ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : episode 3
ตอนที่ 3 At The END..
ภายในคฤหาสน์หรูที่เคยตกแต่งประดับประดาด้วย ของล้ำค่ามากมาย บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงห้องว่างเปล่าที่มีกล่องสีน้ำตาลขนาดใหญ่วางเรียง เป็นแถว บ้างซ้อนกันสองชั้น บางซ้อนถึงสามชั้น บ่งบอกได้ว่าครอบครัวนี้มีทรัพย์สมบัติไม่น้อยทีเดียว
ในห้องนอนของเด็กชายผู้เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านก็มีสภาพไม่ต่างกัน ข้าวของถูกเก็บใส่กล่องไปหมดแล้ว เหลือเพียงชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้วางอยู่บนโซฟาตัวยาวที่ปลายเท้าของเตียง
ลูเคียยิ้มเศร้าๆ ขณะมองไปรอบห้องที่ตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลายอวกาศและดวงดาวเรืองแสงมากมายบนเพดานและผนังห้อง
หากที่หัวเตียงกลับมีภาพวาดลายดอกซากุระตั้งอยู่อย่างไม่เข้ากันเสียเลย
เธอเดินเข้าไปชิดขอบเตียงที่เด็กชายกำลังนอนหลับสนิท นั่งลงที่ข้างเตียงนั้น ยื่นมือไปปัดปอยผมที่ตกมาปิดหน้าออกเบาๆ
เบียคุยะเพียงขยับตัวยุกยิก แต่ยังคงหลับสนิท ไม่ได้รับรู้ถึงการมาของเธอแต่อย่างใด
ลูเคียนั่งยิ้มมองเด็กชายอยู่ครู่ใหญ่ แล้วล้วงหยิบบางอย่างออกมาจากในเสื้อ
พวงกุญแจลายเกล็ดหิมะสีขาวบริสุทธิ์.. กับเศษกระดาษแผ่นเล็กๆ
บรรจงสอดกระดาษแผ่นนั้นไว้ใต้โทรศัพท์มือถือสีฟ้าที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง และวางพวงกุญแจนั้นทับไว้ด้านบนอีกที
"ให้พวงกุญแจนี้.." หยดน้ำตาเริ่มรินอีกครั้ง "..อยู่กับท่านแทนตัวข้านะคะ"
แหงนหน้าขึ้น พยายามกระพริบตาไม่ให้ร้องไห้ออกมา แต่ร่างกายกลับไม่ยอมเชื่อฟัง ยิ่งฝืน ยิ่งรินไหล ร่างกายไหวคลอนด้วยแรงสะอื้น
ลูเคียเม้มปากที่สั่นรุนแรงอย่างข่มใจ ยกมือปิดหน้า ลุกจากเตียง หันหลังและจากไป..
หายไปในความมืดที่อยู่รอบกาย..
*********
"จงร่ายรำ โซเดโนะชิรายูกิ"
"จงโปรยปราย เซมบงซากุระ"
ลูเคียยืนตั้งมั่น ขณะวาดดาบในสภาพปลดปล่อยออกไปให้อยู่ในท่าเตรียมรับมืออีกฝ่ายที่เพิ่งปลดปล่อยดาบเช่นกัน
หกเดือนหลังเบียคุยะเริ่มฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหลังต่อสู้กับควินชี่ ทั้งเขาและเธอก็กลับมาฝีกด้วยกันอีกครั้ง แม้พลังของเขาจะดูไม่ค่อยเสถียรนัก แต่เขากลับคิดว่าอาจจะเป็นผลมาจากพลังประหลาดของพวกควินชี่นั่นก็เป็นได้
และไม่แน่ว่า การฝึกให้หนักกว่าเดิม อาจจะช่วยทำให้พลังของเขากลับมาเป็นปกติเช่นเคยในเร็ววัน
"มีแรงแค่นี้รึไง ลูเคีย" เบียคุยะเอ่ยเสียงดุจัด หลังจากใช้คลื่นเซมบงซากุระเข้าโจมตีเธอ ซึ่งแม้ว่าลูเคียจะสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมากั้นไว้ได้ แต่มันก็ถูกเขาทำลายลงได้ในเสี้ยวนาที
"ระบำที่สอง ฮาคุเร็น!!"
"เจ้าทำได้ดีกว่านี้" เขาว่าอย่างไม่คิดจะย้ายตัวเองหลบคลื่นพลังของเธอที่พุ่งตรงเข้ามาหา แค่สะบัดมือเบาๆเพียงทีเดียว เซมบงซากุระก็ปรากฏขึ้นมากั้นเขาไว้พร้อมกับทำลายคลื่นน้ำแข็งนั้นลง
ลูเคียใช้ก้าวพริบตาพาตัวเองไปอยู่ด้านหลังเขา และรีบใช้ฮาคุเร็นอีกครั้ง
เบียคุยะไม่แม้แต่จะหันมามอง เขาแค่วาดมือบังคับเซมบงซากุระมาขวางอีกครั้ง แต่คราวนี้อยู่ๆเซมบงซากุระก็สลายตัวไปในชั่วพริบตา
เขาได้แต่เบิกตากว้าง เมื่อรู้ว่าหลบฮาคุเร็นของเธอไม่พ้น
ลูเคียยิ่งตกตะลึงกว่า เมื่อเห็นฮาคุเร็นกลืนกินร่างเขาไปต่อหน้าต่อตา
"ท่านพี่คะ!!" เธอตะโกนลั่น รีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปตรงที่ๆเขายืนอยู่เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ น้ำตาคลอหน่วยขึ้นมา หากไม่เห็นเขาแม้แต่เงา "ท่านพี่เบียคุยะ!!"
พลันปรากฏแขนแกร่งเกี่ยวเอวบางของเธอไว้จากด้านหลัง กระชากเธอจนกลับมาซุกที่อกแกร่ง
"ยังดีที่ก้าวพริบตาข้ายังใช้ได้ดีนะ" เขาก้มกระซิบ ประคองร่างเล็กในอ้อมแขนลงนั่งตักเขากับพื้น
เธอกลับหวีดเสียงใส่เขาอย่างรุนแรง พร้อมกับทุบอกเขารัวๆ "คนบ้า!! ลดเซมบงลงทำไม!"
"ข้าไม่เป็นไร" เขาตอบราวกับจงใจเลี่ยงคำถามเธอ
"ตอบข้ามานะคะว่าท่านลดเซมบงลงทำไม!! " เธอไม่ยอมแพ้ ถามเขาซ้ำด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำใส
เขานิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงแผ่ว
"ข้าเปล่า"
ลูเคียสะดุดใจ หยุดมือที่ทุบเขาอยู่ รีบเงยหน้าขึ้นมองเขา "ท่านเปล่า?.. แล้วทำไมเซมบงถึง--"
เบียคุยะถอนใจ และส่ายหน้าช้าๆอย่างจนใจ "ข้าไม่รู้ อยู่ๆมันก็หายไป"
หญิงสาวจ้องมองนัยน์ตาคมสีเทา เธอเห็นอะไรบางอย่างในนั้น "นี่ไม่ใช่ครั้งแรก.. ใช่ไหมคะ?"
เขาพยักหน้าอีก
"เมื่อไหร่คะ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?" เธอคาดคั้น
"สักพักแล้ว" เขาตอบเสียงเบา
"ทำไมท่านไม่บอกข้า! ถ้าเมื่อครู่ท่านหลบไม่ทันจะเป็นยังไง!?"
"เจ้าพูดอย่างกับว่าถ้าเจ้ารู้ เจ้าจะได้สู้แบบไม่ต้องใช้พลังเต็มที่" เขาตวัดสายตาดุมองเธอกลับ
"ข..ข้า.."
ลูเคียขมวดคิ้ว ทำไมฟังดูเหมือนเธอเป็นคนผิดไปได้!?
เขาก้มจูบหน้าผากเธอ "ไม่ว่าจะซ้อมหรือจะฝึกหรือจะสู้จริง เจ้าต้องใช้พลังทั้งหมดที่เจ้ามี เข้าใจหรือเปล่า"
"เรื่องนั้นข้าเข้าใจ" เธอเถียง "แต่ข้ากำลังถามท่านว่าทำไมไม่บอกข้า! อย่ามาเบี่ยงเบนประเด็นนะคะ"
โดนนางรู้ทัน กล้าเถียงเขากลับ จะให้เขาอย่างไรได้ นอกจากตอบไปตามตรง "ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นห่วง แล้วข้าก็คิดว่าสักพักมันน่าจะดีขึ้นเอง"
"แสดงว่ามันไม่ดีขึ้นเลยสินะคะ" เธอถาม เสียงเป็นกังวลยิ่ง
"อย่าห่วงเลย พรุ่งนี้ข้าจะลองไปหาอุโนะฮานะไทโชวดูก่อนก็แล้วกัน"
"จริงนะคะ.."
"จริง" เขายืนยัน ก้มหน้าลงไปหอมหน้าผากมนอีกครั้ง กลิ่นกายอ่อนของนางทำให้เขาแทบรั้งใจไม่ไหว
ได้ยินคำยืนยันเช่นนั้นลูเคียก็ค่อยเบาใจ เอนตัวพิงอกอุ่น กอดเขาไว้แน่น "ท่านรู้หรือเปล่าว่าเมื่อครู่ข้าใจหายแทบแย่ ถ้าข้าไม่มีท่าน ข้าจะอยู่ยังไง"
เขาหัวเราะเบาๆ ลูบหลังเธอตอบและกอดแน่นไม่ต่างกัน "ข้าไม่ตายง่ายๆแบบนั้นหรอก"
"อือ" เธอคราง พลางหลับตาลง ไออุ่นจากร่างเขามักทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจเสมอ
"เพราะข้ายังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ.. ข้าเลยจะยังตายไม่ได้"
"เรื่องอะไรคะ?"
"ก็เรื่อง.. แต่งงานกับเจ้า.. มีลูกกับเจ้า" เขาตอบราวกับกำลังพูดเล่น ทำเอาลูเคียลุกพรวด ผลักอกเขาออกห่าง
ดวงตาโตสีม่วงเปิดกว้างที่สุด
เขาไม่รอ ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เอ่ยอะไรก็ยกสองมือประคองใบหน้าเธอไว้
"แต่งงานกับข้านะ ลูเคีย"
ลูเคียนั่งนิ่ง หลังโดนขอแต่งงานอย่างไม่ทันตั้งตัว
เธอกระพริบตาจนดูคล้ายกับว่าร่างกายที่แข็งทื่อของเธอ ทำได้เพียงแค่นั้น
ตกใจระคนดีใจ เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ ขณะที่เขายังนิ่งรอคำตอบจากเธอ เธอก็ตอบตกลงกับเขาในที่สุด
"ค่ะ.. ท่านพี่"
เธอยิ้มกว้างด้วยความสุขที่ท่วมท้นร่างกายและหัวใจ
เบียคุยะยื่นหน้าไปใกล้เธอและประทับจุมพิตแห่งคำมั่นสัญญานั้น ให้ดวงจันทร์วันเพ็ญที่กระจ่างอยู่กลางฟ้าเป็นพยานแห่งความรักของเขาและเธอ
..
. .
นายท่าน
..
..
ท่านได้ยินข้าแล้วใช่ไหม?
..
นี่เป็นความทรงจำของข้า
..
ท่านจำข้าได้หรือเปล่า?
..
..
นายท่าน
..
..
นึกให้ออกสิขอรับ..
..
..
นายท่าน
..
..
นึกให้ออกสิ.. ทั้งนามของข้า.. และนามของนาง
..
..
นายท่าน
..
..
เบียคุยะน้อยลืมตาโพลง
ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างหมดแรง อากาศเย็นจากแอร์คอนดิชั่นเป่าร่าง เขารู้สึกเย็นๆบนใบหน้า ค่อยๆใช้มือแตะ ก็พบว่าหน้าตัวเองนองไปด้วยน้ำตา
"ฝันอะไร.." คราวนี้หยดน้ำตากลับไหลลงมาจริงจนต้องเอาดึงชายผ้าห่มขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเอง "..ก็ไม่รู้"
เขาหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง.. นาฬิกาชี้บอกเวลาที่เขาตื่นไปโรงเรียนทุกเช้า เพียงแต่วันนี้นาฬิกามันไม่ปลุกเพราะเขาไม่จำเป็นต้องไปที่โรงเรียนแห่งนั้น อีกแล้ว
แต่มีอะไรบางอย่างใกล้ๆนาฬิกาที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลยทำให้เขาชะงักและก้มตัวลงมอง
ยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาดู
..พวงกุญแจเกล็ดหิมะสีขาว..
นึกไปถึงความฝันเมื่อคืนที่ยังไม่ทันจาง
"โซเดโนะ ชิรายูกิ..กับ" หัวใจเจ็บแปลบขึ้นมายามที่นึกถึงนามของหญิงสาวในฝัน "..ลูเคีย?"
..พี่สาวคนนั้นชื่อลูเคียเหรอ?..
..ไม่เอาน่า..
..เพ้อเจ้อไปเรื่อยแฮะเรา..
..ฝันเป็นตุเป็นตะไปได้..
เบือนหน้ากลับไปมองที่ตรงนั้น คว้าเอากระดาษอันเล็กๆที่วางคู่กันมาอ่าน
..ของตอบแทนสำหรับดอกซากุระที่ให้ไว้..
..คุจิกิ ลูเคีย..
หัวใจแทบหยุดเต้น เด็กชายเบิกตากว้างเมื่อชื่อที่ปรากฏตรงหน้าเป็นชื่อเดียวกับที่เขาเอ่ย เรียกเมื่อครู่ ทั้งที่เขาเพิ่งจะเห็นกระดาษแผ่นนี้
ตอนนี้เขารู้แล้วว่านั่นไม่ใช่ความฝัน.. แต่เป็นความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว.. ก่อนที่จะมาเป็นเด็กชาวอังกฤษคนนี้
..ไม่ใช่..
..นี่ไม่ใช่ความทรงจำของเรา..
..มันเป็นความทรงจำของคนที่เรียกเราว่า 'นายท่าน' นั่นต่างหาก..
..ใครกันนะ..
..เจ้าของเสียงที่เรียกเรานั่นน่ะ?..
..ชื่อเหรอ?..
..ชื่ออะไรนะ รู้สึกเหมือนติดอยู่ที่ปาก..
..แต่นึกไม่ออก..
..อะไรซากุระนะ..
..อะไรสักอย่างนี่แหละ..
เด็กน้อยไหวไหล่เบาๆเมื่อพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ก็เลยกลับมาครุ่นคิดถึงผู้หญิงที่ชื่อลูเคียอีกครั้ง
หลักฐานที่อยู่ในมือของเขา.. แสดงว่าครั้งหนึ่งเขากับเธอรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่ใช่ตัวเขาที่เป็นอยู่ตอนนี้
ภาพเมื่อวานที่ได้เจอกันโดยบังเอิญซ้อนทับความคิดขึ้นมา
..ท่าทีแปลกๆของพี่สาว เกิดขึ้นเพราะเรา..
..เพราะเรากับคนรักของพี่สาว คือคนเดียวกันสินะ..
.. 'เบียคุยะ' ที่พี่สาวเรียกตอนนั้น ไม่ใช่เรา.. แต่เป็นผู้ชายผมยาวคนนั้น คนที่เป็นคนรักของพี่สาว..
..เพราะรักมากสินะ ถึงได้ร้องไห้ขนาดนั้น..
..เพราะคิดถึงมากสินะ..
ยิ่งคิด ความรู้สึกในใจพุ่งพล่าน ภาพในฝันยิ่งกลับมาแจ่มชัด..
เพียงหลับตา.. ภาพที่โอบร่างนั้นไว้แนบอกก็ปรากฏชัดกว่าเก่า
ลืมตา ก้มลงมองที่มือ รู้สึกได้ว่าไออุ่นจากร่างนั้นยังคั่งค้างอยู่ที่ผิว..
น้ำเสียงดีใจตอนที่เธอตกลงจะแต่งงานด้วย ยังค้างอยู่ในหู..
ความรู้สึกที่ว่ารักเธอยิ่งกว่าชีวิตมันกลับมาอีกครั้ง ชัดเจนและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม..
..รู้สึกเหมือนอยากจะเจออีกครั้งแล้วสิ..
..รู้สึกเหมือนอยากจะกอดเอาไว้อีก..
..ไอ้ความรู้สึกคิดถึงพวกนี้มันอะไรกัน?..
..เพราะรักมาก เพราะคิดถึงมากใช่ไหม ถึงได้เจ็บอยู่ในอกแบบนี้..
..รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ..
..อยากจะไปอยู่ข้างๆแบบนั้นอีกสักครั้ง..
..อยากจะได้ยินเสียง..
..อยากจะกอดเอาไว้..
..อยากเห็นดวงตาคู่นั้นอีก..
..อยากให้เธอพูดด้วย..
..อยากเห็นรอยยิ้มแบบนั้น..
..อยากจะบอกว่ารัก..
..อยากจะบอกว่าคิดถึง..
..อยากจะเจอ..
..อยากจะเจอ..
..อยากจะเจออีกสักครั้ง..
มือเล็กกำจดหมายแน่น หย่อนพวงกุญแจลงในกระเป๋ากางเกง
ลุกขึ้น และวิ่งออกไปจากบ้านทั้งชุดนอน..
*****************************************************************************
เท้าเล็กพาร่างของเด็กชายในชุดนอนวิ่งไปทั่วเมือง
เกือบสองชั่วโมงที่เขาวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อหาเธอ แต่ไม่เจอเธอแม้แต่เงา
เขาหอบแฮ่กขณะหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะ เขาเห็นพลัสเด็กหญิงยืนแอบข้างชิงช้า มองเขาอย่างกลัวๆ แต่เขาไม่สนใจ สิ่งที่เขาสนใจมีแต่การหาตัวของเธอคนนั้นเท่านั้น
พยายามหายใจเข้าลึกจนลมหายใจเริ่มปกติ ลองตั้งสมาธิดู หวังว่าเขาจะหาเธอพบ
..แต่ก็ไร้ประโยชน์
ไม่มีวี่แววของเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนของเธอแม้แต่น้อย
..เธอจากที่นี่ไปแล้ว..
เขาทรุดตัว นั่งคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหมดแรง
"ไหนว่าจะอยู่นี่อีกครึ่งเดือนไง!"
มือเล็กทุบพื้นคอนกรีตอย่างไม่กลัวเจ็บ เพราะความรู้สึกเจ็บปวดในใจมันรุนแรงยิ่งกว่า
"แล้วเธอไปอยู่ที่ไหนกัน.."
กำกระดาษนั้นยับยู่ยี่ ข้อมือเล็กแข็งเกร็งจนสั่น
"เธออยู่ที่ไหน!!?
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงพื้นจนเป็นวง
"ลูเคีย!!!!"
ได้แต่กรีดร้องเรียกเธออย่างสิ้นหวัง..
*****************
ห้าปีต่อมา...
โซลโซไซตี้..
"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ ลูเคียซามะ"จิโยะ สาวใช้คนสนิทของเธอที่นั่งอยู่ข้างที่นอน เอ่ยทักทายทันทีที่เธอค่อยๆลืมตาตื่น
"อรุณสวัสดิ์ จิโยะ" ทักทายกลับทั้งที่ยังหาว แต่ก็ลุกขึ้นอย่างไม่อิดออด
ร่างเล็กลุกขึ้นยืนเต็มตัว กางแขนออกให้สาวใช้แกะชุดนอนสีขาวออกจากร่าง
"น้ำร้อนกำลังได้ที่เลยเจ้าค่ะ" จิโยะว่ายิ้มๆ ขณะเอาเสื้อนอนพาดกับแขนตัวเองและคลุมผ้าเช็ดตัวให้กับร่างเปลือยเปล่าของผู้เป็นนาย
"ขอบใจนะ" ลูเคียหันมายิ้มอย่างใจดี พลางเอื้อมมือไปหยิบดอกซากุระพลาสติกที่หัวเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ
"เจ้าดอกซากุระพวกนี้ ดูกี่ทีก็นึกถึงเบียคุยะซามะนะเจ้าคะ" จิโยะโพล่งขึ้นอย่างไม่ตั้งใจขณะหยิบผ้าเช็ดตัวตามผู้เป็นนายเข้าไปในห้อง น้ำ ทำเอาลูเคียหันขวับมองหน้าเจ้าหล่อนอย่างทันทีทันควัน
จิโยะกลัวจนลนลาน รีบคุกเข่าและแนบตัวลงกับพื้นอย่างหวาดกลัว "ขออภัยเจ้าค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกจิโยะ" ลูเคียกลับยิ้มกว้างใจดีไม่ถือสา
เธอมองดอกซากุระในมือตัวเองแล้วยิ้มกว้างขึ้นอีกเท่าตัว
"เพราะของสิ่งนี้คือของแทนตัวเขาจริงๆ.."
******************
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส..
"เฮ้ย ชั้นว่าพวงกุญแจอันนี้สวยดีว่ะ ดูดิ่ เป็นรูปนกเพนกวินด้วย" เสียงเด็กหนุ่มพูดขึ้น
"พวงกุญแจเพนกวินเนี่ยนะสวย นายนี่มันไร้รสนิยมจริงๆเลยพีท" เสียงเด็กสาวข้างๆเหวใส่
"ชั้นมันพวกรักสัตว์นี่นา แถมเจ้าตัวนี้ยังทำหน้าแบบมีความสุขด้วย เธอนั่นแหละที่ไร้รสนิยม ห้อยแต่พวงกุญแจรูปหัวใจ อิโธ่..ไร้สาระ พกเข้าไปได้ ของโหลๆพรรค์นั้น" พีทเถียงกลับฉอดๆ หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม
หญิงสาวหันขวับ ตอบใส่ด้วยอารมณ์กรุ่นๆอย่างไม่จริงจังนัก เพราะสนิทกันถึงได้ต่อล้อต่อเถียงกันถึงขนาดนี้ "ปากหมาๆอย่างนายก็เป็นซะแบบนี้ไง ถึงยังหาแฟนไม่ได้"
"แอนนา เอ๊ย แอนนา" พีทเรียกชื่อเธอเสียงยาน "ชั้นไม่ใช่คนเดียวที่ไม่มีแฟนซักหน่อย โน่น เบียคุยะก็ยังไม่มี" พาดพิงไปยังชายหนุ่มอีกคนที่หยิบพวงกุญแจรูปเกล็ดหิมะของตัวเองมาแกว่งเล่น
เบียคุยะเงยหน้ามองอย่างหน่ายๆ "ชั้นเกี่ยวอะไรด้วย"
"ก็ขนาดหล่อๆอย่างนายยังหาแฟนไม่ได้ ชั้นจะไม่มีแฟน มันจะแปลกอะไร โอ๊ยย" พีทร้องลั่นทั้งที่ยังพูดไม่ทันจบ เพราะโดนหญิงสาวหยิกเข้าที่เนื้ออ่อนตรงต้นแขน
"อย่างเบียคุยะเค้าเรียกหล่อเลือกได้ย่ะ ที่เค้าไม่มีเพราะมัวแต่เลือกต่างหาก แล้วคนอย่างนายมีอะไรดีเท่าเค้าล่ะยะ!"
"พอเถอะน่าทั้งคู่นั่นแหละ" เบียคุยะเอ่ยปราม ได้แต่ยิ้มน้อยๆที่สองคนนี้เอาแต่ทะเลาะกันไม่เลิก "พีท ตกลงนายจะซื้อพวงกุญแจนั่นหรือเปล่า"
พีทหันมองหน้าเพื่อนซี้ "ไม่ล่ะ โดนยัยนี่ขัดคอจนชักไม่อยากได้แล้ว เอ.. หรือนายอยากได้"
เบียคุยะแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้า ขณะที่แอนนาคว้าต้นแขนของพีทแล้วหยิกเข้าไปแรงๆอีกที "เบียคุยะเค้าไม่เปลี่ยนพวงกุญแจหรอกน่า"
"ใช่ซี้ ของสำคัญที่นายรักนักรักหนา" พีทแซว "ว่าแต่..นายจะบอกได้หรือยังว่าใครให้มา"
"คนสำคัญไง" เบียคุยะตอบกลับอย่างจงใจยียวน
"ว้อยยย นั่นน่ะรู้แล้ว!" พีทโวย เอามือเท้าเอว "สำคัญขนาดนั้น แต่ไม่เคยแนะนำให้พวกเรารู้จักเนี่ยนะ พิลึกคน"
เบียคุยะถอนใจ ไม่รู้จะตอบพวกนั้นยังไงดี "เธอไม่ใช่คนที่นี่"
นอกจากจะไม่ใช่คนที่นี่ เธอยังไม่ใช่ "คน" ด้วยซ้ำ
..ห้าปีผ่านไป ไม่มีวันใดที่เขาจะไม่นึกถึงเธอ..
..ลูเคีย..
..คุจิกิ ลูเคีย..
ไม่ว่าเขาจะย้ายไปที่ไหน สิ่งแรกที่เขาทำอยู่เสมอคือวิ่งตามหายมทูตที่อยู่ประจำเมืองนั้น แล้วถามถึงเธอ.. ด้วยความหวังว่าจะมีใครสักคนที่รู้จักเธอ
แล้วเขาก็พบว่ายมทูตทุกคนล้วนรู้จักเธอราวกับว่าเธอเองก็เป็นคนดังของโลก ฝั่งนั้น เขาได้ยินพวกนั้นเรียกเธอว่า 'รองหัวหน้าหน่วยสิบสาม' หรือบางทีก็ 'ท่านรองคุจิกิ' ซึ่งมันคืออะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาคิดว่าคงจะใหญ่โตและดังมากชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก
เขายังคงฝันถึงเรื่องในอดีต อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง..
ความฝันในแต่ละครั้งนั้นล้วนแตกต่างกันออกไป ไม่เคยซ้ำกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทุกครั้งคือ เขาเห็นตัวเองถือดาบเล่มที่มีกระบังดาบเป็นรูปสี่เหลี่ยมอยู่ตลอด
..หรือความทรงจำเหล่านี้จะเป็นของดาบเล่มนั้นเขาก็ไม่อาจรู้ชัด
แต่ที่เขารู้คือ.. ตอนนี้เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน..
ทุกครั้งที่ฝันถึง เขาก็ยิ่งซึมซับอารมณ์และความรู้สึกของเบียคุยะคนนั้นมามากขึ้น มากขึ้น.. และมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นตัวตน ความคิด ลักษณะท่าทาง
และโดยเฉพาะความรู้สึกแรงกล้าที่มีต่อลูเคีย..
ทั้งรัก ทั้งหวงแหน ทั้งห่วงหา ทั้งคิดถึง.. ทั้งปรารถนา
จนราวกับว่ามีเพียงร่างกายนี้ที่เปลี่ยนไป ขณะที่ความรู้สึกลึกซึ้งทั้งหลายนั้นยังคงอยู่ กลืนกิน และหลอมรวมกับความเป็นตัวเขาในตอนนี้จนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
เขาอยากจะรู้เสียเหลือเกินว่าหากได้กอดเธอ.. มันจะอุ่นเช่นเดียวกับความรู้สึกในฝันนั้นไหม
หากได้จูบเธอ.. มันจะวาบหวามเช่นความฝันนั้นหรือเปล่า
เพราะเช่นนี้เขาจึงยังคงเฝ้ามองหาเธอทุกๆที่ที่เขาไป ทุกๆที่ที่เขาเดินผ่าน..
หวังว่าจะได้เจอเธอ.. และหากเจอเธอแล้วล่ะก็
..คราวนี้เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปอีก
..ไม่มีวัน..
"นายย้ายมากี่ประเทศแล้ว ชาตินี้ชั้นจะได้รู้ไหมเนี่ยว่าเจ้าหล่อนผู้โชคดีคนนั้นเป็นสาวจากประเทศไหน" พีทถามกลับอย่างหน่ายๆ
"อ้ะ พวกนาย นั่นซาร่าล่ะ!" อยู่ๆแอนนาก็โวยวายขึ้นขัดจังหวะ เมื่อเธอเห็นเพื่อนสาวในกลุ่มอีกคนเดินอยู่อีกฝากของถนน
เบียคุยะเห็นเธอโบกไม้โบกมือให้กัน ขณะที่แอนนาเริ่มออกวิ่งไปหาเพื่อสาวคนสนิท
แม้จะรีบวิ่งไปยังทางม้าลาย แต่ดูเหมือนแอนนาจะไม่ได้สังเกตเลยว่าไฟเขียวที่กระพริบตรงสัญลักษณ์คนเดินอยู่นั้น.. กำลังหายไป
กลับปรากฏสัญญาณไฟสีแดงขึ้นแทนที่ ขณะแอนนาก้าวเท้าลงไปที่ถนน
รถเริ่มเคลื่อนตัว
เบียคุยะเบิกตากว้าง ก้าวเท้าตามไปติดๆอย่างไม่รู้ตัว
เสียงรถบรรทุกที่แล่นมาบีบแตรดังสนั่น แอนนามัวหันมองตามเสียงตามสัญชาติญาณ
รถบรรทุกวิ่งเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง
เบียคุยะกระโดดปราดเข้าไปผลักหญิงสาวให้พ้นทาง
"แอนนา!!!"
เขาไม่รู้ตัวหลังจากนั้น.. รู้แต่เพียงว่าสิ่งสุดท้ายที่เห็นคือรถบรรทุกคันนั้นบีบแตรแผดเสียงลั่น พร้อมกับมุ่งมายังร่างของเขา..
******************
โปรดติดตาม บทส่งท้าย To The New Beginning ไม่นานเกินรอ
ภายในคฤหาสน์หรูที่เคยตกแต่งประดับประดาด้วย ของล้ำค่ามากมาย บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงห้องว่างเปล่าที่มีกล่องสีน้ำตาลขนาดใหญ่วางเรียง เป็นแถว บ้างซ้อนกันสองชั้น บางซ้อนถึงสามชั้น บ่งบอกได้ว่าครอบครัวนี้มีทรัพย์สมบัติไม่น้อยทีเดียว
ในห้องนอนของเด็กชายผู้เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านก็มีสภาพไม่ต่างกัน ข้าวของถูกเก็บใส่กล่องไปหมดแล้ว เหลือเพียงชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้วางอยู่บนโซฟาตัวยาวที่ปลายเท้าของเตียง
ลูเคียยิ้มเศร้าๆ ขณะมองไปรอบห้องที่ตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลายอวกาศและดวงดาวเรืองแสงมากมายบนเพดานและผนังห้อง
หากที่หัวเตียงกลับมีภาพวาดลายดอกซากุระตั้งอยู่อย่างไม่เข้ากันเสียเลย
เธอเดินเข้าไปชิดขอบเตียงที่เด็กชายกำลังนอนหลับสนิท นั่งลงที่ข้างเตียงนั้น ยื่นมือไปปัดปอยผมที่ตกมาปิดหน้าออกเบาๆ
เบียคุยะเพียงขยับตัวยุกยิก แต่ยังคงหลับสนิท ไม่ได้รับรู้ถึงการมาของเธอแต่อย่างใด
ลูเคียนั่งยิ้มมองเด็กชายอยู่ครู่ใหญ่ แล้วล้วงหยิบบางอย่างออกมาจากในเสื้อ
พวงกุญแจลายเกล็ดหิมะสีขาวบริสุทธิ์.. กับเศษกระดาษแผ่นเล็กๆ
บรรจงสอดกระดาษแผ่นนั้นไว้ใต้โทรศัพท์มือถือสีฟ้าที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง และวางพวงกุญแจนั้นทับไว้ด้านบนอีกที
"ให้พวงกุญแจนี้.." หยดน้ำตาเริ่มรินอีกครั้ง "..อยู่กับท่านแทนตัวข้านะคะ"
แหงนหน้าขึ้น พยายามกระพริบตาไม่ให้ร้องไห้ออกมา แต่ร่างกายกลับไม่ยอมเชื่อฟัง ยิ่งฝืน ยิ่งรินไหล ร่างกายไหวคลอนด้วยแรงสะอื้น
ลูเคียเม้มปากที่สั่นรุนแรงอย่างข่มใจ ยกมือปิดหน้า ลุกจากเตียง หันหลังและจากไป..
หายไปในความมืดที่อยู่รอบกาย..
*********
"จงร่ายรำ โซเดโนะชิรายูกิ"
"จงโปรยปราย เซมบงซากุระ"
ลูเคียยืนตั้งมั่น ขณะวาดดาบในสภาพปลดปล่อยออกไปให้อยู่ในท่าเตรียมรับมืออีกฝ่ายที่เพิ่งปลดปล่อยดาบเช่นกัน
หกเดือนหลังเบียคุยะเริ่มฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหลังต่อสู้กับควินชี่ ทั้งเขาและเธอก็กลับมาฝีกด้วยกันอีกครั้ง แม้พลังของเขาจะดูไม่ค่อยเสถียรนัก แต่เขากลับคิดว่าอาจจะเป็นผลมาจากพลังประหลาดของพวกควินชี่นั่นก็เป็นได้
และไม่แน่ว่า การฝึกให้หนักกว่าเดิม อาจจะช่วยทำให้พลังของเขากลับมาเป็นปกติเช่นเคยในเร็ววัน
"มีแรงแค่นี้รึไง ลูเคีย" เบียคุยะเอ่ยเสียงดุจัด หลังจากใช้คลื่นเซมบงซากุระเข้าโจมตีเธอ ซึ่งแม้ว่าลูเคียจะสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมากั้นไว้ได้ แต่มันก็ถูกเขาทำลายลงได้ในเสี้ยวนาที
"ระบำที่สอง ฮาคุเร็น!!"
"เจ้าทำได้ดีกว่านี้" เขาว่าอย่างไม่คิดจะย้ายตัวเองหลบคลื่นพลังของเธอที่พุ่งตรงเข้ามาหา แค่สะบัดมือเบาๆเพียงทีเดียว เซมบงซากุระก็ปรากฏขึ้นมากั้นเขาไว้พร้อมกับทำลายคลื่นน้ำแข็งนั้นลง
ลูเคียใช้ก้าวพริบตาพาตัวเองไปอยู่ด้านหลังเขา และรีบใช้ฮาคุเร็นอีกครั้ง
เบียคุยะไม่แม้แต่จะหันมามอง เขาแค่วาดมือบังคับเซมบงซากุระมาขวางอีกครั้ง แต่คราวนี้อยู่ๆเซมบงซากุระก็สลายตัวไปในชั่วพริบตา
เขาได้แต่เบิกตากว้าง เมื่อรู้ว่าหลบฮาคุเร็นของเธอไม่พ้น
ลูเคียยิ่งตกตะลึงกว่า เมื่อเห็นฮาคุเร็นกลืนกินร่างเขาไปต่อหน้าต่อตา
"ท่านพี่คะ!!" เธอตะโกนลั่น รีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปตรงที่ๆเขายืนอยู่เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ น้ำตาคลอหน่วยขึ้นมา หากไม่เห็นเขาแม้แต่เงา "ท่านพี่เบียคุยะ!!"
พลันปรากฏแขนแกร่งเกี่ยวเอวบางของเธอไว้จากด้านหลัง กระชากเธอจนกลับมาซุกที่อกแกร่ง
"ยังดีที่ก้าวพริบตาข้ายังใช้ได้ดีนะ" เขาก้มกระซิบ ประคองร่างเล็กในอ้อมแขนลงนั่งตักเขากับพื้น
เธอกลับหวีดเสียงใส่เขาอย่างรุนแรง พร้อมกับทุบอกเขารัวๆ "คนบ้า!! ลดเซมบงลงทำไม!"
"ข้าไม่เป็นไร" เขาตอบราวกับจงใจเลี่ยงคำถามเธอ
"ตอบข้ามานะคะว่าท่านลดเซมบงลงทำไม!! " เธอไม่ยอมแพ้ ถามเขาซ้ำด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำใส
เขานิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงแผ่ว
"ข้าเปล่า"
ลูเคียสะดุดใจ หยุดมือที่ทุบเขาอยู่ รีบเงยหน้าขึ้นมองเขา "ท่านเปล่า?.. แล้วทำไมเซมบงถึง--"
เบียคุยะถอนใจ และส่ายหน้าช้าๆอย่างจนใจ "ข้าไม่รู้ อยู่ๆมันก็หายไป"
หญิงสาวจ้องมองนัยน์ตาคมสีเทา เธอเห็นอะไรบางอย่างในนั้น "นี่ไม่ใช่ครั้งแรก.. ใช่ไหมคะ?"
เขาพยักหน้าอีก
"เมื่อไหร่คะ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?" เธอคาดคั้น
"สักพักแล้ว" เขาตอบเสียงเบา
"ทำไมท่านไม่บอกข้า! ถ้าเมื่อครู่ท่านหลบไม่ทันจะเป็นยังไง!?"
"เจ้าพูดอย่างกับว่าถ้าเจ้ารู้ เจ้าจะได้สู้แบบไม่ต้องใช้พลังเต็มที่" เขาตวัดสายตาดุมองเธอกลับ
"ข..ข้า.."
ลูเคียขมวดคิ้ว ทำไมฟังดูเหมือนเธอเป็นคนผิดไปได้!?
เขาก้มจูบหน้าผากเธอ "ไม่ว่าจะซ้อมหรือจะฝึกหรือจะสู้จริง เจ้าต้องใช้พลังทั้งหมดที่เจ้ามี เข้าใจหรือเปล่า"
"เรื่องนั้นข้าเข้าใจ" เธอเถียง "แต่ข้ากำลังถามท่านว่าทำไมไม่บอกข้า! อย่ามาเบี่ยงเบนประเด็นนะคะ"
โดนนางรู้ทัน กล้าเถียงเขากลับ จะให้เขาอย่างไรได้ นอกจากตอบไปตามตรง "ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นห่วง แล้วข้าก็คิดว่าสักพักมันน่าจะดีขึ้นเอง"
"แสดงว่ามันไม่ดีขึ้นเลยสินะคะ" เธอถาม เสียงเป็นกังวลยิ่ง
"อย่าห่วงเลย พรุ่งนี้ข้าจะลองไปหาอุโนะฮานะไทโชวดูก่อนก็แล้วกัน"
"จริงนะคะ.."
"จริง" เขายืนยัน ก้มหน้าลงไปหอมหน้าผากมนอีกครั้ง กลิ่นกายอ่อนของนางทำให้เขาแทบรั้งใจไม่ไหว
ได้ยินคำยืนยันเช่นนั้นลูเคียก็ค่อยเบาใจ เอนตัวพิงอกอุ่น กอดเขาไว้แน่น "ท่านรู้หรือเปล่าว่าเมื่อครู่ข้าใจหายแทบแย่ ถ้าข้าไม่มีท่าน ข้าจะอยู่ยังไง"
เขาหัวเราะเบาๆ ลูบหลังเธอตอบและกอดแน่นไม่ต่างกัน "ข้าไม่ตายง่ายๆแบบนั้นหรอก"
"อือ" เธอคราง พลางหลับตาลง ไออุ่นจากร่างเขามักทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจเสมอ
"เพราะข้ายังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ.. ข้าเลยจะยังตายไม่ได้"
"เรื่องอะไรคะ?"
"ก็เรื่อง.. แต่งงานกับเจ้า.. มีลูกกับเจ้า" เขาตอบราวกับกำลังพูดเล่น ทำเอาลูเคียลุกพรวด ผลักอกเขาออกห่าง
ดวงตาโตสีม่วงเปิดกว้างที่สุด
เขาไม่รอ ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เอ่ยอะไรก็ยกสองมือประคองใบหน้าเธอไว้
"แต่งงานกับข้านะ ลูเคีย"
ลูเคียนั่งนิ่ง หลังโดนขอแต่งงานอย่างไม่ทันตั้งตัว
เธอกระพริบตาจนดูคล้ายกับว่าร่างกายที่แข็งทื่อของเธอ ทำได้เพียงแค่นั้น
ตกใจระคนดีใจ เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ ขณะที่เขายังนิ่งรอคำตอบจากเธอ เธอก็ตอบตกลงกับเขาในที่สุด
"ค่ะ.. ท่านพี่"
เธอยิ้มกว้างด้วยความสุขที่ท่วมท้นร่างกายและหัวใจ
เบียคุยะยื่นหน้าไปใกล้เธอและประทับจุมพิตแห่งคำมั่นสัญญานั้น ให้ดวงจันทร์วันเพ็ญที่กระจ่างอยู่กลางฟ้าเป็นพยานแห่งความรักของเขาและเธอ
..
. .
นายท่าน
..
..
ท่านได้ยินข้าแล้วใช่ไหม?
..
นี่เป็นความทรงจำของข้า
..
ท่านจำข้าได้หรือเปล่า?
..
..
นายท่าน
..
..
นึกให้ออกสิขอรับ..
..
..
นายท่าน
..
..
นึกให้ออกสิ.. ทั้งนามของข้า.. และนามของนาง
..
..
นายท่าน
..
..
เบียคุยะน้อยลืมตาโพลง
ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างหมดแรง อากาศเย็นจากแอร์คอนดิชั่นเป่าร่าง เขารู้สึกเย็นๆบนใบหน้า ค่อยๆใช้มือแตะ ก็พบว่าหน้าตัวเองนองไปด้วยน้ำตา
"ฝันอะไร.." คราวนี้หยดน้ำตากลับไหลลงมาจริงจนต้องเอาดึงชายผ้าห่มขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเอง "..ก็ไม่รู้"
เขาหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง.. นาฬิกาชี้บอกเวลาที่เขาตื่นไปโรงเรียนทุกเช้า เพียงแต่วันนี้นาฬิกามันไม่ปลุกเพราะเขาไม่จำเป็นต้องไปที่โรงเรียนแห่งนั้น อีกแล้ว
แต่มีอะไรบางอย่างใกล้ๆนาฬิกาที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลยทำให้เขาชะงักและก้มตัวลงมอง
ยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาดู
..พวงกุญแจเกล็ดหิมะสีขาว..
นึกไปถึงความฝันเมื่อคืนที่ยังไม่ทันจาง
"โซเดโนะ ชิรายูกิ..กับ" หัวใจเจ็บแปลบขึ้นมายามที่นึกถึงนามของหญิงสาวในฝัน "..ลูเคีย?"
..พี่สาวคนนั้นชื่อลูเคียเหรอ?..
..ไม่เอาน่า..
..เพ้อเจ้อไปเรื่อยแฮะเรา..
..ฝันเป็นตุเป็นตะไปได้..
เบือนหน้ากลับไปมองที่ตรงนั้น คว้าเอากระดาษอันเล็กๆที่วางคู่กันมาอ่าน
..ของตอบแทนสำหรับดอกซากุระที่ให้ไว้..
..คุจิกิ ลูเคีย..
หัวใจแทบหยุดเต้น เด็กชายเบิกตากว้างเมื่อชื่อที่ปรากฏตรงหน้าเป็นชื่อเดียวกับที่เขาเอ่ย เรียกเมื่อครู่ ทั้งที่เขาเพิ่งจะเห็นกระดาษแผ่นนี้
ตอนนี้เขารู้แล้วว่านั่นไม่ใช่ความฝัน.. แต่เป็นความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว.. ก่อนที่จะมาเป็นเด็กชาวอังกฤษคนนี้
..ไม่ใช่..
..นี่ไม่ใช่ความทรงจำของเรา..
..มันเป็นความทรงจำของคนที่เรียกเราว่า 'นายท่าน' นั่นต่างหาก..
..ใครกันนะ..
..เจ้าของเสียงที่เรียกเรานั่นน่ะ?..
..ชื่อเหรอ?..
..ชื่ออะไรนะ รู้สึกเหมือนติดอยู่ที่ปาก..
..แต่นึกไม่ออก..
..อะไรซากุระนะ..
..อะไรสักอย่างนี่แหละ..
เด็กน้อยไหวไหล่เบาๆเมื่อพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ก็เลยกลับมาครุ่นคิดถึงผู้หญิงที่ชื่อลูเคียอีกครั้ง
หลักฐานที่อยู่ในมือของเขา.. แสดงว่าครั้งหนึ่งเขากับเธอรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่ใช่ตัวเขาที่เป็นอยู่ตอนนี้
ภาพเมื่อวานที่ได้เจอกันโดยบังเอิญซ้อนทับความคิดขึ้นมา
..ท่าทีแปลกๆของพี่สาว เกิดขึ้นเพราะเรา..
..เพราะเรากับคนรักของพี่สาว คือคนเดียวกันสินะ..
.. 'เบียคุยะ' ที่พี่สาวเรียกตอนนั้น ไม่ใช่เรา.. แต่เป็นผู้ชายผมยาวคนนั้น คนที่เป็นคนรักของพี่สาว..
..เพราะรักมากสินะ ถึงได้ร้องไห้ขนาดนั้น..
..เพราะคิดถึงมากสินะ..
ยิ่งคิด ความรู้สึกในใจพุ่งพล่าน ภาพในฝันยิ่งกลับมาแจ่มชัด..
เพียงหลับตา.. ภาพที่โอบร่างนั้นไว้แนบอกก็ปรากฏชัดกว่าเก่า
ลืมตา ก้มลงมองที่มือ รู้สึกได้ว่าไออุ่นจากร่างนั้นยังคั่งค้างอยู่ที่ผิว..
น้ำเสียงดีใจตอนที่เธอตกลงจะแต่งงานด้วย ยังค้างอยู่ในหู..
ความรู้สึกที่ว่ารักเธอยิ่งกว่าชีวิตมันกลับมาอีกครั้ง ชัดเจนและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม..
..รู้สึกเหมือนอยากจะเจออีกครั้งแล้วสิ..
..รู้สึกเหมือนอยากจะกอดเอาไว้อีก..
..ไอ้ความรู้สึกคิดถึงพวกนี้มันอะไรกัน?..
..เพราะรักมาก เพราะคิดถึงมากใช่ไหม ถึงได้เจ็บอยู่ในอกแบบนี้..
..รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ..
..อยากจะไปอยู่ข้างๆแบบนั้นอีกสักครั้ง..
..อยากจะได้ยินเสียง..
..อยากจะกอดเอาไว้..
..อยากเห็นดวงตาคู่นั้นอีก..
..อยากให้เธอพูดด้วย..
..อยากเห็นรอยยิ้มแบบนั้น..
..อยากจะบอกว่ารัก..
..อยากจะบอกว่าคิดถึง..
..อยากจะเจอ..
..อยากจะเจอ..
..อยากจะเจออีกสักครั้ง..
มือเล็กกำจดหมายแน่น หย่อนพวงกุญแจลงในกระเป๋ากางเกง
ลุกขึ้น และวิ่งออกไปจากบ้านทั้งชุดนอน..
*****************************************************************************
เท้าเล็กพาร่างของเด็กชายในชุดนอนวิ่งไปทั่วเมือง
เกือบสองชั่วโมงที่เขาวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อหาเธอ แต่ไม่เจอเธอแม้แต่เงา
เขาหอบแฮ่กขณะหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะ เขาเห็นพลัสเด็กหญิงยืนแอบข้างชิงช้า มองเขาอย่างกลัวๆ แต่เขาไม่สนใจ สิ่งที่เขาสนใจมีแต่การหาตัวของเธอคนนั้นเท่านั้น
พยายามหายใจเข้าลึกจนลมหายใจเริ่มปกติ ลองตั้งสมาธิดู หวังว่าเขาจะหาเธอพบ
..แต่ก็ไร้ประโยชน์
ไม่มีวี่แววของเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนของเธอแม้แต่น้อย
..เธอจากที่นี่ไปแล้ว..
เขาทรุดตัว นั่งคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหมดแรง
"ไหนว่าจะอยู่นี่อีกครึ่งเดือนไง!"
มือเล็กทุบพื้นคอนกรีตอย่างไม่กลัวเจ็บ เพราะความรู้สึกเจ็บปวดในใจมันรุนแรงยิ่งกว่า
"แล้วเธอไปอยู่ที่ไหนกัน.."
กำกระดาษนั้นยับยู่ยี่ ข้อมือเล็กแข็งเกร็งจนสั่น
"เธออยู่ที่ไหน!!?
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงพื้นจนเป็นวง
"ลูเคีย!!!!"
ได้แต่กรีดร้องเรียกเธออย่างสิ้นหวัง..
*****************
ห้าปีต่อมา...
โซลโซไซตี้..
"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ ลูเคียซามะ"จิโยะ สาวใช้คนสนิทของเธอที่นั่งอยู่ข้างที่นอน เอ่ยทักทายทันทีที่เธอค่อยๆลืมตาตื่น
"อรุณสวัสดิ์ จิโยะ" ทักทายกลับทั้งที่ยังหาว แต่ก็ลุกขึ้นอย่างไม่อิดออด
ร่างเล็กลุกขึ้นยืนเต็มตัว กางแขนออกให้สาวใช้แกะชุดนอนสีขาวออกจากร่าง
"น้ำร้อนกำลังได้ที่เลยเจ้าค่ะ" จิโยะว่ายิ้มๆ ขณะเอาเสื้อนอนพาดกับแขนตัวเองและคลุมผ้าเช็ดตัวให้กับร่างเปลือยเปล่าของผู้เป็นนาย
"ขอบใจนะ" ลูเคียหันมายิ้มอย่างใจดี พลางเอื้อมมือไปหยิบดอกซากุระพลาสติกที่หัวเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ
"เจ้าดอกซากุระพวกนี้ ดูกี่ทีก็นึกถึงเบียคุยะซามะนะเจ้าคะ" จิโยะโพล่งขึ้นอย่างไม่ตั้งใจขณะหยิบผ้าเช็ดตัวตามผู้เป็นนายเข้าไปในห้อง น้ำ ทำเอาลูเคียหันขวับมองหน้าเจ้าหล่อนอย่างทันทีทันควัน
จิโยะกลัวจนลนลาน รีบคุกเข่าและแนบตัวลงกับพื้นอย่างหวาดกลัว "ขออภัยเจ้าค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกจิโยะ" ลูเคียกลับยิ้มกว้างใจดีไม่ถือสา
เธอมองดอกซากุระในมือตัวเองแล้วยิ้มกว้างขึ้นอีกเท่าตัว
"เพราะของสิ่งนี้คือของแทนตัวเขาจริงๆ.."
******************
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส..
"เฮ้ย ชั้นว่าพวงกุญแจอันนี้สวยดีว่ะ ดูดิ่ เป็นรูปนกเพนกวินด้วย" เสียงเด็กหนุ่มพูดขึ้น
"พวงกุญแจเพนกวินเนี่ยนะสวย นายนี่มันไร้รสนิยมจริงๆเลยพีท" เสียงเด็กสาวข้างๆเหวใส่
"ชั้นมันพวกรักสัตว์นี่นา แถมเจ้าตัวนี้ยังทำหน้าแบบมีความสุขด้วย เธอนั่นแหละที่ไร้รสนิยม ห้อยแต่พวงกุญแจรูปหัวใจ อิโธ่..ไร้สาระ พกเข้าไปได้ ของโหลๆพรรค์นั้น" พีทเถียงกลับฉอดๆ หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม
หญิงสาวหันขวับ ตอบใส่ด้วยอารมณ์กรุ่นๆอย่างไม่จริงจังนัก เพราะสนิทกันถึงได้ต่อล้อต่อเถียงกันถึงขนาดนี้ "ปากหมาๆอย่างนายก็เป็นซะแบบนี้ไง ถึงยังหาแฟนไม่ได้"
"แอนนา เอ๊ย แอนนา" พีทเรียกชื่อเธอเสียงยาน "ชั้นไม่ใช่คนเดียวที่ไม่มีแฟนซักหน่อย โน่น เบียคุยะก็ยังไม่มี" พาดพิงไปยังชายหนุ่มอีกคนที่หยิบพวงกุญแจรูปเกล็ดหิมะของตัวเองมาแกว่งเล่น
เบียคุยะเงยหน้ามองอย่างหน่ายๆ "ชั้นเกี่ยวอะไรด้วย"
"ก็ขนาดหล่อๆอย่างนายยังหาแฟนไม่ได้ ชั้นจะไม่มีแฟน มันจะแปลกอะไร โอ๊ยย" พีทร้องลั่นทั้งที่ยังพูดไม่ทันจบ เพราะโดนหญิงสาวหยิกเข้าที่เนื้ออ่อนตรงต้นแขน
"อย่างเบียคุยะเค้าเรียกหล่อเลือกได้ย่ะ ที่เค้าไม่มีเพราะมัวแต่เลือกต่างหาก แล้วคนอย่างนายมีอะไรดีเท่าเค้าล่ะยะ!"
"พอเถอะน่าทั้งคู่นั่นแหละ" เบียคุยะเอ่ยปราม ได้แต่ยิ้มน้อยๆที่สองคนนี้เอาแต่ทะเลาะกันไม่เลิก "พีท ตกลงนายจะซื้อพวงกุญแจนั่นหรือเปล่า"
พีทหันมองหน้าเพื่อนซี้ "ไม่ล่ะ โดนยัยนี่ขัดคอจนชักไม่อยากได้แล้ว เอ.. หรือนายอยากได้"
เบียคุยะแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้า ขณะที่แอนนาคว้าต้นแขนของพีทแล้วหยิกเข้าไปแรงๆอีกที "เบียคุยะเค้าไม่เปลี่ยนพวงกุญแจหรอกน่า"
"ใช่ซี้ ของสำคัญที่นายรักนักรักหนา" พีทแซว "ว่าแต่..นายจะบอกได้หรือยังว่าใครให้มา"
"คนสำคัญไง" เบียคุยะตอบกลับอย่างจงใจยียวน
"ว้อยยย นั่นน่ะรู้แล้ว!" พีทโวย เอามือเท้าเอว "สำคัญขนาดนั้น แต่ไม่เคยแนะนำให้พวกเรารู้จักเนี่ยนะ พิลึกคน"
เบียคุยะถอนใจ ไม่รู้จะตอบพวกนั้นยังไงดี "เธอไม่ใช่คนที่นี่"
นอกจากจะไม่ใช่คนที่นี่ เธอยังไม่ใช่ "คน" ด้วยซ้ำ
..ห้าปีผ่านไป ไม่มีวันใดที่เขาจะไม่นึกถึงเธอ..
..ลูเคีย..
..คุจิกิ ลูเคีย..
ไม่ว่าเขาจะย้ายไปที่ไหน สิ่งแรกที่เขาทำอยู่เสมอคือวิ่งตามหายมทูตที่อยู่ประจำเมืองนั้น แล้วถามถึงเธอ.. ด้วยความหวังว่าจะมีใครสักคนที่รู้จักเธอ
แล้วเขาก็พบว่ายมทูตทุกคนล้วนรู้จักเธอราวกับว่าเธอเองก็เป็นคนดังของโลก ฝั่งนั้น เขาได้ยินพวกนั้นเรียกเธอว่า 'รองหัวหน้าหน่วยสิบสาม' หรือบางทีก็ 'ท่านรองคุจิกิ' ซึ่งมันคืออะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาคิดว่าคงจะใหญ่โตและดังมากชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก
เขายังคงฝันถึงเรื่องในอดีต อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง..
ความฝันในแต่ละครั้งนั้นล้วนแตกต่างกันออกไป ไม่เคยซ้ำกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทุกครั้งคือ เขาเห็นตัวเองถือดาบเล่มที่มีกระบังดาบเป็นรูปสี่เหลี่ยมอยู่ตลอด
..หรือความทรงจำเหล่านี้จะเป็นของดาบเล่มนั้นเขาก็ไม่อาจรู้ชัด
แต่ที่เขารู้คือ.. ตอนนี้เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน..
ทุกครั้งที่ฝันถึง เขาก็ยิ่งซึมซับอารมณ์และความรู้สึกของเบียคุยะคนนั้นมามากขึ้น มากขึ้น.. และมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นตัวตน ความคิด ลักษณะท่าทาง
และโดยเฉพาะความรู้สึกแรงกล้าที่มีต่อลูเคีย..
ทั้งรัก ทั้งหวงแหน ทั้งห่วงหา ทั้งคิดถึง.. ทั้งปรารถนา
จนราวกับว่ามีเพียงร่างกายนี้ที่เปลี่ยนไป ขณะที่ความรู้สึกลึกซึ้งทั้งหลายนั้นยังคงอยู่ กลืนกิน และหลอมรวมกับความเป็นตัวเขาในตอนนี้จนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
เขาอยากจะรู้เสียเหลือเกินว่าหากได้กอดเธอ.. มันจะอุ่นเช่นเดียวกับความรู้สึกในฝันนั้นไหม
หากได้จูบเธอ.. มันจะวาบหวามเช่นความฝันนั้นหรือเปล่า
เพราะเช่นนี้เขาจึงยังคงเฝ้ามองหาเธอทุกๆที่ที่เขาไป ทุกๆที่ที่เขาเดินผ่าน..
หวังว่าจะได้เจอเธอ.. และหากเจอเธอแล้วล่ะก็
..คราวนี้เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปอีก
..ไม่มีวัน..
"นายย้ายมากี่ประเทศแล้ว ชาตินี้ชั้นจะได้รู้ไหมเนี่ยว่าเจ้าหล่อนผู้โชคดีคนนั้นเป็นสาวจากประเทศไหน" พีทถามกลับอย่างหน่ายๆ
"อ้ะ พวกนาย นั่นซาร่าล่ะ!" อยู่ๆแอนนาก็โวยวายขึ้นขัดจังหวะ เมื่อเธอเห็นเพื่อนสาวในกลุ่มอีกคนเดินอยู่อีกฝากของถนน
เบียคุยะเห็นเธอโบกไม้โบกมือให้กัน ขณะที่แอนนาเริ่มออกวิ่งไปหาเพื่อสาวคนสนิท
แม้จะรีบวิ่งไปยังทางม้าลาย แต่ดูเหมือนแอนนาจะไม่ได้สังเกตเลยว่าไฟเขียวที่กระพริบตรงสัญลักษณ์คนเดินอยู่นั้น.. กำลังหายไป
กลับปรากฏสัญญาณไฟสีแดงขึ้นแทนที่ ขณะแอนนาก้าวเท้าลงไปที่ถนน
รถเริ่มเคลื่อนตัว
เบียคุยะเบิกตากว้าง ก้าวเท้าตามไปติดๆอย่างไม่รู้ตัว
เสียงรถบรรทุกที่แล่นมาบีบแตรดังสนั่น แอนนามัวหันมองตามเสียงตามสัญชาติญาณ
รถบรรทุกวิ่งเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง
เบียคุยะกระโดดปราดเข้าไปผลักหญิงสาวให้พ้นทาง
"แอนนา!!!"
เขาไม่รู้ตัวหลังจากนั้น.. รู้แต่เพียงว่าสิ่งสุดท้ายที่เห็นคือรถบรรทุกคันนั้นบีบแตรแผดเสียงลั่น พร้อมกับมุ่งมายังร่างของเขา..
******************
โปรดติดตาม บทส่งท้าย To The New Beginning ไม่นานเกินรอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น