Musicbox
มิวซิคบอกซ์ คือ สัญลักษณ์แห่งความสุขชั่วนิรันดร์ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ตาม....
ผู้เข้าชมรวม
111
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ภาพของต๊อบที่นั่งเล่นกีต้าร์อยุ๋ริมทะเลสาบของสวนหลวงร.9 ชั่งดูมีชีวิต และมีความสุข แต่มันคงดูเป็นภาพที่สวยงามกว่านี้ถ้าเป็นภาพที่อยู่ที่อื่น ไม่ใช่ที่ที่มีดอกไม้สดหลากสีล้อมรอบกรอบทองไว้หน้าโลงศพ ต๊อบสั่งให้เอาภพานี้มาเป็นภาพของเขาในงานศพ เพราะเป็นภาพที่แบมถ่ายให้ และ เป็นภาพที่แบมบอกว่าหล่อ ต๊อบตายไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ระหว่างทางที่ต๊อบจะเอาของขวัญวันเกิดมาให้ฉัน โดยที่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขายังใส่ใจ และห่วงใยฉันตลอดเวลาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน จนกระทั่งนาทีสุดท้ายของต๊อบ ทั้งๆที่ครั้งแรกที่เราเจอกันก็ผ่านมาตั้งเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่ฉันก็ยังจดจำได้ทุกรายละเอียด วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการขึ้นมัธยม ฉันเดินมาโรงเรียนพร้อมกับกองหนังสือพะรุงพะรัง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำจังหวัด บ้านฉันไม่ไกลจากโรงเรียนมากจึงเดินมา แต่เพราะวันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนมาก ทำให้ฉันหมดแรงตั้งแต่ครึ่งทาง พอมาถึงจึงยืนพิงเสาหน้าโรงเรียนอย่างหมดฟอร์ม อยู่ดีๆหนุ่มน้อยผิวสีน้ำผึ้งที่แบกเป้เดินเข้ามาทักฉัน “1/2ใช่มั้ย มาเถอะ ต๊อบช่วยถือ” เขายิ้มให้ฉันอย่างใจดี เราสนิทกันตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เรานั่งเรียนติดกัน เรากินข้าวด้วยกัน เราทำงานกลุ่มเดียวกัน ตอนเย็นเราก็เดินกลับบ้านด้วยกัน จนหลายๆคนแซวพวกเราว่า เราเป็นแฟนกัน ฉันไม่เคยรู้สึกอะไรกับต๊อบมากกว่าเพื่อนสนิทในสามปีแรกที่เรารู้จักกัน แต่สำหรับต๊อบ ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับฉันมากกว่านั้นหรือเปล่า ตอนเย็น เราชอบไปนั่งร้องเพลงดีดกีต้าร์กันข้างสนามฟุตบอล ตอนแรกๆฉันไม่ชอบเลย อยากให้ไปนั่งกันที่ใต้อาคารมากกว่า แดดไม่ร้อน แต่พอเมื่อถึงหน้าฝน เข้าใจเลยว่าการนั่งข้างสนามฟุตบอลเนี่ย ดีกว่านั่งใต้โถงเยอะเลย แถมได้ดูนักบอลตั้งหลายคน ต๊อบแทบไม่เคยเล่นเพลงเศร้าให้ฟังเลย ทั้งๆที่นักร้องอย่างฉันรบเร้าตังหลายครังให้เล่นเพลงเศร้าๆให้ร้องบ้าง จนฉันถามต๊อบขึ้นมาครั้งหนึ่งว่าทำไมแทบไม่เคยเล่นเพลงเศร้าทำไม ต๊อบตอบว่า “แล้วเราจะไปเศร้าทำไมหละ แค่ชีวิตเราทุกวันนี้ก็มีเรื่องเศร้าให้ต้องทุกข์พอแล้ว ร้องเพลงคลายเครียด จะให้มันมีทุกข์อีกทำไมหละ ร้องเพลงเพราะๆสบายๆมีความสุขดีกว่า ชีวิตคนเราสั้นจะตาย ก็ต้องใช้มันให้คุ้นค่า ใช้ให้มันมีความสุขหน่อยสิ” เขาพูดยิ้มๆ ก่อนยจะเล่นเพลง ความลับ ของพอส ที่คงจะเป็นเพลงโปรดของเขา เพราะเขาเล่นเพลงนี้บ่อยจนฉันจำได้ทุกคอร์ดไม่ว่าจะฟังท่อนไหน ก็บอกได้เลยว่าคอร์ดอะไร ฉันพยายามจะให้ต๊อบฝึกสอนเล่นกีต้าร์ตั้งแต่ม.1ยันม.3 ก็ยังจับคอร์ดได้ไม่เป็นเพลงอย่างต๊อบซีกที เพิ่งจะมาเล่นได้ตอนม.4 ตอนที่ต๊อบห่างจากฉันไปช่วงหนึ่ง ความจริงตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรก เราห่างกันแค่ตอนที่เราอยู่บ้าน ถึงแม้บ้านเราจะไม่ห่างกันมาก แต่ต่างคนก็ต่างต้องไปเรียนพิเศษในกรุงเทพกันทั้งคู่ แต่บางครั้ง ไม่สิ ต้องบอกว่าเราหาคอร์สที่เรียนตรงกันทุกครั้ง จะได้มีเพื่อนเรียนด้วยกัน แต่ต๊อบหัวดีกว่าฉันเยอะ เกรดดีจนตอนม.4 เขาได้ไปเป็นนักเรีนแลกเปลี่ยนท่อังกฤษ ปล่อยให้ฉันต้องนั่งเรียนกับโฮสชาวอังกฤษที่เป้นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับต๊อบ ช่วงเวลาที่ต๊อบไม่อยู่ช่างเงียบเหงา ไม่มีชีวิตชีวา ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรเลยซักอย่าง ขนาดจะมานั่งร้องเพลง ฉันยังไม่อยากจะร้องเลยเมื่อไม่มีต๊อบอยู่ข้างๆ ฉันกระวนกระวาย เรียกว่าอยู่ไม่เป็นสุขเลยก็ว่าได้ จากเด็กที่ร่างเริง กลับกลายเป็นคนที่เงียบๆซึมๆ จนวันหนึ่งที่ฉันเริ่มทนไม่ไหว ฉันวิ่งไปบ้านต๊อบ และขอกีต้าร์ตัวหนึ่งขอต๊อบมานั่งเล่นที่บ้านตามที่ต๊อบได้บอกก่อนจะไปว่า ให้มายืมกีต้าร์ได้ พ่อแม่ของต๊อบยื่นกีต้าร์ตัวหนึ่งให้พร้อมบอกว่า
“ต๊อบให้เอากีต้าร์ตัวนี้ให้แบม ถ้าแบมมายืม เพราะว่าตัวนี้เป็นตัวที่แบมชอบที่สุด” ฉันขอบคุณพ่อแม่ต๊อบและรีบวิ่งกลับขึ้นห้องตัวเองทันที ฉันเปิดกีต้าร์ตัวนั้นออกมาดู มันเป็นกีต้าร์ตัวที่ฉันชอบเสียงมันมากที่สุดจริงๆ แตสิ่งที่ฉันแปลกใจที่สุด คือเมื่อเปิดกระเป๋าออกมา โน้ตเพลงที่มีเกือบยี่สิบเพลงก็หล่นออกมาจากกระเป๋า ทั้งหมดนั้นเป็นโน้ตเพลงเสร้าที่ฉันเคยบอกต๊อบว่าอยากเล่น ต๊อบเขียนคอร์ดไว้ให้หมดแล้ว แถมเขียนด้วยว่าคอร์ดไหนจับยังไง เพลงแรกที่ฉันหยิบขึ้นมาเล่นคือเพลง “คิดถึง” ของพีซเมกเกอร์ ฉันพยายามกดคอร์ดซักสามสี่คอร์ด ก่อนจะรู้สึกเจ็บนิ้วแล้วเปิดโน้ตไปจนหน้าสุดท้าย หน้าที่เห็นหมึกจางซึมออกมาจากด้านหลัง มันเป้นจดหมายจากต๊อบ จดหมายที่ทำให้ฉันรู้อะไรมากมาย
“ สวัสดีแบม
ตอนที่แบมได้อ่านจดหมายนี้ ต๊อบต้องอยู่อังกฤษแล้ว และถ้าแบมได้อ่านจดหมายนี้แสดงว่าแบมกำลังคิดถึง ไม่งั้นแบมคงไม่มายืมกีต้าร์ต๊อบหรอกจริงมั้ย ต๊อบดูเป็นผู้ชายที่ไม่ลูกผู้ชายเลยเนาะ ไม่กล้าพูดกับแบมตรงๆต่อหน้า ต๊อบเลยเลือกที่จะเขียนจดหมายมาแทน ถ้าแบมไม่ได้อ่านจดหมายนี้ ก็หมายความว่าแบมไม่ได้คิดถึงต๊อบ แต่พราะแบมกำลังอ่านจดหมายนี้อยู่ ต๊อบเลยไม่กลัวที่จะบอกแบมในบางเรื่อง และไม่กลวว่าเมื่อต๊อบกลับมาแล้ว แบมจะห่างจากต๊อบไป แบมก็รู้ว่าต๊อบชอบเพลงความลับมาก จำตรงท่อนแยกได้มัย “ยิ่งฉันใกล้เธอ เท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลทอเกินจะเก็บซ่อนความลับเอาไว้ และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม ช่วยบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ” ผู้หญิงคนเดียวที่ต๊อบอยู่ใกล้ และ สบสายตาบ่อยก็คงมีอยู่คนเดียว ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ต๊อบเข้าไปช่วยถือหนังสือกองเบ้อเร้อวันเปิดเทอม ม.1 วันแรก เป็นคนที่นั่งเรียนด้วยกัน นั่งกินข้าวด้วยกัน นั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงด้วยกันตอนเย็น นั่งเรียนพิเศษข้างกันที่ตึกวันนสรณ์ ผู้หญิงคนนั้นหนะ ชื่อว่าแบม เธอคนนั้นกำลังอ่านจดหมายนี้อยู่ตอนนี้ พออ่านมาถึงตอนนี้ เธอคงกำลังหน้าแดง และก็มีน้ำตาเอ่อขึ้นมาแต่ยังไม่ไหลเป้นสายน้ำ ตอนแรกต๊อบก็นึกแค่ว่ามันเป็นแค่ความสนิทของเพื่อน แต่เวลาสามปี ทำให้ต๊อบรู้ว่า มันไม่ใช่แค่เพื่อนแล้ว มันคือ ความรักที่เป็นความลับ ความลับที่ต๊อบซ่อนเอาไว้ในใจ แล้วได้เปิดเผยออกมาแล้ว ตอนนี้ก็คงเหลือแค่ความอยากรู้ว่า ความลับในใจของเธอมีฉันอยู่บ้างมั้ย ช่วยบอกความมในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ
ป.ล. ปิ๊กกีต้าร์กันจูนเนอร์อยู่ที่กระเป๋าหน้านะ อ้อ มีเทปตลับนึงอยู่ที่กระเป๋าหลังนะ ลองฟังดูได้
รัก"
เทปคาสเสตตลับนั้นเป็นเทปที่อัดเสียงร้องเพลง คิดถึง ของต๊อบ หลังจากนั้น ฉันก็พยายามเล่นเพลงนี้ให้ได้ ฉันฝึกเล่นอยู่สองสามวัน อยู่ดีๆเสียงกริ่งหน้าล้านที่แม่รีบเรียกให้ลงมาแทบทำให้ฉันกรี๊ด ต๊อบกลับมาก่อนกำหนด2เดือน “ไปสวนหลวงกัน แล้วเราไปนั่งร้องเพลงกัน เอากีต้าร์ต๊อบไปด้วยนะ” เขาพูดยิ้มๆ ฉันรีบวิ่งไปเอากีต้าร์และซ้อนมอเตอร์ไซค์ต๊อบออกไปสวนหลวงทันที เมื่อถึงริมทะเลสาบที่พวกเราชอบมากันบ่อยๆ ฉันกระโดดกอดคอต๊อบทันที ก่อนที่ต๊อบจะดึงฉันออก ฉันก็กรี๊ดใส่หูต๊อบ เราทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจดหมายนั้นเลย แต่ต่างคนต่างรู้ ผ่านการบอกเล่าทางสายตา เราทั้งคู้เล่าเรื่องในช่วงเวลาที่ต่างคนต่างไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก่อนที่ฉันจะโชว์เพลงคิดถึงที่อุตส่าห์ฝึกเล่นมาให้ต๊อบฟัง ต๊อบตบมือเมื่อเล่นจบ แถมชมด้วยว่า เล่นเก่งจัง ต๊อบจึงยกกีต้าร์ขึ้นมาเล่นบ้าง คราวนี้เป็นเพลงรัก ตามรสนิยมของต๊อบ ฉันยกกล้องที่ต๊อบซื้อมาให้มาถ่ายรูปแรก รูปที่ตีอบนั่งเล่นกีต้าร์อยู่ที่ริมทะเลสาบ อย่างมีความสุข แต่สิ่งที่ต๊อบซื้อมาให้อีกอย่างนอกจากกล้องคือ มิวซิคบ๊อกซ์อันเล็กๆ ที่ดูเหมือนหีบไม้ที่เมื่อเปิดมาแล้วก็จะมีตุ๊กตาซานตาคลอสออกมาเต้นแบบหุ่นยนต์ พร้อมกับเพลงจิงเกอเบล ต๊อบบอกว่ามิวซิคบอกซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขชั่วนิรันดร์ เพราะไม่ว่าจะนานยังไง มิวซิคบอกซ์ก็จะยังเล่นเพลงเดิม จังหวะเดิม และทำให้คนฟังยิ้มได้เหมือนเดิม และมิวซิคอันนั้น ฉันยังเก็บไว้จนทุกวันนี้ เราคบกันเหมือนเพื่อน ทำเหมือนทุกอย่างที่เราเคยเป็นมา เพราะนั่นทำให้เรามีัความสุขมาตลอด ฉันเคยซื้อมิววิคบ๊อกซ์ให้ต๊อบครั้งหนึ่ง ในวันเกิดปีที่20ของต๊อบ มันเป็นเปียโนตัวเล็กๆที่เมื่อเปิดฝาหลังของเปียโนเมื่อไหร่ เพลงLover’s Concerto ก็จะดังขึ้นมาทันที จนมิวซิคบอกซ์เปรียบเหมือนความรักของเราสองคนที่จะอยู่กับเราตลอดไป ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อน หรือ แฟน เราคบกันจนอายุ23 ฉันเป็นครีเอทีฟในบริษัทที่มีชื่อเสียงแ่งหนึ่ง ส่วนต๊อบเป็นสถาปนิก ต๊อบถูกส่งไปดูงานที่อิตาลี เราคุยกันทุกวัน ตอนนั้นเริ่มมีการคุยผ่านวิดีโอแล้ว วันนั้นเป็นวันที่ฉันเสนองานผ่านและรีบวิดีโอไปหาตีอบ เราคุยกันอยู่ซักพักหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องของต๊อบและปิดจอคอมพิวเตอร์ของต๊อบลงไป หลังจากนั้นตีอบไม่ติดต่อกลับมาเลยจนกระทั่งกลับไทยอีก2อาทิตย์ต่อมา ฉันเสียใจมาก ถึงกับเกือบกินยาฆ่าตัวตาย เพราะก่อนไปต่างประเทศต๊อบได้บอกว่า ถ้าเงินเก็บของต๊อบถึงเป้าเมื่อไหร่ ต๊อบจะมาขอฉันแต่งงานทันที และเขาก้ได้ใส่แหวนไข่มุกเม๊ดเล็กๆให้ฉันวงหนึ่ง ก่อนวันนั้นสามวัน ต๊อบบอกว่าเขาเจอมิวสิคบ๊อกซ์ สวยๆแบบที่ฉันเคยบอกว่าอยากได้ แล้วจะซื้อกลับมาให้ เมื่อต๊อบกลับมา ต๊อบพยายามมาขอคืนดีโดยไม่อธิบายว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น เราเลิกกันตั้งแต่ตอนนั้น แต่ยังดีที่เราทั้งสองไม่สามารถตัดความเป็นเพื่อนกันได้ เราคุยกันแบบเพื่อนกันตอลดมา ต่างคนก็ต่างมีชีวิตใหม่ของตัวเอง แต่เมื่อมีปัญหาอะไร ต่างคนก้ต่างมาปรึกษากัน ตีอบมีแฟนใหม่2คน และก้เลิกกันไปก่อนวันเกิดครบอายุ30ของฉันไม่กี่เดือน ส่วนฉันก็เลิกกับแฟนใหม่ถึง3คน เพียงเพราะเรายังติดใจกับช่วงเวลาที่ฉันกับต๊อบคบกัน ยังฝังใจอยู่กับความทรงจำอันแสนมีค่านั้นตลอดเวลา ทำให้ผู้ชายทุกคนที่่าผ่านเข้ามาในชีวิต ต้องออกไปเพราะว่าเขาเหล่านั้นรู้ว่า ฉันยังอยู่กับความทรงจำนั้น แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าต๊อบคิดยังไง จนกระทั่งวันเกิดครบอายุ30ของฉัน วันนั้นตีอบโทรมาถามว่าฉันอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า เมื่อรู้คำตอบ เขาก็ตัดสายทันที ไม่ทันให้ฉันถามว่า “ถามทำไม” เพราะต๊อบไม่ได้ถามฉันแบบนี้มาหลายปีแล้ว หลังจากนั้นสามชั่วโมง เพื่อนคนหนึ่งของฉันสมัยมัธยมก็โทรมาหาด้วยเสียงสั่นเครือ “แบม ทำใจดีๆนะ ไอ้ต๊อบมันโดนสิบล้อชนตอนกำลังขับรถมาหาแก มันจะทำเซอรืไพรส์วันเกิดแก ตอนนี้มันอยู่โรงพยาบาล เกือบสามชั่วโมงแล้ว หมอบอกว่าไม่รอดแล้ว แต่ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงที่มันยังอยู่ได้” ฉันแทบทำโทรศัพท์ตกตอนที่เพื่อนฉันบอกที่อยู่โรงพยาบาลเสร็จ ฉันไม่ได้เก็บของอะไรทั้งนั้น แถมไม่ได้แสตมปฺนิ้วก่อนออกด้วย จนทำให้เพื่อนร่วมงานงงไปตามๆกัน ฉันเหยียบเกือบ140 แต่ก็ยังรู้สึกอยู่ดี ว่าทำไมวันนี้รถฉันช่างวิ่งได้ช้าเสียจริง เมื่อฉันไปถึงดรงพยาบาลพร้อมน้ำตาที่อาบแก้ม มิวสิคบ๊อกซ์กล่องไม้ที่มีตุ๊กตาผู้หญิงผู้ชายยืนจูบกันตั้งอยู่ใกล้ๆเตียงผู้ป่วย ใต้นั้นมีกระดาษอยู่ใบหนึ่ง ฉันผลุนผลันไปหาต๊อบทันที ต๊อบยิ้ม จับมืออันสั่นเทาของฉันมากุม “แบม มิวสิคบ๊อกซ์อันนี้คงถูกใจแบมนะ ต๊อบซื้อให้ตอนไปอิตาลี คืนนั้นต๊อบไม่ได้มีอะไกับผู้หญิงคนนั้นหรอก ที่ต๊อบไม่ได้ติดต่อมาเพราะต๊อบถูกยึดจากบริษัท 7ปีที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต๊อบไม่เคยลืมแบมเลยนะ ต๊อบยังรู้สึกกับแบมเหมือนตั้งแต่วันแรกที่ต๊อบเจอแบม หวังว่าของขวัญวันเกิดนี้คงถูกใจแบมนะ happy birthday นะแบม ขอให้แบมมีความสุขมากๆนะ ต๊อบจะอยู่กับแบมตลอดไปแล้วนะ ต๊อบรักแบมนะ” ฉันโถมเข้ากอดต๊อบในนาทีสุดท้าย ก่อนที่สัญญาณหัวใจของต๊อบจะกลายเป็นเพียงเส้นตรง รอยยิ้มอย่างเป็นสุขของต๊อบยังคงค้างอยู่บนใบหน้าซีดขาวที่อาบด้วยน้ำตา น้ำตาที่ต๊อบไม่เคยให้ใครเห็นมาก่อน ต๊อบได้แก้ไขความผิดของเขาในวันนั้นแล้วด้วยคำพูดในนาทีสุดท้าย แต่ฉันยังไม่ได้ตอบแทนอะไรซักอย่างเลย แต่ต๊อบก็จากฉันไปเสียแล้ว ฉันเป็นคนที่ดูแลงานศพของต๊อบทั้งหมด จนกระทั้งเผาศพ วันนั้นเป็นวันที่ฉันหยิบมิวซิคบ๊อกซ์ขึ้นมาดู พร้อบกับจดหมายน้อยของต๊อบ มันเป็นสิ่งที่ฉันเคยบอกว่าอยากได้ตั้งแต่ม.4 ตามนิตยสวารของอิตาลีฉบับหนึ่งที่มีลงขายไว้แต่มันก็แพงเสียจนซื้อไม่ไหว ไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อได้มาแล้วฉันจะร้องไห้ถึงเพียงนี้ มันมีค่ามากๆ ไม่ใช่เพราะราคาของมัน แต่เพราะมันแลกกับชีวิตของคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว และชีวิตของอีกคนที่เหมือนกับตายทั้งเป็น และทุกสิ่งที่ต๊อบทิ้งไว้ให้ ก็มีค่าเสมอ แม้กระทั่งกลอนที่มาพร้อมมิวซิคบอกซ์นี้
ในวันเกิดของเทอในปีนี้
อาจไม่มีของล้ำค่าจะมอบให้
ถึงแม้ว่าเรานั้นเลิกกันไป
แต่ยังคงมิตรไว้ใจผูกกัน
ขออวยพรให้เทอในวันนี้
ให้โชคดีเหมือนกับเทพรังสรรค์
ให้ตัวเธอเจอเรื่องดีมีทุกวัน
ส่วนฉันขอเฝ้ามองเธอจากที่ไกล
เรื่องอดีตเอาคืนมาไม่ได้แล้ว
จะคลาดแคล้วเริ่มใหม่อีกคงไม่ไหว
ตอนนี้ขอมอบของขวัญจากดวงใจ
แล้วเดินไปพร้อมกันดั่งเพื่อนเอย
มิวซิคบอกซ์ คงเป็นสิ่งเตือนใจที่ทำให้ฉันนึกถึงต๊อบ ผู้ชายที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉัน ที่อยุ่เคียงข้างฉันเสมอ ไม่ว่าจะสุข หรือจะทุกข์ ถึฃแม้ว่าร่างนั้น สัมผัสนั้น จะไม่ได้อยู่กับฉันอีกแล้วเหลือเพียงความทรงจำอันมีค่าที่ตราตรึงไว้ในใจของฉัน....ตลอดกาล
ผลงานอื่นๆ ของ กัญญาอร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ กัญญาอร
ความคิดเห็น