...จะคอยดูแลอยู่บนฟากฟ้า... - ...จะคอยดูแลอยู่บนฟากฟ้า... นิยาย ...จะคอยดูแลอยู่บนฟากฟ้า... : Dek-D.com - Writer

    ...จะคอยดูแลอยู่บนฟากฟ้า...

    กุหลาบขาว...กับข้อความในกระดาษโน้ตที่ชวนให้นึกถึงเขา ทั้งที่มันคงเป็นไปไม่ได้...รินไม่เข้าใจ กริชกริชจะบอกอะไรกันแน่ นั่นกริชใช่ไหม กริชทำใช่ไหม ใช่ไหม

    ผู้เข้าชมรวม

    518

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    518

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ย. 48 / 23:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บานกระจกใสปิดสนิท  ม่านบางเบาสีขาวถูกดึงเปิดช้า ๆ มือเรียวนุ่มนิ่มละจากเชือกดึงผ้าม่านมาปลดล็อกดังแกร๊ก  ก่อนจะเปิดประตูกระจกออกกว้าง  ชายกระโปรงชุดติดกันสีขาวสะอาดพลิ้วไสว  เจ้าของชุดสูดหายใจเต็มปอด  ผมยาวหยักศกลากตัวผ่านไหล่เนียนอย่างยากลำบากไปปลิวสะบัดอย่างอิสระอยู่ด้านหลัง

          หญิงสาวก้าวออกมาให้ธรรมชาติได้ยลโฉม  หมอกบาง  ขุนเขาทึบสีเขียวอมเทา  และทะเลสาบสีทึมเฝ้ามองดวงตากลมโตที่ฉายแววเศร้าของเจ้าหล่อนจับจ้องกุหลาบงามผู้ทอดกายเงียบเชียบอยู่บนขอบราวระเบียง

          …กลีบบางสีเดียวกับชุดของหล่อนและรอยตัดเฉียงอย่างจงใจตรงปลายก้านแข็งสีเขียวเข้มทำให้สมองในศีรษะทุยสวยเต้นตุบ…

          …เขา…ผู้แหลกสลายไปกับยานพาหนะคันงาม  ภาพของเขาพร้อมกุหลาบขาวในมือยังแจ่มชัดในมโนภาพ  …แต่คงไม่ใช่  …เป็นไปไม่ได้

          หญิงสาวถือดอกไม้งามอย่างทะนุถนอมมาถึงแจกันขนาดกะทัดรัดที่เพิ่งจะใส่น้ำลงไป  หล่อนบรรจงเสียบมันเข้าที่  มือเรียวงามเลื่อนไปด้านซ้ายเพื่อจะหยิบสมุดหนาปกบุฟองน้ำนุ่มนิ่มมาเปิดตรงหน้าที่ใช้ริบบิ้นคั่นเอาไว้  ลายมือตวัดไปมาอยู่บนหน้ากระดาษเรื่อย ๆ เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ

          …กริช  เห็นนั่นแล้วชวนให้คิดถึงกริชขึ้นมาอีกจนได้  กุหลาบขาวนั่นน่ะ  ใจร้ายจังนะ  อยากจะทดสอบความเข้มแข็งกันรึไง  รินน่ะ …รินน่ะ  ไม่สนุกเลยนะ  ไม่สนุกเลยสักนิด

          แดดอ่อนทอแสงสะท้อนทะเลสาบเป็นประกาย  ผืนฟ้าโปร่งประดับเมฆปุกปุยแอบมองแววตาแสนเศร้านั้นอยู่เงียบ ๆ


          เมื่ออาทิตย์ดวงโตผลัดเวรกับจันทร์งามอีกครั้งหนึ่ง  เจ้าของเรือนผมนุ่มก็ดันประตูกระจกเปิดออกดังที่เคยชิน  ดวงตากลมโตจับจ้องดอกไม้ที่แสนคุ้นตาเบื้องหน้า  ร่างบางขยับเข้าหามันช้า ๆ แววตาฉายสะท้อนความประหลาดใจและอาวรณ์อยู่ลึก ๆ

          วันนี้กลีบขาววางทับกระดาษโน้ตสีเหลืองซีดแผ่นหนึ่ง  ตัวหนังสือในนั้นทำให้หล่อนชะงักกึก

          …กลางทะเลสาบ…

          โมบายสีหวานในห้องดังกรุ๊งกริ๊งสดใส  ชุดนอนสีอ่อนลู่แนบเนื้อ  ขับรูปร่างระหงของหล่อนให้เด่นชัด  แม้จะชะเง้อมองสักเท่าไรก็ไม่เห็นวี่แววของมนุษย์ที่กลางทะเลสาบปรากฏในสายตาของหญิงสาว  ริมฝีปากบางเม้มแน่นแล้วก็คลายออก  นัยน์ตากลมโตค่อยเผยความปวดร้าวช้า ๆ หล่อนเดินเหม่อลอยกลับเข้าห้องในนาทีต่อมา  ขณะที่ตั้งใจจะเอามันไว้ที่ ๆ ควรอยู่ หล่อนก็ต้องชะงักอีกครั้ง…

          …กุหลาบขาวสะอาดตาดอกเมื่อวานไม่อยู่ในแจกันอีกต่อไปแล้ว…

          กุหลาบดอกใหม่ถูกเสียบแทนที่อย่างอ้างว้าง  หญิงสาวผู้เรียกตัวเองว่า ‘ริน’ ถ่ายทอดความในใจลงไปในสมุดหนาเล่มเดิม  ทว่าคราวนี้ลายมือหวัดแกมบรรจงเพิ่มจำนวนเร็วยิ่งขึ้นทุกที

          …รินไม่เข้าใจ  กริช…กริชจะบอกอะไรกันแน่  นั่นกริชใช่ไหม  กริชทำใช่ไหม  ใช่ไหม


          แสงสุรีย์ลาลับขุนเขาไปพักหนึ่งแล้ว  ร่างบางที่ทอดนิ่งบนที่นอนนุ่มมาครึ่งค่อนวันบัดนี้เดินเรื่อย ๆ ออกมาทรุดตัวลงบนเก้าอี้หวายที่ระเบียง  เทียนหอมเล่มใหญ่ส่องสว่างขึ้นสะท้อนให้เห็นคราบน้ำตาจาง ๆ จากดวงตาบวมแดงเป็นทางยาวลงมาตามพวงแก้มเนียน  หญิงสาวเอนตัวลงนอน  ผมยาวหยักศกแผ่สยายเต็มไปหมด  ดาราระยับพราวคล้ายแข่งกันเปล่งแสงแม้อยู่ในดวงตาเศร้าแสนปวดร้าวของหล่อน  ผืนกำมะหยี่สีดำสนิทที่เป็นฉากหลังให้ช่างดูกว้างใหญ่ไพศาลราวกับจะครองความเป็นราตรีกาลเอาไว้นิรันดร์  เหล่าดารารับฟังคำคะนึงหาของหญิงสาวอย่างตั้งใจ

          …กริช  อยู่ไหนกันแน่นะ  รินคิดถึงกริชเหลือเกินรู้ไหม  แล้วกริชล่ะ…กริชจะรับรู้ไหม  ว่ามีคนคิดถึงกริชมากขนาดไหน  กริชคิดถึงรินบ้างหรือเปล่า…

          ลมเย็นบาดผิวเนื้อพัดแรงขึ้นมาเฉย ๆ อะไรสีขาว ๆ ปลิวผ่านหน้าหล่อนไปเพียงชั่วพริบตา  หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นทันทีจึงทันเห็นว่าเจ้าสิ่งนั้นทิ้งตัวลงข้างเก้าอี้หวายนั่นเอง  เมื่อยกขึ้นส่องดูกับเทียนจึงได้รู้ว่ามันคือกระดาษโน้ตที่เขียนข้อความบางอย่าง…

          …ข้อความที่ทำให้น้ำตาใสรื้นขึ้นมาอีกครั้ง…

          …คิดถึง…

          หล่อนเหลียวหลังไปราวกับจะได้พบใครตรงนั้น  …เป็นไปไม่ได้  …เป็นไปไม่ได้หรอก  ขาเรียวก้าวลงจากเก้าอี้หวายตามคำสั่งของสมอง…คำสั่งที่เต็มไปด้วยความลังเลเพียงเพราะความหวังอันน้อยนิดที่ซ่อนอยู่  ทุกย่างก้าวช่างยากเย็น  ทว่าเมื่อกำลังจะพ้นเขตที่ประตูกระจกเคยกางกั้นนั้นเอง…

          กลีบนุ่มนวลของกุหลาบขาวปลิวม้วนตัวมาจากทางด้านหลังของหล่อนแทบจะพร้อมกับกระดาษโน้ตอีกแผ่นที่ถูกลมเย็นหอบเดียวกันพัดมาทอดตัวลงแทบเท้า  แสงจากโคมไฟโต๊ะทำงานที่เปิดค้างไว้เรื่อเรือง  มองเห็นตัวหนังสือบนนั้นเลือนลาง  แต่หญิงสาวกลับรู้สึกว่าลายมือนั้นชัดเจนยิ่งกว่าครั้งใด

          …รอ…

          น้ำตาที่เอ่อล้นอยู่พรั่งพรูออกมาราวกับสายน้ำ  ข้อความสั้น ๆ เพียงคำเดียว หากทำให้หล่อนสะท้านไปทั้งตัวทั้งหัวใจ  มือเรียวคว้าเสื้อคลุมผ้าแพรก่อนจะเปิดประตูวิ่งถลาออกไปข้างนอก  

          …กริช  รอแป๊บนึงนะ  รินจะไปหากริชเดี๋ยวนี้  รอก่อนนะ…

          ผืนน้ำใสเรียบดุจกระจกสะท้อนราตรีกาลรายรอบดูลึกลับ  เรือไม้ลำเล็กแล่นฉิวมุ่งสู่ใจกลางทะเลสาบแหวกทำลายความนิ่งสงบของผืนน้ำนั้น  มือบางกำไม้พายแน่นจ้วงพายอย่างรีบร้อน  แม้ชายเสื้อคลุมยาวพ้นกราบเรือลงมาจุ่มน้ำจนเปียกชุ่มก็ยังไม่ใส่ใจ  

          ยานพาหนะลำน้อยชะลอลงและหยุดนิ่งเมื่อถึงกลางทะเลสาบ  บรรยากาศรอบด้านเวิ้งว้างวังเวง  ไร้สรรพเสียงที่ควรมีในป่าเขาทั่วไป  ใบหน้าเปื้อนน้ำตาเหลียวมองรอบกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทว่ากลับไม่มีวี่แววของสิ่งที่หล่อนกำลังหาอยู่เลยแม้แต่น้อย

          “กริช  กริชอยู่ไหน  รินมาแล้ว  รินมาหาแล้วนะกริช  กริชออกมาหารินสิ”  หญิงสาวตะโกนก้องจนเสียงหวานใสสะท้อนก้องไปมาอยู่ในขุนเขา  น้ำตาไหลรินอยู่ไม่ขาดสาย  

          “กริชอยู่ไหนกันน่ะ  ทำไมไม่ออกมาหารินล่ะ  ออกมาสิ  ออกมา…ออกมาหารินสิ…”

          ประโยคท้ายแผ่วลงจนเกือบเป็นเสียงกระซิบ  วงหน้าสวยก้มลงสะอื้นจนตัวโยน  ความโศกเศร้าอาวรณ์ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น

          มืออุ่นที่คุ้นเคยประคองหน้าหญิงสาวอย่างทะนุถนอมพลางปาดน้ำตาให้ด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยน  หล่อนเงยหน้าขึ้นช้า ๆ

          …เขา…หัวใจทั้งดวงของหล่อนนั่งอยู่ตรงหน้า  ดวงตายาวรีคู่นั้นถ่ายทอดความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในตัวหล่อนไล่ความหนาวออกไปเสียสิ้น  ดวงตากลมโตที่บวมช้ำมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา  ม่านน้ำตาทำให้ภาพที่หล่อนเห็นช่างเลือนลาง  แต่มันก็ช่างชัดเจนในความรู้สึกเสียเหลือเกิน

          “กริช…” เสียงพร่าเครือปนสะอื้นล่วงพ้นลำคออย่างยากลำบาก “ไม่จริง  ไม่จริงหรอก  รินฝันใช่ไหม  นี่รินกำลังฝันอยู่ใช่ไหมกริช”

          ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ให้แฟนสาว  วันนี้เขาใส่เสื้อไหมพรมตัวหนาที่หล่อนถักให้เมื่อหลายปีที่แล้ว  เขายังคงเงียบ… เหมือนเมื่อก่อน

          “รินคิดถึงกริชเหลือเกิน  รินอยาก…อยากตามกริชไป  ให้รินไปด้วยได้ไหม”

          ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นเช่นเคย  เขารวบมือเล็กทั้งสองข้างของหญิงสาวมากุมเอาไว้จนหล่อนรู้สึกได้ถึงความอุ่นจากกายเขา  ...ถ้านี่เป็นความฝัน  ก็คงเป็นฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน

          ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าครู่หนึ่งแล้วจึงกลับมาสบตาเจ้าของมือนุ่มนิ่มในมือของเขา  แล้วจึงค่อย ๆ เอามือของหล่อนมาแนบไว้กับอกข้างซ้ายของเขา  หญิงสาวรู้สึกถึงหัวใจของเขาที่เต้นตุบ ๆ  เป็นจังหวะ   ชายหนุ่มยิ้มให้หล่อนอีกครั้ง  …ยิ้ม…อันเต็มไปด้วยความรักเปี่ยมล้นหัวใจ


          แพขนตางอนยังคงมีร่องรอยของคราบน้ำตา  ร่างบางนอนขดอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ หากเจ้าของร่างกลับรู้สึกอุ่นสบาย  เสียงนกตัวเล็กตัวใหญ่ผลัดกันร้องเพลงต้อนรับอโณทัยที่เพิ่งตื่นออกมาโผล่พ้นขุนเขา  หญิงสาวก็กำลังตื่นนอนเช่นกัน…

          สิ่งแรกที่หล่อนเห็นในเช้าวันนี้คือหยดน้ำค้างทอประกายล้อแดดอยู่บนกลีบกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์  มือเรียวทาบทับอยู่บนก้านสีเขียวสดนั้นอีกที  ถัดไปคือขอบของอะไรสักอย่าง  พ้นจากขอบขึ้นไปก็คือท้องฟ้าสดใสยามเช้า  หญิงสาวยันกายลุกขึ้นจึงพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในเรือไม้ลำเล็ก  อะไรบางอย่างเลื่อนหลุดจากกายลงไปกองบนตัก  มันคือเสื้อไหมพรมตัวหนา  หญิงสาวเอาสิ่งนั้นขึ้นมากอดเอาไว้  หล่อนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ท้องฟ้าโปร่ง  แววตาเศร้าหมองจางหายไปแล้ว  เหลือเพียงตากลมโตคู่นี้ที่มองนภากว้างด้วยความรักท่วมท้นใจ

          …ขอบคุณค่ะ  กริช…

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×