ส่งของกลับไทยต้องทำอย๋างไร

ข้อมูลเบื้องต้น

อย่างแรกต้องถามคุณก่อนเลยว่าจะเดินทางกลับด้วยหรือเปล่า ส่งของมากน้อยแค่ไหนและเป็นของใหม่ยังไม่ใช้หรือเป็นของเก่า เพราะปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อการตัดสินใจของศุลกากรว่าจะเรียกเก็บภาษีนำ เข้ากับของของคุณหรือไม่

ถ้าหากคุณต้องการที่จะส่งของเฉยๆโดยถึงแม้ ว่าจะเป็นของใช้แล้ว แต่ไม่เดินทางกลับศุลกากรอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับผู้รับที่ปลายทางตาม มูลค่าของที่เขาประเมิณได้ โดยเขาจะประเมิณเป็นการนำเข้าของมือสองนะคะ(กลัวส่งกลับไปขาย) โดยส่วนใหญ่พนักงานที่ส่งของหรือตัวแทนบริษัทที่ไทยจะแจ้งให้คุณทราบก่อนการ จัดส่งของ

เนื้อเรื่อง

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศที่จะส่งของเพราะจะเดินทางกลับ ถ้าคุณเดินทางมาอาศัยเพื่อศึกษาต่อหรือเพราะการสมรสหรือเหตุผลอื่นๆเป็นระยะ ต่อเนื่องกันเวลาเกินกว่า 1 ปี ไม่นับเวลาที่กลับไปเพื่อเยี่ยมครอบครัวหรือท่องเที่ยวระยะสั้นๆในไทยนะคะ (สำหรับนักศึกษา ในบางกรณีสำหรับคอร์ส 6เดือน-น้อยกว่า 1ปี ต้องดูว่าจำนวนของที่ส่งมีมากน้อยแค่ไหน) ทางศุกากรให้ส่งของกลับได้ขอให้เป็นของที่ใช้แล้ว ไม่ใช่ของใหม่ที่มีป้ายติดอยู่หรืออยู่ในห่อที่ยังไม่แกะ(สุ่มตรวจ) โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยของที่ส่งกลับต้องไม่ใช่ของที่ซ้ำกัน เช่น รองเท้าแบบเดียวกันสีเดียวกันไซต์เดียวกัน 3 คู่ หรือหม้อหุงข้าว 5 ใบ อะไรประมาณนี้เพราะเขาจะดูว่าคนๆเดียวทำไมถึงต้องใช้ของซ้ำกันดังนั้นต้อง หลีกเลี่ยงส่งของซ้ำๆนะคะ ดีวีดี เสื้อผ้าเก่า หนังสือ ส่งได้หมดค่ะขอให้อย่าเป็นของใหม่ที่ยังอยู่ในห่อที่ไม่ได้แกะก็พอ ขอให้คุณส่งของตามความเหมาะสมกับระยะเวลาที่คุณอาศัยอยู่จริงศุลกากรให้ยกเว้นภาษีได้ค่ะ

ถ้าจะส่งของกลับเพราะจะย้ายกลับถาวรขออนุญาตแนะนำและให้ข้อมูลนะคะ
ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับบริการที่คุณเลือกและจำนวนของที่ส่งนะคะ หลายบริษัทเสนอบริการที่มีรายละเอียดต่างกันดังนั้นราคาจึงไม่เท่ากัน และบริการของแต่ละบริษัทเสนอให้ไม่เหมือนกันดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน ตัดสินใจนะคะดูว่ามีข้อมูลอะไรที่บริษัทเขาไม่บอกเราแต่ระบุไว้ในเงื่อนไขการให้บริการของเขา ส่วนมากพวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมปลายทางที่เขาไม่บอกตรงๆทำให้ลูกค้าได้บริการ ที่ราคาถูกแต่พอไปถึงต้องไปจ่ายเงินเพิ่ม

ค่าบริการขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เมืองที่ส่งออก(รวมถึงประเทศ) ที่อยู่ปลายทาง จำนวนของที่ส่ง บริการที่เลือกส่ง (ทางเรือหรือทางอากาศ - บริการแบบถึงหน้าบ้านที่เมืองไทยหรือส่งไปถึงแค่ที่ท่า)

ถ้าส่งแบบทางอากาศก็จะคิดตามน้ำหนักจริงหรือน้ำหนักตามปริมาตร บางยริษัทอาจมีการกำหนดค่าขนส่งขั้นต่ำหรือน้ำหนักขั้นต่ำ การส่งทางอากาศส่วนมากค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และที่บริษัทมีให้บริการจะเป็นบริการแบบส่งถึงหน้าบ้านที่ไทยเลย บริการนี้มีข้อจำกัดในการส่งมากเนื่องจากการขนส่งทางอากาศไม่อนุญาตให้ส่ง ของต้องห้ามเช่น น้ำหอม แบตเตอรี่ทุกประเภท และของอื่นๆ จึงเป็นบริการที่เหมาะสำหรับคนที่รีบจะใช้ของ ระยะเวลาการขนส่งส่วนมากจะอยู่ในช่วง 7-14วันขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการค่ะ

สำหรับการขนส่งทางเรือจะง่ายกว่าและไม่ยุ่งยากเหมือนส่งทางอากาศ ระยะเวลาการขนส่งส่วนมากจะอยู่ในช่วง 2-2.5เดือนขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการค่ะ บริการส่วนใหญ่จะแยกออกเป็นสองประเภท คือ บริการแบบถึงหน้าบ้าน (Door to Door)  และ บริการส่งถึงท่า (Door to Port or Depot)
ถ้าส่งบริการแบบถึงหน้าบ้านบริษัทผู้ให้บริการจะเดินพิธีการให้คุณกับศุลกากรโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไปติดต่อด้วยตัวเอง

ถ้าใช้บริการส่งถึงท่าผู้ส่งต้องเดินทางไปเดินพิธีการด้วยตัวเองและต้องชำระค่า ธรรมเนียมที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดที่ท่าเรือด้วยค่ะ เป็นเรื่องปรกติสำหรับการส่งของวิธีนี้

สนใจต้องการรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้สอบถามได้นะคะ ยินดีให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือค่ะ