ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] TAOBAEK .. It's feeling

    ลำดับตอนที่ #13 : {SF} Boy Scout (Special)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 818
      2
      22 เม.ย. 57


     

    Boy Scout (SPECIAL)

    (PG-15)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “แบคฮยอนอ่า.. มึงช่วยกูหน่อยเหอะ”

     

     

                ตาเรียวเล็กกลอกไปมาอย่างทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวผอมกำลังทำหน้าตาอ้อนวอนขอร้องจนออร่าความมุ้งมิ้งเริ่มแผ่กระจายไปทั่ว ฟันซี่เล็กงับริมฝีปากเล็กอย่างลำบากใจกับคำขอร้องที่แบคฮยอนรู้ดีว่ามันต้องทำให้ตัวเองเดือดร้อนแน่นอน แต่ไอ้ครั้นจะบอกว่าไม่อยากช่วยนั้นก็ไม่จริงไปทั้งหมดนักเพราะใจจริงลึกๆแล้วแบคฮยอนเองก็อยากตอบตกลงอยู่เหมือนกัน

     

     

    เพื่อนจะซวยใครล่ะจะไม่อยากช่วย

     

     

                “ฮื้ออ.. เซฮุนนน อย่าทำหน้างี้ดิวะ กูก็อยากช่วยนะ แต่คือแบบ..”

     

     

    แต่ปัญหาก็คือ...

     

     

    “อะไรอีกวะ กลัวไอ้พี่โหดจะกัดอีกแล้วเหรอไง?”

     

     

    อื้ม.. ตามนั้นแหละ

     

     

    “แค่ดุ! แต่กูก็กลัวแหละ มึงก็รู้นี่ว่าพี่เขาดุอย่างกับอะไรดี..”

     

    “อะไรวะ แค่พี่เลี้ยงลูกเสือคนนึงมันดันขาเดี้ยงไปค่ายเสาร์นี้ไม่ได้แล้วกูจะให้มึงช่วยไปแทนแค่นี้อ่ะนะ!?

     

     

    เซฮุนถึงกับโวยลั่นเมื่อได้ยินคำตอบที่มาพร้อมหน้าลูกหมาจ๋อยของเพื่อนตัวเล็ก มือขาวยกขึ้นขยี้หัวที่ผิดระเบียบโรงเรียนขั้นสุดของตัวเองอย่างขัดใจเมื่อคิดขึ้นว่าถ้าเขาที่รับอาสากับพวกพี่เลี้ยงลูกเสือด้วยกันแล้วว่าจะช่วยหาคนไปแทนให้ดันเกิดต้องผิดคำพูดขึ้นมาจะโดนรุมสหบาทาขนาดไหน หนำซ้ำอาจารย์ยุนโฮที่ยังคงอยู่ทนอยู่นานและโหดขึ้นทุกวันคงจะจัดหนักเล่นเขาที่เป็นหนึ่งในลูกเสือเละแน่

     

     

    แต่มันก็คงโทษใครไม่ได้หรอก นอกจากตัวเองที่ดันลงชื่อเป็นลูกเสือต่อตั้งแต่มอสี่เนี่ย

     

    ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากเท่ห์โชว์สาวและมีที่กบดานเวลาโดดเรียน

     

    กรรมสนองเอาตอนมอห้าเลยไง...

     

     

    “เซฮุนอ่า... อย่าดุแบคฮยอนดิ ~

     

     

    แบคฮยอนที่เห็นท่าว่าเพื่อนกำลังจะเรียกยานแม่มาถล่มตัวเองก็ได้แต่เบะปากแล้วงัดไม้ตายทำท่าน่ารักมุ้งมิ้งโมเอะใส่แล้วกอดหมับเข้าที่แขนเก้งก้างของเพื่อน เล่นเอาคนแพ้ของน่ารักแบบเซฮุนถึงกับเถียงต่อไม่ถูกต้องหลับตานับหนึ่งถึงสิบในใจเพราะกลัวตัวเองจะหน้ามืดจับเพื่อนฟัดมันหน้าโรงเรียนให้ลุงยามดูเล่น แต่ดูเหมือนว่าโชคดีจะยังเป็นของทั้งคู่ที่รถยนต์สีดำที่ทั้งคู่คุ้นเคยดีจอดเข้าเทียบพอดีพร้อมกับกระจกที่เลื่อนลงจนเห็นใบหน้าโหดภายใต้ผมสีบลอนด์ทองที่เพิ่งไปย้อมมาของคนขับ

     

     

    “ไอ้ตัวเล็ก! ขึ้นรถเดี๋ยวนี้!!

     

     

    เสียงโหดพร้อมแทงดังแหวกอากาศมาให้คนฟังอย่างเซฮุนสะดุ้งเล่นต่างจากแบคฮยอนที่เคยชินกับเสียงแบบนี้ดีเลยทำหน้าดี๊ด๊าลั้นลาก่อนจะหันมาฉีกยิ้มกว้างแล้วโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนรัก ขาเรียววิ่งมาขึ้นรถในจังหวะเดียวกันกับที่คนขับเลื่อนกระจกขึ้นปิดสนิทแล้วหันมาทำหน้าดุใส่

     

     

    “วันนี้รถไม่ติดเหรอพี่เท...”

     

    “กอดกันทำไมหน้าโรงเรียน”

     

    “เอ่อ... ก็คือแบบ..”

     

    “วันหลังห้ามทำ พี่ไม่ชอบ จบนะ”


    เสียงทุ้มพูดขึ้นนิ่งๆเรียบๆแต่ได้ใจความจนแบคฮยอนที่กำลังจะอ้าปากอธิบายถึงกับกระพริบตาปริบๆให้กับความขี้หึงฉับพลันทันด่วนของว่าที่แฟนหนุ่ม ส่วนอีกฝ่ายที่เห็นภาพที่คนตัวเล็กกำลังกอดแขนเก้งก้างของเซฮุนแล้วก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดไปพร้อมๆกับสงบสติอารมณ์แล้วค่อยแตะคันเร่งเบาๆให้รถคันเก่งเคลื่อนที่

     

     

    “คิก ทำหน้างี้...หึงอ่ะดิ๊”

     

    “ก็เปล่า... แต่อย่าทำ พี่ไม่ชอบ เข้าใจ?”

     

    “เข้าใจครับ ~

     

     

    ตาคมที่จับจ้องท้องถนนข้างหน้าอยู่พยายามจะไม่หันไปมองหน้าหวานๆของคนตัวเล็กที่เห็นจากหางตาว่ากำลังทำท่าวันทยาหัตถ์สองนิ้วอย่างน่ารักอยู่เพราะกลัวสมาธิจะหลุดแล้วรถจะคว่ำไปซะก่อน ส่วนแบคฮยอนที่ได้ยินคำตอบรับเสียงห้วนแต่แฝงความรู้สึกจริงของคนพูดก็ได้แต่อมยิ้มอยู่กับตัวเอง

     

    เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วที่แบคฮยอนกับจื่อเทาตัดสินใจทดลองดูใจกันไปก่อนโดยคนอายุมากกว่าให้เหตุผลว่าขอเวลาจีบอีกนิดให้แน่ใจก่อนแล้วจะขอเป็นแฟนเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กนั่นแหละที่จะดูไม่ดีถ้าคบกันเร็วเกินไป วินาทีนั้นแบคฮยอนบอกเลยว่าอยากจะตะโกนใส่หน้าหล่อโหดของจื่อเทาให้อีกฝ่ายได้หงายเงิบไปเสียเหลือเกินว่าไม่เอาไม่สน

     

     

    บางทีก็เคยคิดนะว่าเขาจะมีแฟนอยู่แล้วรึเปล่า

     

    แต่เพราะการกระทำที่เสมอต้นเสมอปลายแบบนี้เลยทำให้เลิกคิดไปจนได้ล่ะน่า

     

    บ้าจัง.. แบคฮยอนเชื่อคนง่ายไปรึเปล่าฮะหม่ามี๊?

     

     

    “ไอ้ตัวเล็ก”

     

    “หือ?”

     

    “คาดเข็มขัดครับ”

     

    “อื้อ ครับผม ~

     

     

    เนี่ย ชอบทำเป็นดุทั้งที่ใจจริงก็เป็นห่วง

     

    ทั้งขี้ห่วง ขี้หวง แถมยังขี้หึงอีกต่างหาก

     

    แล้วมาทำฟอร์มขอดูใจ คิดเหรอว่าแบคฮยอนจะไม่รู้น่ะ..

     

    รักกันก็บอกกันสิ แบคฮยอนไม่โง่นะ!

     

     

     

     

     

    “เรียนก็เหนื่อย แถมยังอุตส่าห์ลำบากมาส่งน้องทุกวัน ... ขอบใจนะจ๊ะอาเทา”

     

    “ไม่เป็นไรครับน้าแทยอน ผมเต็มใจ”

     

     

    หม่ามี๊คนสวยยิ้มกว้างจนตาหยีเมื่อได้เห็นหน้าลูกชายสุดที่รักกับว่าที่ลูกเขยในอนาคตเดินเข้ามาในบ้านอย่างทุกวัน เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบของทั้งคู่ได้นิดหน่อยแล้วแทยอนจึงเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปให้ทั้งสองคนมีเวลาส่วนตัวก่อนที่จื่อเทาจะได้กลับบ้าน ฝ่ายแบคฮยอนที่เห็นหน้าตายิ้มแย้มของว่าที่แฟนตัวสูงก็ได้แต่ยืนเขินอยู่คนเดียวไม่ต่างจากสมัยที่ตัวเองยังแอบมองเขาอยู่ห่างๆเลยสักนิด

     

     

    กลับกัน.. ยิ่งได้อยู่ใกล้กว่าเดิมก็ยิ่งเขิน ไม่รู้ทำไม งรึ้ยยย..

     

     

    “ยิ้มไรไอ้ตัวเล็ก”

     

    “อะไร ใครยิ้ม เปล่าซะหน่อย ~

     

    “เหรอครับ... นึกว่าเขินคนหล่ออยู่ เห็นแก้มแดงๆ”

     

     

    ตาเรียวเล็กได้แต่กระพริบปริบๆเมื่อได้รับสัมผัสอุ่นๆจากปลายนิ้วโป้งที่ยาวกว่าตัวเองพอควรบนแก้มข้างซ้าย ยิ่งได้เงยหน้าขึ้นสบกับตาคมที่ดูเจ้าเล่ห์แปลกๆแถมยังใกล้เข้ามาแบคฮยอนก็ถึงกับเม้มปากเป็นเส้นตรง จื่อเทาที่เห็นแบบนั้นเลยหลุดขำออกมากับท่าทางน่ารักน่าขำแบบนั้นของว่าที่แฟนตัวเล็ก

     

     

    “ฮื่ออ พี่เทา.. หม่ามี๊อยู่ในบ้านนะ”

     

    “หืม คิดว่าพี่จะทำอะไรเราเหรอไง ฮ่าๆๆ”

     

    “ก็...ใครจะไปรู้ล่ะ”

     

    “ฮ่าๆๆๆ ไม่แกล้งและ... วันเสาร์ไปเที่ยวกันไหม พี่เพิ่งว่างพอดี”

     

     

    แบคฮยอนที่ได้ยินคำว่าเพิ่งว่างพอดีของจื่อเทาถึงกับลืมความเขินไปเลยทันทีเพราะความดีใจที่ว่าที่แฟนหนุ่มจะกลับมามีเวลาให้ตัวเองแล้วมันมีมากกว่า แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเรื่องที่เซฮุนบอกเขาเมื่อเย็นนั้นก็สำคัญไม่แพ้กันแบคฮยอนก็ต้องทำหน้ายุ่งจนคนมองอย่างจื่อเทาอดที่จะสงสัยไม่ได้

     

     

    “ไม่ว่างเหรอ? อ่า.. งั้นวันหลังก่อนก็ได้”

     

    “ว่างฮะ! แต่ผมแค่....”

     

    “แค่.....?”

     

     

    เพราะเห็นท่าทางที่เหมือนผิดหวังของจื่อเทาปากเล็กเลยรีบแย่งพูดขึ้นก่อนโดยลืมไปว่าถ้าบอกไปจื่อเทาจะต้องว้ากลั่นแน่นอน แต่เพราะเลี่ยงไม่ได้แบคฮยอนเลยค่อยๆเล่าเรื่องที่เซฮุนขอร้องมาให้ว่าที่แฟนหนุ่มฟังก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองหน้าที่ดูจะโหดขึ้นยิ่งกว่าตอนที่เขากอดเซฮุนซะอีก

     

     

    แย่แล้วแบคฮยอน.... ฮืออออ

     

     

    “ไม่ต้องไปเลย”

     

    “ท.. ทำไมอ่า แค่สามวันเองนะพี่เทา เดี๋ยวเซฮุนมันโดนจารย์ยุนโฮเล่นจ....”

     

    “ขออะไรพี่ให้เราหมด แต่อันนี้ไม่ได้เด็ดขาด...เดี๋ยวหาคนไปแทนให้”

     

     

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเรียบนิ่งไม่ต่างจากหน้าตาเรียกให้คนตัวเล็กกว่าต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะหงอยลงไปจนดูเหมือนจะร้องไห้ ทำเอาคนที่พยายามปั้นหน้าโหดเต็มที่อย่างจื่อเทาแทบจะลืมเหตุผลที่ตัวเองเผลอดุคนตัวเล็กไปแล้วดึงเอวคอดเข้ามากอดปลอบแนบตัวให้หายใจเสียซะหน่อยแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าน่ารักยิ้มให้

     

     

    “อื้อ.. งั้นเดี๋ยวคืนนี้ผมโทรบอกเซฮุนฮะ”

     

     

    ยิ้มแบบที่ไม่ใช่ยิ้มปกติ .. เรียกว่ายิ้มเจ้าเล่ห์ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่

     

    จะผิดไหมครับถ้าผมจะเกิดระแวงคนที่ดูไม่มีพิษสงอะไรเลย(มั้ง)แบบแบคฮยอนน่ะ..

     

     

    “ไม่โกรธพี่แล้วเหรอ”

     

     

    เพราะไม่แน่ใจนักจื่อเทาถึงได้เอ่ยถามสิ่งที่สงสัยในใจออกไปด้วยท่าทางที่แบคฮยอนกะเอาไว้ว่าคงจะได้เห็น คนตัวเล็กพยักหน้าให้แล้วยิ้มแบบเดิมโดยไม่มีวี่แววว่าจะเปลี่ยนสีหน้าเหมือนเป็นการยืนยันว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เล่นเอาคนมองถึงกับเหงื่อตกไปได้หลายเม็ดเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าคนตัวเล็กอาจจะขอในสิ่งที่รู้ว่าเขาไม่ชอบเป็นการแก้เผ็ดก็ได้

     

    ส่วนคนตัวเล็กที่ยืนยิ้มอย่างเป็นต่อก็คิดให้วุ่นในหัวว่าใบหน้าแบบนี้ของจื่อเทาก็ดูดีแปลกๆไปอีกแบบหนึ่งจนอยากจะหัวเราะออกมา แต่เพื่อความขลังของแผนที่คิดไว้แบคฮยอนจึงยังปั้นหน้าเจ้าเล่ห์ตามเดิมแล้วเสริมด้วยเสียงกระแอมขึ้นเล็กน้อยอย่างต้องการเกริ่นเรื่องพูด

     

     

    “แต่ว่านะ...”

     

     

    คนตัวเล็กแกล้งเว้นวรรคจังหวะไว้ชั่วอึดใจแล้วขยับยื่นใบหน้าน่ารักของตัวเองเข้าใกล้ว่าที่แฟนหนุ่มให้ได้กลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยแล้วยิ้มอย่างที่ปกติชอบยิ้มใส่ก่อนจะคล้องแขนยาวของอีกคนไว้ไม่ปล่อย ทำเอาคนหลุดมาดโหดกู้ภาพเก่าตัวเองกลับมาแทบไม่ทันแต่ก็ต้องนิ่งไปอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเล็กจิ้มลิ้มของคนตัวเล็กที่ยังคงยิ้มไม่หุบ

     

     

    “พี่เทาต้องมาทานข้าวบ้านแบคฮยอนนะ โอเครึเปล่า?”

     

     

    คงจะโอเคครับ ถ้ามีรถพยาบาลเตรียมให้พี่สักคันนึง

     

    อยากตอบแบบนั้นไปนะครับ แต่ให้ตายเถอะ ผมไม่กล้า...

     

    อย่าสงสัยนะครับว่าทำไมกะอีแค่การกินข้าวบ้านว่าที่แฟนทำไมผมจะไม่กล้า

     

     

    ผมขอบอกเลยว่ากล้าครับ ... ถ้าพ่อเขาไม่พกปืน!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ถึงในใจจะบอกแบบนั้น..

     

    แต่ความจริงแล้วคนอย่างหวงจื่อเทาก็ปฏิเสธคนอย่างพยอนแบคฮยอนไม่ได้อยู่ดี

     

     

    “ดีใจจัง นึกว่าพี่เทาจะเบี้ยวแล้วซะอีก”

     

     

    รอยยิ้มกว้างเกิดขึ้นบนใบหน้าน่ารักของเด็กหนุ่มทันทีที่ได้เห็นว่าที่แฟนหนุ่มตัวสูงที่วันนี้ดูจะแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษ ต่างหูที่ชอบก็ไม่มีแถมยังไม่ใส่เสื้อยืดตัวโคร่งที่ชอบใส่แต่กลับเปลี่ยนเป็นเสื้อที่พอดีตัวกว่าและดูเหมาะสมมากกว่าในการพบหน้าผู้ใหญ่ เห็นแบบนั้นคนตัวเล็กก็เอาแต่เม้มปากเขินอยู่คนเดียวไม่ยอมเปิดประตูจนได้ยินอีกฝ่ายถามก่อนว่าจะไม่ให้เข้าบ้านเหรอถึงได้รู้สึกตัวขึ้นบ้าง

     

    คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินนำหน้าคนตัวสูงแทนที่จะเดินจับมือกันเหมือนปกติมาพบหน้ากับคนเป็นพ่อที่นานครั้งจะได้อยู่บ้านสักที รอยยิ้มกว้างที่จุดประกายอยู่บนใบหน้าตั้งแต่เมื่อครู่แทบจะหุบลงเมื่อเห็นว่าคนเป็นพ่อยังคงทำใบหน้าบึ้งตึงอยู่เคียงข้างหม่ามี๊คนสวยของตัวเอง และดูจากรอยยิ้มแหยของคนเป็นแม่แล้วดูท่าจะเป็นมาได้สักพักใหญ่แล้ว

     

     

    คุณป๋าใจร้าย.. เจอหน้าลูกมากับว่าที่ลูกเขยทั้งทีไม่คิดจะยิ้มเลยอ่ะ ขัดใจที่สุด!

     

     

    ส่วนคนที่เดินตามหลังมาอย่างจื่อเทาก็ถึงกับเหงื่อตกเมื่อเห็นท่าทางไม่ยินดีเท่าไรนักกับมื้ออาหารมื้อนี้ของผู้ชายอาวุโสสุดในบ้าน ตาคมแอบเหลือบมองแผ่นหลังเล็กของว่าที่แฟนตัวเล็กเป็นระยะแล้วก็ได้แต่ภาวนาในใจว่าวันนี้เขาจะไม่ต้องเจอลูกปืนเฉียดปลายเท้าเหมือนเมื่อสองเดือนก่อนที่ตัวเขากับพ่อของว่าที่แฟนได้พบหน้ากันครั้งแรก

     

     

    “เก่งนี่ เจอลูกปืนไปแล้วยังกล้าบากหน้ามาได้อีก”

     

     

    คำชื่นชมปนสบประมาทอย่างน่าประหลาดทำเอาคนเลือดร้อนไม่เบาอย่างจื่อเทาคิ้วกระตุกได้อยู่พอสมควร แต่เพราะรู้ดีถึงคำว่าอาวุโสและรู้ว่าถ้าทำตัวอารมณ์ร้อนเหมือนเช่นปกติแล้วคนที่เดือดร้อนก็เห็นจะไม่พ้นทั้งตัวเขาและคนตัวเล็กตรงหน้า คนตัวสูงเลยเลือกที่จะหุบปากให้เงียบที่สุดเอาไว้แทนที่จะปากไวกว่าใจเหมือนเคย

     

    แบคฮยอนที่เห็นบรรยากาศตึงเครียดเริ่มก่อตัวขึ้นเล็กน้อยก็เกือบหน้าเสียอยู่พอสมควร ทั้งที่ตนก็ได้กำชับไว้กับคนเป็นพ่อแล้วว่าให้ใจเย็นไว้แล้วค่อยๆคุยกันแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไรนัก เพราะเอาตามความจริงแล้วหากบอกว่าจื่อเทานั้นดูมีภาพลักษณ์ที่โหดมากแล้วคุณป๋าของเขาคงต้องเรียกว่าคนไฟลุกแทน

     

     

    ใครๆก็รู้กิตติศัพท์ของพยอนคังอิน คุณป๋าขาโหดอยู่แล้ว

     

    ถ้าไม่โหดจริงคงเอาลูกน้องเป็นร้อยไม่อยู่กิจการไม่โตขนาดนี้หรอก

     

     

    “สวัสดีครับน้าแทยอน สวัสดีครับน้าคังอิน”

     

     

    ตัดสินใจค้อมหัวทำความเคารพหรือเรียกง่ายๆว่าทำตัวมีมารยาทเข้าสู้พร้อมกับรอยยิ้มจากใจที่พยายามส่งออกมาให้หมดเกลี้ยงเพราะหวังว่าจะได้รับความเห็นใจจากผู้ใหญ่บ้าง และก็ได้ผลกับคุณนายพยอนที่ส่งยิ้มใจดีให้เหมือนกับทุกวันเวลาเห็นเด็กหนุ่มตัวสูงพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าหล่อนมาส่งบ้านทุกวัน

     

     

    “ใครน้าแก พี่ชายฉันเป็นหมัน”

     

     

    แต่กับอีกคนนี่เรียกได้เลยว่าตรงกันข้าม

     

     

    “คุณคะ.. เสียมารยาท”

     

     

    พอได้ยินคำพูดทำนองนั้นคนตัวสูงก็ถึงกับชะงักศีรษะที่กำลังจะยกขึ้นก่อนจะยกมันขึ้นมาจนได้ พอเงยหน้าขึ้นมาก็แอบหันมองตาคนตัวเล็กที่เม้มปากข่มอารมณ์ไม่พอใจแถมยังจับชายเสื้อของเขาเอาไว้เหมือนกำลังห้ามตัวเองไม่ให้กลายร่างเป็นลูกคนเล็กแสนเอาแต่ใจกับคุณป๋า เพราะอยากให้เวลานานๆครั้งที่ได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลาที่แสนจะมีค่ามากกว่ามานั่งทะเลาะกันเหมือนตอนเป็นเด็ก

     

     

    เห็นแบบนี้แต่แบคฮยอนก็คิดเป็นนะครับ อย่าล้อเล่น...

     

     

    เหมือนโชคช่วยที่แม่ครัวใจดีอย่างป้าซูยองเดินออกมาห้ามบรรยากาศมาคุไว้ได้ด้วยคำว่าจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว พยอนคังอินที่ดูจะคิดถึงห้องรับประทานอาหารในบ้านมากจึงลุกขึ้นเป็นคนแรกแล้วเดินผ่านหน้าเด็กหนุ่มตัวสูงไป ตามด้วยพยอนแทยอนที่ทำหน้าให้กำลังใจว่าที่ลูกเขยที่ตนแสนจะถูกใจแล้วเดินตามสามีไปอีกคน

     

     

    “พี่เทา...ผมขอโทษแทนคุณป๋าด้วยนะ อย่าโกรธคุณป๋าเลยนะ..”

     

     

    พอได้ยินเสียงหงอยเป็นลูกหมาบวกเห็นใบหน้าน่ารักทำท่ารู้สึกผิดเสียเต็มประดาแล้วจื่อเทาก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนไร้น้ำยาไม่สามารถทำให้ผู้ใหญ่พอใจได้ไปชั่วขณะ คิดแบบนั้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาแล้วลูบผมอีกคนเบาๆด้วยรอยยิ้มเฉพาะสำหรับคนตัวเล็กคนเดียวก่อนจะเลื่อนมือมากุมมือเรียวไว้แน่น

     

     

    “พี่ไม่โกรธหรอกนะ เพราะว่า...”

     

     

    แล้วก้มหน้ากระซิบข้างหูให้ได้ยินกันแค่สองคนก่อนจะเดินหนีไปอย่างแกล้งกัน

     

     

    “ถ้าพี่มีลูกกับเราพี่ก็คงหวงลูกเหมือนกัน”

     

     

    พระเจ้า บอกแบคฮยอนที่ครับว่านี่พี่เทาจะยังไม่ขอผมเป็นแฟนจริงๆใช่ไหมเนี่ย!

     

    เล่นเอาเขินเลย ถึงจะรู้ว่าตัวเองท้องไม่ได้ก็เถอะ... ; /////// ;

     

     

     

     

     

                บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในมื้อเที่ยงวันนี้เป็นไปตามที่คุณหนู(?)ของบ้านเดาไว้ไม่มีผิด เพราะนอกจากเสียงของช้อนส้อมกระทบจานในบางจังหวะกับเสียงพูดคุยของผู้ใหญ่สองคนในบ้านกับแม่บ้านใจดีอย่างป้าซูยองแล้วคนตัวสูงที่นั่งข้างกันกับตัวเองก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ซ้ำยังทำตัวสงบเสงี่ยมกว่าปกติจนคนตัวเล็กเองแอบรู้สึกกลัวว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าพี่จื่อเทาของเขาเองอาจจะกลายร่างเป็นหินสโตนเฮนจ์หรือทัชมาฮาลก็ได้

     

                แต่พอมือเรียวได้ลองแอบสายตาของคนเป็นพ่อแม่ลงสัมผัสกับฝ่ามือของอีกฝ่ายใต้โต๊ะแล้วแบคฮยอนก็สามารถบอกได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่าไอ้ท่าทางนิ่งเงียบเหมือนหินผาห้าร้อยปีแบบนี้มันคืออาการหวาดกลัวชัดๆ ไม่อย่างนั้นทั้งฝ่ามือของคนตัวสูงคงไม่มีร่องรอยความเปียกชื้นของเหงื่อเต็มไปหมดแบบนี้แน่นอน คนตัวเล็กเลยพยายามแอบส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยให้ว่าที่แฟนหนุ่มของตัวเองเป็นระยะๆ

     

                ส่วนตัวคนที่กลัวแต่ตั้งท่านิ่งไปอย่างนั้นเองพอได้กำลังใจจากว่าที่แฟนตัวเล็กก็แทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้องเหมือนเป็นงานประติมากรรมชิ้นเอกของโลกจากว่าที่พ่อแฟนแล้วล่ะก็เขาคงดึงมือขึ้นมาจากใต้โต๊ะเพื่อจัดการทำลายทรงผมฟูฟ่องของคนตัวเล็กนี่ให้ฟูยิ่งกว่าเดิมไปแล้ว

     

     

                แม่ง...อึดอัด อยากแกล้งเด็ก..

     

     

                “หวงจื่อเทา”

     

                “ครับผม”

     

     

                ขานรับเสียงหนักแน่นทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกจากคนที่จดๆจ้องๆใบหน้าของตัวเองมาได้สักพักด้วยเพราะความเคยชินในสมัยยังคงทำหน้าที่อยู่ในกองลูกเสือของโรงเรียน ส่วนแบคฮยอนพอเห็นท่าทางแบบนั้นก็ได้แต่แอบคิดในใจว่าถ้าหากไม่ติดที่ส้อมในมือมันสั้นเกินไปแล้วล่ะก็ว่าที่แฟนหนุ่มของตัวเองคงหยิบมันมาทำวันทยาวุธให้คุณป๋าได้เชยชมไปแล้ว

     

     

                “ทำไมถึงเรียนบริหารทั้งที่อยากเป็นตำรวจ”

     

               

                ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น คุณผู้ชายประจำตระกูลพยอนเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าที่บ่งบอกไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่แต่ถ้าหากให้เดาทางแล้วหวงจื่อเทาบอกได้เลยว่ามีแผน ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงทุนสืบเรื่องของเขามาก่อนแล้วมาแกล้งถามให้คนต้องตอบได้ลำบากใจเล่นแน่นอน คิดได้แบบนั้นแล้วก็ตอบในสิ่งที่ตัวเองคิดไว้โดยไม่ต้องคิดซ้ำใหม่อีกเพราะคำตอบมันก็จะยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปได้

     

     

                “พ่อผมมีกิจการส่วนตัวอยู่ครับ เรียนจบแล้วผมต้องรับช่วงต่อ”

     

                “งั้นเหรอ”

     

     

                ถามเสร็จแล้วก็พยักหน้าแล้วส่งเสียงเอออืมกับตัวเองอยู่คนเดียวปล่อยให้คนนั่งร่วมโต๊ะที่เหลือซึ่งรวมไปถึงจื่อเทาด้วยต้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก แม้แต่ลูกสุดที่รักหัวแก้วหัวแหวนเองก็ยังต้องส่ายหน้าให้ว่าที่แฟนหนุ่มเพราะไม่เข้าใจคุณป๋าของตัวเอง ครั้นพอจะหันไปถามหม่ามี๊คนสวยก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะเจ้าหล่อนเองก็ส่ายหน้าแล้วยิ้มแหยๆแทนคำตอบมาเหมือนกัน

     

               

                การแต่งงานกันมาเกือบสามสิบปีนี่ไม่ได้ช่วยให้อ่านใจกันออกเลยสักนิดนะลูกรัก..

     

                แบคฮยอนอ่านสายตาของหม่ามี๊ออกว่าอย่างนั้นล่ะทุกคน ; _ ;

     

     

    “เรียนอยู่ปีไหนแล้วนะ? ปีสอง?”

     

    “ใช่ครับ”

     

    “เรียนแค่ปีสองมีปัญญาซื้อรถขับแล้วเหรอไง? หรือแบมือขอเงินพ่อแม่?”

     

     

    คำถามวัดใจคำถามที่สองหลุดออกจากปากของพยอนคังอินมาเป็นประโยคคำพูดที่ร้ายกาจไม่เบาขนาดว่าแบคฮยอนที่นั่งฟังไปลุ้นไปยังแอบอารมณ์ขึ้นไม่ได้ ดีที่ว่าคนถูกถามนั่นแหละที่กระชับมือที่กุมกันให้แน่นเข้าเตือนสติไม่ให้วู่วามออกรับอะไรแทนตัวเองไปก่อนแล้วจึงเอ่ยปากตอบคำถามด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ

     

     

    “ผมทำงานเก็บเงินเองครับ ทั้งทำงานพิเศษแล้วก็ทำงานที่บริษัทพ่อ”

     

    “...อื้อฮึ ก็ดีนะ”

     

     

    แหม่.. ถ้าคุณป๋าจะทำหน้าตาตอนพูดได้น่ารักมากขนาดนี้...

     

    แบคฮยอนล่ะสงสัยจริงๆว่าพี่จื่อเทาทนทำนิ่งไปได้ยังไง

     

     

    เหมือนเอาไจแอ้นท์มาคุยกับริลักคุมะจริงๆ แบคฮยอนขอบอกเลย

     

    คนนึงก็พยายามจะกวน...ซะนะ ส่วนอีกคนนี่ก็หน้าตายได้อีก

     

     

    แล้วบรรยากาศในห้องรับประทานอาหารก็เงียบไปสักพักเพราะคนช่างซักช่างถามเริ่มก้มหน้าก้มตาตักอาหารเข้าปากแทนด้วยท่าทางเหมือนคนไม่คิดอะไรมากนัก คนอื่นเลยต้องทำตามเพราะกลัวว่าบรรยากาศมาคุจะกลับมาระอุอีกครั้งบนโต๊ะอาหาร โดยเฉพาะตัวจื่อเทาเองที่ตอนนี้รู้สึกกังวลปะปนกับสงสัยไม่หยุดว่าอีกฝ่ายจะพิจารณาตัวเองให้เป็นว่าที่ลูกเขยหรือไอ้หน้าม่อที่บังอาจมาจีบลูกสาว(?)เขากันแน่

     

    แต่สงบสุขกันได้ไม่นานนักก็ต้องกลับมาเจอบรรยากาศแปลกๆอีกรอบเมื่อคุณผู้ชายของบ้านที่รอให้ป้าซูยองตักข้าวเพิ่มให้นั้นกลับมามองใบหน้าคมของจื่อเทาที่กำลังก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารในจานอย่างต้องการพิจารณาอะไรบางอย่าง และใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ แต่ที่ยังคงทำท่าทางเหมือนอาหารในจานเป็นมื้อเด็ดเชลล์ชวนชิมอยู่แบบนี้ก็เพราะรู้สึกแปลกๆเหมือนว่ากำลังถูกจับผิดอะไรบางอย่างมากกว่า

     

     

    “คุณป๋า.. ไม่ทานข้าวเหรอฮะ?”

     

     

    สุดท้ายแล้วคนกลางอย่างแบคฮยอนเลยต้องทำใจกล้าเอ่ยแทรกสมาธิของคนเป็นพ่อเพราะตัวเองก็สงสัยจริงๆว่าในเมื่อป้าซูยองตักข้าวเพิ่มให้แล้วทำไมถึงยังไม่แตะต้องอาหารบนโต๊ะต่อ แต่พอได้ยินคำตอบจากปากคนเป็นพ่อแล้วก็ถึงกับต้องอ้าปากค้างพะงาบๆพูดอะไรต่อไม่ได้

     

     

    “เดี๋ยวสิลูก ป๋ากำลังดูหน้าไอ้เด็กนี่อยู่น่ะว่ามันหล่อพอจะมาเป็นลูกเขยป๋าได้รึเปล่า”

     

     

    แต่ในหัวน่ะคิดเป็นคำตอบไปเยอะแล้ว

     

     

    ต้องหล่อสิคุณป๋า นี่มันเกินมาตรฐานคนทั้งโรงเรียนมารวมกันแล้วนะ!!!

     

    เบ้าหน้าอย่างนี้ ส่วนสูงอย่างนี้ กล้ามแน่นๆอย่างนี้...คุณป๋ายังจะว่าไม่หล่อพออีกเหรอ

     

    นี่นอกจากคุณป๋าแล้วแบคฮยอนไม่เคยเจอใครหล่ออย่างนี้มาก่อนเลยนะ

     

    นี่คือคุณค่าที่ลูกคุณป๋าคู่ควรเลยล่ะ

     

     

    ส่วนไอ้คนที่กำลังถูกประเมินความหล่อจากว่าที่พ่อแฟนกลับยิ้มร่าออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจจนคนประเมินเองก็ชะงักไปนิดนึงก่อนจะกลับมาปั้นหน้าเข้มขรึมต่อ แต่ก็ต้องเกือบหงายตกเก้าอี้เมื่อได้ยินคำตอบที่มั่นใจยิ่งกว่ารอยยิ้มนิ่งๆบนใบหน้า เรียกได้ว่าจบคำตอบนี้แล้วแบคฮยอนถึงกับอยากหัวเราะออกมาให้คุณป๋าของตัวเองเสียหน้าเล่นเสียอย่างนั้น

     

     

    “ผมเป็นเดือนคณะบริหารครับ ล่าสุดมีแมวมองมาชวนไปแคสติ้งเป็นนักแสดงแต่ผมไม่เอา”

     

    “อ่าฮะ...เอ่อ.. แล้วทำไมไม่เอาล่ะ? โอกาสที่ดีนี่”

     

     

    พอได้ยินคำถามแล้วพี่จื่อเทาก็หันมายิ้มเจ้าชายให้แบคฮยอนแว้บนึง

     

    แล้วค่อยหันหน้าไปมองคุณป๋าก่อนจะตอบว่า...

     

     

    “เดี๋ยวไม่มีเวลาไปรับไปส่งว่าที่แฟนครับ ไม่กล้าให้กลับบ้านคนเดียว”

     

     

    ณ จุดจุดนี้พยอนแบคฮยอนขอบอกเลยว่า...

     

    อ่าห์.. ฟินมากกกก - /// -

     

    ว่าแต่

     

    พี่จื่อเทาที่กลัวคุณป๋าตอนแรกหายไปไหนแล้วนะ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจบมื้ออาหารแล้วคุณป๋าขาโหดก็ถึงกับสติหลุดลอยเพราะคำว่า ว่าที่แฟนของไอ้หนุ่มหน้าตี๋ที่จงใจสื่ออย่างออกหน้าออกตาว่าคนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกสาว(?)สุดรักสุดหวงของตัวเอง ไอ้ครั้นจะเอาลูกปืนให้ชิมก็ไม่ได้เพราะคุณนายพยอนแอบสะกิดแล้วกระซิบบอกอย่างยิ้มๆเหมือนพอใจกับระเบิดลูกนี้ของไอ้ตี๋ตาคล้ำมาก

     

     

    “เอาผิดไม่ได้นะคะคุณ เขาไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนนะ...เขาบอกว่าว่าที่แฟน”

     

    เจ็บปวดใจเหลือเกิน มีเมียเมียก็เข้าข้างไอ้ว่าที่ลูกเขย มีลูกลูกก็หลงไอ้ว่าที่แฟนจนโงหัวไม่ขึ้น

     

    ชีวิตครอบครัวของพยอนคังอินนี่มันช่างบัดซบจริงๆ...

     

     

    วันนี้เลยกลายเป็นว่าศึกระหว่างคุณป๋าขาโหดกับไอ้ตี๋หน้าโหดพร้อมแทงนั้นยุติลงอย่างเป็นเอกฉันท์ที่คุณป๋าแพ้ขาดลอย ขาดไปหมดทั้งกำลังใจจากภรรยาและกำลังใจจากลูกรัก สุดท้ายก็ต้องเดินคอตกกลับห้องไปนั่งทบทวนคุณสมบัติของไอ้ตี๋หน้าโหดนี่ต่อว่าตกลงเขาจะต้องยอมให้ลูกรักมีแฟนอย่างจริงจังแล้วรึเปล่า

     

    ด้านคุณนายพยอนแทยอนเมื่อเห็นว่าทางสะดวกก็จัดการเปิดทางให้เด็กสองคนได้คุยกันตามลำพังบ้างเป็นการพักผ่อนสมอง ส่วนตัวเองนั้นก็ขอไปโน้มน้าวจิตใจสามีให้ยอมใจอ่อนผ่อนตามบ้าง ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าทั้งจื่อเทาและแบคฮยอนก็คล้ายกับอยู่ด้วยกันสองต่อสองอีกครั้งแม้ว่าจะต้องเห็นลูกน้องคุณป๋าเดินผ่านไปมาบ้างก็ตาม

     

     

    “พี่เทา.. ทำอะไรน่ะ?”

     

     

    คนตัวเล็กเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่านั่งดูทีวีนั่งคุยเล่นกันไปได้สักพักอีกคนก็หันไปก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรก็ไม่รู้ในไอโฟนที่ใส่เคสคู่กับของตัวเอง พอจะชะโงกหน้าแอบดูอีกคนก็โยกตัวหลบแล้วบอกว่า ยุ่งใส่ให้น่าน้อยใจเล่น ไอ้ครั้นจะงอนก็ขี้เกียจจะรอให้อีกคนมาง้อเลยสะกิดถามมันตรงๆเสียเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่เทาของตัวเองจะต้องยิ้มเจ้าเล่ห์แปลกๆใส่ด้วย

     

     

    “อ่ะ เสร็จและ”

     

     

    เสร็จแล้ว?

     

    อะไรเสร็จ?

     

    ถ้าไม่บอกภายในสามวินาทีแบคฮยอนจะคิดลึกแล้วนะ...

     

     

    ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้คิดอะไรพิเรนทร์ๆต่อก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่าสิ่งที่คนตัวสูงก้มหน้าก้มตาพิมพ์เมื่อครู่คือการตอบไลน์จากเพื่อนสนิทที่เขาเองก็รู้จัก ตอนแรกแบคฮยอนก็ปลื้มอยู่ดีๆอยู่หรอกที่ว่าที่แฟนหนุ่มยอมให้ตัวเองดูเรื่องส่วนตัวอะไรได้มากขนาดนี้ แต่พออ่านข้อความของทั้งสองคนที่โต้ตอบกันก็ต้องเปลี่ยนมานั่งขำท้องแข็ง

     

     

    เป็นไงเพื่อนมึง กินข้าวบ้านแฟน

     
     

    ก็ดี พ่อเขาโหดดี

    HP กูงี้ลดฮวบๆ

    ว่าแต่มึงเถอะ ฟินเลยป่ะ

     

    ก็ดี เขาก็โหดดี

    แต่คือกูโหดกว่า

     

    ยังไงวะ

    เล่าๆๆ

     

     

    ไม่มีไรมาก ก็แค่แบบ


    ไอ้เชี่ย รู้สึกเซ็กซี่

    ไม่บอกได้ป่ะ

     

    บิดามึงน่ารักเถอะครับ

     

    ขอบใจที่ชมพ่อกู เลิ้บมึงมาก

    บอกก็ด้ะ

    คือน้องแม่มดื้อ ดื้อสุดในพันล้านกาแล็กซี่

    แต่กูเอาอยู่เว้ย

    ดื้อมากูหอมแม่ง แถมตีตูด อิอิ

    แต่ประเด็นคือแก้มน้อง ไอ้เหี้ย แก้มน้องนุ่มสัสสสสส


    กรี๊ดเร็วมึง ขอเสียงด่วน

     

    กรี๊ดเหี้ยไร ขี้กากจริงมึง

    ให้เดามึงคงโดนน้องเซฮุนมันถีบตูด

     

    รู้ใจอ่ะ เป็นแฟนกูเลยดีป่ะ?

     

     

    คือบอกเลยครับว่าเห็นเงียบๆแบบนี้พี่เทาสติ๊กเกอร์มุ้งมิ้งมากอ่ะ...

     

     

    “พี่เทา.. นี่คนที่พี่ให้ไปช่วยไอ้ฮุนแทนผมคือ...”

     

    “ครับ ไอ้ดำเพื่อนพี่เอง”

     

     

    จื่อเทายิ้มเล็กน้อยตบท้ายให้คนที่นั่งขำตัวงอข้างๆอย่างน่าสงสารแล้วก็อดขำขึ้นมาเองบ้างไม่ได้ ความจริงก็แอบรู้สึกผิดอยู่บ้างที่ไอ้เด็กหน้าตายอย่างโอเซฮุนต้องกลายไปเป็นเหยื่อภายใต้ทางความกามของเพื่อนเขาแบบนี้แต่อีกใจหนึ่งก็สะใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่เริ่มเดินหน้าจีบแบคฮยอนมาแต่แรกก็มีไอ้เด็กนี่แหละที่คอยเป็นก้างขวางคอเขาเสียยิ่งกว่าทางฝ่ายแม่ของว่าที่แฟนตัวเล็กเสียอีก

     

     

    ใครบอกหวงจื่อเทาแก้แค้นครับ ไม่มีเลย โปรดอย่าใส่ร้าย

     

    แค่จะสอนให้จำว่ากูก็โหดมิใช่น้อย.. แค่นั้นเองครับ

     

     

    “ว่าแต่เราเถอะ”

     

    “...ฮะ?”

     

     

    สักพักคนตัวสูงกว่าก็เริ่มเอ่ยขึ้นเป็นประโยคปลายเปิดจนคนเพิ่งหยุดขำได้อย่างแบคฮยอนต้องทำหน้างงใส่ แต่ก็งงได้ไม่นานแล้วก็ต้องเขินขึ้นมาเสียเฉยๆเมื่อโดนจู่โจมด้วยรอยยิ้มเจ้าชายเหมือนที่คุณป๋าของตัวเองโดนไปเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่แล้ว และสุดท้ายก็จบลงด้วยการระเบิดตัวเองให้เป็นจุลเพราะคำพูดของว่าที่แฟนหนุ่มที่เล่นพูดรุกคืบแบบไม่รอให้ตั้งตัวได้

     

     

    “เพื่อนพี่กับเพื่อนแบคฮยอนก็ดูท่าทางจะสมหวังไปแล้วนี่เนอะ”

     

    “เอ่อ..  ฮะ”

     

    “แล้วเราล่ะหืม..”

     

    “.............”

     

    “พี่ว่าตอนนี้พี่ยิ่งกว่ามั่นใจแล้วล่ะครับ”

     

    “..............”

     

    “เป็นแฟนกันนะครับไอ้ตัวเล็ก J

     

     

    5

     

    4

     

    3

     

    2

     

    1.....

     

     

    “อ้าวเฮ้ย แบคฮยอน!

     

     

    เป็นลมครับ งานนี้ต้องเป็นลมรัวรัว

     

    หม่ามี๊จ๋า...พี่เทาขอแบคฮยอนเป็นแฟนแล้ว เอร้ววววววว T //// T

     

     

     

     

     

     

     

     

    END

     

     

     

                                                                                       

     

    .. TALK ..

    Long time no see เนอะ 555555 เค้ากลับมาแล้ว มาพร้อมข่าวดี(?)ด้วยล่ะ

    ใครเคยอ่านพี่สาวครับเตรียมเฮค่ะ จะรีไรท์แล้วเนะ แก้เรื่องภาษากับการจัดหน้าค่ะ

    หวังว่าจะยังมีคนรออ่านอยู่นะคะ นี่ปิดเทอมแล้วค่ะ รอเครียดว่าจะมีที่เรียนมั้ยพอ 5555555

    ไว้เจอกันอีกที ซียูเน็กซ์ไทม์ค่ะ จุ๊บ





    :) Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×