ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] TAOBAEK .. It's feeling

    ลำดับตอนที่ #5 : {SF} Boy Scout 1

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57


    Boy Scout 1

    (PG-15)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “อื้มม..ม.... หาวว ~

     

     

                แสงแดดอ่อนๆยามเช้าปลุกให้คนที่ยังนอนอืดอยู่บนเตียงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมาบิดตัวแก้เมื่อย ตาเรียวกระพริบปริบๆเพื่อปรับสภาพแสงที่เข้ามาก่อนที่ขาเรียวจะตวัดลงจากเตียงนุ่มพาสารร่างตัวเองเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง

     

     

    ทุกอย่างดูเป็นปกติสุขดี

     

    จนกระทั่งคนเพิ่งตื่นนึกอะไรออก

     

     

    “ชิบหาย! วันนี้เข้าค่ายลูกเสือ!

     

     

    เช้าที่แสนสดใสได้เริ่มต้นขึ้นอีกวันแล้ว..

     

     

     

     

     

     

     

     

    แขนเรียวของเด็กหนุ่มมอต้นปีสุดท้ายกอดเอวคอดสวยของคุณแม่คนสวยอย่างออดอ้อน หัวกลมๆนั้นขยับถูไถไปมาอย่างน่ารักน่าชังจนคนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มนิ่มสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะจัดการหอมลงไปฟอดใหญ่จนเด็กหนุ่มอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

     

     

    “ไปเข้าค่ายตั้งสามวันผมคงคิดถึงหม่ามี๊น่าดูเลย..”

     

    “ปากหวานนะเรา หม่ามี๊ว่าหม่ามี๊คงคิดถึงเรามากกว่านะ”

     

    “คิก งั้นผมไปแล้วนะฮะหม่ามี๊”

     

               

                เด็กหนุ่มยอมผละตัวออกจากอ้อมกอดของคุณแม่คนสวยที่ยืนยิ้มหวานแล้วพยักหน้าให้ มือเรียวสวยที่ได้จากคนเป็นแม่ยกขึ้นโบกบ๊ายบายให้กับคนที่ตัวเองเรียกว่าหม่ามี๊ก่อนจะเดินลากกระเป๋าเดินทางที่บรรจุของใช้และเสื้อผ้าสำหรับสองวันสามคืนเข้าโรงเรียนไป

     

     

                ฉากเมื่อครู่คงจะเป็นฉากที่เรียกรอยยิ้มได้ดี

     

                แต่ไม่ใช่.. ในกรณีที่เด็กมอสามทั้งหมดต้องมานั่งตากแดดหน้าดำรอมันคนเดียวแน่นอน

     

                อ้อ นี่ยังไม่รวมคณะครูอาจารย์และพี่เลี้ยงลูกเสือด้วยนะ

     

     

                “พยอนแบคฮยอน!

     

                “ครับๆ มาแล้วครับ ~

     

     

                แบคฮยอนยกแขนขึ้นชูเหนือหัวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือสะทกสะท้านกับสายตาอาฆาตแค้นของหลายชีวิตที่นั่งตากแดดรอเจ้าตัวเพียงคนเดียว ไอ้ครั้นจะไปค่ายก่อนแล้วทิ้งให้มันซ่อมอยู่ที่โรงเรียนคนเดียวก็ไม่ได้เพราะโอเซฮุนผู้เป็นเพื่อนซี้เพียงหนึ่งเดียวได้ตะโกนบอกพี่เลี้ยงลูกเสือเมื่อสองนาทีก่อนถึงเวลารถออกว่าแบคฮยอนกำลังจะมาถึงในอีกห้านาที

     

     

                แต่นั่นน่ะแค่เวลาหลอก เพราะเวลาจริงมันเลยมาอีกห้านาทีต่างหาก

     

                พยอนแบคฮยอนนั่งรถมามีแอร์เย็นฉ่ำในขณะที่คนที่นั่งรอต้องตากแดดกันหน้าดำ

     

                อ้อ คนไหนใส่แว่นก็แย่หน่อยนะเพราะมันจะดำไม่ทั่วหน้า

     

                แบบนี้.. คนทั้งระดับจะแค้นมันก็ไม่แปลก

     

     

                ตัดภาพกลับมาที่แบคฮยอนที่เดินเฉิดฉายยิ้มหวานให้อาจารย์ที่ปรึกษาแล้วหย่อนตัวนั่งลงท้ายแถวห้องมอสามทับหนึ่งอย่างไม่กลัวว่าเพื่อนร่วมห้องจะแอบเอามันไปด่าลับหลังยังไง แต่เหมือนเป็นการเอาคืนจากคณะครูอาจารย์ที่พอเห็นเจ้าตัวปัญหานั่งปุ๊บก็สั่งให้แถวลุกทันที เล่นเอาแบคฮยอนถึงกับหน้าเหวอดึงแขนเซฮุนเพื่อนซี้ที่ยืนหน้าตัวเองแทบไม่ทันก่อนจะต้องรีบเดินตามพวกเพื่อนๆในห้องที่ดูจะรีบมากจนน่าสงสัยว่าข้างหน้ามีใครปล่อยควายไล่ขวิดรึเปล่า

     

     

                “ไปๆ เอาของเก็บแล้วรีบเดินขึ้นได้แล้ว”

     

     

                มันจะดุอะไรนักหนาวะ

     

     

                มือเรียวแทบยกขึ้นมาปิดหูไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงประมาณว่าโหดพร้อมแทงดังขึ้นข้างหู ด้วยศักดิ์ศรีของคุณหนูพยอนที่มีจนล้นอกทำให้แบคฮยอนต้องหันหน้ากลับไปเตรียมว้ากกลับ แต่พอเห็นหน้าของคนว้ากแล้วก็ถึงกับยืนเงิบรับประทานจนเดือดร้อนเพื่อนผู้แสนดีอย่างเซฮุนที่ต้องมาช่วยลากเอากระเป๋าเดินทางสีดำอันเท่าบ้านของแบคฮยอนไปเก็บให้แทน

     

     

                โฮ้ยยยยย คนบ้าอะไรวะ ขนาดอยู่ในชุดลูกเสือสีอุคิปุริมิมะอะไรไม่รู้ยังหล่อขนาดนี้

     

    หม่ามี๊จ๋า...แบคอยากได้อ่ะ!

     

     

                “ฮุนอ่า ~

     

     

                เซฮุนที่ได้ยินเสียงหวานๆปนสยองของเพื่อนรักกับแรงกระตุกชายผ้าผูกคอสีเหลืองจนเซได้แต่ทำหน้าสงสัยไปให้เพื่อนที่ดูจะตกอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง แต่ถ้าหากโอเซฮุนดูไม่ผิดแล้วเหมือนว่าดวงตากลมเล็กของเพื่อนจะกลายเป็นรูปหัวใจไปแล้ว แถมยังมัวแต่เหม่อมองอะไรก็ไม่รู้อยู่นั่นแหละจนเซฮุนต้องหันมองตาม

     

     

                อย่าบอกนะว่า..

     

     

                “ปิ๊งพี่เขา?”

     

     

    หัวกลมๆของแบคฮยอนขยับขึ้นลงทั้งๆที่แก้มสองข้างยังมีสีชมพูระเรื่อประดับอยู่ ปากเล็กๆตั้งท่าจะถามรายละเอียดของพี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดจากเพื่อนซี้ที่ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อใส่แต่ก็ต้องรีบหุบลงเพราะโดนเจ้าของเสียงโหดพร้อมแทงคนเมื่อครู่ว้ากเข้าให้อีกดอก

     

     

    “ถ้าไม่ขึ้นก็อย่าขวางคนอื่นเขา.. เกะกะ”

     

     

    เซฮุนที่ได้ยินพี่เลี้ยงมาดโหดพูดแบบนั้นก็ถึงกับสะดุ้งรีบลากแขนเพื่อนตัวเล็กที่ดูจะยังมึนอยู่ให้ขึ้นชั้นสองของรถบัสมาด้วยกัน พอหาที่นั่งที่ถูกใจได้แล้วก็จัดการยัดตัวเองเข้าไปนั่งติดหน้าต่างก่อนแล้วค่อยดึงแขนเพื่อนตัวเล็กมานั่งข้างกัน แต่ชีวิตสงบสุขของโอเซฮุนก็อยู่ได้แค่นาทีกว่าๆเท่านั้นเพราะพอแบคฮยอนได้สติแล้วผ้าผูกคอของเขาก็ถึงกับเบี้ยวไปตามแรงดึงข้างเดียว

     

     

    “พี่เขาชื่ออะไรอ่ะ? อยู่ชั้นไหน? ห้องอะไร? มีแฟนยัง? แล้ว.....”

     

    “เดี๋ยว.. ถามมาทีละคำถามได้ป่ะ ฟังไม่ทันว่ะ”

     

    “ได้ แต่แปบ มันแบบ...... ฮรื้อออออ!

     

     

    แบคฮยอนที่พยายามตั้งสติตัวเองถึงกับครางเสียงประหลาดออกมาจนเพื่อนที่อยู่เบาะถัดไปถึงกับทำหน้าสงสัยขั้นสุด มือเรียวจับเอาไหล่กว้างที่มีแต่กระดูกของเซฮุนเขย่าๆจนน่ากลัวว่ามันจะกระเด็นหลุดออกมาได้ จนสาแก่ใจแล้วถึงได้หยุดแล้วหยิบเอาหมวกลูกเสือที่วางแหมะบนตักมาฟัดแทน

     

     

    บอกทีว่านี่คือคุณหนูตระกูลพยอน

     

    โอเซฮุนนึกว่าหมาตกมัน!

     

     

    “มึง.. ใจเย็นนะ”

     

    “มึงอ่ะ มึง.. มึงไม่เข้าใจกู คือแบบมันใช่อ่ะ! สเปคมาก โดนอ่ะ.. โคตรอยากโดน!”

     

    “เชี่ย! พูดอะไรนึกถึงหน้าน้าแทยอนบ้างนะมึงอ่ะ อย่าแรดมากดิ๊!

     

     

    แบคฮยอนถึงกับทำหน้ายู่เมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังยังไงก็ไม่ใช่คำชมของเพื่อนซี้ แต่ความพยายามในการขุดคุ้ยข้อมูลเบื้องต้นของพี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดก็ยังไม่หายไป หัวกลมๆถูไถเข้าที่แขนผอมๆของเซฮุนที่ตอนแรกทำหน้ายานแม่บุกโลกจนหน้าหล่อปนหวานของเพื่อนขึ้นสีชมพูระเรื่อที่ไม่ได้เกิดจากความเขินอายหรืออะไรพวกนั้นแน่นอน

     

     

    “ฮุนอ่า ~ แบคขอโทษ.. บอกแบคหน่อยนะว่าพี่เขาเป็นใคร”

     

     

    แต่เป็นเพราะโอเซฮุนนั้นชอบของน่ารักๆต่างหาก

     

     

    “นะ นะ.. น๊าาา ~

     

     

    พอเพื่อนทำตาแป๋วแบ๊วโมเอร้ใส่เหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตาลูกหมามันเลยน็อกเอ้าท์แบบนี่ไง..

     

     

    “พ.. พี่เขาชื่อจื่อเทา เรียนมอหกห้องสาม ศิลป์จีน เป็นลูกครึ่งจีน ไม่รู้ว่าโสดรึเปล่า”

     

     

    แบคฮยอนถึงกับยิ้มกว้างจนตาหยีเมื่อได้ยินข้อมูลที่เพื่อนซี้บอกมาเป็นชุดเหมือนกับตั้งโปรแกรมตอบกลับอัตโนมัติยังไงอย่างนั้นก่อนที่เพื่อนที่แพ้ของน่ารักจะกอดฟัดเขาเล่นด้วยความมันเขี้ยวจนอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ แต่ถ้าสังเกตดีๆแล้วแบคฮยอนก็จะรู้สึกได้ว่าบรรยากาศในรถมันเงียบลงอย่างน่าประหลาด

     

     

    สาเหตุมันก็มาจาก..

     

     

    “เฮ้ย! มัวแต่ปล้ำกันอยู่ได้ หูน่ะฟังบ้างไหม”

     

     

    คนแพ้ของน่ารักอย่างเซฮุนถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงโหดพร้อมแทงของจื่อเทาที่ดังอยู่เหนือหัวของตัวเองกับเพื่อนรักอย่างแบคฮยอนที่นั่งหอบเพราะหัวเราะมากเกินไป แถมตาดุๆนั้นก็ทำให้เซฮุนต้องสะกิดให้เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาช่วยกันเผชิญชะตากรรมบ้าง

     

     

    ก็หวงจื่อเทาน่ะ.. ขึ้นชื่อในเรื่องความโหดที่สุดในหมู่พี่เลี้ยงลูกเสือน่ะสิ

     

     

    “งื่ออ.. อย่าดุสิครับพี่จื่อเทา”

     

     

    จะมีก็แต่ไอ้คนที่แอบหลับคาบลูกเสือทุกคาบนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย

     

     

    “แล้วใครใช้ให้มัวแต่เล่นกันล่ะวะ”

     

    “ไม่มีใครใช้อ่ะครับ”

     

    “กวนตีน?”

     

    “อ.. เอ่อ พี่เรียกพวกผมทำไมอ่ะครับ?”

     

     

    โอเซฮุนที่กลัวว่าเพื่อนซี้จะโดนรุ่นพี่หน้าโหดกินหัวไปก่อนทั้งที่ยังทำหน้าเคลิ้มใส่เขาอยู่ถึงกับยอมเสี่ยงตายพูดแทรกพี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดขึ้นมา ส่วนจื่อเทาที่โดนถามก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับหยิบหมวกลูกเสือของแบคฮยอนที่ตกอยู่บนพื้นตอนไหนก็ไม่รู้มาวางโปะบนหน้าของเจ้าของหมวกซะจนมิดก่อนจะพูดบางอย่างที่ทำให้ลูกเสือเนตรนารีกว่าสี่สิบชีวิตบนรถบัสต้องหงายเงิบไปตามๆกันแล้วเดินกลับไปนั่งที่ชั้นล่างเหมือนเดิม

     

     

    “หมวกหล่น”

     

     

    พี่จื่อเทาสุดโหดเก็บหมวกให้แบคฮยอน

     

    เชื่อเถอะว่านี่จะเป็นประเด็นที่ฮอตที่สุดในห้องมอสามทับหนึ่ง

     

     

     

     

     

     

     

     

    มือเรียวลากเอากระเป๋าเดินทางใบโตเท่าบ้านเดินผ่านทางชันและขรุขระในค่ายลูกเสืออย่างยากลำบากเพราะน้ำหนักกระเป๋าและสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกันเกินไปเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่แบคฮยอนก็ยังคงพยายามพาเอาบ้าน(?)ที่หอบมาด้วยเข้าค่ายไปอย่างทุลักทุเลจนคนที่เดินตามมาทีหลังอย่างเซฮุนมองอย่างขัดใจ

     

     

    “มึงขนอะไรมาเยอะแยะวะ”

     

                “ไม่เยอะนะ แค่เสื้อสามกางเกงสามแล้วก็ผ้าห่มกับผ้าเช็ดตัวอย่างละผืนเอง”

     

                “ถ้าแบกมาแค่นั้นมันจะไปหนักได้ไงวะ”

     

     

                เซฮุนที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าสงสัยเต็มที่ให้แบคฮยอนก่อนจะแทบหงายลงไปกองกับพื้นค่ายทันทีที่ได้ยินคำเฉลยจากปากจิ้มลิ้มนั่น ในใจก็คิดไปด้วยว่าความจริงกูไม่น่าถามมันเลย

     

     

                "สงสัยเป็นเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ ครีมทากันยุง ชุดแสดงรอบกองไฟ.. อ้อ! แล้วก็น้องนิ่งด้วย"

     

     

                สำหรับใครที่งงว่าน้องนิ่งคืออะไรนั่นโอเซฮุนขอให้คุณจินตนาการตามนะ

     

                ตุ๊กตาหมีริลัคคุมะหน้านิ่งสมชื่อตัวไม่โตมากแต่ก็พอจะทำให้กระเป๋าคุณพองขึ้นได้พอควร

     

                นั่นแหละ น้องนิ่งของคุณหนูพยอนเขาล่ะ..

     

     

                "มึงเอามันมาทำมะเขืออะไรเนี่ย"

     

                "ก็คนมันติดนี่.."

     

               

                ใบหน้าหวานของแบคฮยอนงอง้ำลงเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนเหมือนกับจะบอกว่าน้องนิ่งของตัวเองเป็นตัวเกะกะในการมาอยู่ค่ายครั้งนี้ ทันทีที่ถึงทางราบแล้วขาเรียวก็ก้าวจ้ำอ้าวๆไปนั่งจุ้มปุ๊กต่อท้ายแถวลูกเสือหมู่ตัวเองก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนที่นั่งแถวข้างๆกันเพราะอยู่คนละหมู่

     

                ทันทีที่พิธีเปิดค่ายจบลงคนตัวเล็กก็ฉุดกระชากลากถูเพื่อนซี้ให้ลุกตามกันไปเอาอาหารกลางวันเพราะหิวค้างมาจากการที่เมื่อเช้าตื่นสาย พอได้อาหารมาเรียบร้อยแล้วคนตัวเล็กก็ลงมือจัดการอาหารในถาดซะเกลี้ยงถาดจนเพื่อนในห้องที่เห็นได้แต่หัวเราะก๊ากกับท่าทางเหมือนหมาหิวแบบนั้นของคุณหนูพยอน ส่วนเจ้าตัวก็ยังยิ้มกว้างตาหยีแถมชูสองนิ้วแถมกลับไปอีกก่อนจะวิ่งเอาถาดไปล้างแล้วเก็บ

     

    หลังจากที่ลูกเสือเนตรนารีทั้งหลายอิ่มแปล้แล้วก็เป็นช่วงของการแนะนำตัวของบรรดาสต๊าฟของทางค่ายและแนะนำสถานที่ที่ลูกเสือเนตรนารีควรจะรู้ไว้อย่างที่พัก เรือนพยาบาลและที่ฝึก แต่แบคฮยอนที่ไม่เคยสนใจวิชาลูกเสือนั้นก็ได้แต่นั่งสัปหงกอยู่กลางแถวก่อนจะสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้รับมะเหงกเขกลงกลางเหม่งจากเพื่อนซี้ที่ตอนนี้ลุกยืนขึ้นกระชับกระเป๋าเดินทางในมือที่ดูเล็กกว่ากระเป๋าของแบคฮยอนเยอะอยู่ แบคฮยอนที่เห็นเพื่อนลูกเสือทั้งห้องลุกขึ้นแล้วก็รีบเด้งตัวขึ้นยืนบ้างแล้วรีบเดินลากกระเป๋าใบโตตามเพื่อนๆไป

     

     

                ว่าแต่.. ไปไหนวะเนี่ย?

     

     

                คนตัวเล็กได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจเพราะขี้เกียจสะกิดถามเพื่อนร่วมห้องที่เดินนำหน้าไปอย่างเร่งรีบเหมือนกลัวเขาเหยียบเท้า จนกระทั่งแถวหยุดลงเพราะถึงที่หมายแล้วแบคฮยอนถึงได้รู้ว่าจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือบ้านพักขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กเกินไป ภายในตัวบ้านมีเพียงแค่พื้นปูนที่ถูกยกระดับสองข้างปูด้วยเสื่อน้ำมันแล้วเว้นที่ว่างตรงกลางไว้วางของหรือเดินตามอัธยาศัย

     

     

                “ที่พักของพวกเธอจะอยู่ติดกับที่พักของพี่เลี้ยงลูกเสือกับที่พักอาจารย์นะ เพราะฉะนั้นถ้ามีใครเกิดเป็นอะไรขึ้นมาพวกเธอต้องมาแจ้งอาจารย์ทันที... ทราบ?”

     

     

                อยู่ติดกับที่พักพี่เลี้ยงลูกเสือ... งั้นแบคฮยอนก็ได้อยู่ใกล้กับพี่จื่อเทาสิ

     

                ฮื้ออ.. หม่ามี๊จ๋า แบคฮยอนเขินอ่ะ!  ; ///// ;

     

     

                “ทราบบ!

     

                “เอาล่ะ ถ้างั้นเอาของไปเก็บข้างในแล้วออกมาอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ ให้เวลาเตรียมตัวชั่วโมงนึงแล้วไปเจอกันที่เดิม ปฏิบัติ!

     

     

                ทันทีที่ได้ยินคำสั่งจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วบรรดานักเรียนห้องมอสามทับหนึ่งก็พากันวิ่งกรูเข้าไปจองที่นอนกันตามอัธยาศัยรวมถึงแบคฮยอนและเซฮุนด้วย สองเพื่อนซี้พากันเลือกนอนที่บริเวณติดกำแพงด้านในเพราะพอเข้าไปถึงแล้วก็เหลือที่ว่างแค่ตรงนั้นกับบริเวณใต้คาน เซฮุนที่เห็นแบบนั้นเลยชวนเพื่อนไปนอนติดกำแพงด้านในเพราะกลัวว่าเวลาตื่นมาจะได้เจอกับสิ่งลี้ลับที่แขวนไว้บนคาน

     

     

                ก็ตอนมอหนึ่งเขาดันเจอกางเกงในของใครไม่รู้ห้อยให้เห็นก่อนนอนน่ะสิ

     

                ถ้าแม่งร่วงมาโปะหน้านะ...

     

                ไม่อยากจะคิด orz

     

     

                “คิดอะไรอยู่น่ะ ดูทำหน้าเข้า”

     

     

                แบคฮยอนที่เพิ่งวางกระเป๋าจองที่เสร็จแล้วคุ้ยเอาเสื้อผ้าที่จะใส่ออกมาวางก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนที่ดูเหมือนกำลังติดต่อยานแม่อยู่ มือเล็กฟาดลงบนตักเพื่อนดังป้าบแล้วชี้ไปที่เสื้อผ้าตัวเองเพื่อเตือนสติเพื่อนก่อนจะลงมือปลดชุดลูกเสือออกมาแขวนไว้บนคานแล้วเปลี่ยนเป็นชุดพร้อมอาบน้ำเต็มที่ มือเรียวสวยถือขันน้ำพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกายยืนรอเพื่อนทั้งรองเท้าแตะก่อนจะพากันเดินไปท้าลมหนาวบริเวณหน้าห้องอาบน้ำรวมที่อยู่บริเวณด้านหลังที่พัก

     

                พอหาที่แทรกตัวเข้าไปได้แล้วแบคฮยอนกับเซฮุนที่มองสำรวจสภาพน้ำเล็กน้อยก็ได้แต่หันมามองหน้ากันเพราะเกิดคิดถึงห้องน้ำที่บ้านขึ้นมา แต่ในเมื่อพากันวาร์ปกลับบ้านตอนนี้ไม่ได้เพื่อนซี้ทั้งสองเลยได้แต่กลั้นใจตักน้ำขึ้นมาอาบกันก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียงจนบรรดาลูกเสือในห้องน้ำขำกันลั่น

     

     

                “เชี่ยยยยย หนาวโว้ย!!

     

     

     

     

     

     

                แบคฮยอนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จได้แต่เดินตามเพื่อนตัวผอมมาต้อยๆในขณะที่แขนเรียวก็ได้แต่ลูบแขนตัวเองเพื่อคลายความเย็น ในใจก็คิดสาปแช่งสภาพอากาศในหน้าหนาวไปด้วยทั้งที่มันก็ไม่ได้ผิดอะไรเลยสักนิด เซฮุนที่เห็นท่าทางของเพื่อนเลยได้แต่ส่ายหน้าแล้วรีบลากเข้าที่พักก่อนที่จะมีลูกเสือหรือพี่เลี้ยงลูกเสือหน้ามืดไปเพราะผิวขาวๆของเพื่อนตัวเล็กนี่ซะก่อน

     

     

                ถ้าขาวผอมสูงแบบเขามันยังน่าให้อภัยไง เพราะบางคนเขาเห็นกระดูกซี่โครงก็ตกใจและ

     

                แต่ขาวเนียนตัวเล็กน่าฟัดแบบมันเนี่ยอันตรายชิบเป๋ง ดึงดูดทุกเพศทุกวัย -_-

     

     

                หลังจากที่เซฮุนปฏิบัติภารกิจปกป้องเพื่อนจากลูกเสือหน้ามืดได้สำเร็จแล้วแบคฮยอนที่เริ่มทนความหนาวไม่ไหวก็รีบวิ่งไปคุ้ยกระเป๋าหาเสื้อผ้าที่คิดว่าจะใส่ในการอยู่ค่ายคืนแรก จนเมื่อได้ชุดที่พอใจแล้วมือเรียวก็ไม่ลืมหยิบครีมทากันยุงมาทาไปทั่วทั้งแขนและขาเพราะกลัวว่าจะเจอยุงในป่าเล่นเอาซะก่อน ทันทีที่แต่งตัวเสร็จคนตัวเล็กก็จัดการเก็บข้าวของแล้วหันมาตากผ้าเช็ดตัวไว้ดีๆก่อนจะใส่ถุงเท้ารองเท้าและผ้าผูกคอแล้วชวนเซฮุนที่แต่งตัวเสร็จแล้วเหมือนกันให้ออกไปเดินเล่นหน้าที่พัก

     

                ตากลมใสกวาดมองบรรยากาศในค่ายรอบตัวแล้วก็พาลนึกถึงหม่ามี๊คนสวยที่คงจะใกล้เลิกงานแล้ว ใบหน้าหวานหงอยลงไปอย่างเห็นได้ชัดจนเพื่อนตัวผอมต้องเดินมาตบเหม่งมันสักทีให้หายดราม่า ซึ่งก็ได้ผลเพราะขาเรียวก็ยกขึ้นฟาดก้นเป็นการตอบโต้ทันที สองเพื่อนซี้เล่นกันอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกจากพวกนายหมู่ที่เรียกให้ไปกันได้แล้ว แบคฮยอนกับเซฮุนถึงได้ลากคอกันไปได้เสียที

     

     

                แบคฮยอนพาตัวเองลงนั่งจุ้มปุ๊กต่อท้ายเพื่อนในหมู่ตามคำสั่งของพี่เลี้ยงลูกเสือคนนึง ซึ่งพอเห็นพี่เลี้ยงลูกเสือแล้วคนตัวเล็กก็ได้แต่กวาดตามองหาพี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดที่ตัวเองปิ๊งก่อนขึ้นรถทันทีแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ปากเล็กจิ้มลิ้มยู่เข้าหากันอย่างขัดใจก่อนจะยกเข่าขึ้นมากอดแล้ววางคางลงไปอย่างเซ็งๆแล้วตะแคงหน้าเอาแก้มถูกับเข่าตัวเองเล่นเพราะไม่มีอะไรทำ

     

                ใบหน้าหวานยกขึ้นมาอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงของอาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเองพ่วงด้วยตำแหน่งหัวหน้าระดับดังมาจากไมโครโฟนด้านหน้า รู้ตัวอีกทีบรรยากาศน่าเบื่อในตอนแรกก็แทนที่ด้วยบรรยากาศแก้เครียดที่คณะครูอาจารย์จัดให้ลูกเสือเนตรนารีก่อนการเดินทางไกลในป่าตอนกลางคืน แบคฮยอนถึงกับหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าพี่เลี้ยงลูกเสือที่ตอนแรกหาตัวไม่เจอนั้นเดินมายืนอยู่ข้างกับพี่เลี้ยงลูกเสืออีกคนที่ตัวไล่เลี่ยกัน

     

     

                ตอนใส่ชุดลูกเสือว่าเท่ห์แล้ว ตอนใส่ชุดธรรมดายิ่งหล่อกว่าอีก

     

                คุณค่าที่คุณหนูพยอนคู่ควรจริงๆนะนี่นะ T w T

     

     

                คิดแล้วแบคฮยอนก็นั่งยิ้มหวานให้กับพี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดที่ยืนอยู่ด้านหน้าจนเพื่อนซี้ที่นั่งข้างกันถึงกับเบ้หน้าอยากอ้วก ใบหน้าหวานอมยิ้มอย่างน่ารักจนเขี้ยวเล็กๆสองข้างเห็นเด่นขึ้นก่อนจะหุบลงแล้วเปลี่ยนมาอ้าปากหวอทันทีเมื่อได้ยินว่าทางค่ายจะให้พี่เลี้ยงลูกเสือแนะนำตัวเล็กๆน้อยๆ ตาเรียวจับจ้องรอคิวที่คนที่ตัวเองรอจะโผล่มาพูดบ้างจนโดนเพื่อนๆแซวไปหลายชุดแต่คนตัวเล็กก็ไม่แคร์ จนกระทั่งถึงคิวของพี่เลี้ยงลูกเสือสุดโหดเสียงโห่ร้องกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นในหมู่ลูกเสือเนตรนารี

     

     

                อะไรเนี่ย.. พี่จื่อเทาฮอตขนาดนี้เลยเหรอ?

     

                ไม่ได้นะ อย่างนี้แบคฮยอนก็มีคู่แข่งเยอะเลยสิ!

     

     

                “เอ้า พี่เลี้ยงคนต่อไปแนะนำตัวต่อเลย”

     

                “ครับ..... หวงจื่อเทา มอหกห้องสิบ ไม่โหด ใครว่าโหดเจอกันได้ครับ”

     

                “โอ๊ะ.. คนนี้เด็ดแฮะ มีความสามารถพิเศษรึเปล่าครับน้อง”

     

                “มีครับ ผมเป็นมวย กังฟู วูซู เทควันโด้ คาราเต้ เล่นบาส เล่นกีต้าร์... หมดแล้วมั้งครับ”

     

     

                แหม ไหนๆก็เป็นเยอะขนาดนี้แล้วสนใจลองเป็นแฟนผมบ้างไหมฮะพี่?

     

                อุ้ย แบคฮยอนคิดอะไรออกไป....... เขิน..

     

     

                หลังจากที่พี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดเอ่ยสรรพคุณตัวเองจบเซฮุนก็ได้แต่นั่งอุดหูกับเสียงกรี๊ดวี้ดว้ายของสุภาพสตรีกับเพศที่สามและเสียงโห่ร้องของเพศดั้งเดิม พอหันไปเช็คสภาพเพื่อนตัวเล็กด้านข้างก็แทบจะลมจับเพราะมันไม่ได้กรี๊ดตามชาวบ้านเขา แต่มันดันนั่งงับแขนเสื้อยาวๆของตัวเองอยู่แถมยังทำสายตาประมาณว่า ‘อย่าเผลอนะ เสร็จกูแน่ใส่พี่จื่อเทาสุดโหดซะอย่างนั้น

     

     

                โปรดบอกทีว่านี่ไม่ใช่เพื่อนเซฮุน ทำไมมันบ้าผู้ชายอย่างนี้...!!

     

     

    “อื้อหือ นี่มึงคิดอะไรอกุศลกับพี่เขาอยู่ใช่ไหมวะเนี่ย”

     

                “อะไร อย่ามาใส่ร้ายกูนะ”

     

    “เหรออออ เห็นแทบแทะแขนตัวเองเล่นแล้วมั้งเนี่ย”

     

    “ไม่ใช่หมา!

     

     

    ริมฝีปากเล็กแยกออกให้เห็นเขี้ยวเล็กๆเพื่อขู่เพื่อนก่อนจะหันกลับไปมองพี่จื่อเทาสุดสุดที่รักของตัวเองต่ออย่างไม่สะทกสะท้านกับคำยัดเยียดความเป็นหมาของเพื่อนซี้ ถึงแม้ว่าหลังจากพี่จื่อเทาไปสักสองสามคนแล้วการแนะนำตัวของพี่เลี้ยงลูกเสือจะจบลงแต่แบคฮยอนก็ยังคงละเมอเพ้อพกถึงพี่เลี้ยงลูกเสือมาดโหดแค่คนเดียวจนไม่ได้ยินเสียงคำสั่งให้ลุกขึ้น

     

     

    “แบคฮยอน! เขาให้ลุกแล้วเฮ้ย”

     

    “ห..ห๊ะ? อ้าวเหรอ”

     

     

    คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นยืนตามที่เพื่อนในหมู่เรียกแล้วเดินตามคนข้างหน้าไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ไหน แต่คนตัวเล็กก็ยังคงไม่ใส่ใจเท่าไหร่นักแถมระหว่างทางยังหยิบเอามือถือเครื่องแพงมาถ่ายรูปทิวทัศน์และท้องฟ้าตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ

     

     

    ก่อนที่จะโดนริบไปต่อหน้าต่อตา

     

     

    “เอ้ย! อะไรเนี...”

     

     

    ด้วยฝีมือของคนหน้าโหดคนนึงที่มันกำลังคิดถึงอยู่นั่นแหละ..

     

     

    “น้อง! ไม่รู้เหรอไงว่าเขาให้เอาของมีค่าเก็บไว้ในที่พักน่ะ”

     

     

    หม่ามี๊จ๋า พี่จื่อเทายึดไอโฟนแบคฮยอนอ่ะ...

     

    แถมยังจับมือแบคฮยอนด้วย

     

    ผิดผี! อย่างนี้กลับไปต้องมาขอแบคฮยอนนะ!!

     

     

    “ม.. ไม่รู้ฮะ..”

     

    “งั้นรู้ไว้แล้วค่อยมาเอาคืนตอนหาทางออกจากป่าได้แล้วกัน”

     

     

    เป็นเพราะจื่อเทาต้องเดินคุมลูกเสือให้ไปทางป่ากับเพื่อนที่เป็นพี่เลี้ยงลูกเสืออีกคนนึงทำให้หันไปเห็นแบคฮยอนที่กำลังเล่นกล้องไอโฟนอยู่อย่างสนุกสนาน ต่อมรักความเป็นระเบียบวินัยเลยเกิดแตกออกต้องเดินไปริบเอาของแพงในมือคนตัวเล็กเอาไว้ แถมก่อนจะเดินไปตรวจแถวอื่นต่อก็ยังไม่วายยิ้มแบบที่คิดว่าโหดขู่เด็กกลัวฉี่ราดได้ให้คนตัวเล็กซะก่อน

     

    ส่วนแบคฮยอนที่ถูกยิ้ม(โหด)ใส่ก็ดันไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของรอยยิ้มสยองขวัญนั้นผิดกับเพื่อนซี้ที่เห็นแล้วถึงกับขนลุกขึ้นมาแทน ซ้ำมือเรียวยังลูบๆคลำๆไปทั่วข้อมือเล็กที่ถูกคนตัวสูงกว่าดึงเข้าหาเพื่อริบของแพงเมื่อครู่ก่อนที่ริมฝีปากเล็กจะแย้มยิ้มเขินอายออกมาจนเซฮุนเองก็อดไม่ได้ที่จะแซะมันไปสักนิด

     

     

    “แรดจริง”

     

    “อะไร เดี๋ยวกูก็แช่งให้หลงป่าหรอกเฮ้ย”

     

    “กูหลงมึงก็หลง อย่าลืมว่าเวลาเดินหมู่กูนำหน้าหมู่มึง”

     

     

    แบคฮยอนที่ได้ยินแบบนั้นก็แทบจะโดดเข้ากัดเซฮุนเพื่อนรักสักทีข้อหาพูดจาน่าเตะแล้วยังทำหน้ากวนอวัยวะเหยียบย่ำพื้นเป็นที่สุด แต่คนตัวเล็กก็เลือกที่จะอยู่นิ่งไว้เพราะแอบเห็นทางหางตาว่าพี่จื่อเทาสุดหล่อและโหดมากของตัวเองกำลังเดินกลับมาทางหัวแถว ซึ่งเซฮุนที่รู้จากท่าทางและสายตาของเพื่อนก็ได้แต่แอบเบ้ปากอย่างหมั่นไส้

     

     

    กลับไปกูจะฟ้องน้าแทยอนว่ามึงบ้าผู้ชาย!

     

     

     

     

     

    ในตอนแรกที่รู้ว่าในการมาค่ายครั้งสุดท้ายนี้จะต้องเดินทางไกลตอนกลางคืนแถมยังเป็นคืนแรกนั้นแบคฮยอนก็ไม่ได้คิดไปมากกว่าการเดินเดินเดินและเดินโดยมีไฟฉายติดตัวเอาไว้ แต่พอได้มาเดินจริงๆแล้วแบคฮยอนก็รู้สึกได้ว่าความคิดนั้นมันเป็นได้แค่ความคิดเท่านั้น

     

     

    ก็ก่อนเข้าป่าดันมีคำสั่งจากบรรดาอาจารย์ให้ดับไฟฉายให้เหลือแค่กระบอกเดียวทั้งหมู่น่ะสิ

     

    แถมถ้าแอบใช้โดนมผ.อีกต่างหาก

     

    ท่ามกลางความมืดที่มีแสงสว่างเป็นจุดๆเลยมีแต่เสียง...

     

     

    “ไอ้เชี่ย ใครเหยียบตีนกู!

     

    “กรี๊ดดด!! เสียงอะไรน่ะ!?”

     

    “พวกผู้หญิงอย่ากรี๊ดดิวะ หนวกหู!

     

    “ฮึก.. แก ฉันกลัวความมืดอ่ะ อย่าปล่อยฉันนะแก”

     

    “หาววว.. เมื่อไหร่จะได้ไปนอนวะ แม่งเอ๊ย!

     

     

    และอีกสารพัด...

     

    นี่แค่ส่วนหนึ่งของเสียงที่ดังตลอดทางที่เดินมาราวครึ่งชั่วโมงได้

     

    หม่ามี๊จ๋า.. แบคฮยอนอยากกลับบ้านแล้วอ่ะ น่าเบื่อจัง

     

     

    “ซูโฮอ่า.. ฐานต่อไปอยู่ไหนเนี่ย”

     

    “รู้สึกจะอีกนิดเดียวแล้วนะแบคฮยอน... อ๊ะ นั่นไงๆๆ!

     

     

    แบคฮยอนที่คอยเกาะชายเสื้อเพื่อนตัวขาวที่เดินนำหน้าอยู่เพราะมองไม่เห็นทางก็ถึงกับยิ้มออกเมื่อเห็นแสงไฟมาจากทางข้างหน้า ขาเรียวก้าวเดินหลบรากไม้ใหญ่และก้อนหินตามหลังเพื่อนตัวขาวไปอย่างเร็วโดยที่ข้างหลังตัวเองก็มีเพื่อนคอยเดินเกาะชายเสื้อกันมาตลอดทาง

     

    หลังทำกิจกรรมในฐานที่สามเสร็จแล้วอาจารย์ประจำฐานก็ทำหน้านิ่งใส่ไม่เหมือนปกติก่อนจะแสยะยิ้มแปลกๆให้ เล่นเอาบรรดาลูกเสือในหมู่รวมถึงแบคฮยอนต้องมองหน้ากันอย่างสงสัยปนหวาดระแวงว่าบรรดาอาจารย์กับทางค่ายจะเอาอะไรออกมาแกล้งกันรึเปล่า

     

     

    และก็เป็นไปตามคาด

     

     

    “กรี๊ดดดดด!!

     

     

    แบคฮยอนถึงกับสะดุ้งไปกับเสียงกรีดร้องของเนตรนารีหมู่แรกที่เดินนำหน้าไปได้สักพัก ในใจก็ได้แต่แอบบ่นโอดครวญกับการเล่นแผลงๆของครูอาจารย์พี่เลี้ยงลูกเสือและสต๊าฟของค่ายก่อนจะต้องออกก้าวเดินตามเพื่อนร่วมห้องตัวขาวต่อเพราะโดนอาจารย์ประจำฐานไล่แล้ว

     

     

    “ซ.. ซูโฮ ข้างหน้ามันจะมีอะไรรึเปล่าเนี่ย”

     

    “เอ่อ... ไม่มั้งง ~ เราว่าบางที.. บางทีพวกผู้หญิงอาจจะตกใจกิ่งไม้ก็ได้”

     

     

    แบคฮยอนที่ได้ยินเพื่อนร่วมห้องตัวขาวพูดแบบนั้นก็ได้แต่ภาวนาให้ทางข้างหน้าเป็นทางที่มีกิ่งไม้เยอะจนน่ากลัวหรือมีอะไรที่พอจะทำให้ผู้หญิงตกใจได้บ้าง มือเรียวกำกระชับชายเสื้อกันหนาวของซูโฮที่เดินนำข้างหน้าเผื่อว่าถ้าเพื่อนคนนี้เกิดตกใจแล้ววิ่งจะได้พาเขาไปด้วย

     

     

    มืดๆแบบนี้..

     

    หนาวๆแบบนี้..

     

    บรรยากาศแบบนี้...

     

    หนังผีชัดๆ

     

     

    “เฮ้ยย เชี่ยยยยยย!!

     

     

    คำอุทานฮาร์ดคอร์ดังออกมาจากปากเล็กๆทันทีที่เดินผ่านต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งแล้วจู่ๆก็รู้สึกได้ถึงแรงกระชับจับที่ข้อมือของตัวเองจนเพื่อนทั้งหมู่ต้องชะงักฝีเท้าหันมามองคนตัวเล็กทันที ซึ่งพอหันขวับไปมองเพื่อนที่ยังคงเกาะฮู้ดเสื้อกันหนาวของตัวเองอยู่ด้านหลังก็เห็นว่ามือมันยังคงอยู่ที่ฮู้ดอยู่เหมือนเดิมทั้งสองข้าง

     

     

    ถ้าจะจับได้มันคงจะมีมือที่สามไปแล้ว

     

    คิดแบบนั้นแล้วแบคฮยอนเลยหันไปมองด้านข้างทันที

     

    และก็ได้เห็นต้นเหตุของแรงจับที่ข้อมือสมใจ

     

     

    “พ.. พี่จื่อเทา!

     

    “อะไรวะ นึกว่าจะกรี๊ดซะอีก”

     

     

    ตาเรียวกระพริบปริบๆเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆของพี่จื่อเทาสุดที่รักของตัวเองบ่นออกมาอย่างเซ็งๆที่แกล้งรุ่นน้องไม่ได้ก่อนจะรู้สึกวูบโหวงไปเล็กๆเมื่อมืออุ่นๆที่จับหมับเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวในตอนแรกปล่อยข้อมือของเขาให้เป็นอิสระข้างตัวแล้วออกปากไล่ให้รีบเดินไปฐานต่อไปได้แล้ว ใบหน้าหวานที่เหมือนจะดีใจในตอนแรกที่เห็นหน้าของคนตัวสูงกลับยู่ลงไป

     

     

    พี่จื่อเทาใจร้าย ปล่อยแขนแบคฮยอนทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอ

     

    แล้วยังจะมาไล่ซ้ำอีก.. ใจร้ายๆๆๆ!!

     

     

     

    แต่แบคฮยอนที่มัวแต่บ่นอยู่ในใจเองก็ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลย

     

    ไม่ได้รู้เลยว่ามีคนมันกำลังแอบบ่นถึงอยู่น่ะ

     

     

    “ข้อมือเล็กเหมือนกันนะเนี่ยไอ้ตัวเล็ก..”

     

     

    อ้อ ไม่ใช่แค่บ่นนะ...

     

    มันแอบยิ้มอยู่ด้วยล่ะ J

     

     

     

     

     

     

     

     

    To Be Continue

     

     

     

                                                                                       

    .. TALK ..

    เรื่องนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบนึกถึงสมัยมอสาม 5555555555

    เรื่องนี้จะมีประมาณสามตอนนะคะ ยกเว้นจะคึกแล้วมีสเปต่อ . __ .

     

    เห็นคอมเม้นท์แล้วตอบไม่ถูกจริงๆค่ะ บอกเลยว่าเขินมากดีใจมากที่ทุกคนชอบ

    สัญญาเลยค่ะว่าจะแต่งต่อไปเรื่อยๆเลย เพราะพล็อตมีในหัวมาเรื่อยๆอยู่แล้ว ฮี่

    ปอลอ. ใครตายจากเรื่องที่แล้วมั่ง เดี๋ยวเรารับผิดชอบส่งคนนี้ไปดูแลให้นะ ขโมยวัวน้อยมาล่ะ - w -

     



     




    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×