ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic D.gray-man]Sweet Life

    ลำดับตอนที่ #29 : แวมไพร์+6ขอโทษค่าTTTTTTTTTTwTTTTTTTTTT

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 795
      0
      10 ต.ค. 50


    ขอโทษค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลืมลงไปตั้งเยอะแนะ ท่านๆก็ไม่ทักซินเล้ยยยว่าไม่ปะติดปะต่อกัน ฮือๆๆๆๆๆ


    ลงส่วนที่ขาดไปแล้วนะคะ



    --------------------------------------------


    “ผู้มีพระคุณเหรอครับ?”อเลนทวนคำ เซร์ยิ้มนิดๆ ก่อนจะผงกหน้า


    “เป็นคนดีมากๆเลยล่ะ”


    “แล้วเป็นคนแบบไหนหรือครับ”อเลนถามด้วยความอยากรู้ เซร์ทำหน้าหนักใจก่อนจะเปิดปากขึ้น
    “ก็......”


    “เป็นคนหล่อ เข้ม ใจดี ใครๆเห็นก็หลงรัก”เสียงของใครคนหนึ่งแทรกเข้ามา


    “สเตราส์ มาที่นี่ได้ยังไง!!!”เซร์ร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นบุคคลที่ตนกำลังพูดถึงยืนอยู่ข้างหลัง


    “บินมา”ชายหนุ่มตอบกวนๆ ถึงแม้จะแป็นความจริง...


    “ทราบค่ะว่าบินมา แต่มาทำไม?”เซร์ถามอย่างสงสัย


    “มาเยี่ยมบ้านเก่าไม่ได้หรือ? แม่แมวน้อย”


    “เอ่อ....พี่เซร์ฮะ คนคนนี้ …..”อเลนเปรยถาม


    “เป็นองค์รักษ์ของแม่แมวน้อยครับผม”สเตราส์ชิงตอบ


    “อย่าพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริงได้ไหมคะ เป็นผู้มีพระคุณของพี่เองแหละ เป็นคนที่บ้า งี่เง่า ซื่อๆจนบื้อ แต่บางที่ก็เจ้าเล่ห์จนพี่ตามไม่ทัน สเตราส์ แวมป์ ขอแนะนำให้รู้จัก ส่วนนั้นอเลน วอคเกอร์ น้องสาวของหนู กับคันดะ ยู น้องชายบุญธรรมและว่าที่น้องเขยค่ะ เฮ้ย! ยูจัง พี่พูดความจริงแล้วจะซัดมุเก็นมาหาพระแสงอะไรเนี่ย?”เซร์ถามคันดะที่หน้าออกแดงๆอย่างนึกสนุก


    จะว่าไปไม่ได้แกล้งแหย่ยูจังมาจะครบสิบปีแล้ว คันปากชะมัดเลยวุ้ย....


    ตอนที่เจอกันแทบจะหลุดปากยั่วโมโห...ถ้าไม่คิดว่าอยากลองแกล้งให้โมโหหงุดหงิดแบบสุดๆ...และก็เป็นไปตามแผน


    แต่มันยังไม่สะใจอ่ะ...


    แต่ก่อนที่เซร์จะคิดแผนการกลั่นแกล้งคันดะต่อ อเลนก็เอ่ยปากขึ้น “แล้วที่นี่เป็นสถานที่แบบไหนเหรอครับ คุณสเตราส์ ที่ว่าเป็นบ้านเก่าน่ะ..”


    “อืม...ก็..เป็นบ้านของฉันจริงๆนี่นา ..เกาะนี่น่ะ..เป็นเกาะของพวกแวมไพร์น่ะ เป็นสถานที่สุดท้ายในโลกที่แวมไพร์จะอยู่ได้ แต่ว่า...ก็สูญสลายและพังทลายไปเรียบร้อยแล้วล่ะ..”สเตราส์พูดอย่างไม่ยี่หร่าอะไรนัก


    “อ้อ..เกาะของแวมไพร์..เอ๊ะ..งั้นนายก็?..”คันดะที่กำลังคิดอยู่ชี้ไปทางสเตราส์อย่างลืมมารยาท สเตราส์หัวเราะน้อยๆก่อนตอบ


    “อ่านะ..หนุ่มน้อยนักดาบ..ฉันน่ะ...”


    “แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ที่มีอายุมากกว่าพันปี เผลอๆจะครึ่งหมื่น อดีตราชาแวมไพร์ เมื่อเกือบประมาณห้าพันปีที่แล้ว”เซร์จัดการตอบให้เสร็จสรรพ “อ้าว? แล้วอเลนไปหลบหลังยูจังทำไมนั่น?”


    “กะ..ก็.ก็..เขา..”อเลนชี้สเตราส์ น้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความกลัว ก่อนที่เซร์จะหัวเราะพรืดเสียงดังสนั่น


    “ฮะ....ฮะๆๆ อเลน แวมไพร์จริงๆไม่เหมือนในตำนานนะ เขาไม่ดูดเลือดหรอก แต่ว่า..สามารถรู้รสชาติได้ว่าเลือดแบบไหนหวาน หรือแบบไหนเป็นเลือดเลิศรส แต่อาหารหลักๆก็เหมือนมนุษย์เรานั่นแหละจ๊ะ ทำเป็นกลัวไปได้..”


    “แวมไพร์เหรอครับ!?”เสียงของรันกับลูที่นั่งเงียบฟังผู้ใหญ่พูดกันอยู่นานตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้นอย่างตื่นเต้น ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอด ด้วยความที่พ่ออดีตราชาแวมไพร์ ไม่ทันตั้งตัว จึงล้มโครมลงไปกองกับพื้น


    “รัน ลู ทำอะไรน่ะครับ!!! ”คุณแม่มือใหม่เอ็ดเข้าให้


    “เอาเถอะน่า...ไม่เป็นไรหรอกจ้า อเลน รันจัง ลูจัง เล่นแรงๆเลย~~”เซร์หันไปสั่งสองหลานตัวแสบ


    “คร้าบ~~”รันกับลูรับคำแล้วจัดการรุมสกรัมทันที


    “แล้วที่นี่มีอะไรที่คล้ายๆกับอินโนเซนต์ไหม? นายอยู่มาหลายปีน่าจะรู้”คันดะถาม หลังจากที่รันกับลูเลิกแกล้งสเตราส์แล้ว


    “อืม....คิดว่าไม่นะ อินโนเซนต์นั่นน่ะ..กระจัดกระจายตอนน้ำท่วมโลกสินะ? ตอนนั้นน่ะ แวมไพร์ทุกคนตัดขาดจากโลกภายนอก รวมถึงเกาะนี้ด้วย ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะมีอินโนเซนต์อยู่เด็ดขาด อีกอย่าง...ทุกๆปีฉันจะมาตรวจดูที่นี่.. ไม่มีอะไรที่เข้าข่ายของที่เธอว่ามาเลย .....พ่อนักดาบ”สเตราส์จัดการแจกแจงให้ฟัง คันดะฟังก็นิ่งไป...ก่อนที่อดีตราชาแวมไพร์จะกล่าวขึ้น


    “งั้นก็ออกไปจากที่นี่กันเถอะ ฉันอยากไปที่ศาสนจักรหน่อยน่ะ ไม่ได้ไปที่โน่นมากว่าร้อยปีแล้ว”


    0.0


    ร้อยปี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


    “ละ....แล้ว...แล้วมีใครรู้จักคุณสเตราส์ด้วยหรือครับ? ตอนนี้น่ะ”อเลนถามเสียงตะกุกตะกัก


    “มีสิ เฮพลัสก้าไง น่าจะยังอยู่นี่? เธอคนนั้นน่ะ อ้อ...แล้วก็บุ๊คแมนก็รู้จัก บังเอิญเจอกันเมื่อราวๆ 50ปีก่อน ตอนนี้เป็นไงบ้างแล้ว”สเตราส์ถามอย่างอยากรู้


    “แก่หง่อมได้ที่แล้ว”คันดะตอบเสียงเรียบๆ อเลนสำลักน้ำชาจนไอค่อกๆแค่กๆ


    นี่ถ้าปู่บุ๊คแมนรู้คันดะโดนถีบแน่...


    “อืม..ก็มนุษย์นี่นะ....ฉันนี่สิ ไม่น่าเกิดมาเป็นแวมไพร์เล้ย.....กว่าจะตายต้องรออีกนาน..เฮ่อ...”สเตราส์ถอนหายใจเบาๆ


    “งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะครับ”อเลนชวนก่อนลุกขึ้นเพื่ออกไปจากที่นี่ ก่อนที่จะมีสัญญาณส่งมาที่ทีมแคนบี


    “คุณกับตันเรือนี่นา? มีอะไรเหรอครับ”อเลนพูดกัเสียงของนายเรือ


    [ตอนนี้พวกเราโดนซัดออกมานอกเกาะนะครับ พยายามเข้าไปในเกาะอีกรอบ แต่เข้าไปไม่ได้นะครับ คิดว่า....คงจะเข้าไปรับพวกท่านเอ๊กโซซิทส์ไม่ได้]


    “ว่าไงนะ!?”คันดะแผดเสียงร้องดังอย่างหงุดหงิด


    [ขอโทษจริงๆครับ..ขอโทษจริงๆ..แต่เราเข้าใกล้ไม่ได้เลยครับ เอ่อ...คุณเซร์ครับ~!อยู่ด้วยนี่ครับผม..จะเอาไงครับ?]นายเรือร้องอย่างยินดีที่พบเซร์ก่อนถามเอ๊กโซซิทส์ที่ตนรู้จักและคุ้นเคย


    “...เวย์ซังกลับไปเถอะค่ะ...เดี๋ยวฉันจะพาสองคนนี้ไปศาสนจักรเอง”เซร์ตอบง่ายๆ นายเรือทำท่าลังเลเล็กน้อย แต่ก็หันไปสั่งลูกเรือให้กลับไป


    “แล้วเราจะออกจากที่นี่ยังไงไม่ทราบ? เซสึนะ”คันดะถามเซร์


    “แล้วจะไปยังไงล่ะครับ พี่สาว”รันหันไปกระตุกเซร์


    “ไม่เรียกป้าเหรอจ๊ะ? รันจัง ลูจัง”เซร์พูดล้อๆ


    “พี่สาวหน้าอ่อนเกินไปครับ พวกผมเรียกไม่ลง”


    “อ้อ...งั้นเหรอจ๊ะ....เอาล่ะ..อเลน ยูจัง ลองทายสิว่าจะออกทางไหน?”ว่าแล้วเซร์ก็ตั้งคำถามทันที


    “อืม....หมอกลงหนาจัดแสดงว่า...ทางที่จะออกน่ะ...”ว่าแล้วคันดะก็ชี้ขึ้นข้างบน


    “ปิ๊งป่อง ถูกต้องจ้า ยูจัง สมเป็นน้องนุ่งของพี่ อ๊ะ!....อูย....ยูจังโหดร้าย”เซร์เปรยๆบน เมื่อเจ้าตัวหลบมุเก็นแล้วดันตกเก้าอี้(สมน้ำหน้าดีไหมเนี่ย?)... “แกล้งนิดแกล้งหน่อยเอง”


    “แล้วเมื่อกี้หมายความว่าไง? ไปทางท้องฟ้าเรอะ ไปยังไงไม่ทราบ? เซสึนะ?”คันดะถามเชิงหยันๆ


    “มีละกันน่า แต่รอดาร์กแป๊บนะ พี่ขอให้หมอนั่นไปจัดการพวกของที่เกลื่อนๆอยู่ข้างบนน่ะ ”เซร์ตอบแบบสบายๆ ก่อนจะตัดสินใจตอเมื่อมีมุเก็นมาจ่อคอ


    “เอาน่าๆ....บอกเดี๋ยวนี้แหละ ใช้วิธีง่ายๆ เนอะ สเตราส์ บินไปไง วิธีเดียวกับที่พี่มา...”เซร์ตอบพลางยักคิ้วให้อย่างน่าถีบ (มีอาจารย์ผู้สอนสั่ง 4 ท่าน ไปติดนิสัยมาจากใครหนอ?)


    คันดะออกจะอึ้งๆไปนิด....(ก็ไม่นิดนะ..ดูจากสีหน้าข้างล่าง)


    0.0


    แล้วจะบินไปอีท่าไหนมิทราบ?


    บ้าไปแล้วเรอะ???????????






    --------------------------------------------------------------------------






















    จึ๊กๆ

    “อะไร?”โคมุอิถามคนที่สะกิดตัวเองอย่างหงุดหงิด โดยไม่ได้หันหน้าไปทางคนที่สะกิดตนอยู่

    จึ๊กๆ

    “มีอะไร?”คนสะกิดยังเงียบ

    จึ๊กๆ

    “ก็ถามว่ามีอะ....เฮ้ยยยยยยยยยยยยย”โคมุอิร้องเสียงหลงเมื่อหันไปนอกหน้าต่าง มังกรตัวใหญ่ราวๆครึ่งศาสนจักรกำลังบินตรงเข้ามา!

    “ไอ้นั่นมันอะไรกันฮะ ราวี่ มันอะไร?”

    “มังกรไง โคมุอิ สมัยนี้ยังมีอยู่อีกเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ”ราวี่พูดอึ้งๆ ก่อนจะหันไปถามหัวหน้าแผนกวิทย์ที่ตัวสั่นๆ “กลัวเรอะ?”

    “ตัวทดลอง..แถมยังเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน แค่คิดว่าจะได้แยกส่วนมันก็..อา....”ราวี่มองสภาพความอยากชำแหละมังกรของโคมุอิด้วยความสยดสยอง ก่อนจะโวยวายขึ้น...เมื่อ..

    มังกรตัวที่ว่ากำลังบินมาที่หน้าต่างห้องทำงานของโคมุอิ!

    “คุณโคมุอิคร้าบบ กลับมาแล้วครับ”เสียงที่คุ้นเคยดังออกมา

    เอ๋?

    “อ้าว อเลนคุง คันดะคุง ไหงนั่งมังกรมางี้เลยล่ะ...”โคมุอิถามไถ่ เมื่อเห็นร่างของคนคุ้นเคยกันนั่งอยุ่บนหัวมังกร ร่างของเอ็กโซซิทส์ทั้งสองค่อยๆหย่อนตัวลงมาที่หน้าต่าง ก่อนที่อเลนจะกล่าวขึ้น

    “พอดีว่าหมอกมันลงหนาจัดน่ะครับ ตอนที่อยุ่ในเมืองนั้นน่ะ เรือเข้าไปไม่ได้ ขากลับเลยต้องอาศัยมังกรของพี่เซร์กลับมาน่ะครับ”

    “อืม...งั้นหรือ”โคมุอิพยักหน้า

    “งั้น...พี่ไปก่อนนะ แล้วสเตราส์ล่ะว่าไงคะ เห็นว่าจะมาเยี่ยมคน?”เซร์หันไปถาม สเตราส์ยิ้มนิดๆก่อนจะตอบ “เปลี่ยนใจแล้วล่ะ เซร์ ฉันกลับดีกว่า มังกรตัวนี้ชื่ออะไรล่ะ บินฉวัดเฉวียนดี”

    “ชื่อ ทิอาลล์ ค่า”เซร์บอกชื่อของมังกรตัวโปรด ก่อนจะหันไปทางน้องชายของตนอีกคนที่ยืนหน้าหงิกอยู่ คันดะตวัดสายตามาทางพี่สาวร่วมสำนัดเดียวกัน ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปให้...


    ตอนที่อยู่ที่นั่น..







    “แล้วจะบินไปยังไงไม่ทราบ ถึงนายแวมไพร์จะบินได้ ก็ใช่ว่าจะบรรทุกเราไปได้ทั้งหมด”คันดะถาม

    “ใครบอกว่าจะให้สเตราส์บรรทุกไปกันล่ะ ที่จะให้บรรทุกพวกเราไปน่ะ..อ้าว ดาร์ก มาแล้วเหรอ? งั้นจะได้กลับกันเลย”เซร์หันไปหาดาร์กที่กำลังเดินเข้ามาที่ลานประรำพิธี ก่อนจะเป่าปาก

    วี๊ด........

    พั่บ!

    เสียงตีลมดังขึ้น ก่อนจะปรากฏเป็นมังกรตัวใหญ่ ทั่วทั้งตัวเป็นสีเดียวกับผืนแผ่นฟ้าสีรัตติกาล

    “เราจะนั่งเจ้านี่กลับกัน ขอแนะนำ นี่มังกรอายุ 4500 ปี พาหนะตัวโปรดของฉันเอง(?)”เซร์แนะนำเสร็จสรรพ ก่อนจะต้องรีบปิดหูเมื่อนักดาบหนุ่มตระกูลคันดะแผดเสียงร้อง

    “นี่มันอะไรกัน แล้วเธอไปเอาเจ้ากิ้งก่ายักษ์นี้มาจากไหน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

    “พี่โซฟีเลียเขาให้มา บอกว่าให้เลี้ยงดีๆ ถ้าเจ้านี่ตาย ฉันก็ตาย จบข่าว”เซร์ตอบแบบไม่ใส่ใจใยดี ก่อนจะลากน้องชายของตนขึ้นไปนั่งบนหัวของมังกรสีนิล คันดะลอบถอนหายใจอย่างปวดหัวอยู่ซักครู่ ก็รีบกระโดดขึ้นไปนั่งตามโดยอุ้มสองฝาแฝดขึ้นไปด้วย…

    สิ่งที่ทำให้คันดะหัวเสียอยุ่ตอนนี้ก็คือ...การที่เซสึนะบินฉวัดเฉวียนจนทั้งอเลน ทั้งสองฝาแฝดเกาะเขาจนแทบไม่ได้หายใจ แถมบินด้วยความเร็วสูงขนาดที่มาถึงศาสนจักรทั้งๆที่ยังไม่สว่าง....ระยะทางที่ตามจริงต้องใช่เวลาถึง4-5วัน แต่กลับเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง...เขาอยากถามยัยโรคจิตจริงๆว่าจะรีบไปหาพระแสงอะไร?





    “เซร์จังๆ ไอ้นี่น่าสนใจดีนะ ไปเจอที่ไหนอ่ะ”ราวี่ถามอย่างสนใจ

    “ฉันไม่ได้เจอหรอก พี่โซฟีเลียให้ฉันมา เขาบอดว่าให้ดูแลดีๆ แต่ถ้าทิอาลล์ตายเมื่อไหร่ก็เตรียมตัวเอาหัวขึ้นเขียงได้ ว่าแต่ว่า ราวี่ ใครให้นายเติมจังฮะ?”คนเป็นเจ้าของตอบสบายๆแล้วหันไปถามว่าที่บุ๊คแมนเสียงเย็น ก่อนจะขอตัวกลับ แต่ก่อนที่จะไป ดาร์กกลับโยนสิ่งหนึ่งให้ว่าที่น้องเขย

    “ใช้คืนนี้นะ อา..ไม่สิ..คืนไหนก็ได้ ไอ้ของนั่นน่ะใช้ได้ดีเชียว ไถ่โทษแทนเซร์ที่บินฉวัดเฉวียนละกัน”ดาร์กพูดอย่างมีเลศนัย ก่อนที่มังกรสีนิลจะบินจนกลืนหายไปกับผืนฟ้าสีรัตติกาล

    “....แล้วคืนนี้รันกับลูจะนอนที่ไหนล่ะครับ นอนห้องเดียวกับผมแล้วก็ยูเหรอ?”อเลนหันไปถามรันและลู

    “คือ..ผมกะจะนอนที่นี่น่ะฮะ มีของน่าสนใจเพียบเลย สบายใจดี”รันตอบ ลูหันไปมองอย่างไม่อยากเชื่อ ที่ที่มีแต่ของประหลาดแล้วก็กองเอกสารเนี่ยนะ นี่พี่ชายเขาเป็นบ้าไปหรือยังเนี่ย?

    “ง่า..เหรอครับ..แล้วลูล่ะ?”อเลนอึ้งไปนิดๆกับการตัดสินใจของเด็กชาย ก่อนจะหันไปถามอีกคน

    “...ผมขออยู่กับรันเขาดีกว่าครับ”ดูท่าเขาจะปล่อยคนบ้า(โคมุอิ)ให้อยู่กับคนบ้า(รัน)ไม่ได้แฮะ..ไม่งั้นเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ..

    “โอเคครับ..งั้น..ยูครับ กลับห้องกันเถอะ”อเลนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะจูงมือคันดะกลับไปที่ห้องของพวกตน..




    ทางด้านร่างสี่ร่างที่นั่งอยู่บนหัวมังกร เซร์หันไปถามดาร์กด้วยเสียงเย็นๆ

    “ดาร์ก..นายเอาอะไรให้ยูจังไป”

    “หืม..ของเล็กน้อยๆ”ดาร์กตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก

    “อืม.แต่ฉันจำได้ว่า..ลายห่อผ้านั่นหายากพอดู...แล้วก็..ฉันห่อของอยู่ ลักษณะเดียวกันเป๊ะ”เซร์ยิ้มเย็นพลางพูดไป

    เฮือก!

    “นายเอาไอ้นั่นมาด้วยทำไมกันฮะ ดาร์ก!!!!!”เซร์ร้องด้วยความโมโห เมื่อนึกถึงสิ่งที่อยู่ในห่อผ้าที่คนรักโยนให้น้องชายร่วมสำนัก

    “เอาน่าๆไม่ใช่ขอน่ากลัวซักหน่อย”ดาร์กตอบสสบายๆ

    “ไอ้นั่นน่ะมัน..ฮึ่ย...”ใบหน้าของเซร์แดงเรื่อขึ้น ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น..

    ถึงจะไม่อันตราย...แต่ว่ามัน..อ๊า..โธ่!

    คนเป็นพี่สาวถอนหายใจเตรียมรับคำด่าทอและคำพูดงามๆจากปากน้องชายที่จะเกิดหลังจากที่คันดะใช้ของในห่อผ้านั่น...

    อเลน....ถ้าโมโหหรือรู้สึกดียังไงก็ติดต่อมานะ....พี่ยินดีฟัง




    ทางด้านคันดะที่นั่งรอร่างบางอาบน้ำอยู่ ก็จัดการแกะห่อผ้าออกมาดู..

    หืม?

    นี่มันอะไรกันละเนี่ย?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×