[Fic. Dragon Delivery]The case of Dragon in Human Form - [Fic. Dragon Delivery]The case of Dragon in Human Form นิยาย [Fic. Dragon Delivery]The case of Dragon in Human Form : Dek-D.com - Writer

    [Fic. Dragon Delivery]The case of Dragon in Human Form

    เมื่อมังกรทั่วซีเลกลายร่างเป็นมนุษย์...!? [แฝงกลิ่นอายวายเล็กน้อยแต่ไม่มาก กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน]

    ผู้เข้าชมรวม

    796

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    796

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ธ.ค. 56 / 19:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เนื่องจากภาพนี้..............

    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10202562332528321&set=o.145763182142370&type=1&theater

    กับภาพนี้...

    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10202554872461824&set=o.145763182142370&type=1&theater

    สาวกแถวนี้เลยอดรนทนไม่อยู่เขียนฟิคนี้ขึ้นมาค่ะ YvY

    ฟิคนี้จะวายนิดหน่อยนะคะ แต่ก็พยายามเขียนให้ไม่ออกนอกหน้า เพียงแต่ท่านที่ไม่ชอบวายอาจจะอ่านแล้วรู้สึกพิลึก เลยอยากเตือนไว้ก่อน (จริงๆ อยู่ในระดับ Shonen-ai แบบพอจิ้นได้....)

    กราบขอโทษพี่ปันอย่างยิ่งที่เขียนฟิค แต่นังซินทนไม่ไหวจริงๆ โฮกกกกก หมารัฟน้่ารัก ฟฟฟฟ ถ้าท่านใดเห็นว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม สร้างความเสียใจแก่ทางท่านผู้แต่ง นังซินจะลบบทความไว้ฟินคนเดียวทันที(?)

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title :  The case of Dragon in Human Form

       

      Author : Sinnerdarker

       

      Rating : PG

       

      Character : All Chaactor

       

      ณ จุดนี้สาววาแค่กๆๆๆ! สาวกจะไม่ทน!!! ฮืออออ มังกรมุ้งมิ้งงงงงงงง

       

      วาดไม่เป็นค่ะ เลยเขียนฟิคแทน ฮือออออ

       

      ขออนุญาติอวยริอัลกับรัฟครับ ก๊ากกก

       

      ปล. คาแรกเตอร์ตัวละครและสถานที่ผิดไปบ้างต้องขออภัย TvT ไม่สามารถะพอจะอ่านทวนทั้งหกเล่ม /เดี๋ยวความกร๊าวหมดก่อน..

       

      รู้สึกขัดใจมาก เหมือนยังแต่งไม่ถึงที่สุด เขียนฟิคได้ลอยมาก ฮึ่ยยยย อยากเขียนเน้นแต่ละคนให้มากกว่านี้ อยากลากตัวละครออกมามากกว่านี้ แต่มีปัญญาแค่นี้จริงๆ ฮือออออ

       

       

       

       

       

      ++++++++++++++++++++++++++++

       

       

       

      โซลโทเปิดประตูเข้าไปในโรงมังกร กะพริบตาปริบๆ  จากนั้นก็ปิดประตูโรงมังกร

       

      ท่านเจ้าของร้านยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ เขาสะบัดหัวแรงๆ สองสามที พร้อมกับยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ นึกสงสัยครามครันว่าเมื่อคืนตนนอนดึกไปหรืออย่างไร ตื่นเช้ามาถึงได้ตาฝ้าฟางเห็นอะไรแปลกๆ ในโรงมังกรของร้านตนเช่นนี้

       

      “ตาฝาดสินะ ข้าคงจะทำงานหนักไปกระมัง” โซลโทหัวเราะแห้งๆ พร้อมพรูลมหายใจ ก่อนจะเปิดประตูโรงมังกรอีก ใจหวังจะได้เห็นมังกรสามตัวของที่ร้านนอนหายใจสม่ำเสมออยู่ภายใน

       

      แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นมนุษย์สามคน

       

      มนุษย์สามคนนั้นนอนขดอยู่ในตำแหน่งที่เขาจำได้ว่าเมื่อคืนมีมังกรสามตนนอนขดหลับไหลอยู่ มนุษย์คนหนึ่งเป็นหญิงสาว ผิวขาวละเอียดท่าทางงดงาม เส้นผมของนางเป็นสีฟ้าอ่อนหยักศก สวยราวกับไม่ใช่สีผมมนุษย์ นางนอนขดอยู่อย่างสงบบนกองฟาง ส่วนอีกคนที่นอนห่างกันออกไปอยู่ในวัยเด็กหนุ่ม เส้นผมสีเขียวสั้นชวนให้นึกถึงสีเกล็ดของมังกรคู่หูที่เขาเล่นด้วยมากที่สุด เจ้าตัวกำลังนอนงึมงำขดอยู่บนกองฟางอย่างแสนสุข ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับกำลังฝันหวาน พอกลอกดวงตาไกลไปอีกหน่อยก็เห็นเป็นชายชราไว้หนวดกำลังนอนกรนอยู่ ชายชรามีเส้นผมสีแดงดูซีดจาง..สีที่เขาดูปราดเดียวมันก็

       

      โซลโทซึ่งเจอเรื่องประหลาดพิกลพิลึกมาตลอดช่วงที่อยู่ซีเลโคลงศีรษะตัวเอง ความคิดที่แวบเข้ามาในหัวดูเป็นไปได้แต่ไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงเดินมึนๆ ออกมาจากโรงมังกร ปิดประตูอีกครั้ง และสะบัดหัวแรงๆ อีกหนึ่งทีให้สมองของตนปลอดโปร่ง

       

      ซึ่งว่ากันตามตรงก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเท่าไร

       

      “โซลโท!

       

      เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านหลัง พอเขาหันกลับไปถึงเห็นหญิงคนรักยืนอยู่ด้วยท่าทางตื่นตระหนก ข้างๆ กันมีเทย์ที่ท่าทางกำลังยืนหอบอยู่ ดูราวกับเพิ่งจะวิ่งร้อยเมตรมาถึงที่นี่

       

      “เรนา เทย์” โซลโทเอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวกับเพื่อนของตน พร้อมกับเดินออกมาหาทั้งสองคนด้วยความแปลกใจ “มาทำอะไรแต่เช้าหรือ?”

       

      “ท่านเจวานได้แวะมาที่ร้านบ้างหรือเปล่า!?”เรนาเอ่ยถามอย่างร้อนรน มือเรียวขยับเกาะแขนโซลโทแล้วจ้องด้วยสายตาคาดคั้น ชายหนุ่มงงวูบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวพร้อมเอ่ยตอบ “ไม่เลย ท่านเจวานไม่ได้มาร้านซักพักแล้ว นี่ก็ฝากโมราเอาไว้……

       

      พอพูดจบ ท่านเจ้าของร้านก็ชะงักไป ดวงตาของเขามองไปที่เด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเรนา รู้สึกทั้งคุ้นตาและไม่คุ้นตาอย่างแปลกประหลาด

       

      เด็กสาวคนนั้นน่าจะอยู่ในวัยซักสิบสี่สี่ห้าปี เส้นผมสีดำตัดสั้นแซมด้วยปอยผมสีแดงสด บนหัวประดับด้วยเขาโค้งขึ้นคล้ายเขามังกร เครื่องแต่งกายของเด็กหญิงดูคล่องตัวและประดับไปด้วยหนาม กลางหลังประดับด้วยปีกหนังสีดำสนิท ดวงตาเฉี่ยวคมสีดำตวัดหันมามองเขา ก่อนจะกอดอกแล้วหันเชิดไปทางอื่น

       

      โซลโทรู้สึกว่าท่าทีของเด็กสาวดูคุ้นๆ ทว่านึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าเคยพบที่ใด

       

      “เรนา เด็กผู้หญิงข้างหลังนั่นใครหรือ?”โซลโทชี้นิ้วไปทางเด็กสาวผมดำ พร้อมกับกรอกดวงตามองเอนาเรไปด้วย หญิงสาวเงยมองโซลโท ทำท่าทางลำบากใจ ก่อนถอนหายใจพรืด และเอ่ยตอบออกไป

       

      “ดอกไม้น้อยน่ะ”

       

      ..หืม?”

       

      “ดอกไม้น้อยไงพอวันนี้ข้าตื่นขึ้นมา เข้าโรงมังกรจะไปหาดอกไม้น้อย เจ้าตัวก็อยู่ในร่างคนแล้ว” เอนาเรว่าตื่นๆ มองไปทางเด็กสาวที่ยืนอยู่หลังตน ในขณะที่โซลโทชะงักยืนทื่อ อะไรที่มันค้างๆ ตกตะกอนในหัวเริ่มวิ่งวนไปมา ก่อนจะได้ยินเสียงตึงๆ ดังมาจากข้างในโรงมังกร ชายหนุ่มหันขวับไปทางต้นเสียง แล้วก้าวขาไปเปิดประตูเพื่อดูสภาพภายใน

       

      ทันใดนั้น อะไรสีเขียวๆ ก็โดดผลุงออกมา โผกอดเขาจนเกือบล้มโครมไปกับพื้น

       

      “โซลโทๆๆๆๆ รัฟหิวแล้วล่ะ! ทำไมวันนี้มาช้าจัง โซลโท รัฟหิวอ้ะ~~~~~~!”เด็กหนุ่มผมเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง ใช้แขนกอดรัดชายหนุ่มเอาไว้พร้อมงับเสื้อแล้วดึงๆ แต่เพราะเสื้อที่งับเข้าปากมามันดูน้อยผิดปกติ ทั้งระดับสายตาก็ดูแปลกๆ ไป เจ้ามังกรเขียวจึงเริ่มสังเกตความผิดปกติของตัวเอง เด็กหนุ่มผมเขียวตัดสั้นผละออกมาจากโซลโทแล้วหมุนตัวไปมา ก่อนจะขมวดคิ้ว และเอ่ยขึ้นดังลั่น

       

      “ว้าว! โซลโท รัฟแปลงร่างล่ะ!!

       

      เจ้าตัวว่าด้วยตาเป็นประกาย ท่าทางจะตื่นเต้นสุดกำลัง พร้อมวิ่งวนไปมารอบๆ ตัวท่านเจ้าของร้าน ในขณะที่โซลโทยืนอึ้ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

       

      “ไม่ใช่แค่ดอกไม้น้อยกับรัฟหรอกนะที่เปลี่ยนเป็นมนุษย์” เทย์เอ่ยหลังจากที่เงียบอยู่นาน มือหนายกขึ้นเกาศีรษะแรกๆ อย่างไม่เข้าใขสถานการณ์นัก “มังกรทุกตัวทั่วซีเลกลายเป็นมนุษย์ไปหมดแล้ว”

       

      ตอนนี้ สติของท่านเจ้าของร้านเอชานลอยไปหาท่านผู้ช่วยเรียบร้อยแล้ว

       

      +++++++++++++++++++++++++

       

      “เอาอย่างไรดี โซลโท”

       

      “ทำไงดีล่ะ ไอ้ขอรับ”

       

      “กำลังคิดขอรับ” โซลโทบอกออกไปแบบนั้น แต่จริงๆ ตอนนี้หัวเขาก็ตื้อไปหมด ชายหนุ่มมองประดามังกรในร่างมนุษย์ที่ตอนนี้กำลังนั่งเล่นกันอยู่ในร้าน ท่าทางแต่ละตัวแปลกใจกับสภาพของตนอยู่พอควร

       

      ..รึเปล่า?

       

      อันที่จริงนอกจากโมราที่ตกใจสภาพตัวเองแล้วยอมรับมันอย่างรวดเร็วแล้ว พ่อเฒ่าเฮกเคก็ดูไม่ยี่หร่ะสภาพตัวเองในร่างมนุษย์เท่าไหร่ ชายชราเพียงจิบชาที่เขาชงให้แล้วนั่งเคลิ้มๆ ทำท่าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่โดยไม่แคร์ว่าตนอยู่ในร่างใด ส่วนรัฟนั้นไม่ต้องพูดถึง ท่าทางจะสนุกกับสภาพตอนนี้ที่สุดแล้วกระมัง

       

      ว่าแต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หนอ?

       

      “ทำไมจู่ๆ มังกรทั่วซีเลจึงกลายร่างเป็นมนุษย์ล่ะนี่ ตาลุงนั่นทำอะไรไว้หรือเปล่า” เทย์เอ่ยถามพร้อมเคี้ยวเนื้อที่บังคับขู่เข็ญโซลโทให้เอาออกมา ก่อนจะโดนน้องสาวตีมือฐานกินไม่สุภาพ ให้พ่อมดผู้เห็นแก่กินต้องโอดครวญเบาๆ แล้วจัดการกินต่อด้วยสปีดที่ช้าลงกว่าเดิม

       

      “นั่นสิ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกัน โซลโท ติดต่อท่านเจวานไม่ได้เลยหรือ”เอนาเรหันไปถามโซลโท ทว่าท่าทางชายหนุ่มก็ดูจะไม่มีทางออกที่ดีเช่นกัน

       

      “ข้าก็อยากติดต่อกับท่านเจวานเหมือนกัน แต่ช่วงหลังมานี้ท่านเจวานไม่ว่างเท่าไหร่ ดูเหมือนจะไปโน่นไปนี่อยู่บ่อย แถมคราวนี้ไม่ได้พาโมราไปด้วย ข้าเองยังแปลกใจเลย ..นี่ โมรา เจ้าพอจะรู้ไหมว่าท่านเจวานไปที่ใด”

       

      โซลโทหันไปถามหญิงสาวผู้มีร่างเดิมเป็นมังกรน้ำ ลูกสาวสุดรักของเจวาน โยรา โมราหันมามองโซลโทในขณะที่กำลังห้ามไม่ให้รัฟวิ่งเล่นทั่วร้าน ก่อนจะส่ายหัวและเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ข้าก็ไม่ทราบเช่นกันค่ะ โซลโท นายท่านเพียงบอกว่าคราวนี้ไปเองจะสะดวกกว่า จึงไม่ได้พาข้าไปด้วย ให้ข้าอยู่ที่นี่กับท่าน”

       

      “อย่างนั้นหรือ….”โซลโทพึมพำตอบ เขาไม่ได้รู้สึกกระวานกระวายหรือเป็นกังวลมากนัก ประสบการณ์ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ซีเลหล่อหลอมเขาให้ตระหนักรู้เสมอว่าทุกปัญหามีทางออก ดีแต่ว่าจะทราบเมื่อไร และด้วยวิธีไหนก็เท่านั้นเอง

       

      แต่การที่จู่ๆ มังกรทั่วทั้งซีเลกลายร่างเป็นมนุษยก็ยังประหลาดอยู่ดี แม้ว่าเหล่ามังกรจะดูเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งมังกรก็ตาม พวกเขามีรูปรางอย่างมนุษย์ก็จริง ทว่ากลับยังคงมีเขามังกรและปีกรวมทั้งหางอยู่ บนเนื้อตัวของเหล่ามังกรในร่างมนุษย์บางส่วนก็ยังทีเกล็ดเบาบางอยู่ ดูแล้วก้ยากออกจากมนุษย์ได้ไม่ยากเท่าไหร่

       

      แต่ปริศนาที่เหตุใดถึงเปลี่ยนร่างเช่นนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

       

      “แล้วเราจะทำไงดีล่ะ” เอนาเรพึมพำขึ้นแผ่วเบา ท่าทางจะกังวลใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ส่วนเทย์เองก็ลูบคาง ท่าทางกำลังครุ่นคิดหาวิธีแก้ไขอยู่ในหัว

       

      โซลโทกะพริบตามองทั้งสองคน ก่อนจะตัดสินใจว่าขึ้น

       

      “ข้าว่า นอกจากกลายร่างเป็นมนุษย์ พวกมังกรก็ดูไม่มีปัญหาอะไร” เสียงของโซลโทเรียกความสนใจของทั้งสองได้ชะงัด พร้อมเงยขวับขึ้นมองเจ้าของเสียง ทำเอาคนที่จู่ๆ ก็โดนสายตาสองคู่มามองรู้สึกเขินอย่างไรชอบกล “ข้าหมายถึง เราอาจไม่ต้องเครียดมาก ค่อยๆ คิดไป เพราะไม่มีปัญหาอะไร ไม่สิปัญหาคงมีเรื่องที่ว่า ช่วงนี้คงทำงานส่งของไม่ได้ แต่ข้าเองก็ไม่มีของที่ต้องเร่งส่ง  แต่ร้านเฮเบล……

       

      “ข้าจะลองคุยกับท่านตาดู คงต้องติดต่อลูกค้า..”เอนาเรพึมพำ พรูลมหายใจ และยิ้มให้โซลโท “ถูกอย่างที่โซลโทว่า จะเครียดหรือกังวลไปก็เท่านั้น”

       

      “แต่ข้าว่า ถามตาลุงเป็นวิธีง่ายที่สุด ถ้าเกี่ยวกับมังกรอ่ะนะ…..” เทย์เอ่ยสบายๆ แต่เมื่อเห็นสายตาเฉียบคมของน้องสาวมองมาก็ต้องพูดต่ออีกนิด “….ข้าจะลองไปถามอาจารย์ที่วิทยาลัยดู”

       

      “งั้นข้าจะลองขึ้นหอไอดาไปหาข้อมู………….

       

       “……เฮกเค!! อย่าลงไปนอนกับพื้นแบบนั้นสิคะ!

       

      เสียงของโมราดังขึ้น เรียกความสนใจจากมนุษย์เพียงสามคนในบ้าน  พวกเขาหันหลังไปมองเหล่ามังกรที่นั่งเล่นกันอยู่ ก่อนจะพบว่าตามเฒ่าเฮกเคลงไปนอนหลับคร่อกกับพื้นเรียบร้อยแล้ว

       

      หากเป็นมังกร พวกเขาคงไม่รู้สึกอะไรที่มังกรจะหลับคร่อกคาพื้น ทว่าที่อยู่ตรงนั้นเป็นมนุษย์..เป็นตาเฒ่าท่าทางแข็งแรงที่ไว้หนวดเคราสีแดงซีด ดังนั้นจึงออกจะรู้สึกประหลาดอยู่ซักหน่อย

       

      “เฮกเค ตื่นเถอะ”โซลโทลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปเขย่าตัวชายชราผมแดงที่นอนขดอยู่กับพื้น

       

      …..หือ…..”เฮกเคกรอกดวงตามองท่านเจ้าของราน ก่อนจะลงไปนอนขดกับพื้นอย่างไม่สนใจใยดีสิ่งใด

       

      ”เฮกเค อย่างน้อยหากจะนอน ก็นอนบนเตียง ไม่ก็บนฟางในโรงมังกรเถอะ”โซลโทเอ่ยพร้อมพยายามดึงเฮกเคขึ้น ทำให้ชายชราผู้ถูกขัดขวางการนอนครางฮือ สะบัดปีกกลางหลังใส่ท่านเจ้าของร้านอย่างรำคาญแล้วลงไปขดหางนอนต่อ

       

      อะไรจะเสพติดการนอนขนาดนั้น!!!!!!

       

      ประดามนุษย์ในที่นั่นคิดในใจ ทว่าไม่ทันที่โซลโทจะลากเฮกเคไปหาที่นอนดีๆ เสียงแสนสดใสก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

       

      “โซลโทททท เล่นกับรัฟนะ เล่นกับรัฟ!” รัฟวิ่งเข้ามาหาโซลโท ในมือถือแท่งเหล็กชุบทองไว้(มีรอยน้ำลายอยู่ ท่าทางจะลองคาบแล้วแต่ทำไม่ได้) ดวงตาเป็นประกายจ้องท่านเจ้าของร้านอย่างคาดหวัง เหมือนกำลังบอกว่า เล่นกับรัฟนะ เล่นกับรัฟนะ (คนเขียนฟิคขอตายแป๊บ)

       

      “ได้ แต่ ให้ข้าจัดการเฮกเคก่” ทีแรกเขาเกือบจะคว้าแท่งเหล็กแล้วเดินออกไปขว้างเล่นกับเจ้ามังกรเขียวแล้ว แต่พอพูดไปได้ครึ่งประโยคก็เอะใจอะไรได้ จึงหันมาหาเด็กหนุ่มที่เงยหน้าข้องตนพร้อมกับเอ่ยถาม “รัฟ หากข้าปาแท่งเหล็กออกไปแล้วเจ้าจะบินไปตามมันอย่างไร อีกอย่างเจ้าอยู่ในร่างมนุษย์ จะคาบแท่งเหล็กกลับมาไหวหรือ”

       

      เด็กหนุ่มผมเขียวเอียงคอ หางสีเขียวส่ายไปมา ท่าทางจะเข้าใจเรื่องที่ว่าตอนนี้งับแท่งเหล็กชุบทองไม่ได้ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงนิ่งไปแป๊บ ก่อนจะยกสองมือขึ้น แล้วร้องเสียงสดใส “มือไง!

       

      “แล้วเจ้าจะบินตามแท่งเหล็กอย่างไร

       

      รัฟขมวดคิ้ว เอียงคอหนักกว่าเก่า ดวงตาเอี้ยวมองปีกที่ด้านหลังตนก่อนจะกางปีกหนังสีเขียว พร้อมกับสะบัดให้ยกตัวเองสูงขึ้นมา “บินได้ล่ะ!!

       

      ………………เหนือพื้นสองเซนต์

       

      ……….ข้าคิดว่า งดเล่นซักพักดีกว่ากระมัง”

       

      “หงะ..ทำไมล่ะ! โซลโท!” เจ้ามังกรเขียวงอแงกอดเอวท่านเจ้าของร้าน มองตาละห้อยเหมือนหมาน่อยโดนกลั่นแกล้ง ทำเอาชายหนุ่มเกือบใจอ่อนโยนแท่งเหล็กให้เสียแล้วหากไม่นึกได้ว่าต้องจัดการลากเฮกเคไปนอนดีๆ เสียก่อน

       

      “ค่อยว่ากันเถอะ ข้าต้องพาเฮกเคไปนอนที่ดีๆ ก่อน”

       

      “รัฟอยากเล่นอ่ะ เล่นกับรัฟน้าาาาาา~~~~~~~

       

      เจ้าไม่เอาแต่ใจบ้างหรือโมรา”เทย์หันไปถามหญิงสาวที่นั่งอย่างเรียบร้อยผิดกับอีกสองตัว(หรือคน)ที่กำลังทำท่านเจ้าของร้านหัวปั่น

       

      “ทำไมต้องทำแบบนั้นล่ะคะ?”โมรายิ้ม เอียงคอมองสงสัย ทำเอาเทย์นึกเอาในใจว่าตาลุงมังกรน้ำเลี้ยงลูกสาวมาดีเหลือเกิน..ถึงได้เรียบร้อยได้ปานฉะนี้

       

      “เรนา ข้าหิว…. เด็กสาวผมดำกระตุกเสื้อเอนาเร ดวงตามองหญิงสาวอย่างอ้อนๆ

       

      “เดี๋ยวนะดอกไม้น้อย ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากินอะไรระหว่างกำมะถันกับอาหารมนุษย์”เอนาเรว่าไปตามจริง

       

      “ดอกไม้ไง…..ดอกไม้อร่อยออกนะเรนา ช้าชอบ” ดอกไม้น้อยบอกพร้อมก้มมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสายตาคาดหวัง “พาไปทุ่งดอกไม้ที่สิ เรนา

       

      “เอ่อ” เอนาเรรู้ว่ามังกรของตนชอบทานดอกไม้(ก็เธอเองแหละทำให้ดอกไม้น้อยชอบกิน..) แต่พอจะมาได้เห็นคนนั่งกินดอกไม้แล้ว เธอก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา

       

      “แต่มัน..ไงๆ ไม่รู้..ลองทานอาหารมนุษย์ไหม ดอกไม้น้อย”

       

      “ไม่เอา”ดอกไม้น้อยเริ่มแก้มป่องขมวดคิ้ว “ข้าอยากกินดอกไม้

       

      “โซลโท ไปเล่นกับรัฟนะ นะๆๆๆ เล่นกับรัฟ”

       

      “เดี๋ยวสิรัฟ เฮกเค เปลี่ยนที่นอนเถิด..

       

      “ข้าจะนอน….” มังกรชราคราง

       

      “โซลโท เล่นกับรัฟน้าาาา”

       

      “เรนา..ข้าหิว….

       

      “เฮ้ย ไอ้ขอรับ มีคนมา”

       

      “อะเอ้อ ขอรับ” โซลโทผู้กำลังวุ่นกับทั้งเฮกเคและหมารัฟตอบรับไปเบลอๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู และได้ยินเสียงดังขึ้นตามมาหลังจากนั้น

       

      “โซลโท เอชาน เจ้าพอจะรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น!

       

      “หา?” โซลโทกะพริบตาปริบๆ มองท่านชายผมทองที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า “ท่านเอลาซ มีอะไรหรือขอรั…………………

       

      โซลโทเงียบไปทันทีที่เจอชายหนุ่มยืนเยื้องไปอยู่ด้านหลังของท่านชายเอลาซ ชายหนุ่มคนนั้นมีเส้นมสีทอง รวบขึ้นเป็นหางม้า วงหน้าดูอ่อนโยนสงบนิ่ง เครื่องแต่งกายของชายคนดังกล่าวเป็นชุดเกราะสีทอง ดูแล้วคล้ายท่านชายเมื่อสมัยยังแง่งๆใส่กันอยู่ไม่น้อย

       

      ทว่าที่ทำให้โซลโทสนใจไม่ใช่ทุกสิ่งที่กล่าวมา ทว่าเป็นเขามังกรและปีกสีทองที่ประดับอยู่กลางหลังชายหนุ่มคนนั้น รวมทั้งหางสีทองๆ ประดับเกล็ดข้างหลังนั่นด้วย

       

      ข้างฝ่ายท่านชายเอลาซก็เงียบไป เขามองไปทางเด็กหนุ่มผมเขียวที่วิ่งมากอดเอวโซลโท ปีกและสีผมนั้นดูอย่างไรก็คุ้นตาจนไม่ต้องคิดให้มากนักก็เดาถูก

       

      สองหนุ่มยืนนิ่งกันไปครู่ใหญ่ ก่อนโซลโทจะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา

       

       “ริอัลก็ด้วยหรือขอรับ….

       

      ……มังกรของเจ้าก็ด้วยหรือ”

       

      ..อย่าตกใจเลยขอรับ คือตอนนี้ มังกรทั่วซีเลกลายเป็นมนุษย์กึ่งมังกรไปหมดแล้วขอรับ”โซลโทเอ่ยพร้อมเกาหัวแกรกๆ “เอ่อ..เข้ามาข้างในก่อนไหมขอรับ”

       

      เอลาซผงกหัว พร้อมกับเดินเข้าไปในร้าน ในขณะที่เด็กหนุ่มผมเขียวจ้องท่านชายเอลาซอย่างสนใจ ก่อนมองเลยไปที่ชายหนุ่มผมทองหางม้าที่ยืนอยู่ไกลออกไป และแม้ว่ารูปลักษณ์จะดูต่างไปซักหน่อย มังกรหนุ่มน้อยก็จำได้ว่านั่นคือใคร

       

       “ริอัลหรือ?” ดวงตาเป็นประกายจ้องไปทางชายหนุ่มผมทอง “ริอัล!!

       

      “รัฟ?” ริอัลกะพริบตาเรียกชื่อเจ้ามังกรเขียว ก่อนจะโดนเด็กหนุ่มผมเขียวโผเข้าไปกอดแล้วโดนเอาแก้มถูไถใส่ประหนึ่งลืมไปว่าตนอยู่ในร่างมนุษย์

       

      “ริอัลก็แปลงร่างด้วย ดีจัง!!” รัฟเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมตวัดแขนกอดริอัลเอาไว้ ใบหน้าเงยมองชายหนุ่มที่สูงกว่าตนแล้วฉีกยิ้ม “ดูสิ รัฟก็เป็นแปลงร่างล่ะ!!

       

      เจ้าตัวว่าพลางละออกมาแล้วหมุนตัวอวด ดวงตาเป็นประกายจ้องมองชายหนุ่มเหมือนจะขอให้ชม ริอัลที่นิ่งอยู่จึงยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน

       

      “ก็ดูดีไม่ใช่หรือ?”

       

      รัฟไม่เข้าใจความหมายของคำชมนั้นเท่าไหร่ แต่เขาคิดว่านั่นเป็นคำชม ดังนั้นเด็กหนุ่มผมเขียวจึงฉีกยิ้มกว้าง เข้าไปนัวเนียริอัลอย่างเป็นสุขประหนึ่งว่าตนอยู่ในร่างของมังกร

       

      และดูท่ามังกรทองก็ไม่ได้ใส่ใจจะดันออกเช่นเดียวกัน

       

      +++++++++++++++++++++++++++++

       

      หลังจากนั้น เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวในร้านก็เริ่มพูดคุยกับ เริ่มจากว่าเหตุนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อไหร่ และควรจะหาทางแก้จากที่ใด ไปๆ มาๆ แม้จะบอกกันว่าเทย์จะไปถามอาจารย์ที่วิทยาลัย และโซลโทกับเอนาเรจะลองไปค้นข้อมูลที่หอไอดา แต่ตัวเลือกแรกที่ทุกคนเลือกไว้ก็ดูจะเป็นการตามหาตัวเจวานเพื่อถามไถ่เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ดี

       

      “ลองไปถามท่านน้าดูดีไหม?”ท่านชายเอลาซออกความเห็น “ข้าคิดว่าท่านน้าเจวานคงบอกท่านน้าโมราไว้ อย่างน้อยก็จะรู้ว่าเขาไปที่ดี กลับเมื่อไหร่”

       

      “เจ้าหญิงโมราน่ะหรือขอรับ?”โซลโททวนเพื่อความแน่ใจ

       

      “ตอนนี้ท่านน้าน่าจะอยู่ที่สมาคมสัตว์ประหลาด” เอลาซเอ่ยบอก “จะไปกันเลยไหม?”

       

      “เอาอย่างนั้นดีกว่าขอรับ ว่าแต่ พวกมังกรจะเอาอย่างไรดี……”โซลโทมองไปทางเหล่ามังกรที่นั่งอยู่ด้านหลัง

       

      “พาไปด้วย”ท่านชายเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าไม่คิดปล่อยริอัลไว้ที่นี่หรอก เจ้าเองก็พารัฟไปด้วยเสียสิ”

       

      “รัฟน่ะไม่มีปัญหาหรอกขอรับ แต่เฮกเคกับโมรา….

       

      “ข้าดูเฮกเคให้เอง”โมราเอ่ย เดินเข้ามาในวงคุยของเหล่าเจ้าของ “ไม่ต้องห่วงข้าหรอกค่ะ ข้าจะอยู่ในโรงมังกร ดูแลเฮกเคด้วย พวกท่านไปเถอะ”

       

      “เอาอย่างนั้นหรือ..โมรา”โซลโทถามหญิงสาวผู้เป็นมังกรน้ำ และได้รับการพยักหน้ารับเป็นการสบทบ

       

      ด้วยเหตุเช่นนี้ ผู้ที่ไปสมาคมสัตว์ประหลาดจึงประกอบด้วยเทย์ เอนาเร เอลาซ และโซลโท กับรัฟ ดอกไม้น้อย และริอัล โซลโทฉุกกระชากลากเฮกเคไปนอนที่โรงมังกร กำชับให้โมราระวังตัว จากนั้นก็ให้เทย์ใช้เวทมนตร์พาข้ามไปที่สมาคม

       

      โมรามองส่งให้ทุกคนจากไป หันไปมองเฮกเคที่เดินเซๆ ไปนอนฟุบที่กองฟาง ก่อนทีตัวเองจะนั่งลง ขดตัวลงไปนอนพักดั่งเช่นที่ตนเคยทำเมื่อยามเป็นมังกร

       

      ทว่าทำเช่นนั้นได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูโรงมังกรก็ดังขึ้น

       

      โมราลืมตา ก่อนจะค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น นึกสงสัยว่าผู้ที่มาเคาะประตูโรงมังกรเป็นใคร.. หากเป็นนายโซลโท ก็จะต้องเปิดเข้ามาแล้ว แต่ในเมื่อมาเคาะปังๆ เช่นนี้ ก็แสดงว่าไม่ใช่นายโซลโท

       

      แต่ถึงอย่างนั้น เพราะเสียงเคาะน่ารำคาญเหลือเกิน โมราจึงลุกขึ้นไปเปิดโรงมังกร และสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นชายชราท่าทางแข็งแรงยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับชายหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มที่ยืนกันอยู่ข้างๆ

       

      “เอนาเรมาที่นี่หรือไม่” ชายชราเอ่ยถามเสียงขึงขัง ก่อนที่ท่าทีจะอ่อนลงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าตนชะงักไปเล็กน้อย “ขอโทษด้วย เจ้าคงเป็นโมรา รู้ไหมว่าเจ้าพวกเด็กๆ ไปไหน”

       

      “ไป..สมาคมค่ะ”โมราเอ่ยบอก และเล่าเรื่องต่างๆ ให้ชายชราฟัง ดวงตาของนางมองเลยไปที่ชายหนุ่มผมน้ำเงินที่อยู่ข้าง นางคิดว่าตนไม่รู้จักชายหนุ่มคนนั้น..ทว่าลึกๆ แล้วนางจำได้ ว่าเขาคือมังกรน้ำที่นางเคยพบเมื่อตอนนั้น

       

      อืม”ทาร์นครางในลำคอ “ช่วยไม่ได้ ข้าเองก็คงไปที่สมาคมไม่ได้ ฟาลอคเองก็เป็นเช่นนี้ ข้าจะรออยุ่ที่โรงมังกรก็แล้วกัน”

       

      โมราผงกหัวรับคำพูดนั้น ทว่าดวงตายังจ้องมองไปที่ชายหนุ่มผมน้ำเงิน เฉกเช่นเดียวกับที่เขามองนาง

       

      “จำข้าได้หรือเปล่า?” ชายหนุ่มเอ่ยถามนาง หลังจากที่เดินตามเข้ามา

       

      “จำได้” โมราพึมพำ “ฟารอคใช่ไหม?”

       

      “ใช่” ฟาลอคยิ้ม “โมรา”

       

      โมรารู้สึกว่าหน้าเห่อร้อนขึ้นมา นางไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร บางทีคงเป็นอารมณ์ของมนุษย์ที่นางเมื่อเป็นมังกรไม่เคยรู้จัก ทว่าก็ทำให้นางรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก

       

      …………………………นี่ถ้าท่านเจวานอยู่คงได้มีศึกว่าที่เขยกับว่าที่พ่อตากันซักตั้ง

       

      ++++++++++++++++++++++++++++

       

      “เจวานน่ะหรือ? เขาไปหาท่านพ่อ สองสามวันกระมังกว่าจะกลับมา”เจ้าหญิงโมราตอบทั้งสี่คนซึ่งจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่สมาคม “พวกเจ้ามาเพราะเรื่องมังกรทั่วซีเลกลายร่างเป็นมนุษย์สินะ”

       

      “ใช่ขอรับ ท่านโมราพอจะรู้อะไรบ้างหรือเปล่าขอรับ?” โซลโทเอ่ยถาม เจ้าหญิงโมราขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะส่ายหัวแล้วว่าต่อ

       

      “ไม่ เจวานไม่ได้บอกอะไรข้าไว้” หญิงสาวตอบสั้นๆ “แต่ข้าจะลองติดต่อกับเขาดู เขาน่าจะรู้อะไรบ้าง แต่คงใช้เวลานาน”

       

      “ให้ข้าช่วยไหมขอรับ”เทย์เสนอตัว “ข้าจะใช้เวทย์มนตร์นำสารไปให้เอง”

       

       เจ้าหญิงโมราพยักหน้ารับ และหันไปสั่งลูกน้องให้นำกระดาษกับหมึกมา ก่อนจะหันมาคุยอะไรบางอย่างกับโซลโทและเอนาเร

       

      ในระหว่างนั้น เด็กหนุ่มผมเขียวที่คุ้นๆ ตาว่าที่แห่งนี้เป็นที่ไหนก็เบิกตากว้าง ก่อนจะเดินไปไซร้หัวกับแผ่นหลังของโซลโท และร้องเสียงสดใส

       

      “โซลโท! รัฟขอไปหาน้องได้ไหม” รัฟที่จำได้ว่าที่นี่เป็นที่ที่น้องตนอยู่ร้องลั่น หางสีเขียวๆ แกว่งไกวอย่างตื่นเต้น “นะๆๆๆ โซลโท!

       

      “เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่เจ้าอย่าไปทำคนอื่นเดือดร้อนล่ะ”โซลโทกกำชับเด็กหนุ่มพร้อมกับลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีเขียว รัฟฉีกยิ้ม ก่อนจะวิ่งไปหาริอัลกับดอกไม้น้อย จับข้อมือของทั้งสองคนและเอ่ยเสียงดังฟังชัด

       

      “ริอัล! ดอกไม้น้อย! ไปกับรัฟนะ ไปดูน้องของรัฟ~!!

       

      “ไม่”

       

      “เอ๋………” หมาเขียวหงอยไปทันใดที่ดอกไม้น้อยปฏิเสธเสียงดังฟังชัด “ดอกไม้น้อยไม่อยากเห็นน้องรัฟเหรอ”

       

      “ข้าจะอยู่กับเรนา เจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ”

       

      “ไม่ไปจริงๆเหรอ?” รัฟถามด้วยสายตาละห้อย

       

      “ไม่”

       

      รัฟผงกหัว เหมือนจะเห็นหูหมาลู่แนวศีรษะ หันไปหาริอัล “ริอัลล่ะ”

       

      “ไปสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย” ริอัลเอ่ยตอบรับ แต่ไม่วายหันไปหาเอลาซผู้เป็นนายเชิงอนุญาติ ท่านชายสีทองเห็นว่าไม่มีอะไรเสียหายจึงผงกหัว รัฟที่ดีใจสุดกู่จึงล๊อกแขนริอัลแล้วพาวิ่งไปด้วยกันทันที

       

      เอนาเรมองดอกไม้น้อยที่ยืนอยู่ข้างตน และมองไปที่รัฟกับริอัลที่พากับวิ่งไปอีกทาง ก่อนจะเอ่ยถามเด็กสาวว่า “ไม่ไปกับเพื่อนหรือ? ดอกไม้น้อย”

       

      ดอกไม้น้อยส่ายหัว ก่อนจะเกาะชายเสื้อหญิงสาวแล้วเงยขึ้นมอง “ข้าอยากอยู่กับเรนา”

       

      “ปกติเราก็อยู่ด้วยกันไม่ใช่หรือ?” เอนาเรเอ่ยขึ้นพร้อมเลิกคิ้วสงสัย หัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู

       

      “แต่ปกติข้าไม่ได้คุยกับเรนานี่นา” ดอกไม้น้อยเอย ดวงตาเงยมองราวกับเด็กน้อยจดจ้องพี่สาวของตน “ข้าอยากคุยกับเรนา ข้าคุยกับรัฟกับริอัลเมื่อไรก็ได้ ไปดูน้องของรัฟเมื่อไรก็ได้ แต่ข้าอยากคุยกับเรนา…..

       

      เอนาเรชะงัก มองเด็กสาวตรงหน้าตนที่จ้องเธอด้วยดวงตาวิ้งวับเป็นประกาย รู้สึกได้ในทันทีว่าดอกไม้น้อยของเธอไม่ว่าเมื่อไหร่ก็น่ารักเสมอ..ยิ่งคุยกันได้เช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่ารัก

       

      “เช่นนั้น เรามาคุยกันเยอะๆ เถอะนะ” เอนาเรยิ้มหวาน จับมือดอกไม้น้อยแล้วแกว่งไปมา “ในระหว่างที่เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่เช่นนี้ ดีไหม? ดอกไม้น้อย”

       

      “คุยเยอะๆ เลยเหรอ?”

       

      “ใช่”

       

      “เรื่องไหนก็ได้?”

       

      “ทุกเรื่องที่เจ้าอยากคุย”

       

      “อื้ม!!

       

      ดอกไม้น้อยฉีกยิ้ม..เป็นยิ้มที่คงไม่มีใครเห็นนอกจากเอนาเร

       

      ++++++++++++++++++++++++++

       

      “น้องๆ ของรัฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ”

       

      รัฟวิ่งเข้าไปหาลูกเจี๊ยบหางเขียวเจ็ดตัวพร้อมกับลากริอัลไปกับตนด้วย เหล่าลูกเจี๊ยบดูเหมือนจะจำไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มผมเขียวตรงหน้าเป็นใครในครู่แรก แต่สุดท้ายก็จำได้ว่าถึงรูปลักษณ์เปลี่ยนไป..นี่ก็คือรัฟอยู่ดี

       

      ดังนั้นพอรัฟวิ่งมาถึงที่ เหล่าลูกเจี๊ยบคอคคาทริสก็กระดี๊กระด๊าโผใส่เด็กหนุ่มผมเขียวทันที

       

      “จิ๊บๆๆๆๆๆ (พี่รัฟฟฟฟฟฟ คิดถึงๆๆๆๆๆ)”

       

      “ริอัล! นี่ไง น้องของรัฟ น่ารักไหม!!” หมาเขียวฉีกยิ้มหวาน ยังคงจับมือกับริอัลเอาไว้แล้วลากให้เดินตามมา ชายหนุ่มผมทองแย้มรอยยิ้ม ดวงตามองรัฟที่ลากตนมาอย่างเอ็นดู

       

      “น่ารักดี”

       

      ประดาคอกคาทริสน้องน้อยทั้งเจ็ดมองพี่ชายตนเองกับผู้มาใหม่สีทองๆ รู้สึกสนใจขึ้นมาติดหมัด

       

      “คิดถึงจัง ทุกคนคิดถึงรัฟไหม~~~”รัฟคิดจะขยับหัวไปไถกับเหล่าคอกคาทริสน้อย แต่ก็นึกได้ว่าตนอยู่ในสภาพมนุษย์ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นนั่งลง แล้วอุ้มน้องๆ ขึ้นมาซุกกับแก้มของตนทันที

       

      “จิ๊บๆๆๆๆ (คิดถึงพี่รัฟมากๆๆๆ)”

       

      “จิ๊บๆๆๆ (พี่รัฟๆๆๆๆๆ)”

       

      “นี่น้องเจ้าหรือ?” ริอัลเอ่ยถาม นั่งลงข้างๆกับเด็กหนุ่มผมเขียว ดวงตามองเหล่าคอกคาทริสที่นัวเนียซุกไซร้รัฟอย่างแสนคิดถึง

       

      “ใช่แล้ว รัฟเลี้ยงมาเองแหละ!” รัฟฉีกยิ้ม ก่อนจะอุ้มน้องขึ้นมาตัวหนึ่งแล้วยื่นให้ริอัล ดวงตาเป็นประกายจ้องมองชายหนุ่มผมทอง “ริอัลลองอุ้มไหม น้องของรัฟน่ารักนะ”

       

      ริอัลผงกหัว ขยับนิ้วจับเจ้าเจี๊ยบหางเขียวในมือ น้องน้อยของรัฟมองคนผมทองอย่างสนใจ ก่อนจะจิกลงบนมือที่ยื่นมาเบาๆ

       

      “น่ารักเนาะ ริอัล”

       

      “อืม น่ารัก”ริอัลเอ่ยตอบ ยังคงยื่นนิ้วนิ่งให้น้องน้อยในอ้อมแขนรัฟจิกเอาๆ “เจ้าเลี้ยงมาเองหรือ?”

       

      “อืม!! รัฟรักน้องมากๆๆ โซลโทยกให้รัฟดูแล รัฟเลยดูแลน้องอย่างดี!” รัฟฉีกยิ้มหวาน “แต่หลังจากนั้นโซลโทบอกว่าน้องอยู่กับรัฟไม่ได้ น้องก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่”

       

      ว่าจบ รัฟก็ดูหงอยลง ท่าทางจะเหงานิดหน่อย บรรยากาศเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมความร่าเริงที่จางหายไปจากใบหน้าและดวงตาของเด็กหนุ่มผมเขียว

       

      ริอัลเห็นแบบนั้นจึงขยับหัวไปแนบกับศีรษะของเด็กหนุ่ม ขยับหัวเล็กน้อยให้เส้นผมเสียดสีกัน ปลอบโยนเด็กหนุ่มผมเขียวทำเหมือนกับเวลาที่ตนอยู่ในร่างมังกร “ไม่เป็นไรหรอก เจ้าก็ได้มาพบน้องเรื่อยๆ ไม่ใช่หรือ น้องๆ ก็รักเจ้าด้วย”

       

      เด็กหนุ่มผมเขียวขยับหน้าไปมองริอัล ดวงตาฉายแววประหลาดใจ ก่อนรอยยิ้มกว้างจะประดับบนใบหน้าอ่อนเยาว์อีกครั้ง พร้อมอาการผงกหัวแรงๆ ของเด็กหนุ่ม “อื้ม! รัฟรักน้องรัฟ แล้วน้องรัฟก็รักรัฟด้วย ..แล้วก็ เวลาคิดถึง ก็มาเจอกันได้ด้วย”

       

      “ใช่ไหมเล่า” ชายหนุ่มผมทองหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยิ้มเมื่อเด็กหนุ่มขยับหัวมาซบที่ไหล่ตน “ตอนนี้ได้พบ ก็เล่นกับน้องให้เต็มที่สิ”

       

      “แต่ก็อยากเล่นกับริอัลด้วย” รัฟว่าขึ้น เสยมองริอัล “ไม่ค่อยได้เจอริอัลเลย รัฟคิดถึงริอัล”

       

      “ข้าก็คิดถึงรัฟนะ”

       

      มังกรสองตัวในร่างมนุษย์ฉีกยิ้มใส่กัน ในขณะที่น้องน้อยเริ่มโดนพี่รัฟลืม สัญชาตญาณตีร้องบอกว่าหมอนี่จะมาแย่งพี่ชายไปแหงมๆ

       

      เพราะแบบนั้น สุดท้ายเหล่าจิ๊บๆ เลยร้องระงมแง่งๆ ใส่คนผมทองทันที

       

      “จิ๊บๆๆๆๆ (อย่ามาใกล้พี่รัฟน้าาาา)”

       

      เหล่าคอคคาทริสขนปุยทำการจู่โจมริอัลทันที  โทษฐานมาแย่งพี่รัฟสุดเลิฟ(?)ของพวกตน ริอัลตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆ เหล่าลูกเจี๊ยบแง่งๆ ใส่ตน แต่ยังไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น

       

      “น้องรัฟ! อย่าซนสิ!” รัฟกวาดหางไปรวบเหล่าน้องน้อยกลับมา พร้อมตีหน้าบูดบึ้งใส่หนูเจี๊ยบทั้งหลาย “ถ้าซนรัฟจะไม่มาหาแล้วนะ”

       

      เหล่าลูกเจี๊ยบหงอยไปทันที พร้อมกับขยับซุกๆเข้าไปในอ้อมแขนพี่ชาย บัดนี้จึงกลายเป็นว่าบนตักของรัฟตอนนี้เต็มไปด้วยกองสีเหลืองๆ นุ่มดุกดิกอยู่ พร้อมกับขู่แฟ่ใส่คนสีทองๆ ด้านข้างไปด้วย (โถ..หวงพี่ไปไหนคะลูก)

       

      “ริอัลเป็นอะไรไหม?”รัฟเอียงคอถามชายหนุ่มผมทอง ริอัลจึงส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไร “นี่..ริอัล ริอัลจะอยู่ที่นี่นานไหม?”

       

      “คงจนกว่าจะกลับร่างเดิมได้” ริอัลตอบตามจริง “ทำไมหรือ?”

       

      “รัฟชอบริอัล อยากอยู่กับริอัลนานๆ “เด็กหนุ่มผมเขียวเอ่ยเสียงซื่อ “รัฟชอบสีทอง อยากเล่นกับริอัล ริอัลก็สีทอง รัฟเลยชอบริอัลมากๆๆๆๆๆ”

       

      เด็กหนุ่มสีเขียวเอ่ยเริงร่าพร้อมเอาแก้มไปถูกับไหล่คนสูงกว่า กระนั้นมังกรทองก็ไม่ได้ว่ากระไร เขาเอียงคอให้ศีรษะของตนแนบกับศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีเขียวของคนที่ตัวเตี้ยกว่า และตอบกลับมังกรเขียวปราดเปรียวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

       

      “ข้าก็ชอบเจ้านะ รัฟ เจ้าน่ารักดี”

       

      “น่ารักหรือ?” หมารัฟเงยหน้ามองริอัล พร้อมกับเอียงคอ “อย่างรัฟใช้ว่าน่ารักได้ด้วยหรือ?”

       

      “ได้กระมังนะ? เจ้าว่ายังน้องเจ้าน่ารักได้เลย” ริอัลกะพริบตาปริบ “อีกอย่าง ตัวข้าเองคิดแบบนั้นนี่”

       

      รัฟยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ เขาคิดว่าน้องๆ น่ารัก แต่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักไหม แต่คำว่าน่ารักเป็นคำที่ดีนี่ เป็นคำชม เขาเองยังชมว่าน้องๆ น่ารัก เวลาชมรัฟก็พอใจ เวลาโดนชมรัฟก็พอใจ บางทีคงเหมือนเวลาที่โซลโทชมว่าเขาเป็นเด็กดีแล้วลูบหัวเขา ดังนั้นรัฟจึงยิ้มแฉ่งวางน้องน้อยลงกับที่ และขยับกอดคอของริอัลเสียแน่นด้วยความดีใจ

       

      น่าขัดใจเหมือนกับที่รัฟเอาปากไปงับหรือขยับหัวไปเล่นด้วยไม่ได้ คอสั้นๆ ของมนุษย์ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ แต่อยู่ในร่างนี้ก็ดีอย่าง ถึงจะใช้ปากงับใครไม่ให้ไปไม่ได้ แต่ก็มีสองแขนไว้กอดรัด ใช้งานดีกว่าใช้เขี้ยวงับอีกกระมัง

       

      อีกอย่าง สัมผัสนุ่มๆอุ่นๆ แบบนี้ก็ทำให้รู้สึกสบายดี

       

      “ชอบริอัลที่สุดเลย!

       

      ริอัลที่จู่ๆ ก็โดนกอดคอหัวเราะ ใช้สองแขนที่ปกติไม่ได้ใช้งานมากนักโอบกอดร่างของเด็กหนุ่มผมเขียว สัมผัสแบบนุ่มๆ อุ่นๆ  ของมนุษย์บางทีก็ให้ความรู้สึกประหลาดดี ทำให้อบอุ่นทำให้สบายใจ “ข้าก็ชอบรัฟมากๆ เหมือนกัน”

       

      มังกรสองตัวมุ้งมิ้งกันโดยไม่ได้ใส่ใจสายตาคนนอกเลยซักนิด………..

       

      “เฮ้ย” พนักงานหมายเลขหนึ่งจิ้มไหล่พนักงานหมายเลขสอง “เจ้าว่าสองคนนั้น……

       

      ป๊าบ!

       

      ”หยุดคิดไปเลย”

       

      ++++++++++++++++++++

       

      “รัฟ เจ้าอยากเป็นมนุษย์ไหม”

       

      โซลโทถามขึ้น ตอนนี้เขาจุดไฟนั่งอยู่ในโรงมังกร เขาตัดสินใจว่าวันนี้จะนอนกับเหล่ามังกร เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นก็จะได้จัดการได้ทันท่วงที

       

      ท่านเอลาซนอนอยู่ที่ร้าน ส่วนริอัลเองก็มานอนอยู่ที่นี่ เขาปูผ้าให้เหล่ามังกรในร่างมนุษย์คนละผืน เนื่องจากทนดูทุกคน(ทุกตัว?) นอนบนกองฟางไม่ได้

       

      พวกเขาติดต่อท่านเจวานได้แล้ว ดูเหมือนท่านเจวานก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีอาจจะเป็นแต่เหตุบังเอิญบางอย่าง อย่าไรเมืองซีเลก็เป็นเมืองที่เกิดอะไรอะไรบ่อยอยู่แล้ว แดต่ถึงอย่างนั้น ท่านเจวานก็บอกว่าจะจัดการธุระโดยเร็วแล้วรีบกลับมาดู ระหว่างนี้ก็ต้องระวังสถานการณ์กันไปก่อน ส่วนท่านทาร์นตอนนี้ก็กำลังวุ่นกับการจัดการกับของที่อยู่ระหว่างการรับส่ง คงจะวุ่นวายอยู่พักใหญ่

       

      แต่..อันที่จริง พวกมังกรกูดูพอใจกับสภาพนี้ของพวกตนดี เขาเลยสงสัยขึ้นมานิดหน่อย ว่าเหล่ามังกรจะยังอยากกลับร่างของตนอยู่หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงถามรัฟออกไปเช่นนั้น

       

      รัฟที่สะลึมสะลือจะหลับแหล่มิหลับแหล่ลิมตาขึ้น เอียงคอเล็กน้อย หางสีเขียวสะบัดไปมา ก่อนจะเอ่ยเสียงใส “แบบนี้ก็สนุกดี แต่รัฟอยากอยู่ในร่างเดิมมากกว่า”

       

      “ทำไมเล่า?”

       

      “จะได้เล่นกับโซลโท แล้วก็บินกับโซลโทไง “ รัฟขยับปีกตอบรับคำกล่าวของตน “อยู่ในร่างนี้บินไม่ได้เลย รัฟชอบบิน โซลโทก็ชอบขี่รัฟบินใช่ไหมล่ะ เนาะๆ”

       

      โซลโทมองมังกรเขียวของตน ก่อนจะยิ้ม แล้วผงกหัวทื่อๆ “นั่นสินะ ข้าก็ชอบให้เจ้าเป็นมังกรมากกว่าเหมือนกัน”

       

      “รัฟไม่ใช่มังกรนะ” รัฟกะพริบตาปริบๆ พร้อมร้องบอก“เป็นหมาพันธุ์มังกรต่างหาก”

       

      …………………..ทุกอย่างหยุดชะงักไปพักใหญ่

       

      ห๊า” โซลหันขวับไปมองเด็กหนุ่มผมเขียว “แล้วข้าเป็นอะไร?”

       

      “หมาพันธุ์คนไงฮับ!

       

      …………………………

       

      โซลโทอยากจะถามนักว่าใครสอนเจ้ามา แต่สุดท้ายก็เพียงล้มตัวลงนอนบนที่นอนตน แล้วหลับไปพร้อมๆ กันกับเหล่ามังกรในโรงมังกร

       

      หลังจากนั้นสองสามวัน มังกรทั่วซีเลก็กลับร่างเดิมด้วยอำนาจของท่านเจวาน

       

      -จบเถอะ-

       

      +++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×