ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Passion, My Lust [fic.Johnny's Jr. yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : My Passion, My Lust - 02

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 56







     

    My Passion, My Lust – 02


     “ลัลล้า...ทัวร์คอนฯๆยูอิจิฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ดูท่าทางพี่แกจะมีพลังงานเต็มเปี่ยมกว่าชาวบ้านชาวเมืองโดยรอบเพราะรีบวิ่งรี่เข้าไปจับจองที่นั่งบนรถก่อนใครเพื่อน หนำซ้ำยังตะโกนเร่งพวกที่เดินอยู่ให้รีบตามมาสมทบ คิเร็วดิ!!

     อุเอดะมองเนือยๆ อย่างเหนื่อยใจเมื่อเห็นโคกิวิ่งไฮสปีดตามมา เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้เจ้านี่ยังอยู่หน้าทางเข้าตึกอยู่เลย ตอนนี้ไหงมันแซงหน้าไปได้เร็วขนาดนี้ฟะ...เป็นเหตุผลที่แม้แต่ท่านหัวหน้าก็ยังหาคำตอบไม่ได้ 
    (เพ้นกิ้นเดสวิ่งเร็วไงยะ 555+ >_<)


     เป็นเวลาหกนาฬิกาซึ่งนับว่าค่อนข้างเช้าพอสมควร ท้องฟ้ายังคงไม่สว่างเต็มที่นักแต่พวกเขาทั้งหกคนก็ดูสดชื่นกันดี...ถ้าไม่นับสองตัวซึ่งวิ่งขึ้นรถไปเมื่อครู่ที่ดูจะลัลล้าเกินเหตุ อ้าว...คาเมะ รีบขึ้นรถสิ ได้เวลารถจะออกแล้วนะจุนโนะเรียกเพื่อนร่วมวงที่ยังยืนชะเง้ออยู่ด้านนอกจนคอยืด...คล้ายเต่าชะมัด...เจ้าตัวได้แต่คิดในใจโดยไม่ได้สำนึกเลยว่าตัวเองน่ะแหละที่เป็นยีราฟ...คอยาวยิ่งกว่าเต่าซะอีก

     “อีกเดี๋ยวนะพวกนาย...ถ้าเสร็จธุระเมื่อไหร่ฉันจะรีบขึ้นเลยเขาขอ

     ...ไปอยู่ที่ไหนนะฮิโระคุง...ไหนบอกว่าจะมาส่งไง...

     อีกหนึ่งสายตาทอดมองมาจากรถ อาคานิชิ จิน กำลังยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่มองแล้วไม่ชวนให้รู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขามีความสุขหนักหนาที่เห็นคาเมะร้อนรน ซักพักมือทั้งสองจึงยกขึ้นกอดอกแล้วกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ คาเมะ...นายกำลังทำให้คนอื่นเสียเวลา

     “รออีกแป๊บนะจินคาเมะกดโทรศัพท์เป็นรอบที่สิบ สัญญาณจากปลายสายยังคงว่างเปล่าไร้การตอบรับ หากแต่ซักพักเสียงโทรเข้าก็ดังขึ้นทำเอาคนที่กำลังรอคอยอยู่ดีใจขึ้นเป็นกอง แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่ออึดใจต่อมาเขาได้รับรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของอุเอดะ ไม่ใช่ของตัวเขาเอง...

     “ยังครับ...ครับๆ...เข้าใจแล้วครับอุเอดะกดวางสายในนาทีต่อมาแล้วบอกสมาชิกในวงถ้วนหน้า คุณจอห์นนี่โทรมาถามว่าออกเดินทางกันรึยัง...ฉันเลยบอกไปตามตรง...เขาเลยบอกว่าให้รีบไปเดี๋ยวนี้ นายจะเอาไงล่ะคาเมะ...ว่าแต่นายรอใคร

     คาเมะอึกอัก เขาอยากเจอหน้าฮิโระคุงก่อนไปซักแว้บเดียวก็ยังดี เพราะทัวร์ครั้งหนึ่งกินเวลาเป็นเดือน ถ้าหากไม่ได้เจอกันหนนี้ก็แทบจะไม่มีโอกาสแล้ว เอ่อ...คือว่าฉัน...

     คาเมะ! คาเมะสะดุ้งนิดๆ จินไม่เคยใช้น้ำเสียงเฉียบขาดกับเขาแบบนี้ อย่างมากก็แกล้งทำ แต่หนนี้ใบหน้าของอีกฝ่ายกลับไม่มีเค้าของการล้อเล่นเลยซักนิด 

     “อะ...อืม...ขอโทษนะดังนั้นร่างบางจึงรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

    ...บ๊ายบายนะฮิโระคุง...

    เจ้าตัวได้แต่คิดในใจอย่างเศร้าๆ โดยไม่ได้รับรู้เหตุผลที่แท้จริงเลยว่าที่คุซาโนะผิดนัดนั้นก็เพราะใครบางคนที่นั่งอยู่บนรถคันเดียวกันนี้...เสียงเครื่องยนต์ดังเบาๆ ก่อนตัวรถจะค่อยๆ เคลื่อนออกไปสู่ท้องถนน 

    ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ อาคานิชิ จิน คนเดียวทั้งนั้น  คิดถูกจริงๆ ไม่คิดว่าจะเห็นผลดีเกินคาดขนาดนี้...คาเมะดูหงอยลงไปมากกว่าที่คิด ส่วนเจ้าคุซาโนะนั่นน่ะเหรอ...เขาไม่เคยคิดว่าเจ้านั่นคู่ควรจะเป็นคู่แข่งเลยซักครั้ง ยังไงซะความสำเร็จของแผนการทั้งหมดก็อยู่แค่เอื้อม...จินปรับเบาะเอนลงแล้วหลับตาอย่างสบายใจ 

    สองวันก่อนมีเอเย่นเข้ามาติดต่อหานายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาผิวหน้าสำหรับผู้ชายเขาเลยโน้มน้าวให้ตาลุงจอห์นนี่นั่นเลือก ฮิโรโนริ คุซาโนะ อย่างไร้ข้อกังขาด้วยเหตุผลสารพัด ทางลูกค้าเพิ่งจะคอนเฟิร์มกลับมาว่าพวกเขาก็ถูกใจคุซาโนะมาก...ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้ว่าหนุ่มน้อยน่ารักแนวสปอร์ต...อะไรซักอย่าง แล้วยังมีเด็ดกว่านั้น...เรื่องของเรื่องคือสินค้าตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของต่างชาติที่หวังจะเข้ามาตีตลาดญี่ปุ่น เลยลงทุนจ้างเด็กในสังกัดจอห์นนี่ ดังนั้นแนวโฆษณาส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นประมาณว่าหนุ่มญี่ปุ่นในต่างประเทศ เพื่อเสนอความลงตัวระหว่างวัฒนธรรม...ถึงตรงนี้เขาแทบหัวเราะ...ป่านนี้เจ้านั่นคงอยู่ที่นิวซีแลนด์แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยซักนิด...ในเมื่อเขาอีกนั่นแหละที่เป็นคนบอกให้ลุงนั่นโทรบอกคุซาโนะในเวลากระซั้นชิดแบบนี้ด้วยข้ออ้างที่ว่า ผมคิดว่าคุซาโนะคงจะตอบตกลงทันทีถ้าคุณบอกในเวลากระชั้นแบบนี้...คิดดูซิครับ งานไปต่างประเทศใครจะอยากไปกัน ถึงไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ขึ้นชื่อว่าภาษาอังกฤษ เจ้าพวกนั้นคงตั้งแง่แขยงไว้ก่อนแน่ๆจินกลั้นหัวเราะให้กับตัวเอง

    กินหนมมั้ยจินคาเมะยื่นขนมขบเคี้ยวมาให้แต่ด้วยท่าทางไม่แน่ใจนักซึ่งอีกฝ่ายก็รู้ดีว่าเต่าน้อยของเขานั้นคงยังรู้สึกผิดเรื่องที่ทำให้ทุกคนเสียเวลาเป็นแน่ แถมโดนเขาวางท่าแบบนั้นใส่อีก

    ขอบใจจินรับมากินทำให้คนมองใจชื้นขึ้นมาบ้าง “...เรื่องเมื่อกี้ขอโทษนะ

    เอ๋...ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษนาย” 

    ก็ที่ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นเขาเสียงอ่อนลง

     คาเมะแทบไม่เชื่อหู...ยังกับจินอ้อนเลยแฮะ หน้าตาน่าสงสารชะมัด สุดท้ายจึงยอมยกให้โดยดี รีบย้ายที่จากเบาะหน้ามาเป็นข้างๆ หมูแทน ไม่เป็นไรน้า แหะๆ ฉันเองก็ผิด ถือว่าเจ๊ากัน

     เขากำลังรอคอยอย่างมีความหวัง...แน่ล่ะ...เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ว่าซักวันร่างบางข้างๆ คงมีใจให้เขากับสิ่งที่เขากำลังจะทำต่อไปนี้

    ...ลาก่อนคุซาโนะ...คาเมะน่ะฉันจะดูแลเอง...

    ...ของของฉัน ยังไงก็เป็นของของฉันวันยังค่ำ...

    ...ดังนั้นจำใส่กะลาหัวเอาไว้ ว่าอย่าได้มายุ่งกับคนของ อาคานิชิ จิน...

    **********

    ทุกคนเตรียมสแตนด์บาย...3...2...1...” 

    บรึ้ม! ประกายพลุสีทองระเบิดขึ้นกลางเวทีคอนเสิร์ต แฟนๆ ส่งเสียงร้องเรียกชื่อสมาชิกแต่ละคนในคัตตุนอย่างบ้าคลั่ง คำกรีดร้องนั้นฟังระงมหากแต่ยังพอจับใจความได้และยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุดแม้ว่าบัดนี้พวกเขาทั้งหกจะเริ่มร้องเพลงเปิดการแสดงแล้ว สป็อตไลท์สีขาวจนดูราวกับแสงเงินระยิบระยับสาดส่องไปทั่ว พาดทับกับลำแสงเลเซอร์สีเขียวเรืองรองที่ถูกยิงออกมาวาดเป็นลวดลายพาดผ่านโดม 

    ตลาดเวลาหลายชั่วโมงที่การแสดงค่อยๆ ดำเนินไป ทุกคนดูเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างน่าประหลาด...มาอยู่ในสถานที่ที่เดียวกัน...ร้องเพลงเพลงเดียวกัน...ตะโกนเรียกชื่อคนคนเดียวกัน...กระทั่งแย่งของที่คัตตุนขว้างมายังแย่งด้วยกัน??

    คาเมะยิ้มแก้มแทบปริ รับรู้ได้ด้วยหัวใจว่าที่นี่คือที่ของเขา และตระหนักดีว่ารัศมีรอบกายช่างเจิดจรัส ความรู้สึกทั้งหมดของคนมากมายหลั่งไหลมารวมที่จุดเดียวคือบนเวทีแห่งนี้ ดวงตาทั้งคู่หลับลงระลึกและจดจำบรรยากาศที่แสนโหยหา...เพราะนี่...คือสิ่งที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด...ภาคภูมิใจที่ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้

    เวลาสามชั่วโมงผ่านไปรวดเร็วราวกับความฝัน (ถ้าไม่นับช่วงอังกอร์อีกนิดหน่อย) และมันก็คงเป็นฝันดีที่ไม่นึกอยากลืมตาตื่นเลยแม้แต่น้อย แต่อาการเหนื่อยหอบเมื่อคอนเสิร์ตจบลงแล้วและเขาเดินเข้ามานั่งพักในห้องแต่งตัวนั่นแหละที่กระตุ้นย้ำเตือนให้รับรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดคือเรื่องจริง คาเมะเอนพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน มองดูสภาพแต่ละคนที่ไม่ค่อยจะต่างกันเท่าใดนัก มองไปด้านขวาจุนโนะครอบครองโซฟาตัวยาวหลับสนิทไปแล้ว ถัดไปโคกิกำลังยืนคุยเล่นกับรุ่นน้องอยู่และอีกไม่นานยูอิจิที่เดินหายเข้าห้องน้ำไปคงจะตามมาสมทบ ทางด้านอุเอดะก็ไปนั่งหามุมเงียบๆ ตามระเบียบ ส่วนจินน่ะเหรอ...โน่นแน่ะ...นั่งกินเค้กที่ทีมงานเตรียมไว้ให้โดยไม่กลัวว่าหุ่นจะเสียซักนิด...ซึ่งคาดว่าในไม่ช้าเมื่อเค้กหมดแล้วเจ้าหมูบ้าคงจะหันไปสวาปามอาหารที่ไว้เลี้ยงทีมงานต่อเป็นแน่ (--*--- )

    คาเมะรู้สึกเบื่อนิดๆ แล้วก็รู้สึกเหนียวตัวแล้วด้วย จึงรีบลุกไปยังห้องอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคลออก...ซึ่งการกระทำทั้งหมดนั้นก็อยู่ในสายตาของใครบางคนตลอด

    **********

    ในห้องอาบน้ำที่อบอวลไปด้วยไอน้ำอุ่นๆ หนาตาลอยฟุ้งไปทั่ว เสียงฮัมเพลงดังขึ้นเบาๆ บ่งบอกว่าคนที่กำลังอาบน้ำอยู่นี้อารมณ์ดีแค่ไหน สายน้ำตกกระทบเรือนร่างบางยิ่งทำให้ผิวที่เนียนละเอียดดูน่าหลงใหลขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ประตูเปิดขึ้นเบาๆ พร้อมกับฝีเท้าของคนคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในห้อง ระหว่างเขากับคาเมะมีเพียงฉากบางๆ กั้นอยู่เท่านั้น ช่วงประจวบเหมาะเหลือเกินที่ห้องนี้ปราศจากคนภายนอก

    เสียงเพลงหยุดลง เรียวปากบางยิ้มจางๆ ให้กับตัวเองเมื่อนึกถึง...

    จิน...มาพอดีเลยหยิบสบู่ให้ทีสิ เมื่อกี้มันลื่นไถลออกไปด้านนอกน่ะเขาจำได้แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นใคร เดินปึงปังแบบนี้จินคนเดียวเท่านั้นแหละ มือเรียวยังคงสาละวนกับการล้างแชมพูบนหัว แพขนตาหรุบหรู่หลับพริ้มไม่ได้หันไปหาผู้ที่อยู่ด้านหลังแต่อย่างใด

    จินก้มลงเก็บก้อนสบู่ที่นอนแอ้งแม้งอยู่เยื้องเท้าของเขาไปนิดหน่อย แววตาเต็มไปด้วยความตัดพ้อ

    ...หันมาสิคาเมะ...

    ....หันมาแล้วบอกว่าฉันกำลังคิดอะไร...

    ...ไม่เคยระแวงเลยซักนิดสินะ...

    ...หรือจริงๆ แล้วก็คือที่ไม่ระแวงก็เพราะไม่เคยมองฉันในแง่นั้น...

    ...เมื่อไหร่กัน ที่นายจะมองฉันเกินกว่าเพื่อนสนิทน่ะ คาเมนาชิ คาซึยะ...

    ...ทั้งๆ ที่ฉันเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดของนายมากที่สุด แต่ทำไมกลับไม่เคยได้ครอบครองหัวใจของนายเลยซักครั้ง...

    ...หรือว่าฉัน...ยังพยายามไม่มากพองั้นหรือ...

    ...ยังไม่พอใช่มั้ย...

    ก่อนที่จะได้พูดอะไร คาเมะลืมตาขึ้นอีกครั้งก็มองเห็นเงาของจินผ่านทางกระเบื้องบุผนังวาววับ ร่างบางสะดุ้งไม่คิดว่าเขาจะพรวดพราดเข้ามา 

    อ่ะนี่ร่างสูงยื่นให้ และโดยไม่รอให้คาเมะยื่นมือออกมารับ เขากลับโน้มเอื้อมไปวางบนที่วางซึ่งอยู่ด้านหน้าของคาเมะ ลมหายใจอุ่นจัดกระทบไหล่บางทำเอาตัวชาไปหมด รู้สึกร้อนมากยิ่งกว่าน้ำอุ่นเป็นไหนๆ 

    จินกำลังตกอยู่ในภวังค์ที่เขาไม่อยากจะถอนตัวให้ขึ้นมาเลย...ให้ตายสิ...แผ่นหลังบอบบางที่อยู่ตรงหน้านั้นใกล้จนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบแนบชิด คาเมะคงอึ้งไม่แพ้กันเพราะเจ้าตัวยังนิ่งค้าง...แต่จินไม่ว่าอะไรหรอก ก็ตอนนี้เขาไม่อยากคลาดสายตาจากตรงนี้ไปเลยซักวินาทีเดียว เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเปียกชุ่มแนบชิดไปกับลำคอขาวๆ ลาดมาจนถึงไหล่เนียนน่าสัมผัส...สายตาคมยังคงมองไล่ลงไปเรื่อยๆ 

    แล้วยังกลิ่นหอมๆ นั่นอีก...กลิ่นหอมที่ได้จากคาเมะน่ะ หอมยิ่งกว่าน้ำหอมยี่ห้อไหนๆ

    คาเมะชักเริ่มทนไม่ไหวในบรรยากาศน่าอึดอัดนี่ แม้จะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนมากเนื่องจากไอน้ำ แต่เขากลับรู้สึกราวกับว่าถูกมองกราดไปจนทั่ว...ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย...รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่จินเคยเห็น ก็ถ่ายแบบมาด้วยกันตั้งมาก...แต่ไม่เคยมีซักครั้งที่รู้สึกอึดอัดมากๆ เท่านี้ อย่างน้อยทุกครั้งเขาก็พอข่มความรู้สึกได้บ้าง ขอบคุณนะ แล้วก็...เอ่อ...นายต้องการอะไรอีกรึป่าวเอี้ยวตัวมามอง ตัดสินใจว่าจะทำลายสถานการณ์ในตอนนี้ให้จบลงเสียที จ้องมองตอบลึกเข้าไปในดวงตาของอีกคน

    ริมฝีปากหนาของคนตัวโตเม้มลงเมื่อได้ยินคำถามนั้น

    ...จะบ้าเหรอคาเมะ...มาถามแบบนี้ได้ไงเนี่ย ไม่เห็นใจกันบ้างเลย เดี๋ยวก็ตอบให้ซะหรอกว่าอยากได้อะไร...

    นะ...พูดไม่ทันจบก็โดนตัดบทก่อน

    เลิกกวนชาวบ้านได้แล้ว...ฉันจะอาบน้ำ ออกไปเลยนายน่ะมือเรียวผลักเขาออกมาดื้อๆ แล้วหันไปอาบน้ำต่อ จินก้าวถอยหลังออกมาแล้วเดินจากไป ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อครู่

    ...ไม่เป็นไร...นายยังต้องอยู่กับฉันอีกนาน...คาเมะ...

    ...วางใจเถอะ...ฉันทุ่มสุดตัว...

    ทางด้านคาเมะไม่ได้รู้สึกดีมากขึ้นกว่าเดิมเลย จินเป็นอะไรไปนะ...ครู่หนึ่งที่แววตาของเขาดูแน่วแน่และจริงจังก่อนจะเอ่ยคำตอบ แล้วจู่ๆ ก็เป็นตัวของเขา...ตัวของคาเมะเองที่เกิดไม่อยากฟังคำพูดนั่นขึ้นมากะทันหัน เหมือนสัญชาตญาณลึกๆ มันบอกว่าอย่ารับฟัง แต่ที่แน่ๆ ความรู้สึกนี้กำลังเริ่มลามเลียไปทั่ว...ความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนให้จิน...ความรู้สึกที่เรียกว่า ระแวง













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×