ชีวิตในค่ายทหาร - ชีวิตในค่ายทหาร นิยาย ชีวิตในค่ายทหาร : Dek-D.com - Writer

    ชีวิตในค่ายทหาร

    โดย SpOoNGhoSt

    คุณเคยไปฝึกภาคสนามของร.ด.ผลัดสุดท้ายมั้ย.......

    ผู้เข้าชมรวม

    1,653

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.65K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.พ. 53 / 15:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    กระผมนักศึกษาวิชาทหาร ผีช้อน!!!! รายงานตัวครับ

    เรื่องนี้ผมแต่งจากประสบการณ์ของผมตอนไปฝึกภาคสนามเองครับ อาจจะมีคำหยาบมั่งแต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของการฝึกนะครับ ได้โปรดอย่าเพิ่งว่ากันเลยนะครับ

    และที่สำคัญคือตัวละครในเรื่องนั้นเป็นที่สิ่งสร้างขึ้น แต่บางส่วนก็มาจากเรื่องจริงที่ผมประสบพบเจอมา

    และข้อที่สำคัญที่ซู้ดคือ ผมเป็นมือใหม่อาจจะเขียนไม่ค่อยสละสลวยซักเท่าไหร่นะครับ ก็ขออภัยไว้นะที่นี้นะครับ


                                                                                       จากใจ
                                                                                      
                                                                                      ผีช้อนครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                วันที่หนึ่ง
                "ถึงแล้วเหรอวะ" เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาวิชาทหารของโรงเรียนแห่งหนึ่งร้องดังขึ้น
                "เออดิ  ก็ถึงแล้วไงรีบๆใส่หมวกเข้าดิ เดี๋ยวได้ซวยกันหมดนี่หรอก" เพื่อนเขาตอบกลับมา 

                รถสองแถวที่เหล่าร.ด.นั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าของสถานที่ที่คนที่เรียนร.ด.ต่างก็กลัวนักกลัวหนามันคือ.......ค่ายทหารในฤดูกาลฝึกภาคสนาม

                "หมอบ! หมอบ! ไอ้พวกสันหลังยาว รีบๆหมอบเข้าดี้ เดี๊ยะบั๊ดเหนี่ยวให้" เสียงครูฝึกตะโกนสั่งนักศึกษาผู้มาใหม่ทั้งหลายให้หมอบลง "ขอต้อนรับเข้าสู่การฝึกภาคสนามของปีนี้ แล้วนี่ก็ผลัดสุดท้ายด้วย สั่งเลิกแถวให้ไปรวมหน้าอนุสาวรีย์ตรงนั้น ทุกคนทราบ"

                "ทราบ!!!!!!!!!"

                "เลิกแถว!!!!!!"สิ้นคำสั่งทุกคนตะโกนดังเฮต่างคนต่างก็วิ่งกันชุลมุนวุ่นวายยกใหญ่ กว่าจะรวมกันเป็นแถวได้ใช้เวลาหลายนาที
                "กอดคอ เร็ว"
                "หา!! อะไรนะ ยังไม่ทันทำอะไรเลยเนี่ยสั่งกอดคอและ" ชิดบ่นพึมพำกับเพื่อนที่กอดคออยู่ข้างๆ
                "เอ็งจะบ่นไรนักหนาวะ แมวที่บ้านตายรึไง" เจมส์ตอบกลับอย่างหงุดหงิดนิ๊ดๆ
                "ยี่สิบครั้ง" ครูฝึกเอ่ยวาจาบอกขนาดการรับโทษ
                "ยี่สิบครั้ง"
                "ปฏิบัติ!!!!!!!!!"
                "หนึ่ง....สอง....สาม........"

               ผมชื่อ ชิด งานดี ในวันนี้ผมต้องมาฝึกภาคสนามกับเพื่อนพ้องโรงเรียนเดียวที่ค่ายนรกนี่ แหม่เซ็งจิตจริงๆ มาถึงที่พวกก็แดกกันซะเละเลย เอาขาลากไปเป็นแถวเป็นกัน บ้างก้หมอบกันไปแล้วห้องพยาบาลกันโม้ดเล้ยแย่จริง ดีนะที่ออมแรงมาไม่งั้นไส้แตก

               "เฮ้ย ไอ้ชิดไปได้แล้ว" เจมส์ตะโกนเรียกเพื่อนสุดซี้
              " เออ เออ เดี๋ยวตามไป"
              "ไวไวนะโว้ย มาม่าไม่เอา แมร่งเด๋วโดนแดกอีก" 

               นี่ก็เพื่อนผมมันชื่อ ชาติ  ดวงเดือน หรือ"เจมส์" ซึ่งผมเองก้ไม่รู้ว่ามันให้ผมเรียก"เจมส์"ทำไมทั้งที่ชื่อมันก็โคตรของโคตรสั้นอยู่แล้วเนี่ย แต่มันผ่านเรื่องร้ายร้ายกับผมมาเยอะแล้ว มันจึงเป็นคนที่ผมไว้ใจได้มากแบบสุโค่ยจริงๆ แม้แต่ตอนนี้
              
               "ขอต้อนรับเข้าสู่การฝึกภาคสนาม ผลัดสุดท้ายของนักศึกษาปีสอง ครูชื่อพันเอกประพจน์ นาวา ป็นผู้ดูแลการฝึกครั้งนี้ ขอให้นักศึกษาทุกท่านตั้งใจฝึกอย่างแข็งขันด้วย แถว.......ตรง!!!"
               เสียงสูดหายสั้นๆห้วนๆดังไปทั่วบริเวณ ก่อนจะจบด้วยการสั่งเลิกแถวแล้วพุ่งเข้าหากองร้อยของตนเอง และแน่นอนสำหรับผมและเพื่อนซี้ย่อมอยู่ร้อยเดียวกันอยู่แล้ว ร้อยไหนน่ะเหรอ

               "ร้อยหนึ่งแถวตอนเรียงสิบจัดแถว!!!" คำสั่งเด็ดขาดดังแทรกเสียงจุ๊กจิ๊กของเหล่านักวิชาการประจำกองร้อย
               เฮ!!!!!!!! เพียงอึดใจหลังสิ้นเสียงตอบรับ ทุกคนตั้งแถวตามสั่งก่อนจะนั่งลงตามออร์เดอร์ใหม่ของครูฝึกประจำกองร้อย
               "ครูชื่อ จ่าสมเกีตรติ พิชิตภัย แต่ขอให้เรียกชื่อครูแบบเท่ๆแว่ แรมโบ้ เข้าใจมั้ย!!!!" ครูฝึกแนะนำตัวซะแบบนี้เอาทั้งผมและคนในกองร้อยหลุดก้ากกันระงม โอ้ยอะไรวะตัวก็คล้ำยังจะส.ใส่เกือกเป็นชื่อฝรั่งอีก    โอ้ยขำท้องแข้งไปหมดแล้ว
               "เมิงขำอะไรกัน วิดพื้นท่าเตรียม ปฏิบัติ"
               ...............โอ้ ไม่น่าเล้ยเรา.............................

              และแล้ววันนี้ผมกับเพื่อนก็ผ่านไปโดยไม่ได้ฝึกอะไรมากมายนอกแบ่งหมวดหมู่และแด๊กกันด้วยกระบวนท่าที่เหล่านักศึกษาคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นวิดพื้น ลุกนั่ง แทงปลาไหล เฮ้อสารพัดจะพูด แล้วก็ไปรับปืนมาอยู่ในความคุ้มครอง เพราะถ้าหายจะได้เจอไม่ใช่น้อยแน่ๆ ถ้าโดนก็วิ่งแบกปืนรอบกองร้อยเป็นอย่างต่ำ 
             
            "อือ...ได้นอนซะทีปวดหลังเป็นบ้าเลย" ผมบอกเพื่อนด้วยเสียงอ่อนล้าในเต๊นท์นอน
            "เออกรุรู้ กรุก็เหนื่อยคื้อกันวะ" เจมส์ตอบกลับ
            "เฮ้ย!!!! มึงคุยอะไรกัน ออกมาเฝ้ายามแทนเพื่อนมึงเลย ไม่ต้องนอนแล้ว" เสียงแรมโบ้ตะโกนผ่านประตูเข้ามา

            ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย........................

          วันที่สอง
            แสงแดดส่องกระทบผิวหน้าที่เต็มไปด้วยลายพรางที่เพิ่งพรางหมาดๆ ตาปรือๆของผมจะหลับมิลับแหล่แล้ว แต่ก็ยังไม่วายเจอเรื่องซวยอีก
             
            "เอ้าวันนี้ให้พวกมึงทำมากหรอก ไปขุดส้วมไปแล้วค่อยแดกข้าว" แร้มโบ้ผู้เหี้ยมโหดสั่งอย่างบ้าคลั่ง
            "คร้าบ.................." ทั้งกองร้อยตอบแบบเอื่อยๆก่อนจะไปหยิบอุปกรณ์กู้อุจจาระทั้งหลายไปรวมแรงเปิดถังขี้ที่หลังกอง กลิ่นของมันช่างหอมหวนชวนดมยิ่งนักถึงกับทำให้เจมส์โวยขึ้นมา

             "อะไรกันนักกันหนา โว้ว โวว โว ให้กูขุดถังขี้เนี่ยนะ" เจมส์บ่นจนเริ่มมีเสียงตอบรับ
             "เออดิ อะไรวะแค่หมวดเดียวก็น่าจะพอแล้วขุดขี้เนี่ย" หนุ่มผิวคล้ำแดนอีสานโวยบ้าง
             "ว้ายตายแล้ว นี่อิฉันจะต้องจับอุจจาระของใครก็ไม่รู้ อี๋หยะแหยง" ลูกสาวแรมโบ้รำพัน
             "มึงเงียบไป อีตุ๊ด!" หนุ่มอีสานเริ่มมีน้ำโห
             "พวกมึงง่ะเงียบ รีบๆทำจะได้รีบๆไปแดก ไอ้...." ผมก็โวยไปตามกระแสสังคม

             ผลเกินคาดทุกคนเงียบแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปจนเสร็จ ทั้งกองร้อยก็ไดกินข้าวสมใจอยาก ไม่นานนักเสียงนกหวีดรวมพลก็ดังขึ้น พร้อมกับภารกิจใหม่ที่ครูแรมโบ้จะแจ้งให้แซ่บ

             "วันนี้จะมีการเดินทางไกล ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมด้วย ทราบ"
             "ทราบ!!!!"
             "ใครมีปัญหาเจ็บป่วยบอก ตายกลางทางขึ้นมาครูไม่รู้นะ ทราบ"
             "ทราบ!!"
       
            วันนี้คงเหนื่อยอีกวันก็พวกล่อให้เดินวนรอบเขานั่นมันไม่เท่าไรหรอก  แต่ไอ้ผู้กองมันดันพาหลงซะได้กินเวลาไปค่อนวัน กลับมาถึงยังไม่วายเอาอีกจนได้นะครูแรมโบ้

              "วิดพื้นท่าเตรียม โทษฐานหลงทางและมาช้า ห้าสิบครั้งปฏิบัติ" คำสั่งถูกถ่ายออกมา ทำเอาเหล่าทหารฝึกหัดทั้งกระอักเลือดไปตามๆกัน และเย็นนั้นเองก็มีอีกคำสั่งที่สำคัญไม่ทำก็ตาย เพราะมันคือการทำอาหารเย็นซึ่งนั่นมันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้มันอร่อย

              "สุมไฟแรงๆจะได้สุก" หนุ่มอีสานสั่งพวกพ้อง
              "มันไม่ไหม้เหรอ" เจมส์แย้ง
              "เออดิ ไม่ไหม้หรอก"
              "แล้วถ้ามันไหม้ล่ะ" ผมเริ่มไม่มั่นใจ
              "ไม่มีทางร้อก" เขายืดอกตอบ
              "กลิ่นอะไรวะ เหม็นเหมือนไหม้ๆ" เพื่อนจมูกไวถามอย่างซีเรียส
              "เฮ้ยข้าวไหม้หมดหม้อเลย" 
              "รีบดับเร็วดี้  เด๋วแมร่งไหม้ป่าหมด"

              และแล้วพวกเราก็ได้กินข้าวสีดำกันทั้งหมู่โดยผู้รู้จากแดนตะวันออกที่ไม่รู้เอาซะเลยว่ามันควรยกออกตั้งนานแล้ว การล้างอุปกรณ์ก็เลยยากขึ้นมากมาย ถึงล้างหม้อเสร็จความซวยก็ยังไม่ได้ดดนล้างไปด้วย
          
               "เห็นมั้ยนี่อะไร หนึ่งตูม ไป!!!" ครูแรมโบ้จัดการต้อนส่งพวกเราทั้งหมู่ลงน้ำตามประสาคนเลี้ยงควาย บ้างก็กระโดดลงไปเอง บ้างก็โดนถีบร่วงน้ำ สุดท้ายก็เปียกกันหมด เอ็งน่าจะฟังข้าบ้างนะเพื่อนอีสาน

                "โอ้ยตายแน่ ขี้กลากขี้เกลื้อนขี้เรื้อนขึ้นตูด กลับบ้านกูขัดยกเครื่องเล้ยให้ตายสิ" เจมส์รำพึงรำพัน
                "เอาเหอะพรุ่งนี้ก้กลับแล้วเอาไรมากวะ" ผมเตือนสติเขา
                "เออ เออ" 
                พอหลับลงได้แป๊บเดียวความเงียบก็ถูกกลบด้วยเสียงกรนอันเหนื่อยล้าของเพื่อนพ้องทั้งหลาย

           วันสุดท้าย
                เสียงแตรรวมพลดังขึ้นที่ลานประชุมกลาง เหล่านักศึกษาต่างดีใจกันมากเพราะนี่มันวันสุดท้ายที่จะอยู่ในค่ายฝึกนี้ แต่ก่อนจะกลับก็เหมือนดังเช่นวันที่สอง คราวไม่ใช่สิ่งที่น่าหยะแหยง

                "วันนี้ครูจะให้ทุกคนเก็บกองร้อยให้สะอาดพร้อมกับคืนปืนมาด้วยทุกคนทราบ"
                
                 เพียงแค่คำสั่งนี้เท่านั้นเราจะได้เป็นอิสระ....ผมคิดแค่นี้แหละ แต่ก้ไม่วายยังมีความรู้อาลัยอาวรณ์ต่อค่ายฝึกนี้ เจมส์เพื่อนผมก็เช่นกัน

                  "มาหาครูมีธุระอะไร" ครูแรมโบ้ยิงคำถามใส่พวกผม
                  "เราจะมาลาครูครับ" ผมสองคนตอบอย่างเข้มแข็ง
                  "เก็บของคืนปืนรึยังหือ" 
                  "เรียบร้อยครับ"
                  "รีบไปรวมกองซะสิเร็วเดี๊ยะพ่อสั่งแดก"
                  "ครับ"
       
                 พวกเราไปเข้าแถวพิธีปิดกันตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ทุกอย่าง หลังจากแยกกองนักศึกษาหลายต่างพากันกลับบ้านกลับช่องของตน ประมาณว่ากูไม่สนแล้วกูจะกลับบ้าน ในขณะที่ผมกับเจมส์กำลังจะขึ้นรถนั่นเอง ผมเห็นครูแรมโบ้ยืนดูอยู่ห่างๆ แววตาตาของครูบอกว่าเราจะต้องได้เจอกันอีกแน่ ผมทำท่าเคารพให้ครู ครูก็ทำกลับมา สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากกว่าตอนแรก แล้วก็เดินขึ้นรถไป

             
      "เราได้เจอกันอีกแน่ครับครูแรมโบ้"

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×