ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn]Lose sky

    ลำดับตอนที่ #2 : Part II : Honest Wind

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 512
      1
      6 มิ.ย. 51

    Part II : Honest Wind
    5927 (?)

    .

    .

    .

    วายุโหมบ้าคลั่งพลันกระหน่ำ

    ราวร่ายรำบนนภาผืนฟ้าใส

    แล้วจึงได้พานพบผู้เกรียงไกร

    นภาลัยเลื่อมใสผู้อ่อนโยน



    .

    .

    .




    จึงจักขอหยุดชะงักลงที่นี่

    จักขอพลีชีพที่เหลือไว้รังสรรค์

    ซึ่งความสุขซึ่งความรักซึ่งผูกพัน

    แด่องค์ท่านอัมพรใจภักดี


    .

    .

    .




    วายุโหมกระหน่ำบ้าคลั่งที่ไม่มีผู้ใดหยุดได้

    วายุที่พัดกระหน่ำสร้างความเดือดร้อนไปทั่วเขตขาม

    กระทั่งได้หยุดลง ยามเมื่อพบพานนภาลัยผู้งดงาม

    ครั้นแล้ว จิตใจจึงตั้งมั่น

    ว่าจักขออยู่ใต้นภา

    ว่าจักขอปกป้องสุดชีวาขาดดิ้น

    ..ตราบจนร่างนี้สิ้นสลายเป็นธุลี..

    .

    .

    .








    ท่านรุ่นที่สิบคร้าบบบบบบบ~~~”

    เสียงดังลั่นมาจากด้านหลังพร้อมกับแรงกระเทnอนจากการวิ่ง สิ่งเหล่านั้นเรียกให้เด็กหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่งามหันมอง พร้อมเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าอ่อนหวานให้พรายขึ้นมาอย่างงดงาม อรุณสวัสดิ์ โกคุเดระคุง ทำไมวันนี้ถึงมาช้าล่ะ?”

    พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะครับ ท่านรุ่นที่สิบ เอ๊ะ แล้วเจ้าบ้าเบสบอลล่ะครับ?”ว่าพลางหันมองผู้ที่มักจะมายืนอยู่ด้วยเสมอ ดวงตาสีเขียวมรกตเหลียวซ้ายแลขวา สึนะมองเพื่อนผมเงินที่มองหาเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำสั้น ก่อนจะแทบสำลักเมื่อมือหนาตบป๊าบลงมาที่กลางหลังอย่างจังๆ

    ไง! สึนะ โกคุเดระ! ขอโทษนะที่วันนี้ไม่ได้เดินมาด้วย

    อะ..อรุณสวัสดิ์ ยามาโมโตะคุง

    เอ่ยพลางหัวเราะแห้งๆ ยังสำลักไม่ห่ยพร้อมไอค่อกแค่ก เจ้าวายุผู้ภักดีจึงพลันเอ่ยขึ้น

    แก!! ไอ้บ้าเบสบอล! บังอาจทำร่นที่สิบเจ็บ!!ไม่ว่าเปล่ามือคว้าระเบิดขึ้นเตรียมถล่มแบไม่กลัวใครเห็น เด็กหนุ่มร่างสูงพลันแสยะยิ้มจับดาบไม้เตรียมจะฟาดคืนเปิดศึก ไฟแห่งกาต่อสู้โหมกระหน่ำ ก่อนจะพลันดับมอดลงเมื่อเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตายยุ่งเอ่ยขึ้นมา

    อย่าสู้กันในโรงเรียนสิทั้งสองคน!! รีบไปที่ห้องกันได้แล้วน่า!เอ่ยพลางดึงเสื้อของเด็กหนุ่มผมเงินทั่งไม่ยอมเก็บอาวุธอันตราย

    แต่ว่า!! แต่ว่า! มันทำรุ่นที่สิบนี่ครับ!โวยวายลั่นราวกับเด็กน้อยที่ถูกขัดใจ ก่อนสึนะจะพลันส่ายหัวแล้วตะโกนขึ้นบ้าง

    ช่างมันเถอะน่า!! โกคุเดระคุง!! ฉันไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดจะตายเพราะโดนตบหลังซะหน่อย!

    นั่นสิ ฮะๆ โกคุเดระ นายนี่ทำยังกับสึนะเป็นผู้หญิงยามาโมโตะว่าพลางหัวเราะสบายๆตามแบบฉบับของตน โกคุเดระพลันตวัดมองตาเขียวปั๊ด ก่อนจะจุดไฟขึ้นอีกครา

    มาหาว่าท่านรุ่นที่สิบเป็นผู้หญิงเรอะ!

    พอได้แล้วน่า!!!! ถ้าทำแบบนี้ฉันจะไม่คุยด้วยทั้งวันเลยนะ!ตะโกนราวเหลืออด แต่ดูเหมือนจะได้ผลเป็นอย่างดี

    อย่านะครับรุ่นที่สิบ!

    แทบจะโหยหวนเป็นเสียงหวีดร้อง ระเบิดหลากชนิดหลากขนาดพลันตกลงพื้นด้วยความช๊อคของผู้เป็นเจ้าของ ก่อนเด็กหนุ่มผมเงินจะรีบกุลีกุจอเก็บระเบิดขนิดไม่รอคำสั่งใดๆ สึนะถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบแผ่วบาง

    เวลาอยู่ที่โรงเรียนพยายามอย่าควักเอาระเบิดออกมาเลย สัญญานะ โกคุเดระคุง แค่ตัวฉันเองฉันปกป้องตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งนายหรอก

    เอ่ยพลางยิ้มหวานแห้งๆ แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มร่างโปร่งจะยังไม่ยอมแพ้

    แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อยากเห็นรุ่นที่สิบบาดเจ็บนี่ครับ!!

    ขอแค่โกคุเดระคุงห่วงฉันแบบนี้ ฉันก็ดีใจแล้วล่ะน่า



    ..คำพูดที่ชวนให้ตื้นตัน....

    ท่านรุ่นที่สิบมักยิ้มให้ผมด้วยดวงตาที่แสนงดงามเช่นนี้เสมอ

    นภาลัยผู้งดงามเลอค่ายิ่ง..

    ตื้นตันนัก รักนัก

    ..กับความอ่อนโยนที่มอบให้..



    .

    .

    .

    อ่อนโยนนักหนา นภาเอ๋ย

    แม้กับวาโยดื้อกร้าว ไร้แก่นสาร

    แสนสุขกับคำกล่าวเย็น ดั่งลำธาร

    ขอสาบานจักติดตาม ตราบนิจ นิรันดร

    .

    .

    .







    ขอบพระคุณเหลือเกินครับ ท่านรุ่นที่สิบ!!


    เด็กหนุ่มร่างเล็กมองประกายตาแสนภูมิใจปนเต็มตื้นของเด็กหนุ่มผมเงินเชิงงุนงง แต่แล้วก็ไม่สนใจ แล้วจึงตัดสินใจชักชวนเพื่อนทั้งสอง
    เดินเข้าโรงเรียนไปด้วยกัน

    ไปเถอะ โกคุเดระคุง ยามาโมโตะคุง เดี๋ยวจะโดนลงโทษเอา

    ครับ ท่านรุ่นที่สิบ!

    เอ่ยด้วยเสียงดังลั่น แล้วจึงวิ่งตามร่างแบบบางไป



    .

    .

    .



    จักภักดี เฝ้าห่วงหา เฝ้าห่วงหวง

    ลึกในทรวงยินดียิ่งเป็นนักหนา

    ขอเพียงให้ได้อยู่ใต้ฟากนภา

    ดวงตาวายุก็ประกายพราย


    .

    .

    .



    .

    .

    .


    ท่านรุ่นที่สิบไปโดนอะไรมาครับ!!

    ร้องลั่นจนทำกระเป๋าตก มองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยรอยแผล ดวงตาสังเกตเห็นแขนทั้งสองข้างที่เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลไม่อาจขยับได้

    เพราะวันนี้มีรายการตอบปัญหาวิชาการ เขาจึงไม่ได้มาโรงเรียน แต่เพราะความอยากเจอรุ่นที่สิบจึงกลับมาที่โรงเรียนอีกครั้งโดยไม่กลับบ้านไปก่อน

    แล้วนี่มันอะไร!!?

    เจ้าบ้าเบสบอลไม่ได้คอยคุ้มครองรุ่นที่สิบอยู่หรอกรึ!

    คิดอย่างแสนขัดใจ ก่อนจะโวยวายขึ้นอีกครั้งไอ้สวะตัวไหนมาทำร้ายรุ่นที่สิบกันครับ!!ผมจะไปจัดการมัน!!”

    ดังเช่นเดิมของความเร่าร้อนแห่งวายุ มือเรียวขยับจับระเดขึ้นเตรียมถล่มขอเพียงนายเหนือเอ่ยชื่อ สึนะยิ้มแห้งๆพลางร้องห้าม ก่อนจะเอ่ยขึ้น

    ไม่มีใครมาทำร้ายฉันทั้งนั้นแหละ ฉันหกล้มเองยิ้มบาง มือเรียวบางยกขึ้นโบกราวไม่มีอะไร แต่บาดแผลมากมายบนร่างกายมันบอกว่า ไม่ใช่แค่การหกล้มธรรมดา!!

    เหนือสิ่งอื่นใด

    แววตาเศร้าหมอง กับ ดวงตาที่แดงคล้ำราวกับผ่านการร้องไห้มา...

    ท่านรุ่นที่สิบอย่าโกหกผมสิครับ!!

    ดวงตาประกายมรกตงามมองลึกในดวงเนตรของนายเหนือ มือเรียวประคองแขนทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา

    แม้อยู่ในอารมณ์โกรธขึ้งเพียงใด

    เขายังระงับอารมณ์ได้




    .

    .



    จะไม่มีวันทำร้ายท้องนภา

    จะไม่มีวันทำให้โศกสัญ

    แม้จะร้ายกาจจนผู้อื่นทรมานแสนเบื่อหน่าย

    แม้จะไม่เคยเห็นใครในสายตา

    แต่จะไม่มีวัน นำพาภยันตรายมาให้นายเหนือผู้งดงาม

    จะไม่มีวัน ทำให้รอยยิ้มนี้พลันจางหาย

    ..อย่างเด็ดขาด..

    .


    .

    .





    เด็กหนุ่มรู้ดีถึงความกังวลของเพื่อน และยิ่งรู้ดีว่าสภาพร่างกายตอนนี้มันมากกว่าการหกล้ม หากแต่ก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ยตอบอะไรได้

    เพราะเขาไม่คิดจะให้เพื่อนผมเงินคนนี้ไปสู้กับเมฆาราชสีห์ผู้เกรียงไกร

    ไม่อยากให้ใครซักคนต้องบาดเจ็บ

    อีกประการหนึ่ง



    นั่นคือความต้องการของเขาเอง

    เขามีสิทธิที่จะหนีก่อนปะทะกับคุณฮิบาริ

    แต่เขาไม่ได้ทำ

    ยามนั้น อีกด้านหนึ่งของหัวใจ เรียกร้อง ปรารถนา จะให้ถูกจดจำ

    แม้ด้วยวิธีขลาดเขลาโง่งม

    ดังนั้นจึงได้เข้าต่อสู้ โดยไม่ดูกำลังของตัวเอง

    แล้วอย่างไรล่ะ

    ความพยายามนั้น สุดท้ายก็ดูราวจะสูญเปล่า

    ..สุดท้าย ก็มีแต่ชอกช้ำ..ทุกข์ทน..





    .

    .

    .


    นภาลัยพลันหม่นแสงแสนโศกสัญ

    พลาดจากฝันจากเมฆาที่ปองหมาย

    ความนึกคิดความสุขล้นพลันมลาย

    เหลือเพียงกายเปื้อนหม่นหมองทุกข์ระคน

    .


    .


    .






    “.....ท่านรุ่นที่สิบครับ....เอ่ยเสียงแผ่ว ว้าวุ่นใจเมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลยิ่งหมองหม่นลงทุกทีถ้างั้น..ผมไม่ถามแล้วก้ได้ครับ แต่ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงดูเศร้าสร้อยแบบนี้?”

    สึนะมองสบดวงตาสีมรกตงาม กิ่นจะส่ายหัวแล้วยิ้มบางให้ ไม่มีอะไรหรอก โกคุเดระคุง

    เป็นเรื่องที่บอกผมไม่ได้หรือครับ รุ่นที่สิบ?”

    กุมมือทั้งสองของเด็กหนุ่มร่างเล็ก พร้อมย่อตัวเงยสบประกายตาสดใส

    ว่าไงครับ ท่านรุ่นที่สิบ ช่วยระบายให้ผมฟังได้ไหม....?”

    “...โกคุเดระ..คุง...

    ครืด..

    สึนะ!! จะกลับบ้านรึยัง?”

    เสียงของยามาโมโตะดังขัดขึ้นขณะเดินเข้ามาในห้องเรียนที่ร้างผู้คน เด็กหนุ่มเจาของเรือนผมสีน้ำตาลไหม้พลันผุดลุกขึ้น ก่อนจะเอ่ยตอบไป จะกลับแล้วล่ะ แต่ว่าคงต้องแวะไปที่อื่นก่อน วันนี้ต่างคนต่างกลับละกัน บาย โกคุเดระคุง ยามาโมโตะ

    ท่านรุ่นที่ส....

    ไม่ทันจบประโยค สึนะก็วิ่งออกจากห้องไป



    อ้าว โกคุเดระ นายไปตอบปัญหาไม่ใช่รึไง?”

    เพราะแกแท้ๆ!!

    ตะโกนลั่นใส่เด็กหนุ่มจนชวนให้งุนงง

    อ้าว อะไรของนายน่ะ???”

    เอ่ยถาม หากแต่ร่างโปร่งบางยามนี้กลับไม่สนใจเสียแล้ว

    ท่านรุ่นที่สิบ กำลังกังวลอะไรอยู่นะ

    ทำไมเราถึงไร้ประโยชน์แบบนี้



    .

    .

    .




    อยากจะคอยปกป้องมิห่างเหิน

    อยากจะเดินเคียงหายไม่ห่างหาย

    อยากจะดูแลจนชีพมลาย

    อยากจะคลายทุกข์โศกให้จางไป



    .

    .


    .








    ณ ฐานทัพใต้ดินแห่งวองโกเล่ เมืองนามิโมริ

    ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินสว่างเดินตรวจตราไปตามเส้นทางต่างๆ นึกทึ่งกับความคิดอันแยบยลของผืนนภาผู้เกรียงไกร

    ทุกส่วนของการใช้งานนั้นเรียกได้ว่าไม่เปล่าประโยชน์

    โกคุเดระยิ้มพราย รู้สึกดีใจที่ได้รับใช้นายเหนือคนปัจจุบัน

    พลันดวงตามรกตก็เหลือเห็น

    ท่านรุ่นที่สิบ ไปไหนมารึครับ?”เอ่ยถามอย่างใสซื่อ มองใบหน้าของรุ่นที่สอบแห่งวองโกเล่ด้วยวคามห่วงใย

    ร่างที่เตี้ยกว่าเพียงเงยมอง ก่อนจะยิ้มให้อย่างสดใส

    ไม่มีอะไรหรอก โกคุเดระคุง พอดีงานเอกสารเยอะไปหน่อยน่ะ"

    สึนะยิ้ม มองใบหน้าของผู้ทิทักษ์วายุแล้วเอ่ยขึ้น ไปที่ห้องนั่งเล่นเถอะ ฉันอยากอยู่กับทุกคนให้นานๆ

    "แต่ผมว่าท่านรุนที่สอบควรไปพักผ่อนนะครับ"เอ่ยพร้อมมองดวงตาคล้ำดำจากการอดนอน นึกห่วงนายเหนือที่ฏหมงานหนักจนมิได้พักผ่อน

    แต่ชายหนุ่มกลับเพียงยิ้ม

    "ขอโทษนะ...แต่ฉันรู้สึกเหมือนว่า...ฉันอาจจะไม่ได้คุยกับทุกคนไปwfhนานกว่านี้น่ะ...."

    "ฉันอยากใช้เวลาให้มค่าที่สุดก่อนที่มันจะหมดไป"

    ..ที่พูดน่ะ หมายถึงอะไรกัน!

    หัวใจพลันหล่นวูบ หากคาดไม่ผิด นั่นมหายถึงการจากจร

    ..จักจากจรไปที่ใดล่ะ?..

    "อย่าคิดอะไรเป็นลางร้ายแบบนั้นสิครับ!!"ตะโกนลั่น ชักเป็นห่วงนายเหนือแห่งวองโกเล่ขึ้นทุกขณะ "ท่านรุ่นที่..."

    แล้วจึงถูดขัดขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ฉันไม่เป็นไรหรอก โกคุเดระคุง มันก็แค่ลางสังหรณ์...เอาล่ะ เรากลับไปหาพวกยามาโมโตะดีกว่า นะ?”

    โกคุเดระลังเล ก่อนจะเป็นฝ่ายพถูกลากไปเสียเอง

    เอาน่า ไปเถอะนะ


    ..ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงเดินตามไป



    .

    .

    .

    ยังคงมั่น ยังคงรัก ยังคงฝัน

    ขอคืนวันจงผ่านผันอย่างสุขี

    แม้นสุดท้ายของชีวิตขอยอมพลี

    วายุนี้ขอเคียงข้างนภาลัย




    .

    .

    .

     

    .................................................................................................................................................





    เสียงสนั่นกึกก้องกับปนาทยิ่งกว่าเสียงของอาวุธที่เขาใช้

    สิ่งนั้นมุ่งตรงไปยังร่างของนภาผู้เกรียงไกร

    นายเหนือที่เคารพยิ่ง



    เขาละจากผู้ที่กำลังต่อกร โยนระเบิกใส่ทั้งหมดอย่างไม่รู้จักวางแผนอันใด

    ขาย่างก้าวเร็วรี่เข้ารองรับร่างที่พลันล้มลงมา อ้อมแขนประคองร่างที่กำลังหายใจรวยริน

    เหล่าผู้พิทักษ์คนอื่นพลันวิ่งตรงเข้ามา เหลือเพียงเมฆาที่ยืนนิ่ง


    เสียงแซ่สร้องเอ่ยขานเรียกนามของนภาลัย กรีดร้องดังหังให้ลืมตาตื่นอีกครา


    ประกายตาสีน้ำตาลสวยพลันเบิกขึ้นอีกครา มองไปยังที่แห่งหนึ่ง

    รอยยิ้มบางผุดพรายขึ้น

    มือเรียวบางขยับยกคล้ายจะทำอะไรบางอย่าง ริมฝีปากขยับหากแต่ไร้สำเนียงเสียง



    แต่แล้ว




    ..กลับตกลงตามแรงโน้มถ่วงอย่างรวดเร็ว..


    .


    .


    .



    มลายสิ้นแล้ว ผืนนภา

    ความงดงามอันใฝ่หา สูญสิ้น

    รอยยิ้มหวานอันงดงามพลัน ดับสูญ มลายไป

    เหลือเพียงวายุว้าเหว่ หม่นหมอง ยอกระกำ



    .



    .


    .






    THE END-Part II : Honest Wind-




    To Be Continue -Part III : Calm Rain-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×