ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : บทเสริมพิเศษ สะวันน่าห์คลอ : เด็กสาว การรับใช้ กับวิถีชีวิตขององค์ชาย (บทกลาง)
1.บทเสริมฯนี้สปอยเหตุการณ์บางส่วนช่วงท้ายเรื่องที่ถูกปรับเปลี่ยนไปจากต้นฉบับ (และมีทามไลน์อยู่ที่หลังบทสองของเกม)
2.บทเสริมนี้ฯ สปอยความสัมพันธ์ระหว่างมารีกับวิล เชนไฮน์ และมารีกับ รักกี้ บุชชี่** บางส่วนเล็กน้อย
3.นี่ไม่ใช่ตอน เลโอน่า x OC(มารี) หากเป็นแนวตอน ตัวละคร x OC(มารี) จะมีติดไว้ท้ายชื่อตอนทุกครั้ง
4.บทเสริมฯนี้ลงสลับกับเนื้อเรื่องหลักเพื่อไม่ให้ขาดช่วงค่ะ
5.วางสติลงซักประเดี๋ยว ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรและถือกาวขึ้นมาสูดก็พอ
**ปล. ขออนุญาตแก้ไขชื่อจากรากี้ กลายเป็นรักกี้(Ruggie) เนื่องจากตะขิดตะขวงใจในชื่อรากี้พอสมควร(จริงๆไรท์งงมากว่าจะเขียนแบบไหน รากี้ รักกี้? แต่คิดว่าของรักกี้ยึดตามอิ้งน่าจะดีกว่าเสียงภาษาญี่ปุ่น) เพราะงั้นหลังจากปล่อยตอนนี้เสร็จจะกลับไปแก้ตอนบทเสริมก่อนหน้านั้นค่ะ
หากรีดเดอร์ทุกท่านอ่านข้อตกลงและรับทราบแล้ว ไม่ต้องอะไรมากและอ่านได้เลยค่ะ!
บทเสริมพิเศษ สะวันน่าห์คลอ : เด็กสาว การรับใช้ วิถีชีวิตขององค์ชาย (บทกลาง)
About : อบอุ่นหัวใจ , กาว , กาว , คอเมดี้
***
"จะขอเดินตามแผ่นหลังของคุณไป
เพื่อในซักวันที่ล้ม เมื่อร่างของคุณร่วงหล่น
มือของฉันจะประคองมันเอาไว้"
***
"แล้วมารีหายไปไหนซะล่ะ?"
ภายในโรงอาหารที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยเหล่าผู้คนมามาย เสียงของเอซดังขึ้นมาขณะที่วางถาดอาหารลงใกล้ๆกับกริมม์ เจ้าปีศาจรูปลักษณ์แมวสีดำที่กำลังนั่งทานทูน่ากระป๋องอยู่
"ง่ำ--เห็นบอกว่าจะไปหาเสบียงเข้าหอน่ะ" มันกล่าวขณะที่ทานทูน่ากระป๋อง "เก็บของไปเมื่อเช้าแล้วก็ออกจากห้องไปเลย"
"ไปทำงานพิเศษเหรอ? แต่ไม่เห็นต้องย้ายของออกไปจากห้องเลยนี่น่า" ดิวซ์เอ่ยขณะที่กวาดสายตามองหาเพื่อนในกลุ่มของเขาไปรอบๆ แต่ท่ามกลางโรงอาหารที่เต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่านเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่ยากลำบากนัก
"น่าสงสัยชะมัดเลย–" เสียงของเอซดังขึ้นขณะที่เท้าคาง ดวงตาสีแสดกวาดตามองผู้คนรอบๆโรงอาหารก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับเจ้าของเรือนผมสีขาวยาวที่เดินฝ่าฝูงชนออกไป
"จ้องไปทางอื่นขนาดนี้มีอะไรรึไงเอซ?" เสียงของกริมม์เอ่ยถาม "จ้องซะจนตาเจ้าจะหลุดออกจากเบ้าอยู่แล้ว"
"ตะกี้ฉันเหมือนจะเห็นหมอนั่นยังไงชอบกล" คำพูดของเอซเรียกความสนใจจากเพื่อน(และคู่แข่ง)ของเขาอีกสองคน ขณะที่มือของชายหนุ่มยกถาดจานอาหารที่เหลือเพียงแค่คราบเท่านั้น "ไปดูกัน ฉันรู้สึกได้ว่ามีต้องมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นแหงๆ"
"เดี๋ยวสิ แบบนั้นจะไม่เป็นการขัดขวางงานพิเศษของมารีไปหน่อยรึไง?" เสียงของดิวซ์เอ่ย แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงความรู้สึกสงสัยคาใจอยู่จนเผลอพึมพำออกมาเสียงเบา "ถึงผมจะรู้สึกสงสัยอยู่นิดหน่อยด้วยก็เถอะ..."
"ออกจะน่าสนุก อีกอย่างตัวข้าผู้นี้คิดว่ามารีก็คงไม่ได้ว่าอะไรหรอกน่า!" กริมม์กอดอก ใบหน้าของมันนึกถึงเด็ก(สาว)หนุ่มเรือนผมสีขาวที่แทบจะไม่เคยดุด่ามันจริงๆจังๆเลยซักครั้ง "ว่าแต่เจ้านั่นมันไปทางไหนซะแล้วล่ะเอซ?"
"เหมือนว่าจะไปที่เรือนกระจกนะ" เอซเอ่ยขึ้น ใบหน้านั้นฉีกยิ้มร้ายกาจออกมา "ไปดูกันเถอะว่าหมอนั่นทำอะไรอยู่น่ะ!"
พวกเขารีบลุกออกจากโต๊ะอาหาร มุ่งตามร่างของเด็ก(สาว)หนุ่มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็---ไม่สิ นี่น่ะไม่ใช่แค่ความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นหรอกนะ! แต่ว่าเป็นห่วงต่างหากล่ะ ใช่แล้ว เป็นห่วง!
เอาล่ะ รีบตามไปกันเถอะ!
***
เรือนกระจก - เวลายามเที่ยงแดดจ้า
"ดิวซ์ อย่ามาเบียดตัวข้าสิ...!"
"ผมก็อยู่ตรงนี้แล้วนะ นายนั่นแหละอย่าโลภที่มากจะได้ไหม?"
"พวกนายสองคนเบาๆหน่อยสิ---!" เสียงของเอซดังขึ้นด้วยน้ำเสียงกระซิบ เรียกความสนใจจากอีกสองคนที่แอบแนบชิดเบียดกันอยู่ภายในซอกมุมหนึ่งของเรือนกระจก "หมอนั่นเดินมาแล้วนะ"
"ไหนๆ--" ใบหน้าของกริมม์ที่ลอยอยู่นั้นเบียดเสียดเข้าหาเอซและดิวซ์ที่ขนาบข้าง
ภายในเรือนกระจกที่แสนกว้างใหญ่ รายล้อมไปด้วยพืชพันธ์นานาชนิดมากมายใต้หลังคากระจกโปร่งใสที่เห็นท้องฟ้าได้อย่างแจ่มชัด พวกเขาสามคนตัดสินใจที่จะแอบตามร่างของมารีที่เดินเข้ามาที่นี่ภายในสภาพชุดนักเรียนกับอ้อมแขนของเจ้าตัวที่ถืออะไรบางเอาไว้ของถุงสองสามถุงที่อยู่ด้านบนกับอะไรลางๆที่พวกเขามองไม่เห็นอีกนิดหน่อย
"เจ้านั่นจะหนีมากินข้าวคนเดียวรึไงนะ?" เสียงของกริมม์พึมพำ ท่าทางสายตาที่มองไปดูจับผิดปนระคนสงสัยในระดับหนึ่ง "โอ๊ะ เดินไปนู่นแล้ว"
"ตรงนั้นมีอะไรกันแน่นะ?" เสียงของดิวซ์พึมพำ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นพุ่งตรงเข้ามาก่อนที่ดวงตาสีฟ้าเหลือบมรกตจะสังเกตเห็นร่างของใครอีกคนที่อยู่ด้วยกันกับมารี "เอ๊ะ มีใครอีกคนอยู่ตรงนั้นด้วย?"
"ไหน ฉันขอดูหน่อย--" เอซพยายามจะดันของตัวเองไปยังฝั่งขวาที่ดิวซ์นั้นซุ่มตัวอยู่
"อย่าเบียดมาเยอะสิเฮ้ย---" ดิวซ์นั้นได้กล่าวไว้
บัดนี้หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนปรับเปลี่ยนท่าแอบเรียบร้อยครานี้ก็จะได้เห็นขนัดตาขึ้นมาบ้างเสียที ดวงตาของคนทั้งสามคู่นั้นจ้องมองไปยังร่างของเด็ก(สาว)หนุ่มที่อยู่ไกลพอควรแต่ก็ยังคงพอเห็นภาพได้ลางๆ มือของมารีนั้นเปิดกล่องก่อนจะส้อมขึ้นมาแล้วจิ้มลงไปที่อะไรบางอย่าง(พวกเขาเห็นไม่ชัด) ก่อนที่คนอีกคนที่พวกเขามองไม่ค่อยเห็นจะยันตัวขึ้นมาแล้วทานเจ้าสิ่งที่ส้อมนั้นจิ้มอยู่เข้าไป ก่อนที่มารีจะจิ้มใหม่แล้วยื่นให้อีกฝ่ายทานอีกหลายๆรอบ
ท่ามกลางความงุนงงของพวกนั้น กริมม์ที่ดูเหมือนสายตาจะดีที่สุดพยายามเพ่งมองแล้วเพ่งมองอีกจนจับสังเกตได้ถึงอะไรบางอย่าง
"ฟุน๊า---ตัวข้าผู้นี้คิดว่าทรงผมนั่นดูคุ้นๆนะ" มันเอ่ยเช่นนั้นออกมา "เหมือนจะมีหู...ด้วย?"
"หูเหรอ?" ดิวซ์เอียงคอ ท่าทางนั้นดูงุนงงเพราะไม่รู้ว่ากริมม์เอ่ยถึงอะไร
"หูเหรอ มารีไปยุ่งกับพวกสะวันน่าห์คลอรึไง---เดี๋ยวนะ" เสียงของเด็กหนุ่มเรือนผมสีแสดดังขึ้น ดวงตาของผู้มีสัญลักษณ์หัวใจบนบริเวณตาของเขานั้นเบิกตากว้างทำท่าว่าจะนึกถึงอะไรซักอย่างออก "หรือว่า---!?"
"มาแอบมองพวกฉันอยู่ตรงนี้นี่เองสินะเจ้าพวกสัตว์กินพืช"
"แอบมองคนอื่นแบบนี้มันดูไม่งามนะ"
เสียงจากสองฝั่งซ้ายขวาดังขึ้นมาจากด้านหลังของสองมนุษย์และปีศาจอีกหนึ่งตัวที่บัดนี้ภาพสายตาที่โฟกัสไปด้านหน้ากลับไม่พบกับร่างของใครเลยแม้แต่น้อย ร่างของทั้งสามแข็งทื่อขณะที่ค่อยๆหันหลังไปมองหนึ่งราชสีห์จอมขี้เกียจกับอีกหนึ่งเด็กหนุ่มเรือนผมสีขาวยาวภายในชุดเครื่องแบบนักเรียนถูกระเบียบแสนเรียบร้อย เรือนผมของมารีบัดนี้ถูกเปียเดี่ยวพาดไว้ที่บริเวณบ่า ใบหน้าของเด็ก(สาว)หนุ่มยิ้มแย้มขณะที่เลโอน่าจ้องเขม็งมาทางพวกเขาสามคน
"หยึ๊ย..." เสียงของกริมม์ลอดออกมาจากริมฝีปากขณะที่เอซกับดิวซ์อยู่ในสภาวะร่างแข็ง
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะซวยซะแล้วสิ?
"สรุปว่า..." เสียงของดิวซ์ดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแสนสงบสุขภายในเรือนกระจก "มารีรับจ๊อบเสริมแทนรุ่นพี่บุชชี่ที่ป่วยอย่างงั้นหรือครับ?"
มารีหยักหน้า
"ใช่แล้วล่ะ" มือของเด็ก(สาว)หนุ่มบรรจงใช้ส้อมจิ้มเนื้อย่างที่ส่งกลิ่นหอมออกมาขณะที่ยื่นใส่ปากของราชสีห์ที่มีลักษณะอาการทำสีหน้าเบื่อโลกอย่างเห็นได้ชัด เลโเอน่าปรือตาขึ้นมองมาทางสิ่งที่ถูกจิ้มอยู่บนส้อม เมื่อเห็นว่ามันคือเนื้อย่างก็ตัดสินใจนำเข้าปาก "รุ่นพี่คิงสกอล่าร์ สรุปว่าจะทานแต่เนื้อจริงๆเหรอครับ?"
"สัตว์กินเนื้อน่ะเขาไม่ทานผักกันหรอก" ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้จากปากราชสีห์เธอล่ะอยากจะกรอกตามองบนเสียจริง
นี่มันเด็กห้าขวบไม่ทานผักชัดๆ ทำได้แค่คิดแต่ไม่กล้าพูดออกไป นี่มันวัยต่อต้านผักไม่ผิดแน่!
"ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะ โล่งอกไปที" เธอมองเอซที่ถอนหายใจ สีหน้านั้นดูผ่อนคลายขึ้นเมื่อเห็นบรรยากาศระหว่างเธอกับรุ่นพี่คิงสกอล่าร์ที่ดูไม่ได้เลวร้ายกว่าที่คิด "ตอนเห็นครั้งนึกว่ามันจะเดือดกว่านี้"
"เดือดอะไรไม่ทราบ?" ดวงตาสีมรกตหรี่ตาลงก่อนจะชักสีหน้าขึ้น มารีมองทั้งสามคนที่สะดุ้งราวกับโดนของร้อนเมื่อเห็นสายตาแบบนั้นจ้องมองมา---ท่าทางแล้วคงเพราะไม่ชินสายตาที่ดุร้ายเหมือนเธอ ขืนเป็นแบบนี้มีหวังจากที่เลโอน่าทานเนื้อย่างอยู่น่าจะได้กลายเป็นทานใครซักคนในสามคนนี้แหงๆ
อีกอย่างอย่าพึ่งมาพูดอะไรที่ชวนให้นึกถึงเรื่องที่พึ่งจะเกิดขึ้นไปสดๆร้อนๆสิเฮ้ย!
"ไม่ต้องใส่ใจเรื่องนั้นหรอกน่า" มารีออกตัวห้ามทัพโดนพลัน ร่างของเด็กสาวเปลี่ยนมาอยู่ระหว่างหนึ่งราชสีห์กับอีกสามสหายของเธอ "เดี๋ยวรุ่นพี่รักกี้ก็ใกล้จะหายป่วยแล้วล่ะ ซักวันมะรืนนี้เดี๋ยวฉันก็กลับไปทานข้าวกับพวกนายแล้ว"
"เข้าใจล่ะ! อยู่กับเจ้าหมอนี่ก็ระวังตัวด้วยนะ" เด็กสาวพยักหน้าให้กับคำพูดของกริมม์ "ไว้จบงานนี้เอาทูน่ากลับมาฝากตัวข้าผู้นี้ด้วยล่ะ!"
"ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับมารี" เสียงที่ดูอ่อนโยนของดิวซ์เอ่ย ใบหน้าของเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินพยายามที่จะโฟกัสมาที่เธอมากกว่ามองไปยังคนที่อยู่ด้านหลังของเธอแทน "โชคดีนะ"
"ไปก่อนน้า---!" เอซกับคนอื่นๆโบกมือให้เธอ
"จ้าๆ"
ดวงตาสีน้ำข้าวเฝ้ามองพวกเขาที่ไปไกลจนสุดสายตา มือที่เคยเอื้อมโบกไม้โบกมือเองก็ค่อยๆหยุดลงก่อนที่ดวงตาของมารีจะหันกลับมองจ้ององค์ชายลำดับสองจากแดนทุ่งสนธยา ดวงตาสีน้ำข้าวของหล่อนมองลงไปที่กล่องข้าวสีขาวเรียบหรู เจ้าผักสีเขียวแดงสดใสยังคงค้างคาอยู่ภายในกล่อง
ด้วยความสงสัย และถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบแบบเดิมแต่มารีก็จะเอ่ยถามออกไป
"จะไม่กินจริงๆเหรอครับ ผักเนี่ย?" เอ่ยขึ้นพร้อมชี้ที่มะเขือเทศลูกเล็ก "เจ้ามะเขือเทศสีก็เหมือนกับเนื้อนะ"
"รสชาติมันต่างกันจะตาย" ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองมันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรกับเหล่าพืชผักเสียเลย "ของแบบนี้ฉันไม่อยากจะทานหรอกนะ"
"แต่ผักมีประโยชน์นะครับ ขนาดเชก้ายังกินได้เลย"
"นั่นมันเชก้า ไม่ใช่ฉัน" เธอมองพ่อราชสีห์ที่เบี่ยงหน้าไปทางอื่น "เลิกเซ้าซี้สักที ไปซื้อน้ำจากร้านแซมมาให้ฉันได้แล้ว"
"ไปซื้อมาแล้วล่ะ" กล่าวพลางหยิบน้ำออกมาจากถุง
"...ห้ะ?"
"กะไว้แล้วว่ารุ่นพี่จะต้องสั่งมาแบบนี้ก็เลยไม่ซื้อมาล่วงหน้าก่อนไว้แล้ว" เพราะรุ่นพี่รักกี้เคยเล่าให้เธอฟังยังไงล่ะ! "พึ่งซื้อมาไม่ถึงสิบนาที รับประกันว่ายังเย็นอยู่แน่นอนครับ!"
เลโอน่าเผลอขมวดคิ้ว มองเธออย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะตัดสินใจไม่พูดไม่จาแล้วยอมรับน้ำไป---แต่ไม่ถึงนาทีก็ยื่นขวดน้ำให้เธอกลับไป มารีมองด้วยสีหน้างุนงง แต่ไม่นานนักก็ได้คำตอบเมื่อมือของเลโอน่าทำท่าคล้ายจะหมุนฝา
"จะใช้ก็ใช้ให้คุ้มเลยสินะครับ?" เด็กสาวเอ่ยขณะที่หมุนฝาพร้อมทำหน้าราวกับว่า คิดไว้อยู่แล้วเชียว บางทีเธอควรจะมีพลังอ่านใจมากกว่าเจ้าพลังที่เธอมีอยู่จริงๆนั่นแหละ "นี่ครับ หมุนฝาให้เรียบร้อย แล้วจะให้ใช้ไปซื้ออะไรอีกไหมครับ?"
"ไม่ต้องแล้ว" เสียงของเลโอน่าเอ่ยขณะที่รับขวดน้ำซึ่งเปิดฝาเรียบร้อยมาจากเด็ก(สาว)หนุ่มผู้มีเรือนผมสีขาวราวกับขนกระต่าย ดวงตาปรายตามองมารีที่เก็บของอย่างเรียบร้อย ท่าทางแบบนั้นดูยังไงก็เหมือนกับคนรับใช้ที่รอฟังคำสั่งจากเจ้านายไม่มีผิด
แต่มองไปมองมาก็ให้อารมณ์สุนัจที่รอฟังคำสั่งจากเจ้านายเหมือนกัน
ท่าทางที่ดูไม่เหมือนกับตอนนั้น จะมองยังไงเขาก็ไม่รู้สึกชินเลยสักนิด
"ผมน่ะ เจ้านั่นตัดให้เหรอ?"
"ผม...?" ดวงตาสีมรกตมองเด็ก(สาว)หนุ่มที่จับปลายผมของตัวเองก่อนที่จะเพ่งมองดูดีๆ ภาพในความทรงปรากฏขึ้นมาทันทีที่มารีมองไปยังปลายผมที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยของตัวเอง "ครับ รุ่นพี่เชนไฮน์เขาจับตัดน่ะ สงสัยคงเพราะสภาพในตอนนั้นผมมันเละเทะสุดๆไปเลยล่ะ"
รอบที่แล้วก็ดี รอบนี้ก็ดี มารีคิดยามเมื่อใบหน้าของชายหนุ่มผู้งดงามปรากฏขึ้นมาภายในหัว ดูแลดีเกินไปจนรู้สึกเกรงใจเลยที่ไม่ได้ใส่ใจรูปลักษณ์ตัวเองมากขนาดนั้นสุดๆเลย
"แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นไหมครับรุ่นพี่คิงสกอล่าร์" เด็กสาวเอ่ยเมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีหัวข้อให้ชวนคุย แม้ว่าเหตุการณ์นั้นพึ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อไม่นานก็ตาม
"ดีขึ้นจากเมื่อวานเยอะ" เสียงของราชสีห์เอ่ย มารีรู้สึกขอบคุณที่เลโอน่าฟื้นตัวไวกว่าที่เธอคิด คงจะเพราะว่ามีสภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วย "แต่รู้สึกแย่แชะมัด"
"ถ้างั้นก็ต้องพักผ่อนเยอะๆ แล้วก็ทานของมีประโยชน์เยอะๆนะ" ดวงตาสีมรกตมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเด็ก(สาว)หนุ่มเรือนผมสีขาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ท่าทางนั้นดูจะพูดจ้อไม่หยุด "ถ้างั้นอาหารเย็นวันนี้อยากจะทานสเต็กกระทะร้อนไหมครับ?"
หูทั้งสองข้างของเลโอน่าตั้งขึ้น หางของชายหนุ่มกวัดแกว่งไปมาจนเป็นที่สังเกตุได้ชัด
"สเต็ก...กระทะร้อน มันเป็นยังไงน่ะ?"
"ก็---มีเนื้อหมักย่างชิ้นโตๆระดับมีเดียมแรร์หรือแรร์อยู่ภายในกระทะร้อนๆ ที่จะทำให้เนื้อชุ่มสดใหม่เหมือนพึ่งออกจากกระทะ" เด็กสาวอธิบายให้เลโอน่าฟัง หางของเขาคล้ายดูท่าจะส่ายไปส่ายมามากกว่าเดิมเสียอีก "แล้วหลังจากนั้นจะมีเครื่องเคียงเป็นสลัด--โอ๊ะ รุ่นพี่คิงสกอล่าร์คงไม่ชอบผักสินะ? งั้นจะไม่ใส่ล่ะกัน"
"ดี" เสียงของเขาเอ่ยขึ้นมาสั้นๆ พอมองร่างของเด็ก(สาว)หนุ่มตรงหน้าที่คล้ายกับว่ากำลังรอคำสั่งถัดไปในสภาพที่ดวงตาสีน้ำข้าวนั้นไม่มีแววตาอะไรแอบแฝงออกมาก็พาลให้เลโอน่ารู้สึกแปลกๆอย่างไรชอบกล ชายหนุ่มปีสามแห่งหอสะวันน่าห์คลอนึกย้อนไปถึงตั้งแต่ที่เด็ก(สาว)หนุ่มคนนี้ตามประกบเขามาตั้งแต่เช้ายันเที่ยง แค่นึกว่าจะต้องโดนตามประกบทั้งวันก็รู้สึกแปลกยิ่งกว่าเดิมอย่างไรชอบกลแล้ว ถึงจะมีเวลาส่วนตัวบ้างแต่การที่อีกฝ่ายรอคำสั่งเหมือนเตรียมพร้อมตลอดเวลานั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะหาเจอได้จากรักกี้บ่อยเท่าเด็กสาวนัก
เข้าใจแล้วว่าทำไมคราวลี่ย์ถึงชอบใช้งานเจ้านี่นัก
เลโอน่าตัดสินใจเอ่ย
"ตอนนี้แกจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันจะนอนอยู่ตรงนี้แหละ"
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปตากผ้าที่หอสะ---"
ดวงตาสีมรกตจ้องเขม็ง
"ไปทำอะไรก็ได้ที่ไม่ได้ใช้แรงงาน" เด็กสาวจ้องมองเลโอน่าที่เอ่ยออกมาด้วยสายตาประหลาดใจ "เห็นแกในสภาพแบบนี้แล้วไม่ชินชะมัด ไปพักไป"
ดวงตาของมารีเบิกตากว้างด้วยสายตาตกตะลึง
เอ๋? พักเหรอ?
"แย่จัง" เสียงพูดของมารีลอดออกมาจากริมฝีปาก "ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ถ้างั้นมีอะไรโทรกลับมาบอกทางนี้แล้วกันนะครับ เดี๋ยวจะไปหา---อ้าว..."
ดวงตาของเด็กสาวมองร่างของราชสีห์ที่ฝุบลงกับพื้นหญ้า ท่าทางนั้นหลับสบายแบบไม่ต้องกังวลว่าจะตื่นขึ้นมาภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้
นอนไปแล้วเรอะ
เอาเถอะ ถ้ามีอะไรเดี๋ยวรุ่นพี่แกก็คงจะแจ้งมาเองแหละ เด็กสาวเอ่ย มือลูบคางครุ่นคิด เวลาพัก...แล้วจะเอาไปทำอะไรดีล่ะเนี่ย ถ้างั้นไปเยี่ยมรุ่นพี่รักกี้ก่อนจะดีกว่าไหมนะ? ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรแล้วนี่น่า
เด็กสาวหันมองร่างของเลโอน่าที่หลับฝันดีเป็นครั้งสุดท้าย ยกเลิกความคิดที่ว่าจะไปหาผ้าห่มมาจากหอสะวันน่าห์คลอแล้วรีบสาวเท้าออกไปก่อนที่ร่างของหล่อนจะไปทำอะไรมากกว่านี้
หอสะวันน่าห์คลอ ห้องของรักกี้ -เวลายามเที่ยงที่แดดจ้า
"ชิๆๆ" เสียงหัวเราะนั้นดังขึ้น มารีมองร่างของไฮยีน่าหนุ่มที่บัดนี้กำลังนอนหัวเราะอยู่บนเตียงในสภาพที่ใส่เสื้อผ้าชั้นเดียวกับมีผ้าเย็นแปะที่หน้าผาก และแม้ว่าจะป่วยแต่ก็ยังมีแรงหัวเราะได้อยู่ "ไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าคุณเลโอน่าจะเลือกมารีคุงมาจริงๆ แถมยังไล่ให้มารีคุงไปพักด้วย! เหนือความคาดหมายสุดๆไปเลยไม่ใช่รึไงฮะเนี่ย?"
เด็กสาวนั่งฟังเสียงหัวเราะที่ออกโทนเสียงสูงนั่น
ภายในห้องนอนของรักกี้ที่แสนเป็นระเบียบเรียบร้อย บัดนี้เธอกำลังนั่งคุยกับคนไข้ไฮยีน่าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ(พร้อมซื้อโดนัทจากร้านคุณแซมมาเป็นของเยี่ยม) สีหน้าของมารีดูจะแปลกไปหลังจากคำพูดของเลโอน่าที่บอกว่าให้เธอนั้นไปพัก เพราะเธอเองก็ไม่เคยคิดว่าก่อนเลยว่าจะมีวันที่เลโอน่าจะสั่งให้คนใช้ซักคนไปพักด้วย
"แปลกสุดๆไปเลยใช่ไหมล่ะ!?" เสียงของเด็กสาวเอ่ยขณะที่เปิดฝากล่องโดนัทที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นแล้วป้อนให้เจ้าคนป่วยที่แกล้งทำเป็นนอนติดเตียงเคี้ยวโดนัทแก้มตุ่ยฟังเธอ "หรือว่าเพราะว่าฉันทำตัวก้าวก่ายเกินไปกันนะ?"
"ดูจากที่มารีคุงเล่ามาคงเป็นอีกกรณีมากว่านะ" เสียงของรักกี้ที่บัดนี้เคี้ยวโดนัทเสร็จแล้วเอ่ยขึ้น "ปกติฉันก็อยู่กับคุณเลโอน่าเป็นส่วนมากก็จริง แต่ก็ไม่ถี่ขนาดนั้น---สงสัยคุณเลโอน่าคงจะเป็นห่วงคุณมากกว่าฮะ"
ห่วงเนี่ยนะ?
"ไม่น่าจะใช่มั้งครับ?" ไม่อ่ะ มองยังไงก็ห่างไกลความจริงๆโคตรๆเลย เด็กสาวคิด "พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นซักหน่อย อีกอย่าง...ฉันเองก็ไม่ได้รู้จักคุณเลโอน่าดีเท่าที่รุ่นพี่รักกี้รู้จักด้วย แถมทำไว้เยอะซะขนาดนั้น..."
ดวงตาสีน้ำข้าวหลุบตาต่ำลง ไม่อยากจะกล่าวแต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ทำไว้กับอีกฝ่ายมันก็แรงพอควร ถามจริงเถอะว่ามันจะหายได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงจะขอโทษแล้วก็เถอะนะ
"อันนั้นก็ถูกนะฮะ" เสียงของรุ่นพี่รักกี้ดังขึ้นพร้อมเปล่งเสียง -ซี่ส์ ออกมาเล็กน้อย "แต่เพราะว่ามารีคุงเป็นแบบนี้ถึงได้ดูเข้ากับคนอื่นได้ง่ายออกนิน่า?"
"แบบนี้นี่มันแบบไหนครับ?"
"แบบว่า บ้าบิ่นยังไงล่ะฮะ!" เสียงหัวเราะชิชิชิตามออกมาจากริมฝีปากของรักกี้ มารีแผงะไปชั่วขณะ "คนที่วิ่งไปหาคุณเลโอน่าตอนโอเวอร์บล็อตทั้งที่ก็ไม่ได้มีเวทมนตร์ฉันว่านั่นมันโคตรบ้าเลย แถมตอนที่คุณเลโอน่าไม่ได้สติก็อุ้มในท่าเจ้าสาวได้ด้วย เจ๋งสุดๆ!"
ใช่คำชมไหมเนี่ย...?
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่รุ่นพี่รักกี้บอกว่ารุ่นพี่คิงสกอล่าร์ห่วงฉันด้วยล่ะ?" เด็กสาวทำหน้าเอือมเล็กน้อยขณะที่หยิบโดนัทชิ้นใหม่ขึ้นมาแล้วทานมันลงเข้าไปบ้าง
"ก็แบบว่า---สายสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เล็กกับสัตว์ใหญ่ยังไงล่ะฮะ!" สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่? มารีทำหน้างงขณะที่รักกี้เอ่ยอธิบาย "สัตว์ใหญ่ที่เอ็นดูสัตว์เล็กมักจะเป็นห่วงเวลาสัตว์เล็กทำอะไรเกินตัวแบบนี้เลยล่ะ"
"แล้วแสดงว่าฉันทำอะไรเกินตัวไปเขาถึงเป็นห่วงเหรอ?"
"ฉันว่าคงเป็นเพราะสายตาของมารีคุงมากกว่านะฮะ"
"สายตา?"
"ก็สายตาของมารีคุงในตอนนี้ดูซื่อตรงมากกว่าฉันซะอีก" ดวงตาสีฟ้าเทาของรักกี้หรี่ตาลงขณะที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า มือนั้นท้าวคางกับผ้าห่มบนเตียง "เป็นฉันเจอสายตาซื่อตรงแบบนี้เข้าไปก็อยากให้พักจากงานหนักๆบ้างนั่นแหละฮะ"
"แต่นี่ก็ไม่ใช่งานที่หนักขนาดนั้นสักหน่อย การตามรับใช้ใครซักคนเนี่ย" อย่างน้อยเธอก็ผ่านงานกะเช้ากะดึกมาตั้งเยอะแล้ว ของแค่นี้ก็ไม่เท่าไหร่หรอก
เด็กหนุ่มเรือนผมสีเหลืองทองมองเด็กสาวด้วยสายตาประหลาดเล็กน้อย
"แบบนั้นยิ่งต้องพักเลยนะฮะนั่น" เขาเอ่ย "คนเราต้องพักบ้างนะมารีคุง"
"ครับๆ เข้าใจแล้วล่ะ" เด็กสาวเอ่ย แต่รักกี้คิดว่ามารีก็คงรับปากรับคำไปแบบนั้นเท่านั้นเองนั่นแหละ รักกี้มองเด็กสาวก่อนที่จะชิงโดนัทชิ้นสุดท้ายไปจากกล่องทันทีเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากกระเป๋า
มารีมองรายชื่อผู้ติดต่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของตนเอง หล่อนมองชื่อที่ตนเมมไว้อย่างเด่นชัดว่าองค์ชายแมวยักษ์ก่อนที่จะตัดสินใจกดรับสายทันที
"ฮัลโหลครับรุ่นพี่คิงสกอล่าร์ มีอะไรให้รับใช้ไหมครับ?"
เสียงจากปลายสายนั่นดูเหมือนกับว่าจะส่งเสียงเบาๆออกมาภายในลำคอ แต่น่าเสียดายที่เธอฟังไม่ค่อยได้ยินชัด
[ "กลับมาทำงานต่อให้ฉันได้แล้วเจ้าสัตว์กินพืช" ]
"เข้าใจแล้วๆ" เด็กสาวมองรักกี้ที่ยิ้มแป้นด้วยท่าทางชอบอกชอบใจก่อนที่เจ้าไฮยีน่านั้นจะกลับไปนอนต่อ ร่างของมารีลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ถูกวางไว้ใกล้ๆเตียงเพื่อเอาไว้เฝ้ารุ่นพี่ของเธอก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องของรักกี้ มือหยาบของมารีจับลูกบิดก่อนจะเริ่มหมุนแล้วเอ่ยถาม "ว่าแต่รุ่นพี่คิงสกอล่าร์อยู่ที่ไหนครั---"
"กะแล้วว่าแกต้องอยู่ที่นี่" เสียงของชายหนุ่มที่อยู่หน้าห้องของรักกี้ดังขึ้น เลโอน่าฉีกยิ้มขณะที่มือของเขากดวางสาย "รักกี้เป็นยังไงบ้าง?"
"เข้าไปให้เห็นด้วยสายตาตัวเองน่าจะเข้าใจได้เยอะกว่านะครับ"
"จะ-เจ็บคอจังเลยฮะ แค่กๆๆๆ!" เสียงไอลอยออกมาจากภายในห้อง
มารีหันไปมองเจ้าไฮยีน่าที่(แกล้ง)นอนซมอยู่บนเตียง
ได้ข่าวว่าตะกี้ยังคุยกับฉันคล่องเป็นปี่เป็นขลุ่ยไม่ใช่รึไงกันค้า!!?
"ปิดประตูเถอะ ปล่อยให้เจ้าหมอนั่นมันได้พัก" เสียงของเลโอน่าเอ่ยขึ้นขณะที่เด็กสาวตัดสินใจก้าวออกมาจากห้องให้เรียบร้อยแล้วปิดประตูลง ใบหน้าของราชสีห์กระตุกยิ้มที่มุมปาก "เห็นแก่ที่ยอมลงทุนไอดังซะขนาดนั้นล่ะนะ"
"รุ่นพี่คิงสกอล่าร์ก็ดูเป็นคนใจดีกว่าที่คิดอีกนะครับเนี่ย" มารีเอ่ย "ขนาดที่ว่ายอมให้เบ๊ของตัวเองได้พักด้วย"
"ขืนมันป่วยหนักขึ้นมาแล้วฉันจะไปหาใครมาใช้ได้อีกล่ะ มีคนใช้ดีแถมอยู่ในหอเดียวกันใช้งานง่ายจะตาย" เลโอน่าเอ่ยขณะที่ก้าวฝีเท้าช้าลงปล่อยให้เด็กสาวได้ไล่ตามเขาทัน "บ่ายนี้อย่าลืมไปตากผ้ากับเตรียมพวกน้ำกับผ้าขนหนูด้วยล่ะ ฉันจะนัดซ้อมแม็กกิ๊ฟจนถึงช่วงเย็นเลย"
"เข้าใจแล้วครับ ในที่สุดก็เข้าสู่บรรยากาศทำงานแบบจริงจังแล้วสินะ" เสียงของเด็กสาวฟังดูตื่นเต้น หลังจากที่เธออยู่ที่นี่มาร่วมเดือนก็ไม่นึกไม่นึกเลยว่าจะกลับไปมีบรรยากาศทำงานแบบจริงจังและต้องแบ่งเวลาให้พอดีได้อีก "น่าตื่นเต้นมากเลยล่ะรุ่นพี่"
"คนแบบแกนี่ประหลาดชะมัด" เลโอน่าเอ่ย ดวงตาสีมรกตจ้องมองใบหน้าของเธอ "ดีใจที่ได้ทำงานแทนที่จะเป็นการพักผ่อนเนี่ยนะ?"
เด็กสาวฉีกยิ้ม
"ก็เพราะว่าเป็นคนประหลาดแบบผมนี่แหละถึงได้มายอมเป็นเบ๊ให้คุณไงรุ่นพี่คิงสกอล่าร์" เสียงของมารีเอ่ยขึ้นมาขณะที่ย่างก้าวของพวกเขายังคงเดินไปพร้อมๆกัน "อย่าลืมที่สัญญากันไว้ด้วยนะ ผมจะขอให้คุณซื้อทูน่าเป็นลังเลย!"
"ทูน่าให้เจ้าแมวนั่นน่ะนะ? ต่อให้ซื้อเป็นลังขนหน้าแข้งฉันก็ไม่ร่วงหรอกเจ้าสัตว์กินพืช" เขาเอ่ย หางนั้นยังกวัดแกว่งไปมาราวกับอารมร์ดี "หลังซ้อมแม็กกิ๊ฟเสร็จตอนเย็นขอสเต็กกระทะร้อนด้วยล่ะ"
"ถ้างั้นใส่ผักลงไปด้วยนะ?"
"ห๋า ไหนบอกว่าตอนแรกแกจะไม่ใส่ไง?" เจ้าราชสีห์แสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาขณะที่หางนั้นตั้งชูขึ้นมาเสียแบบนั้น
"เป็นการตอบแทนที่รุ่นพี่ไล่ผมไปพักไง ดีใช่ไหมล่ะ?" เสียงดังระรื่นของเด็กสาวนั้นดังขึ้นโดยไม่แม้แต่จะหวาดกลัวสีหน้าของเลโอน่าเลยแม้แต่น้อย "สัญญาเลยว่าจะใส่แค่นิดเดียว นิ๊ดด---เดียวจริงๆนะครับ เพราะว่าผักมีสารอาหารที่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น แล้วก็---"
"พอเลย ฉันไม่ฟังเฟ้ย---แกจะทำอะไรก็เรื่องของแกเลยแล้วกัน" มารียิ้มแป้นยามเห็นราชสีห์ที่ตนคอยรับใช้อยู่เอ่ยอนุญาตเช่นนั้นออกมา "แต่อย่าใส่เจ้าผักเขียวพวกนั้นเยอะเกินไปซะล่ะ"
มารีพยักหน้า
เยอะเกินไปของเลโอน่าคงเป็นชิ้นเดียวแหงๆ
"งั้นรีบไปกันเถอะรุ่นพี่คิงสกอล่าร์" ฝีเท้าของเด็กสาววิ่งนำหน้าอีกฝ่ายไปเสียสองสามก้าวก่อนจะเดินถอยหลัง "ผมพร้อมทำงานต่อมากๆแล้วล่ะครับ!"
"เออๆ แกนี่ก็ไวไฟเกินไปหน่อยนะ" เสียงของราชสีห์ดังขึ้นขณะที่ฝีเท้ายังคงก้าวตามเด็กสาวที่เดินนำหน้าไปอยู่ไม่ไกลนัก
ใบหน้าของเลโอน่า คิงสกอล่าร์ผุดยิ้มขึ้นมาเล็กๆก่อนจะจางหายไป
บางทีแล้วการที่เขาตัดสินใจเลือกเจ้าหมอนี่มาเป็นเบ๊ก็ไม่ใช่ความคิดที่เลวร้ายเท่าไหร่ล่ะมั้ง
***
สาส์นจากไรท์
: สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้สบายดีอยู่ไหมคะ? ก่อนอื่นไรท์ต้องขอบอกเลยว่าช่วงนี้หัวหมุนกับเรื่องงานและเรื่องสอบมากเลยล่ะค่ะ(กระซิกๆๆ)
ขอโทษที่มาช้าไปหน่อยนะคะ เนื่องจากว่าเมื่อวานไรท์ติดสอบ+เหนื่อยด้วยส่วนนึงจึงกว่าจะบิ้วตัวเองมาเขียนได้ก็จำเป็นต้องใช้ระยะพอสมควรเลย การเขียนภายในช่วงนี้ไรท์อาจจะเขียนเมาๆไปบ้างเพราะสติหลุดลอยไปดมกาวมากน่ะค่ะ(?) แต่จะพยายามมาอัพให้เป็นเวลาเพื่อไม่ให้ตัวเองดองงานลงไปภายในไหนะ
สำหรับตอนนี้ จริงๆมันหาสาระไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลย(ถึงได้แนะนำให้วางสติก่อนอ่านยังไงล่า) ที่หาได้จริงๆไรท์คิดว่าคือประเด็นทานผักของเลโอน่า ซึ่ง...ไรท์ก็ไม่ชอบทานค่ะ(มนุษย์ก็เป็นสัตว์กินเนื้อนะ) แต่ต้องจำใจทานเพราะมันมีประโยชน์ ฟฟฟฟฟ
สำหรับการแก้ชื่อของรักกี้ขออนุญาตมาแก้พรุ่งนี้นะคะ(เนื่องจากวันนี้ติดอ่านหนังสือสอบ) ส่วนบทเสริมก็จะเข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว ต่อจากนี้เองความสัมพันธ์ระหว่างเลโอน่ากับมารีก็คงจะมีปั่นๆป่วนๆบ้างนั่นแหละค่ะ ส่วนของคนอื่นกับมารีก็น่าจะซู๊ดกาวได้ไม่แพ้กัน
ปล. จริงๆตอนนี้มันสปอยบทสองได้เยอะเหมือนกันเลยนะ แต่ออกยังไงตรงไหนบ้างก็ต้องรอจบเนื้อเรื่องหลักของฮาร์ทสลาบิวท์แล้วล่ะค่ะ(ซึ่งบทหน้าก็จะงอกเนื้อเรื่องหลักต่อแล้วล่ะนะ)
ปล.สอง มารีอิสอะเจเนอรัลเบ๊ที่ดี ขอแค่คุณมีของมาแลกเปลี่ยน มารีก็จะยอมเป็นเบ๊ให้คุณหนึ่งวันเต็มๆค่า ---แค่กๆ
ปล.สาม เสียดายที่ตอนนี้ยังลงรูปสเต็กกระทะเนื้อไม่ได้ เดี๋ยวค่อยเอาไปลงที่บทเสริมตอนสุดท้ายเลยแล้วกันนะ
ปล.สี่ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ใครที่อ่านลงมาจนถึงตอนนี้แล้วอยู่ในระหว่างสอบไรท์ก็ขอให้โชคดีมีชัย มั่วได้ถูก จำได้ถูก คำนวนได้ถูกนะคะ! (ปอมปอมเชียร์)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น