กระจกวิเศษของก้องเกียรติ
เป็นแนวแฟนตาซีวายนะครับใครสนใจก็รบกวนเวลาอ่านหนิดหนึ่งอาจจะงงอยูู่บ้างบางตอนแต่รับรองนะครับว่าจะพยายามให้ดีที่สุด
ผู้เข้าชมรวม
84
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“เสียงเรียกร้องของสมาชิกใหม่”
“แพร๊งงงงงงงงงงงงงง”
เสียงกระจกแตกจากห้องโถงในสุดของบ้านคือต้นเหตุที่พาคนรับใช้ทั้งหลายแหล่รวมถึงคนในบ้านต่างวิ่งกรูเข้ามามองไปที่ชายร่างเล็กที่อยู่ๆทำหน้าตาตื่นตระหนกจ้องไปยังกระจกที่พึ่งแตก
“คุณหนูเป็นอะไรเหรอคะ”
เสียงคนรับใช้คนหนึ่งถามถึงชายร่างเล็กคนนั้น
“คุณหนู!! คุณหนูคะ คุณหนู!!”
เสียงคนรับใช้เรียกเตือนสติคนตกใจกลัวอย่างรุนแรงให้หันกลับมาตอบ
“ผมเห็น ผมเห็น”
“อย่าบอกนะ!!” เสียงเด็กผู้ชายจากที่ไหนไม่รู้ดังออก
เป็นเสียงใสๆที่ฟังแล้วรู้สึกสงสารคล้อยตาม
“อย่าบอกนะครับ” มันดังขึ้นอีกครั้งจนทำให้ ก้อง หรือ ก้องเกียรติ ต้องตัดสินใจพูด
“ผมสะดุดล้มไปใส่กระจกเองครับไม่มีอะไรเลย”
คนรับใช้รวมทั้งคนในบ้านมึนงงหลังจากฟังคำอธิบายของคุณหนู
“เอาล่ะๆ
ไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปทำงานกันได้แล้ว ไปๆ”
คุณพ่อไล่คนรับใช้ทั้งหมดกลับไปทำงานรวมถึงตัวเองที่ต้องกลับเข้าไปทำงานในห้องมืดๆของเขา
ก้องได้แต่หันมองพ่อของเขาเดินเข้าห้องหลังจากนั้นเขาก็กลับมาคุยกับเจ้ากระจก
“แกใช่ไหมเป็นคนพูดกับฉัน”
เงียบบบบบ ไม่มีเสียงตอบรับ
“นี่!! ฉันรู้ว่าเป็นแก”
ก็ยังเงียบบบ ก้องรู้สึกหงุดหงิดมานิดๆ
ได้...
“นี่จะลองดีใช่ไหม
พังแม้งเลยยย”
ก้องง้างมือพร้อมจะทุ่มแรงทั้งหมดไปที่กระตกร้าวบานนั้นแต่ก็ต้องฉะงักเมื่อมีเสียงที่พึ่งได้ฟังตอบกลับมาเสียงใส
“อย่านะครับ”
มันไม่ได้เป็นเสียงออกคำสั่งแต่กลับเป็นเสียงอ้อนวอนขอร้อง
“นี่ ก้องคุยกับใครนะลูก”
เสียงแลดูสงสัยของแม่ที่พึ่งรากสังขารของตัวเองออกมาจากก้นครัวเพราะมัวแต่สอนน้องสาวหน้าตาสดใสทำตัวเจ้าเล่อยู่ในครัว
“อ๋อ ป่าวครับแม่”
นี่เราบ้าขนาดต้องคุยกับไอ้กระจกบ้าๆนี่เลยเหรอ…เราคุยกับมันจริงๆเหรอ
“ผมว่าคุณควรขึ้นไปที่ห้องของคุณพร้อมผมนะครับ”
เสียงใสๆของเจ้ากระจกดังในหัวของก้อง
…แหม
พึ่งจะมีเสียงก้องในหัวฉันก็จะมาให้ฉันพาแกขึ้นห้องแล้วฝันไปเหอะ!!
“กระจกร้าวๆมันรกหูรกตาแม่มากเลยนะรู้ไหม
เอาขึ้นไปไว้บนห้องของลูกสิจ๊ะแม่ว่าลูกคงจะไม่อยากทิ้งมันใช่ไหม”
แน่นอนสิ ผมไม่อยากทิ้งมันอยู่แล้วก็มันเล่นพูดในหัวได้ขนาดนี้ใครจะไปทิ้งล่ะ
แต่ก็น่า…อยู่ๆมาสั่งให้เอาไปไว้บนห้องด้วยกัน
แล้วแม่ก็ยังมาบอกแบบเดียวกันกับไอ้กระจกนั้นด้วย
“ครับๆ”
เสียงเอื่อยเฉยของก้องทำเอาแม่ถอนหายใจเดินต้วมเตี้ยมเข้าไปก้นครัวสอนน้องสาวสุดตอแหลทำกับข้าวเน่าๆอยู่
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงเดินขึ้นบันไดดังราวกับกำลังแบกคนหนักประมาน
40 กิโลกรัมทั้งๆที่กระจกมันน่าจะเบากว่านั้นมาก
กระจกบ้าอะไรว่ะเนี้ย… หนักชิบหายถ้ามันพูดในหัวฉันไม่ได้ฉันจะเอามันไปเผาไม่ให้เหลือซากเลย
แอร๊ดดดดด!! เสียงเปิดประตูไม้เก่าๆที่ห้องของก้องเกียรติ
“นี่
ถึงห้องฉันแล้วคราวนี้ก็บอกมาส่ะว่าแกเป็นใคร”
ก้องเบิกตากว้างใหญ่กว้าเดิมเมื่อเห็นกระจกแตกร้าวกำลังก่อตัวให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ไง”
ก้องเบิกตากว้างกว่าเดิม
เมื่อเห็นร่างในกระจกเป็นร่างของเขาเอง
“นี่แกบอกมาซะดีๆนะไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่แกชื่ออะไร”
เสียงของก้องเกียรติซึ่งพูดคุยกับกระจกตรงหน้า
เขานึกว่าเขาบ้าเพราะเขารอฟังคำตอบอยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบอะไรมาสักคำ
จนเขาตัดใจคงคิดว่าตัวเองคงฟุ้งซ่านไปเองเพราะเมื่อคืนก็เล่นวีดีโอเกมส์จนดึกดื่น
แต่ก็ต้องชะงักหันตัวกลับมาเมื่อได้ยินเสียงแผ่วใสซึงเขารู้ว่ามันเป็นเสียงของไอ้กระจกนั้น
“อย่าพึ่งสิครับ”
เสียงในหัวของก้องทำให้ก้องจ้องเขมงไปที่กระจกบานนั้นแต่ก็ยังเห็นเป็นภาพตัวเองทำท่าเดียวกับตัวเองซึ่งมันก็เหมือนกันกระจกธรรมดา
“แกชื่ออะไร
ถ้าแกไม่ตอบฉันจะเอาแกไปเผาส่ะ!!”
เสียงข่มขู่ทำให้เสียงที่ปกติจะดังในหัวช้ากลับตอบเร็วดุจดังสายฟ้า
“เดียร์ครับ
ผมชื่อเดียร์”
หึ ชื่อตุ๊ดจังว่ะ
“ครับ
ใครๆก็พูดอย่างงั้น”
เสียงดังขึ้นในหัวก้องเกียรต์ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งด้วยความตกใจ
“อะไรของแก”
เสียงก้องเกียรติถามด้วยความกังวลนิดๆเพราะถ้าเขาคิดไม่ผิดไอ้การที่มันเข้ามาพูดในหัวเขาได้มันก็น่าจะรู้ความคิดของเขาทุกอย่าง
“ครับใช่แล้วเดียร์รู้ทุกๆความคิดของคุณครับ”
หนอยยยย!! แกบังอาจมาก
อยู่ๆก็เข้ามาอ่านความคิดโดยไม่ได้ขอแม้แต่อณุญาติมันน่าทุบทิ้งไหมล่ะ
“อย่านะครับ”
เสียงสอดแทรกทำเอาคนได้ยินเพียงคนเดียวหน้าเสียไปเลย
“เป็นอะไรเหรอครับ
พี่ก้อง”
คำเรียกพี่ทำเอาก้องผมหันกลับมาทำหน้ามึนงง
“ใครให้แกเรียกฉันว่าพี่”
“ก็ผมพึ่งอายุ 14”
ใครจะไปรู้กับแก
แกไม่เคยบอกฉันว่าแกอายุแค่ 14 เห็นว่าเป็นน้องยังจะมาอยู่ในหัวฉันอีก
“แต่ฉันยังไม่ให้แกเป็นน้อง”
“แล้วผมต้องทำยังไงล่ะครับ”
“นั้นมันก็เรื่องของแกสิ”
หึอย่าหวังว่าแกจะมาเป็นน้องฉัน
ฉันมีแค่น้องสาวสุดตอแหลของฉันคนเดียวก็หัวจะระเบิดแล้ววันๆ
นี่จะต้องให้แกมาพูดบ้าทำเพลงอะไรไร้สาระในหัวของฉันโดยไม่เกิดประโยชน์อะไรได้ยังไง
“อ้อ ผมรู้แล้วครับ”
“ห่ะ”
จริงด้วยสิไอ้เจ้ากระจกบ้านี่มันเข้ามาอ่านทุกอย่างที่เขาคิดได้นี่
“แค่มีประโยชน์ก็พอสินะครับ”
เสียงดังขึ้นในหัวก้องเกียรติทำเอาเจ้าตัวครุ่นคิดซักพักตามองขึ้นเพดาน….
“ลองบอกสิว่าแกมีประโยชน์กับฉันยังไง”
ประโยคลองใจหาประโยชน์เข้าตัวของก้องซึ่งเขาไม่รู้หรอกว่าเจ้านี้มันจะมีประโยชน์กับเขายังไง
“ประเด็นหลักๆเลยนะครับ
เดียร์รู้ทุกอย่างเลยนะครับ เวลาที่พี่ก้องเรียนไม่รู้เรื่องก็มาถามเดียร์ได้
เวลาพี่ก้องเหนื่อยเดียร์เล่าเรื่องสนุกๆให้ฟังได้ เวลาพี่ก้องทำตัวโง่ๆตอนทำข้อสอบเดียร์ก็ช่วยพี่ก้องได้”
แหมพูดส่ะอินใจเลยแต่ไอ้ประโยคสุดท้ายเนี่ยมันยั่วโมโหชะมัดเลยถ้าแกไม่ใช่กระจกฉันจะต่อยแกให้น่วมเลย
แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยแค่นี่เกรดต่ำๆของเราก็จะพุ่งพรวดๆ
“ก็ได้ฉันรู้สึกสงสารแกเฉยๆนะ”
“ครับผมรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่แค่นั้น”
แหนะยังจะดื่อ ต้องให้ทุบทิ้งใช่ไหม
“แต่ฉันไม่เรียกแกว่าเดียร์หรอกนะ
ฉันจะเรียกแกว่าไอ้กระจก”
“แต่ผมชื่อเดียร์นะครับ”
“แล้วยังไง หรือมีปัญหา”
“ไม่มีครับ”
เสียงตอบรับดังขึ้นมาในสมองทั้งยังมีเสียงแทรกขึ้นมาอีกเสียงเป็นเสียงของน้องสาวสุดแสบของเขา
“พี่ก้องแม่เรียกลงมากินข้าว”
เออจริงด้วยนี่ตั้งแต่เช้ามาก็ยังไม่ได้กินอะไรมัวแต่คุยกับไอ้เจ้ากระจกบ้านี้
“เดียร์ได้ยินนะครับ”
เสียงดังขึ้นในหัวก้องเกียรติอีกรอบทำเอาเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันตาจนต้องพลันหันหน้าหนีเดินเปิดประตูก้าวแรกที่เดินลงบันได
“ระวัง”
เสียงเดินดังขึ้นในหัวอีกรอบเหมือนจะเตือนเขาเมื่อเจออันตรายอะไรสักอย่าง
แน่นอนฝีมือน้องสาวสุดดื่อด่านของเขาเล่นเขาเอาส่ะแล้ว
แล้วทำไมไม่บอกให้มันเร็วๆล่ะไอ้กระจก
“ผมก็นึกว่าพี่ก้องเห็น”
ไอ้เจ้าบ้า
ก้องเดินต๋อยๆกินข้าวหน้าตาบูดบึ่ง พรางได้ยินเสียง
“เป็นไงบ้างค่ะพี่ก้องเล่นสไลเดอร์สนุกไหมค่ะ”
ฝีมือมันอีกแล้วฝีมือเธอแน่นอนน้องสาวสุกแสบชื่อ’หลิน’
“ฝีมือเธออีกแล้วสินะหลิน
พี่บอกกี่ครั้งแล้วมันอันตรายนะ ถ้าพี่ตายมาจะทำไง”
เสียงพูดตักเตือนถึงความอันตรายแต่ผิดกับน้องตัวแสบที่ไม่สนใจสวนกลับทันควัน
“นั้นสินะคะ
มันก็หลายครั้งแล้วหนิ พี่ก้องก็ไม่เคยจะจำ แต่ถ้าพี่ตายก็ดีไปอีกอย่างนะค่ะ
มรดกจะได้ตกเป็นของหนู”
นี่ดูมันพูด…ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่น้องกันนะฉันจะฆ่าแก!!
สิ้นคำบ่นในหัวของก้องเกียรติก็ดันมีเสียงอีกเสียงแทรกเข้ามา
“55555 โดนน้องแกล้งส่ะงั้น”
ทำไมล่ะ แกอยากถูกจับเผาหรือไงห่ะ
“ครับๆ”
สิ้นเสียงดังขึ้นในหัวแนวเสียงดูเจ้ากระจกคงจะสะใจไม่น้อยนี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นกระจกจะจำมัดปากทรมานให้เข็ดเลย
“ผมอิ่มแล้วครับแม่
หลินฝากล้างด้วยข้อหาเมื่อถ้าไม่ล้างให้พี่โกรธ”
สิ้นเสียงก้องชิงตัววิ่งตรงดิ่งไปที่บันไดแต่กลับลื่นรอยน้ำมันที่คนรับใช้ทำความสะอาดจากที่หลินทาน้ำมันแกล้งพี่ก้อง
“555555555”
หลินหัวเราะอย่างสะใจพรางเก็บจานของทุกคนไปล้างในถานะน้องคนเล็ก
ก้องหันหน้ามองหลินด้วยความเหนื่อยหน่ายกับการกระทำจึงเดินอย่างระมัดระวังก้าวขึ้นบันไดเข้าห้องรกรุงรังของตัวเอง
“เห่อ เหนื่อย”
“นอนพักก็ได้นะครับ”
เสียงดังขึ้นในหัวของก้องเกียรติทำให้คนฟังรู้สึกว่าเป็นคำแนะนำที่ดี
“ขอบใจ”
สิ้นเสียงคนพูดก็พลอยหลับไป
.
..
…
….
ผลงานอื่นๆ ของ seuanoii ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ seuanoii
ความคิดเห็น