ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ
มิตรภาพ ความรัก ความเศร้า ของชายหนุ่มกับเด็กสาวต่างวัย ในโลกของเกมออนไลน์
ผู้เข้าชมรวม
708
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ
อันโตนิโอ
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : ว่าไงจ๊ะ สาวน้อย
หนมปังทาแยม : เจ๊อยู่ห้องไหนอะ
นกน้อยสีชมพู : ยังเลย เพิ่งเข้ามา หนูล่ะ
หนมปังทาแยม : พึ่งเข้าเหมือนกัน เจ๊เล่นกะหนูนะ ตัวตัว
นกน้อยสีชมพู : อื้อ เอาดิ แต่จะหนุกเหรอ ไม่เล่นสองสองล่ะ เราข้างพี่
หนมปังทาแยม : ไม่อะ อยากเล่นกะเจ๊สองคน นะคะ
นกน้อยสีชมพู : จ้า งั้นหนูไปสร้างห้องรอละกัน
.
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : จ้า เสร็จยัง
หนมปังทาแยม : ห้อง 218 มาเร็ว ๆ
นกน้อยสีชมพู : อื้อ แป๊บนะ
นกน้อยสีชมพู : มาแล้วจ้า เร็วมั้ย
หนมปังทาแยม : กดเลยจิ ^_^
นกน้อยสีชมพู : จ้ะๆ ใจร้อนจัง ^ ^!
...
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : อ้าว เล่น 2-2 เหรอ
หนมปังทาแยม : อือ เปลี่ยนใจแระ เจ๊ข้างหนูนะ
นกน้อยสีชมพู : จ้า เราเปงเพื่อนกันหนิ
หนมปังทาแยม : ไชโย้!
นกน้อยสีชมพู : ^_^!
หลายวันแล้วที่ผมเห็นนกสีขาวบินมาเกาะกิ่งไม้ข้างหน้าต่างห้องยายเมย์ ไม่มีใครกระทั่งตัวเจ้าของห้องรู้ว่ามันมาทำอะไร ลักษณะของมันคล้ายนกเขา ผมแน่ใจว่าใช่ มันไร้คู่ เดียวดาย ตัวเล็กแกร็นเหมือนเด็กรูปร่างไม่สมบูรณ์ ดวงตาคู่นั้นแม้ใสซื่อบริสุทธิ์ ทว่ามันกลับสร้างความเศร้าเหงาโดดเดี่ยวแก่ผู้มองอย่างผมกับเมย์ทุกครั้ง
“นี่เจ้าเมย์ วัน ๆ เล่นแต่เกมคอมพิวเตอร์ ประเดี๋ยวเหอะ ตาจะบอดเอาไม่รู้ตัว” ผมละสายตาจากภาพนอกหน้าต่างหันมาเอ็ดน้องสาวอายุสิบเจ็ดปีที่เอาแต่เล่นเกมเกือบทั้งวัน
“แหม พี่เจ เมย์ปิดเทอมอยู่นะ เดี๋ยวเปิดเทอมก็ต้องกลับหอพักแล้ว ขอเล่นอีกไม่กี่วันเองง่ะ” เด็กสาวทำหน้าไม่พอใจ ผมเดินมาหยุดยืนข้างหลังน้องสาว เขกศีรษะเบา ๆ เป็นการสัพยอกแล้วเลยมองภาพในจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ค่อยสนใจเท่าใดนัก
“เล่นอะไร พี่ไม่เห็นรู้เรื่อง” ผมขยี้เส้นผมอ่อนนุ่มของเมย์เล่น เด็กสาวตอบโดยไม่หันมามอง
“เกมชูตติ้งออนไลน์ แต่แก่ ๆ อย่างพี่คงไม่รู้เรื่องหรอก เนี่ย เมย์กำลังเล่นกับคนอื่นอยู่รู้ป่าว” ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ เมย์พยายามอธิบายความหมายของเกมออนไลน์ให้พี่ชายเข้าใจ ผมพยักหน้า
“อ๋อ แบบมาริโอใช่มั้ย” เมย์แทบจะร้องกรี๊ด
“ม่ายช่าย! นั่นมันรุ่นโบราณสมัยพี่เจแล้ว เนี้ยะ พี่ดูดิ ที่แต่ละคนจะมีชื่ออยู่ข้างใต้เห็นปะ พวกนี้ก็เหมือนเมย์ที่กำลังเข้าไปเล่นอยู่อะ แต่เป็นการเล่นด้วยกันทั้งที่อยู่คนละที่ คนอยู่ไกล ๆ ต่างจังหวัดก็มาเล่นกะเราได้ นี่ตัวของเมย์..” เธอใช้นิ้วชี้จิ้มไปบนจอคอมพิวเตอร์ เป็นรูปเด็กผู้หญิงขับรถถังคันเล็ก ๆ ในฉากคล้ายถ้ำ มีหน้าผาสูงชันสีสันสดสวย คนอื่น ๆ ต่างมีรถเป็นของตัวเอง คอยยิงปืนใหญ่เข้าใส่กันอย่างดุเดือด ภาพที่เห็นดูน่ารัก ไม่โหดร้ายอย่างที่เคยได้ยิน เมย์เล่นคล่องแคล่ว คลิกเม้าส์ กดแป้นพิมพ์มือเป็นระวิง
“อย่าดึกแล้วกัน” ผมปรามน้องสาวก่อนเดินกลับไปห้องตัวเองเพื่อทำงานต่อ
ต้นฉบับ ต้นฉบับ..
คำ ๆ นี้ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาส่งมันให้บรรณาธิการ และโดยเฉพาะยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมันยังไม่ได้ถูกกลั่นออกมาจากหัวสมองของเราทั้งที่กำลังจะเลยกำหนดส่งอยู่รอมร่อ
“ฮัลโหล ว่าไงนายเจ เอ๊ะตกลงคุณยังเป็นนักเขียนให้เราอยู่รึเปล่าน้อ” ผมเกลียดประโยคคำถามแบบนี้มากที่สุด แต่มันก็มักจะได้ยินเสมอแทบทุกเดือน
“อ่า..ฮะ ขอโทษฮะพี่ศุภ ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวขออีกวันส่งให้เลย” ผมต่อรองเวลาทั้งที่ความจริงยังไม่ได้เขียนอะไรออกมาสักตัวเดียว
“บ้ารึเปล่านายเจ คืนนี้ต้องส่ง พรุ่งนี้พี่จะพิมพ์แล้วรู้มั้ย รอของนายอยู่คอลัมน์เดียวนี่แหละ คืนนี้ เข้าใจนะ”
ผมพูดคำว่า “ครับ” หลังจากพี่ศุภ บอกอจอมเฮี้ยบกระแทกวางหูฟังดังโครม หัวสมองเริ่มทำหน้าที่คิด ๆ ๆ คิดเรื่องที่จะเขียน เค้นมันออกมา ลากมันให้หลุดจากกลีบสมองให้จงได้
นกสีขาวพยายามบินจากไป แต่อีกไม่กี่นาทีมันก็กลับมาพร้อมกับอาการเหนื่อยล้า เมย์ทำเสียงเลียนแบบเรียกให้มันสนใจ แต่เจ้านกน้อยกลับเอาแต่นอนซุกตัวกับโพลงบนกิ่งไม้ตลอดวัน
“สงสัยมันจะไม่สบายค่ะพี่เจ เมย์เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่หัน ไม่รู้บินได้รึเปล่า น่าสงสารจังเลยเนอะ” เด็กสาวพูดเป็นเชิงปรึกษา ผมออกความเห็นว่ามันคงบาดเจ็บ ใครสักคนคงยิงมันจนไม่สามารถบินไปไหนได้ เมย์โยนเศษขนมปังกรอบออกไป แต่ไม่มีสักชิ้นที่ตกลงบนกิ่งไม้ใกล้ตัวนกสีขาวตัวนั้นเลย
ความมืดนอกหน้าต่างเหมือนกำแพงกั้นขังความคิดไม่ให้เตลิดไปไกล ผมพยายามจมจ่อมตัวเองอยู่กับข้อมูล ประเด็นที่ต้องการนำเสนอ โครงสร้างเรื่อง ปรุงแต่งมันด้วยสำนวนโวหารให้เกิดอรรถรสชวนติดตาม อ่านทบทวนสองสามครั้ง แก้ไขให้สละสลวย
เฮ้อ..ในที่สุดก็เสร็จจนได้
ผมโล่งใจแม้เปลือกตาจะหนักใกล้ปิด เหลือเพียงส่งงาน เสร็จแล้วจะนอนทั้งวันเลยคอยดู ขยับเม้าส์คลิกต่ออินเตอร์เนต พยายามอยู่สองสามครั้งไม่เป็นผล
เจ้าเมย์นั่นเอง..
ตีสองกว่าแล้วยังเล่นเกมออนไลน์ไม่เลิก ผมเซฟงานลงแผ่นฟรอปปี้ดิสก์เดินถือไปห้องน้องสาว เคาะประตูเบา ๆ
“ทำไมยังไม่นอน กี่โมงแล้ว” เมย์โดนดุทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา เด็กสาวทำตาปรือไม่มีท่าทีหวาดเกรง เธอไม่เคยกลัวผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้อายุเราจะห่างกันถึงสิบปีก็ตาม
“เล่นเก็บคะแนนอยู่อะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เมย์กลับหอแล้ว ไม่ได้เล่นตั้งอาทิตย์”
“พี่ขอส่งอีเมล์หน่อย” ผมชูแผ่นฟรอปปี้ดิสก์สีดำขึ้นมา
“เมย์ยังเล่นอยู่นี่คะ พี่เจส่งพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ” ส่งพรุ่งนี้ผมเป็นได้โดนอีตาศุภด่าเปิงน่ะสิ กลั้นใจตีหน้ายักษ์ใส่น้องสาวจอมดื้อ
“ไม่ได้ พี่ต้องส่งเดี๋ยวนี้ มีภาพด้วย ส่งนาน”
“โห งี้ก็เซ็งดิ เมย์แข่งกับเพื่อนอยู่ด้วยอะ ถ้าเก็บคะแนนไม่มากก็ซื้อของไม่ได้”
“ซื้อของอะไร?”
“คนแก่อย่างพี่ไม่รู้หรอก” เธอว่าผมทั้งที่มือสาละวนอยู่กับแป้นคีย์บอร์ด สาดกระสุนตลก ๆ เข้าใส่กันอย่างเอาจริงเอาจัง
“น้องเมย์ ขอพี่เจส่งงานหน่อยนะครับ” ผมลองใช้ลูกอ้อนเข้าช่วย น้องสาวคนนี้ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบถูกบังคับ แต่เป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร ได้ผล เด็กสาวหันมายิ้ม หากแต่ยิ้มนั้นเจ้าเล่ห์เหมือนคิดอะไรออก
“อะ ให้ส่งก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนค่ะ”
“ฮั่นแน่ เดี๋ยวนี้หัดเรียกร้องกับพี่ชายเหรอ อ่า..อะไรล่ะ ว่ามา”
ตีสามครึ่ง..
“พี่เจ! ดูขีดพลังก่อนซีแล้วค่อยปล่อยสเปซบาร์ ดูดิ๊ เสียเปรียบเลยเนี่ย” ยายเมย์โวยวายกระทืบเท้าเร่า ๆ อยู่ข้างหลังเมื่อเห็นผมเล่นไม่ได้อย่างใจ
“ขอโทษ ๆ เดี๋ยวแก้มือใหม่ คราวนี้ไม่พลาดแน่”
วิธีการเล่นเกมนี้ ผู้เล่นต้องเลือกพาหนะคือรถศึกที่มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งเครื่องจักรและสัตว์ต่าง ๆ บนรถมีปืนใหญ่หนึ่งกระบอก สามารถปรับทิศทางขึ้นลงได้ ผู้เล่นต้องเล็งไปยังข้าศึกซึ่งก็คือผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่งออนไลน์เข้ามา เมื่อยิงถูก พลังของฝ่ายตรงข้ามก็จะลดลง ถ้าลดจนหมดเกลี้ยงก็ถือว่าแพ้ วิญญาณผู้แพ้จะลอยออกจากร่างไป เกมนี้สามารถเล่นแบบตัวต่อตัวหรือเล่นเป็นทีมก็ได้ แล้วแต่จะเลือก
“เมย์อยากได้หมวกกัปตันค่ะ น่ารักมั้ย” ผมมองหมวกสีขาวแบบผู้บังคับการเรือรบที่เธออยากได้ในส่วนของเครื่องแต่งกายในเกม เกมนี้เมื่อแรกเข้าตัวเล่นทุกตัวจะไม่มีเสื้อเกราะหรือหมวกสวย ๆ ใส่ จะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด แบ่งออกเป็นเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย แต่เมื่อเล่นไปเก็บคะแนนไป ได้มากเข้าก็เอาคะแนนเหล่านั้นไปแลกเป็นชุดหรือหมวกต่าง ๆ ตามมูลค่าที่เกมกำหนดมา เมื่อได้แต่งชุดครบครัน ตัวเล่นแต่ละตัวก็จะเริ่มมีสีสันและบุคลิกแตกต่างไปจากเดิม เหมือนเด็กใสซื่อเริ่มเติบโตและก้าวไปในเส้นทางของแต่ละคนตามแต่ใจปรารถนา บ้างก็ดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม บ้างก็ดูเน้นสวยเท่ และมีไม่น้อยที่เน้นเอาแนวโหด รุนแรง
“ทำไมไม่เอาหมวกโจรสลัดล่ะ เท่ดีออก” ผมเสนอความเห็น หมวกโจรสลัดสีแดงฉูดฉาดดี
“แหวะ น่าเกลียด อันนี้แหละ เมย์ชอบ พี่เจต้องซื้อให้ได้ด้วย”
“โอเค ๆ คนอย่างพี่รักษาสัญญาอยู่แล้วน่า”
ข้อแลกเปลี่ยนของเจ้าเมย์คือผมจะต้องเล่นเกมออนไลน์ให้เพื่อเก็บคะแนนในระหว่างที่เธอไปเรียน คืนนั้นเมย์สอนผมเกือบถึงเช้า มันเข้าใจได้ไม่ยากแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน อดคิดไม่ได้ว่าคนที่เล่นเกมออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ๆ แล้วเด็กพวกนี้หากติดเกมเข้า วัน ๆ คงไม่คิดทำอะไรนอกจากนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นเกมทั้งวันทั้งคืนอย่างเจ้าเมย์ กว่าจะเปิดเทอมพ่อแม่กลุ้มใจไปตาม ๆ กัน
วันต่อมา..
เมย์กลับไปอยู่โรงเรียนประจำ ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วของน้องสาวมาคอยปลุกให้คอนโดมิเนียมขนาดสองห้องนอนมีชีวิตชีวาเหมือนสองเดือนที่ผ่านมา ผมเข้าไปทำความสะอาดห้องเมย์ นกสีขาวยังเกาะนิ่งอยู่บนกิ่งไม้ข้างหน้าต่าง มันเริ่มผงกหัวจ้องมองผมเหมือนทักทาย ตากลมสีดำดูคล้ายหม่นหมองลง ผมเลื่อนหน้าต่างบานกระจกออกรับลมบริสุทธิ์ นกน้อยตกใจพยายามกระพือปีกแต่ไม่ขึ้น ผมรีบถอยห่างออกมากลัวมันตกต้นไม้ เจ้านกซุกตัวแนกกับโพรงเหลือแต่หัวกลม ๆ เล็ก ๆ โผล่ออกมาคอยสังเกตการณ์อย่างหวาดระแวง
กดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์
..เจ้าเมย์นะเจ้าเมย์ จะให้พี่ชายกลายเป็นเด็กหรือไงกันนะ..
นึกหน้าน้องสาวตัวแสบออกชัดเจน เมย์ต้องกรี๊ดลั่นบ้านถ้ากลับมาพบว่าผมไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะต้องเล่นเกมเก็บคะแนนจนซื้อหมวกกัปตันให้ได้
“เมย์กลับมาวันศุกร์ ถ้าพี่เจยังซื้อหมวกไม่ได้เมย์จะไม่พูดกับพี่เจอีกเลย ไม่ให้ใช้เน็ตด้วย จะเล่นเกมทั้งคืนไม่นอนเลย”
..บ้าจริง ไม่น่ารับปากส่งเดชเล้ย เสียงานเสียการแท้ ๆ ..
โดยปกติผมเริ่มงานราวช่วงบ่าย อาจเข้าห้องสมุดหรือไปนั่งเขียนตามร้านกาแฟ บางวันครึ้มใจก็ขับรถออกไปนั่งทำงานริมทะเล ดื่มเบียร์เย็น ๆ สักขวดหรือน้ำมะพร้าวแช่น้ำแข็งสักลูก
แต่นี่ดูสิ..ผมต้องอยู่บ้าน คอยดูแลตัวเล่นของเจ้าเมย์ เล่นไปเรื่อย ชนะบ้างแพ้บ้าง จนกว่าจะพอซื้อหมวกบ๊อง ๆ ให้น้องสาวตัวยุ่งได้ ตอนนี้ผมเล่นได้ 12,500 คะแนน หมวกกัปตันต้องใช้ 30,000คะแนน ก็เท่ากับผมมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว ใช้เวลาอีกไม่น่าเกินสามวันก็น่าจะครบ แล้วรับประกันได้เลยว่าผมจะไม่แตะเกมบ้า ๆ นี้อีกชั่วชีวิต
“ฆ่ามานให้ตายยย” ตัวเล่นของใครคนหนึ่งซึ่งอยู่คนละข้างกับของผมบอกให้เพื่อนร่วมทีมจัดการยิงให้ผมตกจากหน้าผา
“เหวอ กัวแว้วจ้า” เอา..เอากับมันหน่อย ผมพิมพ์คำพูดแบบที่ยายเมย์สอนตามลงไป ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องพูดให้เหมือนเด็กปัญญาอ่อน หรือว่าฟังดูน่ารัก? หรือว่าผมทำงานเกี่ยวกับงานเขียนมากไป? หรือผมแก่เกินวัยที่ต้องมาทำอะไรติงต๊องแบบนี้เสียแล้ว?
“สหาย เรามาช่วยแว้ว” ตัวเล่นทีมผมไสช้างแมมมอธสีขาวเข้ามาอย่างห้าวหาญ ยิงแท่งน้ำแข็งด้วยวิถีโค้งกระแทกคู่ต่อสู้จนสะเทือนไปทั้งคัน ส่งผลให้ขีดพลังลดลงหมดเกลี้ยง
“แว้ก ตายสิคับแบบนี้” บอลลูนคำพูดปรากฏเหนือหัวตัวเล่นที่โดนยิงพร้อมกับวิญญาณลอยละล่องออกจากสมรภูมิ
“ลาก่อนค้าบ เล่นให้หนุก ๆ นะ”
“บายเจ้าค่ะ” ผมเคาะแป้นตอบ ขำตัวเองที่ทำอะไรเหมือนเด็ก ๆ ทั้งที่ตัวเองอายุปาเข้าไปยี่สิบเจ็ดปีแล้ว
ผมเขียนบทความลงนิตยสารเป็นงานหลัก เขียนนิยายเป็นงานอดิเรก คำพูดของตัวละครทั้งชายและหญิงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม ตัวเล่นของเจ้าเมย์เป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก เธอตั้งชื่อให้ว่า “นกน้อยสีชมพู” มีนิสัยคุยเก่ง ขี้อ้อน ใจน้อยและขี้บ่น อันเป็นลักษณะนิสัยของเจ้าเมย์ทั้งสิ้น
นกน้อยสีชมพูมีเพื่อนในโลกเกมออนไลน์หลายคน ผมต้องรับภาระสวมบทบาทน้องสาว คอยเจรจาโต้ตอบด้วยลีลาการพูดให้เหมือนตัวเจ้าของ ไม่ยาก แต่สมเพชตัวเองเล็กน้อย ผมทำได้ดีทีเดียว ไม่มีใครสังเกตรู้ว่านี่ไม่ใช่นกน้อยสีชมพูตัวจริง สิ่งที่แย่ของผมมีอย่างเดียวคือเทคนิคการเล่นอันซับซ้อนวุ่นวาย ผมยิงไม่แม่น คำนวณองศากับแรงลมอันมีผลต่อการยิงไม่เก่ง การทำคะแนนให้มาก ๆ มีทางเดียวคือต้องเล่นให้บ่อย และพยายามจับคู่กับคนเก่ง ๆ เข้าไว้
ในโลกไซเบอร์คือโลกเสมือนจริง ทว่าไร้ตัวตน มีเพียงคำพูดกับภาพสมมติให้เราได้เพลิดเพลินไปกับมัน หลายคนนั่งเล่นได้ตั้งสามสี่ชั่วโมง และมีไม่น้อยเลยที่ผมรู้จักจากการคุยในเกมว่าสามารถเล่นได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่นอนหรือแม้กินข้าว
เป็นธรรมเนียมหรืออย่างไรไม่ทราบว่าตัวเล่นที่เป็นเด็กผู้หญิงจะต้องโดน “จีบ” โดยตัวเล่นที่เป็นเด็กผู้ชาย อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์การออกแบบตัวการ์ตูนให้น่ารักน่าเอ็นดู บวกกับความคึกคะนองด้วยไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตาหรือแม้เสียงกันจริง ๆ ทำให้ฝ่ายชายกล้าที่จะ “เจ้าชู้” ได้กับทุกคนที่เป็นผู้หญิงโดยไม่สนใจว่าตัวจริงของคนเล่นจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
“ว้าว น้องสาว น่ารักเจรง ๆ” ตัวเล่นตัวหนึ่ง สวมหน้ากากฮอกกี้เหมือนเจสันในเรื่องศุกร์สิบสามซึ่งทำให้มีความทนทานสูงเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นนกน้อยสีชมพู
“ขอบคุงค่า” อ้ายโง่เอ้ย ผมนึกในใจขณะพิมพ์ตอบ..ตูผู้ชายเฟ้ย
“ขอเบอร์หน่อยจิ”
“ไม่อะ เค้ายังไม่รู้จักตัวเองซักหน่อย” ผมรัวแป้นพิมพ์แล้วกดเอ็นเตอร์ คำพูดหลั่งไหลไปตามที่คิด สมเพชทั้งตัวเองทั้งเจสัน
“อายุเท่าไหร่จ้ะ เราสิบห้าแว้ว”
“ชั้นสิบเจ็ดย่ะ” ผมพิมพ์ไปหัวเราะไป เจ้าเจสันยังเจ้าชู้ไม่เลิก แต่ก็อุตส่าห์ระดมยิงจนนกน้อยสีชมพูพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าติด ๆ กันหลายเกม
“ลื้อ เอ้ย ตัวเองเก่งง่ะ เค้าเลิกแระ” ไม่รอมันตอบ ผมคลิกออกทันที ไปหาห้องใหม่ที่น่าจะมีมืออ่อน ๆ มาเล่นให้ผมได้ชนะบ้างต่อไป หาไม่แล้วนกน้อยสีชมพูก็จะไม่ได้สวมหมวกกัปตัน และผมก็จะโดนเจ้าเมย์เล่นงานเมื่อถึงเย็นวันศุกร์
ถ้าพ่อแม่ยังอยู่ พวกเราคงอบอุ่นกว่านี้ เมย์คงไม่ต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ ไม่ติดเกมไม่ติดเพื่อนเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ผมดูแลเงินในบัญชีที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพร้อมแม่ เงินทั้งหมดผมตั้งใจเอาไว้ใช้เพื่อการศึกษาของเมย์ ตัวผมหาเงินได้ไม่ลำบากนัก แต่ถึงขนาดส่งเสียเมย์ให้เรียนโรงเรียนดี ๆ แพง ๆ อย่างนี้คงเกินกำลัง
“ถ้าให้ส่งเมย์เรียน พี่จะต้องเขียนลงนิตยสารสักสามสิบเล่ม เฉลี่ยเขียนวันละหนึ่งบทความห้ามหยุด เมย์ไม่สงสารพี่เหรอ” ผมเคยพูดกับเมย์ในวันที่เด็กสาวดื้อดึงจะซื้อโทรศัพท์มือถือโดยใช้เงินในบัญชี เธอให้เหตุผลว่าเพื่อนทุกคนล้วนมีกันหมด เหลือเธอคนเดียวที่กลายเป็นแกะดำ
“เมย์ฟังพี่นะ เรามีกันแค่สองคน ไม่มีพ่อแม่มาเลี้ยงดูอีกแล้ว พี่เองก็เป็นแค่คอลัมนิสต์กระจอก ๆ โทรศัพท์มือถือพี่ก็ไม่มีเหมือนกันเพราะไม่เห็นว่าจะจำเป็น ถ้าเงินในบัญชีของพ่อหมด น้องก็จะไม่ได้เรียนสูง ๆ เราต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด อย่าสนใจคำพูดของเพื่อนพวกนั้น ถามจริง ๆ เหอะ มันจำเป็นนักเหรอที่จะต้องมีโทรศัพท์มือถือกันน่ะ เมย์เชื่อพี่นะ แล้วถ้าน้องจบมามีงานทำหาเงินได้เองเมื่อไหร่ น้องจะซื้อกี่เครื่องก็เอาเลย พี่จะไม่ห้ามสักคำ”
เด็กสาวน้ำตาซึม ผิดหวัง แต่ก็พยักหน้ายอมรับโดยดี เมย์เป็นเด็กดื้อแต่ฉลาด และรักผมมากที่สุด
..
“นกน้อยสีชมพู ต้องดูทิศทางลมก่องจิ”
ผู้เล่นทีมผมร้องเตือนเมื่อเห็นนกน้อยสีชมพูยิงพลาดหลายครั้ง เราเล่นเกือบเข้าขากัน เพียงแต่เธอต้องคอยสอนวิธีการเล่นและทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ผมเสมอ จนถึงตอนนี้ นกน้อยสีชมพูก็ยังไม่มีหมวกกัปตันสวมในขณะที่ “หนมปังทาแยม” คู่หูของผมสวมหมวกซานตาครอสสีแดงมีปุยสีขาวตรงปลายดูน่ารักไปเรียบร้อยแล้ว
“จ้า จะพยายามนะจ๊ะ” ผมเคาะแป้นตอบกลับไป แล้วทำตามที่เธอแนะนำ
“เหงมะ ยิงถูกแว้ว อิอิ” หนมปังทาแยมเอ่ยชม เกมนั้นเราชนะ ผมมีคะแนนจวนเจียนสามหมื่นเต็มที
“หนมปังทาแยมอายุเท่าไหร่แล้ว เล่นเก่งจังเลย” ผมถามระหว่างเล่นเกมต่อไป หนมปังทาแยมเล็งเป้าแล้วยิงออกไปหนึ่งนัดก่อนตอบ
“สิบสอง” ผมถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
“ตัวเองล่ะ” เธอถามบ้าง
“สิบเจ็ด” ไม่ได้โกหก ก็เจ้าเมย์อายุเท่านี้จริง ๆ นี่
“งั้นหนูเรียกเจ๊ได้ปะ”
“อื้อ ได้จิ ไม่ว่ากัน”
.
หนมปังทาแยม : เจ๊ ๆ มาเล่นกัน
นกน้อยสีชมพู : มาเลย สาวน้อย นอนดึกนะวันนี้
หนมปังทาแยม : นอนมาตอนค่ำแว้ว รอเล่นกะเจ๊อะดิ
นกน้อยสีชมพู : เหรอจ๊ะ ตอนค่ำพี่อ่านหนังสือเรียนจ้ะ หนูก็ต้องอ่านด้วยนะ
หนมปังทาแยม : ไม่อ่าน หนูไม่ต้องไปโรงเรียน
นกน้อยสีชมพู : ไมอะ เปิดเทอมแล้วนะ
หนมปังทาแยม : หนูไม่ต้องไปโรงเรียนก็แล้วกัน เจ๊จะเล่นกะหนูป่าว
นกน้อยสีชมพู : เล่นจิ ๆ ไปเลือกห้องกัน
อากาศร้อนระอุยามบ่าย ใบไม้ไม่กระดิก นกสีขาวอาศัยร่มเงาไม้ใหญ่ซุกหลบคมแดด มันผ่ายผอมลงจนแม้ผมซึ่งเห็นมันทุกวันยังดูออกชัด ผมซื้ออาหารนกมาจากร้านโยนไปให้ มันตกใจกระเสือกกระสนเหมือนทุกครั้ง ผมแอบดูมันจากหน้าต่างห้องเมย์ นกน้อยค่อย ๆ โผล่หัวออกมาจิกกินอาหาร ได้เพียงไม่กี่เม็ดเพราะส่วนใหญ่ตกหล่นลงไปข้างล่างหมด
หนมปังทาแยม : เจ๊ ๆ
นกน้อยสีชมพู : ว่าไงจ๊ะ
หนมปังทาแยม : มาเล่นกัน
นกน้อยสีชมพู : มาเล้ย
หนมปังทาแยม : ไมวันนี้เจ๊เล่นตอนกลางวัน
นกน้อยสีชมพู : หยุดเรียนจ้ะ ไม่ค่อยสบาย
หนมปังทาแยม : เปงไรอะ
นกน้อยสีชมพู : อือ เป็นหวัดนิดหน่อยอะ เดี๋ยวก็หายแล้ว
หนมปังทาแยม : ต้องนอนพักเยอะ ๆ นะ
นกน้อยสีชมพู : จ้า ขอบใจนะจ๊ะ
หนมปังทาแยม : เจ๊โชคดีจัง เปงแค่หวัด
นกน้อยสีชมพู : ไมอะ หนูเป็นไรเหรอ
หนมปังทาแยม : มะเร็ง
นกน้อยสีชมพู :
!
หนมปังทาแยม : เจ๊เปงไรไป
นกน้อยสีชมพู : พูดเล่นใช่ปะ หนูไม่ได้เป็นมะเร็งใช่ปะ
หนมปังทาแยม : อื้อ เปงจิ เปงมากด้วย
นกน้อยสีชมพู :
!
หนมปังทาแยม : เจ๊ ๆ มาเล่นกันเถอะ
นกน้อยสีชมพู : อื้อ จ้ะ มาเล่นกัน
.
“พี่เจ เล่นไปถึงไหนแล้ว ซื้อหมวกให้เมย์ได้รึยังคะ”
เสียงแจ๋ว ๆ วิ่งมาตามสายโทรศัพท์ตอนเที่ยงเศษ ปลุกผมให้เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องเจ้าของเสียง
“อือ..เมย์เหรอ ยังไม่ได้ซื้อนะ คะแนนยังไม่ถึง..” เจ้าเมย์โวยขึ้นทันที
“พี่เจอ้ะ! นี่วันพุธแล้วนะ ถ้าวันศุกร์เมย์ยังไม่เห็นหมวกเมย์จะไม่ให้พี่ใช้เน็ตอีกเลยคอยดู เมย์จะไม่
”
ผมไม่สนใจ กดปุ่มปิดสัญญาณโทรศัพท์บ้านไร้สาย โยนมันลงบนเตียงแล้วฟุบลงนอนต่อ
.
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : ว่าไงจ๊ะ คนสวย
หนมปังทาแยม : เจ๊รู้ได้ไงอะ ว่าหนูสวย
นกน้อยสีชมพู : รู้ดิ คนสวยย่อมคบกับคนที่สวยเหมือนกันจ้ะ
หนมปังทาแยม : ^ ^!
นกน้อยสีชมพู : ^ ^
หนมปังทาแยม : เจ๊ยังมะใส่หมวกเหยอ
นกน้อยสีชมพู : อื้อ ว่าจะซื้อหมวกกัปตัน หนูล่ะ
หนมปังทาแยม : หนูมีหมวกซานต้าอยู่แล้ว แต่ว่าจะเปลี่ยน ทีแรกคิดว่าจะช่วยให้หนูหาย
นกน้อยสีชมพู : เหรอจ๊ะ แล้วจะเปลี่ยนเป็นไรดีอ่า
หนมปังทาแยม : หนูอยากได้ผ้าคลุมผมเจ้าสาว
นกน้อยสีชมพู : ทำให้มีพลังเยอะซีท่า
หนมปังทาแยม : ป่าว หนูอยากแต่งงาน
นกน้อยสีชมพู : ^ ^!
หนมปังทาแยม : จิง ๆ นู๋อยากแต่งงาน
นกน้อยสีชมพู : ไมล่ะ หนูยังเด็กอยู่เลย
หนมปังทาแยม : เพราะในชีวิตจิง หนูจะไม่มีทางได้แต่งงานอะ
นกน้อยสีชมพู : มีสิ เด็กน่ารักอย่างหนูต้องมีคนรักแน่ ๆ
หนมปังทาแยม : ไม่มีหรอก เจ๊ หนูอยากแต่งงาน อยากใส่ผ้าคลุมผมเจ้าสาว
นกน้อยสีชมพู :
..
หนมปังทาแยม : เจ๊ ๆ ยังอยู่ป่าว
นกน้อยสีชมพู : อยู่จ้ะ ปะ ไปเล่นเก็บคะแนนกันเถอะ จะได้เอาไปซื้อผ้าคลุมผมเจ้าสาวกัน
..
ผมลงทุนขุดไส้เดือนแถวริมบึงข้างคอนโดมิเนียมมาสามสี่ตัว ซื้อกระชอนตักปลาอันเล็ก ๆ มาผูกติดกับไม้รวกด้ามยาว เอาไส้เดือนใส่ลงไปทีละตัวแล้วค่อย ๆ ยื่นไปที่กิ่งไม้ เจ้านกสีขาวตัวผอมเซียวจ้องมองอย่างสนใจ มันเอียงคอซ้ายทีขวาที ผมไม่กล้ายื่นใกล้ตัวมันมากนัก ค่อย ๆ พลิกวางใส้เดือนห่างจากนกประมาณเมตรเศษ ดูเหมือนมันจะเชื่องกับผมมากกว่าทุกครั้ง ไส้เดือนกระดิกตัวไปมา นกสีขาวผงกหัวขึ้นลง ตากลม ๆ เพ่งมองเหมือนไม่แน่ใจ มันกระโดดไปยังไส้เดือนเหมือนคนขากระเผลก พยายามจิกกินไส้เดือนอวบอ้วนด้วยความหิวกระหาย แต่แล้วไส้เดือนก็เป็นฝ่ายชนะ มันดิ้นฟาดตัวเองจนพลัดตกลงสู่พื้นดินเบื้องล่างจนได้ ผมยื่นตัวใหม่ส่งให้ แต่คราวนี้เจ้านกน้อยกลับแสดงอาการตื่นกลัว ยกปีกกระพือเหมือนจะบิน แล้วลากตัวเองกลับไปซุกยังจุดเดิม
คัตเตอร์ในมือคมกริบ ผมหลับตาปี๋กลั้นหายใจขณะใช้มันหั่นไส้เดือนออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ยื่นส่งให้อีกครั้ง รอสองสามอึดใจ เจ้านกน้อยค่อย ๆ กระเถิบมาจิกกินช้า ๆ ผมน้ำตาซึม ความรู้สึกยามนี้ช่างสับสน ทั้งดีใจกับเจ้านกและเสียใจกับไส้เดือน
.
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : ว่าไง เจ้าหญิง
หนมปังทาแยม : ^_^
นกน้อยสีชมพู : ยิ้มอะไรจ๊ะ ซื้อผ้าคลุมผมเจ้าสาวได้ยัง
หนมปังทาแยม : ยังค่ะ มันแพง กำลังเก็บคะแนนอยู่ แต่คิดว่าคงซื้อไม่ทันแล้วล่ะ
นกน้อยสีชมพู : ไมอะ มาเล่นกัน เดี๋ยวก็ซื้อได้ วันนี้พี่ก็จะซื้อหมวกกัปตันละ
หนมปังทาแยม : อื้อ หนูจาช่วยเจ๊นะ
.
นกน้อยสีชมพู : หนุกจังเลยนะ
หนมปังทาแยม : จ้ะ หนุกที่สุด
หนมปังทาแยม : เจ๊ ๆ
นกน้อยสีชมพู : จ๋า ว่าไง
หนมปังทาแยม : วันนี้เราจะได้เล่นด้วยกันเปงวันสุดท้ายแล้วนะ
นกน้อยสีชมพู : ทำไมล่ะ!
หนมปังทาแยม :
..
นกน้อยสีชมพู : หนู..ทำไมพูดอย่างนี้ เราคู่หูกันนะ
หนมปังทาแยม : เจ๊...หนูจะตายแล้ว
นกน้อยสีชมพู : พูดบ้า ๆ หนูต้องหาย ต้องหาย...
หนมปังทาแยม : เจ๊จ๋า..หนูจะตายแล้ว
นกน้อยสีชมพู : เด็กโง่ รู้รึป่าวว่าพูดอะไรออกมา ตายเตยไรกัน
หนมปังทาแยม : เล่นกะเจ๊หนูมีความสุขที่สุด
นกน้อยสีชมพู : ยังจะมาพูดอีก
หนมปังทาแยม : หนูรักเจ๊ค่ะ
นกน้อยสีชมพู : เด็กโง่
นกน้อยสีชมพู : พี่ก็รักหนูที่สุดจ้ะ
หนมปังทาแยม :
.
นกน้อยสีชมพู :
.
หนมปังทาแยม :
.
นกน้อยสีชมพู :
.
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : ว่าไงจ๊ะ
หนมปังทาแยม : เจ๊มีแฟนยังง่ะ
นกน้อยสีชมพู : ยังจ้ะ พี่ชายไม่ให้มี พี่ดุมาก ๆ
หนมปังทาแยม : หนูขอเปงแฟนเจ๊ได้ปะ
นกน้อยสีชมพู : ได้ไงจ๊ะ เราเป็นผู้หญิงทั้งคู่นะ
หนมปังทาแยม : หนูรู้ เจ๊เปงผู้ชาย
นกน้อยสีชมพู :
..
หนมปังทาแยม : เจ๊เปงผู้ชาย
นกน้อยสีชมพู : หนูรู้ได้ไงอะ
หนมปังทาแยม : หนูเคยเล่นกะนกน้อยสีชมพูมาก่อง การพูดมะเหมืองกันอะ
นกน้อยสีชมพู : แค่เนี้ยะนะ ก็รู้ว่าเป็นผู้ชาย
หนมปังทาแยม : หนูรู้สึก
นกน้อยสีชมพู : เก่งอะ แล้วเรียกเจ๊ทำไม
หนมปังทาแยม : หนูอยากให้เจ๊เล่นกะหนูนาน ๆ นี่
นกน้อยสีชมพู :
..
หนมปังทาแยม : หนูเป็งแฟนเจ๊ได้ปะ
นกน้อยสีชมพู : อื้อ ได้จิ เด็กน่ารักอย่างหนูใครจาไปปฏิเสธได้ล่ะ
หนมปังทาแยม : ขอบคุงค่า หนูรักเจ๊ที่สุด
นอนไม่หลับ...
กระสับกระส่ายจนต้องลุกไปอาบน้ำอีกรอบ เปิดวิดีโอดูก็แล้ว ฟังเพลงก็แล้ว ไม่สำเร็จ เปลือกตาแข็งเหมือนไม้ รู้สึกงุนงงบอกไม่ถูก ลืมตาโพลงในความมืด รอดวงตะวันเปิดม่านสีเงินบนท้องฟ้า นกร้องจิบ ๆ ลมลอดเร้นเข้ามาทางช่องหน้าต่างเย็นยะเยียบ ขนลุกอย่างไม่มีเหตุผล
เปิดห้องเจ้าเมย์ ตรงไปยังหน้าต่าง นกสีขาวยังนอนซมอยู่ที่เดิม ผมรีบลงไปขุดไส้เดือน ทำวิธีการเดิมแบบเมื่อวานก่อนยื่นส่งให้นกน้อยบนกิ่งไม้ ทว่าคราวนี้ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นจากมัน
ตายแล้วหรือ
จ้องมองดี ๆ ยังเห็นดวงตาหลุกหลิกซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาแบบบางที่หลี่คลุมลงเกือบหมด ผมใช้ปลายไม้รวกเขี่ยไส้เดือนให้เข้าใกล้ตัวนกมากที่สุด มันนิ่งเฉยไม่สนใจเหมือนหมดเรี่ยวแรง หมดอาลัยตายอยากในการมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมนึกถึงเด็กน้อยที่เล่นเกมกับผมทุกคืน ช่างใสซื่อบริสุทธิ์ เด็กหญิงอายุสิบสองปีที่ป่วยเป็นมะเร็งและรอวันตาย
จะรู้สึกอย่างไรนะถ้ารู้ว่าจะต้องตายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
คงกลัวจนตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก คงวิ่งแจ้นหาพระหาหมอ ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าทุกคนเกิดมาย่อมต้องตาย แต่ใครล่ะ ที่อยากรู้วันตายของตัว ผมคนหนึ่งที่ไม่
หนมปังทาแยม..นักรบบนหลังรถศึกในเกมออนไลน์ แข็งแกร่ง ห้าวหาญ ปกป้องนกน้อยสีชมพูเกมแล้วเกมเล่า แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เธอกลับกลายเป็นเด็กอ่อนแอที่ป่วยด้วยโรคร้ายใกล้ตาย ไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อน ไม่มีพี่น้อง เกมออนไลน์เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เด็กน้อยได้สัมผัสโลกกว้าง แม้โลกใบนั้นจะเป็นเพียงโลกเสมือนจริง มีผู้คน มีบ้านเมือง มีจินตนาการกว้างไกล ทว่า ทุกสิ่งคือฉากลวงตาอันเกิดจากเทคโนโลยีทันสมัยที่เรียกกันว่าคอมพิวเตอร์
ความฝันของคนมักยิ่งใหญ่เกินมือแห่งความเป็นจริงจะเอื้อมถึง แต่เด็กหญิงไม่หวังให้ตัวหายจากโรค อาจเคยหวังแต่ความหวังนั้นคงดับมอดลงไปเสียนับครั้งไม่ถ้วนจนเกิดความชาชิน ความตายยืนรอตรงหน้าให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดมันคงกลายเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนผู้รอให้เด็กน้อยก้าวข้ามไปสู่ดินแดนของมัน พิภพนั้นจะเป็นเช่นไร อาจมีฉากเหมือนในเกมชู๊ตติ้งออนไลน์ที่ผมเล่นกับเธอทุกวันก็ได้ หรือไม่แน่อาจสวยกว่านั้น สวยจนเกินจินตนาการจะคาดเดา ขึ้นอยู่กับความคาดหวังในโลกหน้าที่ยังมีโอกาสมากกว่าโลก ณ ปัจจุบัน
“พี่เจคะ นกตายแล้วเหรอ” เมย์เสียงซึมเมื่อเห็นร่างสีขาวนอนตะแคง หัวกลม ๆ เล็ก ๆ พับห้อยเกือบตกจากกิ่งไม้
“จ้ะ แต่มันก็พ้นจากความทรมานไปเสียที” ผมกอดไหล่น้องสาวกระชับ
“ไปช่วยกันขุดหลุมฝังศพมันกันเถอะ”
“ค่ะ” เด็กสาวยิ้มเศร้า เอนศีรษะพิงต้นแขนพี่ชาย แล้วเหมือนนึกขึ้นได้ เธอหันขวับกลับมา
“ว่าแต่ว่า พี่เอาคะแนนตั้งหลายหมื่นไปซื้ออะไรหมดเนี่ย หมวกกัปตันก็ไม่เห็นมี อย่าบอกนะว่าไม่ได้เล่นให้เมย์”
.
หนมปังทาแยม : เจ๊ๆ
นกน้อยสีชมพู : จ๋า ว่าไงจ๊ะที่รัก
หนมปังทาแยม : อิอิ เขินนะคะ เจ๊เนี่ยก้อ
นกน้อยสีชมพู : อ๊ะ ก็เป็นแฟนกันนี่
หนมปังทาแยม : ค่ะ
หนมปังทาแยม : เจ๊ หนูไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้เลยอะ
นกน้อยสีชมพู : แล้วมันมีเสียเมื่อไหร่กันล่ะ เราอยู่ในเกม ไม่เคยมีกลางวันกลางคืน ไม่เห็นเหรอ
หนมปังทาแยม : จิงด้วย เจ๊เก่งที่สุด
นกน้อยสีชมพู : หนูต่างหากที่เก่งที่สุด
หนมปังทาแยม : หนูไม่ค่อยไหวแล้วอะเจ๊ หนูง่วง
นกน้อยสีชมพู : งั้นหนูรอพี่แป๊บนะ
หนมปังทาแยม : ไปไหนอะ
นกน้อยสีชมพู : แป๊บ
นกน้อยสีชมพู : ได้รับรึยัง
หนมปังทาแยม : รับไรอะ
นกน้อยสีชมพู : ผ้าคลุมผมเจ้าสาว พี่ซื้อให้หนู เราจาได้แต่งงานกัน
หนมปังทาแยม : อุ๊ย! มาแว้ว จิงด้วย เจ๊ซื้อให้หนูทำไม แล้วหมวกกัปตันล่ะคะ
นกน้อยสีชมพู : ไว้เก็บคะแนนใหม่ เล่นเดี๋ยวเดียวก็ซื้อได้แล้ว ตอนนี้หนูใส่ผ้าคลุมผมเจ้าสาวให้พี่ดูก่องจิ
หนมปังทาแยม : ใส่แว้วนี่ไง สวยจังเลย สวยที่สุด
หนมปังทาแยม : เจ๊..ขอบคุณมากค่ะ
นกน้อยสีชมพู : อื้อ ไปนอนได้แระ แล้วไว้เจอกันใหม่นะ
หนมปังทาแยม : บายค่ะ เจ๊
นกน้อยสีชมพู : บายจ้ะ คนดี
ผลงานอื่นๆ ของ อันโตนิโอ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อันโตนิโอ
ความคิดเห็น