[IdentityV] Naib x Jack (Bad End อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป) - [IdentityV] Naib x Jack (Bad End อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป) นิยาย [IdentityV] Naib x Jack (Bad End อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป) : Dek-D.com - Writer

    [IdentityV] Naib x Jack (Bad End อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป)

    มีคนขอHappy End ของแจ๊คมา ไรต์ก็จัดให้ [คุณแจ๊คสันดาเรนที่รัก เราขอเชิญคุณให้เข้าร่วมเกมสุดพิเศษนี้อีกครั้ง ฉันเดาว่าคุณคงจะชอบเกมในครั้งนี้นะหากว่าคุณอยากจะลอง'ย้อนเวลาเพื่อแก้ไขบางอย่าง...]

    ผู้เข้าชมรวม

    1,997

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.99K

    ความคิดเห็น


    25

    คนติดตาม


    65
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 พ.ย. 61 / 10:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องนี้ต่อจากเรื่องเดิมที่ไรต์แต่งเลยนะคะ ขอบคุณที่เขามาอ่านเด้อ~
    ปล.เรื่องเดิมไรต์ไม่สามารถเพิ่มตอนได้เพราะมันจบไปแล้วเลยต้องมาต่อในนี้ ขออนุญาตใช้รูปเดียวกันเลยคนอ่านจะได้จำได้

    https://writer.dek-d.com/sasipaparbam/writer/view.php?id=1869685


    ตอนที่เขียนในมุมมองของแจ๊คไรต์จำเป็นต้องสวมบทเป็นโรคจิต...บางที่ต้องหัวเราะคนเดียวในห้อง ดังนั้นถ้าไรต์เขียนไม่ดีแปลว่าไรต์เข้าถึงพี่แกไม่ได้จริงๆ ขอโทษล่วงหน้าเด้อ
     
    คำเตือน! เนื้อหาต่อไปนี้มีความป่วยปนอยู่พอสมควรใครที่ไม่ชอบอย่าเข้าไปอ่าน
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "นี่คุณดาเรนคะ~"
      สาวน้อยผมบลอนวัย20เห็นจะได้ เธอดึงเน็กไทผมเข้าประกบริมฝีปากด้วยท่าทีเย้ายวนและเร้าร้อนพลางปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นร่องอกสวย ผมถอนจูบก่อนจะขานรับเธอเสียงหวาน
      "ว่าไงที่รัก:)"
      เอวบางของสาวน้อยคนนี้ถูกโอบเอาไว้อย่างเอ็นดู ทำให้ร่างกายนิ่มๆนี่แนบชิดกับผม มันต้องรู้สึกดีมากแน่ถ้าผมได้กรีดใบมีดคมกริบลงบนผิวของเธอ
      อ่า....อีกเดี๋ยวก็ได้ทำแล้วล่ะ หึๆ...
      "รีบๆทำให้ฉันเป็นของคุณสิ"
      "อย่ารีบสิ....เธอก็รู้ว่าเราทำกันในตรอกมืดๆแบบนี้ไม่ได้"
      เมื่อพูดจบผมหยิบถุงมือน่ารักที่ห้อยอยู่ตรงเข็มขัดใต้เสื้อโค้ดขึ้นมาสวมทำให้สาวน้อยสงสัยเล็กๆ
      "นะ...นั้นมันอะไรเหรอคะดูหน้ากลัวจังเลย^^;"
      "มันไม่คมหรอก:)"
      ผมเอียงคอว่าด้วยรอยยิ้มก่อนจะพลิกกรงเล็บนี้ไปมาให้เธอดู
      "เธอว่ามันสวยรึเปล่า?"
      "อะ...เอ๋ ฮะๆๆ แน่นอ---"
      ฉัวะ!!
      ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบกรงเล็บของผมก็เฉือนเข้าที่หน้าท้องของแม่สาวน้อย เธออึ่งและจ้องผมอย่างไม่เข้าใจ ร่างบางสั่นไปด้วยความกลัวก่อนจะออกตัววิ่ง
      "กรี้ดดดด!!!"
      "ฮ่าๆๆ คิดจะวิ่งไปไหนล่ะนั่น.... :)"
      ใบมีดสวยเฉือนเข้ากลางหลังจบเธอล้มลงก่อนที่เธอจะวิ่งได้ไกลกว่านี้เลือดสีแดงข้นกระจายไปทั่วกลิ่นคาวเริ่มคละคลุ้ง คออุ่นๆถูกบีบก่อนที่ผมจะยกร่างที่ดิ้นทุรนทุรายขึ้นแล้วเฉือนข้อพับของสาวน้อยเพราะไม่ต้องการให้เธอวิ่งหนีได้อีก จากนี้ก็สนุกได้เต็มที่เลยล่ะสิ ฮิฮิ....
      "เป็นอะไรสาวน้อย...โอ้....เธอกลัวเหรอ?"
      ทันทีที่ร่างบางร่วงลงกับพื้นเธอก็พยายามคลานหนีเอาชีวิตรอดอย่างน่าสงสาร อ่า...อะดรีนาลีนผมพุ่งพลานนะเนี้ย เอาล่ะได้เวชาสนุกแล้ว
      "ดะ...ได้โปรดคุณดาเรน!!"
      หยาดน้ำตาแห่งความกล้วไหลออกมาเหมือนเขื่อนแตก โอ้ว....ตายแล้วๆ ผมนั่งยองๆก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยรอยยิ้ม
      "จะว่าไป...ฉันยังไม่ได้ถามชื่อเธอนี่"
      เธอยังคงพยายามคลานหนี ให้ตายสิ....ไม่น่ารักเอาซักเลย
      ฉัวะ!!
      "กรี้ดดดดดดด!! ฮึก....ฮือๆ....ได้โปรด....ใครก็ได้!!"
      เอาล่ะ....ตอนนี้เธอไม่มีขาแล้ว สติของเธอแทบจะหลุดไปเมื่อได้เห็นสภาพตัวเองช่วยไม่ได้นี่ผมถามชื่อก็ไม่ตอบ ไร้มารยาทซะจริง เฮ้อออ...
      "ฉันถามชื่อเธออยู่นะ..."
      "ฮึก....ฮือๆ"
      แต่ผมชอบเวลาที่เธอตัวสั่นนะ....มันน่ารักดี:)
      "เธอไม่ต้องตอบหรอก...."
      ร่างกายเธอสั่นเทายิ่งกว่าเดิมเมื่อผมจุมพิตลงบนข้างหูของสาวน้อยก่อนกระซิบเบาๆ
      "เดี๋ยวหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้มันก็บอกฉันเองนั่นแหละ"
      .
      .
      .
      .
      "ดูเหมือน....เธอจะชื่อไดแอนนะ"
      ผมอ่านเนื้อความในหนังสือพิมพ์แล้วบอกกับคนที่นั่งข้างๆชอบจังเลยเวลาที่เขาซบไหล่ผมแบบนี้
      "นายคงไม่ชอบสินะที่ฉันฆ่าคนไปทั่วแบบนี้"
      ใช่ ผมรู้เพราะเขาเคยโกรธผมมากๆตอนที่ฆ่ายัยทหารเรือนั่น....
      "....."
      "งั้นนายก็ว่าอะไรฉันหน่อยสิ...นาอิบ"
      "...."
      "นี่ พูดอะไรบ้างสิ"
      เขาไม่ลืมตามองผมเลยนาอิบคงเผลอหลับสินะ เฮ้อ...ผมวางหนังสือพิมพ์แล้วช้อนร่างเล็กเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอน วางเขาลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุดไม่ให้ร่างกายเขาได้รับความเสียหายก่อนห่มผ้าให้
      "ฝันดีนะ"
      เมื่อพูดจบผมจุมพิตบนริมฝีปากสีม่วงที่เย็นเฉียบเพราะเลือดเขาไร้การสูบฉีดมาเกือบสองวันก่อนจะสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วกอดร่างเล็กเอาไว้ ตัวของเขาเคยอุ่นกว่านี้นะ แต่ไม่เป็นไรหรอกขอแค่สามารถจับมือเขาได้ แค่นั้นก็พอแล้วเมื่อคิดดังนั้น ผมจึงเอื้อมมือไปจับมือที่ไร้อุณหภูมิเล็กๆนี่ไว้มันทำให้ผมนอนหลับได้ง่ายเพราะรู้สึกดีที่มีเขาอยู่ข้างๆ

      วันต่อมา...
      "นายชอบมันรึเปล่า?"
      "......"
      "พูดอะไร...บ้างสิ"
      เมื่อวาดรูปเสร็จผมเดินเข้าไปถามความเห็นจากคนที่นอนอยูบนโซฟาแต่ทำไมเขาไม่ตอบอะไรเลยล่ะ
      ".....นายหลับอีกแล้วเหรอ ฮะๆ ขี้เซาจริงๆเลย"
      ผมส่ายหัวให้พ่อหนุ่มขี้เซ้าก่อนจะจับมือที่ไม่มีนิ้วก้อยของเขาขึ้นมาจุมพิต
      "ฉันจะ....เอางานไปส่งนะ นายรออยู่ที่นี้ก็แล้วกัน"
      "....."

      โอ้ ว้าว...นาอิบไม่หนีตอนที่ผมไม่อยู่เขายังคงนอนอยู่ที่เดิม ดีใจจังเลย....ผมเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มแล้วนั่งลงบนพื้นพรมใกล้ๆเขาเพราะเขานอนยึดโซฟาผมไปซะแล้ว
      "นายจ้างเขาบอกว่าฉันยังวาดสวยเหมือนเดิม หึ ฉันได้ยินมันจนเบื่อแล้วล่ะ"
      "....."
      "แต่ฉันจะดีใจมากนะถ้านายเป็นพูดมัน"
      "...."
      "นายยังไม่ตื่นอีกเหรอ? ฉันเริ่มคิดถึงนายแล้วนะ"
      "....."
      นี่มันหลายวันแล้วนะที่เขาไม่ยอมคุยกับผม...เขาโกรธผมเหรอ? แน่นอนสิ...ต้องใช่แน่ๆมันจะเป็นอย่างอื่นได้ยังไง
      "นายโกรธที่ฉันตัดนิ้วนายสินะ....ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำแล้วก็ได้"
      "....."
      "ดังนั้น...ได้โปรด...คุยกับฉันสิ!"
      "...."
      ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะเป็นคนโง่ได้ขนาดนี้ ในตอนนี้ทำได้แค่เช็ดน้ำตาตัวเองที่ไหลออกมาอย่างไร้เหตุผล....เด็กดีทุกคนมักจะนอนหลับในตอนกลางคืน ผมคงเป็นเด็กไม่ดีสินะ พระเจ้าถึงได้ลงโทษ....ลงโทษได้สาหัสซะด้วย
      "ฉันเกลียดพระเจ้านะ....นายล่ะว่ายังไง"
      "...."
      และเขาก็ยังคงลงโทษผมอยู่ ให้ตายสิ....พานาอิบขึ้นไปนอนบนเตียงน่าจะดีกว่า ทันทีที่ช้อนคนตัวเล็กขึ้นอุ้มแขนที่ห้อยอยู่ดีๆมันก็หลุดออกมาเพราะร่างกายที่เริ่มเน่าเฟะ....
      ไม่นะ! ไม่!! ไม่ได้ๆๆ ถ้าแขนเขาขาดผมก็จับมือเขาไม่ได้น่ะสิ!!
      ผมวางร่างของเขาลงอย่างเบามือที่สุดแล้วหยิบกล่องเข็มกับด้ายมาเพื่อเย็บแขนของเขาให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
      "ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะซ้อม--- มะ....ไม่สิ ไม่ใช่...ฉันจะรักษานายเองนะ...!"
      เมื่อสอดด้ายใส่เข้าไปในรูเข็ม ผมเริ่มเย็บอย่างระมัดระวังไม่ให้มือตัวสั่นและหวังว่าเนื้อหนังเขาจะไม่เปื่อยยุ่ยและหลุดไปมากกว่านี้
      หลังจากเย็บให้แขนของนาอิบให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วผมจุมพิมลงบนริมฝีปากไร้อุณหภูมิก่อนจะกอดเขาไว้
      "ทะ...เท่านี้....ก็ไม่เป็นไรแล้วนะ....ไปนอนกันเถอะ"


      "นายคิดว่าไงล่ะ?"
      ผมถามหลังจากชูแหวนสีเงินสวยให้เขาดูแล้วจัดการจะสวมมันลงบนนิ้วนางข้างซ้ายที่ตอนนี้ผิวเขามันดูแห้งจนหุ้มกระดูกไปแล้ว
      "รอบนี้ฉันไม่ได้โกหกนะ..."
      "...."
      "เรามาแต่งงานกันเถอะ"
      "....."
      "นายจะปฏิเสธอีกรอบก็ได้นะแต่...พูดอะไรบ้างสิ จะอะไรก็ได้"
      เมื่อคนที่นอนอยู่เอาแต่เงียบผมจึงเขย่าร่างเล็กเบาๆหวังว่าเขาจะตอบผมบ้างแต่....
      ป๊อก!
      "....!!"
      หัวของเขาหลุดออกมาเพราะร่างกายของเขาในตอนนี้มันเน่าเฟะไปแล้ว....ไม่ได้...ไม่ได้นะ!! ถ้าเขาไม่มีหัวผมก็จูบเขาไม่ได้น่ะสิ!!
      "ฉะ....ฉันขอโทษ! จะรักษานายเดี๋ยวนี้ล่ะ!!"
      ในขณะที่กำลังจะเดินไปหยิบกล่องเข็มกับด้ายก็เหลือบไปเห็น
      .....จดหมายนั่นมันวางอยู่บนโต๊ะอาหาร ท่าทางพระเจ้าคงจะให้โอกาสผมสินะ
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .


      -นาอิบ-
      "....ฆ่าฉันเถอะ"
      "คิๆ....ฉันก็อยากทำนะ"
      "....."
      มือที่เย็นเฉียบลูบแผลที่คอ แผลแรกที่เขามอบให้กับผม
      "แต่ชอบแบบนี้มากกว่า"
      "....."
      "อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป:)"
      แจ๊คขังผมไว้ในบ้านของเขาเอง วันนี้เขาต้องเอารูปที่วาดเสร็จไปส่งให้นายจ้างเห็นบอกว่าจะกลับมาให้อีก30นาที นั่นก็มากพอที่ผมจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อหายานอนหลับที่เขาเคยใช้กับผม

      คำเตือน: ยาชนิดนี้อันตราย ห้ามรับประทานมากกว่า3เม็ด ไม่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกว่า13

      สามเม็ดเหรอ....กินมันทั้งหมดนั่นแหละยังไงซะผมก็ไม่คิดจะตื่นขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อคิดดังนั้นผมเปิดผาขวดยาแล้วเททั้งหมดใส่มือ--
      เพียะ!!
      มือของผมถูกปัด ยาในมือกระจายเรี่ยราดไปทั่วพื้น ร่างสูงโปร่งปรากฏขึ้นตรงหน้า แน่นอนผมตกใจที่อยู่ๆเขาก็โผล่มาแบบนี้แต่ที่น่าตกใจมากกว่าคือ....หน้าเขาตอนนี้
      เมื่อได้สบตากับดวงตาที่แดงกำของเขามันเหมือนกับว่าเขากำลัง....ห่ะ?? ร้องไห้อยู่เหรอ? 
      "....."
      "พูดอะไรบ้างสิ"
      "...."
      นั่นเป็นคำแรกที่เขาบอกกับผม หลังจากที่ปัดยาพวกนี้ทิ้ง แน่นอนผมไม่เข้าใจหรอก แล้วอยู่ๆแจ๊คพรวดพราดเข้ามาเขย่าแขนผมราวกับคนเสียสติ
      "ฉันบอกว่าให้พูดอะไรบ้างไง!!"
      ผลัก!!
      "อะไรของแกวะ!!?"
      ผมผลักไอ้เวรนี่จนมันเซถอยหลังจนล้มลงไปนั่งกับพื้น แจ๊คเงียบไปเขาก้มหน้ากุมขมับเงียบๆ นั่นทำให้ผมไม่เข้าใจไปกันใหญ่ก่อนที่เสียงสะอื้นเบาๆจะเริ่มดังขึ้น
      "ฮืก...."
      ไอ้ฆาตกรนี่....ร้องไห้? เมื่อเข้าไปใกล้ผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดซะแน่นจนหน้าเกือบคว่ำ ไอ้บ้านี่!?
      "อะไร--"
      "อย่าตายนะ"
      "ยุ่งน่า! ปล่อยได้แล้ว..."
      แจ๊คยอมปล่อยแต่โดยดี? นี่มันแปลกแฮะ...ผมนึกว่าเขาจะทำอะไรมากกว่านี้แต่ไม่เลย เจ้าตัวเอานั่งเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่อย่างนั้น ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเดินหนีแต่เขาที่เป็นแบบนี้ก็ทำให้ อดไม่ได้ที่จะ เป็นห่วง....
      "อยากจะบอกฉันไหมว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น?"
      เมื่อผมถามจบแจ๊คเงยหน้าขึ้นมามองผมทั้งน้ำตาจนผมเริ่มรู้สึกสะเทือนใจเหมือนว่าตัวเองไปทำอะไรให้เขา
      "....รักนายนะ"
      "หา?"
      เป็นบ้าอะไรวะเนี้ย?
      "ขอโทษที่ไม่ได้พูดแบบนี้เลย แต่ฉันรักนายจริงๆนะ"
      "....."
      ไอ้หมอนี่จะตอแหลอะไรอีกล่ะ ไม่หลงกลอีกรอบหรอกนะ เมื่อคิดดังนั้นผมจึงเดินหนีแล้วปล่อยเขาไว้อย่างนั้นคนเดียวแต่....
      "ฉันฆ่ายัยนั่นเพราะตอนนั้นนายเอาแต่สนใจเธอ"
      สิ่งที่เขาพูดก็ทำให้ผมต้องหยุดเดินแล้วหันกลับมามองเขา
      "....."
      "นายเอาแต่พูดว่า มาร์ธ่าต้องการให้ช่วยแล้วก็ไปหายัยนั่นตอนนั้น ฉันแค่คิดว่าฉันอยากฆ่ายัยนั่นแต่มันไม่ใช่ ฉันยังคงรู้สึกไม่พอใจที่นายไปเยี่ยมหลุมศพเธอ ฉันไม่พอใจที่นายสนใจคนที่ตายไปแล้วทั้งๆที่ฉันยืนอยู่ข้างๆนายแท้ๆ"
      "....."
      แจ๊คลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเข้ามาหา เขาจับแขนผมไว้แน่นก่อนจะได้เดินหนีเขาอีก
      "นายอยากรู้ใช่ไหมว่าฉันฆ่ายัยนั่นทำไม นั่นแหละคำตอบ"
      ผมควรจะรู้สึกยังไงดีล่ะ....ดีใจที่เขาบอก? 
      ...ไม่ล่ะ เขาไม่มีสิทธิ์ฆ่ามาร์ธ่าไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไรก็ตาม....และผมไม่มีทางให้อภัยเขา
      "แล้วไง? ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรนายไม่มีสิทธิ์ไปฆ่าเธออยู่ดี "
      "....ฉันจะหยุดแล้วก็ได้ ทุกๆอย่างเลย"
      "นายเป็นบ้าอะไรเนี้ย?"
      โอเค...นี่มันผิดปกติมากเลยอยู่ๆไอ้บ้านี่ก็พรวดพราดเข้ามาห้ามไม่ให้ผมฆ่าตัวตายแล้วก็ร้องไห้บอกว่าสำนึกผิดแล้วจะไม่ทำแล้ว 
      "ถ้านายคิดจะหลอกปั่นหัวฉันอีกเลิกซะเถอะ"
      แจ๊คกัดฟันกรอดแล้วพูดสั่น
      "ฉันแค่ไม่อยากให้นายตาย"
      "ฉันก็ยังไม่ตายนี่ไง!"
      ผมหงุดหงิดเพราะอุตส่าห์ทำใจก่อนตายไว้แล้วแต่ไอ้หมอนี่ก็เข้ามาพังทิ้งซะหมดอยากจะเก็บผมไว้ทรมาณเล่นรึไง?
      "....."
      "....."
      เมื่อต่างคนต่างเงียบผมจึงมีโอกาสได้สงบอารมณ์ตัวเองแล้วหาว่ามันเกิดอะไรขึ้น
      "สรุปจะไม่ไปส่งงานให้นายจ้างแล้วสินะ"
      "ก็บอกมาสิว่าจะไม่ฆ่าตัวตายแล้ว"
      "ไม่ใช่เรื่องของนาย"
      ร่างสูงบีบแขนผมแน่นแต่เมื่อเห็นว่าผมไม่กล้ว เขาจึงยอมปล่อยแล้วหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ทก่อนยื่นให้กับผม มันเป็นจดหมายที่ถูกแกะอ่านแล้ว ตราประทับหน้าซองนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนส่งคือใคร
      [คุณแจ๊คสัน ดาเรนที่รัก เราขอเชิญคุณเข้าร่วมเกมสุดพิเศษในครั้งนี้ที่คุณต้องชอบ ถ้าคุณยังอยากจะแก้ไขสิ่งที่คุณเคยทำพลาดไปในอดีต มาที่คฤหาสน์สิ เขาต้องการให้คุณช่วยอยู่นะ]
      จดหมายเชิญไปร่วมเกมนรกนั่น...
      "แล้วมันทำไม?"
      "วันที่...."
      มันนัดหมอนี่ไว้ล่วงหน้าเดือนกว่าๆแหนะ....ทำไมกัน??
      "มันไม่ได้นัดฉันล่วงหน้าเกือบเดือนหรอก มันนัดล่วงหน้าแค่วันเดียว"
      "หา?"
      "....."
      ร่างสูงเม้มปากเขาลูบหน้าตัวเองแล้วถอนหายใจ
      "ตอนนั้นนายตายไปแล้ว"
      "...."
      ....แค่ดึงคนตายขึ้นมาจากหลุมยังบ้าไม่พอเท่าย้อนเวลา เยี่ยมไปเลย
      "นายปล่อยให้ฉันตาย ก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ"
      เมื่อพูดจบผมเก็บจดหมายนี่ใส่เสื้อโค้ทของเขาเหมือนเดิมแจ๊คจับมือผมก่อนจะดึงเข้าไปกอดแน่นราวกับว่ากลัวจะเสียผมไปจริงๆ แต่ขอโทษผมไม่ได้ใจอ่อนขนาดนั้น ไอ้หมอนี่ฆ่ามาร์ธ่า...มันเป็นฆาตกร ซึ่งผมไม่มีวันให้อภัยเขา ถ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะใจอ่อนให้อภัยและไม่หนีอยู่กับเขาที่นี่อย่างมีความสุขตลอดไป คิดผิดแล้--
      คลิก!
      "....!!"
      กุญแจมือ...มือของผมถูกล็อคไพล่หลังไว้แจ๊คทำมันได้ แนบเนียนเหลือเชื่อ ร่างสูงยังคงกอดผมไม่ปล่อย ลมหายใจเย็นยะเยือกรดต้นคอจนผมรู้สึกขนลุก
      "ฉันรู้ว่านายไม่ให้อภัยฉันแน่....นี่คงเป็นวิธีเดียวที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน"
      แจ็คลากผมเข้ามาในห้องนั่งเล่นก่อนที่ผมจะถูกผลักให้ล้มลงแต่ยังไม่ทันได้ลุกโซ่ยาวๆนี่ก็ล่ามขาผมไว้ซะก่อนราวกันถูกเตรียมมาแต่แรก เชื่อแล้วว่าไอ้บ้านี้ย้อนเวลามา เวรเอ้ย!
      "แกมันป่วย!!"
      "....."
      แจ๊คเงียบ เขานั่งลงข้างๆผมก่อนจะดึงผมขึ้นไปนั่งบนตักแล้วรวบท้ายทอยผมเข้าหา ริมฝีปากอุ่นทาบปิดปากผมอย่างอ่อนโยน มือหนาประคองแก้มไม่ให้ผมหันไปทางอื่นเพื่อหลบริมฝีปากเขา ลิ้นที่ตวัดไปมาในโพรงปากไม่ได้ทำให้ขยะแขยงอย่างที่ควรจะเป็น ใช่....ผมรักเขาไปแล้วแต่จะให้อยู่ด้วยกันตลอดไปน่ะไม่มีทางหรอก ล่ามผมไว้ให้อยู่กับเขามันจะต่างอะไรกับจับผมทรมาน?
      หึ...แต่ไอ้คนเห็นแก่ตัวนี่จะสนอะไรล่ะ.... ทันทีที่คนตรงหน้าถอนจูบเขาเลียน้ำลายที่มันไหลเลอะขอบปากผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วระบายยิ้มออกมา
      "เท่านี้ก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว..."






      ==========
      พอใจกันละนะ 5555 
      ถือซะว่าไรต์ให้ผู้อ่านเป็นเจ้าของคฤหาสน์ก็แล้วกันนะคะ ตัดสินใจได้เลยว่าจะส่งจดหมายเชิญให้แจ๊คร่วมเกมนี้เพื่อให้โอกาสเขาไหม? ไรต์ให้คนอ่านเลือกก็แล้วกันว่าเรื่องนี้ควรจะจบแบบไหนเลยทำไว้สองEnd (แต่ส่วนตัวไรต์ชอบแบบเดิมมากกว่าเพราะนาอิบไม่มีความสุขที่จะได้อยู่กับแจ๊ค)

      Happy End(Naib)แจ๊คได้อยู่กับร่างไร้วิญญาณของนาอิบแต่นาอิบก็ได้เป็นอิสระ

      Happy End(Jack)นาอิบได้อยู่กับแจ๊คตลอดไปแต่ก็ใช่ว่าจะมีความสุข 

      เลือกเอาว่าอยากSufferกับEndไหน ตามสบายจร้า



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×