ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Fic] Covetousness -XS- 1
Chapter 1: Tsuna ,Squalo and Fran
แซนซัสกับคุณไม่เหมาะกันเลยสักนิด .
ร่างบอบบางเหวี่ยงดาบฟันศัตรูที่ดาหน้าเข้ามาอย่างโกรธแค้น เสียงกรีดร้องที่ดังระงมไปทั่วกับอาการดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ความตายจะมาพรากไม่อาจดังเข้าไปในโสตประสาทของฉลามคลั่งผู้โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
สควอโล่แทงศัตรูอย่างไม่ยั้งด้วยปลายดาบคมกริบ หันขวับไปรับสิ่งที่พุ่งตรงมาจากด้านหลังด้วยสันดาบ ร่างบอบบางนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสีเดียวกับเส้นผมยืนอยู่ตรงนั้น มือบอบบางนั้นสั่นระริก ปลายกระบอกปืนอันร้อนฉ่ายังคงเล็งมาที่ฉลามคลั่ง
ชวนให้คิดถึงศัตรูหัวใจ
ชอบลอบทำร้ายจากข้างหลังอย่างนี้แหละ .ซาวาดะ สึนะโยชิ
มือเรียวบางปาดาบคู่กายอย่างรุนแรงไปที่ร่างๆนั้นจนปักแทงทะลุหัวใจ นัยน์สีน้ำตาลฉายแววตื่นกลัวเป็นภาพสุดท้ายที่ได้เห็น เมื่อมือบางกระชากดาบคู่กายคืนมาอย่างแรง จนเลือดสาดกระเซ็น
ในใจนึกจินตนาการให้เป็นไอเด็กรุ่นที่ 10 นั่นที่มาตายอยู่ตรงนี้!
สควอโล่หอบอย่างรุนแรงกับคลื่นอารมณ์ที่โหมพัดราวกับวรุณคลั่งในคืนมืดมิด ก่อนจะรู้สึกได้ถึงมือเย็นเยียบแตะแนบที่แก้มของตนเอง เงยหน้ามองตามมือนั้นก็พบร่างสูงของเจ้าชายนักฆ่ายืนอยู่ ผมสีทองปิดบังดวงตาอย่างเคย ข้างกายมีเจ้าเด็กปากเสียหมวกกบ รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเป็นห่วงนั้น แม้แต่ฟรานก็ยังไม่จิกกัดอย่างเคย
“สควอโล่ เป็นอะไรมากมั้ย ชิชิชิ” เบลเลื่อนมือไปแตะที่หน้าผากกลมมนของร่างบาง “ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็ ..เจ้าชายว่าบอส .”
“รุ่นพี่ครับ ” ฟรานพูดขึ้นขัดจังหวะสนทนา เจ้าชายชะงักหันไปมองร่างนั้น .ใบหน้าหวานของฟรานส่ายไปมา เบลเบ้ปากแต่ก็ยอมเงียบแต่โดยดี สควอโล่มองอากัปกริยาแล้วหัวเราะออกมา
“ฉันไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้น เบล .ฆ่าศัตรูเสร็จแล้วรึไง ฟราน ท่าทางของแกทำชั้นขนลุก ฉันไม่ได้คิดมากอะไรขนาดให้พวกแกสองคนมาเป็นห่วง รู้ไว้ซะ”
“ท่านผ.บ.งี่เง่า ไม่ทราบว่าใครเป็นห่วงครับ หลงตัวเองไปหน่อยมั้ง”
เสียงนิ่งเฉยแต่กวนประสาทดังขึ้นมาทันที สควอโล่คิ้วกระตุก มือบางยกดาบขึ้นมาเตรียมจะตัดปากไอเด็กปากเสียให้เป็นชิ้นๆ แต่ติดที่เจ้าชายนักฆ่ายึดข้อมือบอบบางนั้นเอาไว้ รักกันจริงๆ ไอเด็กเวรพวกนี้ ร่างบางสบถพรืด
“ฉันจะไปเดินเล่น พวกแกสองคนกลับปราสาทไปรายงานบอสก่อน ไม่ต้องตามมานะ!” สองขาเรียวยาวเดินจากไป ทิ้งภาพซากศพเกลื่อนกลาดกับเลือดที่ไหลนองเต็มพื้นไว้เบื้องหลัง เบลหันไปมองใบหน้าหวานๆของฟรานที่กำลังทำหน้าลำบากใจ อย่างเห็นได้ไม่บ่อยนัก
“มันเรื่องอะไรกันน่ะ ชิชิชิ เจ้าชายไม่ชอบเห็นสควอโล่เป็นงี้เลย” เจ้าชายนักฆ่าเบ้หน้า แต่ฟรานกลับเลือกที่จะเงียบ
ขืนมันรู้เรื่องนั้น วองโกเล่รุ่นที่ 10 นั่นได้กลายเป็นทูน่าบะช่อแน่
ยังดีที่คนรู้เห็นเรื่องนั้นคือเขา
ทำไงได้ล่ะรอบข้างเขาก็มีแต่พวกปัญญาอ่อนทั้งนั้น ..แต่เขาก็คงปัญญาอ่อนกว่าที่มาอยู่กับคนพวกนี้ ..แถมยังหลงรักคนที่ปัญญาอ่อนที่สุดในหมู่พวกนั้น
ไม่อยากเชื่อว่าท่านผ.บ.ขี้เกี๊กกับวองโกเล่รุ่นที่10 นั่น
ฟรานลอบถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับออกจากสถานที่นั้นเคียงคู่ไปกับเจ้าชายนักฆ่า โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ในอนาคตข้างหน้านั้น ตนเองจะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของฉลามคลั่งแห่งวาเรียจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้
ความสัมพันธ์ที่เก็บซ่อน ..และความรักอันตราย
ไหนใครบอกว่า การเดินเล่นจะช่วยผ่อนคลายจิตใจ อย่าให้รู้นะ แม่จะเอาดาบไปกระซวกไส้ให้หมดเลย ร่างบางคิดอย่างโมโห เป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วที่เขาเดินอยู่เพียงลำพังภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ รกร้าง ว่างเปล่า เหมือนกับอารมณ์ของเขา แสร้งทำเป็นโมโห หากแต่ส่วนลึกในจิตใจนั้นกลับอ้างว้าง
แซนซัสกับคุณไม่เหมาะกันเลยสักนิด ..
ทั้งๆที่ไม่ควรใส่ใจ แต่กลับคิดถึงแต่ประโยคนี้ราวกับเป็นบ้า
ร่างเพรียวบางกัดริมฝีปากแน่น เคลื่อนตัวลงนั่งที่ชิงช้าสนิมเขรอะ นัยน์ตาสีน้ำแข็งที่มักทอประกายเยือกเย็นหลับลงอย่างช้าๆ
“สควอโล่”
เสียงหวานใสที่ดังขึ้นข้างหู เรียกให้ฉลามคลั่งผู้นอนเอกเขนกอยู่ใต้ร่มไม้รอเวลาปฏิบัติภารกิจลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงหน้าน่ารักของสึนะโยชิปรากฏขึ้นกับสายตา ด้วยความตกใจ สควอโล่ผลักร่างนั้นอย่างเต็มแรงจนลอยไปกระแทกก้อนหินใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นพรวดอย่างรวดเร็ว มือเรียวกระชับดาบคู่กายข้างเอวเอาไว้แน่น
“โอ๊ย ..เจ็บนะ” เสียงหวานครางหงิงๆเหมือนกับแมวคราง น้ำตาเริ่มคลอหน่วยที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มือบอบบางยกแขนตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่ารอยเลือดที่ไหลซิบๆมาตามปากแผลนั้น
“เจ็บเป็นด้วยรึไง” แทนที่จะสงสาร ฉลามคลั่งแห่งวาเรียกลับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา นัยน์ตาสีน้ำแข็งจับจ้องไปที่แผลนั้นก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้กับท่าทางสำออยของสึนะโยชิ แผลแค่นี้ร้องจะเป็นจะตาย ทีแผลต่อสู้ไม่เห็นร้องสักแอะ!
สึนะหยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบจะทันที รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนริทฝีปากอิ่ม ดวงตาที่เคยไร้เดียงสาทอประกายแข็งกร้าวจนเปลี่ยนเป็นคนละคน
“เหอะ! รู้ตัวช้าอย่างนี้ ไม่น่าแซนซัสถึงไม่เอา”
“นี่แก!”
มือเรียวบางตวัดดาบทาบลำคอบอบบางของสึนะ เรียกเลือดให้ไหลซิบๆหยาดหยดลงมาตามลำคอเรียวระหงส์ แต่ถึงกระนั้น รอยยิ้มเยาะก็ยังคงปรากฏบนใบหน้านั้นไม่เปลี่ยนแปลง และมัน ..ทำให้สควอโล่โมโหมากกว่าครั้งไหนๆ ทำร้ายร่างกายกัน ยังไม่เจ็บใจเท่าที่เด็กนี่มายืนลอยหน้าลอยตาเยาะเย้ยเขาอยู่อย่างนี้!
กัดริมฝีปากตัวเองอย่างข่มอารมณ์ มือเรียวกำด้ามดาบคู่ใจไว้แน่นก่อนจะตัดสินใจเอาออกไปจากลำคอนั้น ไม่วายเฉียดไปโดนแก้มใสทิ้งร่องรอยบาดลึกเป็นทางยาวข้างแก้มเป็นของแถม สึนะเบ้ปาก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายเจิดจ้าสั่นระริกไปด้วยความพึงพอใจ มือเรียวปาดโลหิตสีแดงสดก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นเล้าเลียโลหิตนั้น
“รู้มั้ย มี 3 เหตุผลที่คุณเอาชนะผมไม่ได้” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ข้อ 1 คุณมันงี่เง่าดีแต่ใช้กำลัง ข้อ 2 คุณมันก็เป็นได้แค่ฉลามสวะสวะในความคิดของแซนซัส และข้อ 3ที่สำคัญที่สุด เพราะผมเป็นคนกุมหัวใจของแซนซัส ความรักของคุณมันก็แค่เศษหินริมทาง ไม่มีใครหรอกนะที่จะบ้าเก็บก้อนหิน มีแต่เตะทิ้งอย่างไม่ไยดี”
ฉลามคลั่งแห่งวาเรียได้แต่ยืนอึ้งกับคำพูดร้ายกาจที่ออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวยเคลือบยาพิษ ถ้อยคำเลวร้ายแต่กลับไม่อาจโต้แย้งได้เลย มันเป็นความจริง .ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ร่างบางกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น ทั้งที่คิด .ว่าจะแย่งชิงมาแท้ๆ เจอคำพูดแบบนี้ ..แค่นี้ ..ก็ยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ .น่าสมเพชนักสควอโล่
“จะบอกอะไรดีๆให้นะ ไอดาบงี่เง่านั่นจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวคุณเอง สุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องเป็นผู้ชนะ เพราะ แซนซัสกับคุณไม่เหมาะกันเลยสักนิด จำคำผมเอาไว้ คุณรองหัวหน้าหน่วยวาเรีย”
ร่างบอบบางของสึนะโยชิเดินผละออกมาพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจบนริมฝีปากที่ไม่จางหาย เดินเลี้ยวหัวมุมชนเข้ากับใครบางคนจนกระเด็นไปคนละทาง
“โอ๊ย!” เสียงหวานครางอย่างแผ่วเบา พร้อมๆกับที่คนตรงหน้าลุกขึ้นยืนมาด้วยตัวเอง หมวกรูปกบกระเด็นมาตรงเท้าของสึนะ
ฟราน งั้นเหรอ
“ใจคอจะไม่ช่วยกันเลยรึไง” สึนะเอ่ยอย่างตัดพ้อ วงหน้าหวานเงยขึ้นมองสบกับดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยของฟราน ใบหน้าเรียบเฉยนั้นเป็นสิ่งที่เขาได้รับกลับมา
“จะมาทำสำออยอะไรเหรอครับ วองโกเล่รุ่นที่ 10”
เสียงหวานเอ่ยอย่างเฉยชา ได้ยินทั้งหมดแล้ว .บทสนทนาที่แสนน้ำเน่านั่น
สึนะโยชิ ..เป็นคนดีแค่ฉากหน้า เรื่องนี้เขารู้มาตั้งแต่แรก
ใครจะฉลาดเรื่องลวงหลอก ได้เท่าผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกเล่า
คงมีแต่ผ.บ.ผมยาวสุดงั่งนั่นที่ไม่รู้เรื่องนั้นจนโดนแย่งบอสไป .
“พ .พูดเรื่องอะไรน่ะ ฟราน”
สึนะเอ่ยละล่ำละลัก ใบหน้าหวานเริ่มเบ้ราวกับจะร้องไห้ ฟรานปรายตามองปฏิกิยานั้น ขาเพรียวบางก้าวเข้าไปหา โน้มตัวลงไปเก็บหมวกรูปกบของตัวเองมาปัดฝุ่น เมินเฉยต่อสึนะโดยสิ้นเชิง! ดวงตาสีน้ำตาลเริ่มแข็งกร้าวขึ้น ก่อนจะอ่อนลงอย่างรวดเร็วเมื่อฟรานปรายตามองสบ
“คุณน่ะ หน้าไม่อายจริงๆนะครับ” พูดถ้อยคำร้ายกาจด้วยโทนเสียงเรียบเฉยแต่กลับกระแทกเข้าไปในใจของคนฟังอย่างรุนแรง
“น ..นายว่าฉันงั้นเหรอ” น้ำตาเริ่มไหลมาคลอหน่วยที่ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต ไหล่บอบบางจะสั่นสะท้านไปด้วยแรงอารมณ์ ก่อนจะช้อนขึ้นมองสบดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยอย่างเว้าวอน แต่กลับไม่เห็นแม้แต่อารมณ์ใดๆอยู่ในนั้น
“เปล่านี่ครับ .ผมแค่พูดว่าท้องฟ้าวันนี้สวยจังนะ”
ผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกเดินจากไปแล้ว ร่างบอบบางยังคงนั่งอยู่ที่เดิม วงหน้าหวานแข็งกร้าวอย่างสะกัดกั้นอารมณ์
ผู้พิทักษ์สายหมอกแห่งวาเรีย ร้ายกาจกว่าที่คิดไว้นัก สึนะได้แต่กัดฟันกรอดอยู่ในใจ ไม่อยาก ..จะเป็นศัตรูซึ่งๆหน้ากับคนๆนี้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยคนที่ทำให้เขาเสียท่าอย่างนี้เอาไว้ได้
จะมีทางไหน .ที่ทำให้มันเจ็บช้ำ
เกลียดนัก ..ใบหน้าเรียบเฉยกับท่าทางเฉยชา
เด็กนี่ .รับมือได้ยากกว่าสควอโล่
ฟรานไม่ใช่คนช่างฟ้อง เขารู้ดี .แต่อะไรจะทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กนั่นจะไม่เข้าข้างสควอโล่ ในเมื่อมันเป็นคนรักของเจ้าชายวิปริตเบลเฟกอล
อ่ะ เบลงั้นเหรอ
ร่างบางยิ้มเหี้ยมเกรียม
บางที ความรักก็เป็นจุดอ่อนได้ง่ายดายมากกว่าที่คิด
อยากจะทำลายให้มันย่อยยับ ..ทั้งฉลามคลั่งแสนสวยที่เขาเกลียดชัง ..ทั้งผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกที่แสนเย็นชาแต่กลับได้ความรักเปี่ยมล้นจากเจ้าชายผู้ไม่เคยรักใคร
คนสองคนกับหัวใจของเหล่าวาเรีย ..
บางที ..เแซนซัสอาจจะไม่เคยรักเขาเลย
TBc.
แซนซัสกับคุณไม่เหมาะกันเลยสักนิด .
ร่างบอบบางเหวี่ยงดาบฟันศัตรูที่ดาหน้าเข้ามาอย่างโกรธแค้น เสียงกรีดร้องที่ดังระงมไปทั่วกับอาการดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ความตายจะมาพรากไม่อาจดังเข้าไปในโสตประสาทของฉลามคลั่งผู้โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
สควอโล่แทงศัตรูอย่างไม่ยั้งด้วยปลายดาบคมกริบ หันขวับไปรับสิ่งที่พุ่งตรงมาจากด้านหลังด้วยสันดาบ ร่างบอบบางนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสีเดียวกับเส้นผมยืนอยู่ตรงนั้น มือบอบบางนั้นสั่นระริก ปลายกระบอกปืนอันร้อนฉ่ายังคงเล็งมาที่ฉลามคลั่ง
ชวนให้คิดถึงศัตรูหัวใจ
ชอบลอบทำร้ายจากข้างหลังอย่างนี้แหละ .ซาวาดะ สึนะโยชิ
มือเรียวบางปาดาบคู่กายอย่างรุนแรงไปที่ร่างๆนั้นจนปักแทงทะลุหัวใจ นัยน์สีน้ำตาลฉายแววตื่นกลัวเป็นภาพสุดท้ายที่ได้เห็น เมื่อมือบางกระชากดาบคู่กายคืนมาอย่างแรง จนเลือดสาดกระเซ็น
ในใจนึกจินตนาการให้เป็นไอเด็กรุ่นที่ 10 นั่นที่มาตายอยู่ตรงนี้!
สควอโล่หอบอย่างรุนแรงกับคลื่นอารมณ์ที่โหมพัดราวกับวรุณคลั่งในคืนมืดมิด ก่อนจะรู้สึกได้ถึงมือเย็นเยียบแตะแนบที่แก้มของตนเอง เงยหน้ามองตามมือนั้นก็พบร่างสูงของเจ้าชายนักฆ่ายืนอยู่ ผมสีทองปิดบังดวงตาอย่างเคย ข้างกายมีเจ้าเด็กปากเสียหมวกกบ รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเป็นห่วงนั้น แม้แต่ฟรานก็ยังไม่จิกกัดอย่างเคย
“สควอโล่ เป็นอะไรมากมั้ย ชิชิชิ” เบลเลื่อนมือไปแตะที่หน้าผากกลมมนของร่างบาง “ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็ ..เจ้าชายว่าบอส .”
“รุ่นพี่ครับ ” ฟรานพูดขึ้นขัดจังหวะสนทนา เจ้าชายชะงักหันไปมองร่างนั้น .ใบหน้าหวานของฟรานส่ายไปมา เบลเบ้ปากแต่ก็ยอมเงียบแต่โดยดี สควอโล่มองอากัปกริยาแล้วหัวเราะออกมา
“ฉันไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้น เบล .ฆ่าศัตรูเสร็จแล้วรึไง ฟราน ท่าทางของแกทำชั้นขนลุก ฉันไม่ได้คิดมากอะไรขนาดให้พวกแกสองคนมาเป็นห่วง รู้ไว้ซะ”
“ท่านผ.บ.งี่เง่า ไม่ทราบว่าใครเป็นห่วงครับ หลงตัวเองไปหน่อยมั้ง”
เสียงนิ่งเฉยแต่กวนประสาทดังขึ้นมาทันที สควอโล่คิ้วกระตุก มือบางยกดาบขึ้นมาเตรียมจะตัดปากไอเด็กปากเสียให้เป็นชิ้นๆ แต่ติดที่เจ้าชายนักฆ่ายึดข้อมือบอบบางนั้นเอาไว้ รักกันจริงๆ ไอเด็กเวรพวกนี้ ร่างบางสบถพรืด
“ฉันจะไปเดินเล่น พวกแกสองคนกลับปราสาทไปรายงานบอสก่อน ไม่ต้องตามมานะ!” สองขาเรียวยาวเดินจากไป ทิ้งภาพซากศพเกลื่อนกลาดกับเลือดที่ไหลนองเต็มพื้นไว้เบื้องหลัง เบลหันไปมองใบหน้าหวานๆของฟรานที่กำลังทำหน้าลำบากใจ อย่างเห็นได้ไม่บ่อยนัก
“มันเรื่องอะไรกันน่ะ ชิชิชิ เจ้าชายไม่ชอบเห็นสควอโล่เป็นงี้เลย” เจ้าชายนักฆ่าเบ้หน้า แต่ฟรานกลับเลือกที่จะเงียบ
ขืนมันรู้เรื่องนั้น วองโกเล่รุ่นที่ 10 นั่นได้กลายเป็นทูน่าบะช่อแน่
ยังดีที่คนรู้เห็นเรื่องนั้นคือเขา
ทำไงได้ล่ะรอบข้างเขาก็มีแต่พวกปัญญาอ่อนทั้งนั้น ..แต่เขาก็คงปัญญาอ่อนกว่าที่มาอยู่กับคนพวกนี้ ..แถมยังหลงรักคนที่ปัญญาอ่อนที่สุดในหมู่พวกนั้น
ไม่อยากเชื่อว่าท่านผ.บ.ขี้เกี๊กกับวองโกเล่รุ่นที่10 นั่น
ฟรานลอบถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับออกจากสถานที่นั้นเคียงคู่ไปกับเจ้าชายนักฆ่า โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ในอนาคตข้างหน้านั้น ตนเองจะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของฉลามคลั่งแห่งวาเรียจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้
ความสัมพันธ์ที่เก็บซ่อน ..และความรักอันตราย
ไหนใครบอกว่า การเดินเล่นจะช่วยผ่อนคลายจิตใจ อย่าให้รู้นะ แม่จะเอาดาบไปกระซวกไส้ให้หมดเลย ร่างบางคิดอย่างโมโห เป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วที่เขาเดินอยู่เพียงลำพังภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ รกร้าง ว่างเปล่า เหมือนกับอารมณ์ของเขา แสร้งทำเป็นโมโห หากแต่ส่วนลึกในจิตใจนั้นกลับอ้างว้าง
แซนซัสกับคุณไม่เหมาะกันเลยสักนิด ..
ทั้งๆที่ไม่ควรใส่ใจ แต่กลับคิดถึงแต่ประโยคนี้ราวกับเป็นบ้า
ร่างเพรียวบางกัดริมฝีปากแน่น เคลื่อนตัวลงนั่งที่ชิงช้าสนิมเขรอะ นัยน์ตาสีน้ำแข็งที่มักทอประกายเยือกเย็นหลับลงอย่างช้าๆ
“สควอโล่”
เสียงหวานใสที่ดังขึ้นข้างหู เรียกให้ฉลามคลั่งผู้นอนเอกเขนกอยู่ใต้ร่มไม้รอเวลาปฏิบัติภารกิจลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงหน้าน่ารักของสึนะโยชิปรากฏขึ้นกับสายตา ด้วยความตกใจ สควอโล่ผลักร่างนั้นอย่างเต็มแรงจนลอยไปกระแทกก้อนหินใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นพรวดอย่างรวดเร็ว มือเรียวกระชับดาบคู่กายข้างเอวเอาไว้แน่น
“โอ๊ย ..เจ็บนะ” เสียงหวานครางหงิงๆเหมือนกับแมวคราง น้ำตาเริ่มคลอหน่วยที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มือบอบบางยกแขนตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่ารอยเลือดที่ไหลซิบๆมาตามปากแผลนั้น
“เจ็บเป็นด้วยรึไง” แทนที่จะสงสาร ฉลามคลั่งแห่งวาเรียกลับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา นัยน์ตาสีน้ำแข็งจับจ้องไปที่แผลนั้นก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้กับท่าทางสำออยของสึนะโยชิ แผลแค่นี้ร้องจะเป็นจะตาย ทีแผลต่อสู้ไม่เห็นร้องสักแอะ!
สึนะหยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบจะทันที รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนริทฝีปากอิ่ม ดวงตาที่เคยไร้เดียงสาทอประกายแข็งกร้าวจนเปลี่ยนเป็นคนละคน
“เหอะ! รู้ตัวช้าอย่างนี้ ไม่น่าแซนซัสถึงไม่เอา”
“นี่แก!”
มือเรียวบางตวัดดาบทาบลำคอบอบบางของสึนะ เรียกเลือดให้ไหลซิบๆหยาดหยดลงมาตามลำคอเรียวระหงส์ แต่ถึงกระนั้น รอยยิ้มเยาะก็ยังคงปรากฏบนใบหน้านั้นไม่เปลี่ยนแปลง และมัน ..ทำให้สควอโล่โมโหมากกว่าครั้งไหนๆ ทำร้ายร่างกายกัน ยังไม่เจ็บใจเท่าที่เด็กนี่มายืนลอยหน้าลอยตาเยาะเย้ยเขาอยู่อย่างนี้!
กัดริมฝีปากตัวเองอย่างข่มอารมณ์ มือเรียวกำด้ามดาบคู่ใจไว้แน่นก่อนจะตัดสินใจเอาออกไปจากลำคอนั้น ไม่วายเฉียดไปโดนแก้มใสทิ้งร่องรอยบาดลึกเป็นทางยาวข้างแก้มเป็นของแถม สึนะเบ้ปาก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายเจิดจ้าสั่นระริกไปด้วยความพึงพอใจ มือเรียวปาดโลหิตสีแดงสดก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นเล้าเลียโลหิตนั้น
“รู้มั้ย มี 3 เหตุผลที่คุณเอาชนะผมไม่ได้” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ข้อ 1 คุณมันงี่เง่าดีแต่ใช้กำลัง ข้อ 2 คุณมันก็เป็นได้แค่ฉลามสวะสวะในความคิดของแซนซัส และข้อ 3ที่สำคัญที่สุด เพราะผมเป็นคนกุมหัวใจของแซนซัส ความรักของคุณมันก็แค่เศษหินริมทาง ไม่มีใครหรอกนะที่จะบ้าเก็บก้อนหิน มีแต่เตะทิ้งอย่างไม่ไยดี”
ฉลามคลั่งแห่งวาเรียได้แต่ยืนอึ้งกับคำพูดร้ายกาจที่ออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวยเคลือบยาพิษ ถ้อยคำเลวร้ายแต่กลับไม่อาจโต้แย้งได้เลย มันเป็นความจริง .ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ร่างบางกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น ทั้งที่คิด .ว่าจะแย่งชิงมาแท้ๆ เจอคำพูดแบบนี้ ..แค่นี้ ..ก็ยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ .น่าสมเพชนักสควอโล่
“จะบอกอะไรดีๆให้นะ ไอดาบงี่เง่านั่นจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวคุณเอง สุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องเป็นผู้ชนะ เพราะ แซนซัสกับคุณไม่เหมาะกันเลยสักนิด จำคำผมเอาไว้ คุณรองหัวหน้าหน่วยวาเรีย”
ร่างบอบบางของสึนะโยชิเดินผละออกมาพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจบนริมฝีปากที่ไม่จางหาย เดินเลี้ยวหัวมุมชนเข้ากับใครบางคนจนกระเด็นไปคนละทาง
“โอ๊ย!” เสียงหวานครางอย่างแผ่วเบา พร้อมๆกับที่คนตรงหน้าลุกขึ้นยืนมาด้วยตัวเอง หมวกรูปกบกระเด็นมาตรงเท้าของสึนะ
ฟราน งั้นเหรอ
“ใจคอจะไม่ช่วยกันเลยรึไง” สึนะเอ่ยอย่างตัดพ้อ วงหน้าหวานเงยขึ้นมองสบกับดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยของฟราน ใบหน้าเรียบเฉยนั้นเป็นสิ่งที่เขาได้รับกลับมา
“จะมาทำสำออยอะไรเหรอครับ วองโกเล่รุ่นที่ 10”
เสียงหวานเอ่ยอย่างเฉยชา ได้ยินทั้งหมดแล้ว .บทสนทนาที่แสนน้ำเน่านั่น
สึนะโยชิ ..เป็นคนดีแค่ฉากหน้า เรื่องนี้เขารู้มาตั้งแต่แรก
ใครจะฉลาดเรื่องลวงหลอก ได้เท่าผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกเล่า
คงมีแต่ผ.บ.ผมยาวสุดงั่งนั่นที่ไม่รู้เรื่องนั้นจนโดนแย่งบอสไป .
“พ .พูดเรื่องอะไรน่ะ ฟราน”
สึนะเอ่ยละล่ำละลัก ใบหน้าหวานเริ่มเบ้ราวกับจะร้องไห้ ฟรานปรายตามองปฏิกิยานั้น ขาเพรียวบางก้าวเข้าไปหา โน้มตัวลงไปเก็บหมวกรูปกบของตัวเองมาปัดฝุ่น เมินเฉยต่อสึนะโดยสิ้นเชิง! ดวงตาสีน้ำตาลเริ่มแข็งกร้าวขึ้น ก่อนจะอ่อนลงอย่างรวดเร็วเมื่อฟรานปรายตามองสบ
“คุณน่ะ หน้าไม่อายจริงๆนะครับ” พูดถ้อยคำร้ายกาจด้วยโทนเสียงเรียบเฉยแต่กลับกระแทกเข้าไปในใจของคนฟังอย่างรุนแรง
“น ..นายว่าฉันงั้นเหรอ” น้ำตาเริ่มไหลมาคลอหน่วยที่ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต ไหล่บอบบางจะสั่นสะท้านไปด้วยแรงอารมณ์ ก่อนจะช้อนขึ้นมองสบดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยอย่างเว้าวอน แต่กลับไม่เห็นแม้แต่อารมณ์ใดๆอยู่ในนั้น
“เปล่านี่ครับ .ผมแค่พูดว่าท้องฟ้าวันนี้สวยจังนะ”
ผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกเดินจากไปแล้ว ร่างบอบบางยังคงนั่งอยู่ที่เดิม วงหน้าหวานแข็งกร้าวอย่างสะกัดกั้นอารมณ์
ผู้พิทักษ์สายหมอกแห่งวาเรีย ร้ายกาจกว่าที่คิดไว้นัก สึนะได้แต่กัดฟันกรอดอยู่ในใจ ไม่อยาก ..จะเป็นศัตรูซึ่งๆหน้ากับคนๆนี้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยคนที่ทำให้เขาเสียท่าอย่างนี้เอาไว้ได้
จะมีทางไหน .ที่ทำให้มันเจ็บช้ำ
เกลียดนัก ..ใบหน้าเรียบเฉยกับท่าทางเฉยชา
เด็กนี่ .รับมือได้ยากกว่าสควอโล่
ฟรานไม่ใช่คนช่างฟ้อง เขารู้ดี .แต่อะไรจะทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กนั่นจะไม่เข้าข้างสควอโล่ ในเมื่อมันเป็นคนรักของเจ้าชายวิปริตเบลเฟกอล
อ่ะ เบลงั้นเหรอ
ร่างบางยิ้มเหี้ยมเกรียม
บางที ความรักก็เป็นจุดอ่อนได้ง่ายดายมากกว่าที่คิด
อยากจะทำลายให้มันย่อยยับ ..ทั้งฉลามคลั่งแสนสวยที่เขาเกลียดชัง ..ทั้งผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกที่แสนเย็นชาแต่กลับได้ความรักเปี่ยมล้นจากเจ้าชายผู้ไม่เคยรักใคร
คนสองคนกับหัวใจของเหล่าวาเรีย ..
บางที ..เแซนซัสอาจจะไม่เคยรักเขาเลย
TBc.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น