ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : PI.......2 +++ ข้อแตกต่างของแพทย์ PI กับแพทย์อื่น ๆ ของมหิดล
ถ้าหากจะถามว่าแพทย์ PI นั้นแตกต่างกับแพทย์ RA (รามา) , SI (ศิริราช) และ BM (วชิระ) อย่างไร ?
เอาเป็นว่าพี่จะเล่าให้ฟังแล้วกันว่าเราต้องเจออะไรบ้าง พอขึ้นปี 1 ปีนี้เราจะเรียนรวมกันหมดทั้ง 4 แพทย์ที่ ม.มหิดล ศาลายา (นครปฐม) โดยเราจะตัดเกรดรวมกันทั้งหมด (เกรดคงออกมาน่าตกใจเหมือนกันนะ ก็แหงหล่ะตัดเกรดแบบอิงกลุ่มนี่ ฉะนั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเราต้องเกรดร่วมกันแล้วเกรดจะออกมาไม่น่าพอใจเท่าไหร่ ) ส่วนเนื้อหาที่เรียนนั้นก็อย่างที่เค้าเล่า ๆ กันแหล่ะว่าเหมือน ม.ปลาย แต่ยากกว่าหน่อย ถึงอย่างนั้นก็เถอะเอา ม.ปลาย 3 ม. มารวมกันใน 1 ปี คงเรียนกันหนุกหนานหล่ะทีนี้
พอขึ้นปี 2 - 3 PI ศูนย์ นว. , ใต้ และโคราช จะเรียนรวมกับ RA และ BM ที่พญาไท ส่วน PI ศูนย์ราชบุรี จะเรียนกับ SI ที่ศิริราชค่ะ ซึ่งในช่วงนี้การตัดเกรดจะแบ่งออกเป็น 2 ชุดตามที่เราเรียนด้วยกันนั่นแหล่ะ ส่วนเรื่องการเรียนในช่วง 2 ปีนี้ก็จะเริ่มเน้นไปที่การเตรียมตัวหรือ pre clinic โดยเฉพาะการผ่าอาจารย์ใหญ่ที่น่าตื่นเต้น (แกมกลัว) เราก็จะได้เจอกันปี 2 นี้แหล่ะ ซึ่งถ้าฟังแนะแนวจากรุ่นพี่ พี่ ๆ เค้าก็จะบอกว่าเรียนปี 1 นั้นดีที่สุดแล้ว นอกจากเรียนแล้วก็ยังมีเวลาให้ทำกิจกรรมสนุก ๆ บ้าง ถ้าพอเรียนปีสูงขึ้น ๆ เวลาว่างมันก็จะแปรผกผันกันเรื่อย ๆ ๆ ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีเลยหรอกนะ ไม่ต้องเป็นห่วง
หลังจากเรียนจบ 3 ปีแล้ว เราก็จะเรียนขั้นคลินิกปี 4 - 6 ตามโรงพยาบาลประจำศูนย์ของเรา เช่นศูนย์ นว. ก็ไปเรียนที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ , ศูนย์ใต้ก็ไปเรียนที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ประมาณเนี้ย สำหรับอีก 3 แพทย์ที่เหลือก็จะไปเรียนที่โรงพยาบาลของคณะเค้า ซึ่งในช่วงการเรียนที่จะแตกต่างกันก็คงจะเป็นช่วงนี้แหล่ะ แต่โรงพยาบาลศูนย์ของเราก็เป็นโรงพยาบาลที่ดีและมีมาตรฐานใช้ได้ อาจารย์และเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม (ก็สอนมาตั้งกี่รุ่นแล้วหล่ะ 10 ปีแล้วนี่) เราก็คงได้รับความรู้ได้มากพอที่จะจบมาเป็นหมอที่ดีได้แน่นอน
ภายหลังจากจบปี 6 เมื่อได้รับปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดลเรียบร้อย ทีนี้ก็ถึงเวลาไปทำงานเป็นหมอกันแล้ว ซึ่งข้อแตกต่างอีกข้อหนึ่งของเราก็อยู่ตรงนี้แหล่ะ พอจบแล้วแทนที่เราจะต้องมาลุ้นเลือกจังหวัดเลือกโรงพยาบาล (แบบในเรื่องหมอเจ็บอ่ะ พี่ว่าน้องคงได้ดูกันนะ) เราไม่ต้องคิดเลย เพราะเราก็จะแยกย้ายกันกลับจังหวัดเรามาให้พ่อแม่เลี้ยงดูปูเสื่อกันในฐานะคุณหมอนั่นเอง ดีเหมือนกันนะจากบ้านไปนาน เดี๋ยวเราก็ได้กลับมาทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเกิดเรา น่าปลื้มนะเนี่ย จะยกตัวอย่างให้ เช่น ถ้าเราเข้ามาเรียนในโควต้าจังหวัดนครสวรรค์ เราก็มาทำงานในจังหวัดนครสวรรค์ หรือมาโควต้าจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ทำงานในจังหวัดบุรีรัมย์ อย่างนี้แหล่ะ โดยปีแรกเมื่อเราเป็นแพทย์ Inturn หรือแพทย์เพิ่มพูนประสบการณ์ เราก็ได้ทำงานในโรงพยาบาลประจำจังหวัดก่อน หลังจากนั้นก็ทำงานใช้ทุนตามโรงพยาบาลชุมชน (ก็แค่โรงพยาบาลตามอำเภอเท่านั้นแหล่ะ ไม่ถึงกับต้องทำในสถานีอนามัยนะ) เป็นระยะเวลาอีก 2 ปี รวมทั้งสิ้น 3 ปีก็ถือว่าเราใช้ทุนครบแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น