ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [AU.Fic] No Fairy Tale 2
กลับมาแล้วจ้า หลังจากพยายามปั่น + อู้ อยู่เนิ่นนาน
ซึลมีหลายเรื่องมากมายจนเรียงไม่ถูก OTZ
คิดถึงก็.....อ่านเรื่องอื่นไปพลางๆก่อนนะจ๊ะ (//ปัดด้วยความหน้าด้านส่วนบุคคล)
p.s. การบ้านเยอะมวากกก
เอาล่ะ ENJOYYY
.............................................................................................................................................................
WARNING : จิลหลุดคาแรกเตอร์ ช่วงแรกโชตะ ตอนนี้ฟรานปากไม่เสีย(เอาไว้เสียตอนหน้า)
p.s. ฟรานปากไม่เสียนี่ควรเป็นเรื่องที่ต้องเตือนด้วยเหรอเนี่ย ชักงงตัวเอง
.............................................................................................................................................................
Chapter 2: Memory of Love
ค่ำคืนเดียวดาย…….หัวใจที่มืดมน
……..นาย………
ผู้ฉุดรั้งฉันออกมาจากความมืดมิด………..
………แสงสว่างนั้น………
…….ช่างอยู่ไกลเกินเอื้อมเหลือเกิน……….
“ฟราน…….”
เด็ก ชายตัวน้อยในวัย 8 ขวบหันกลับไปตามคำเรียกขาน เรียวบางปากเล็กคลี่รอยยิ้มน่ารัก เมื่อพบคนที่เฝ้ารอคอยยืนอยู่ตรงนั้น สองขาเล็กป้อมวิ่งเข้าไปหาร่างนั้นก่อนจะโผกอดไว้เต็มอ้อมแขน เสียงใสหัวเราะร่าเมื่อร่างสูงนั้นยกเอวของตนลอยขึ้นแล้วเหวี่ยงเล่นไปรอบๆ เสียงหัวเราะสองเสียงดังประสานกันเป็นจังหวะไพเราะท่ามกลางสวนกุหลาบขาวอัน งดงาม
“นี่ นี่……วันนี้เราจะเล่นอะไรกันดี”
เสียงเล็กใสเอ่ยขึ้นอย่างน่ารัก สองมืออวบป้อมเกาะเกี่ยวท่อนแขนของร่างสูงอยู่ไม่ห่าง คนตัวโตกว่าเบนสายตาหลังม่านผมสีทองสวยมามองสบ
ถึงแม้ว่าเด็กน้อยจะไม่สามารถมองเห็นแววตานั้นแต่กลับรับรู้ได้ว่ามันกำลังจับจ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนโยนเพียงใด…….
เจ้า ชายผู้สูงศักดิ์…….กับเด็กน้อยไร้เดียงสา เป็นภาพที่ชวนให้เกิดความรู้สึกเอ็นดูกับผู้พบเห็น แต่หามีใครได้พานพบ ด้วยว่าเรื่องนี้คือความลับ
ระหว่างกัน……….
ไม่ควรที่เจ้าชายจะลดตัวลงมาเคียงข้างกับเด็กยากจนเช่นนี้……..
ความลับจึงเป็นความลับอยู่ร่ำไป……….
“วันนี้ ไม่เล่นหรอก…..” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา เรียกให้ใบหน้าหวานงอนง้ำขึ้นมา แก้มทั้งสองข้างป่องขึ้นมาอย่างไม่พอใจจนคนตัวโตกว่าอดไม่ได้ที่จะจิ้มแก้ม ใสๆนั้นด้วยความเอ็นดู
“ได้ยังไงอ่า เบลขี้โกง….วันนี้สัญญาว่าจะเล่นเจ้าชายเจ้าหญิงกันแล้วนะ…….”
คำ กล่าวนั้นทำให้คนเป็นเจ้าชายหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา มือใหญ่ลูบไล้เรือนผมสีเขียวน้ำทะเลด้วยความเอ็นดูกับถ้อยคำไร้เดียงสานั้น เด็กหนุ่มในวัย 13 ปีย่อตัวลงให้ร่างเล็กปีนขึ้นมาบนแผ่นหลังกว้าง มือเล็กป้อมโอบรัดไหล่ของร่างสูงเบาๆในขณะที่ถูกยกลอยขึ้น พาเดินไปตามทางในป่ากว้าง
“จะไปไหนเหรอ……เบล”
พึมพำ อู้อี้แนบชิดแผ่นหลังกว้าง ไออุ่นที่แผ่ออกมาช่างสบายจนชวนให้อยากหลับตาเคลิ้ม สำหรับเด็กน้อยผู้ไม่เคยได้รับความอบอุ่นแล้ว ไออุ่นแบบนี้ช่างเป็นสิ่งที่น่าโหยหา ความอ่อนโยนที่โอบล้อมรอบกายเปรียบเสมือนที่พึ่งพิง ราวกับหัวใจที่บอบช้ำถูกเยียวยารักษา
ชอบที่จะมาที่นี่……..ชอบที่จะมาหาคนคนนี้…….
“เจ้าชายจะพาไปที่ที่นึงแหละ ถ้าฟรานเห็นต้องชอบแน่เลย”
เสียง ทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา สองขาเรียวยาวก้าวตรงไปในป่า ลึกเข้าไป ลึกเข้าไปทุกทีจนดูราวกับว่ารอบด้านมีแต่ความมืดมิด แต่ฟรานตัวน้อยก็ไม่เคยกลัว……..เพราะความไว้วางใจในคนตรงหน้าเท่านั้นที่ เป็นแรงผลักดัน
ก้าวออกมาจากแนวป่ามืดทึมนั่นแล้ว กลับมีแสงสว่างลอดออกมามากขึ้นพร้อมกับกลิ่นหอมรวยระรินฟุ้งกระจายมากับสาย ลม กลิ่นหอม…..เหมือนดอกกุหลาบขาวในสวนสวยของเบล แต่หอมกว่านั้นมากจนชวนให้คิด………
“อ่ะ…….กุหลาบป่านี่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!!!!!”
ร่าง เล็กตะโกนร่าอย่างดีใจ พลางลงจากหลังคนตัวโตพร้อมกับออกวิ่งในทันทีที่ลงถึงพื้นได้ แต่ชายเสื้อสีหม่นที่ยาวระพื้นนั้นกลับเป็นอุปสรรคสำคัญพาลให้สะดุดจนล้ม กลิ้งไปกองกับพื้นดิน
“โอ๊ย!”
เสียงเล็ก ร้องอย่างเจ็บปวด ยกเข่าของตัวเองขึ้นดู ก็พบรอยถลอยเป็นทางยาว เรียกโลหิตสีสดให้ไหลซิบไปตามปากแผลนั้น เรียวปากเล็กบางกลั้นเสียงครางด้วยความเจ็บปวดไว้อย่างสุดความสามารถ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้ดีว่า ไม่ควรจะอ่อนแอ
ฐานะทางบ้านที่ยากจนนั้น ทำให้รู้ว่า…..จะอ่อนแอไม่ได้
ความดิ้นรนต่อสู้กลับหล่อหลอมให้ต้องเข้มแข็ง………
กับความคิดที่ว่า……ร้องไห้ไปก็ไม่มีใครใส่ใจ…….
หาก แต่คนเป็นเจ้าชายกลับไม่คิดเช่นนั้น ร่างสูงย่อตัวลงจนอยู่ในระดับเดียวกับคนตัวเล็ก มือหนาเอื้อมมาไล้แผลนั้นอย่างอ่อนโยนเสียจนคนถูกกระทำใจเต้นแรง เรียวปากบางของคนเป็นเจ้าชายจุมพิตลงบนแผลถลอกนั้นอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายอยู่ที่มุมปากชั่วขณะก่อนจะจางหายไป…………ไม่ทันที่เด็ก น้อยไร้เดียงสาจะทันได้รับรู้หรือตามเล่ห์เหลี่ยมได้ทัน เมื่อลิ้นร้อนไล้เลียลงบนบาดแผลนั้นอย่างอ่อนโยน…….
“อ่ะ…..อืม….เบลทำอะไรน่ะ……มันสกปรกนะ…..”
ร่าง เล็กพยายามดึงมือกลับ แต่กลับต่อต้านเรี่ยวแรงคนตรงหน้าไม่ได้เลย เมื่อริมฝีปากร้อนเริ่มไล้จุมพิตมาถึงต้นขาขาวนวล จนเกิดเป็นรอยจุมพิตรูปกลีบกุหลาบ
“อืม……เบล….”
เสียง หวานครางแผ่วหวิวพร้อมกับความรู้สึกประหลาดที่แล่นผ่านเข้ามาในจิตใจ สั่นสะท้าน ไร้เรี่ยวแรง…….แต่กลับรู้สึกดีเมื่อริมฝีปากร้อนทาบทับอยู่บนผิวเนื้ออ่อน นุ่ม จนเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้…..
ความรู้สึกที่ตัวเองไม่เข้าใจเพียงเพราะความไร้เดียงสา…….
อยากให้คนตรงหน้า…….สัมผัสให้มากกว่านี้……..
ฟรานหลับตาพริ้มอย่างเผลอใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นร้อนบนหน้าผากของตัวเอง พร้อมกับที่คนเป็นเจ้าชายที่ขยับกายออกห่าง
“อย่าครางสิ…….เดี๋ยวเจ้าชายก็อดใจไม่ไหวหรอก…….รอให้ฟรานโตกว่านี้ แล้วค่อยว่ากันนะ ชิชิชิ”
เบล เอ่ยขึ้นด้วยความเอ็นดู มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลจับจ้องไปที่มือนั้นก่อนจะยื่นมือของตัวเองออกไปหาอย่าง ไม่ลังเล………ไม่เคยมีคำว่าลังเล……เมื่ออยู่กับคนๆนี้
ร่างสูง ฉุดมือร่างเล็กขึ้นมาจากพื้นอย่างง่ายดาย มือใหญ่โอบประคองเอวบอบบางให้เคลื่อนกายไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งพักลงบนก้อนหินใหญ่กลางทุ่งกุหลาบป่าแสนสวย เบลเคลื่อนกายลงมานั่งเคียงข้างก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเรือนผมสีเขียวน้ำทะเล อย่างอ่อนโยน
“รออยู่ตรงนี้นะ…….เจ้าชายมีอะไรจะให้”
ร่างสูงยิ้มทะเล้นก่อนจะเดินหายไปในแนวไม้ ฟรานขมวดคิ้วด้วยความงุนงง แต่ก็เลือก……ที่จะรอ
เวลาผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า แต่กลับไม่เห็นวี่แววของร่างสูง จนเกิดความกังวลใจเล็กๆ
เบล……เป็นอะไรไปรึเปล่า…….
คิด ได้อย่างนั้นแล้ว…..เรียวขาเล็กก็เตรียมจะก้าวลงจากก้อนหินก้อนใหญ่เพื่อออก ตามหาเจ้าชายผู้เป็นต้นเหตุของความว้าวุ่นใจ ยังไม่ทันจะได้ขยับตัว……..ร่างสูงของเบลก็ปรากฏขึ้นในคลองจักษุพร้อมกับมือ ใหญ่ที่เห็นได้ชัดว่าแอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ด้านหลัง ฟรานเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอุ่นใจ ยามเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของคนเป็นเจ้าชาย……..เป็นอย่างนี้ เสมอมา
เบลมักจะจับจ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนโยน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พานพบ…..จนกระทั่งตอนนี้
“หลับตาสิ เจ้าชายมีอะไรจะให้”
เสียงทุ้มๆนั้นทำให้เด็กน้อยต้องยอมหลับตาลงโดยดุษฎี แม้ว่าความอยากรู้อยากเห็นจะมีมากแค่ไหน แต่กลับทำตามคนคนี้เสมอมา
อาจจะเป็นเพราะความไว้วางใจ
อาจจะเป็น…….
…….เพราะความรัก……….
สัมผัส ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียข้างแก้มใส พร้อมกับที่สันจมูกของคนเป็นเจ้าชายกดลงข้างแก้มนั้นอย่างแผ่วเบา ฟรานลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เตรียมจะต่อว่าคนขี้โกง แต่กลับต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ยื่นของบางอย่างออกมาตรงหน้า
ดอก กุหลาบป่าสีขาวบอบบางถักทอเรียงร้อยอย่างสวยงามประณีตตามเกลียวใบหญ้าซึ่ง พันรัดเป็นวงเล็กๆ ช่างบอบบางและน่าทะนุถนอม สิ่งของสำคัญที่เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ถักทออย่างตั้งใจ เพื่อเป็นของกำนัลให้แก่คนพิเศษ
ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าที่ เขานั่งร้อยมงกุฏกุหลาบขาวอยู่อย่างนี้ มือใหญ่ที่เคยนวลสวยกลับมีเลือดไหลซิบนับไม่ถ้วนจากความคมของหนามกุหลาบและ เศษหญ้ามากมาย
แต่เขาก็ยินดี…….หากเพื่อเด็กน้อยคนนี้จะมีความสุขแล้วละก็……
คิดได้อย่างนั้น…….
รอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นอีกครา……..
ทั้งๆที่เขาไม่ใช้คนแบบนั้นแท้ๆ แต่เด็กน้อยคนนี้กำลังทำให้เขาแปรเปลี่ยนไป……
มือใหญ่สวมมงกฏเล็กๆแสนสวยนั้นลงบนศีรษะได้รูป ปกคลุมไปด้วยเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลอย่างแผ่วเบา
“โตขึ้นมาแล้ว………มาเป็นเจ้าหญิงของเจ้าชายนะ”
คำกล่าวที่เหมือนกับการขอแต่งงานกลายๆทำให้แก้มเนียนใสเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำน่าเอ็นดู ร่างสูงจุมพิตหลังมือน้อยๆนั้นอย่างแผ่วเบา
ราวกับสัญญารักมั่นนิรันดร์………..
………..มงกฏกุหลาบขาวแสนสวยปลิวไสวไปตามสายลม………..
มือน้อยยื่นออกไป แต่กลับห่างเกินจะไขว่คว้า…….
เปรียบประดุจเจ้าชายผู้สูงศักดิ์………..
และคำสัญญาลวงหลอก………ที่ไม่มีวันเป็นจริง…………
เฮือก!
ร่าง เพรียวบางสะดุ้งพรวดขึ้นอย่างตกใจ ฝันถึงอดีตอย่างนั้นเหรอ…….อีกแล้ว ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว เรื่องในอดีตที่ควรจะลืมไปได้แล้วเรื่องนั้น คิด
มากจนเก็บไปฝันเลยอย่างนั้นเหรอ……
ดวงตาสีเขียวคู่สวยกวาดตามองไปรอบห้องอย่างช้าๆ สมองเริ่มประมวลความคิด…….
เมื่อคืน……เขาหนีออกมาจากบ้านป้ากับลุงเขย จากนั้นก็ไปที่สวนกุหลาบ……แล้วก็พบเบล…..
จากนั้นแล้ว…….
แทนคำตอบรับ อาการปวดแปลบที่สะโพกกลับแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆจนพาลให้ต้องกัดฟันระงับความเจ็บแปลบ
เมื่อคืน…..เขากับเบลมีอะไรกัน……ครั้งแรก…..ที่สวนกุหลาบขาว
ถ้าอย่างนั้น ห้องนอนหรูหราห้องนี้…….
แอ๊ด!!
เสียง เปิดประตูที่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาทำให้ร่างบางต้องรีบทิ้งตัวลงนอนอย่างรวด เร็ว เปลือกตาบางปิดแน่นสนิทพร้อมกับกลั้นลมหายใจ ไม่เข้า
ใจ….ว่ากลัวอะไร……หรือแม้กระทั่งทำไปทำไม…..
บางที…..อาจจะเป็นแค่สัญชาตญาณกระมัง
รับ รู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เดินมาข้างเตียง พร้อมกับมือใหญ่อบอุ่นที่ทาบทับอยู่ที่หน้าผากมน อ่อนโยน……แต่กลับแปลกไป ไม่ใช่…..คนๆนี้ไม่ใช่เบล!!!
มือเรียวปัดสัมผัสที่หน้าผากก ลมมนของตัวเองออกอย่างแรง นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยฉายแววหวาดระแวงยามจับจ้องไปที่ร่างสูงใหญ่ของ ผู้ที่แตะต้องตน
เรือนผมสีทองสลวยปรากฏขึ้นในคลองจักษุ พร้อมกับที่อีกฝ่ายแหงนเงยใบหน้าขึ้น เผยให้เห็นวงหน้าคมที่เหมือนกับเบลราวกับพิมพ์เดียว!!!
“ค……คุณเป็นใครน่ะ แล้วผม……”
“ใจเย็นๆสิ นี่ห้องฉันเอง”
คำ พูดอ่อนโยนและน้ำเสียงอันแผ่วเบานั้นทำให้ร่างบางวางใจได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศแปลกๆรอบตัวชายคนนี้ช่างเหมือนกับเบลครั้งยังเยาว์ แต่
อะไรบางอย่างกลับบอกว่า……ไม่ใช่
คนๆนี่อ่อนโยนก็จริง…….แต่ก็ยังไม่เหมือนเบล
“ฉันชื่อ จิล นายคือ…….”
“ฟรานครับ เอ่อ….คือว่า ขอโทษที่เสียมารยาทไปเมื่อกี๊ ผม…….”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากเลย……..นายคงกลัวสินะ ที่โดนทำขนาดนั้น”
คำกล่าวนั้น ทำให้ใบหน้าหวานซีดเผือดลงอย่างง่ายดาย ความทรงจำยามถูกกระทำย้อนกลับเข้ามาในห้วงความคิดอีกครั้งจนไหล่บอบบางสั่นไหว
ความเย็นชาเมื่อแรกพบและความอ่อนหวานในตอนท้าย…….
สองสิ่งนี้ช่างต่างกันยิ่งนัก…….
ฟรานกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นขึ้น เป็นอย่างนี้เสมอยามคิดถึงเรื่องของเจ้าชายผมทองคนนั้น ความรู้สึกในยามนี้สับสนปนเปกันไปหมด
ดีใจเมื่อได้พบ……..
เสียใจที่ถูกลืมเลือนอย่างง่ายดาย…………
และสุดท้าย……ก็กลับโง่งมหวั่นไหวไปกับทุกการกระทำ
ห้วงความคิดอันแสนสับสนถูกรบกวนด้วยสัมผัสจากฝ่ามืออันอบอุ่น แตะอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากกลมมนอย่างที่เป็นมาในตอนแรก ใบหน้าหวาน
แดงซ่านกับความอ่อนโยนที่ได้รับ ช่างอบอุ่นอ่อนโยนเหลือเกิน นานมาแล้ว……..ที่ไม่มีใครทำกับเขาเช่นนี้
“ไม่ สบายตรงไหนหรือเปล่า ฉันให้หมอมาดูอาการให้แล้ว ช่วงนี้อย่าเพิ่งขยับตัวมากเลย แขนกับขานายยังไม่หายดี กว่าจะหายก็กินเวลาสักพัก นายพักอยู่ที่ห้องฉันไปก่อนก็แล้วกัน”
ร่าง สูงเอื้อนเอ่ยอย่างใจดี ยามมองเรือนร่างผอมบางภายใต้ชุดนอนสีขาวตัวโคร่งของตนด้วยความรู้สึกเอ็นดู กับขนาดตัวที่ดูจะเล็กไปมากโข จนคอเสื้อเลื่อนหลุดมากองที่หัวไหล่กลมมน เปิดเปลือยแผ่นอกขาวนวลเนียนที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยจูบรูปกลีบกุหลาบงาม
ร่างบางผู้แสนเย้ายวนและดูน่าทะนุถนอมยิ่งกว่าใครๆ………..
ร่างบางผู้กุมหัวใจเขาได้แม้เพียงแรกพบ……..
“ขอบคุณมากนะ จิล…….”
ทอดปลายเสียงอ่อนหวานยามเรียกจนคนฟังหัวใจเต้นถี่แรง เพียงแค่เอ่ยนาม……..
“ฉันถามหน่อยได้มั้ยว่า ทำไมนายถึงไปนอนอยู่ที่สวนกุหลาบแบบนั้น”
เสียงทุ้มที่เอ่ยถามพร้อมกับขยับเรือนร่างเข้ามานั่งเคียงข้างทำให้ร่างบางหน้าซีดเผือดลง
ลังเลใจที่จะเล่า……เพียงเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าฟัง
แต่ถ้าเป็นคนนี้……..ก็คงไม่เป็นไรกระมัง
“คือว่าจริงๆแล้ว……..”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ท่านจิลขอรับ……”
เสียง เรียกขานนั้นทำให้ร่างสองร่างชะงักไป จิลลุกขึ้นยืนพร้อมกับที่ร่างบางปิดปากของตัวเองให้สนิทอย่างรวดเร็ว ร่างสูงมองใบหน้าหวานล้ำนั้น
อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้พ่อบ้านคนสำคัญที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้อง
“มีอะไรเหรอทาคุมิ…….”
“…..คือว่า มีงานที่บริษัทเข้ามาด่วนน่ะขอรับ”
“แล้วทำไมไม่ให้เบลไปจัดการล่ะ ฉันกำลังยุ่ง!”
“คือว่า ท่านเบลบอกว่า คืนนี้มีธุระสำคัญน่ะขอรับ!”
“ยุ่งยากจริงๆ……..งั้นเตรียมรถไว้ อีก 10 นาทีฉันจะลงไป”
พูด คุยธุระเสร็จแล้ว ร่างสูงก็เดินกลับเข้ามาหาคนตัวเล็กที่กำลังทำสีหน้าลำบากใจปนซีดเผือดให้ เห็นจนชวนให้เกิดความสงสัย เดินตรงเข้าไปหาก่อนจะลูบเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลสวยนุ่มมืออย่างแผ่วเบา
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น…….ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า”
“เปล่าครับ คือว่า……จิลกับเบลเป็น…….”
…………………………………………………………………………………………………………………………………
ท่าม กลางแสนจันทร์นวลใสสว่างตา ทอประกายกระทบกับสวนดอกกุหลาบแสนสวย หยาดน้ำค้างพร่างพรายหยดรินพาลให้พื้นหญ้าเปียกชื้น ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังนั่งรอคนสำคัญด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย
กังวล……
เศร้าใจ…….
และสุดท้ายคือ……ไม่เข้าใจ
ทั้งๆที่ฉันคิดว่านายจะมาหาแท้ๆนะ……..ช่างใจร้ายจริงๆ
สวบ! สวบ! สวบ!
เสียง ฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ ทำให้คนเป็นเจ้าชายหันขวับไปมองอย่างดีใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง เมื่อเห็นว่าคนที่เดินมานั้นไม่ใช่คนที่ตน
กำลังรออยู่แต่อย่างใด
“ท่านเบล……มานั่งตากน้ำค้างแบบนี้ ระวังไม่สบายนะขอรับ”
เสียง อันอ่อนโยนของพ่อบ้านที่อยู่รับใช้ตระกูลมาเนิ่นนาน ทำให้เบลต้องเผยยิ้มอันอ่อนโยน พ่อบ้านทาคุมิคือชายชราที่แม้อายุจะมากแล้ว แต่ก็รับใช้ตระกูลเป็นอย่างดี ดูแลทุกอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง คงเป็นการไม่ดีที่จะทำให้ชายชราผู้รักตนมาห่วงใยอยู่แบบนี้
“เจ้าชายไม่เป็นไรหรอกนา ชิชิชิ แค่กำลังรอคนอยู่ ทาคุมิกลับไปเถอะ”
ความอ่อนโยนที่ไม่ได้เห็นมาเนิ่นนานของคนตรงหน้า ทำให้ชายชราอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
ความอ่อนโยนในอดีต……กำลังจะกลับมาอย่างนั้นเหรอ
“แต่ว่าท่านเบลขอรับ……ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คนที่ท่านรอจะมาอย่างนั้นเหรอขอรับ”
เพราะ ความเป็นห่วง จึงทำให้ต้องถามคำถามที่ดูเหมือนจะเป็นการจาบจ้วง แต่เบลกลับไม่คิดใส่ใจ นัยน์ตาสีเทาภายใต้เรือนผมสีทองสุกสว่างทอประกายหม่นหมอง ท่าทางเหม่อลอยนั้นทำให้ทาคุมิอดไม่ได้ที่จะหนักใจ
แปลกไป…….
ท่านเบลในยามนี้ดูสับสนกว่าที่เคยเป็นมา
“เจ้าชายก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้ว……ทาคุมิมาที่นี่ทำไม”
“ขอรับ…..ท่านจิลสั่งให้เอาดอกกุหลาบไปให้แขกคนสำคัญน่ะขอรับ”
“แขกคนสำคัญอย่างนั้นเหรอ…….”
“ขอรับ ท่านจิลพบเข้าน่ะขอรับ ในระหว่างที่กำลังบาดเจ็บ เป็นคนสวยมากเลยดีเดียว สีผมก็แปลกตามากเลยขอรับ”
คำกล่าวนั้น เรียกความสนใจของร่างสูงได้ไม่ยากเย็น
“ลองบอกให้ละเอียดหน่อยสิ”
“ขอรับ?”
“ที่ว่าแปลกน่ะ เป็นยังไงเหรอ เจ้าชายอยากรู้…….”
…………………………………………………………………………………………………………………………………
เบลเป็นน้องชายฝาแฝดของฉันเอง!!!!
น้องชายฝาแฝด…….
บ้าจัง……ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยทอประกายหม่นหมอง ไม่ว่าจะทำอะไร เขาก็คงหนีไม่พ้นเบลจริงๆสินะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร ในเมื่อเขา
สลบอยู่ในสวนดอกกุหลาบ มีโอกาสตั้งมากมายที่ใครต่อใครจะพบเจอ
ก็แค่บังเอิญ……ว่าเป็นพี่ชายฝาแฝดของเบล
แต่ว่า…….เบลไม่เคยบอกเลยสักครั้งนี่นาว่ามีพี่ชาย
7 ปีที่ผ่านมานั้น…….นายไปทำอะไรมากันแน่นะเบล………
คำสัญญาที่ลอยผ่านเข้ามาในห้วงความคิด พาลให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
โตขึ้นมาแล้ว………มาเป็นเจ้าหญิงของเจ้าชายนะ
คำพูดพวกนั้น ฉันจะเชื่อถือได้แค่ไหน……..
คืนพรุ่งนี้……มาหาเจ้าชายอีกนะ
นายจะรอฉันเหมือนที่ปากว่ามั้ย……….
ถ้าฉันลงไปหานายตอนนี้…….นายจะยังรอฉันอยู่รึเปล่า……..
“มาอยู่ห้องผู้ชายอื่นแบบนี้ คิดจะลองดีกับฉันสินะ”
ร่าง บางหันขวับไปที่หน้าประตูห้องอย่างตกใจก่อนที่วงหน้าหวานจะแปรเปลี่ยนเป็น ซีดเผือด เนื้อตัวเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งเกาะกุมไปทั่วร่าง ขยับ
ไม่ได้ ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากแสดงความตกตะลึง
ร่างสูงของเจ้าชายยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับรอยยิ้มอันตรายที่ชวนให้คนมองใจเต้นแรงและหวาดกลัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ว่าไงล่ะ อยากตายมากนัก เดี๋ยวฉันจะสงเคราะห์ให้!”
“ม….ไม่ อย่านะ เบล!!!!!!!”
TBC.
...........................................................................................................................................................
(//วิ่ง หลบรองเท้าที่ปามาจากทุกสารทิศ) ซึลรู้ตัวหรอกนา ว่าตัดจบได้เลวมวากก ตอนหน้ามัน sm แล้วจ้า >O< แต่แอบอ่อนโยนด้วยนะ (ยังไม่ลืมคอนเซปต์) แถมด้วย nc เบลฟราน เป็นคอมโบ้เซต (เอ่อะ!)
ว่ามั้ยว่า.....ตอนต้นเรื่อง เบลมันหลอกกินเด็กชัดๆ OTZ (ผิดที่ซึลหื่นเกินไป)
เจอกันเมื่อความขยันเรียกร้อง >O<b
ซึลมีหลายเรื่องมากมายจนเรียงไม่ถูก OTZ
คิดถึงก็.....อ่านเรื่องอื่นไปพลางๆก่อนนะจ๊ะ (//ปัดด้วยความหน้าด้านส่วนบุคคล)
p.s. การบ้านเยอะมวากกก
เอาล่ะ ENJOYYY
.............................................................................................................................................................
WARNING : จิลหลุดคาแรกเตอร์ ช่วงแรกโชตะ ตอนนี้ฟรานปากไม่เสีย(เอาไว้เสียตอนหน้า)
p.s. ฟรานปากไม่เสียนี่ควรเป็นเรื่องที่ต้องเตือนด้วยเหรอเนี่ย ชักงงตัวเอง
.............................................................................................................................................................
Chapter 2: Memory of Love
ค่ำคืนเดียวดาย…….หัวใจที่มืดมน
……..นาย………
ผู้ฉุดรั้งฉันออกมาจากความมืดมิด………..
………แสงสว่างนั้น………
…….ช่างอยู่ไกลเกินเอื้อมเหลือเกิน……….
“ฟราน…….”
เด็ก ชายตัวน้อยในวัย 8 ขวบหันกลับไปตามคำเรียกขาน เรียวบางปากเล็กคลี่รอยยิ้มน่ารัก เมื่อพบคนที่เฝ้ารอคอยยืนอยู่ตรงนั้น สองขาเล็กป้อมวิ่งเข้าไปหาร่างนั้นก่อนจะโผกอดไว้เต็มอ้อมแขน เสียงใสหัวเราะร่าเมื่อร่างสูงนั้นยกเอวของตนลอยขึ้นแล้วเหวี่ยงเล่นไปรอบๆ เสียงหัวเราะสองเสียงดังประสานกันเป็นจังหวะไพเราะท่ามกลางสวนกุหลาบขาวอัน งดงาม
“นี่ นี่……วันนี้เราจะเล่นอะไรกันดี”
เสียงเล็กใสเอ่ยขึ้นอย่างน่ารัก สองมืออวบป้อมเกาะเกี่ยวท่อนแขนของร่างสูงอยู่ไม่ห่าง คนตัวโตกว่าเบนสายตาหลังม่านผมสีทองสวยมามองสบ
ถึงแม้ว่าเด็กน้อยจะไม่สามารถมองเห็นแววตานั้นแต่กลับรับรู้ได้ว่ามันกำลังจับจ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนโยนเพียงใด…….
เจ้า ชายผู้สูงศักดิ์…….กับเด็กน้อยไร้เดียงสา เป็นภาพที่ชวนให้เกิดความรู้สึกเอ็นดูกับผู้พบเห็น แต่หามีใครได้พานพบ ด้วยว่าเรื่องนี้คือความลับ
ระหว่างกัน……….
ไม่ควรที่เจ้าชายจะลดตัวลงมาเคียงข้างกับเด็กยากจนเช่นนี้……..
ความลับจึงเป็นความลับอยู่ร่ำไป……….
“วันนี้ ไม่เล่นหรอก…..” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา เรียกให้ใบหน้าหวานงอนง้ำขึ้นมา แก้มทั้งสองข้างป่องขึ้นมาอย่างไม่พอใจจนคนตัวโตกว่าอดไม่ได้ที่จะจิ้มแก้ม ใสๆนั้นด้วยความเอ็นดู
“ได้ยังไงอ่า เบลขี้โกง….วันนี้สัญญาว่าจะเล่นเจ้าชายเจ้าหญิงกันแล้วนะ…….”
คำ กล่าวนั้นทำให้คนเป็นเจ้าชายหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา มือใหญ่ลูบไล้เรือนผมสีเขียวน้ำทะเลด้วยความเอ็นดูกับถ้อยคำไร้เดียงสานั้น เด็กหนุ่มในวัย 13 ปีย่อตัวลงให้ร่างเล็กปีนขึ้นมาบนแผ่นหลังกว้าง มือเล็กป้อมโอบรัดไหล่ของร่างสูงเบาๆในขณะที่ถูกยกลอยขึ้น พาเดินไปตามทางในป่ากว้าง
“จะไปไหนเหรอ……เบล”
พึมพำ อู้อี้แนบชิดแผ่นหลังกว้าง ไออุ่นที่แผ่ออกมาช่างสบายจนชวนให้อยากหลับตาเคลิ้ม สำหรับเด็กน้อยผู้ไม่เคยได้รับความอบอุ่นแล้ว ไออุ่นแบบนี้ช่างเป็นสิ่งที่น่าโหยหา ความอ่อนโยนที่โอบล้อมรอบกายเปรียบเสมือนที่พึ่งพิง ราวกับหัวใจที่บอบช้ำถูกเยียวยารักษา
ชอบที่จะมาที่นี่……..ชอบที่จะมาหาคนคนนี้…….
“เจ้าชายจะพาไปที่ที่นึงแหละ ถ้าฟรานเห็นต้องชอบแน่เลย”
เสียง ทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา สองขาเรียวยาวก้าวตรงไปในป่า ลึกเข้าไป ลึกเข้าไปทุกทีจนดูราวกับว่ารอบด้านมีแต่ความมืดมิด แต่ฟรานตัวน้อยก็ไม่เคยกลัว……..เพราะความไว้วางใจในคนตรงหน้าเท่านั้นที่ เป็นแรงผลักดัน
ก้าวออกมาจากแนวป่ามืดทึมนั่นแล้ว กลับมีแสงสว่างลอดออกมามากขึ้นพร้อมกับกลิ่นหอมรวยระรินฟุ้งกระจายมากับสาย ลม กลิ่นหอม…..เหมือนดอกกุหลาบขาวในสวนสวยของเบล แต่หอมกว่านั้นมากจนชวนให้คิด………
“อ่ะ…….กุหลาบป่านี่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!!!!!”
ร่าง เล็กตะโกนร่าอย่างดีใจ พลางลงจากหลังคนตัวโตพร้อมกับออกวิ่งในทันทีที่ลงถึงพื้นได้ แต่ชายเสื้อสีหม่นที่ยาวระพื้นนั้นกลับเป็นอุปสรรคสำคัญพาลให้สะดุดจนล้ม กลิ้งไปกองกับพื้นดิน
“โอ๊ย!”
เสียงเล็ก ร้องอย่างเจ็บปวด ยกเข่าของตัวเองขึ้นดู ก็พบรอยถลอยเป็นทางยาว เรียกโลหิตสีสดให้ไหลซิบไปตามปากแผลนั้น เรียวปากเล็กบางกลั้นเสียงครางด้วยความเจ็บปวดไว้อย่างสุดความสามารถ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้ดีว่า ไม่ควรจะอ่อนแอ
ฐานะทางบ้านที่ยากจนนั้น ทำให้รู้ว่า…..จะอ่อนแอไม่ได้
ความดิ้นรนต่อสู้กลับหล่อหลอมให้ต้องเข้มแข็ง………
กับความคิดที่ว่า……ร้องไห้ไปก็ไม่มีใครใส่ใจ…….
หาก แต่คนเป็นเจ้าชายกลับไม่คิดเช่นนั้น ร่างสูงย่อตัวลงจนอยู่ในระดับเดียวกับคนตัวเล็ก มือหนาเอื้อมมาไล้แผลนั้นอย่างอ่อนโยนเสียจนคนถูกกระทำใจเต้นแรง เรียวปากบางของคนเป็นเจ้าชายจุมพิตลงบนแผลถลอกนั้นอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายอยู่ที่มุมปากชั่วขณะก่อนจะจางหายไป…………ไม่ทันที่เด็ก น้อยไร้เดียงสาจะทันได้รับรู้หรือตามเล่ห์เหลี่ยมได้ทัน เมื่อลิ้นร้อนไล้เลียลงบนบาดแผลนั้นอย่างอ่อนโยน…….
“อ่ะ…..อืม….เบลทำอะไรน่ะ……มันสกปรกนะ…..”
ร่าง เล็กพยายามดึงมือกลับ แต่กลับต่อต้านเรี่ยวแรงคนตรงหน้าไม่ได้เลย เมื่อริมฝีปากร้อนเริ่มไล้จุมพิตมาถึงต้นขาขาวนวล จนเกิดเป็นรอยจุมพิตรูปกลีบกุหลาบ
“อืม……เบล….”
เสียง หวานครางแผ่วหวิวพร้อมกับความรู้สึกประหลาดที่แล่นผ่านเข้ามาในจิตใจ สั่นสะท้าน ไร้เรี่ยวแรง…….แต่กลับรู้สึกดีเมื่อริมฝีปากร้อนทาบทับอยู่บนผิวเนื้ออ่อน นุ่ม จนเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้…..
ความรู้สึกที่ตัวเองไม่เข้าใจเพียงเพราะความไร้เดียงสา…….
อยากให้คนตรงหน้า…….สัมผัสให้มากกว่านี้……..
ฟรานหลับตาพริ้มอย่างเผลอใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นร้อนบนหน้าผากของตัวเอง พร้อมกับที่คนเป็นเจ้าชายที่ขยับกายออกห่าง
“อย่าครางสิ…….เดี๋ยวเจ้าชายก็อดใจไม่ไหวหรอก…….รอให้ฟรานโตกว่านี้ แล้วค่อยว่ากันนะ ชิชิชิ”
เบล เอ่ยขึ้นด้วยความเอ็นดู มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลจับจ้องไปที่มือนั้นก่อนจะยื่นมือของตัวเองออกไปหาอย่าง ไม่ลังเล………ไม่เคยมีคำว่าลังเล……เมื่ออยู่กับคนๆนี้
ร่างสูง ฉุดมือร่างเล็กขึ้นมาจากพื้นอย่างง่ายดาย มือใหญ่โอบประคองเอวบอบบางให้เคลื่อนกายไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งพักลงบนก้อนหินใหญ่กลางทุ่งกุหลาบป่าแสนสวย เบลเคลื่อนกายลงมานั่งเคียงข้างก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเรือนผมสีเขียวน้ำทะเล อย่างอ่อนโยน
“รออยู่ตรงนี้นะ…….เจ้าชายมีอะไรจะให้”
ร่างสูงยิ้มทะเล้นก่อนจะเดินหายไปในแนวไม้ ฟรานขมวดคิ้วด้วยความงุนงง แต่ก็เลือก……ที่จะรอ
เวลาผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า แต่กลับไม่เห็นวี่แววของร่างสูง จนเกิดความกังวลใจเล็กๆ
เบล……เป็นอะไรไปรึเปล่า…….
คิด ได้อย่างนั้นแล้ว…..เรียวขาเล็กก็เตรียมจะก้าวลงจากก้อนหินก้อนใหญ่เพื่อออก ตามหาเจ้าชายผู้เป็นต้นเหตุของความว้าวุ่นใจ ยังไม่ทันจะได้ขยับตัว……..ร่างสูงของเบลก็ปรากฏขึ้นในคลองจักษุพร้อมกับมือ ใหญ่ที่เห็นได้ชัดว่าแอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ด้านหลัง ฟรานเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอุ่นใจ ยามเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของคนเป็นเจ้าชาย……..เป็นอย่างนี้ เสมอมา
เบลมักจะจับจ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนโยน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พานพบ…..จนกระทั่งตอนนี้
“หลับตาสิ เจ้าชายมีอะไรจะให้”
เสียงทุ้มๆนั้นทำให้เด็กน้อยต้องยอมหลับตาลงโดยดุษฎี แม้ว่าความอยากรู้อยากเห็นจะมีมากแค่ไหน แต่กลับทำตามคนคนี้เสมอมา
อาจจะเป็นเพราะความไว้วางใจ
อาจจะเป็น…….
…….เพราะความรัก……….
สัมผัส ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียข้างแก้มใส พร้อมกับที่สันจมูกของคนเป็นเจ้าชายกดลงข้างแก้มนั้นอย่างแผ่วเบา ฟรานลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เตรียมจะต่อว่าคนขี้โกง แต่กลับต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ยื่นของบางอย่างออกมาตรงหน้า
ดอก กุหลาบป่าสีขาวบอบบางถักทอเรียงร้อยอย่างสวยงามประณีตตามเกลียวใบหญ้าซึ่ง พันรัดเป็นวงเล็กๆ ช่างบอบบางและน่าทะนุถนอม สิ่งของสำคัญที่เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ถักทออย่างตั้งใจ เพื่อเป็นของกำนัลให้แก่คนพิเศษ
ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าที่ เขานั่งร้อยมงกุฏกุหลาบขาวอยู่อย่างนี้ มือใหญ่ที่เคยนวลสวยกลับมีเลือดไหลซิบนับไม่ถ้วนจากความคมของหนามกุหลาบและ เศษหญ้ามากมาย
แต่เขาก็ยินดี…….หากเพื่อเด็กน้อยคนนี้จะมีความสุขแล้วละก็……
คิดได้อย่างนั้น…….
รอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นอีกครา……..
ทั้งๆที่เขาไม่ใช้คนแบบนั้นแท้ๆ แต่เด็กน้อยคนนี้กำลังทำให้เขาแปรเปลี่ยนไป……
มือใหญ่สวมมงกฏเล็กๆแสนสวยนั้นลงบนศีรษะได้รูป ปกคลุมไปด้วยเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลอย่างแผ่วเบา
“โตขึ้นมาแล้ว………มาเป็นเจ้าหญิงของเจ้าชายนะ”
คำกล่าวที่เหมือนกับการขอแต่งงานกลายๆทำให้แก้มเนียนใสเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำน่าเอ็นดู ร่างสูงจุมพิตหลังมือน้อยๆนั้นอย่างแผ่วเบา
ราวกับสัญญารักมั่นนิรันดร์………..
………..มงกฏกุหลาบขาวแสนสวยปลิวไสวไปตามสายลม………..
มือน้อยยื่นออกไป แต่กลับห่างเกินจะไขว่คว้า…….
เปรียบประดุจเจ้าชายผู้สูงศักดิ์………..
และคำสัญญาลวงหลอก………ที่ไม่มีวันเป็นจริง…………
เฮือก!
ร่าง เพรียวบางสะดุ้งพรวดขึ้นอย่างตกใจ ฝันถึงอดีตอย่างนั้นเหรอ…….อีกแล้ว ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว เรื่องในอดีตที่ควรจะลืมไปได้แล้วเรื่องนั้น คิด
มากจนเก็บไปฝันเลยอย่างนั้นเหรอ……
ดวงตาสีเขียวคู่สวยกวาดตามองไปรอบห้องอย่างช้าๆ สมองเริ่มประมวลความคิด…….
เมื่อคืน……เขาหนีออกมาจากบ้านป้ากับลุงเขย จากนั้นก็ไปที่สวนกุหลาบ……แล้วก็พบเบล…..
จากนั้นแล้ว…….
แทนคำตอบรับ อาการปวดแปลบที่สะโพกกลับแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆจนพาลให้ต้องกัดฟันระงับความเจ็บแปลบ
เมื่อคืน…..เขากับเบลมีอะไรกัน……ครั้งแรก…..ที่สวนกุหลาบขาว
ถ้าอย่างนั้น ห้องนอนหรูหราห้องนี้…….
แอ๊ด!!
เสียง เปิดประตูที่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาทำให้ร่างบางต้องรีบทิ้งตัวลงนอนอย่างรวด เร็ว เปลือกตาบางปิดแน่นสนิทพร้อมกับกลั้นลมหายใจ ไม่เข้า
ใจ….ว่ากลัวอะไร……หรือแม้กระทั่งทำไปทำไม…..
บางที…..อาจจะเป็นแค่สัญชาตญาณกระมัง
รับ รู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เดินมาข้างเตียง พร้อมกับมือใหญ่อบอุ่นที่ทาบทับอยู่ที่หน้าผากมน อ่อนโยน……แต่กลับแปลกไป ไม่ใช่…..คนๆนี้ไม่ใช่เบล!!!
มือเรียวปัดสัมผัสที่หน้าผากก ลมมนของตัวเองออกอย่างแรง นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยฉายแววหวาดระแวงยามจับจ้องไปที่ร่างสูงใหญ่ของ ผู้ที่แตะต้องตน
เรือนผมสีทองสลวยปรากฏขึ้นในคลองจักษุ พร้อมกับที่อีกฝ่ายแหงนเงยใบหน้าขึ้น เผยให้เห็นวงหน้าคมที่เหมือนกับเบลราวกับพิมพ์เดียว!!!
“ค……คุณเป็นใครน่ะ แล้วผม……”
“ใจเย็นๆสิ นี่ห้องฉันเอง”
คำ พูดอ่อนโยนและน้ำเสียงอันแผ่วเบานั้นทำให้ร่างบางวางใจได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศแปลกๆรอบตัวชายคนนี้ช่างเหมือนกับเบลครั้งยังเยาว์ แต่
อะไรบางอย่างกลับบอกว่า……ไม่ใช่
คนๆนี่อ่อนโยนก็จริง…….แต่ก็ยังไม่เหมือนเบล
“ฉันชื่อ จิล นายคือ…….”
“ฟรานครับ เอ่อ….คือว่า ขอโทษที่เสียมารยาทไปเมื่อกี๊ ผม…….”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากเลย……..นายคงกลัวสินะ ที่โดนทำขนาดนั้น”
คำกล่าวนั้น ทำให้ใบหน้าหวานซีดเผือดลงอย่างง่ายดาย ความทรงจำยามถูกกระทำย้อนกลับเข้ามาในห้วงความคิดอีกครั้งจนไหล่บอบบางสั่นไหว
ความเย็นชาเมื่อแรกพบและความอ่อนหวานในตอนท้าย…….
สองสิ่งนี้ช่างต่างกันยิ่งนัก…….
ฟรานกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นขึ้น เป็นอย่างนี้เสมอยามคิดถึงเรื่องของเจ้าชายผมทองคนนั้น ความรู้สึกในยามนี้สับสนปนเปกันไปหมด
ดีใจเมื่อได้พบ……..
เสียใจที่ถูกลืมเลือนอย่างง่ายดาย…………
และสุดท้าย……ก็กลับโง่งมหวั่นไหวไปกับทุกการกระทำ
ห้วงความคิดอันแสนสับสนถูกรบกวนด้วยสัมผัสจากฝ่ามืออันอบอุ่น แตะอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากกลมมนอย่างที่เป็นมาในตอนแรก ใบหน้าหวาน
แดงซ่านกับความอ่อนโยนที่ได้รับ ช่างอบอุ่นอ่อนโยนเหลือเกิน นานมาแล้ว……..ที่ไม่มีใครทำกับเขาเช่นนี้
“ไม่ สบายตรงไหนหรือเปล่า ฉันให้หมอมาดูอาการให้แล้ว ช่วงนี้อย่าเพิ่งขยับตัวมากเลย แขนกับขานายยังไม่หายดี กว่าจะหายก็กินเวลาสักพัก นายพักอยู่ที่ห้องฉันไปก่อนก็แล้วกัน”
ร่าง สูงเอื้อนเอ่ยอย่างใจดี ยามมองเรือนร่างผอมบางภายใต้ชุดนอนสีขาวตัวโคร่งของตนด้วยความรู้สึกเอ็นดู กับขนาดตัวที่ดูจะเล็กไปมากโข จนคอเสื้อเลื่อนหลุดมากองที่หัวไหล่กลมมน เปิดเปลือยแผ่นอกขาวนวลเนียนที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยจูบรูปกลีบกุหลาบงาม
ร่างบางผู้แสนเย้ายวนและดูน่าทะนุถนอมยิ่งกว่าใครๆ………..
ร่างบางผู้กุมหัวใจเขาได้แม้เพียงแรกพบ……..
“ขอบคุณมากนะ จิล…….”
ทอดปลายเสียงอ่อนหวานยามเรียกจนคนฟังหัวใจเต้นถี่แรง เพียงแค่เอ่ยนาม……..
“ฉันถามหน่อยได้มั้ยว่า ทำไมนายถึงไปนอนอยู่ที่สวนกุหลาบแบบนั้น”
เสียงทุ้มที่เอ่ยถามพร้อมกับขยับเรือนร่างเข้ามานั่งเคียงข้างทำให้ร่างบางหน้าซีดเผือดลง
ลังเลใจที่จะเล่า……เพียงเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าฟัง
แต่ถ้าเป็นคนนี้……..ก็คงไม่เป็นไรกระมัง
“คือว่าจริงๆแล้ว……..”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ท่านจิลขอรับ……”
เสียง เรียกขานนั้นทำให้ร่างสองร่างชะงักไป จิลลุกขึ้นยืนพร้อมกับที่ร่างบางปิดปากของตัวเองให้สนิทอย่างรวดเร็ว ร่างสูงมองใบหน้าหวานล้ำนั้น
อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้พ่อบ้านคนสำคัญที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้อง
“มีอะไรเหรอทาคุมิ…….”
“…..คือว่า มีงานที่บริษัทเข้ามาด่วนน่ะขอรับ”
“แล้วทำไมไม่ให้เบลไปจัดการล่ะ ฉันกำลังยุ่ง!”
“คือว่า ท่านเบลบอกว่า คืนนี้มีธุระสำคัญน่ะขอรับ!”
“ยุ่งยากจริงๆ……..งั้นเตรียมรถไว้ อีก 10 นาทีฉันจะลงไป”
พูด คุยธุระเสร็จแล้ว ร่างสูงก็เดินกลับเข้ามาหาคนตัวเล็กที่กำลังทำสีหน้าลำบากใจปนซีดเผือดให้ เห็นจนชวนให้เกิดความสงสัย เดินตรงเข้าไปหาก่อนจะลูบเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลสวยนุ่มมืออย่างแผ่วเบา
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น…….ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า”
“เปล่าครับ คือว่า……จิลกับเบลเป็น…….”
…………………………………………………………………………………………………………………………………
ท่าม กลางแสนจันทร์นวลใสสว่างตา ทอประกายกระทบกับสวนดอกกุหลาบแสนสวย หยาดน้ำค้างพร่างพรายหยดรินพาลให้พื้นหญ้าเปียกชื้น ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังนั่งรอคนสำคัญด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย
กังวล……
เศร้าใจ…….
และสุดท้ายคือ……ไม่เข้าใจ
ทั้งๆที่ฉันคิดว่านายจะมาหาแท้ๆนะ……..ช่างใจร้ายจริงๆ
สวบ! สวบ! สวบ!
เสียง ฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ ทำให้คนเป็นเจ้าชายหันขวับไปมองอย่างดีใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง เมื่อเห็นว่าคนที่เดินมานั้นไม่ใช่คนที่ตน
กำลังรออยู่แต่อย่างใด
“ท่านเบล……มานั่งตากน้ำค้างแบบนี้ ระวังไม่สบายนะขอรับ”
เสียง อันอ่อนโยนของพ่อบ้านที่อยู่รับใช้ตระกูลมาเนิ่นนาน ทำให้เบลต้องเผยยิ้มอันอ่อนโยน พ่อบ้านทาคุมิคือชายชราที่แม้อายุจะมากแล้ว แต่ก็รับใช้ตระกูลเป็นอย่างดี ดูแลทุกอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง คงเป็นการไม่ดีที่จะทำให้ชายชราผู้รักตนมาห่วงใยอยู่แบบนี้
“เจ้าชายไม่เป็นไรหรอกนา ชิชิชิ แค่กำลังรอคนอยู่ ทาคุมิกลับไปเถอะ”
ความอ่อนโยนที่ไม่ได้เห็นมาเนิ่นนานของคนตรงหน้า ทำให้ชายชราอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
ความอ่อนโยนในอดีต……กำลังจะกลับมาอย่างนั้นเหรอ
“แต่ว่าท่านเบลขอรับ……ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คนที่ท่านรอจะมาอย่างนั้นเหรอขอรับ”
เพราะ ความเป็นห่วง จึงทำให้ต้องถามคำถามที่ดูเหมือนจะเป็นการจาบจ้วง แต่เบลกลับไม่คิดใส่ใจ นัยน์ตาสีเทาภายใต้เรือนผมสีทองสุกสว่างทอประกายหม่นหมอง ท่าทางเหม่อลอยนั้นทำให้ทาคุมิอดไม่ได้ที่จะหนักใจ
แปลกไป…….
ท่านเบลในยามนี้ดูสับสนกว่าที่เคยเป็นมา
“เจ้าชายก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้ว……ทาคุมิมาที่นี่ทำไม”
“ขอรับ…..ท่านจิลสั่งให้เอาดอกกุหลาบไปให้แขกคนสำคัญน่ะขอรับ”
“แขกคนสำคัญอย่างนั้นเหรอ…….”
“ขอรับ ท่านจิลพบเข้าน่ะขอรับ ในระหว่างที่กำลังบาดเจ็บ เป็นคนสวยมากเลยดีเดียว สีผมก็แปลกตามากเลยขอรับ”
คำกล่าวนั้น เรียกความสนใจของร่างสูงได้ไม่ยากเย็น
“ลองบอกให้ละเอียดหน่อยสิ”
“ขอรับ?”
“ที่ว่าแปลกน่ะ เป็นยังไงเหรอ เจ้าชายอยากรู้…….”
…………………………………………………………………………………………………………………………………
เบลเป็นน้องชายฝาแฝดของฉันเอง!!!!
น้องชายฝาแฝด…….
บ้าจัง……ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยทอประกายหม่นหมอง ไม่ว่าจะทำอะไร เขาก็คงหนีไม่พ้นเบลจริงๆสินะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร ในเมื่อเขา
สลบอยู่ในสวนดอกกุหลาบ มีโอกาสตั้งมากมายที่ใครต่อใครจะพบเจอ
ก็แค่บังเอิญ……ว่าเป็นพี่ชายฝาแฝดของเบล
แต่ว่า…….เบลไม่เคยบอกเลยสักครั้งนี่นาว่ามีพี่ชาย
7 ปีที่ผ่านมานั้น…….นายไปทำอะไรมากันแน่นะเบล………
คำสัญญาที่ลอยผ่านเข้ามาในห้วงความคิด พาลให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
โตขึ้นมาแล้ว………มาเป็นเจ้าหญิงของเจ้าชายนะ
คำพูดพวกนั้น ฉันจะเชื่อถือได้แค่ไหน……..
คืนพรุ่งนี้……มาหาเจ้าชายอีกนะ
นายจะรอฉันเหมือนที่ปากว่ามั้ย……….
ถ้าฉันลงไปหานายตอนนี้…….นายจะยังรอฉันอยู่รึเปล่า……..
“มาอยู่ห้องผู้ชายอื่นแบบนี้ คิดจะลองดีกับฉันสินะ”
ร่าง บางหันขวับไปที่หน้าประตูห้องอย่างตกใจก่อนที่วงหน้าหวานจะแปรเปลี่ยนเป็น ซีดเผือด เนื้อตัวเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งเกาะกุมไปทั่วร่าง ขยับ
ไม่ได้ ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากแสดงความตกตะลึง
ร่างสูงของเจ้าชายยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับรอยยิ้มอันตรายที่ชวนให้คนมองใจเต้นแรงและหวาดกลัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ว่าไงล่ะ อยากตายมากนัก เดี๋ยวฉันจะสงเคราะห์ให้!”
“ม….ไม่ อย่านะ เบล!!!!!!!”
TBC.
...........................................................................................................................................................
(//วิ่ง หลบรองเท้าที่ปามาจากทุกสารทิศ) ซึลรู้ตัวหรอกนา ว่าตัดจบได้เลวมวากก ตอนหน้ามัน sm แล้วจ้า >O< แต่แอบอ่อนโยนด้วยนะ (ยังไม่ลืมคอนเซปต์) แถมด้วย nc เบลฟราน เป็นคอมโบ้เซต (เอ่อะ!)
ว่ามั้ยว่า.....ตอนต้นเรื่อง เบลมันหลอกกินเด็กชัดๆ OTZ (ผิดที่ซึลหื่นเกินไป)
เจอกันเมื่อความขยันเรียกร้อง >O<b
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น