[SF]EXO HORROR [LUHAN]
อาถรรพ์EP.10 ในความคิดลู่หาน
ผู้เข้าชมรวม
269
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อาถรรพ์Ep.10
คืนหนึ่งหลังจากที่อัดรายการดังที่เรตติ้งพุ่งทะลุติดเพดานบริษัทเสร็จทั้งเอ็กโซเอ็มและเคก็เตรียมตัวกลับบ้านกันถึงมันจะดึกมากแล้วแต่พวกเขาก็ยังขอผู้จัดการอยู่ข้างนอกต่อเพราะวันนี้นึกอยากฉลองให้กับอีพีที่สิบและที่เหลืออีกสองอาทิตย์ที่ใกล้จะปิดกล้องเต็มที และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องส่งหน่วยกล้าตายออกไปขอผู้จัดการทั้งสอง วันนี้พี่ลู่คนแมนเป็นผู้โชคร้าย เขาเปายิงชุบแพ้น้องๆและวันนี้ก็เป็นวันที่น่าอับอายที่สุดในประวัติสาสตร์คนแมนคือเข้าบ้านผีสิงแล้วขาอ่อนเดินต่อไม่ไหวแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังโทษดวงชะตาว่าวันนี้เป็นวันซวยเลยกลัวผีแถมยังดวงตก
“พี่เมเนเจอร์วันนี้พวกเราขอทานข้าวนอกบ้านสักวันนะ”
“ไปกี่คน” พี่เมเนเจอร์ถามกลับมองด้วยสายตาที่เริ่มจะปิดเต็มที
“หมดเลยครับ”
“ไม่ได้ถึงพวกนายจะปกปิดปลอมตัวกันยังไงแต่ไปเป็นโขยงแบบนี้คิดว่าแฟนคลับเขาจำไม่ได้หรอ”ผู้จัดการอีกคนโพร่งขึ้นมาเพราะลู่หานบอกว่าไปทั้งหมดมันฟังไม่เข้าท่าเลย ใครที่ไหนเขาเดินไปกินข้าวเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ไอดอลก็คงจะเป็นกลุ่มนักเรียนหน้าตาดีที่เพื่อนเยอะอะไรประมาณนี้
“แต่ว่าพวกนั้น...”
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ กลับบ้านไปนอนกันเถอะง่วงจะตายอยู่แล้ว”พี่เมเนเจอร์ฝั่งเคพูดอย่างอารมณ์เสียอย่างเช่นทุกครั้งต่างจากเมเนเจอร์ฝั่งเอ็มที่ได้แต่ตบไหล่ปลอบ
“ไปบอกพวกเขาเถอะ เดี๋ยวสั่งไปกินที่ห้องก็ได้” เป็นไปตามปกติเมเนเจอร์ฝั่งเอ็มชอบเสนออะไรที่ดีกว่าเสมอเมื่อไม่ได้สิ่งที่หวัง
“ครับ วันนี้พี่จะมานอนด้วยมั้ย”ลู่หานถาม เพราะเขานอนห้องเดียวกันกับเมเนเจอร์และเลย์
“ไม่อะเพราะพรุ่งนี้พวกนายไม่มีงานและอีกอย่างฉันรำคาญเสียงตื่นนอนตอนเช้าของพวกแก”เมเนเจอร์พูดหน้าตายแล้วหันมาหาลู่หาน กวางน้อยก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ มันก็ดังจริงๆนั้นแหละไม่แปลกที่จะบ่น ขนาดเขาที่ว่าความอดทนสูงยังคันหูแล้วเมเนเจอร์ที่จุดเดือดต่ำเตี้ยเลียดินของเขาหละจะขนาดไหน
“ลู่หานฮยองมาแล้ว เป็นไงได้มั้ย”ชานยอลเป็นคนแรกที่ถามเมื่อลู่หานเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
“ไม่อะ”
“ลู่หานฮยองได้อ้อนหรือเปล่า”
“อ้อนทำไมไม่ได้ช่วยอะไรหรอก
“ตาหวานซะเปล่า ใช้อะไรไม่ได้เลย”เทาว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ไม่วายโดนแบคฮยอนล้อเลียน
“แล้วทำไมไม่ใช้ตาอันคมกริบของนายไปขอบ้างล่ะ ตาฉันไม่ได้มีไว้เพื่อการนั้นซักหน่อย”ลู่หานบ่นพลางกอดคอน้องเล็กฝั่งตน
“ลู่หานเลี้ยงแล้วกัน”ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยไม่ถามคนเลี้ยงสักคำ
.
.
.
.
.
.
ณ หอพักเอ็กโซ
“ดูหนังๆ”ไคร้องตะโกนอยู่ห้องนั่งเล่นกับสมาชิกอีกกลุ่มที่นั่งเล่นกันอยู่
“ดูเรื่องอะไร”
“ดูหนังผีกันเถอะ”มักเน่ของวงออกความคิดเห็น
“งั้นผมขอตัวก่อนนะ”เทารีบปลีกตัวออกมาแต่ไม่ทันคนขี้แกล้งโดนเซฮุนจับล็อคแขนขาอยู่บนโซฟาเรียบร้อย
“เออดีๆ ดูหนังผีเถอะวันนี้เพิ่งไปบ้านผีสิงมาด้วยจะได้สนุก”
“เกี่ยวอะไรกันวะเฮีย”ชานยอลถามคริสที่นั่งอยู่ข้างๆ
“มันเป็นสไตล์” -..-
"เออ..เอาที่เฮียสบายใจ"
------------ห้องทานอาหาร-------------
“ไปดูหนังเถอะเสี่ยวลู่เดี๋ยวผมเก็บเอง”เลย์บอกลู่หานที่กำลังเก็บซากอาหารที่ไม่แน่ใจว่าคนกินไปไว้ที่ล้าง
“ไม่อะฉันไม่อยากดู”ลู่หานว่าพลางล้างจานไปด้วย
“ผมลืมไปว่าเสี่ยวลู่กลัวผีฮ่าฮา...เฮือก”เลย์หัวเราะเบาๆเมื่อนึกถึงตอนที่ลู่หานเข้าบ้านผีสิง แต่ก็ต้องเบรกเมื่อคนยืนหันหลังล้างจานอยู่หันมาค้อนให้
“ล้อเล่นน้า ถึงผมไม่พูดเจ้าพวกนั้นก็ต้องล้ออยู่ดี”
“ไม่ดูก็ไม่ได้หมายความว่ากลัวผีหนิ”
“ผมยังไม่ว่าอะไรเลยนะ”เลย์รีบแก้ตัวเพราะน้ำเสียงลู่หานคล้ายจะมีนำ้โห เพราะหน้าแข้งพี่ลู่ไม่ใช่เรื่องตลก
“เสี่ยวลู่ดูหนังกันเถอะ”ซิ่วหมินโผ่ลหน้าเข้ามาได้ถูกจังหวะ เลย์มองแข้งลู่หานอย่างหวั่นๆ
“ช่วยเลย์อยู่”
“เสี่ยวลู่ไปเถอะ”เป็นที่รู้กันว่าเลย์ไม่ชอบดูหนังและชอบทำอะไรเงียบๆคนเดียว ซิ่วหมินเลยเลือกจากชวนแค่ลู่หานเพราะยังไงเลย์ก็ไม่ไปด้วยกัน
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกมีคนมาช่วยแล้ว”ซิ่วหมินว่าพลันคริสก็เดินเข้ามา
“นี่ไง”
“อะไรฉันเข้ามาเอาน้ำ”คริสทำหน้ามึน อยู่ดีๆก็ถูกใช้ซะงั้น ซิ่วหมินลู่หานพยัหน้าอย่างรู้กันก่อนจะ...
“โอ้ดีเลย...เฮียช่วยได้เยอะเลยฉันฝากด้วยนะ”ว่าแล้วก็วิ่งออกไปพร้อมซิ่วหมินทิ้งทั้งสองคนไว้ในห้องครัว
.
.
.
.
.
“ซังนัมจาสไตล์มาแล้ว”แบคฮยอนเอ่ยแซว
“หยุดนะ พวกนายดูหนังไปเงียบๆเลย”ลู่หานใช้นิ้วชี้หน้าทุกคนรัวและนั่งลงข้างๆเซฮุนที่เว้นที่ไว้ให้
“ลู่หานฮยองก็ร้อนตัวไปได้พวกผมแค่ทักเฉยๆเอง” ^^
“หนังเริ่มและ” แบคฮยอนรีบวิ่งกลับมาหลังจากเปิดวิดีโอเสร็จรีบปานผีจะตามหลังมางั้นอะ ชานยอลเปิดผ้าห่มรออย่างรู้งานและเฉินที่นอนอยู่มีผ้าห่มผืนหนาเพื่อเอามาเป็นโล่กำบังเวลาผีโผล่ส่วนเทาชิงหลับไปก่อนแล้ว ซิ่วหมินก็ได้ที่สมกันเป็นพี่ใหญ่คือนอนเหยียดยาวได้ทั้งตัวไคคนชวนในตอนแรกหลับ ส่วนพวกที่เหลือ ก็เข้านอน
หนังดำเนินมาถึงกลางเรื่องทุกคนก็เริ่มตาปรือๆไอ้ฉากระทึกมันก็พอช่วยให้ตาสว่างได้อยู่แต่ความง่วงมันมีมากกว่าเป็นลู่หานที่ลุกขึ้นเข้าห้องนอนก่อน
“พี่เข้านอนแล้วนะ”
“........................” ทุกคนกำลังตั้งใจดูไม่สนใจว่าใครจะไปจะมา ไหล่บางยักไหล่เล็กน้อยแล้วเดินเข้าห้องไป อย่างที่คิดเลย์นอนแล้วเขาจึงเดินไปเตียงตัวเองโดนที่ไม่เปิดไฟ
เมื่อหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราประสาทในการรับรู้เริ่มหลับใหลการตอบสนองเป็นศูนย์...
เวลา ณ ตอนนี้ตีสาม หมานอกหอเห่าหอนระงมไล่ตั้งแต่ปากทางเข้าซอยดังเข้ามาเรื่อยจนมาถึงหน้าหอที่ดังจนผิดปกติลมข้างนอกพัดอย่างรุนแรงต้นไม้ข้างหน้าต่างขุดกระจกดัง ครืนๆ กอบกับเสียงประตูห้องที่เปิดออก ลู่หานสะดุ้งตื่นเมื่อนอนฟังหลอนหูมานานแค่ได้ยินเสียงปิดประตูแล้วมีเสียงโวยวายอยู่ข้างนอกเขาผุดลุกขึ้นเพราะรู้ว่าเป็นเลย์ที่ออกไป เขาหวังจะออกไปดูว่าเสียงทะเลาะอะไรกันแต่เพราะลุกเร็วไปทำให้หน้ามืดทิ้งตัวลงนั่งที่นอนตามเดิมเมื่อปรับโฟกัสได้ลู่หานจึงเดินไปจับลูกบิดที่ตอนนี่เย็นเฉียบเพราะแอร์ มือบางกระชากประตูออก...
พรึบ!!! วีดดดดด~ ลมปะทะหน้าพลันเมื่อเปิดประตูออกไปควันหมอกมากมายก็ตีม้วนเป็นวงตามแรงลมจากประตูลมตีปะทะหน้าอ่อนอย่างจังแต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ข้างนอกมืดสนิทที่สำคัญสภาพห้องเหมือนไม่ได้ผ่านการใช้งานมานานทั้งหยากไย่ ข้าวของเครื่องใช้ฟอนิเจอร์หายไปเหลือแต่ห้องโล่งๆกับผ้าสีขาวที่เกลือนพื้น
ลู่หานเบิกตากว้างใจเต้นระทึก แค่ดูก็รู้ว่าฝัน เขาวิ่งฝ่าใยแมงมุมมากมายไปเปิดห้องที่คิดว่าต้องเป็นห้องของสมาชิกไม่คนใดก็คนหนึ่งดวงตาหวานเริ่มมีน้ำใสๆคลอจนมัวทันทีที่เปิดห้องนั่นกลับว่างเปล่า หัวใจหล่นวูบรู้สึกตัวเบาโหวง ในห้องมันมีสภาพไม่ต่างอะไรจากห้องร้างลู่หานถอยหลังอย่างผวา
‘ประตูๆห้อง...ต้องออกจากห้องนี้’
ไวเท่าความคิดขาทั้งสองข้างวิ่งไปเปิดประตูห้อง แสงสว่างส่องเข้ามากระทบตาจนต้องเอามือบังเขาเกือบจะใจชื้นที่คิดว่ามันยังมีแสงสว่างอยู่แต่เมื่อลดมือลงกลับเป็นประตูอีกบานที่เหมือนกัน
ตึกตัก ตึกตัก
มือบางสั่นด้วยความกลัวเมื่อยื่นมือไปจับลูกบิดเขาภาวนาในใจขอให้มันเป็นห้องที่มีสมาชิกรออยู่ แต่เมื่อเปิดไปใจยิ่งเต็นรัวกว่าเดิมน้ำตาก็ไหลเป็นทางอย่างไม่มีสาเหตุได้แต่ทำหน้าร้องไห้แต่ไม่มีเสียงลู่หานวิ่งไปเปิดประตูอีกบานและอีกบานเขาวิ่งไปเปิดไปเรื่อยๆจนเริ่มเหนื่อยและรู้สึกร้องไห้อย่างหนัก ลู่...เสี่ยวลู่ เสียง...มีคนเรียก
“เสี่ยวลู่...เสี่ยวลู่”เลย์เขย่าตัวรุ่นพี่ที่นอนตัวสั่นร้องไห้แบบกลั้นเสียงเลย์ใช้แรงเขย่าจนลู่หานรู้สึกตัว
“ฮึก...เลย์...นาย”
“ฮยองเป็นอะไร”เลย์ทำหน้าตาตกใจเมื่อลู่หานเขย่าแขนเขาไปมา
"แล้วจากนั้นห้องก็ว่างเปล่าและมืดมากฉันไม่เห็นพวกนายสักคน...”ลู่หานเล่าความฝันให้เลย์ฟังด้วยน้ำเสียงที่ยังสั่น
“ฮยองคงจะคิดมากเรื่องที่ไปบ้านผีสิงแล้วเก็บไปฝันหรือเปล่า”เลย์พูดปลอบ ขณะนี้พวกเขานั่งอยู่ห้องนั่งเล่น
“แต่มันเหมือนจริงมากจริงจนพี่คิดว่าพี่ต้องตายแน่ๆถ้าหากไม่ตื่น...ขอบใจนะเลย์ที่ปลูก"ลู่หานจับมือขาวซีดอย่างอุ่นใจ
“ลู่หานฮยองคุยกับใครอะ”ดีโอเดินขยี้ตาออกมาจากห้องตอนนี้ก็ตีห้ากว่าๆเป็นเวลาปกติที่ดีโอจะตื่น เขาถามเพราะไม่เห็นคู่สนทนาของลู่หานเลยสักนิดเลยคิดว่าตัวลู่หานนั่งบังหรือเปล่าเลยถาม
“คุยกับเลย์”ลู่หานหันไปตอบคนงัวเงีย
“เลย์ออกไปอัดรายการกับคริสฮยองตั้งแต่ตีสี่แล้ว”ดีโอว่าพลางเดินเข้าห้องครัวไปไม่ได้ใส่ใจหน้าที่ถอดสีของคนเป็นพี่สักนิด
ลู่หานหัวใจเต้นรัวถี่อีกครั้งเสียวตรงช่วงท้องแปลกๆเมื่อได้ยิน
'แล้วเมื่อกี๊เขาคุยกับใครแล้ว...จับมือใคร'
ถึงไม่อยากหันแต่ตาก็เหลือบไปมองอย่างกล้าๆกลัวๆสิ่งที่เขาจับอยู่ตอนนี้คืออะไร ตึกตัก ตึกตัก ขอให้เป็นอะไรก็ได้ที่ระดับมุนษย์ทนไหว มันเป็นเพียงตุ๊กตาอัลปาก้าของคริสที่วางไว้บนโซฟา ลู่หานดึงมือกลับอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งเข้าครัวตามดีโอไป
“ดีโอนายอยู่ไหนหน่ะ”เมื่อเข้ามาถึงข้างในกลับเงียบสนิทไฟยังเปิดไว้แต่ดีโอกลับไม่อยู่ทั้งที่ห้องครัวก็มีทางออกแค่ตรงที่เขายืนแล้วดีโอจะไปไหน
“ดีโอนายอยู่ไหนหน่ะ...อึก”เขาเริ่มร้องไห้อีกครั้งเมื่อคนที่ตามหาไม่ขานตอบเลย
“ดีโอ” ปัง!!! ”เฮ้ย!!” ประตูห้องครัวปิดอย่างดังพร้อมไฟในห้องดับลงเกินจุดที่จะรับได้ลู่หานได้แต่ปล่อยโฮออกมาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นพร้อมตะโกนตราบเท่าที่ยังมีเสียง
“ช่วยด้วย”
“ช่วย...อึก...ด้วย ช่วยฉันด้วย ฮื้อ... พวกนาย”
“เอาชั้นออกไป....เอาฉัน อึก ออกไป”
“เอาชั้นออกไปปปปปปปปป!!”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย” คนที่นั่งดูหนังอยู่ร้องเฮ้ยขึ้นพร้อมกันไม่ใช่เพราะเจอผีในหนังแต่เป็นเพราะเสียงพี่รองของวงแหกปากซะดังลั่น
“ลู่เก้อเป็นไรหน่ะ” ซิ่วหมินลุกขึ้นไปดูเพราะอยู่ใกล้ที่สุด ลู่หานดิ้นพรวดๆทุกคนผุดลุกขึ้นตามมองดูด้วยความงงฉงนปนเป็นห่วงพร้อมด้วยดีโอกับซูโฮที่หลับไปแล้วตื่นออกมาเพราะเสียงเมื่อครู่
“เอาฉันออกไป...ดีโอนายอยู่ไหน” แล้วทุกคนก็ถึงบางอ้อ
“คงเก็บไปฝันสินะ”คริสที่มาเมื่อไหร่ไม่รู้พูดขึ้นพลางวาดแขนไปกอดคอเลย์รั้งเข้ามาใกล้
“ลู่หานฮยองคงกลัวมากจริงๆ”เลย์พูดขึ้นเมื่อลู่หานเริ่มเงียบเสียงลง
“ผมไม่น่าแกล้งเค้าเลยก็เห็นแมนๆ ไม่คิดว่าจะกลัวขนาดนี้” ดีโอพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด(?) มองดูซิ่วหมินปลอบโดยการกุมมือดูจะสงบลงไปแล้วแต่มักเน่ผู้อยากมีส่วนร่วมเดินเข้าไปแทนซิ่วหมินเพราะดูเหมือนคนหน้าหวานยังมีอาการสะอื้นนิดๆ
“เสี่ยวลู่ตื่นเถอะ”เซฮุนทำหน้าที่ของมักเน่? โดยการปลุกรุ่นพี่ให้ตื่นมือใหญ่ไล่ซับเหงื่อตามไรผมบางเบาๆ ทุกสายตามองด้วยความหมั่นไส้
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!”
“เฮ้ยยย!!!” ทุกคนร้องตกใจอย่างอกสั่นขวัญหายเมื่อจู่ๆลู่หานก็ร้องออกมาแล้วลุกขึ้นนั่ง
“ฉันเป็นอะไรไป”
“นายฝัน”คริสอาสาตอบพร้อมมือที่ทาบอก
“มันน่ากลัวมากเลยอ่า...ฉันกลัวมากเลย” แล้วทำหน้าจะร้องไห้อีกรอบ น้องชานมเลยฉวยโอกาสรั้งคอให้มาซบไหล่ตน
“โอ๋ๆๆไม่ต้องกลัวผมอยู่นี้แล้ว”
“แกน่ากลัวกว่าผีอีก”ไคว่า
“เสี่ยวลู่ผมขอโทษนะที่ทำให้พี่ฝันร้ายผมไม่น่าแกล้งพี่เลย”ดีโอเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ
“ไม่หรอก พี่อาจดูหนังผีแล้วเก็บไปฝันหน่ะ”
“อย่างนี้แหละนะความแมนไม่ได้ช่วยอะไรเลย”แบคฮยองว่าเท้าเอวมองแล้วสายหัวดิกๆ
“ได้ข่าวว่าใครน้า~แหกปากตั้งแต่ทางเข้ายันทางออก”ชานยอลแขวะเล็กๆ
“โฮ่ ตามสคริปเถอะถ้าเล่นจริงๆกริบอะไม่อยากคุย” ไม่ว่าเปล่าแถมยังเชิดหน้าใส่คนตัวสูงอีกต่างหาก แก้ตัวยังไงก็ไม่ได้ดูดีขึ้นเล้ย
“เออน่าเสี่ยวลู่ไม่เป็นไรแล้วก็ดีแล้วจะได้นอนกันสักที”ลีดฝั่งเคพูดตัดบททำเอาวงแตก
“ไปเถอะเสี่ยวลู่วันนี้นอนกับผมก็ได้นะ”เซฮุนผู้มีจิตอาสาบวกกับความอารีมีเมตตาต่อสัตว์สงวนออกปากชวน
“ไปๆแยกย้ายไปนอนไม่ต้องดูแล้วหนังอะ”คริสออกคำสั่งทำหน้าที่ของหัวหน้าวงที่ดี แต่หาได้มีคนฟังไม่ทุกคนกำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแต่ทันใดนั่นเอง
.
.
.
.
.
.
.
แอ๊ดดดดดดดดด เสียงประตูอีกห้องเปิดออกมาเรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“พวกนายคุยอะไรกันเสียงดังกันจริงๆ”
“ลู่หาน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
THE END
________________________________________________________________
แต่งเรื่องแรก...ร้ายแรงยังไงติชมกันด้วยน้า~
ภาษาเราอาจจะจืดๆแต่ต่อไปจะพยายามกว่านี้นะคะ ^^
ผลงานอื่นๆ ของ jjdyah ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ jjdyah
ความคิดเห็น