ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Sungnumja Game (KookV)

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15 : ซังนัมจาเกมส์ (150815)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 59


    Chapter 15

     ซังนัมจาเกมส์


    มันเป็นแค่เกมส์ไม่ใช่เหรอ พี่บอกผมเอง 


    ………………………………………… 



    ความรู้สึกแรกตอนที่ผมลืมตาตื่นขึ้นมาคือความสุขสมกับความอบอุ่นที่อยู่ในอ้อมกอด



    ผมก้มลงมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้ม ใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆไปที่แก้มยุ้ยที่เวลาหลับเหมือนกับเด็กน้อยน่าเอ็นดู ไม่ดื้อ ไม่แสนงอนเหมือนตอนตื่นนอน



    ผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น กดจูบลงบนหน้าผากมนก่อนจะผละออกมาเม้มปากตัวเองแน่น



    เมื่อคืนผมยอมรับว่าเมามาก แต่ก็ไม่มากพอที่จะไม่รู้ตัว ถึงจะรู้ตัวผมก็หยุดตัวเองไม่ได้ แค่เพียงสัมผัสผิวเนียนนุ่มสติผมก็เตลิดไปไกล มารู้ตัวอีกครั้งคนตัวเล็กก็กำลังครางแผ่วหวานกับความอบอุ่นที่โอบรัดตัวตนของผม



    ผมชนะร่างบางแล้วตามที่พนันไว้กับจีมิน แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด



    ………………………………………… 



    “ไอ้กุก ในฐานะที่แกอ่อนประสบการณ์สุด”



    พี่จีมินหันมาทำหน้าจริงจังใส่ผมที่กำลังทำหน้าเมื่อย รู้ตัวดีว่ากำลังจะโดนลากไปเกี่ยวกับเกมส์การแก้แค้นเด็กๆของแทฮยองกับจีมินอีกแล้ว คู่  95 ไลน์เอาแต่ทะเลาะไร้สาระกันทั้งวัน จนในวงเหนื่อยหน่ายไปหมด



    “แก....ไปเล่นเกมส์แข่งกับไอ้วีซะ!!!”



    แล้วทำไมผมต้องไปด้วยวะ 



    โคตรจะไร้สาระ ไม่ได้ฟังกติกาของเกมส์ซังนัมจาอะไรนั่นด้วยซ้ำ เกมส์แบบนี้ไม่ต้องแข่งยังไงผมก็ชนะ พี่วีเคยแมนอะไรกับเขาที่ไหนกัน วันๆเอาแต่ออดอ้อนคลอเคลียให้พวกเราพาไปกินขนม ไม่ก็พาไปกินข้าว หนักหน่อยก็ทำอาหาร แม้แต่รามยอนยังต้มไม่เป็น



    วันๆมีแต่เรื่องของกินจะเอาอะไรมาชนะผม จีมินแค่แกล้งให้พี่วีตกใจเล่นมากกว่า ดูจากสีหน้าของร่างบางที่เอาแค่ชำเลืองมาทางผม แล้วทำหน้าเหมือนโลกจะแตกก็สะใจดี 



    ต้องสะใจสิครับก็ผมโดนพี่วีใช้บ่อยสุด แทฮยองช่างเอาแต่ใจเหลือเกิน พออ้อนไม่สำเร็จก็บังคับ พอบังคับไม่ได้ก็ทำหน้าเศร้าจนผมใจอ่อนแล้วโมโหตัวเองทุกที ที่ยอมทำตามทั้งที่มันยุ่งยาก



    ผมคิดว่าจีมินไม่ได้จริงจังอะไร แต่แล้วผมก็โดนดึงเข้ามาในห้องครัว ท่ามกลางสายตาหลากหลายของเมมเบอร์ พี่จินมองแบบเป็นห่วง นัมจุนฮยองเลิกคิ้ว โฮซอกฮยองที่เอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วก็ยุนกิฮยองที่มีประกายตาชั่วร้าย



    นี่มันรวมหัวกันชัดๆ แค่มองหน้าพวกพี่เขาผมก็รู้ จะไม่รู้ก็แต่แทแทที่ทำตาโตเอียงคอมองผมกับจีมินด้วยความสงสัย พอเห็นจีมินเลื่อนเข้ามากระซิบข้างหูผม พี่วีก็ทำปากคว่ำ บ่นงึมงำอยู่คนเดียว ก่อนจะโดนยุนกิฮยองไล่ให้ไปเก็บของมานอนกับผม



    “ไอ้กุก เรามาพนันกันมั้ย” เสียงพี่จีมินโคตรชั่วร้าย จนตาขวาผมกระตุกยังกับจะมีความซวยตามมา



    “ไม่เอาอ่ะ” ปฏิเสธทันควัน พอจะเดินหนีจีมินก็ใช้ขาหน้า เอ๊ย มือมากระชากแขนผม



    “ไม่ได้ แกต้องเอา!!”



    แล้วจะถามทำไมวะ 



    “อะไรของพี่ ผมง่วงแล้วนะ”



    “โอ๊ย ไอ้กุก แกช่วยสนหน่อยได้ป่ะ นี่เรื่องใหญ่เพราะมันคือการแก้แค้นไอ้แท”



    คำว่าแก้แค้นแทแททำให้ผมขมวดคิ้ว 



    แก้แค้นพี่วีมันยิ่งใหญ่ตรงไหน -_-  



    แต่ทำไมไม่รู้ ในหัวคิดผมดันไปถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่โดนพี่วีใช้ให้ทำงานบ้านแทน อ้างว่าปวดท้อง พอผมทำเสร็จเจ้าตัวก็หายทันควัน วิ่งตามเจโฮปฮยองไปกินไอติม แสบเป็นบ้า ยังไม่ได้เอาคืนเลย



    ทำไรดี แอบใส่เกลือในขนมดีมั้ย



    “แล้วพี่จะพนันอะไร”



    “ภายในหนึ่งเดือนนี้ ถ้านายทำให้ไอ้แทยอมเคะให้นายได้ พี่จะซื้อรองเท้าที่นายอยากได้วันนั้นให้”



    “ห๊ะ”



    อะไรน่ะ ผมงงไปหมดแล้ว เคะอะไร แทฮยองเนี่ยนะ ผมกับพี่วีเนี่ยนะ สถานการณ์ที่ไปไม่ถูกทำให้ผมได้แต่ยืนอ้าปากค้าง แต่ปาร์คจีหมู (จีมินเฟ้ย) ก็ไม่สนใจผมยังคงพล่ามต่อไป



    “ไม่ใช่แค่นั้นพี่จะเป็นคนใช้ของนายด้วยหนึ่งวัน แต่ถ้านายแพ้...."



    “เดี๋ยว!!! เคะอะไร พี่จะให้ผมไปปล้ำพี่วีอ่ะนะ แล้วรองเท้า? มันแพงมากนะพี่มีตังค์ซื้อเหรอ”



    เอาตรงๆผมงงไปหมดแล้ว ในวงผมไม่แคร์เรื่องเพศเดียวกันก็จริง แต่ผมกับพี่วีเป็นพี่น้องกันจะให้ไปทำอย่างนั้นมันแปลกๆมั้ย



    “โอ๊ย  พูดไม่จบยังจะขัดอีกไอ้เด็กเถื่อน เข้าใจคำว่าสมยอมมั้ย พี่หมายถึงให้วียอมแก ไม่ได้ให้ไปปล้ำมัน”



    ฮยองหน้าหมูทำหน้าเหมือนผมโง่มากมาย แล้วคนที่เสนอให้มักเน่ปล้ำเพื่อนตัวเองไม่บ้ากว่าเหรอ นี่มันรายการซ่อนกล้องอะไรรึเปล่า



    “ฮยอง พี่วีจะยอมผมได้ไง พี่เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย”



    พูดไปผมก็ขมวดคิ้วเพราะความรู้สึกแปลกๆ จีมินส่งเสียงเหอะในคอก่อนจะพูดเสียงเข้มขึ้นมา



    “ทำไม่ได้หรือไม่กล้า"



    “ฮยอง.....”



    “ไอ้กุก! พูดมากน่ารำคาญ บอกมาว่าจะทำมั้ย ถ้าไม่ทำ” พูดจบพี่เค้าก็ล้วงรูปใบนึงออกมา “รูปนี่โดนเอาไปประจานแน่!!”



    เฮ้อ แค่ผมเห็นรูปนั่นก็รู้แล้วครับว่าตัวเองไม่มีทางเลือก นอกจากยอมรับข้อเสนอ



    ถึงจะไม่รู้เจตนาลึกๆของจีมิน แต่ก็แค่ทำๆไปผมกับพี่วีเป็นผู้ชายทั้งคู่ คงไม่คิดอะไร และอีกอย่างถ้าผมแพ้ก็แค่โดนเอารูปไปประจาน



    .



    .



    .



    ให้ตาย!!ยังไงผมก็แพ้ไม่ได้เด็ดขาด!!!


    ………………………………………… 



    ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เรื่องนี้มันชักจะเกินเลยไปไกล ใช่ครับ ผมกับจีมินเราพนันกันก็จริง แต่ผมไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นกับแทฮยอง ผมคิดจะหลอกจีมินด้วยซ้ำว่าผมทำไปแล้วด้วยการประทับรอยจูบไว้ที่ต้นคอของพี่วี



    แต่จีมินกับยุนกิฮยองก็ดูยังไม่พอใจ จนผมสับสนไปหมดว่าพวกพี่เขาต้องการอะไรกันแน่ 



    ตอนแรกผมก็คิดจะแกล้งแทฮยองเล่นๆด้วยการแตะโน่นแตะนี่ แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่จากการกลั่นแกล้งกลายเป็นความต้องการ จากจูบแผ่วเบากลายเป็นดูดดื่ม จากสัมผัสหยอกเย้ากลายเป็นสัมผัสไปทั้งตัว



    เสน่ห์ของพี่วีทำให้ผมหยุดตัวเองไม่ได้ และรสจูบหวานฉ่ำกับผิวเนียนสวยก็ไม่ช่วยอะไรนอกจากจะทำให้ผมต้องการมากขึ้น



    ผมอยากจะออกห่าง ผมพยายามออกห่างแต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิด แค่เพียงดวงตากลมโตจ้องมองมา ผมก็กลายเป็นคนเอาแต่ใจที่อยากจะกอดแทฮยอง



    มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกที่ผมเริ่มรู้ตัวว่าชอบสัมผัสอ่อนโยนของพี่วี แต่เกมส์ซังนัมจากลับทำให้ความรู้สึกนั้นชัดเจนมากขึ้น



    แต่ผมก็ไม่คิดจะจริงจังเพราะผมรู้ดีว่าเราเป็นผู้ชายและความต้องการแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ ผมชอบสัมผัสของพี่วี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบพี่วีในแง่นั้น



    อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวแต่มันก็แค่ความต้องการของร่างกายระหว่างเรา เป็นแค่แรงดึงดูดทางเพศ



    บางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วที่ผมจะหยุดเกมส์บ้าๆนี่ แล้วทำให้เรื่องทุกอย่างมันกลับมาเหมือนเดิมซะที


    ………………………………………… 




    ร่างบางที่ขยับยุกยิกในอ้อมกอดทำให้ผมหลุดจากภวังค์ที่เอาแต่วนเวียนคิดถึงเรื่องของเราสองคน คิ้วเรียวสวยของพี่วีขมวดมุ่นเพราะแสงแดดอ่อนๆยามเช้า คนตัวเล็กซุกหน้าลงกับอกผมมากกว่าเดิมจนต้องกอดกระชับร่างบางแน่นขึ้น ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไปทำไม



    ผมกดจูบลงบนกลุ่มผมนิ่มสีน้ำตาลเข้มอย่างใจลอย ทั้งที่ตัดสินใจไว้แล้วแต่ทำไมผมถึงไม่อยากให้พี่วีตื่นขึ้นมาตอนนี้ 



    กลัวว่าคนตัวเล็กจะเสียใจ



    ความคิดบ้าๆทำให้ผมส่ายหน้า ทำไมแทฮยองต้องเสียใจ พี่เขาบอกเองด้วยซ้ำว่ามันเป็นแค่เกมส์ 



    ที่พี่เขาทำทุกอย่าง ทั้งรอยยิ้มน่ารัก ทั้งเข้ามาออดอ้อนคลอเคลีย ดวงตากลมโตที่ทอประกายทุกครั้งที่มองสบตา พวงแก้มที่ขี้นสีแดงก่ำทุกครั้งที่เราใกล้ชิด 



    ทั้งหมดนั่นก็แค่เกมส์เกมส์นึง 



    เกมส์ที่พี่เขาเอาแต่พูดตอกย้ำผมซ้ำๆ จนเผลอนึกสมเพชตัวเองที่บางครั้งเผลอคิดอะไรเกินเลยว่าแทฮยองจะรู้สึกอะไรบ้าง นอกจากแค่เกมส์ที่ยั่วยวนให้ผมหลงเสน่ห์ 



    เกมส์ที่เราสองคนสนุกกับมันมากไปจนเกินเลยกว่าพี่น้อง



    “อื้อ เจ็บ”



    เสียงแหบหวานกับริมฝีปากอิ่มที่ยู่ลงอย่างน่ารักทำให้ผมต้องผละออกมามองคนในอ้อมกอด ร่างบางขมวดคิ้วก่อนที่เปลือกตาจะเปิดออก ดวงตากลมโตที่จ้องมองมาในระยะประชิดทำให้ผมเผลอใจเต้นแรงขึ้นมา



    แทฮยองขยับตัวอีกรอบจนผ้าห่มร่วงลงมากองที่เอว 



    “เจ็บ”



    แทฮยองพูดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับจ้องมาที่ผมด้วยความไม่พอใจทั้งๆที่ตาปรือ ร่างบางมองแผ่นอกของผมพลางทำปากคว่ำ



    “มองอะไร รู้งี้น่าจะข่วนให้แรงกว่านี้"



    “หืม”



    ขมวดคิ้วแล้วก้มมองอกตัวเอง รอยข่วนสีแดงเป็นทางยาวเต็มอกผมไปหมด ก็ว่าอยู่ว่าทำไมถึงแสบๆ แทฮยองลากนิ้วไปตามรอยแดงบนแผ่นอกของผมอย่างอ่อนโยนก่อนที่ตาจะเริ่มปรือปิดอีกครั้ง



    “พี่ไม่โกรธผมเหรอ"



    ผมคิดว่าตื่นขึ้นมาพี่วีจะร้องไห้ฟูมฟาย หนักสุดก็โวยวายท่าทอทุบตีผม แต่พี่เขากลับซุกหน้าลงบนอกผมพร้อมกับท่อนแขนที่โอบรัดเอว รู้จักกันมาตั้งหลายปีไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจว่าคิมแทฮยองกำลังคิดอะไรอยู่เลยสักนิด



    “โกรธ” คำตอบของพี่วีทำให้ผมชะงัก “แต่ว่าเพราะเป็นนาย.....”



    ท้ายประโยคเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่เพราะผมอยู่ใกล้พี่เขามากเลยได้ยินมันอย่างชัดเจน



    พี่วีเงยหน้าขึ้นสบตา



    “แต่เพราะว่านายเป็นมักเน่ของพี่ แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก”



    มักเน่งั้นเหรอ.....น้องชายอีกแล้ว



    อยู่ดีๆผมก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา 



    “เรามีอะไรกัน แต่พี่กลับบอกว่าไม่เป็นไรเพราะผมเป็นน้องชายพี่เนี่ยนะ”



    น้ำเสียงเย็นชาของผมทำให้แทฮยองชะงัก ร่างบางยันตัวออกจากอ้อมกอดของผมลุกขึ้นนั่ง



    “นายโกรธอะไรพี่อ่ะจองกุก”



    ท่าทางที่ไม่รู้อะไรเลยทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมที่แทฮยองทำเหมือนว่าไม่แคร์ผมเลยสักนิด



    พี่วีกำลังทำให้ผมเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ วินาทีนึงร่างบางทำให้ผมรู้สึกดีจนแทบคลั่ง ต่อมาก็ผลักไสออกไปด้วยคำพูดว่าผมเป็นแค่น้องชาย 



    ทั้งที่ผมควรจะดีใจที่มันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่แทฮยองกลับทำให้ผมสับสนจนไม่รู้อีกแล้วว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร ลึกๆแล้วผมอยากให้เราเป็นแบบไหนก็ยังไม่รู้



    ถ้าหากเราเป็นแค่พี่น้องแล้ว ผมจะมีสิทธิ์แตะต้องแทฮยองอีกรึเปล่า 



    ผมได้แต่นิ่งเงียบจนบรรยากาศระหว่างเราก่อเป็นความอึดอัดอึมครึม



    “ถ้านายโกรธที่พี่บอกว่านายเป็นน้องชาย จองกุก จริงๆแล้วพี่.......”



    ร่างบางพูดแค่นั้นก็หยุดชะงัก แก้มเนียนขึ้นสีแดงก่ำ แทฮยองกัดริมฝีปากตัวเองเพราะความประหม่า



    “จริงๆแล้วพี่.....คือเรื่องเกมส์ซังนัมจา.....” แทฮยองขมวดคิ้วมุ่น “พี่กับจีมิน.....”



    “แทฮยอง ผมพนันกับพี่จีมินเอาไว้”



    ก่อนที่จะเสียใจทีหลัง ผมก็พูดมันออกไปจนได้



    “ผมพนันกับจีมินฮยองเอาไว้ว่าถ้าผมชนะด้วยการที่ทำให้พี่เป็นของผมได้ ผมจะได้ของที่ต้องการ แทฮยอง ผม...ผมขอโทษ”



    สีหน้าตกใจของเขาทำให้ผมรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าไม่พูดมันออกไป ผมคงรู้สึกผิดไปตลอด



    “ต...แต่ว่าจองกุก เราสองคน.....”



    “แทฮยอง”



    น้ำเสียงจริงจังของผมทำให้คนตัวเล็กกัดริมฝีปากตัวเองอีกครั้ง และผมก็เกลียดตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมที่อยากจะไล้นิ้วไปตามกลีบปากนุ่มพร้อมกับจูบปลอบโยนเพราะว่าแทฮยองดูน่ารักน่าทะนุถนอมจนผมอยากกอดแน่นๆอีกครั้ง



    “เรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะครับ เลิกเล่นเกมส์นี้ แล้วให้ผมเป็นจองกุกของพี่วีที่ชอบดูอนิเมะด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน ไม่ใช่คนสองคนที่อยากจะเอาชนะกัน”



    ผมกลั้นใจพูดมันออกไป แต่แทฮยองกลับเงียบ เงียบจนน่าใจหาย ดวงตาคู่สวยว่างเปล่าจนผมใจกระตุก ถึงจะรู้ว่าคำขอของผมมันฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ในเมื่อแทฮยองไม่ได้คิดอะไร ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร การปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปน่าจะดีที่สุด



    “แทฮยอง ผมขอโทษ พี่จะด่าผมตีผมก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้”



    เพราะมันทำให้ผมคิดว่าผมกำลังจะเสียแทฮยองไป แค่คิดว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ถ้าดวงตาคู่นั้นไม่ได้มองมาที่ผมเหมือนเดิม เพียงแค่คิดก็เจ็บไปหมด 



    “เข้าใจแล้ว” เสียงแหบพร่าเรียบเฉยพร้อมกับดวงตาฉ่ำหวานที่ช้อนขึ้นมามอง “ถ้านายต้องการแบบนั้น งั้นเรากลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม”



    น้ำเสียงของพี่วีสั่นตรงคำว่า พี่น้อง ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงอย่างเลื่อนลอย แต่เหมือนว่าขาที่สั่นเทาของพี่วีจะทำให้เกือบล้มลง ผมเผลอตัวยื่นมือเข้าไปประคอง แต่แทฮยองกลับขืนตัวออกห่าง 



    ผมได้แต่นั่งมองพี่วีที่เก็บเสื้อผ้าแต่งตัวแล้วเดินจากไปพร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลง



    วินาทีนั้นเองที่ผมรู้ตัวว่า คิมแทฮยองจากไปแล้วจริงๆ....


    ………………………………………… 


    รู้สึกเหมือนคนเพิ่งฟื้นคืนสติ ร่างโปร่งบางของแทฮยองเดินออกมาจากโรงแรมอย่างเลื่อนลอย บทสนทนาที่วนเวียนอยู่ในสมอง ถ้อยคำทำร้ายจิตใจจนรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน



    และวินาทีที่ใครสักคนวิ่งออกมาเปิดประตู พร้อมกับร่างของเพื่อนที่สนิทที่สุดจนรู้ทุกความลับของกันและกันยืนอยู่หน้าประตู



    วินาทีนั้นเองที่คิมแทฮยองสะดุ้งตื่นจากความฝันอันแสนหวาน สายตาของจีมินที่มองมาทำให้ความเข้มแข็งที่มีพังทลายลง



    ร่างบางปล่อยโฮพร้อมกับสะอื้นจนตัวโยน โถมตัวเข้ากอดเพื่อนรักจนจีมินได้แต่รับร่างบางที่ทิ้งน้ำหนักตัวเข้าหา เสียงทุ้มหวานน่าฟังตอนนี้กลับปนเสียงสะอื้นพร้อมกับพร่ำประโยคเดิมๆซ้ำๆ



    “มันจบแล้ว จีมิน มันจบแล้ว จองกุก.....ม......ไม่”



    “จองกุกมันทำไม มันทำอะไรแก”



    ร่างเล็กของปาร์คจีมินแทบจะกระชากตัวเพื่อนสนิทเข้ามาถาม ถ้าไม่ติดว่าแทฮยองกำลังร้องไห้จนน้ำตาเปียกเต็มเสื้อของเขา 



    จีมินลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลนิ่ม ปลอบประโลมแต่มันกลับทำให้แทฮยองร้องไห้มากกว่าเดิม



    “มันไม่ได้ผล....”



    เสียงอู้อี้จนเขาแทบจะจับใจความไม่ได้ แต่เพียงแค่สี่คำกลับทำให้ปาร์คจีมินชะงัก



    “พูดเรื่องอะไรน่ะแทแท”



    “มันไม่ได้ผล เพราะจองกุกไม่เคยรักแทฮยองเลย”


    ………………………………………… 


    Jimin’s POV



    ถ้าถามว่าจีมินสนิทกับแทฮยองขนาดไหน เขาพูดได้เลยว่ามาก มากเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะสนิทกับอีกคนหนึ่งได้ แทฮยองเป็นเพื่อนที่เขารักมากที่สุด ระหว่างจีมินกับแทฮยองไม่เคยมีความลับระหว่างกัน



    แทฮยองระบายความรู้สึกกับเขาในทุกๆเรื่อง แม้กระทั่งความไม่สบายใจ ความสับสน แม้กระทั่งเรื่องของ 



    จอนจองกุก



    จองกุกเป็นคนที่เดาความรู้สึกได้ยาก มากพอๆกับที่เจ้าตัวแทบจะเดาอารมณ์ของคนรอบข้างไม่ออก บ่อยครั้งที่พวกฮยองโกรธแต่มักเน่กลับไม่รู้ตัว



    และจีมินก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป กับการที่แทฮยองที่ดูจะไม่รู้อะไรพอๆกันมาบ่นให้เขาฟังถึงจองกุกกับความรู้สึกแปลกๆของตัวเอง ที่จีมินพูดส่งๆไปว่าคือโรคแพ้ความเปลี่ยนแปลงของมักเน่



    ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเขากับมินยุนกิทนไม่ไหวอีกต่อไป



    และนั่นก็เป็นที่มาของเกมส์ซังนัมจา กับการพนันบ้าๆบอๆที่เขาเอาไปพูดกรอกหูจองกุก



    ปาร์คจีมินไม่ได้สติไม่ดี ไม่ได้กำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเพื่อน เขารู้ดีว่าจองกุกไม่มีวันจะทำอย่างนั้น ที่พูดแบบนั้นออกไปก็เพื่อหวังจะให้จองกุกมองแทฮยองในแง่อื่นบ้าง 



    เขาอยากจะช่วยให้แทฮยองได้ใกล้ชิดมักเน่ในฐานะที่มากกว่าพี่น้องในช่วงเวลาหนึ่ง รู้ว่ามันงี่เง่าแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางอื่นอีกแล้ว



    พวกฮยองเองก็รู้เห็นเป็นใจในแผนการนี้ แม้จินฮยองจะมีท่าทีไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ดีกว่าการเห็นแทฮยองต้องเจ็บกับการที่ไม่ลองทำอะไรเลย



    พวกเขามั่นใจมากว่ามักเน่ต้องมีความรู้สึกดีๆให้แทแท



    บ่อยครั้งที่ดวงตาคมคู่นั้นไล้ไปตามใบหน้าสวยหวานของแทฮยอง หยุดสายตาทุกครั้งที่แทแทส่งยิ้มเป็นรูปหัวใจน่ารัก จากนั้นก็เบือนหน้าไปทางอื่นด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่คิดอะไร



    มันก็เหมือนกับการพนัน



    จีมินพูดกับแทฮยองแบบนั้นตอนที่โดนเค้นถามจนต้องสารภาพในวันที่เขาเผลอหลุดปากพูดออกไปว่าทำแบบนี้ก็เพื่อแทฮยอง



    ร่างโปร่งบางของเพื่อนสนิทขมวดคิ้วมุ่น เม้มปากแน่นจนจีมินแอบกลัวว่าแทแทจะโกรธเขาที่คิดทำอะไรแบบนี้ 



    “มันก็จริง” แทแทพูดออกมา “อันที่จริงฉันก็คิดเรื่องนี้มาพักใหญ่ๆ”



    คำว่า คิด ทำให้เขาต้องเลิกคิ้ว แทแทเนี่ยนะคิด



    “ทำหน้าแบบนั้นอยากโดนต่อยเรอะ ถึงฉันจะซื่อบื้อก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองโง่นานนะ”



    ไม่ปล่อยให้โง่คือ เอาไอ้พวกอาการใจเต้น หน้าแดง นั่นไปหาในเนต ถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลงชอบไอ้เด็กจองกุก คำตอบที่จีมินแทบอยากจะกรีดร้อง เอาหน้าฟาดกำแพงแล้วกระโดดน้ำตายไป



    “ก...ก็แค่ชอบ ม...ไม่ได้แปลว่ารักซะหน่อย”



    แทฮยองละล่ำละลักแก้ตัวพูดจนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง พวงแก้มแดงก่ำน่าเอ็นดูจนจีมินคิดว่าจองกุกโคตรจะน่าอิจฉา และคงโง่มากๆถ้าปล่อยให้แทฮยองหลุดมือไป



    “ฉันว่าจะลองชวนจองกุกไปเดทดู แล้วก็สารภาพ ที่สวนสนุกไง โรแมนติกป่ะ คิคิคิ”



    ร่างบางยิ้มหวานจนตาปิด จีมินหัวเราะพร้อมกับขยี้ผมแทฮยอง กดจูบที่แก้มนิ่มแรงๆเพราะเพื่อนสนิทน่ารักเกินไปจนแทฮยองโวยวาย



    “เฮ้ยย ออกไป ฉันยังไม่อยากโดนยุนกิฮยองฆ่าตายนะ” แทฮยองหันซ้ายหันขวาพึมพำกับตัวเอง “คนอะไรท่าทางเคะแต่กลายเป็นเมะเถื่อนให้จีมิน โดนอีหมูเล่นของใส่จนไปไม่เป็นแล้ว”



    “ไอ้แท! กุได้ยินนะ!!!!”



    เสียงหัวเราะกับรอยยิ้มหวานชวนมองของแทฮยองในวันนั้น กับภาพของแทฮยองที่กำลังร้องไห้แทบขาดใจในวันนี้มันช่างต่างกันจนจีมินเจ็บไปหมด แทฮยองปาดน้ำตาลวกๆหลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที



    “พวกฮยองไม่อยู่ใช่มั้ย ฉันจะไปอาบน้ำ ขอบคุณมากนะ”



    เพื่อนสนิทฝืนยิ้มหวานให้ ทำท่าจะเดินจากไป จนจีมินต้องยึดข้อมือบางเอาไว้ 



    “เดี๋ยวแท.....” เขาสูดลมหายใจก่อนจะพูดออกไป “ขอโทษ”



    แทแทส่งยิ้มมาให้พร้อมกับส่ายหัว



    “ไม่หรอกจีมิน ไม่ว่าจะแบบไหน จองกุกก็ไม่รักฉันอยู่ดี นายไม่มีอะไรต้องขอโทษ”



    พูดแค่นั้นแทฮยองก็เดินเข้าห้องน้ำไปล้างเนื้อล้างตัว



    มันต้องไม่จบแบบนี้



    จีมินพูดกับตัวเอง ใช้นิ้วลูบไปตามเรือนผมนุ่มเบาๆ แทฮยองที่กำลังหลับขมวดคิ้วเหมือนกับกำลังฝันร้าย ดวงตาเรียวทอดมองไปยังต้นคอและลาดไหล่ที่เต็มไปด้วยรอยรักสีแดงตัดกับผิวเนียนสวย



    รอยประทับความเป็นเจ้าของที่จองกุกจูบซ้ำๆตอนที่ครอบครองร่างกายของแทฮยอง 



    และเมื่อเจ้าของรอยจูบปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องนอน ดวงตาคู่คมแฝงแววเหนื่อยล้าทอดมองแทฮยองแต่ก็ยังคงเรียบเฉยจนจีมินถอนใจ ตัดสินใจเดินจากมา ทิ้งจองกุกเอาไว้กับแทแทที่ยังคงหลับอยู่บนเตียงของเขา



    แต่ก็ไม่วายที่จะพูดทิ้งท้าย



    “ถึงนายจะตัดสินใจไปแล้วว่าจะเป็นแค่น้องชาย แต่สักวันนะจองกุก นายอย่ามาเสียดายทีหลังก็แล้วกัน”



    จีมินไม่สนใจว่าจองกุกจะตอบว่าอะไร เขาแค่เดินจากมาพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น



    เขาจะไม่ปล่อยให้แทฮยองเสียใจอีกแล้ว ไม่มีวัน




    #กุกวีซังนัมจา



    เรื่องมาถึงไคล์แม็กซ์ อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วมั้งคะ เอาเป็นว่าเคลียร์หมดแล้วนะว่าเกมส์นี้มันมายังไงและทำเพื่ออะไร ตอนนี้อาจจะเป็นตอนที่จริงจังสุดแล้วมั้ง 5555555 เจอกันตอนหน้า (ไม่รู้เมื่อไหร่ กองหนังสือจะทับหัวตายและ นี่หนีหนังสือมาอัพ คึคึคึ)


    อย่าเพิ่งด่าน้องกุก T~T นางก็มีเหตุผลของนาง ความผิดพี่วีด้วยส่วนนึง


    หมูจีมไม่ได้ซาดิสม์อยากให้เพื่อนโดนหลอกฟันหรอกนะ ทุกอย่างมันมีเหตุผล แต่ที่แน่ๆคือคนโง่ไม่ใช่แทค่ะ รอติดตามกันนะ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×