คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ★ 7TH RIOT
7TH R I O T
ความวุ่นวายที่เจ็ด : ONE STEP CLOSER :)
ซองยอลกุลีกุจอเดินตามหลังคนตัวสูงออกมาจากร้าน คอระหงส์เอียงน้อยๆด้วยยังตีใจความของประโยคที่แอลพูดไม่ออกเสียที . . .ไม่สิ จะว่าไม่รู้เลยก็ไม่ใช่ อีซองยอลไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้นหรอกน่า เขาแค่ยังไม่มั่นใจว่าที่เข้าใจน่ะถูกหรือเปล่าเท่านั้นเอง แอลตั้งใจ ‘มารอ’ เขาจริงๆหรือเปล่าเท่านั้นเอง
สรุปกับตัวเองได้แล้วก็เร่งฝีเท้าขึ้นอีกนิดจนเดินทันกัน แอลเหลือบมองคนที่มาหยุดอยู่ข้างๆด้วยหางตาส่วนซองยอลกำลังตั้งใจเอียงคอมองแอลตาแป๋ว ริมฝีปากสีระเรื่อธรรมชาติถูกขบโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะความประหม่าและไม่มั่นใจของเจ้าของ ก่อนที่มันจะเริ่มขยับเมื่อซองยอลตัดสินใจถามสิ่งที่คาใจออกไปในที่สุด
“นี่แอลอ่า เอ่อ... นายตั้งใจ ไปรอฉัน...เอ่อ งั้นเหรอ”
คนโดนถามจุดยิ้มบางมุมปากเมื่อได้ยิน กะไว้ในใจแล้วว่าซองยอลต้องถามเขาจนได้ แอลหยุดเดินและหันมามองซองยอลโดยตรง ร่างบางตรงหน้าจ้องเขาตาแป๋วอย่างรอคอยคำตอบ
“อยากรู้เหรอ?”
“ฮื่อ” . . . ไม่งั้นจะถามเหรอ ซองยอลแอบต่อประโยคกับตัวเองในใจ . _ .
แอลกระตุกยิ้มกรุ้มกริ่มภายในเสี้ยววินาที เร็วพอที่จะซ่อนมันไว้ไม่ให้ซองยอลได้เห็น มือสองข้างไพล่ไปข้างหลัง ขณะที่ร่างสูงโปร่งโน้มและก้มไปข้างหน้าจนคางของแอลอยู่เหนือไหล่แคบๆที่กำลังห่อหน่อยๆของซองยอลเพียงนิด ระยะห่างไม่ได้มากหรือน้อยเกินไปเพราะผู้กระทำกะไว้เพื่อให้มันพอดี พอดีสำหรับการกระซิบคำสั้นๆที่มีเพียงอีซองยอลได้ยิน
“อือ” แอลเปล่งเสียงพยางค์สั้นๆจากในลำคอแทนคำตอบ ริมฝีปากที่ไม่ถูกขยับยังคงมียิ้มแต้มอยู่ เขาเอียงคอน้อยๆจนสังเกตเห็นใบหูของซองยอลที่เริ่มขึ้นสีจางๆซึ่งไล่ลามมาจากแก้มขาวๆที่เปลี่ยนสีด้วยเช่นกัน แอลก้าวถอยหลังสร้างระยะห่างก่อนจะหันกลับด้วยท่าทางยียวนเล็กๆ แวบหนึ่งที่สายตาตวัดผ่านคนที่ยืนแข็งทื่อ แอลเห็นตากลมที่เบิกขึ้นหน่อยๆ ริมฝีปากเป็นกระจับที่เผยอขึ้นกับแก้มยุ้ยๆแดงๆ ขายาวออกก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ซองยอลยืนรวนเพราะความรู้สึกประหลาดที่แล่นวาบเพียงเพราะคำสั้นๆที่แทบจะไม่สมควรถูกเรียกว่าคำด้วยซ้ำ แต่มันกลับมีอานุภาพประหลาดที่ทำให้ท้องของเขาโหวงก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในเสี้ยวเวลาต่อมา
นี่มันอะไรกันอีกล่ะ อีซองยอลมีคำถามอีกแล้ว...
เช้านี้แอลเดินขยี้ผมตัวเองออกมาจากห้องพลางสายตาก็เหลือบมองหารูมเมทที่วันนี้ดูจะตื่นเช้าเป็นพิเศษ แปรงสีฟังของแอลถูกบีบยาสีฟันเตรียมไว้ให้เหมือนอย่างเคย แต่นั่นก็ใช่ว่าจะเป็นสัญญาณของวันใหม่ที่ดีหรืออะไรพรรค์นั้นเสมอไปหรอก มีโอกาศเสี่ยงค่อนข้างสูงที่อีซองยอลจะคิดการใหญ่ทำอะไรแผลงๆ ซึ่งส่วนใหญ่มีครัวของแอลที่ตกเป็นเป้าหมายการทำลายล้างอยู่เสมอ
“อีซองยอล ...ซองยอล อยู่ไหน” เจ้าของห้องเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นและพบกับความว่างเปล่า เขากรอกตาขึ้นฟ้าและสวดภาวนาไว้อาลัยให้ครัวของตัวเอง ซองยอลคงจะอยู่ในนั้นจริงๆ แอลสูดหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆผ่อนมันออกมา ใจเย็นๆนะแอลคิม...
“อยู่นี่! ‘ – ‘ ” เสียงหวานตอบรับ และวิ่งออกมาเกาะกรอบประตูครัวในสถาพที่ยังมีผ้ากันเปื้อนที่มีเป็ดสีเหลืองอ๋อยตัวหนึ่งปักอยู่บนพื้นสีฟ้าสวมอยู่
“อย่าบอกว่าตื่นมาพังครัวฉันอีกแล้ว บอกแล้วไงว่าถ้าฉันไม่อยู่ด้วยห้ามทำอาหารหรือ...”
“โว่วๆ ใจเย็นสิ อ่า... ฉันไม่พังครัวนายหรอกน่า แป๊บนะ...” ซองยอลผลุบหายเข้าไปในครัวอีกรอบ แอลเดินตามเข้าไปสำรวจสภาพครัวที่ยังถือว่าปกติดีมีรอยเปื้อนของน้ำตาลที่หกนิดหน่อยแต่ก็ยังดีที่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ซองยอลเดินไปหยิบถาดที่มีแก้วเล็กๆบรรจุของที่ดูเหมือนจะเป็นของหวานสีชมพูอยู่ พร้อมกับหยิบแพ็คสตรอว์เบอร์รี่สดมาวางไว้บนเขียงที่เคาท์เตอร์ทำอาหาร แต่ไม่ทันไรแพ็คสตรอว์เบอร์รี่นั่นก็ถูกแกะโดยเจ้าของห้องที่เดินตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก่อนจะส่งเข้าปากเคี้ยวหงับๆทั้งที่ยังไม่ได้ล้างจนซองยอลอดเอ็ดไม่ได้
“นั่นมันยังไม่ล้างนะ รอแป๊บนึงสิ… เอ้านี่!” ซองยอลหยิบผลไม้สีสดนั้นออกมาล้างอย่างดีและส่งให้แอลลูกหนึ่ง อีกฝ่ายรับไปทั้งที่ลูกก่อนยังกินไม่หมด หนำซ้ำยังยักไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจในสิ่งที่ซองยอลบ่นเท่าไหร่ เมื่อเห็นแบบนั้นซองยอลจึงส่ายหน้าหน่อยๆก่อนจะหันไปสนใจกับการค่อยๆหั่นสตรอว์เบอร์รี่เพื่อใส่บนหน้าพุดดิ้งให้แอล แต่ด้วยความที่ยังไม่ชินกับมีดทำให้ของมีคมนั่นแฉลบเฉือนนิ้วเรียวจนเลือดสีเข้มไหลออกมาจากปากแผล
“เฮ่ย! T ____ T ” ซองยอลร้องออกมาพร้อมเบะปาก เรียกให้แอลที่กำลังเลือกสตรอว์เบอร์รี่จากในซิงค์หันมามอง เจ้าของห้องรีบรุดมาคว้ามือของซองยอลไปดูและส่ายหน้าให้กับความซุ่มซ่ามของคนตรงหน้า เขารีบเดินไปหยิบพลาสเตอร์และยาที่จำเป็นต้องใช้มาจากกล่องพยาบาลแล้วจึงวกกลับมาหาซองยอลอีกรอบ
โดยที่ไม่ได้บ่นหรือพูดอะไรแอลจับมือซองยอลไปล้างน้ำ ก่อนจะค่อยๆทำแผลให้
“อ้าว ทำไมหันหนีแบบนั้นล่ะ ดูผลงานตัวเองซะสิ” แอลหยอกปนบ่นซองยอลที่ตอนนี้เบือนหน้าหนีจากมือของตัวเองที่แอลจับหงายไว้บนเค้าท์เตอร์หินอ่อนเย็นๆ
“ไม่อะ ยิ่งมองมันจะยิ่งเจ็บ”
อีกคนตอนนี้ดูกลายเป็นเด็กน้อย เสียงที่ตอบแอลกลับมานั้นสั่นหน่อยๆ แอลยิ้มเล็กๆกับความซื่อและใสของซองยอล บางทีเขาก็สงสัย คนคนนึงจะอินโนเซนท์แถมเด็กได้ขนาดนี้เชียวหรือ ทั้งที่ก็อายุเท่ากันแต่ความเดียงสาของซองยอลนั้นดูจะห่างไกลกับแอลอยู่พอประมาณ
“อะ นี่เสร็จแล้วหันมาสิ” เมื่อได้ยินคำอณุญาติและรู้สึกถึงสัมผัสของพลาสเตอร์ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำแผลซองยอลถึงโล่งใจจนหันมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันระวังว่าใบหน้าของคนสองคนนั้นใกล้กันขนาดไหน ไม่ทันระวังจนจมูกโด่งๆแตะลงไปบนแก้มของแอลเต็มๆ
คนที่โดนหอมแก้มตกใจไม่แพ้ซองยอล ตาคมที่ปกติจะเก็บซ่อนความรู้สึกและค่อนข้างจะอ่านออกยากเบิกขึ้นแสดงถึงความตกใจอย่างเห็นได้ชัด ซองยอลที่ทำตัวไม่ถูกรีบหันหน้ากลับไปทางเดิม โดยที่ลืมคิดไปว่านั่นจะทำให้ปลายจมูกของเขาปัดผ่านแก้มแอลแผ่วเบาอีกครั้ง ความรู้สึกโหวงๆแล่นทั่วกายอีกครั้ง คนตัวเล็กที่ทำอะไรไม่ถูกรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูดังโครมใหญ่ อะดรีนาลีนในร่างกายที่เพิ่งปริมาณสูงขึ้นทำให้ซองยอลต้องหอบหายใจยิ่งกว่าตอนวิ่งมาราธอนในคาบพละที่โรงเรียนเสียอีก มือเรียวยกขึ้นมาทาบกลางอกตำแหน่งใกล้หัวใจ ก่อนจะพบว่ามันกำลังเต้นแรงและถี่จัด
“ฮะ...เฮ้ ใจเย็นสิอีซองยอล ”เขาบอกตัวเองและพยายามบังคับให้ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ เงยหน้าขึ้นมองกระจกที่อยู่เหนืออ่างล้างมือข้างหน้าซองยอลพบกับตัวเองที่แก้มแดงจัดลามไปถึงใบหู นั่นยิ่งทำให้คนหน้าหวานเบะปากเหมือนจะร้องไห้ ดูน่าอายมากๆเลยอีซองยอล ฮือ T _ T
อีกฟากหนึ่งของประตูห้องน้ำ แอลยังคงยืนอยู่ที่ห้องครัวเหมือนเดิม นิ้วสากยกขึ้นมาแตะแก้มที่โดนขโมยสัมผัสเบาๆ เขาไม่ทันได้เห็นสีหน้าของซองยอลไม่รู้ว่าหมอนั่นจะเป็นไงเพราะพอรู้ตัวก็วิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไป
...ช่างเหอะ เดี๋ยวก็คงออกมาแหล่ะมั้ง แอลคิดแบบนั้น
เขาหันไปสนใจผลไม้และพุดดิ้งที่ยังวางอยู่บนเคาท์เตอร์ จัดการเอาลูกที่ซองยอลหั่นทิ้งไว้ไปล้างเสียใหม่อีกรอบ ก่อนจะค่อยๆหั่นมันจนเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆพอดีคำและจัดวางมันบนถ้วยพุดดิ้ง เหมาเอาว่าซองยอลคงตั้งใจจะเอามาใส่แบบนี้ แอลทำเช่นเดียวกันจนขนมพุดดิ้งทั้งเจ็ดถ้วยมีเนื้อสตรอว์เบอร์รี่แต่งอยู่ด้านบนจนครบหมดทุกถ้วย แล้วจึงยกมันกลับไปใส่ในตู้เย็นอีกรอบกันละลายระหว่างที่รอให้ซองยอลออกมาจากห้องน้ำ
ขายาวพาร่างโปร่งเดินออกมาจากครัวมาทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆหน้าทีวี โทรทัศน์เครื่องเล็กถูกเปิดแก้เบื่อ แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของและสมาธิของแอลก็ไม่ได้จดจ่อไปกับภาพในจอสี่เหลี่ยมสักเท่าไหร่เพราะเขาเอาแต่ชะโงกมองไปทางห้องน้ำที่ซองยอลหายเข้าไปเกือบจะสิบนาทีอยู่เป็นพักๆโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องน้ำเรียกคนข้างใน ไม่ใช่อะไรหรอก แต่ด้วยนิสัยของซองยอลที่ถึงจะดูแสบแต่ก็เป็นคนขี้กังวลและขาดความมั่นใจ แอลกลัวว่ารูมเมทตัวเล็กจะคิดมากจนไม่ยอมออกมา
แต่ใครจะรู้ว่าอันที่จริงแล้วคุณเจ้าของห้องนั่นล่ะ ที่คิดมาก :>
“ซองยอล ออกมาได้แล้วนะ ไปหลับหรือไงนั่น” แอลถามด้วยหางเสียงนุ่มๆเพราะไม่อยากให้ซองยอลคิดว่าเขากำลังบ่นหรืออะไร
ร่างบางที่แอบอยู่ในห้องน้ำวักน้ำเย็นขึ้นมาลูบหน้าตัวเองด้วยมือเดียวอีกที และส่องกระจกหันมองซ้ายขวาเพื่อเช็คว่ารอยริ้วแดงบนแก้มจางลงไปบ้านหรือยัง สูดหายใจลึกหนึ่งรอบและบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ก่อนจะค่อยๆแง้มประตูเปิดออก ซองยอลเผลอขบริมฝีปากเบาๆเพราะความไม่มั่นใจเข้ารบกวนอีกครั้ง ตากลมค่อยๆเงยช้อนมองแอล แต่พอเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลานั่นนิดเดียวก็ต้องหลุบมองลงต่ำอีกรอบ จู่ๆหน้าก็ร้อนขึ้นมากะทันหันด้วย...
แอลมองท่าทางเก้ๆกังๆและขาดความมั่นใจของซองยอลก็แอบเผลอเก้ๆกังๆไปด้วย มือใหญ่ยกขึ้นมาลูบท้ายทอยตัวเองและเลียริมฝีปากอย่างที่ชอบทำเวลาทำอะไรไม่ถูก
“เอ่อ ขนมนายน่ะ...”
“อะ อ้อ พุดดิ้งนั่นฉันตั้งใจทำให้แอลนั่นแหล่ะ ดะ เดี๋ยวเดียวนะ เดี๋ยวฉันไปหั่นสตรอว์เบอร์รี่ใส่ให้ก็เสร็จแล้ว” ซองยอลฉีกยิ้มได้อีกรอบเมื่อพูดถึงพุดดิ้งที่เขาภูมิใจนักหนา รอบนี้เขาทำมันออกมาได้หน้าตาถูกต้องตามที่คยองซูสอนมาพอสมควร ขาดแต่รสชาดที่ยังไม่รู้ว่าจะถูกต้องและอร่อยอย่างที่คุณครูจำเป็นสอนมาหรือเปล่า ร่างบางรุดไปดูที่ครัวที่เดิมแต่ก็พบว่าขนมหวานและสตรอว์เบอร์รี่ที่หั่นทิ้งไว้หายไปแล้ว
“ฉันหั่นให้แล้วล่ะ แค่ใส่ข้างบนเฉยๆหรือเปล่า อยู่ในตู้เย็นน่ะ” แอลเอียงคอพยักเพยิดไปทางตู้เย็นในขณะที่ตัวเขายืนเท้าแขนกับขอบกำแพงประตูครัวอยู่ ซองยอลพยักหน้ารับถี่ๆ เปิดตู้เย็นดึงขนมออกมาอีกรอบ พร้อมหยิบช้อนทานขนมติดมือมาด้วย เขาเอาถ้วยแก้วใบหนึ่งจากในถาดส่วนที่เหลือก็วางไว้บนเคาท์เตอร์ ส่งถ้วยบรรจุขนมและความตั้งใจของเขาไปตรงหน้าแอบพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากทั้งๆที่ริมฝีปากล่างยังถูกขบกัดไว้ กิริยาเหมือนเด็กนั่นช่างน่าเอ็นดีจนแอลเผลอใจกระตุก ซองยอลช้อนตาขึ้นมองแอลด้วยแววตาระยับ
“อ่ะ ชะ...ช่วยลองชิมหน่อยนะ”
แอลที่ไม่เคยเห็นซองยอลในคราบเด็กอ้อนๆแบบนี้มาก่อนรับแก้วพุดดิ้งและช้อนมาจากมือซองยอลโดยที่ไม่ได้ละสายตาออกจากลูกแก้วกลมสีใสน่ามองนั่นแม้แต่น้อย จนซองยอลเองที่เป็นฝ่ายหลบตามองต่ำ ซ่อนแก้มแดงๆและรอยยิ้มเขินๆของตัวเอง ถึงแม้มันจะไม่ค่อยมิดเท่าไหร่ก็ตาม แอลละสายตาออก กระแอมเล็กน้อยก่อนจะตักเนื้อพุดดิ้งนุ่มๆมาคำโตและส่งเข้าปาก ซองยอลมองตามช้อนเล็กๆจนไปหยุดที่ริมฝีปากได้รูปของคนตรงหน้าซึ่งเปื้อนเนื้อครีมจากพุดดิ้งหน่อยๆ ทันใดนั้นความร้อนก็เห่อขึ้นบนใบหน้าอย่างกะทันหัน
. . . เป็นบ้าอะไรกันนะอีซองยอล . . . เขาเอ็ดตัวเองในใจ หลังจากนั้นจึงสะบัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกและตั้งใจลุ้นผลการทำอาหารของตัวเองแทน หัวใจเต้นแรงเพราะความตื่นเต้นขณะมองแอลลุ้นๆ
“เป็นไง? ม...ไม่อร่อยสินะ ( , ____ , )” ซองยอลเม้มริมฝีปากและบีบมือตัวเองเพราะความรู้สึกแย่ระคนผิดหวัง
“ฮื่อ... ก็...ไม่ได้บอกว่าแย่ซะหน่อย” แอลแย้งคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าปานจะร้องไห้ พุดดิ้งนี่รสชาติใช้ได้ทีเดียว ถึงจะไม่ได้ดีเลิศเหมือนในร้านแต่ก็ถือว่าโอเค...โอเคมากๆสำหรับคนที่มีพื้นฐานการทำอาหารเป็นศูนย์อย่างซองยอล มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำพุดดิ้ง แต่ซองยอลก็ทำออกมาจนเป็นรูปเป็นร่าง กินได้ แถมยังไม่ทำครัวเลอะ ก็ถือว่าโอเคแล้ว
“ตะ แต่...”
“แต่อะไร ชิมเองสิ อะ...” แอลตักพุดดิ้งอีกคำและยื่นช้อนไปตรงหน้าซองยอลอย่างหวังดี คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้น เอื้อมมือไปจับด้านสเตนเลสเล็กๆกะจะรับช้อนมาจากแอลและส่งเข้าปากแต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น แอลไม่ได้ปล่อยมือจากช้อน หนำซ้ำยังดันช้อนป้อนขนมใส่ปากซองยอลทันทีที่มันเปิดออก เล่นเอาคนโดนป้อนช็อคไปอีกรอบ แอลชักช้อนกลับมาค่อยๆและเลิกคิ้วถามซองยอล
“เป็นไง ไม่ได้แย่ซะหน่อย คิดไปเอง” เสียงทุ้มพูดเบาๆก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปห้องนั่งเล่นพร้อมกับหยิบพุดดิ้งติดมือไปด้วยจนเต็มมือสองข้าง
“อะ อื้อ! ชะ ชอบหรือเปล่า?”
แอลหันหลังกลับมาเอียงคอมองซองยอลในขณะที่ในปากยังคาบช้อนคันเดิมไว้อยู่ เขาครางถามในลำคอ ซักพักจึงพยักหน้าและจุดยิ้มบางที่ริมฝีปาก
“นี่ตั้งใจทำให้งั้นสิ?” เจ้าของห้องเอ่ยถามหลังจากวางพุดดิ้งลงบนโต๊ะหน้าทีวีพร้อมคายช้อนวางไว้ในแก้วพุดดิ้ง
“ก็...คยองซูบอกมาว่านายชอบ...” ริมฝีปากสีอ่อนระเรื่อนั้นกล่าวตอบแอลด้วยรอยยิ้มที่เหยียดยกไปเกือบถึงใบหู สาบานได้ว่าตอนนี้อีซองยอลคงหน้าบานเหมือนกระด้งอย่างไม่ต้องสงสัย เขาดีใจที่แอลบอกว่ามันกินได้น่ะนะ
“คยองซูได้บอกหรือเปล่าว่าฉันชอบมันมากๆ ขอบใจนะ” แอลอมยิ้มตอบแล้วหันหน้าไปสนใจทีวีตรงหน้า
“อื้อ! ^ - ^” ซองยอลรับคำ รอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้วกว้างกว่าเดิมเมื่อได้เห็นแก้วพุดดิ้งที่แอลถือติดมือและกินไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน ผู้อาศัยหันหลังไปจัดการเก็งกวาดอุปกรณ์ในครัวที่ทำเลอะไว้จากการประกอบอาหาร ในอกเต็มไปด้วยความรู้สึกว่าไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ลุกตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ และไม่เสียแรงที่ทุ่มเททั้งแรงกายและใจให้กับการทำขนมเป็นชิ้นเป็นอันในครั้งนี้ :)
มือเล็กที่เปียกน้ำเพราะการล้างจานเช็ดเข้ากับกางเกงขาสั้นที่เจ้าตัวใส่อยู่อย่างลวกๆ อีซองยอลเดินออกไปนั่งข้างๆแอลที่นั่งอยู่กับแก้วพุดดิ้งเปล่าถ้วยถี่สี่ตรงหน้า คนที่นั่งอยู่ก่อนหันมามองซองยอลและเลื่อนสายตาไปที่เจ้าเป็ดบนผ้ากันเปื้อนซึ่งซองยอลลืมถอดออก
“ลืมถอดผ้ากันเปื้อนน่ะ” เมื่อพูดจบนิ้วเรียวจิ้มเบาๆที่ตัวเป็ดอย่างนึกหมั่นไส้ในหน้าระรื่นๆของมัน ซองยอลรีบถอดผ้ากันเปื้อนออกและเอามันไปแขนไว้รวมกับราวแขวนโค้ทใกล้ๆ
“ซื้อมาใหม่เหรอ”
“อื้ม ฉันเดินลงไปซื้อมาที่ร้านค้าข้างล่างน่ะ ลายมันน่ารักดีเนอะ ฮิๆ”
“เป็ดหน้าระรื่นนั่นน่ารักตรงไหน”
ซองยอลเบะริมฝีปากจนกลายเป็นรูปครึ่งวงกลมคว่ำใส่แอล เจ้าของห้องเหลือบมองซองยอลน้อยๆก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก เมื่อกินพุดดิ้งถ้วยสุดถ้ายในมือจนเกลี้ยง ร่างสูงก็เดินไปหยิบกีต้าร์ไฟฟ้าออกมาดีดเล่น ผู้อาศัยตาลุดวาวอย่างสนใจ เขาไม่ได้เห็นกีต้าร์ของแอลเลยตั้งแต่วันที่เห็นที่ผับวันนั้น มันเป็นกีต้าร์สีดำขลับสวยแบบคลาสสิคๆ ซองยอลเดาเอาว่าสีนั้นคงเป็นสีโปรดของเจ้าของกีต้าร์ เพราะหลังจากที่อยู่ด้วยกันมา ซองยอลสังเกตเห็นว่าแอลมักชอบใช้อะไรๆที่มีสีดำเป็นหลัก ตั้งแต่รองเท้าที่มีสีดำเต็มตู้ หมวกแก๊ป(ที่มีแต่ทรงเดิมๆ)สีดำ รวมไปถึงเสื้อกันหนาวและโค้ทก็สีดำ นี่ยังไม่รวมอะไรจิปาถะเล็กๆน้อยที่ขอให้เป็นสีดำ พ่อคุณก็หยิบๆมาหมด
แอลนั่งไขว่ห้างบนแอมป์ตัวใหญ่ และปรับสายกีต้าร์ไปพลางๆ ริมฝีปากได้รูปคาบปิ๊กสีดำไว้
“นี่ ขอลองเล่นได้ม๊า?” ซองยอลถามขณะใช้มือยันเข่าสองข้างและค้อมตัวลงดูแอลอย่างสนอกสนใจ
“หือ เล่นเป็นเหรอ?”
“ไม่หรอก แต่แค่ลองถือก็ได้ นะๆ” เด็กน้อยอ้อนวอน ขอแค่ได้เอาไอ้นั่นมาสะพาย คงจะดูเท่ดีไม่หยอกถึงจะเล่นไม่เป็นก็ตาม แอลขมวดคิ้วใส่ซองยอลหน่อยๆแต่ก็ใจอ่อนส่งกีต้าร์ไปให้
แต่ด้วยการที่รับกันผิดจังหวะ กีต้าร์ไปโดนแผลของซองยอลที่ยังระบมไม่หายทำให้คนตัวเล็กเผลอผละมือออกโดยไม่ตั้งใจ เป็นผลให้เครื่องดนตรีชิ้นใหญ่หล่นกระแทกพื้นต่อหน้าต่อตาเจ้าของ โชคดีที่ระยะห่างนั้นไม่มากแถมยังหล่นใส่พรมทำให้ตัวบอดี้หรือคอไม่เป็นอะไร หากแต่แรงกระแทกนั้นส่งผลให้สายกีต้าร์ขาดถึงสองสาย
หลังจากเสียงกระแทกเงียบลง เสียงตวาดก้องของเจ้าของกีต้าร์ก็ดังขึ้นแทน แสดงถึงความหัวเสียอย่างหนัก
“เฮ้ย!!!!!!!”
TO BE CONTINUED...
{it's me} เฮ้ยยยยย อย่าเพิ่งสาปเรา ใจเย็น เราไม่มีเน็ทลงฟิคจริงๆนะ y - y
นี่มีเน็ตปุ๊บรีบลงเลยนะเนี่ย เพื่อเป็นการไถ่โทษเดี๋ยวถ้าเม้นถึงจะมาสปอยตอนต่อไปให้พรุ่งนี้นะคะ :D
#ยังมีหน้าจะมาทะแบบนี้นะ 55555555555555555-
หรือใครไม่สะดวกเม้น เด็กดียุ่งยาก ติดแท็กก็ได้น้าเวลาเวิ่น อยากอ่านไงง อยากรู้ว่าชอบกันมั้ยนะๆ i w i
ใครอ่านไปเวิ่นหรือทวงฝากแท็ก #สตจ ก็ได้นะคะ . _ . เดี๋ยวจะไปตามอ่านน้า #ไม่มีคนแท็ก ๕๕๕ #แป้กไปดิ่
- ทวงฟิค @_pyoys ได้เลยค่ะ
เจอกันตอนหน้านะคะ :)
sarnyosp
Shalunla
ความคิดเห็น