ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ - ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ นิยาย ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ : Dek-D.com - Writer

    ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ

    มิตรภาพ ความรัก ความเศร้า ของชายหนุ่มกับเด็กสาวต่างวัย ในโลกของเกมออนไลน์

    ผู้เข้าชมรวม

    708

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    708

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 มิ.ย. 49 / 10:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ขอมอบความรักเป็นของขวัญแด่เธอ
      อันโตนิโอ



          
               หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


          
               นกน้อยสีชมพู   : ว่าไงจ๊ะ สาวน้อย


          
               หนมปังทาแยม   : เจ๊อยู่ห้องไหนอะ


          
               นกน้อยสีชมพู   : ยังเลย เพิ่งเข้ามา หนูล่ะ


          
               หนมปังทาแยม   : พึ่งเข้าเหมือนกัน เจ๊เล่นกะหนูนะ ตัวตัว


          
               นกน้อยสีชมพู   : อื้อ เอาดิ แต่จะหนุกเหรอ ไม่เล่นสองสองล่ะ เราข้างพี่


          
               หนมปังทาแยม   : ไม่อะ อยากเล่นกะเจ๊สองคน นะคะ


          
               นกน้อยสีชมพู   : จ้า งั้นหนูไปสร้างห้องรอละกัน



                ……….
          


          
               หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


          
               นกน้อยสีชมพู   : จ้า เสร็จยัง


          
               หนมปังทาแยม   : ห้อง 218 มาเร็ว ๆ


          
               นกน้อยสีชมพู   : อื้อ แป๊บนะ


          
               นกน้อยสีชมพู   : มาแล้วจ้า เร็วมั้ย


          
               หนมปังทาแยม   : กดเลยจิ  ^_^


          
              นกน้อยสีชมพู   : จ้ะๆ ใจร้อนจัง  ^ ^!


          
                ………...


          
          
               หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


               
      นกน้อยสีชมพู   : อ้าว เล่น 2-2 เหรอ


          
               หนมปังทาแยม   : อือ เปลี่ยนใจแระ เจ๊ข้างหนูนะ


          
               นกน้อยสีชมพู   : จ้า เราเปงเพื่อนกันหนิ


          
               หนมปังทาแยม   : ไชโย้!


          
               นกน้อยสีชมพู   : ^_^!


          

          
               หลายวันแล้วที่ผมเห็นนกสีขาวบินมาเกาะกิ่งไม้ข้างหน้าต่างห้องยายเมย์ ไม่มีใครกระทั่งตัวเจ้าของห้องรู้ว่ามันมาทำอะไร ลักษณะของมันคล้ายนกเขา ผมแน่ใจว่าใช่ มันไร้คู่ เดียวดาย ตัวเล็กแกร็นเหมือนเด็กรูปร่างไม่สมบูรณ์ ดวงตาคู่นั้นแม้ใสซื่อบริสุทธิ์ ทว่ามันกลับสร้างความเศร้าเหงาโดดเดี่ยวแก่ผู้มองอย่างผมกับเมย์ทุกครั้ง



               
      นี่เจ้าเมย์ วัน ๆ เล่นแต่เกมคอมพิวเตอร์ ประเดี๋ยวเหอะ ตาจะบอดเอาไม่รู้ตัวผมละสายตาจากภาพนอกหน้าต่างหันมาเอ็ดน้องสาวอายุสิบเจ็ดปีที่เอาแต่เล่นเกมเกือบทั้งวัน


               
      แหม พี่เจ เมย์ปิดเทอมอยู่นะ เดี๋ยวเปิดเทอมก็ต้องกลับหอพักแล้ว ขอเล่นอีกไม่กี่วันเองง่ะเด็กสาวทำหน้าไม่พอใจ ผมเดินมาหยุดยืนข้างหลังน้องสาว เขกศีรษะเบา ๆ เป็นการสัพยอกแล้วเลยมองภาพในจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ค่อยสนใจเท่าใดนัก


               
      เล่นอะไร พี่ไม่เห็นรู้เรื่องผมขยี้เส้นผมอ่อนนุ่มของเมย์เล่น เด็กสาวตอบโดยไม่หันมามอง


               
      เกมชูตติ้งออนไลน์ แต่แก่ ๆ อย่างพี่คงไม่รู้เรื่องหรอก เนี่ย เมย์กำลังเล่นกับคนอื่นอยู่รู้ป่าวผมชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ  เมย์พยายามอธิบายความหมายของเกมออนไลน์ให้พี่ชายเข้าใจ ผมพยักหน้า


               
      อ๋อ แบบมาริโอใช่มั้ยเมย์แทบจะร้องกรี๊ด


               
      ม่ายช่าย! นั่นมันรุ่นโบราณสมัยพี่เจแล้ว เนี้ยะ พี่ดูดิ ที่แต่ละคนจะมีชื่ออยู่ข้างใต้เห็นปะ พวกนี้ก็เหมือนเมย์ที่กำลังเข้าไปเล่นอยู่อะ แต่เป็นการเล่นด้วยกันทั้งที่อยู่คนละที่ คนอยู่ไกล ๆ ต่างจังหวัดก็มาเล่นกะเราได้ นี่ตัวของเมย์..” เธอใช้นิ้วชี้จิ้มไปบนจอคอมพิวเตอร์ เป็นรูปเด็กผู้หญิงขับรถถังคันเล็ก ๆ  ในฉากคล้ายถ้ำ มีหน้าผาสูงชันสีสันสดสวย คนอื่น ๆ ต่างมีรถเป็นของตัวเอง คอยยิงปืนใหญ่เข้าใส่กันอย่างดุเดือด ภาพที่เห็นดูน่ารัก ไม่โหดร้ายอย่างที่เคยได้ยิน เมย์เล่นคล่องแคล่ว คลิกเม้าส์ กดแป้นพิมพ์มือเป็นระวิง


               
      อย่าดึกแล้วกันผมปรามน้องสาวก่อนเดินกลับไปห้องตัวเองเพื่อทำงานต่อ

       



               
      ต้นฉบับ ต้นฉบับ..


          
               คำ ๆ นี้ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาส่งมันให้บรรณาธิการ และโดยเฉพาะยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมันยังไม่ได้ถูกกลั่นออกมาจากหัวสมองของเราทั้งที่กำลังจะเลยกำหนดส่งอยู่รอมร่อ


               
      ฮัลโหล ว่าไงนายเจ เอ๊ะตกลงคุณยังเป็นนักเขียนให้เราอยู่รึเปล่าน้อผมเกลียดประโยคคำถามแบบนี้มากที่สุด แต่มันก็มักจะได้ยินเสมอแทบทุกเดือน


               
      อ่า..ฮะ ขอโทษฮะพี่ศุภ ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวขออีกวันส่งให้เลยผมต่อรองเวลาทั้งที่ความจริงยังไม่ได้เขียนอะไรออกมาสักตัวเดียว


               
      บ้ารึเปล่านายเจ คืนนี้ต้องส่ง พรุ่งนี้พี่จะพิมพ์แล้วรู้มั้ย รอของนายอยู่คอลัมน์เดียวนี่แหละ คืนนี้ เข้าใจนะ


          
               ผมพูดคำว่า ครับหลังจากพี่ศุภ บอกอจอมเฮี้ยบกระแทกวางหูฟังดังโครม หัวสมองเริ่มทำหน้าที่คิด ๆ ๆ  คิดเรื่องที่จะเขียน เค้นมันออกมา ลากมันให้หลุดจากกลีบสมองให้จงได้

       



          
               นกสีขาวพยายามบินจากไป แต่อีกไม่กี่นาทีมันก็กลับมาพร้อมกับอาการเหนื่อยล้า เมย์ทำเสียงเลียนแบบเรียกให้มันสนใจ แต่เจ้านกน้อยกลับเอาแต่นอนซุกตัวกับโพลงบนกิ่งไม้ตลอดวัน
               
      สงสัยมันจะไม่สบายค่ะพี่เจ เมย์เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่หัน ไม่รู้บินได้รึเปล่า น่าสงสารจังเลยเนอะเด็กสาวพูดเป็นเชิงปรึกษา ผมออกความเห็นว่ามันคงบาดเจ็บ ใครสักคนคงยิงมันจนไม่สามารถบินไปไหนได้ เมย์โยนเศษขนมปังกรอบออกไป แต่ไม่มีสักชิ้นที่ตกลงบนกิ่งไม้ใกล้ตัวนกสีขาวตัวนั้นเลย

       



          
               ความมืดนอกหน้าต่างเหมือนกำแพงกั้นขังความคิดไม่ให้เตลิดไปไกล ผมพยายามจมจ่อมตัวเองอยู่กับข้อมูล ประเด็นที่ต้องการนำเสนอ โครงสร้างเรื่อง ปรุงแต่งมันด้วยสำนวนโวหารให้เกิดอรรถรสชวนติดตาม อ่านทบทวนสองสามครั้ง แก้ไขให้สละสลวย


                      เฮ้อ..ในที่สุดก็เสร็จจนได้


          
               ผมโล่งใจแม้เปลือกตาจะหนักใกล้ปิด เหลือเพียงส่งงาน เสร็จแล้วจะนอนทั้งวันเลยคอยดู ขยับเม้าส์คลิกต่ออินเตอร์เนต พยายามอยู่สองสามครั้งไม่เป็นผล


          
               เจ้าเมย์นั่นเอง..


                      ตีสองกว่าแล้วยังเล่นเกมออนไลน์ไม่เลิก ผมเซฟงานลงแผ่นฟรอปปี้ดิสก์เดินถือไปห้องน้องสาว เคาะประตูเบา ๆ


               
      ทำไมยังไม่นอน กี่โมงแล้วเมย์โดนดุทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา เด็กสาวทำตาปรือไม่มีท่าทีหวาดเกรง เธอไม่เคยกลัวผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้อายุเราจะห่างกันถึงสิบปีก็ตาม


               
      เล่นเก็บคะแนนอยู่อะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เมย์กลับหอแล้ว ไม่ได้เล่นตั้งอาทิตย์


               
      พี่ขอส่งอีเมล์หน่อยผมชูแผ่นฟรอปปี้ดิสก์สีดำขึ้นมา


               
      เมย์ยังเล่นอยู่นี่คะ พี่เจส่งพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอส่งพรุ่งนี้ผมเป็นได้โดนอีตาศุภด่าเปิงน่ะสิ กลั้นใจตีหน้ายักษ์ใส่น้องสาวจอมดื้อ


               
      ไม่ได้ พี่ต้องส่งเดี๋ยวนี้ มีภาพด้วย ส่งนาน


               
      โห งี้ก็เซ็งดิ เมย์แข่งกับเพื่อนอยู่ด้วยอะ ถ้าเก็บคะแนนไม่มากก็ซื้อของไม่ได้


               
      ซื้อของอะไร?


               
      คนแก่อย่างพี่ไม่รู้หรอกเธอว่าผมทั้งที่มือสาละวนอยู่กับแป้นคีย์บอร์ด สาดกระสุนตลก ๆ เข้าใส่กันอย่างเอาจริงเอาจัง


               
      น้องเมย์ ขอพี่เจส่งงานหน่อยนะครับผมลองใช้ลูกอ้อนเข้าช่วย น้องสาวคนนี้ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบถูกบังคับ แต่เป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร ได้ผล เด็กสาวหันมายิ้ม หากแต่ยิ้มนั้นเจ้าเล่ห์เหมือนคิดอะไรออก


               
      อะ ให้ส่งก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนค่ะ


               
      ฮั่นแน่ เดี๋ยวนี้หัดเรียกร้องกับพี่ชายเหรอ อ่า..อะไรล่ะ ว่ามา

       



               
      ตีสามครึ่ง..


               
      พี่เจ! ดูขีดพลังก่อนซีแล้วค่อยปล่อยสเปซบาร์ ดูดิ๊ เสียเปรียบเลยเนี่ยยายเมย์โวยวายกระทืบเท้าเร่า ๆ อยู่ข้างหลังเมื่อเห็นผมเล่นไม่ได้อย่างใจ


               
      ขอโทษ ๆ  เดี๋ยวแก้มือใหม่ คราวนี้ไม่พลาดแน่


                      วิธีการเล่นเกมนี้ ผู้เล่นต้องเลือกพาหนะคือรถศึกที่มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งเครื่องจักรและสัตว์ต่าง ๆ  บนรถมีปืนใหญ่หนึ่งกระบอก สามารถปรับทิศทางขึ้นลงได้ ผู้เล่นต้องเล็งไปยังข้าศึกซึ่งก็คือผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่งออนไลน์เข้ามา เมื่อยิงถูก พลังของฝ่ายตรงข้ามก็จะลดลง ถ้าลดจนหมดเกลี้ยงก็ถือว่าแพ้ วิญญาณผู้แพ้จะลอยออกจากร่างไป เกมนี้สามารถเล่นแบบตัวต่อตัวหรือเล่นเป็นทีมก็ได้ แล้วแต่จะเลือก


               
      เมย์อยากได้หมวกกัปตันค่ะ น่ารักมั้ยผมมองหมวกสีขาวแบบผู้บังคับการเรือรบที่เธออยากได้ในส่วนของเครื่องแต่งกายในเกม เกมนี้เมื่อแรกเข้าตัวเล่นทุกตัวจะไม่มีเสื้อเกราะหรือหมวกสวย ๆ ใส่ จะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด แบ่งออกเป็นเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย แต่เมื่อเล่นไปเก็บคะแนนไป ได้มากเข้าก็เอาคะแนนเหล่านั้นไปแลกเป็นชุดหรือหมวกต่าง ๆ ตามมูลค่าที่เกมกำหนดมา เมื่อได้แต่งชุดครบครัน ตัวเล่นแต่ละตัวก็จะเริ่มมีสีสันและบุคลิกแตกต่างไปจากเดิม เหมือนเด็กใสซื่อเริ่มเติบโตและก้าวไปในเส้นทางของแต่ละคนตามแต่ใจปรารถนา บ้างก็ดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม บ้างก็ดูเน้นสวยเท่ และมีไม่น้อยที่เน้นเอาแนวโหด รุนแรง


               
      ทำไมไม่เอาหมวกโจรสลัดล่ะ เท่ดีออกผมเสนอความเห็น หมวกโจรสลัดสีแดงฉูดฉาดดี


               
      แหวะ น่าเกลียด อันนี้แหละ เมย์ชอบ พี่เจต้องซื้อให้ได้ด้วย


               
      โอเค ๆ  คนอย่างพี่รักษาสัญญาอยู่แล้วน่า


                      ข้อแลกเปลี่ยนของเจ้าเมย์คือผมจะต้องเล่นเกมออนไลน์ให้เพื่อเก็บคะแนนในระหว่างที่เธอไปเรียน คืนนั้นเมย์สอนผมเกือบถึงเช้า มันเข้าใจได้ไม่ยากแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน อดคิดไม่ได้ว่าคนที่เล่นเกมออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ๆ  แล้วเด็กพวกนี้หากติดเกมเข้า วัน ๆ คงไม่คิดทำอะไรนอกจากนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นเกมทั้งวันทั้งคืนอย่างเจ้าเมย์ กว่าจะเปิดเทอมพ่อแม่กลุ้มใจไปตาม ๆ กัน

       



                      วันต่อมา..


                      เมย์กลับไปอยู่โรงเรียนประจำ ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วของน้องสาวมาคอยปลุกให้คอนโดมิเนียมขนาดสองห้องนอนมีชีวิตชีวาเหมือนสองเดือนที่ผ่านมา ผมเข้าไปทำความสะอาดห้องเมย์ นกสีขาวยังเกาะนิ่งอยู่บนกิ่งไม้ข้างหน้าต่าง มันเริ่มผงกหัวจ้องมองผมเหมือนทักทาย ตากลมสีดำดูคล้ายหม่นหมองลง ผมเลื่อนหน้าต่างบานกระจกออกรับลมบริสุทธิ์ นกน้อยตกใจพยายามกระพือปีกแต่ไม่ขึ้น ผมรีบถอยห่างออกมากลัวมันตกต้นไม้ เจ้านกซุกตัวแนกกับโพรงเหลือแต่หัวกลม ๆ เล็ก ๆ โผล่ออกมาคอยสังเกตการณ์อย่างหวาดระแวง

       

       


                      กดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์


                ..
      เจ้าเมย์นะเจ้าเมย์ จะให้พี่ชายกลายเป็นเด็กหรือไงกันนะ..


                      นึกหน้าน้องสาวตัวแสบออกชัดเจน เมย์ต้องกรี๊ดลั่นบ้านถ้ากลับมาพบว่าผมไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะต้องเล่นเกมเก็บคะแนนจนซื้อหมวกกัปตันให้ได้


               
      เมย์กลับมาวันศุกร์ ถ้าพี่เจยังซื้อหมวกไม่ได้เมย์จะไม่พูดกับพี่เจอีกเลย ไม่ให้ใช้เน็ตด้วย จะเล่นเกมทั้งคืนไม่นอนเลย


                ..
      บ้าจริง ไม่น่ารับปากส่งเดชเล้ย เสียงานเสียการแท้ ๆ ..


                      โดยปกติผมเริ่มงานราวช่วงบ่าย อาจเข้าห้องสมุดหรือไปนั่งเขียนตามร้านกาแฟ บางวันครึ้มใจก็ขับรถออกไปนั่งทำงานริมทะเล ดื่มเบียร์เย็น ๆ สักขวดหรือน้ำมะพร้าวแช่น้ำแข็งสักลูก


                      แต่นี่ดูสิ..ผมต้องอยู่บ้าน คอยดูแลตัวเล่นของเจ้าเมย์ เล่นไปเรื่อย ชนะบ้างแพ้บ้าง จนกว่าจะพอซื้อหมวกบ๊อง ๆ ให้น้องสาวตัวยุ่งได้ ตอนนี้ผมเล่นได้ 12,500 คะแนน หมวกกัปตันต้องใช้ 30,000คะแนน ก็เท่ากับผมมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว ใช้เวลาอีกไม่น่าเกินสามวันก็น่าจะครบ แล้วรับประกันได้เลยว่าผมจะไม่แตะเกมบ้า ๆ นี้อีกชั่วชีวิต

       



               
      ฆ่ามานให้ตายยยตัวเล่นของใครคนหนึ่งซึ่งอยู่คนละข้างกับของผมบอกให้เพื่อนร่วมทีมจัดการยิงให้ผมตกจากหน้าผา


               
      เหวอ กัวแว้วจ้าเอา..เอากับมันหน่อย ผมพิมพ์คำพูดแบบที่ยายเมย์สอนตามลงไป ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องพูดให้เหมือนเด็กปัญญาอ่อน หรือว่าฟังดูน่ารัก? หรือว่าผมทำงานเกี่ยวกับงานเขียนมากไป? หรือผมแก่เกินวัยที่ต้องมาทำอะไรติงต๊องแบบนี้เสียแล้ว?


               
      สหาย เรามาช่วยแว้วตัวเล่นทีมผมไสช้างแมมมอธสีขาวเข้ามาอย่างห้าวหาญ ยิงแท่งน้ำแข็งด้วยวิถีโค้งกระแทกคู่ต่อสู้จนสะเทือนไปทั้งคัน ส่งผลให้ขีดพลังลดลงหมดเกลี้ยง


               
      แว้ก ตายสิคับแบบนี้บอลลูนคำพูดปรากฏเหนือหัวตัวเล่นที่โดนยิงพร้อมกับวิญญาณลอยละล่องออกจากสมรภูมิ


               
      ลาก่อนค้าบ เล่นให้หนุก ๆ นะ


               
      บายเจ้าค่ะผมเคาะแป้นตอบ ขำตัวเองที่ทำอะไรเหมือนเด็ก ๆ ทั้งที่ตัวเองอายุปาเข้าไปยี่สิบเจ็ดปีแล้ว


                      ผมเขียนบทความลงนิตยสารเป็นงานหลัก เขียนนิยายเป็นงานอดิเรก คำพูดของตัวละครทั้งชายและหญิงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม ตัวเล่นของเจ้าเมย์เป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก เธอตั้งชื่อให้ว่า นกน้อยสีชมพูมีนิสัยคุยเก่ง ขี้อ้อน ใจน้อยและขี้บ่น อันเป็นลักษณะนิสัยของเจ้าเมย์ทั้งสิ้น


                      นกน้อยสีชมพูมีเพื่อนในโลกเกมออนไลน์หลายคน ผมต้องรับภาระสวมบทบาทน้องสาว คอยเจรจาโต้ตอบด้วยลีลาการพูดให้เหมือนตัวเจ้าของ ไม่ยาก แต่สมเพชตัวเองเล็กน้อย ผมทำได้ดีทีเดียว ไม่มีใครสังเกตรู้ว่านี่ไม่ใช่นกน้อยสีชมพูตัวจริง สิ่งที่แย่ของผมมีอย่างเดียวคือเทคนิคการเล่นอันซับซ้อนวุ่นวาย ผมยิงไม่แม่น คำนวณองศากับแรงลมอันมีผลต่อการยิงไม่เก่ง การทำคะแนนให้มาก ๆ มีทางเดียวคือต้องเล่นให้บ่อย และพยายามจับคู่กับคนเก่ง ๆ เข้าไว้


                      ในโลกไซเบอร์คือโลกเสมือนจริง ทว่าไร้ตัวตน มีเพียงคำพูดกับภาพสมมติให้เราได้เพลิดเพลินไปกับมัน หลายคนนั่งเล่นได้ตั้งสามสี่ชั่วโมง และมีไม่น้อยเลยที่ผมรู้จักจากการคุยในเกมว่าสามารถเล่นได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่นอนหรือแม้กินข้าว


                      เป็นธรรมเนียมหรืออย่างไรไม่ทราบว่าตัวเล่นที่เป็นเด็กผู้หญิงจะต้องโดน จีบ โดยตัวเล่นที่เป็นเด็กผู้ชาย อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์การออกแบบตัวการ์ตูนให้น่ารักน่าเอ็นดู บวกกับความคึกคะนองด้วยไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตาหรือแม้เสียงกันจริง ๆ  ทำให้ฝ่ายชายกล้าที่จะ เจ้าชู้ได้กับทุกคนที่เป็นผู้หญิงโดยไม่สนใจว่าตัวจริงของคนเล่นจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร


               
      ว้าว น้องสาว น่ารักเจรง ๆตัวเล่นตัวหนึ่ง สวมหน้ากากฮอกกี้เหมือนเจสันในเรื่องศุกร์สิบสามซึ่งทำให้มีความทนทานสูงเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นนกน้อยสีชมพู


               
      ขอบคุงค่าอ้ายโง่เอ้ย ผมนึกในใจขณะพิมพ์ตอบ..ตูผู้ชายเฟ้ย


               
      ขอเบอร์หน่อยจิ


               
      ไม่อะ เค้ายังไม่รู้จักตัวเองซักหน่อยผมรัวแป้นพิมพ์แล้วกดเอ็นเตอร์ คำพูดหลั่งไหลไปตามที่คิด สมเพชทั้งตัวเองทั้งเจสัน


               
      อายุเท่าไหร่จ้ะ เราสิบห้าแว้ว


               
      ชั้นสิบเจ็ดย่ะผมพิมพ์ไปหัวเราะไป เจ้าเจสันยังเจ้าชู้ไม่เลิก แต่ก็อุตส่าห์ระดมยิงจนนกน้อยสีชมพูพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าติด ๆ กันหลายเกม


               
      ลื้อ เอ้ย ตัวเองเก่งง่ะ เค้าเลิกแระไม่รอมันตอบ ผมคลิกออกทันที ไปหาห้องใหม่ที่น่าจะมีมืออ่อน ๆ มาเล่นให้ผมได้ชนะบ้างต่อไป หาไม่แล้วนกน้อยสีชมพูก็จะไม่ได้สวมหมวกกัปตัน และผมก็จะโดนเจ้าเมย์เล่นงานเมื่อถึงเย็นวันศุกร์

       



                      ถ้าพ่อแม่ยังอยู่ พวกเราคงอบอุ่นกว่านี้ เมย์คงไม่ต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ ไม่ติดเกมไม่ติดเพื่อนเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ผมดูแลเงินในบัญชีที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพร้อมแม่ เงินทั้งหมดผมตั้งใจเอาไว้ใช้เพื่อการศึกษาของเมย์ ตัวผมหาเงินได้ไม่ลำบากนัก แต่ถึงขนาดส่งเสียเมย์ให้เรียนโรงเรียนดี ๆ แพง ๆ อย่างนี้คงเกินกำลัง


               
      ถ้าให้ส่งเมย์เรียน พี่จะต้องเขียนลงนิตยสารสักสามสิบเล่ม เฉลี่ยเขียนวันละหนึ่งบทความห้ามหยุด เมย์ไม่สงสารพี่เหรอผมเคยพูดกับเมย์ในวันที่เด็กสาวดื้อดึงจะซื้อโทรศัพท์มือถือโดยใช้เงินในบัญชี เธอให้เหตุผลว่าเพื่อนทุกคนล้วนมีกันหมด เหลือเธอคนเดียวที่กลายเป็นแกะดำ


               
      เมย์ฟังพี่นะ เรามีกันแค่สองคน ไม่มีพ่อแม่มาเลี้ยงดูอีกแล้ว พี่เองก็เป็นแค่คอลัมนิสต์กระจอก ๆ  โทรศัพท์มือถือพี่ก็ไม่มีเหมือนกันเพราะไม่เห็นว่าจะจำเป็น  ถ้าเงินในบัญชีของพ่อหมด น้องก็จะไม่ได้เรียนสูง ๆ เราต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด อย่าสนใจคำพูดของเพื่อนพวกนั้น ถามจริง ๆ เหอะ มันจำเป็นนักเหรอที่จะต้องมีโทรศัพท์มือถือกันน่ะ เมย์เชื่อพี่นะ แล้วถ้าน้องจบมามีงานทำหาเงินได้เองเมื่อไหร่ น้องจะซื้อกี่เครื่องก็เอาเลย พี่จะไม่ห้ามสักคำ


                      เด็กสาวน้ำตาซึม ผิดหวัง แต่ก็พยักหน้ายอมรับโดยดี เมย์เป็นเด็กดื้อแต่ฉลาด และรักผมมากที่สุด



      ……..

       



               
      นกน้อยสีชมพู ต้องดูทิศทางลมก่องจิ

       

      ผู้เล่นทีมผมร้องเตือนเมื่อเห็นนกน้อยสีชมพูยิงพลาดหลายครั้ง เราเล่นเกือบเข้าขากัน เพียงแต่เธอต้องคอยสอนวิธีการเล่นและทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ผมเสมอ จนถึงตอนนี้ นกน้อยสีชมพูก็ยังไม่มีหมวกกัปตันสวมในขณะที่ หนมปังทาแยมคู่หูของผมสวมหมวกซานตาครอสสีแดงมีปุยสีขาวตรงปลายดูน่ารักไปเรียบร้อยแล้ว


               
      จ้า จะพยายามนะจ๊ะผมเคาะแป้นตอบกลับไป แล้วทำตามที่เธอแนะนำ


               
      เหงมะ ยิงถูกแว้ว อิอิหนมปังทาแยมเอ่ยชม เกมนั้นเราชนะ ผมมีคะแนนจวนเจียนสามหมื่นเต็มที


               
      หนมปังทาแยมอายุเท่าไหร่แล้ว เล่นเก่งจังเลยผมถามระหว่างเล่นเกมต่อไป หนมปังทาแยมเล็งเป้าแล้วยิงออกไปหนึ่งนัดก่อนตอบ


               
      สิบสองผมถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย


               
      ตัวเองล่ะเธอถามบ้าง


               
      สิบเจ็ดไม่ได้โกหก ก็เจ้าเมย์อายุเท่านี้จริง ๆ นี่


               
      งั้นหนูเรียกเจ๊ได้ปะ


               
      อื้อ ได้จิ ไม่ว่ากัน



                ……….


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ ๆ  มาเล่นกัน


                      นกน้อยสีชมพู   : มาเลย สาวน้อย นอนดึกนะวันนี้


                      หนมปังทาแยม   : นอนมาตอนค่ำแว้ว รอเล่นกะเจ๊อะดิ


                      นกน้อยสีชมพู   : เหรอจ๊ะ ตอนค่ำพี่อ่านหนังสือเรียนจ้ะ หนูก็ต้องอ่านด้วยนะ


                      หนมปังทาแยม   : ไม่อ่าน หนูไม่ต้องไปโรงเรียน


                      นกน้อยสีชมพู   : ไมอะ เปิดเทอมแล้วนะ


                      หนมปังทาแยม   : หนูไม่ต้องไปโรงเรียนก็แล้วกัน เจ๊จะเล่นกะหนูป่าว


                      นกน้อยสีชมพู   : เล่นจิ ๆ ไปเลือกห้องกัน



                ………

       



                      อากาศร้อนระอุยามบ่าย ใบไม้ไม่กระดิก นกสีขาวอาศัยร่มเงาไม้ใหญ่ซุกหลบคมแดด มันผ่ายผอมลงจนแม้ผมซึ่งเห็นมันทุกวันยังดูออกชัด ผมซื้ออาหารนกมาจากร้านโยนไปให้ มันตกใจกระเสือกกระสนเหมือนทุกครั้ง ผมแอบดูมันจากหน้าต่างห้องเมย์ นกน้อยค่อย ๆ โผล่หัวออกมาจิกกินอาหาร ได้เพียงไม่กี่เม็ดเพราะส่วนใหญ่ตกหล่นลงไปข้างล่างหมด



                ………




                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ ๆ


                      นกน้อยสีชมพู   : ว่าไงจ๊ะ


                      หนมปังทาแยม   : มาเล่นกัน


                      นกน้อยสีชมพู   : มาเล้ย


                      หนมปังทาแยม   : ไมวันนี้เจ๊เล่นตอนกลางวัน


                      นกน้อยสีชมพู   : หยุดเรียนจ้ะ ไม่ค่อยสบาย


                      หนมปังทาแยม   : เปงไรอะ


                      นกน้อยสีชมพู   : อือ เป็นหวัดนิดหน่อยอะ เดี๋ยวก็หายแล้ว


                      หนมปังทาแยม   : ต้องนอนพักเยอะ ๆ นะ


               
      นกน้อยสีชมพู   : จ้า ขอบใจนะจ๊ะ


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊โชคดีจัง เปงแค่หวัด


                      นกน้อยสีชมพู   : ไมอะ หนูเป็นไรเหรอ


                      หนมปังทาแยม   : มะเร็ง


                      นกน้อยสีชมพู   : ……!



               
      หนมปังทาแยม   : เจ๊เปงไรไป


               
      นกน้อยสีชมพู   : พูดเล่นใช่ปะ หนูไม่ได้เป็นมะเร็งใช่ปะ


                      หนมปังทาแยม   : อื้อ เปงจิ เปงมากด้วย


               
      นกน้อยสีชมพู   : ……!



                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ ๆ  มาเล่นกันเถอะ


                      นกน้อยสีชมพู   : อื้อ จ้ะ มาเล่นกัน



                ……….

       



               
      พี่เจ เล่นไปถึงไหนแล้ว ซื้อหมวกให้เมย์ได้รึยังคะ

       

      เสียงแจ๋ว ๆ วิ่งมาตามสายโทรศัพท์ตอนเที่ยงเศษ ปลุกผมให้เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องเจ้าของเสียง


               
      อือ..เมย์เหรอ ยังไม่ได้ซื้อนะ คะแนนยังไม่ถึง..” เจ้าเมย์โวยขึ้นทันที


               
      พี่เจอ้ะ! นี่วันพุธแล้วนะ ถ้าวันศุกร์เมย์ยังไม่เห็นหมวกเมย์จะไม่ให้พี่ใช้เน็ตอีกเลยคอยดู เมย์จะไม่…”

       

       ผมไม่สนใจ กดปุ่มปิดสัญญาณโทรศัพท์บ้านไร้สาย โยนมันลงบนเตียงแล้วฟุบลงนอนต่อ



                ……….

       



                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


                      นกน้อยสีชมพู   : ว่าไงจ๊ะ คนสวย


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊รู้ได้ไงอะ ว่าหนูสวย


                      นกน้อยสีชมพู   : รู้ดิ คนสวยย่อมคบกับคนที่สวยเหมือนกันจ้ะ


                      หนมปังทาแยม   : ^ ^!


                      นกน้อยสีชมพู   : ^ ^


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ยังมะใส่หมวกเหยอ


                      นกน้อยสีชมพู   : อื้อ ว่าจะซื้อหมวกกัปตัน หนูล่ะ


                      หนมปังทาแยม   : หนูมีหมวกซานต้าอยู่แล้ว แต่ว่าจะเปลี่ยน ทีแรกคิดว่าจะช่วยให้หนูหาย


                      นกน้อยสีชมพู   : เหรอจ๊ะ แล้วจะเปลี่ยนเป็นไรดีอ่า


                      หนมปังทาแยม   : หนูอยากได้ผ้าคลุมผมเจ้าสาว


                      นกน้อยสีชมพู   : ทำให้มีพลังเยอะซีท่า


                      หนมปังทาแยม   : ป่าว หนูอยากแต่งงาน


                      นกน้อยสีชมพู   : ^ ^!


                      หนมปังทาแยม   : จิง ๆ  นู๋อยากแต่งงาน


                      นกน้อยสีชมพู   : ไมล่ะ หนูยังเด็กอยู่เลย


                      หนมปังทาแยม   : เพราะในชีวิตจิง หนูจะไม่มีทางได้แต่งงานอะ


                      นกน้อยสีชมพู   : มีสิ เด็กน่ารักอย่างหนูต้องมีคนรักแน่ ๆ


                      หนมปังทาแยม   : ไม่มีหรอก เจ๊ หนูอยากแต่งงาน อยากใส่ผ้าคลุมผมเจ้าสาว


                      นกน้อยสีชมพู   : ……..


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ ๆ  ยังอยู่ป่าว


                      นกน้อยสีชมพู   : อยู่จ้ะ ปะ ไปเล่นเก็บคะแนนกันเถอะ จะได้เอาไปซื้อผ้าคลุมผมเจ้าสาวกัน



                ………..

       



                      ผมลงทุนขุดไส้เดือนแถวริมบึงข้างคอนโดมิเนียมมาสามสี่ตัว ซื้อกระชอนตักปลาอันเล็ก ๆ มาผูกติดกับไม้รวกด้ามยาว เอาไส้เดือนใส่ลงไปทีละตัวแล้วค่อย ๆ ยื่นไปที่กิ่งไม้ เจ้านกสีขาวตัวผอมเซียวจ้องมองอย่างสนใจ มันเอียงคอซ้ายทีขวาที ผมไม่กล้ายื่นใกล้ตัวมันมากนัก ค่อย ๆ พลิกวางใส้เดือนห่างจากนกประมาณเมตรเศษ ดูเหมือนมันจะเชื่องกับผมมากกว่าทุกครั้ง ไส้เดือนกระดิกตัวไปมา นกสีขาวผงกหัวขึ้นลง ตากลม ๆ เพ่งมองเหมือนไม่แน่ใจ มันกระโดดไปยังไส้เดือนเหมือนคนขากระเผลก พยายามจิกกินไส้เดือนอวบอ้วนด้วยความหิวกระหาย แต่แล้วไส้เดือนก็เป็นฝ่ายชนะ มันดิ้นฟาดตัวเองจนพลัดตกลงสู่พื้นดินเบื้องล่างจนได้ ผมยื่นตัวใหม่ส่งให้ แต่คราวนี้เจ้านกน้อยกลับแสดงอาการตื่นกลัว ยกปีกกระพือเหมือนจะบิน แล้วลากตัวเองกลับไปซุกยังจุดเดิม


                      คัตเตอร์ในมือคมกริบ ผมหลับตาปี๋กลั้นหายใจขณะใช้มันหั่นไส้เดือนออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ  แล้วค่อย ๆ ยื่นส่งให้อีกครั้ง รอสองสามอึดใจ เจ้านกน้อยค่อย ๆ กระเถิบมาจิกกินช้า ๆ  ผมน้ำตาซึม ความรู้สึกยามนี้ช่างสับสน ทั้งดีใจกับเจ้านกและเสียใจกับไส้เดือน



                ……….

       



                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


               
      นกน้อยสีชมพู   : ว่าไง เจ้าหญิง


                      หนมปังทาแยม   : ^_^


                      นกน้อยสีชมพู   : ยิ้มอะไรจ๊ะ ซื้อผ้าคลุมผมเจ้าสาวได้ยัง


                      หนมปังทาแยม   : ยังค่ะ มันแพง กำลังเก็บคะแนนอยู่ แต่คิดว่าคงซื้อไม่ทันแล้วล่ะ


                      นกน้อยสีชมพู   : ไมอะ มาเล่นกัน เดี๋ยวก็ซื้อได้ วันนี้พี่ก็จะซื้อหมวกกัปตันละ


                      หนมปังทาแยม   : อื้อ หนูจาช่วยเจ๊นะ



                ……….

       



                      นกน้อยสีชมพู   : หนุกจังเลยนะ


                      หนมปังทาแยม   : จ้ะ หนุกที่สุด



                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ ๆ


                      นกน้อยสีชมพู   : จ๋า ว่าไง


                      หนมปังทาแยม   : วันนี้เราจะได้เล่นด้วยกันเปงวันสุดท้ายแล้วนะ


                      นกน้อยสีชมพู   : ทำไมล่ะ!


                      หนมปังทาแยม   : …..



                      นกน้อยสีชมพู   : หนู..ทำไมพูดอย่างนี้ เราคู่หูกันนะ


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊...หนูจะตายแล้ว


                      นกน้อยสีชมพู   : พูดบ้า ๆ  หนูต้องหาย ต้องหาย...


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊จ๋า..หนูจะตายแล้ว


                      นกน้อยสีชมพู   : เด็กโง่ รู้รึป่าวว่าพูดอะไรออกมา ตายเตยไรกัน


                      หนมปังทาแยม   : เล่นกะเจ๊หนูมีความสุขที่สุด


                      นกน้อยสีชมพู   : ยังจะมาพูดอีก


                      หนมปังทาแยม   : หนูรักเจ๊ค่ะ


                      นกน้อยสีชมพู   : เด็กโง่



                      นกน้อยสีชมพู   : พี่ก็รักหนูที่สุดจ้ะ


               
      หนมปังทาแยม   : ………….


                      นกน้อยสีชมพู   : ………….


                      หนมปังทาแยม   : ………….


                      นกน้อยสีชมพู   : ………….



                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


               
      นกน้อยสีชมพู   : ว่าไงจ๊ะ


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊มีแฟนยังง่ะ


                      นกน้อยสีชมพู   : ยังจ้ะ พี่ชายไม่ให้มี พี่ดุมาก ๆ


                      หนมปังทาแยม   : หนูขอเปงแฟนเจ๊ได้ปะ


                      นกน้อยสีชมพู   : ได้ไงจ๊ะ เราเป็นผู้หญิงทั้งคู่นะ


               
      หนมปังทาแยม   : หนูรู้ เจ๊เปงผู้ชาย


                      นกน้อยสีชมพู   : ……..


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊เปงผู้ชาย


                      นกน้อยสีชมพู   : หนูรู้ได้ไงอะ


                      หนมปังทาแยม   : หนูเคยเล่นกะนกน้อยสีชมพูมาก่อง การพูดมะเหมืองกันอะ


                      นกน้อยสีชมพู   : แค่เนี้ยะนะ ก็รู้ว่าเป็นผู้ชาย


                      หนมปังทาแยม   : หนูรู้สึก


               
      นกน้อยสีชมพู   : เก่งอะ แล้วเรียกเจ๊ทำไม


                      หนมปังทาแยม   : หนูอยากให้เจ๊เล่นกะหนูนาน ๆ นี่


                      นกน้อยสีชมพู   : ……..


                      หนมปังทาแยม   : หนูเป็งแฟนเจ๊ได้ปะ


                      นกน้อยสีชมพู   : อื้อ ได้จิ เด็กน่ารักอย่างหนูใครจาไปปฏิเสธได้ล่ะ


                      หนมปังทาแยม   : ขอบคุงค่า หนูรักเจ๊ที่สุด



                ………………

       



                      นอนไม่หลับ...


                      กระสับกระส่ายจนต้องลุกไปอาบน้ำอีกรอบ เปิดวิดีโอดูก็แล้ว ฟังเพลงก็แล้ว ไม่สำเร็จ เปลือกตาแข็งเหมือนไม้ รู้สึกงุนงงบอกไม่ถูก ลืมตาโพลงในความมืด รอดวงตะวันเปิดม่านสีเงินบนท้องฟ้า นกร้องจิบ ๆ  ลมลอดเร้นเข้ามาทางช่องหน้าต่างเย็นยะเยียบ ขนลุกอย่างไม่มีเหตุผล


                      เปิดห้องเจ้าเมย์ ตรงไปยังหน้าต่าง นกสีขาวยังนอนซมอยู่ที่เดิม ผมรีบลงไปขุดไส้เดือน ทำวิธีการเดิมแบบเมื่อวานก่อนยื่นส่งให้นกน้อยบนกิ่งไม้ ทว่าคราวนี้ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นจากมัน


                      ตายแล้วหรือ


                      จ้องมองดี ๆ  ยังเห็นดวงตาหลุกหลิกซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาแบบบางที่หลี่คลุมลงเกือบหมด ผมใช้ปลายไม้รวกเขี่ยไส้เดือนให้เข้าใกล้ตัวนกมากที่สุด มันนิ่งเฉยไม่สนใจเหมือนหมดเรี่ยวแรง หมดอาลัยตายอยากในการมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมนึกถึงเด็กน้อยที่เล่นเกมกับผมทุกคืน ช่างใสซื่อบริสุทธิ์ เด็กหญิงอายุสิบสองปีที่ป่วยเป็นมะเร็งและรอวันตาย


                      จะรู้สึกอย่างไรนะถ้ารู้ว่าจะต้องตายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า


                      คงกลัวจนตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก คงวิ่งแจ้นหาพระหาหมอ ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าทุกคนเกิดมาย่อมต้องตาย แต่ใครล่ะ ที่อยากรู้วันตายของตัว ผมคนหนึ่งที่ไม่


                      หนมปังทาแยม..นักรบบนหลังรถศึกในเกมออนไลน์ แข็งแกร่ง ห้าวหาญ ปกป้องนกน้อยสีชมพูเกมแล้วเกมเล่า แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เธอกลับกลายเป็นเด็กอ่อนแอที่ป่วยด้วยโรคร้ายใกล้ตาย ไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อน ไม่มีพี่น้อง เกมออนไลน์เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เด็กน้อยได้สัมผัสโลกกว้าง แม้โลกใบนั้นจะเป็นเพียงโลกเสมือนจริง มีผู้คน มีบ้านเมือง มีจินตนาการกว้างไกล ทว่า ทุกสิ่งคือฉากลวงตาอันเกิดจากเทคโนโลยีทันสมัยที่เรียกกันว่าคอมพิวเตอร์


                      ความฝันของคนมักยิ่งใหญ่เกินมือแห่งความเป็นจริงจะเอื้อมถึง แต่เด็กหญิงไม่หวังให้ตัวหายจากโรค อาจเคยหวังแต่ความหวังนั้นคงดับมอดลงไปเสียนับครั้งไม่ถ้วนจนเกิดความชาชิน ความตายยืนรอตรงหน้าให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดมันคงกลายเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนผู้รอให้เด็กน้อยก้าวข้ามไปสู่ดินแดนของมัน พิภพนั้นจะเป็นเช่นไร อาจมีฉากเหมือนในเกมชู๊ตติ้งออนไลน์ที่ผมเล่นกับเธอทุกวันก็ได้ หรือไม่แน่อาจสวยกว่านั้น สวยจนเกินจินตนาการจะคาดเดา ขึ้นอยู่กับความคาดหวังในโลกหน้าที่ยังมีโอกาสมากกว่าโลก ณ ปัจจุบัน




               
      พี่เจคะ นกตายแล้วเหรอเมย์เสียงซึมเมื่อเห็นร่างสีขาวนอนตะแคง หัวกลม ๆ เล็ก ๆ พับห้อยเกือบตกจากกิ่งไม้


               
      จ้ะ แต่มันก็พ้นจากความทรมานไปเสียทีผมกอดไหล่น้องสาวกระชับ


               
      ไปช่วยกันขุดหลุมฝังศพมันกันเถอะ


               
      ค่ะเด็กสาวยิ้มเศร้า เอนศีรษะพิงต้นแขนพี่ชาย แล้วเหมือนนึกขึ้นได้ เธอหันขวับกลับมา


               
      ว่าแต่ว่า พี่เอาคะแนนตั้งหลายหมื่นไปซื้ออะไรหมดเนี่ย หมวกกัปตันก็ไม่เห็นมี อย่าบอกนะว่าไม่ได้เล่นให้เมย์



                ……….

       



                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ๆ


                      นกน้อยสีชมพู   : จ๋า ว่าไงจ๊ะที่รัก


                      หนมปังทาแยม   : อิอิ เขินนะคะ เจ๊เนี่ยก้อ


                      นกน้อยสีชมพู   : อ๊ะ ก็เป็นแฟนกันนี่


                      หนมปังทาแยม   : ค่ะ


                      หนมปังทาแยม   : เจ๊ หนูไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้เลยอะ


               
      นกน้อยสีชมพู   : แล้วมันมีเสียเมื่อไหร่กันล่ะ เราอยู่ในเกม ไม่เคยมีกลางวันกลางคืน ไม่เห็นเหรอ


                      หนมปังทาแยม   : จิงด้วย เจ๊เก่งที่สุด


               
      นกน้อยสีชมพู   : หนูต่างหากที่เก่งที่สุด


                      หนมปังทาแยม   : หนูไม่ค่อยไหวแล้วอะเจ๊ หนูง่วง


                      นกน้อยสีชมพู   : งั้นหนูรอพี่แป๊บนะ


                      หนมปังทาแยม   : ไปไหนอะ


                      นกน้อยสีชมพู   : แป๊บ



                      นกน้อยสีชมพู   : ได้รับรึยัง


                      หนมปังทาแยม   : รับไรอะ


               
      นกน้อยสีชมพู   : ผ้าคลุมผมเจ้าสาว พี่ซื้อให้หนู เราจาได้แต่งงานกัน


                      หนมปังทาแยม   : อุ๊ย! มาแว้ว จิงด้วย เจ๊ซื้อให้หนูทำไม แล้วหมวกกัปตันล่ะคะ


                      นกน้อยสีชมพู   : ไว้เก็บคะแนนใหม่ เล่นเดี๋ยวเดียวก็ซื้อได้แล้ว ตอนนี้หนูใส่ผ้าคลุมผมเจ้าสาวให้พี่ดูก่องจิ


               
      หนมปังทาแยม   : ใส่แว้วนี่ไง สวยจังเลย สวยที่สุด


               
      หนมปังทาแยม   : เจ๊..ขอบคุณมากค่ะ


               
      นกน้อยสีชมพู   : อื้อ ไปนอนได้แระ แล้วไว้เจอกันใหม่นะ


                      หนมปังทาแยม   : บายค่ะ เจ๊


               
      นกน้อยสีชมพู   : บายจ้ะ คนดี









       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×