มีครอบครัวนึง อาศัยอยู่กันเพียงสองคน คือแม่และลูกชาย บ้านหลังน้อยๆที่ปลูกตามมีตามเกิดอยู่ห่างไกลชุมชนนั้น ทำให้บ้านหลังนี้ค่อนข้างที่จะไกลจากผู้คนอยู่พอสมควร ตัวลูกชายนั้น ไม่ได้มีงานการทำเป็นหลักเป็นแหล่ง อาศัยรับจ้างเป็นครั้งคราวไป ส่วนแม่ของลูกชายนั้น สติไม่ค่อยจะดี เพราะอดีตโดนสามีตนเอง ทิ้งไปมีภรรยาใหม่
ตอนยังเป็นเด็ก ก็พยายามดูแลแม่ของตนตามกำลังและความสามารถที่มี พอโตเป็นหนุ่มขึ้นมาหน่อย ก็เริ่มมีปากมีเสียงเถียงแม่ตนเองเพราะคามที่สติสตางแม่ไม่ค่อยจะดี
ทุกๆเช้าตอนที่ร่างกายแม่ยังไหว แม่ก็พอจะเดินไปตลาด จับจ่ายซื้อของได้ ตามที่แม่เคยทำ แต่พอแก่ตัวลง สังขารแม่เริ่มไม่เที่ยง เจ็บออดๆแอดๆ นานวันเข้าก็ไม่ได้เดินไป
มีอยู่วันนึง เป็นคืนก่อนวันลอยกระทง แม่ก็ถามลูกว่า
"ตาหนูๆ วันนี้เราไปตลาด หาซื้อของมาไว้ทำกับข้าวพรุ่งนี้ไหม" แม่เอ่ยถาม
ด้วยความที่วันนี้ชายหนุ่มเพิ่งเลิกงานกลับมา เหนื่อยจัด เลยตอบสวนกลับด้วยอารมณ์พาลหงุดหงิด
"อยากไปก็เดินไปเองเถอะ อย่ามาเซ้าซี้มาก รำคาญ"
ไร้เสียงตอบจากปากผู้เป็นแม่ จนเวลาเลยมาถึงตอนเย็น ลูกชายได้เหลือบสายตาไปเห็นว่า แม่กำลังใส่รองเท้า เดินไปทางตลาด ด้วยความรำคาญ บวกกับไม่ได้คิดถึงสภาพสังขารแม่ตอนนี้ให้มากนัก จึงไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไป
จวบจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ทุกอย่างรอบบ้านเริ่มมืดสนิท จึงเอะใจ
'ทำไมป่านนี้แม่ยังไม่กลับมาอีกนะ' จึงตัดสินใจขี่มอเตอร์ไซด์คันเก่า ออกไปดู
พอไปถึงที่ตลาด มองหาแม่ไปรอบๆ กลับไม่พบวี่แววแม่ตนสักนิด เลยถามแม่ค้าดู
"ป้าเห็นแม่เอ๊ง เดินมาอยู่ตอนเย็นๆ มาเดินวนๆรอบตลาดนานอยู่ แต่สักพักแกก็เดินกลับไป"
ได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มเลยรีบขี่มอเตอร์ไซด์ย้อนกลับไปทางบ้านตน เพื่อว่าแม่เกิดหกล้มระหว่างทาง แต่ขี่วนหาเท่าไรก็ไม่เจอ ในใจนั้นเริ่มเกิดความกระวนกระวาย ตัดสินใจไปหาตามโรงพยาบาล สถานีตำรวจแต่ก็ไร้วี่แวว
ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกเหลือเกินว่า ทำไมตัวเค้าถึงได้เลว อกตัญญูแบบนี้ คำพูดที่หลุดปากออกไปโดยไม่่ยั้งคิด หากหาแม่ไม่เจออีกแล้วล่ะ ตัวเค้าจะอยู่อย่างไร กับความรู้สึกผิดนี้ที่กระทำกับคนที่เลี้ยงดูตนมาทั้งชีวิต
ขี่มอเตอร์ไซด์ออกตามหาจนกระทั้งเกือบตีหนึ่ง สภาพร่างกายที่อ่อนล้า บวกกับอากาศที่หนาวจัด ทำให้ต้องตัดใจขี่รดกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น เค้าออกตามหาแม่อีกครั้ง คราวนี้ลองขี่ไกลออกจากหมู่บ้าน ไปทางที่จะเข้ามาในเมือง ปากก็สอบถามผู้คนข้างทางไปทั่ว จนมีคนเห็นว่า เมื่อคืนมีหญิงแก่เดินผ่านมาทางหน้าบ้านแก ดูสภาพเนื้อตัวเหมือนคนสติไม่ดี จึงไม่ได้สนใจอะไร
ชายหนุ่มได้ยินจึงรีบขับรดตามถนนมุ่งสู่ตัวเมืองไป ระยะทางจากบ้านของเค้ามาจนถึงตรงนี้ไม่ใช่สั้นๆ ไกลเกือบสิบกี่โลเห็นจะได้ ขณะกำลังหาเหตุผลว่าแม่ของเค้าคงไม่เดินมาไกลขนาดนี้ สายตาก็พลันเหลือบไปเห็น รถสองแถวคันใหญ่ กำลังจอดอยู่หน้าป้อมตำรวจ โดยตำรวจคนนึงกำลังจับจูงหญิงชราขึ้นบนรถโดยสาร
ไม่รอช้า ชายหนุ่มรีบถลาเข้าไปหา ผู้หญิงที่เค้าเพียรเฝ้าหามาทั้งคืน ปากก็ตะโกนเรียกทั้งน้ำตา
"แม่! แม่!"
"ตาหนู" แม่ชราเปล่งเสียงออกมาเรียกลูกชาย น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
"อ้าว คุณรู้จักยายคนนี้หรอคับ เมื่อตอนสายๆมีคนพามาส่ง บอกว่าเห็นเดินอยู่คนเดียวข้างถนนดึกๆดื่นๆ คิดว่าคงหลงทาง กลับบ้านไม่ถูก" คุณตำรวจกล่าว
"แม่มาตลาด คิดว่าจะมาซื้อกับข้าวไปไว้ให้ลูกกิน แต่แม่จะกลับบ้าน แม่กลับไม่ได้"
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น น้ำตาก็ไหลลงมาเป็นสาย ด้วยความที่ตนเองเป็นตนเหตุ ทำให้แม่ต้องเดินอย่างไร้จุดมุ่งหมาย ท่ามกลางความมืด อีกทั้งอากาศก็หนาวเหลือเกิน โชคดีเหลือเกินที่วันนี้เค้ายังเจอแม่ ไม่อยากจะคิดเลย หากแม่เป็นอะไรไป ความผิดบาปของลูกชั่วคนนี้ จะต้องชดใช้อีกกี่ชาติถึงจะหมด
"ลูกขอโทษ ลูกผิดไปแล้ว" พูดจบลูกชั่วนั้นก็ก้มลงกราบที่เท้าแม่ ไม่หวังให้ความผิดในครั้งนี้ได้รับการอภัย
แม่ชราเพียงกล่าวตอบมาว่า "กลับบ้านเรากันเถอะลูก ขี่รถมาไกล เหนื่อยไหม"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น