ท่ามกลางธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ยืนต้นตั้งตระหง่าน สายลมพัดอ่อนๆ คณะแพทย์อาสาออกเดินทางจากโรงพยาบาลมาเยือนยังชนบทหลังเขาที่การแพทย์ยังเข้ามาไม่ถึง
ซูเหมย ทิ้งตัวลงนั่งถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยขณะที่รับน้ำจากเพื่อนร่วมชะตากรรมที่ส่งให้ดื่ม หมู่บ้านเป้าหมายของเธอต้องเดินขึ้นเขาไปราวๆ หกกิโลแต่หกกิโลคือการเดินไปตามทางลาดชัน
"ขอบใจน่ะอาลี่"
ซูเหมยกล่าวพลางส่งขวดน้ำกลับไปให้เพื่อนสนิทที่สภาพไม่ต่างกัน คนที่ถูกเรียกว่าอาลี่รับขวดน้ำมาก่อนจะดื่มเข้าไปอย่างกระหายเช่นกัน
"เฮ้ออออ เมื่อไรเราจะถึงสักทีน่ะเดินกันมาเกือบสามชั่วโมงแล้วน่ะ"
อาลี่ดื่มน้ำเสร็จก็บ่นอุบอิบอย่างเหนื่อยหน่าย หันไปพยักพเยิดให้ซูเหมยหันไปมองเพื่อนผู้ชายอีกสามสี่คนที่ลงไปนอนแผ่หลาดูอาการหนักกว่าพวกเธอเสียอีก ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
กว่าจะถึงหมู่บ้านเวลาก็ย่างเข้าช่วงเย็นแล้ว ชาวบ้านออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่นมีงานเลี้ยงต้อนรับอย่างดี จนหลังจากวันนั้น คณะจิตอาสาที่มาช่วยซ่อมแซมโรงเรียน และช่วยนำข้าวของมาบริจาค นอกจากนี้เวลาว่างยังไปช่วยชาวบ้านเก็บสมุนไพรและเรียนรู้ศาสตร์พื้นบ้านที่ชาวเมืองหลงลืมไป
เด็กๆที่หมู่บ้านที่นี่มีแค่ไม่กี่คนแต่เด็กๆทุกคนน่ารักกันมาก ทุกคนต่างสนใจสิ่งต่างๆที่พวกซูเหมยทำ
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งมาถึงวันสุดท้านที่คณะจิตอาสาจะอยู่ในหมู่บ้าน
ท้องฟ้ามืดครึ้มฝนตกปรอยๆไม่นับว่าหนักอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าคณะจึงตัดสินใจจะลงเขาในวันนั้นโดยไม่ใส่ใจคำแนะนำของชาวบ้านที่กลัวว่าหากฝนตกหนังกว่านี้จะอันตราย
"หัวหน้านี่น่ะแทนที่จะรอวันพรุ่งนี้ก่อนค่อยกลับก็ได้แท้ๆ ถ้าฝนเกิดตกหนักกว่านี้เวลาเดินลงเขาอันตรายจะตาย"
อาลี่บ่นอย่างรำคาญพลางก็เก็บกระเป๋าไปด้วย
"อย่างน้อยๆ ก็น่าจะรอจนฝนหยุด"
"เอาน่าอาลี่ฉันก็อาจารย์เขาเป็นหมอฉันได้ยินมาจากเพื่อนที่เป็นแพทย์อาสาว่าพรุ่งนี้อาจารย์เขาติดเคสผ่าตัด ถ้าไม่กลับวันนี้พรุ่งนี้อาจารย์อาจไปผ่าตัดไม่ทัน"
ซูเหมยพูดยิ้มๆ พลางส่ายหัวให้กับความใจร้อนง่ายของเพื่อนสาว
"เฮ้ออออออ เอาเถอะถ้าติดเคสคนไข้ก็ว่าอะไรไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเป็นหมอกันล่ะ"
"สมกับเป็นเพื่อนฉัน คุณหมอลี่"
ซูเหมยเห็นเพื่อนสาวอารมณ์เย็นลง ก็พูดจาด้วยน้ำเสียงล้อเลียนอย่างสนุกสนานก่อนจะโดนอาลี่หยิกแก้มอย่างหมั่นไส้พลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน คณะจิตอาสานี้เป็นการรวมเอาเด็กจากหลายๆคณะมารวมกันตั้งเป็นคณะจิตอาสาโดยมีแกนนำเป็นอาจารย์จากคณะแพทย์ จนกระทั่งถึงเวลาเรียกรวมตัวแล้วคณะอาสาก็มารวมกันก่อนบอกลาชาวบ้านและออกเดินทางเมื่อออกเดินไปได้ครึ่งทางฝนที่เคยตกปรอยๆ ก็ค่อยๆ หนักขึ้นการเดินก็ค่อนข้างลำบาก ซูเหมยได้ยินอาลี่บ่นอุบอิบตลอดทางแต่เธอทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากตั้งสมาธิกับการเดิน จนกระทั่งเธอได้ยินใครบางคนตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนก
"ดินถล่ม! ดินกำลังจะถล่มรีบวิ่งเร็ว!"
ซูเหมยจำได้ว่านี่เป็นเสียงของอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าคณะ ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงเศษดินเศษหินที่ร่วงลงมาไวเท่าความคิดซูเหมยรีบคว้ามือของอาลี่ที่ยืนตะลึงค้างให้วิ่งไปตามเพื่อนๆในคณะ แต่วิ่งยังไม่ทันจะพ้นซูเหมยเหลือบไปเห็นว่าดินเริ่มถล่มแล้วและถ้าวิ่งแบบนี้บางทีอาจหนีไม่พ้นซูเหมยจึงตัดสินใจพลักเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของเธออย่างสุดแรงเพื่อให้หลบพ้นรัศมีของจุดที่ดินถล่มหนักที่สุดแม้จะหลบไม่พ้นแต่เธอก็หวังว่าอย่างน้อยเพื่อนของเธอจะมีชีวิตรอดกลับไป
"ซูเหมย!"
อาลี่ตะโกนอย่างสุดเสียง ภาพซูเหมยที่พลักเธออย่างสุดแรงเพื่อให้ปลอดภัยจากดินถล่มมากที่สุด ภาพที่เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต ซูเหมยที่กำลังจะถูกดินถล่มใส่ หน้าตาน่ารักที่มักมีรอยยิ้มสดใสและสู้ชีวิตเสมอมากับแสดงสีหน้าโล่งใจ และรอยยิ้มที่แสดงถึงความยินดีพร้อมคำพูดสุดท้าย ก่อนที่ดินจะถล่มลงมาฝังร่างซูเหมยไปตลอดกาล
"อาลี่เป็นหมอที่ดีให้ได้น่ะ"
อาลี่ที่หลบมาจากรัศมีดินถล่มได้อย่างทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงและสติที่มีปลิดปลิวหายไปเธอทำได้แค่นั่งแข็งค้างอยู่แบบนั้น ก่อนที่เพื่อนร่วมคณะจะเข้ามาช่วยพยุงจึงทำให้สติของอาลี่กลับมา ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เพื่อนสาวที่เติบโตมาพร้อมกับเธอ
เพื่อนที่ถึงจะเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็สู้ชีวิตจนสามารถเรียนจบแพทย์ตามที่ฝันได้
เพื่อนที่คอยเตือนสติเธอเสมอเมื่อใจร้อน
เพื่อนที่คอยปลอบใจเวลาเธอเศร้า
เพื่อนที่คอยเป็นห่วงเธอเสมอ
ซูเหมยที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอตายแล้ว
"ไม่...ไม่จริงซูเหมย.....ซูเหมย!.....เธออยู่ที่ไหน!"
อาลี่รีบพุ่งตัวไปยังบริเวณที่เห็นซูเหมยเป็นครั้งสุดท้ายแต่โชคดีที่เพื่อนร่วมคณะเข้ามาจับเอาไว้ก่อนเนื่องจากยังมีเศษดินร่วงลงมาอยู่ จนกระทั่งหัวหน้าคณะเดินมาเรียกสติของอาลี่
"คุณลี่คุณใจเย็นๆก่อน! ตอนนี้เราต้องรีบลงเขาไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บางทีคุณซูอาจจะรอด!"
"อาจจะหรอ! ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าดึงดันจะพาพวกเราลงจากเขาพวกเราก็จะไม่เจอดินถล่ม! ซูเหมยก็จะไม่ตาย!"
ทุกคนพากันตกตะลึงกับคำพูดของอาลี่ ก่อนที่อาลี่จะทรุดลงไปนั่งกับพื้นก่อนกุมหน้าปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บปวด
"ไม่สิ....ถ...ถ้าไม่ใช่เพราะฉันซูเหมยก็อาจจะหนีทัน.....ทุกอย่างเป็นเพราะฉัน....ซูเหมยฉันขอโทษ!...ฉันขอโทษซูเหมยฮืออออออออออออ"
ความคิดเห็น