ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FICTION TWST : Odinary girl in WONDERLAND [ OC ]

    ลำดับตอนที่ #49 : Q &​ A + เบนจามิน + ตอนพิเศษย้อนหลังวันคริสมาสต์[ฉลองผู้ติดตาม380+]​

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      127
      6 ม.ค. 64







    [ ปีนี้ไม่มีคริสมาสต์อีเว้นท์ เพราะงั้นเอารูปคูมวิลฮาโลวีนกรูฟวี่ไปก่อนนะคะ แฮะๆ ]

    สายันสวัสดิ์ ค่ำสวัสดิ์ หรือบ่ายสวัสดิ์(?)กันนะคะรีดเดอร์ทุกท่านทั้งหลาย

    สำหรับบทพิเศษขอบคุณผู้ติดตามรอบนี้ค่อนข้างพิเศษนิดหน่อยที่บทพิเศษนี้ไรท์ไม่ได้จะลงซีรี่ย์What if(มารีเดียซอมเนีย)แต่อย่างใด แต่จะมาลงตอนอย่างอื่นให้แทนเพราะคิดว่าจะย้อนหลังคริสมาสต์ไปด้วย ส่วนตอนพิเศษวันขึ้นปีใหม่? อันนั้นไรท์ขอข้ามได้ไหมค---แฮ่ม(?)

    สำหรับช่วงนี้ไรท์ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ กายและใจกันด้วยนะคะ---เกมทวิสเตดพึ่งเปิดมาได้ไม่ถึงปี เราต้องมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปเพื่อเสพเนื้อเรื่องให้จงได้เลยล่ะค่ะ ไรท์เองก็จะพยายามเช่นกัน ด้วยการแต่งฟิคเรื่องนี้ให้เกิน60ตอน!(ยาวไป๊)

    สำหรับช่วงนี้ ก่อนอื่นเลยตต้องขออภัยจริงๆนะคะที่แต่ละบทค่อนข้างใช้เวลายืดยาวถึงขนาดนี้(เดี๋ยวหอออคตาวิเนลล์ก็จะย๊าวยาวไปอีก) ส่วนหนึ่งเพราะไรท์กลัวตัวเองจะลงตอนแก้ปมไม่ทัน มันก็เลยใช้เวลายืดกันออกไปพอควรเลย ทั้งๆที่ใจไรท์จริงๆอยากกระโดดไปอยู่บทที่ห้าแล้วล่ะค่ะ ฮือออ55555555555555555555555

    เอาล่ะ พูดมาเยอะพอแล้ว วันนี้ไรท์ตัดสินใจจะเปิด Q & A ขึ้นมาค่ะ! เนื่องจากไรท์คิดว่าอาจจะมีบางประเด็นที่รีดเดอร์อยากถาม สงสัย หรืออะไรก็ตาม สำหรับ Q & A ของไรท์ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ อยากถามอะไรก็จัดมาเลย(?) แต่มีกฎข้อเดียวคือ

    ถ้าถามเนื้อเรื่องไรท์จะใส่(เซ็นเซอร์) แล้วเอาไปให้ทุกท่านคิดต่อกันเอาเองนะคะ 

    และในส่วนถามพระเอก ไรท์คิดว่าน่าจะมีรีดเดอร์บางส่วนรู้ๆมาบ้างแล้วล่ะ แต่ถ้าถามมาไรท์จะใบ้ให้นะคะ!

    และและและ จะมีการลงรายละเอียดข้อมูลในส่วนของเบนจามินด้วยนะคะ เผื่อในอนาคตตจะได้นึกหน้ากันออกมากขึ้น(?) ส่วนตอนพิเศษจะอยู่ถัดจากข้อมูลของเบนจามินนะคะ เนื่องจากว่าไรท์ค่อนข้างอาย(?)เพราะพึ่งแต่งอะไรแบบนี้ครั้งแรก แต่รอบถัดๆไปจะพยายามให้ดียิ่งขึ้นนะคะ!

    ***

    โปรไฟล์ตัวละครเสริม




    "ความพยายามไม่ได้ทำให้ไขว่คว้าในสิ่งที่อยากได้มาทั้งหมดหรอก"

    "ไม่ใช่เพราะไม่ยอมรับในโชคชะตา หรือเพราะพยายามไม่พอ แต่เพราะบางเป้าหมายไม่มีทางที่จะพยายามแล้วได้มาตั้งแต่แรกต่างหาก"


    ชื่อ : เบนจามิน เอเกอร์

    อายุ : ??? (ห่างจากพี่สาวสี่ปี)

    ส่วนสูง : 156

    น้ำหนัก : ไม่ระบุ

    ถิ่นที่อยู่ : ออกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

    ครอบครัว : มารี เอเกอร์(พี่สาว)

    พลัง : ไม่มีพลัง(??????)

    สถานะ : ??????? 

    ข้อมูลเพิ่ม : ถนัดมือซ้าย , รักพี่สาว , ชอบพูดอะไรกำกวมชวนไม่เข้าใจ(สำหรับมารี)


    เอาล่ะ สำหรับบทพิเศษสามารถเลื่อนลงไปด้านล่างได้เลยนะคะ!









    ***

    บทพิเศษ : Christmas gift [ Vil x Marie * Vil + Marie ]

    What if : จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากพวกเขาเคยเจอกันในตอนเด็ก?

    rate : ไสยๆทุกเพศทุกวัย(?)

    Warning : ระวัง OOC สูง

    ***

    ภายในดินแดนแห่งรัตนะแห่งนี้ เปรียบเป็นสถานที่ที่เป็นบ้านเกิดของเด็กชายผู้มีบิดาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

    ชื่อของเขาคือวิล เชนไฮน์ อายุเก้าขวบ ที่กำลังหลงทางกับครอบครัวของตนเอง

    และตอนนี้กำลังเจอเด็กผู้หญิงเรือนผมสีขาวโพลนคนหนึ่งยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางวันหิมะตกเสียด้วย




    "...ขอบคุณจริงๆนะคะที่พามานั่งตรงนี้"

    เสียงหวานของเด็กผู้หญิงที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาดังขึ้นบนม้านั่งที่มีร่มเงาจากหลังคากำบังหิมะดังขึ้นมา ขณะที่พวงแก้มของเด็กหญิงผู้นั้นเป็นสีแดงระเรื่อเหมือนกับแอปเปิ้ล

    "ไม่เป็นไร" วิล เชนไฮน์กล่าว ศีรษะน้อยๆของเด็กชายผู้มีรูปร่างงดงามส่ายหน้า น้ำเสียงจริงจังปรากฏออกมาจากริมฝีปาก "แล้วทำไมเธอถึงมายืนตากหิมะอยู่ตรงนั้นได้น่ะ หลงทางอยู่หรือยังไง?"

    เด็กหญิงเรือนผมสีขาวโพลนดั่งหิมะค่อยๆพยักหน้าของหล่อนลงอย่างเชื่องช้า

    "ค่ะ พอดีมาตามหาน้องชาย..." หล่อนเปรย เสียงแผ่วเบาลอดออกมาจากริมฝีปากระเรื่อดั่งสีกุหลาบ "พวกเราพลัดหลงกันตอนที่ฉันกับน้องชายกำลังเที่ยวอยู่ในเทศกาลคริสมาสต์ที่จัดขึ้นกลางจัตุรัสน่ะค่ะ"

    "เทศกาลคริสมาสต์?"

    วิลมองด้วยสีหน้าที่ดูไม่เชื่อถือในคำพูดของเด็กหญิงเสียเท่าไหร่นัก

    เด็กชายเรือนผมสีบลอนด์ปลายม่วงไม่เคยรู้จักกับเทศกาลคริสมาสต์มาก่อน พูดตามตรงแล้วเขาไม่เคยได้ยินหรือพบเจอกับเทศกาลคริสมาสต์ภายในบ้านเกิดของตัวเองเลยสักครั้ง แต่ชื่อของมันก็ทำให้เขานึกถึงดินแดนกุหลาบที่อยู่อีกฝากของประเทศเสียมากกว่า

    หรือว่าเทศกาลคริสมาสต์จะเป็นเทศกาลของราชอาณาจักรกุหลาบกันนะ?

    ถ้าเป็นอย่างงั้นมันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยไม่ใช่หรือ?

    "ค่ะ เอ่อ...อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จักมันเหรอคะ?" เด็กหญิงเอ่ยถาม ใบหน้าดูเป็นกังวลเล็กน้อยโดยที่วิลไม่สังเกตเห็น

    "ไม่ใช่รู้จัก แต่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเทศกาลนี้มาก่อนเลยต่างหาก" วิลกอดอก

    เด็กหญิงผู้มีเรือนผมสีขาวหิมะและนัยน์ตาสีขาวขุ่นปนเทาหรี่ตาลง ใบหน้าขมวดคิ้วแล้วนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่ไม่นานนักวิลจะได้ยินคำถามที่ดังออกมาจากริมฝีปากน้อยๆของเด็กหญิงเรือนผมสีขาวสั้น

    "แล้วที่นี่คือที่ไหนเหรอคะ...?"

    วิลเลิกคิ้วด้วยความงุนงงไปชั่วขณะ

    "ก็ที่มีเมืองxxx ของประเทศรัตนะไง?" เด็กคนนี้ทำไมถึงถามอะไรแปลกๆออกมากันนะ

    ใบหน้าของเด็กหญิงนิ่งเรียบ ริมฝีปากกลายเป็นเส้นตรงราวกับกำลังเม้มปาก---แต่หลังจากนั้นไม่นานนักใบหน้าของเด็กหญิงเรือนผมสีขาวสั้นดั่งหิมะก็ค่อยๆคลี่ยิ้มอ่อนโยนออกมา

    "ขอบคุณค่ะที่ช่วยบอก" หล่อนกล่าวเสียงนุ่ม แต่ก่อนที่วิลจะได้ถามอะไรออกมาเด็กหญิงเรือนผมสีขาวโพลนตัดสั้นก็ชิงถามขึ้นมาอีกรอบ "ว่าแต่ทำไมคุณถึงมาอยู่กลางเมืองที่นี่คนเดียวเหรอคะ?"

    วิลชะงัก

    เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าตอนนี้กำลังหลงทางกับพ่อของตนที่ออกมาซื้อของด้วยกัน

    "ฉันหลงทางกับพ่อน่ะ" เขาตอบ อากาศที่หนาวเย็นทำให้การจะพูดอะไรสักอย่างออกมาจากริมฝีปากนั้นช่างเชื่องช้าราวกับเต่าเหลือเกิน วิลไม่ชอบมันเอาเสียเลย

    เด็กหญิงเอียงศีรษะของตนท่ามกลางอากาศหนาว

    "ถ้างั้นฉันช่วยตามหาเอาไหมคะ?" หล่อนกล่าว คำพูดของเด็กหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆทำให้วิลต้องหันมอง "คุณเป็นคนใจดีพาฉันมานั่งที่นี่ เพราะงั้นฉันจะตอบแทนเองค่ะ"

    "ไม่ต้องก็ได้" เด็กชายเรือนผมสีบลอนด์ปลายม่วงกล่าว

    "แต่ไปไหนมาไหนคนเดียวมันไม่ดีหรอกนะคะ" เด็กหญิงคะยั้นคะยอ

    วิลจ้องมองอีกฝ่าย ดูเหมือนเด็กหญิงคนนี้จะมีส่วนสูงที่มากกว่าตนไปไม่กี่เซนต์---แต่แววตาสีขาวขุ่นที่จ้องมองมาด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างบริสุทธิ์ใจเช่นนั้นทำให้ใจของเด็กชายอ่อนยวบลงมาเสียไม่ได้

    "ก็ได้" สุดท้ายเขาก็รับคำของหล่อนไป ใบหน้าของวิลหันมองเด็กหญิงที่ฉีกยิ้มอ่อนโยน "ชื่อของฉันคือวิล วิล เชนไฮน์ แล้วชื่อของเธอล่ะ?"

    นัยน์ตาสีม่วงสะท้อนภาพใบหน้าของเด็กหญิงเรือนผมสั้นสีขาวท่ามกลางวันที่หิมะย้อมดินแดนแห่งนี้ให้กลายเป็นสีขาวโพลน

    สุรเสียงที่แสนอ่อนโยนของหล่อนเริ่มเอื้อนเอ่ย

    "มารี มารี เอเกอร์ค่ะ คุณเชนไฮน์"





    วันที่ 25 เดือนธันวาคม ปี xxxx

    แม้นี่จะเป็นตอนเย็น แต่หิมะที่โรยราลงมาก็ทำให้วิลมองไม่เห็นแม้แต่สีสันของห้องนภายามที่ตะวันตกดิน

    วิล เชนไฮน์บัดนี้กำลังเดินไปพร้อมๆกับเด็กหญิงที่เขาเพิ่งจะเคยพบพานเป็นครั้งแรก นัยน์ตาสีขาวขุ่นของมารี เอเกอร์จ้องมองไปตรงหน้า สายตาที่ดูตื่นเต้นยามได้มองขณะที่เดินไปรอบๆเมืองทำให้วิลรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนของเมืองนี้ หรือคนของประเทศนี้เอาเสียเลย

    ท่าทางเป็นมิตรของหล่อนทำให้เขานึกถึงแจ็คไม่มีผิดนัก เด็กคนนั้นก็มีแววตาใจดีเหมือนกัน

    ขณะที่ความเงียบเริ่มโรยราระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ภายในหัวของวิลก็เริ่มวุ่นวาย---สายตาของเด็กชายเหลือบมองเด็กหญิงที่กำลังเดินอยู่กันข้างๆท่ามกลางเหล่าผู้คนที่เดินสวนผ่านกันไปภายในฤดูหนาว และทันใดนั้นจู่ๆความสงสัยของเขาก็เด้งออกมาจากหัว

    "นี่" เขาส่งเสียงเรียก มารีหันมามองใบหน้าของวิล "เทศกาลคริสมาสต์ที่เธอเคยบอกให้ฉันฟังมันเป็นยังไงหรือ?"

    "คุณสงสัยหรือคะ? ...เข้าใจแล้วค่ะ-" มารีเอ่ย มองวิลที่ดูเหมือนจะสงสัยกับคำพูดของหล่อนเมื่อคราวนั้นจริงๆ---เช่นนั้นริมฝีปากของเธอก็ค่อยๆเอ่ยอธิบายออกมา "เทศกาลคริสมาสต์เป็นเทศกาลในบ้านเกิดของฉันเองค่ะ มันเป็นเทศกาลที่ซานตาครอสจะมอบของขวัญให้เด็กๆ"

    "ซานตาครอส?" วิลขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ซานต้าครอส ใครน่ะ? "แล้วเขาหาเงินจากไหนมามอบของขวัญให้เด็กๆล่ะ?"

    มารีมองใบหน้าของเขาจากนั้นก็ฉีกยิ้มขบขันขึ้นมา

    "เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มันก็แค่เรื่องเล่าในเทศกาลน่ะ-" เด็กหญิงเรือนผมสีขาวโพลนเอ่ย "แต่ว่าต้นกำเนิดนี้มาจากนักบุญผู้ร่ำรวยคนหนึ่งที่อยากจะมอบสิ่งต่างๆให้แก่คนจน เขาจึงปีนขึ้นไปบนปล่องไฟแล้วมอบของขวัญให้แก่ผู้คนที่มีฐานะยากจนเพราะหน้าต่างในวันนั้นต่างปิดสนิท"

    "นักบุญคนนั้นเขาไม่ใช้เวทมนตร์ลอยตัวล่ะ" วิลขมวดคิ้ว สังเกตเห็นใบหน้าของมารีที่ฉายแวงงุนงงไปชั่วครู่ "ถ้าทำแบบนั้นน่าจะง่ายกว่าไม่ใช่หรือ?"

    "เขาไม่มีเวทมนตร์น่ะ" มารียิ้มตาปิด น้ำเสียงรื่นหูถูกเปล่งออกมา "แต่ถึงแบบนั้นมันก็สุดยอดเลยไม่ใช่หรือ? เขาพยายามอย่างหนักที่จะปืนขึ้นไปบนหลังคาเพื่อแจกของเพียงเพราะวันนั้นหน้าต่างทุกบานของแต่ละบ้านล้วนปิดกันหมด และเพราะความใจดีกับความพยายามของเขา ทุกๆคนถึงได้จดจำชายคนนั้นเอาไว้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่"

    เด็กหญิงตัวน้อยมองสีหน้าของเด็กชายเรือนผมสีแปลกตาที่เงียบลงไป

    "นั่นสินะ ความพยายามอย่างหนักจะนำไปสู่ความประสบความสำเร็จ" วิลกล่าว ดวงตาสีม่วงอ่อนของสบสายตากับมารี ดูท่าแล้วเขาคงจะสนใจในเรื่องราวของเทศกาลคริสมาสต์ไม่น้อย "เพราะแบบนั้นชายคนนั้นจึงได้กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงและถูกจดจำ"

    และฉันเอง...ก็ต้องพยายามให้มากขึ้น ยิ่งกว่านี้--

    ฝุบ...--

    "หือ..?"

    เสียงร้องของวิลดังขึ้น

    มือของเด็กหญิงตัวน้อยเอื้อมมาจับที่ปอยผมของวิลอย่างแผ่วเบา---ร่างของเด็กชายภายในชุดเสื้อโค้ทชะงักไปชั่วครู่ เสียงหัวใจเต้นระรัวของเขาดังขึ้นมายามเมื่อนัยน์ตาอเมทิสต์สีอ่อนจ้องมองไปยังใบหน้าของมารีที่ยื่นเข้ามาใกล้ ขณะที่ค่อยๆปล่อยมือออกจากปอยผมของเขาด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน

    มารีค่อยๆเคลื่อนกายออกห่างจากใบหน้าของเขายามเมื่อหยิบสิ่งที่ติดผมออกให้แก่เด็กชาย ทั้งเรือนผมสีขาวและนัยน์ตาสีน้ำข้าว หรือรวมไปถึงผิวพรรณเมื่อมาอยู่ภายในประเทศรัตนะที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน---ชั่วขณะหนึ่งหล่อนก็ทำให้เขานึกถึงนิทานเรื่องราชินีหิมะไม่มีผิด

    "ขอโทษจริงๆนะคะ" หล่อนเอ่ย พวงแก้มของมารียังคงเป็นสีแดงเนื่องจากอากาศหนาวของประเทศรัตนะ ดูเหมือนจะเป็นสีสันเพียงอย่างเดียวที่ไม่ทำให้กายของหล่อนหลอมกลืนไปกับหิมะ "ฉันแค่เห็นเกล็ดหิมะติดอยู่ที่ผมของคุณน่ะ"

    "อ่า---ไม่เป็นไร" วิลเบือนหน้าหลบใบหน้าของเด็กหญิงเล็กน้อย ความรู้สึกประหม่าและความขัดเขินทำให้ใบหน้าของเขาแดงร้อนขึ้นเสียยิ่งกว่าเดิม "ขอบคุณนะ"

    มารีฉีกยิ้มสดใสให้เขา

    "ไม่เป็นไรค่ะ" หล่อนกล่าวขณะที่ฝีเท้าของพวกเขาเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง เป้าหมายคือสถานีตำรวจที่ดูท่าจะอยู่ไม่ไกลหากเดินไปอีกยี่สิบนาที "เรื่องแค่นี้เอง ฉันเองก็ทำกับน้องชายบ่อ---"

    ปึก!

    "อุ๊-"

    "โอ้ย อะไรวะเนี่ย!!"

    ร่างของเด็กทั้งสองคนเกือบจะล้มลงไปยามเมื่อร่างของพวกเขากระแทกเข้ากับร่างของชายกลุ่มหนึ่งเข้าอย่างจัง มือของวิลเข้าจับไหล่ของเด็กสาวเอาไว้เมื่อเห็นว่ามารีใกล้เซหลักจนเกือบเซล้ม---ไม่นานนักสายตาโกรธเกรี้ยวของชายฉกรรจ์ก็พุ่งเป้ามาที่ร่างเล็กๆของพวกเขาทั้งสองคน

    "เฮ้ย นี่แกกล้าชนข้าขนาดนี้เลยเหรอวะไอ้เ*ี้ย!" เสียงตะโกนจากชายคนหนึ่งที่พวกเขาไม่รู้จักดังขึ้นมา วิลได้กลิ่นสุราเหม็นเปรี้ยวโชยออกมาจากตามร่างของพวกเขา ก่อนที่ไม่นานนักสายตาของเหล่าผู้ชายพวกนั้นจะหยุดมองมาที่เขา "ห๋า ไอ้เจ้าเด็กนี่หน้าคุ้นๆจังวะ อ๋อ! นึกออกแล้ว ไอ้ลูกดาราที่หน้าตาดีๆนี่หว่า!"

    "จริงด้วยว่ะ แสดงว่าแบบนี้ไอ้เด็กนี่ก็มีตังค์จ่ายค่าชนพวกเราอ่ะดิ!!" 

    ร่างของวิลก้าวถอยหลังยามเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาคุกคามที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ชั่วขณะนั้นปลายนิ้วของวิลเย็นเฉียบราวกับไม่ได้สวมใส่ถุงมือกันหนาวเลยสักนิด นัยน์ตาสีม่วงอ่อนของเด็กชายสั่นระริกยามเมื่อเห็นฝีเท้าของเหล่าคนพวกนั้นก้าวเข้ามาใกล้ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักราวกับเป็นเรื่องสนุกที่ได้พูดจาเช่นนี้

    ทันใดนั้นมือของมารีก็คว้าจับมือของเขาเอาไว้

    นัยน์ตาสีน้ำข้าวทอดมองเขาด้วยสายตาปลอบโยน

    "ไปกันเถอะค่ะ คุณวิล" 

    เสียงของเด็กหญิงเอ่ยขึ้นเช่นนั้น ก่อนที่ไม่กี่วินาทีถัดมาเท้าของเด็กหญิงข้างกายของเขาจะหมุนเปลี่ยนทิศทาง---มือที่จับกับเขาเอาไว้ฉุดรั้งให้เขาวิ่งย้อนกลับไปยังเส้นทางที่เคยเดินมาด้วยกันกับมารี

    "จับพวกมันไว้เร็ว!!"

    เสียงตะโกนของเหล่าชายฉกรรจ์ดังขึ้นขณะที่ไล่ตามฝีเท้าของหนึ่งเด็กหญิงและหนึ่งเด็กชายตัวจ้อย วิลทอดมองแผ่นหลังของมารี---เขาได้ยินเสียงหอบหายใจของเด็กหญิงยามเมื่อร่างของพวกเขาทั้งสองอยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่นัก

    ร่างของมารีหยุดชะงักไปชั่วครู่เมื่อสังเกตเห็นร่างของหนึ่งในชายฉกรรจ์เหล่านั้นที่โผล่มาดักหน้าพวกเธอทั้งสองคน จำใจให้เด็กน้อยทั้งสองจำเป็นต้องวิ่งเข้าไปยังอีกเส้นทางหนึ่ง---ใบหน้าของพวกเขาเบิกตากว้างเมื่อพบว่าทางของตรอกนั้นเป็นเพียงทางตันที่ไม่มีทางให้วิ่งหนีอีกต่อไปเสียแล้ว

    มารีดันร่างของวิลให้ไปอยู่ด้านหลังของตัวเองโดยอัตโนมัติ

    "ทางตันซะแล้วสิ พวกข้าควรจะทำยังไงกับพวกแกดีนะ?"

    เสียงของหนึ่งในชายฉกรรจ์ทั้งสามคนดังขึ้นขณะที่สาวเท้าเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างเชื่องช้า

    ใบหน้าของวิลฉายแววซีดเผือดทันทีเมื่ออยู่ภายในสถานการร์ตรงหน้า หัวใจของเด็กชายเต้นระรัวเต็มไปด้วยความหวั่นกลัวจนสองมือของวิลชื้นเหงื่อ ปลายนิ้วราวถึงเท้าเย็นยะเยือกกว่าเดิมภายในวันที่หิมะตกหนักยิ่งเสียกว่าวันไหน

    เขากลัว

    กลัวจนแทบจะขยับขาไม่ออกเลยด้วยซ้ำ

    "ถ้ายอมมาดีๆพวกเราอาจจะไม่รีดไถเงินจากพ่อแม่แกเยอะก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ!" เสียงหัวเราะลั่นของพวกมันยังคงดำเนินต่อไป 

    นัยน์ตาสีน้ำข้าวของมารีหรี่ตาลง ริมฝีปากเม้มแน่น---ดวงตาก้มมองสองมือที่ไร้ทั้งแรงและพลัง ชั่วขณะหนึ่งที่ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาแต่ก็ดับวูบลงไปยามเมื่อหล่อนเหลือบไปมองใบหน้างดงามของเด็กชายจากด้านหลังที่กายเนื้อยังคงแข็งค้าง ร่างนั้นสั่นไม่หยุด

    ฝีเท้าของพวกมันกำลังคลืบคลานเข้ามาใกล้เต็มทีแล้ว

    เด็กหญิงกัดริมฝีปากของตัวเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ศีรษะของมารีก้มลง และในท้ายที่สุดยามเมื่อหล่อนเงยใบหน้าขึ้นมาอีกครา น้ำเสียงที่หนักแน่นก็เอื้อนเอ่ยออกมาจากริมฝีปากเล็กๆของเธอ

    "คุณเชนไฮน์ ถอยไปข้างหลังทีนะคะ" มารีเอ่ย นัยน์ตาสีน้ำข้าวของหล่อนหันมามองเขา "แล้วก็หลับตาด้วย ฉัน...เอ่อ---ฉันมีเพลงที่อยากจะให้คุณลองฟังด้วย ถ้ามันเพราะก็ช่วยบอกทีนะคะ"

    มันดังพอที่จะทำให้วิลยอมถอยไปตามคำสั่งของมารี

    วิลก้าวถอยไปจนสุดกำแพง เขามองเห็นแผ่นหลังของเด็กหญิงที่ยืนประจันหน้ากับร่างของชายฉกรรจ์เพียงตัวคนเดียว---เสียงหัวเราะเย้ยหยันของพวกมันดังขึ้นเมื่อเห็นว่ามารีนั้นยืนอยู่เพียงคนเดียว

    "เด็กผู้หญิงแบบแกจะทำอะไรพวกข้าได้ ถอยไปดีกว่ามั้ง!!"

    "แหมๆ แกกับไอ้เด็กนั่นดูท่าจะรักกันดีนิ!!"

    "ยังไม่ถอยไปอีกเหรอวะ!!"

    บรรยากาศหนาวยะเยือกลง---มารีสบสายตากับพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งกระตุกเลือดขึ้นหน้าด้วยความโมโห กลิ่นสุราของพวกมันปะปนไปในอากาศขณะที่หนึ่งในนั้นเงื้อหมัดขึ้นสูง เตรียมจะพุ่งเข้าไปชกที่ใบหน้าของเด็กหญิงตัวเล็ก

    "ยังไม่ถอยไปอีกเหรอห๊ะ อีนี่!!"

    วิลหลับตาแน่นขึ้นมาเมื่อเห็นภาพเหล่านั้น

    และในทันใดนั้น---สุรเสียงแห่งท่วงทำนองก็ดังขึ้น

    "You better watch out , You better not cry"

    ไม่มีเสียงชกต่อย มีเพียงแค่บทเพลงที่เริ่มขับร้องออกมาจากริมฝีปากเล็กๆของมารี---ภาพทิวทัศน์ของวิลที่มืดสนิทเริ่มค่อยๆกระจ่างชัดขึ้นเมื่อเด็กชายค่อยๆลืมตาของตนขึ้นมองภาพเหล่านั้น

    ---วิลเบิกตากว้าง

    ไม่มีแม้แต่ซุ่มเสียงกรีดร้องของชายฉกรรจ์ หนึ่งในร่างที่พยายามจะทำร้ายเด็กสาวกระเด็นไปติดอยู่ที่กำแพงอิฐแดงที่เย็นเฉียบด้วยแรงลมมหาศาล---ก่อนที่ไม่นานนักร่างของมันจะถูกตรึงด้วยน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นเพื่อพันธนาการร่างของเหล่าผู้ใหญ่นิสัยไม่ดีเอาไว้

    โดยไม่แม้แต่จะปล่อยให้ชายทั้งสองหายตกใจอีกต่อไป ฝีเท้าของมารีก้าวเดินไปยังข้างหน้า---

    "Better not pout I'm telling you why-"

    ร่างของชายฉกรรจ์อีกคนล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อแท่งน้ำแข็งจำนวนมากผุดขึ้นมาจากผืนดินขณะที่เขาพยายามจะก้าวถอยหลังออกจากตรอกไป แต่แล้วน้ำแข็งพวกนั้นก็ก่อตัวขึ้นตรึงร่างของชายอีกคนไว้กับพื้นหิมะที่เย็นเฉียบ

    ชายฉกรรจ์คนสุดท้ายที่ยังไม่ถูกตรึงด้วยน้ำแข็งส่งเสียงกรีดร้อง

    "แกมันปีศาจ ปีศาจชัดๆ!!"

    ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องมองไปยังชายผู้นั้น

    และแล้วท่อนสุดท้ายยังช่วงแรกของเพลงก็ขับขานขึ้นมา

    " Santa Claus is coming to town -"

    สิ้นเสียงพร้อมกับชี้นิ้วไปยังคนผู้นั้น น้ำแข็งก็ก่อตัวขึ้นตรึงขาของชายฉกรรจ์คนสุดท้ายเอาไว้--- เขาส่งเสียงกรีดร้องที่แผ่วเบาจนสลบเหมือดไปดั่งเช่นชายฉกรรจ์คนอื่นๆ มารีลดมือของตนลง ร่างทั้งร่างของเด็กหญิงเรือนผมสั้นสีขาวค่อยๆหันไปมองร่างของวิลที่นิ่งเงียบ ท่าทางคล้ายจะแข็งค้างไป

    มารีจ้องมองนิ่ง นัยน์ตาสีน้ำข้าวสบสายตากับวิลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนี

    มือข้างซ้ายกำแขนข้างขวาของตนแน่น

    "ฉัน...ไปก่อนนะคะ-" เด็กหญิงเอ่ย แต่ไม่ทันไรที่จะก้าวเท้าออกไปมือของวิลก็คว้ามือของเธอเอาไว้

    "เดี๋ยวสิ อย่าพึ่งไปเชียวนะ!" เสียงตะโกนของเด็กชายและมือของเขาที่รั้งเธอเอาไว้ทำให้มารีเงยหน้ายอมสบสายตากับเขา แม้วิลจะไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาไม่รู้สึกชอบใจสักนิดที่มารีจะหนีไปเช่นนี้ "ไหนเธอสัญญาว่าจะช่วยฉันไปหาครอบครัวไงยัยบ้า!"

    ดวงตาสีน้ำข้าวกระพริบตาปริบ แล้วน้ำเสียงแผ่วเบาก็ลอดออกมาจากริมฝีปากของมารีอีกครั้ง

    "คุณเชนไฮน์...ไม่กลัวฉันหรือคะ?" เด็กหญิงเอ่ยเสียงแผ่ว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นวิลก็ยังคงได้ยินในสิ่งที่มารีพูดออกมาอยู่ดี "ไม่คิดว่าฉันเป็นสัตว์ประหลาด...เหรอคะ?"

    วิล เชนไฮน์คิ้วกระตุก

    "ห๋า? ฉันจะไปกลัวเธอทำไมกันเล่า" วิลเอ่ยเสียงแข็งจนมารีชะงัก ใบหน้าของเด็กหญิงปนเปไปด้วยความรู้หลากหลายอารมณ์เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาจากเขา "ทั้งร่ายเวทมนตร์ออกโดยไม่ใช้คฑา แถมยังปกป้องฉันเอาไว้อีกต่างหาก!"

    "-แล้วแบบนี้เธอจะเป็นสัตว์ประหลาดได้ยังไงกัน!?"

    "..."

    วิลค่อยๆเงียบลงเมื่อเห็นมารีไม่พูดอะไรออกมา สมองของเด็กวัยเก้าขวบยุ่งเหยิง---นี่เขาว่าเธอแรงเกินไปรึเปล่านะ?

    แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรหยดน้ำกลมโตก็ไหลรินออกมาจากเบ้าตาสีน้ำขข้าวของมารี

    วิลเบิกตากว้างยามเมื่อเริ่มได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นออกมาจากลำคอของมารี--- เด็กหญิงพยายามปาดน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า แตต่ไม่ว่าจะพยายามเสียเท่าไหร่น้ำตาพวกนี้ก็ไม่หยุดไหลลงมาเสียที ซ้ำยังมีแต่จะไหลรินลงมามากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

    "ขอบคุณค่ะ...ขอบ...คุณ-" มารีร้องไห้ เสียงสะอื้นเปล่งออกมาจากลำคอเป็นระยะๆ "ขอบคุณ--...ที่ไม่รังเกียจฉัน---...นะคะ-"

    วิลเลิ่กลั่ก

    "ฉะ ฉันไม่รังเกียจเธอหรอกน่า!" เด็กชายกล่าว เขาเร่งร้อนควานหาอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อโค้ท ก่อนที่ไม่นานนักจะวางมันลงบนมือของเธอ "เอ้านี่ เอาไปเช็ดน้ำตาซะ"

    มารีก้มมองผ้าเช็ดหน้าที่มีลายปักเป็นรูปมองกุฎอยู่ที่หัวมุมล่างด้านขวาของผ้าเช็ดหน้า

    เด็กหญิงค่อยจับมันอย่างทะนุถนอม ศีรษะน้อยๆของมารีเงยหน้ามองวิลที่จ้องเขม็งมาที่เธอด้วยสายตาที่ราวกับจะบอกว่า'รีบๆใช้ผ้าเช็ดหน้านั่นซะ เดี๋ยวนี้เลย!'

    "..."

    เด็กหญิงใช้ผ้าเช็ดหน้าของวิลเช็ดน้ำตาจนหมดแล้วส่งคืนให้เขา

    ใบหน้าของมารีกลายเป็นสีแดงราวกับผลแอปเปิ้ลมากขึ้นไปอีกหลังจากการร้องไห้ ปลายจมูกของเด็กสาวกลายเป็นสีแดงอมชมพูจากอากาศหนาวและคราบน้ำตา นัยน์ตาสีน้ำข้าวมองวิลนิ่งอยู่สักพัก---ไม่นานนัก ริมฝีปากก็เปล่งเสียงแผ่วออกมา

    "...ขอกอดหน่อยได้ไหมคะ?"

    "แล้วทำไมต้องกอดด้วยล่ะ?" เด็กชายเลิกคิ้ว

    "แค่อยากกอดน่ะค่ะ..." มารีกล่าวเสียงค่อย

    วิลมองใบหน้าของเด็กหญิงที่แววตาไร้ซึ่งจุดประสงค์แฝงใดๆทั้งสิ้น มองดูใบหน้าซึมๆอยู่ได้ไม่นานก็เบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกเหมือนเลือดจะสูบฉีดขึ้นไปบนใบหน้าจนร้อนอบอ้าวมากขึ้นเรื่อยๆ

    สองแขนของวิลอ้าออก

    "เอ้า มากอดสิ" วิลเอ่ย

    มารีสวมกอดของเขาอย่างแผ่วเบาก่อนจะฝุบศีรษะลงไป

    วิลได้ยินเสียงหัวใจของมารีที่เต้นระรัวแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แขนและมือสองมือภายในเสื้อกันหนาวของมารีดูจะเล็กกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากนักแม้หล่อนจะมีส่วนสูงที่มากกว่าเขาก็ตาม

    แขนเล็กจัง...ดูบอบบางกว่าที่คิดซะอีก- วิลคิดเช่นนั้น

    เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าพลังเวทย์แสนงดงาม(?)ที่มารีมีมันไม่เหมาะกับร่างกายที่ดูผอมแห้งแรงน้อยแบบนี้เอาซะเลย 

    เสียงหัวใจยังคงเต้นระรัวจนเขาไม่มั่นใจแล้วว่าเสียงหัวใจนี้จะเป็นของตนเองหรือมารีกันแน่ แต่ไม่นานนักสองแขนและสองมือเล็กๆของหล่อนก็ออกมาจากอ้อมกอดของเด็กชาย ดูเหมือนว่ามารีนั้นจะอารมณ์คงที่ขึ้นแล้วหลังจากที่ได้กอด---สีหน้าและแววตาจึงกลับมาเป็นเหมือนคราแรกที่พวกเขาเจอกันอีกครา

    แต่ว่า...ตอนนี้แววตาของมารีก็ดูแตกต่างไปจากเดิมในครั้งแรกอยู่นิดหน่อย

    ราวกับว่ามันดูกระจ่างใส---

    "วิล!!"

    เสียงเรียกที่คุ้นเคยจากผู้เป็นสมาชิกครอบครัวของเขาดังขึ้นมาจากบริเวณใกล้ๆนี้

    วิลหันกลับไปยังทางออกของตรอก---เสียงของสมาชิกภายในครอบครัวของเขากำลังส่งเสียงร้องเรียกเพื่อออกตามหาหลังจากที่เรื่องร้ายๆจบลง ขาทั้งสองของเด็กชายที่หมายกำลังจะก้าวออกไปตามเสียงหยุดชะงักลงเมื่อเห็นว่าร่างของมารียังยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

    เด็กชายหันมามองเธอ

    "ทำไมยังอยู่ตรงนั้นอีกล่ะ" วิลกล่าว นัยน์ตาสีม่วงอ่อนมองไปยังร่างของมารีที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น "ออกมาด้วยกันสิ"

    มารีส่ายหน้า

    "ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปทีหลังเอง" เด็กหญิงเรือนผมสีขาวสั้นกล่าวด้วยสุรเสียงที่อ่อนโยน "วิลออกไปก่อนเถอะนะคะ คุณผู้ปกครองออกมาตามหาแล้วนี่น่า"

    วิลมองมารีที่ยังไม่ขยับเขยื้อนออกไปจากจุดเดิม

    มารีมองวิลแล้วยิ้มสู้(?)

    "ก็ได้" วิลถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ใบหน้าของเด็กชายตัดสินใจหันมามองครั้งสุดท้ายก่อนจะจากไป "ไว้เจอกันใหม่นะ มารี"

    "ไว้เจอกันใหม่ค่ะ" เธอยังคงยิ้มด้วยใบหน้าอ่อนโยนอยู่แบบนั้น "เมอร์รี่คริสมาสต์นะคะ"

    เด็กชายภายในชุดเสื้อโค้ทหันหลังเดินจากไป รองเท้าบูทชั้นดีเหยียบย่ำลงบนพื้นหิมะที่ภายในวันนี้หิมะช่างร่วงหล่นลงมาอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่ไม่นานนักฝีเท้าของวิลจะยิ่งไวขึ้นเมื่อเขารีบสาวเท้าไปหลังจากที่เห็นคนภายในครอบครัวอยู่อีกไม่ไกล

    แต่กระนั้น ฝีเท้าของเด็กชายก็ได้หยุดลงเมื่อใบหน้าของมารีปรากฏขึ้นมาภายในหัว

    วิลหันหลังกลับไป

    ยังตรอกตันแห่งนั้นเต็มไปด้วยซึ่งร่างของอันธพาลทั้งสามคนที่ถูกตรงเอาไว้ด้วยน้ำแข็ง ร่องรอยการต่อสู้มากมายปรากฏอยู่ให้เห็นตามจุดต่างๆบนผนังระหว่างตรอก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นกลับไร้ซึ่งตัวการผู้เป็นเพียงแค่เด็กหญิงร่างเล็กอย่างผิดวิสัย

    มารีได้หายไปแล้ว

    ไม่มีร่องรอยของเท้าที่เหยียบลงบนผืนหิมะ ไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยของการเดินออกมาจากจุดเดิมที่ซึ่งมารีเคยยืนอยู่ หลงเหลือไว้เพียงน้ำแข็งที่เริ่มละลายเมื่อเวลาผ่านผันไปเพียงเท่านั้น

    วิลนิ่งงันอยู่เสียชั่วครู่หนึ่งเมื่อได้มองไปยังที่ๆมารีเคยยืนอยู่ ยังที่ๆเด็กหญิงผู้แสนกล้าหาญและใจดีเคยมอบรอยยิ้มให้แก่เด็กชายตัวจ้อย 

    ชั่วขณะหนึ่งเด็กชายเกิดความรู้สึกโหยหาขึ้นมา

    เขาไม่รู้เลยว่ามารีจะหายไปแบบกระทันหันเช่นนี้ หากรู้ว่าจะหายไปแบบนี้เขาคงรั้งอีกฝ่ายเอาไว้แล้วให้บังคับออกมาจากตรอกด้วยกัน หรือหากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้เขาก็อยากจะขอบคุณเธอเรื่องที่ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ให้มากกว่านี้

    หรือบางที...

    เขาก็ควรจะรั้งมารีให้อยู่ที่นี่





    "ขอบคุณที่มาช่วยตัดผมให้จริงๆนะคะ

    เสียงของมารีเอ่ยขึ้นยามเมื่อมองไปยังภาพสะท้อนของตนด้วยสีหน้าพึงพอใจ ขณะที่มือข้างหนึ่งของวิล เชนไฮน์ถือกรรไกรตัดผมเอาไว้

    วันที่25ธันวาคม ค.ศ xxxx ภายในแต่งตัวของหอพอมฟิโอเร่ บัดนี้มือของวิลกำลังบรรจงตัดแต่งผมให้แก่เด็กสาวตัวจ้อยกลายเป็นทรงอย่างที่มารีปรารถนา

    หลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างได้ถูกเปิดเผย มารีก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เครื่องแบบของนักเรียนหญิงและกลับมาเอื้อนเอ่ยด้วยคำลงท้ายว่าค่ะ แทบจะทุกประโยค(แน่นอนว่าช่วงแรกๆไม่มีใครชินสักราย) แต่ว่าพอเวลาผ่านไปเมื่อทุกสิ่งเริ่มลงตัวผู้คนภายในสถาบันไนท์เรเวนคอลเลจก็เริ่มชินชากับการที่มีนักเรียนหญิงเพียงคนเดียวเดินเล่นไปมาแล้วเสียที

    ฉับ ฉับ ฉับ

    "เธอควรจะดูแลผมของตัวเองให้มากกว่านี้นะมารี" วิลกล่าว ใบหน้าของหัวหน้าหอแห่งพอมฟิโอเร่ขมวดคิ้วเป็นปมขณะที่มือยังคงบังคับขยับกรรไกร "แล้วนี่ได้ใช้ยาสระผมที่ฉันเอาให้ไปแล้วใช่ไหม?"

    "อ่ะ ใช้ไปแล้วค่ะ!" มารีแหงนหน้าขึ้น

    "อย่าหงายแบบนี้สิ เดี๋ยวเสียทรงกันพอดี"

    วิลจัดศีรษะของหล่อนไม่ให้หงายโดยทันที

    หลังจากที่ผ่านการตัดผมไปจนเสร็จสิ้นลุล่วง วิลก็จัดการเช็คสภาพผมของหล่อนอีกสักเล็กน้อยก่อนจะดึงผ้าสีขาวที่ห้อมล้อมร่างของมารีเอาไว้ ใบหน้าของเด็กสาวดูเปล่งประกายยามเมื่อได้มองเห็นรูปลักษณ์เดิมเมื่อครั้งยังเด็กของตัวเองภายในกระจกที่วิลยื่นให้

    "ฉันดูดีมากเลยใช่ไหมคะรุ่นพี่วิล" มารีเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พยายามจะหยิบเส้นผมที่ร่วงลงมาติดใบหน้าสุดความสาามารถ

    วิลมองมารีก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้

    "ไม่ใช่แค่ดูดี งดงามต่างหาก เป็นถึงฝีมือของฉันคนนี้เชียวนะ--" เขากล่าว ขยับรอยยิ้มบนใบหน้าดั่งทุกครั้ง "แต่จะให้ดีต้องใช้เครื่องหนีบผมด้วยล่ะ เดี๋ยวฉันให้เธอยืมแล้วกัน"

    เด็กสาวหัวเราะเบาๆ

    "เข้าใจแล้วค่ะ---ขอบคุณมากเลยนะคะ" มารีฉีกยิ้มสดใสก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้าสีม่วงอ่อนที่มีลายปักเป็นมงกุฎอันเล็กๆอยู่ที่หัวมุมล่างด้านขวามาเช็ดหน้าโดยไม่ได้เอะใจอะไร "อ๊ะ จริงสิ ค่ำนี้ฉันว่าจะจัดงานเลี้ยงคริสมาสต์ด้วยนะคะ สนใจไปร่วมงานไหมคะรุ่นพี่?"

    มารีมองวิลที่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย

    "งานเลี้ยงคริสมาสต์ มันคืออะไรอย่างงั้นหรือ?"

    "เป็นเทศกาลในโลกเดิมของฉันน่ะค่ะ" มารีเริ่มเอ่ยอธิบายขณะที่จับปอยผมสั้นของตัวเองด้วยความไม่คุ้นชิน "เป็นเทศกาลที่ซานตาครอส คุณลุงผู้แสนใจดีจะมาแจกของขวัญที่เด็กๆอยากได้ผ่านทางปล่องไฟค่ะ"

    "แบบนั้นนี่เอง" ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นโมเดลระดับโลกกล่าว สีหน้าจริงจังปรากฏขึ้นมา "แต่มันคงไม่มีอะไรแบบนั้นภายในโลกใบนี้หรอก มีแต่ต้องพยายามเท่านั้นถึงจะไขว่คว้าเอามาได้" 

    ใช่แล้ว...มีเพียงแค่หนทางนี้เท่านั้นถึงจะสามารถไขว่คว้าสิ่งที่ปรารถนาให้เอามาอยู่ภายในกำมือได้

    วิลมองไปยังมารีที่หลับตาลง

    "นั่นสินะคะ" เด็กสาวเรือนผมบ็อบสั้นสีขาวกล่าว รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า---ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอตอบคำถามนั้นไป "แต่ถ้า...เกิดขอได้ขึ้นมาจริงๆรุ่นพี่จะขออะไรหรือคะ?"

    ชั่วขณะหนึ่งที่ดวงตาสีอเมทิสต์หรี่ตาลงโดยไร้ซึ่งนัยน์ตาจนน่ากลัวโดยที่มารีไม่ทันได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย

    "ถ้าเป็นฉัน..." วิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเช่นเดิมของตนพร้อมรอยยิ้ม มือเอื้อมจับเส้นผมสีขาวนุ่มของมารีอย่างอ่อนโยนเหมือนอย่างเคย ทว่าบรรยากาศกลับแปลกตาลง "คงจะขอให้ตัวเองงดงามยิ่งๆขึ้นไปอีกล่ะมั้ง?"

    งดงามจนสะกดสายตาของเธอเอาไว้ เพื่อที่เธอจะได้เดินมาอยู่เคียงข้าง

    นัยน์ตาสีอเมทิสต์สะท้อนมองไปยังมารี

    หากเป็นเช่นนั้น---แม้ต่อให้จะไม่มีโซ่ตรวนคอยเหนี่ยวรั้งเอาไว้

    "ขอบคุณที่ตอบนะคะ สมเป็นรุ่นพี่มากเลยล่ะ"

    วิลหรี่ตาลง

    เธอเองก็จะไม่มีทางหนีไปจากฉันได้-

    ริมฝีปากของเขาแสยะยิ้มขึ้นภายในเสี้ยววินาที

    "แน่นอนอยู่แล้ว ทั้งหมดก็เพื่อให้ฉันงดงามจนแม้แต่เธอยังต้องเหลียวตามองมากกว่าเดิมเลยล่ะ"

    เหมือนในตอนนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง

    ***

    ห๊ะ อะไรนะคะ? สงสัยเหรอว่าทำไมจู่ๆมันถึงดาร์กลง---เพราะจริงๆไรท์ชอบคุณวิลสายยันยังไงล่ะคะ(แฮะๆ) และส่วนมากก็ค่อนข้างชอบตัวละครทวิสเตดในแบบที่ค่อนไปทางยันเดเระซะส่วนใหญ่ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ไรท์ไม่มีทางแต่งให้ถึงขนาดต้องเฉือนเนื้อเฉือนเลือดกันหรอกค่ะ ไม่ค่อยใช้แนวตัวเองเท่าไหร่

    สำหรับตอนพิเศษแนวตัวละคร x OC แนวนอมอลแบบนี้พึ่งเคยลองแต่งได้ไม่ค่อยนานเท่าไหร่ ปกติแล้วไรท์เสพผลงานแนวนี้จากนักเขียนท่านอื่นและสายผลิตคนอื่นมาโดยตลอดเลย เพราะงั้นฟิคนี้กับอีกหลายๆฟิคฝีมือการบรรยายฉากรักๆใคร่ๆไรท์จึงไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แต่จะพยายามพัฒนาต่อไปภายในส่วนนี้นะคะ

    ปล. สำหรับตอนพิเศษอันนี้ พอมารี(9ขวบ)กลับไปที่โลกเดิมก็จำอะไรเกี่ยวกับคุณวิลไม่ได้เลยค่ะ แต่คุณวิลเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะยังไงถึงจะจำไม่ได้แต่ตอนนี้ก็เก็บเอาไว้ข้างๆตัวได้แล้ว(?)ยังไงล่ะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×