงไปนอนแผ่หลาดูอาการหนักกว่าพวกเธอเสียอีก ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข



    กว่าจะถึงหมู่บ้านเวลาก็ย่างเข้าช่วงเย็นแล้ว ชาวบ้านออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่นมีงานเลี้ยงต้อนรับอย่างดี จนหลังจากวันนั้น คณะจิตอาสาที่มาช่วยซ่อมแซมโรงเรียน และช่วยนำข้าวของมาบริจาค นอกจากนี้เวลาว่างยังไปช่วยชาวบ้านเก็บสมุนไพรและเรียนรู้ศาสตร์พื้นบ้านที่ชาวเมืองหลงลืมไป

    เด็กๆที่หมู่บ้านที่นี่มีแค่ไม่กี่คนแต่เด็กๆทุกคนน่ารักกันมาก ทุกคนต่างสนใจสิ่งต่างๆที่พวกซูเหมยทำ

    ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งมาถึงวันสุดท้านที่คณะจิตอาสาจะอยู่ในหมู่บ้าน 

    ท้องฟ้ามืดครึ้มฝนตกปรอยๆไม่นับว่าหนักอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าคณะจึงตัดสินใจจะลงเขาในวันนั้นโดยไม่ใส่ใจคำแนะนำของชาวบ้านที่กลัวว่าหากฝนตกหนังกว่านี้จะอันตราย 

    "หัวหน้านี่น่ะแทนที่จะรอวันพรุ่งนี้ก่อนค่อยกลับก็ได้แท้ๆ ถ้าฝนเกิดตกหนักกว่านี้เวลาเดินลงเขาอันตรายจะตาย"

    อาลี่บ่นอย่างรำคาญพลางก็เก็บกระเป๋าไปด้วย

    "อย่างน้อยๆ ก็น่าจะรอจนฝนหยุด"

    "เอาน่าอาลี่ฉันก็อาจารย์เขาเป็นหมอฉันได้ยินมาจากเพื่อนที่เป็นแพทย์อาสาว่าพรุ่งนี้อาจารย์เขาติดเคสผ่าตัด ถ้าไม่กลับวันนี้พรุ่งนี้อาจารย์อาจไปผ่าตัดไม่ทัน"

    ซูเหมยพูดยิ้มๆ พลางส่ายหัวให้กับความใจร้อนง่ายของเพื่อนสาว

    "เฮ้ออออออ เอาเถอะถ้าติดเคสคนไข้ก็ว่าอะไรไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเป็นหมอกันล่ะ"

    "สมกับเป็นเพื่อนฉัน คุณหมอลี่"

    ซูเหมยเห็นเพื่อนสาวอารมณ์เย็นลง ก็พูดจาด้วยน้ำเสียงล้อเลียนอย่างสนุกสนานก่อนจะโดนอาลี่หยิกแก้มอย่างหมั่นไส้พลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน คณะจิตอาสานี้เป็นการรวมเอาเด็กจากหลายๆคณะมารวมกันตั้งเป็นคณะจิตอาสาโดยมีแกนนำเป็นอาจารย์จากคณะแพทย์ จนกระทั่งถึงเวลาเรียกรวมตัวแล้วคณะอาสาก็มารวมกันก่อนบอกลาชาวบ้านและออกเดินทางเมื่อออกเดินไปได้ครึ่งทางฝนที่เคยตกปรอยๆ ก็ค่อยๆ หนักขึ้นการเดินก็ค่อนข้างลำบาก ซูเหมยได้ยินอาลี่บ่นอุบอิบตลอดทางแต่เธอทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากตั้งสมาธิกับการเดิน จนกระทั่งเธอได้ยินใครบางคนตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนก

    "ดินถล่ม! ดินกำลังจะถล่มรีบวิ่งเร็ว!"

    ซูเหมยจำได้ว่านี่เป็นเสียงของอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าคณะ ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงเศษดินเศษหินที่ร่วงลงมาไวเท่าความคิดซูเหมยรีบคว้ามือของอาลี่ที่ยืนตะลึงค้างให้วิ่งไปตามเพื่อนๆในคณะ แต่วิ่งยังไม่ทันจะพ้นซูเหมยเหลือบไปเห็นว่าดินเริ่มถล่มแล้วและถ้าวิ่งแบบนี้บางทีอาจหนีไม่พ้นซูเหมยจึงตัดสินใจพลักเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของเธออย่างสุดแรงเพื่อให้หลบพ้นรัศมีของจุดที่ดินถล่มหนักที่สุดแม้จะหลบไม่พ้นแต่เธอก็หวังว่าอย่างน้อยเพื่อนของเธอจะมีชีวิตรอดกลับไป

    "ซูเหมย!"

    อาลี่ตะโกนอย่างสุดเสียง ภาพซูเหมยที่พลักเธออย่างสุดแรงเพื่อให้ปลอดภัยจากดินถล่มมากที่สุด ภาพที่เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต ซูเหมยที่กำลังจะถูกดินถล่มใส่ หน้าตาน่ารักที่มักมีรอยยิ้มสดใสและสู้ชีวิตเสมอมากับแสดงสีหน้าโล่งใจ และรอยยิ้มที่แสดงถึงความยินดีพร้อมคำพูดสุดท้าย ก่อนที่ดินจะถล่มลงมาฝังร่างซูเหมยไปตลอดกาล

    "อาลี่เป็นหมอที่ดีให้ได้น่ะ"

    อาลี่ที่หลบมาจากรัศมีดินถล่มได้อย่างทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงและสติที่มีปลิดปลิวหายไปเธอทำได้แค่นั่งแข็งค้างอยู่แบบนั้น ก่อนที่เพื่อนร่วมคณะจะเข้ามาช่วยพยุงจึงทำให้สติของอาลี่กลับมา ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง

    เพื่อนสาวที่เติบโตมาพร้อมกับเธอ

    เพื่อนที่ถึงจะเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็สู้ชีวิตจนสามารถเรียนจบแพทย์ตามที่ฝันได้

    เพื่อนที่คอยเตือนสติเธอเสมอเมื่อใจร้อน

    เพื่อนที่คอยปลอบใจเวลาเธอเศร้า

    เพื่อนที่คอยเป็นห่วงเธอเสมอ

    ซูเหมยที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอตายแล้ว

    "ไม่...ไม่จริงซูเหมย.....ซูเหมย!.....เธออยู่ที่ไหน!"

    อาลี่รีบพุ่งตัวไปยังบริเวณที่เห็นซูเหมยเป็นครั้งสุดท้ายแต่โชคดีที่เพื่อนร่วมคณะเข้ามาจับเอาไว้ก่อนเนื่องจากยังมีเศษดินร่วงลงมาอยู่ จนกระทั่งหัวหน้าคณะเดินมาเรียกสติของอาลี่

    "คุณลี่คุณใจเย็นๆก่อน! ตอนนี้เราต้องรีบลงเขาไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บางทีคุณซูอาจจะรอด!"

    "อาจจะหรอ! ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าดึงดันจะพาพวกเราลงจากเขาพวกเราก็จะไม่เจอดินถล่ม! ซูเหมยก็จะไม่ตาย!"

    ทุกคนพากันตกตะลึงกับคำพูดของอาลี่ ก่อนที่อาลี่จะทรุดลงไปนั่งกับพื้นก่อนกุมหน้าปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บปวด

    "ไม่สิ....ถ...ถ้าไม่ใช่เพราะฉันซูเหมยก็อาจจะหนีทัน.....ทุกอย่างเป็นเพราะฉัน....ซูเหมยฉันขอโทษ!...ฉันขอโทษซูเหมยฮืออออออออออออ"






    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น