ช่วงสุดท้ายของชีวิตในมหาลัย
ชีวิตของฉันช่วงสุดท้ายของการเรียนมหาลัย อาจมีบางคนที่สมน้ำหน้าที่จุดจบของฉันมันไม่เลิศเลอ....
ผู้เข้าชมรวม
744
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ชีวิตของฉันหลังจากขึ้นปี3 มันไม่รู้จาอธิบายแบบไหน
อาจจะมีบางคนที่สมน้ำหน้า ที่ฉันเลือกกระทำเองชีวิตถึงเละเทะ
แต่ฉันไม่โทษใครหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนอ่อนไหวง่ายเกินไป
ใจอ่อน เลยทำให้อนาคตของฉันมันพังทะลายลงต่อหน้าต่อตา
ที่ฉันเขียนก็ไม่ได้หวังอะไรนักหรอก แค่ให้คนที่เข้ามาอ่าน
ได้รู้ว่ายังมีชีวิตที่อยู่ในซอกหนึ่งของสังคม ผิดผลาดแยะมาก
ทำให้ครอบครัวระสำระสาย โดยที่ตัวผู้กระทำไม่รับรู้ว่าทำอะไรลงไปมั่ง
หลงระเริงไปกับสิ่งมายา จอมปลอม ถึงแม้ฉันจะมีพร้อมทุกอย่าง
อยากได้อะไรก็ได้ ไม่ต้องดิ้นรนไขว่ขว้าเลย ไม่รู้จักความลำบาก
ซึ่งคงมีอีกหลายคนที่ตรงข้ามกับฉัน แต่เขากลับได้ดี มีอนาคต
หลังจากฉันขึ้นปี3 ฉันคิดมากขึ้นเรื่องเรียนว่าจะทำอย่างไร
กับปันหาที่เกิดขึ้น ความรู้ที่ลุ่มๆดอนๆ เพื่อนแนะนำให้คนอื่นทำงานส่งให้
โดยใช้ชื่อฉัน ฉันไม่เอา มันเหมือนโกหกทุกคนและตัวฉันเองด้วย
จบมาแบบไม่เป็นเลยในวิชาที่เรียนจบมา น่าละอายมากกว่า
ฉันตัดสินใจเข้าหาแม่ ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าฉันจะทำแบบนี้ได้ แม่..งงๆ
ที่ฉันขอคุยกับแม่ แบบเป็นเรื่องเป็นราว แม่เงียบมาก สงบมาก
ขณะฟังฉันพูด แม่ฟังฉันพูดโดยไม่โต้แย้ง พอฉันพูดจบ
ในตอนนั้นฉันเหมือนยกสิ่งที่หนักในอกออกไปได้ มันเบาจริงๆ
แต่ที่ฉันไม่รู้คือมันไปหนักที่อกแม่แทน แต่แม่ของฉัน ฉันยอมรับ
แกร่งมาก ไม่แสดงออกถึงความเจ็บปวด ช้ำใจเลย แม่นิ่งมาก
ฉันอ่านใจของแม่ไม่ออกในตอนนั้น แม่พูดออกมาว่าถ้ามันไปไม่ไหว
ก็หยุด จะดันทุรังไปให้เสียเวลาทำไม ฉันยังไม่เข้าใจที่แม่พูด
แม่ขยายความว่าให้ฉันเลิกเรียนที่มหาลัยนี้ และให้ฉันไปหาประสบการณ์
ชีวิตด้วยตัวเอง ตอนแรกฉันเข้าใจว่าแม่จะส่งฉันไปต่างประเทศ
ฉันไม่เข้าใจแม่จริงๆด้วย แม่พูดออกมาว่า เลี้ยงฉันดีเกินไป
ไม่รู้จักความลำบาก เท้าไม่ติดดิน ฉนั้นนับจากนี้ไปแม่ไม่จ่ายค่าขนม
และค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้อีกต่อไป ให้ฉันนั่งรถเมล์ ไปทำงานพิเศษวันเสาร์อาทิตย์
เรื่องเรียนเทอมแรกจ่ายค่าหน่วยกิจไปแล้ว ให้เรียนไปให้หมดเทอม
หมดเทอมนี้แล้วค่อยมาพูดกันอีกครั้ง ฉันต้องไปทำงานเป็นครูสอนเปียโน
โดยที่แม่ไม่ไปรับส่ง ไปเรียนโดยนั่งรถเมล์ไปเอง ยอมรับฉันลำบากมาก
ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา
แต่สำหรับฉันกลายเป็นเรื่องที่คับแค้นมาก ที่แม่ทำแบบนี้ ร้องไห้ค่ะ
ทำไปได้ประมาณหนึ่งเดือน ชักทนไม่ไหว เข้าไปบอกแม่ว่าไม่ไหว
แม่เฉยค่ะไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย พูดแค่ต้องทำให้ได้ สะบายมาแยะแล้ว
ฉันเริ่มประชดแม่ เที่ยวไปกับกลุ่มเพื่อนอีก แม่ไม่พูดอีกปล่อยฉัน
อยากทำอะไรทำไป แต่ไม่ให้เงิน ยึดบัตรเครดิตรกลับหมด ฉันอึดอัดมาก
ฉันเริ่มเตลิดไปนอนบ้านเพื่อนอีก ไม่ยอมกลับบ้าน แม่ของฉันใจเด็ด
ไม่ตามและไม่เรียกกลับ ปล่อยฉันอยากทำอะไรทำไป ฉันร้องไห้จนเลิกร้อง
คิดในใจว่าแม่ไม่รักฉันแล้ว จะหันไปหาพ่อ พ่อก็ไม่สนใจทำแต่งานอย่างเดียว
ฉันเริ่มเหงา นี่ไงแม่ลงโทษฉันแม่ไม่ต้องด่าว่า แต่แม่ทำแบบนี้มันเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนด่าว่าอีก
ฉันเริ่มแกร่ง ตามวิสัยการเอาตัวรอดของมนุษย์ ฉันมองรอบตัวในมุมมองอีกแบบ
แตกต่างจากที่เคยมอง กว้างขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น ฉันกลับมาหาแม่
แม่ไม่พูด แม่ต้อนรับตามปกติ ไม่ถามว่าไปอยู่ไหน
ฉันสงบลง ไม่ทุรนทุราย ไม่คิดแค้นใครอีก แม่เข้ามาพูดเองทีนี้
ว่าวางแผนชีวิตของฉันให้แล้ว จะทำตามหรือไม่ก็ตัดสินใจเอง
ฉันตัดสินใจไม่เรียน และหางานทำ เมื่อแม่ต้องการให้ฉันลำบาก
ต้องการให้ฉันเรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ค่าของเงิน และอีกหลายอย่าง
ที่ฉันควรที่จะเรียนรู้ ว่าโลกกว้างใบนี้ มีอะไรอีกหลายอย่างที่ควรจะเรียนรู้
นี่ไงชีวิติของฉันที่ฉันทำลายมันเองกะมือ จากลูกคุณหนูกลายเป็นคนที่แกร่ง
ชีวิตหลังออกจากโรงเรียนประจำ มันผิดผลาดไปหมด คิดแล้วอยากกลับไป
เริ่มต้นที่จุดตอนจบม.6 มาเลย จะแก้ไขทุกอย่างที่ได้กระทำมา
ขอให้ทุกคนที่อ่านดูเป็นตัวอย่างว่าคนเราเมื่อพลาดไปแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่
มันไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้เลย มีแต่ต้องเดินหน้าตลอด
ใครที่กำลังหลงผิด หรือกระทำในสิ่งที่ตามใจตัวเอง ก็ขอให้ยั้งคิดบ้างนะ
-b
g-ผลจากการกระทำไม่มีใครหรอกที่เจ็บมีแต่ตัวเราเท่านั้น.....
-
-
fish
tank
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุกขลิก ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุกขลิก
ความคิดเห็น