Love in Dark Castle
ชีวิตของแวมไพร์สาวอย่างฉันได้กลับมามีความสุขอีกครั้งก็เพราะมือกีตาร์ในวงอย่างฟีเทอร์ แต่ความรักของฉันชักไม่สนุกแล้วสิ เพราะความรักครั้งนี้ต้องเสี่ยงกับการเจออันตรายที่มาในรูปแบบต่างๆจากฝีมือท่านพ่อ...
ผู้เข้าชมรวม
568
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เสียงเปียโน ดังขึ้นภายในห้องโถงของปราสาทที่ตั้งอยู่เกาะกลางมหาสมุทร เป็นที่น่าทึ่งยิ่งนักที่ปราสาทโบราณแห่งนี้นั้นจะมีกลไกซับซ้อนพอที่จะซ่อนตัวอยู่ภายใต้พื้นดินของเกาะนี้ และคงไม่มีผู้ใด ที่จะค้นพบปราสาทแห่งนี้อันเป็นแน่แท้
หญิงสาวผู้ซึ่งมีอายุสิบเจ็ดมาเป็นระยะยาวนาน กำลังเล่นเปียโนอยู่ภายในห้องโถง ช่างเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับคนภายในปราสาท ใบหน้าเรียวยาวได้รูปตาคม จมูกโด่ง ถ้าเปรียบกับโลกมนุษย์ หญิงสาวผู้นี้คงงามเกินกว่าใครจะเทียบได้ แต่ทว่า.... ใบหน้าเรียวยาวรูปไข่อันสวยงามนั้น กลับขาวซีด ใบหน้าซึ่งดูเย็นชา และเมื่อเธออ้าปากร้องเพลงอันแสนไพรเราะ สิ่งที่คนในปราสาทเห็นจนเป็นภาพชินตาคือ เขี้ยวอันแหลมคม ซึ่งบ่งบอกถึงสัญชาตญาณที่ดุร้ายของปีศาจ ซึ่งที่เราคุ้นเคยกันดีในนิยาย “แวมไพร์”
“องค์หญิงขอรับ ได้เวลาเสวยพระกระยาหารค่ำแล้วขอรับ” ชายสูงอายุผมขาวโพลนใส่ชุดสูตรกล่าวแก่หญิงสาว
สาวน้อยให้คำตอบด้วยการพยักหน้าแบบเรียบๆก่อนจะเดินนำชายแก่ไปยังห้องอาหาร ชุดราตรียาวสีแดงสดที่ขัดกับสีผิวค่อยๆเลื่อนผ่านไปตามพรม ช่างเป็นภาพที่ดูสง่ายิ่งนัก จนทำให้ชายสูงอายุผู้ติดตามอดคิดไม่ได้ว่า องค์หญิงของเขาช่างสวยสง่าอะไรเช่นนี้
“นั่งสิลูก เทียน่า วันนี้แม่สั่งให้ลุงบรูกซ์ ทำสเต็กเนื้อกวางให้ลุกด้วยนะ” ราชินีกล่าวแก่องค์หญิงน้อย
“กระผมทำสุดฝีมือเลยนะขอรับองค์หญิง”ชายสูงอายุกล่าวพร้อมกับเสริฟสเต็กอันโอชะต่อหน้าสาวน้อย
“ขอบพระทัยเพคะท่านแม่ ขอบคุณค่ะคุณลุงบรูกซ์”
“แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้พูดตามปกติก็ได้ เราไม่ได้มีข้าราชบริพาลเยอะเหมือนพวกมนุษย์นะลูก”
“แค่ยังไม่ชินค่ะ”
“ลูกควรจะชินได้แล้วนะ เรามาอยู่ที่นี้นับจะสิบปีได้แล้วนะ” เสียงทุ้มกังวานของชายหนุ่มอายุราวๆห้าสิบปีเอ่ย
“ค่ะ...”
“เทียน่า ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า พ่อกับแม่เห็นลูกดูเงียบผิดปกตินะ” ราชินีเอ่ยถามถึงสีหน้าอันเย็นชาของเจ้าหญิง
“คิดถึงคนที่นั่นค่ะ .....”
“เอาสิเดี๋ยวแม่ให้ลุงบรูกซ์เตรียมรถ”
“ถ้าจะไป ลูกอยากไปเองค่ะ คุณแม่คิดว่าการที่คุณแม่ส่งคนไปมากมายขนาดนั้นมันจะเป็นผลดีเหรอคะ”
“พ่อกับแม่อยากให้ลูกปลอดภัย ลูกคือรัชทายาทของเรานะ”
“ถ้าคิดแบบนั้น พวกเราจะมีชีวิตอมตะไปเพื่ออะไรกันล่ะคะ”
“ฟังพ่อนะลูก ถึงแม้ว่าอายุขัยของพวกเราจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะตายไม่ได้”
“เลยต้องส่งคนติดตามเยอะแยะมากมาย ทั้งๆที่เราก็มีพละกำลังมหาศาลพอที่จะดูแลตัวเองจากมนุษย์” หญิงสาวเถียงด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับทานอาหารค่ำ
“........” ความเงียบบ่งบอกถึงความว่างเปล่าเกิดขึ้นที่ห้องอาหาร
“ลูกเคยเป็นมนุษย์มาก่อน ถึงมนุษย์จะมีวิวัฒนาการที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์จะสามารถเอาชนะทุกอย่างได้เสมอไปหรอกนะคะ”
“แม่เป็นห่วงลูกนะเทียน่า ถ้าลูกเป็นอะไรไปขึ้นมา แล้วแม่จะทำเช่นไรเล่า”
“พ่อกับแม่กำลังไม่มั่นใจใสความสามารถของลูกค่ะ”
“......”
“พ่อกับแม่ลืมไปหรือเปล่าคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่มนุษย์ แต่เรายังต้องพึ่งโลกใบนี้ที่มนุษย์เป็นผู้ปกครอง เรายังต้องอาศัยมนุษย์ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยใดๆก็ตาม” หญิงสาวพูดจบก็วางมีดลงบนจานสเต็กลง
“ลูกจะไปนานแค่ไหน” ราชาผู้ดูน่าเกรงขามถามลุกสาวตนด้วยความเป็นห่วง
“ยังตอบไม่ได้ค่ะ ถ้าหมดสนุกก็คงกลับมา” องค์หญิงน้อยตามด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยความสุข
“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก พ่อกับแม่ไม่ได้กลัวแค่มนุษย์เท่านั้น แต่พ่อกับแม่กลัวพวกสัตว์ร้ายชั้นต่ำที่มันเรียกตัวเองว่าแวมไพร์เหมือนเรา”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณพ่อคุณแม่”
หญิงสาวเดินออกจากโต๊ะอาหาร ไปอย่างรวดเร็ว เธอเดินตรงดิ่งไปยังห้องนอน อันหรูหราอย่างไม่คิดชีวิต
“แล้วเจอกันนะโลกมนุษย์……”
Sacrifice My Bloody Love...ผลงานอื่นๆ ของ SATEARNA LINNIER ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SATEARNA LINNIER
ความคิดเห็น