คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ★ 13TH RIOT
. RIOT 13th
ทันทีที่จบประโยคของร้อง รอยยิ้มที่มีอยู่บนหน้าของซองยอลก็ถูกทำให้กว้างและสว่างไสวมากขึ้นกว่าเก่าเพราะอ้อมกอดจากเจ้าของห้องที่รั้งร่างบางเข้าไปกอด ราวกับว่าหวงแหน ราวกับว่ากลัวซองยอลจะหายไปไหนอีกรอบ แอลกระชอบกอดแน่นเหมือนเด็กติดผู้ปกครอง ซองยอลซบหน้าลงกับไหล่กว้างๆ ยกมือขึ้นโอบอีกฝ่ายตอบเบาๆ พลางโยกตัวปลอบโยนแอลเหมือนเวลาปลอบเด็กที่ร้องไห้โยเย เพียงแต่แอลไม่ได้กำลังร้องไห้อยู่
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ” เสียงทุ้มกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทอดอ่อน ผละออกจากกอดและใช้ปลายนิ้วปัดผมหน้าม้าที่ปรกหน้าของอีกฝ่ายอยู่ออกเสีย เพื่อให้เห็นใบหน้าหมดจดของซองยอลได้จัดขึ้น ใบหน้าขาวนวลนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อ ซองยอลไม่กล้าสบตาแอลเพราะเขากลัวว่าใจนั้นจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆเสียก่อน ริมฝีปากหยักสวยยังคงวาดยิ้ม
“อื้ม กลับมาแล้ว” ซองยอลอ้อมแอ้มตอบเบาๆ ยังคงก้มหน้ามองกระเป๋าเดินทางของตนอยู่อย่างนั้น มือใหญ่ของแอลเอื้อมมาคว้ากระเป๋าลากของซองยอลไป ส่วนอีกข้างที่ว่างก็คว้าเอามือเล็กมากุมไว้และเดินนำเข้าไปในห้อง วางกระเป๋าไว้ที่มุมหนึ่ง และยังไม่ทันที่ซองยอลจะได้นั่งพักบนโซฟา ทั้งแขนและเอวก็โดนรวบกอดจากด้านหลัง แอลเกยคางไว้บนไหล่ พาซองยอลเดินไปทิ้งตัวบนโซฟาพร้อมๆกัน คนโดนกอดหัวเราะเบาๆ เขาไม่คิดว่าเวลาไม่กี่วันจะทำให้ภาพแอลที่เขาเคยรู้จักเปลี่ยนไปขนาดนี้ คนข้างๆตอนี้เหมือนเป็นร่างแยกที่ไม่ใช่แอล... อืม อาจจะเป็นมยองซูล่ะมั้ง
“เด็กแหง่” ซองยอลพยายามดึงแขนข้างหนึ่งของตนออกจากกอดของแอลที่ยังตระกองไว้หลวมๆ ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีเข้มที่ติดหยักศกหน่อยๆ อย่างมันเขี้ยว จนโดนแอลมองค้อนใส่วงใหญ่ ร่างที่กอดเขาไว้หลวมๆเลื่อนไหลลงไปนอนเหยียดและใช้ตักซองยอลต่างหมอนแทน
“อย่าไปไหนอีกนะ” แอลพูดขณะยังหลับตา เขาคลำหามือของซองยอลและจับมันไว้ ประสานนิ้วไว้ด้วยกัน วางหลังมือเรียวไว้บนแก้มของตนอย่างถือวิสาสะ
หัวใจของซองยอลตอนนี้พองโตจนคับอกแถมยังเต้นระรัวอย่างห้ามไม่ได้ รอยยิ้มบนใบหน้านี่ก็เหมือนกัน... มันเหมือนกว้างขึ้น กว้างขึ้นจนคล้ายว่าแก้มจะแตกเอาให้ได้ ความทรมานที่เจอเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หัวใจที่หล่นตกพื้นและถูกเหยียบย่ำจนบอบช้ำคล้ายได้รับการสมานแผลอย่างอ่อนโยนภายในไม่กี่นาที ทุกอย่างเหมือนฝัน จนซองยอลต้องแอบหยิกต้นขาตัวเองเบาๆ
“นี่. . . ตอบสิ เงียบแบบนี้จะไปไหนอีกเหรอ?” ตาคมมีสเน่ห์จ้องซองยอลที่กำลังลูบผมสีเข้มเล่น นัยน์ตาฉายแววเว้าวอนและติดกังวลเล็กๆ
“อื้อ ไม่ไปไหนแล้วก็ได้”
เมื่อได้คำตอบที่พอใจ แอลก็หลับตาพริ้มลงอีกครั้ง ริมฝีปากหยักยังคงแย้มยิ้มจนลักยิ้มบุ๋มลงบนแก้มทั้งสองข้าง คำพูดสั้นๆทำให้เขาอุ่นใจ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มยองซูขาดคนแปลกหน้าคนนี้ไม่ได้ไปแล้ว
“มยองซู ตื่นๆ ไปนอนในห้องดีๆดีกว่า”
ซองยอลเขย่ามือที่จับเค้าไว้เป็นชั่วโมง เพิ่มความแรงในกระเขย่ามากขึ้นเมื่อคนที่นอนทับตักไม่ยอมตื่นซักที นี่เขาเผลอหลับสภาพนี้ไปได้ยังไงตั้งเกือบชั่วโมง เข็มนาฬิกาบอกเวลาเกือบค่อนคืนเข้าไปแล้ว ดีที่ไม่ผล็อยหลับจนสว่างคาตา แบบนั้นมีหวังซองยอลคงได้ตัดขาทิ้งเพราะไม่มีเลือดไปเลี้ยง
ตัวต้นเหตุของความเมื่อยขบของซองยอลปรือตาขึ้น แต่ก็เหมือนจะยังไม่ตื่นเต็มตาเท่าไหร่นัก มยองซูลุกขึ้นยืนขึ้น และส่งมือมาดึงซองยอลที่นั่งอยู่ให้เดินเข้าไปนอนพร้อมกัน หากแต่หมอนจำเป็นไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะอาการเหน็บชาที่ไล่ลามไปทั้งท่อนขา ทำเอาลุกไม่ขึ้น ได้แต่นั่งทำหน้าเหยเกอยู่ท่าเดิม
“ลุกเร็ว ง่วงแล้ว”
“เหน็บกินอะ เดินเข้าไปก่อนเลย โอย. . . .”
แอลเอียงคอหน่อยๆ ก้มลงไปนั่งต่อหน้าขาของซองยอล มือแกร่งพยายามบีบนวดอย่างเบามือ แต่ดูเหมือนนั่นจะทำให้ซองยอลปวดมากไปกว่าเดิม
“โอ๊ย. . . พอเลยๆ เข้าห้องไปก่อนเลย จัดที่นอนไว้ให้ด้วยแล้วกัน เดี๋ยวลุกไหวแล้วตามเข้าไป”
ซองยอลยู่หน้า เบะปากด้วยความเจ็บ
“งั้นเอางี้. . .”
ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้น แขนแกร่งก็ช้อนมารองใต้ข้อพับขาของซองยอล ส่วนอีกข้างก็โอบไหล่บางไว้ก่อนจะยกขึ้นและกลายเป็นว่าตอนนี้แอลกำลังอุ้มซองยอลในท่าสาวน้อยอย่างที่เห็นกันบ่อยๆในละครหลังข่าว คนอุ้มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในขณะที่คนโดนอุ้ม ได้แต่ยู่หน้าเพื่อกักเก็บรอยยิ้มของตัวเอง แขนสองข้างเลื่อนไปโอบรอบคอแอลไว้โดยสัญชาตญานการป้องกันตัวเพื่อไม่ให้ตัวเองหล่นไปกระแทกกับพื้นไม้ปาร์เกต์
แอลวางซองยอลบนเตียงของตัวเอง ก่อนที่จะเดินปนั่งลงที่อีกฝั่ง เลิกผ้าห่มที่คลุมเตียงอยู่ออกและแกล้งปัดมันไปคลุมตัวและหน้าของซองยอล
“เฮ้!”
ค้อนวงใหญ่ถูกปาใส่แอลที่นอนตะแคง เอามือเท้าศีรษะและขำหลังจากที่ซองยอลใช้มือปัดๆผ้าห่อมออก ร่างสูงเขยิบเข้าไปใกล้ซองยอลมากกว่าเดิม ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิและพยายามจับๆที่ขาซองยอลอีกครั้ง
“หายเมื่อยยัง?”
ซองยอลส่ายหัวพรืดแทนคำตอบ แอลหน้าสลดไปนิดหน่อย ก็เขาเป็นคนทำซองยอลเมื่อยเองนี่ แต่พอได้นอนบนตักซองยอลแล้วมันหลับดีกว่าหมอนขนเป็ดเสียอีก มือนิ่มที่เขาไม่คิดว่าเมื่อกุมและประสานนิ้วเกี่ยวไว้ด้วยกันจะรู้สึกดีขนาดนี้ แอลจึงไม่ลังเลที่จะคว้ามือนั้นมาจับไว้อีกครั้ง
“ไปเปลี่ยนชุดนอนก่อนเลย เดี๋ยวหายแล้วจะไปอาบน้ำ จะได้ไม่ต้องรอกัน”
“ฉันก็ใส่ชุดนี้นอนไง นายไม่ต้องอาบแล้ว ดึกแล้ว แล้วก็ยังหอมอยู่ด้วย ไม่เหม็นซะหน่อย นอนได้ๆ!”
แอลตอบพร้อมโน้มหน้ามากดจมูกลงบนแก้มเนียนเบาๆ ซองยอลเบิกตาโพลงและฟาดแขนเจ้าของห้องไปหนึ่งป้าบ ข้อหาทำหัวใจเกือบวาย. . . ให้ตายสิ รู้จักกันมาก็พักใหญ่ แอลเอาโหมดนี้ของตัวเองไปซ่อนไว้ไหนนะ กับซองจงก็ไม่เห็นเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไงกัน
“น นี่!” มือเรียวฟาดไปบีกครั้งบนแขนยาวๆที่พาดอยู่บนเอวของตัวเองพลางร้องเสียหลงเมื่อแอลออกแรงดึงให้เขาทิ้งตัวลงบนฟูกนุ่มๆด้วยกัน ทั้งสองนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากันโดยปลายจมูกห่างเพียงไม่ถึงคืบ เจ้าของห้องที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ขี้แกล้งยิ้มเผล่ ส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นได้แต่เสหลบสายตาและดิ้นขัดขืนเนื่องด้วยความไม่ชินกับสถานการณ์ประเภทนี้เอาเสียเลย
“นอนได้แล้ว... นะ” แอลระบายยิ้มอ่อนโยนที่มุมปาก มือใหญ่หยาบๆเลื่อนมาปิดตากลมของซองยอล ส่วนมืออีกข้างสอดรองใต้ศีรษะกลมของซองยอล คางมนกดลงบนกลุ่มผมนุ่ม ใกล้กันจนได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆกลิ่นประจำที่ซองยอลชอบใช้ รวมไปถึงได้ยินเสียงตึกตักที่เต้นไปพร้อมๆกัน ซองยอลหลับตาลงอย่างว่าง่ายริมฝีปากสีระเรื่อหยักยิ้มเช่นเดียวกัน ก่อนจะผล็อยหลับไปทั้งคู่โดยมีจังหวะการเต้นของหัวใจและบรรยากาศอุ่นๆเป็นดั่งเพลงลัลลาบาย .
เมื่อเช้านี้เหตุการณ์เดิมเหมือนเมื่อวันก่อนเกิดขึ้นอีกครั้งที่หน้าโรงเรียนของซองยอล หากแต่วันนี้นั้นดีกว่าคราวที่แล้วมากโข สายตาหลายคู่จับจ้องมายังเด็กนักเรียนชายสองคนในชุดนักเรียนแตกต่างกัน มือของคนทั้งสองคนนั้นกุมประสานกันไว้ พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เสียงซุบซิบดังลอดมาให้ได้ยิน หากแต่ทั้งซองยอลหรือแอลก็ไม่ได้สนใจ การกระทำของพวกเขาชัดเจนพอ แต่หากมีใครมาถามซองยอลก็พร้อมจะตอบอย่างเต็มปากว่าพวกเขานั้น ‘รักกัน’ และแอลก็พร้อมจะตอบเสริมว่าเขานั้น เลิกกับอีซองจงไปเรียบร้อยแล้ว
“ส่งแค่นี้พอ เดี๋ยวสาย”
“อืม ตั้งใจเรียนนะ เย็นนี้มาหาที่ห้องได้มั้ย มีสอนพิเศษ”
“โอเค... สู้ๆนะ!”
สุดท้ายซองยอลกระซิบคำให้กำลังใจเบาๆ ก่อนจะถอยห่างออกมายืนทำหน้าทะเล้น มยองซูยู่หน้าและชี้นิ้วคาดโทษซองยอลข้อหาทำให้หมั่นไส้ ร่างบางขำจนตากลมกลายเป็นเส้นโค้งๆอย่างน่ารัก ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าโรงเรียนไป เช่นเดียวกับร่างสูงที่ยืนรอดูจนอีกฝ่ายหายเข้าไปในตึกแล้ว จึงเดินเข้าโรงเรียนตัวเองบ้าง
และตอนนี้ซองยอลอยู่บนตึกเรียนที่โรงเรียนของมยองซู หากแต่ความจำปลาทองของเขาไม่สามารถบรรจุความทรงจำได้มากเท่าไหร่ ก็เลยลืมไปแล้วว่าห้องที่มยองซูมักจะอยู่นั้นอยู่ตรงไหน
“อ้าว ซองยอลฮยอง หวัดดีครับ” เสียงทุ้มเนือยๆเรียกให้ซองยอลหันไปสนใจ รุ่นน้องร่างสูงผิวสีแทนทักเขาด้วยสีหน้าเนือยๆง่วงๆเหมือนที่ชอบเห็นตามปกติ มือหนึ่งก็ยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองเหมือนเพิ่งจะตื่น
“ไง ไค เอ่อ มยองซูสอนพิเศษที่ห้องไหนเหรอ”
“เดินเลยไปอีกสามห้องครับ”
“อ้อ ขอบใจ แล้ว...นี่กำลังจะไปไหน คยองซูล่ะ?”
“ไปซ้อมกลองฆ่าเวลาน่ะฮะ วันนี้คยองมีสอนรุ่นน้องที่ชมรมขับร้องเหมือนกัน”
ไคยกไม้กล้องในมือขึ้นมาประกอบการบอกเล่า ก่อนจะขอตัวเดินออกมาก่อนเพราะพี่ดงอูโทรมาเร่งให้รีบไปห้องซ้อม ซองยอลจึงกล่าวขอบคุณและเดินตามหาห้องของมยองซูต่อ ถัดไปสามห้องก็เจออย่างที่ไคบอก
ซักพักแล้วที่เขาไม่ได้มาแอบดูแอลสอนพิเศษ ยิ่งรู้จักกัน ซองยอลก็ยิ่งคิดว่า คิมมยองซู นั้นมีหลายมุมเหลือเกิน มุมหนึ่งคือแอลผู้เชยฉา มือกีต้าร์ของวงดนตรีที่ทำให้ทุกคนละลายได้ด้วยสายตาเย็นๆนั่น อีกมุมคือมยองซูที่ซ่อนความอ่อนโยนไว้ แถมยังขี้แกล้ง แล้วก็มุมเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องคอยดูแลตัวเอง หาเลี้ยงตัวเอง และตอนที่ซองยอลอยู่ด้วย ก็ยังเผื่อแผ่มาคอยดูแลซองยอล แม้จะชอบบ่นเหมือนอาจุมม่าก็ตาม ซองยอลเชื่อว่าทุกมุมที่รวมเป็นคิมมยองซูนั้นมันช่างน่าทึ่ง ไม่มีมุมไหนเลยที่เขาไม่ชอบ อย่าว่าเวอร์เลยเถอะนะ ฮ่ะๆ
“กลับบ้านได้ อย่าลืมงานที่สั่งนะ อ่านหนังสือมิดเทอมด้วย”
“คร้าบบบบ~”
“ถ้าเกรดไม่ดี พวกนาย...” แอลยกมือขึ้นทำท่าปาดคอตัวเอง และหรี่ตามองนักเรียนสองคนของเขาด้วยสายตาน่ากลัว แต่สำหรับซองยอลมันกลับดูตลก ตอนนี้ซองยอลกลัวแอลน้อยลงมากแล้วล่ะเชื่อไหม นอกจากตอนที่โดนแกล้ง...บ แบบเมื่อคืน นั่นล่ะ ที่เขารู้สึกว่ายังแพ้แอลอยู่!
เมื่อครูสอนพิเศษจอมโหดกำลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง ซองยอลจึงแอบไปซ่อนอยู่ที่หลังประตู ก่อนจะ...
“บู้!” ซองยอลโผล่ออกจากที่ซ่อน กระทืบเท้าแรงๆจนคนโดนเอาคืนสะดุ้ง เมื่อหายตกใจแล้วก็ยู่หน้าหมั่นไส้ซองยอลเหมือนตอนเช้าเป๊ะๆ ก่อนจะรวบเอวบางมากอด ทาบหน้าผากของตัวเองลงบนหน้าผากเนียนของคนตรงหน้าจนแก้มแดงของซองยอลซับสีเลือดจนแดงเป็นลูกตำลึง
“แกล้งเหรอ!”
“อื้อ! นี่ไม่ต้องเนียนเลย ปล่อยยยยยยย!”
ร่างผอมบางออกแรงดิ้น แอลไม่ได้ขัดขืน...นั่นทำให้ซองยอลแปลกใจหน่อยๆ แต่การรักษรหน้าสำคัญกว่า เด็กนักเรียนของแอลอยู่ในนั้นตั้งสองคน ก็ลองให้กอดดูสิ อายเค้าแย่ไหมล่ะ!
ซองยอลเดินนำหน้าแอลไปก่อน แต่คนตัวสูงก็ยังไม่รีบๆเดินตามมาซะที ทำให้เขาต้องเดินกลับไป จับมือใหญ่ๆนั้นมากุมแม้จะเขินก็ตาม
“กลับบ้านกัน” กระตุกมือน้อยๆให้แอลออกเดิน ตาคมเงยขึ้นสบกับนัยน์ตาสีเฮเซลของซองยอลที่เจือไปด้วยแววความขวยเขินก่อนจะยิ้มออกมา
ทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปตามถนนสายเดิมที่พากลับไปยังหอพักของแอล เส้นทางคอนกรีตดูแคบลงกว่าเดิมเมื่อคนสองคนเดินด้วยกันแบบนี้ ซองยอลมีทฤษฎีเล็กๆผุดขึ้นในสมอง ทฤษฎีที่ว่าเมื่อมีเขาและแอลอยู่ด้วยกันทุกอย่างก็ดูจะขยายใหญ่ขึ้นเหมือนอยู่ใต้แว่นขยาย ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นถนนสายนี้ รวมถึงหัวใจของเขาที่มักพองขยายใหญ่ขึ้นบ่อยๆด้วย. . . มันเป็นปรากฏการณ์ที่ดีนะ ว่าไหม : )
“นี่ วันนี้อาจารย์ประกาศเรื่องสอบดนตรีด้วยล่ะ”
“เหรอ เมื่อไหร่อะ”
“อาทิตย์หน้าน่ะ ทุกคนต้องเล่นเครื่องดนตรีคนละชิ้น”
“เพลงอะไรก็ได้ใช่มั้ยล่ะ ก็เล่นอะไรง่ายๆสิ” คนตัวสูงส่งยิ้มละมุนมาให้เหมือนจะช่วยเป็นการเติมกำลังใจให้ซองยอลมีความมั่นใจสำหรับการสอบ แต่สีหน้าผู้สอบกลับแทบจะตรงกันข้าม ถ้าขอยืมตัวแอลไปสอบแทนได้ก็ดีหรอก ก็ซองยอลน่ะเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นเลยสักชิ้น นอกจากพวกเพอร์คัชชั่นสำหรับเด็กๆที่แค่รู้วิธีเขย่าเฉยๆก็เล่นได้ แต่แน่นอนว่าอาจารย์จอมเฮี้ยบคงไม่ยอมให้เขาผ่านวิชาดนตรีม.ปลายด้วยของพรรค์นั้นหรอก
“ฉันเล่นอะไรไม่เป็นเลยน่ะสิ” ร่างบางจำใจสารภาพพร้อมผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“กลัวอะไร ฉันอยู่ทั้งคน อยากเล่นอะไรล่ะ เดี๋ยวสอนให้”
“กีต้าร์!”
“ไม่เอา เดี๋ยวมือด้าน มือซองยอลนุ่มนิ่มแบบนี้ล่ะดีแล้ว...” แอลกล่าวค้านซองยอลที่โพล่งชื่อเครื่องดนตรีที่เขาชอบเล่นออกมาอย่างขันแข็ง มือที่กุมกันอยู่ถูกยกขึ้นก่อนริมฝีปากได้รูปจะกดลงบนหลังมือที่เขาเพิ่งบอกว่าอยากให้มันนุ่มแบบนี้ตลอดไป ปฏิกิริยาส่งผลไปถึงแก้มของซองยอลซึ่งดูดซับเอาสีเลือดมากองไว้บนแก้มยุ้ยจนแดงไปถึงใบหู
“ละ... แล้วจะเล่นอะไรดีอ่ะ” ซองยอลยู่ปากคิดหนัก เวลาเหลืออีกไม่นานแล้วด้วย
“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่กีต้าร์ หรือเบสด้วย ถ้าฉันเล่นไม่เป็นเดี๋ยวให้พวกในวงสอน พวกนั้นเล่นเป็นหลายอย่างเลย เอางั้นดีมั้ย?” ซองยอลพยักหน้ารับแทนคำตอบตกลง มือใหญ่ของแอลเอื้อมมายีผมซองยอลเบาๆ
สำหรับแอลนั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่คิดว่าคนข้างๆน่าเอ็นดูเหมือนเด็กเล็กๆทั้งที่อายุก็มากกว่าเขาด้วยซ้ำ อาจจะเป็นวันก่อน อาทิตย์ก่อน หรือไม่แน่ก็อาจจะเป็นตั้งแต่ครั้งแรก ที่เขาเจอคนแปลกหน้าคนนี้ยืนอยู่หน้าประตู ยิ่งตอนนี้แอลยิ่งรู้สึกว่าเขาห้ามตัวเองไม่ได้เท่าไหร่ ที่จะแกล้งเด็กคนนี้ให้แก้มแดงอยู่เสมอ เขาอาจกำลังอยู่ในรักหรืออาจจะหลงด้วย แต่พูดได้เลยว่าไม่มีครั้งไหนที่เป็นเหมือนครั้งนี้
ซองยอลไม่ใช่รักครั้งแรกของแอล หากแต่คนคนนี้ทำให้เขาใจเต้นได้แรงขนาดนี้ เป็นครั้งแรก
หลังจากเสียงออดของโรงเรียนตัวเองดังบอกเวลาเลิกเรียน ซองยอลก็รีบตรงดิ่งมาที่โรงเรียนของแอลที่อยู่ตรงข้ามกันทันที เขาทำแบบนี้มาได้เกือบจะอาทิตย์หนึ่งแล้ว ทุกๆเย็นหลังเลิกเรียนซองยอลจะต้องไปที่ห้องซ้อมเพื่อเรียนดนตรีกับคุณครูสอนดนตรีจำเป็นผู้พ่วงตำแหน่งแฟนของรุ่นน้องตาโต ไคยอม(จำใจ)ตอบตกลงสอนดนตรีให้ซองยอลแบบฟรีๆเพราะการกดดันของรุ่นพี่อย่างแอลและคยองซู แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงของไคเท่าไหร่ ในเมื่อเขาก็ว่างตอนรอคยองซูสอนรุ่นน้องที่ชมรมขับร้องพอดี ส่วนซองยอลก็สามารถเรียนได้อย่างสบายใจเพราะแอลต้องสอนพิเศษตลอดอาทิตย์เช่นกัน เนื่องจากใกล้ช่วงสอบปลายภาคของพวกเด็กๆ
เครื่องดนตรีที่ซองยอลเลือกไว้ในตอนแรกคือกลองชุดนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงต้องเจาะจงไคเป็นคนสอน หากแต่เมื่อมาเรียนจริงๆในครั้งแรก เครื่องดนตรีของเขาก็โดนเปลี่ยนเป็นเปียโนแทน ไคบอกว่ากล้องชุดนั้นดูเหมือนจะง่ายแต่ก็ต้องอาศัยทักษะการจับจังหวะดนตรีอยู่พอสมควร ฉะนั้นจึงไม่เหมาะสมกับคนที่พื้นดนตรีเป็นศุนย์อย่างซองยอล เพลงเปียโนง่ายๆแต่ติดหูจึงถูกหยิบมาใช้สอนแทน พร้อมกับการการันตีคะแนนที่น่าพึงพอใจในการสอบ
ซองยอลพรมนิ้วมือไล่กดลงบนคีย์เปียโนสีขาวสลับดำ ตอนนี้เขาคล่องแคล่วจากเมื่อก่อนมากแล้ว ทุกอย่างเริ่มลงตัวหลังจากผ่านมาได้เกือบอาทิตย์กับการซ้อมอย่างหนักหน่วง ทั้งตอนเรียนกับไค แล้วก็ที่หอซึ่งซองยอลเอากระดาษมาวาดเป็นคีย์แล้วก็เล่น ฟังดูไร้สาระแต่มันก็ได้ผลดีมากทีเดียว พอเล่นจบก็ได้รับเสียงปรบมือเบาๆจากไคที่นั่งควบคุมอยู่ข้างๆ
“เล่นไม่ผิดเลยครับ เก่งมาก เอาอีกรอบๆ เพื่อความชัวร์ ใกล้ได้เวลากลับบ้านละ”
ซองยอลเบะปากใส่ครูสอนพิเศษและทำหน้าเหมือนกำลังกลืนยาขมๆ แต่ก็ยอมเล่นต่ออีกรอบ
“เดี๋ยวพี่ ใจเย็นๆ เลื่อนมือผิดแล้วนั่น ถ้าวางผิดแบบนั้นโน้ตต่อไปจะกดยากแล้วจะเล่นผิดเอานะ”
ไคลุกขึ้นยืนซ้อนด้านหลังซองยอลที่นั่งอยู่ มือใหญ่ทาบลงบนเอวบางและใช้นิ้วโป้งดันตรงหลังซองยอลเบาๆ
“หลังตรง” ซองยอลกลอกตามองขึ้นบนอย่างหน่ายๆ ไคตอนเป็นครูสอนพิเศษนี่อย่างกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง เนี้ยบสุดๆ!
มือใหญ่ของไควางทาบบนมือของซองยอล จับไปในตำแหน่งที่ถูกต้องหลังจากเอ่ยของอนุญาติเจ้าตัวเรียบร้อย
“แบบนี้ เข้าใจยัง”
“จงอิน”
เสียงใสเล็กดังขึ้นเรียกให้ซองยอลและไคหันไปดูพร้อมกัน ร่างสูงผละออกจากรุ่นพี่โดยอัตโนมัติ ประตูห้องซ้อมเปิดออก คยองซูและแอลยืนอยู่ตรงนั้น ร่างเล็กของรุ่นน้องตาโตสั่นน้อยๆ น้ำตาหยาดใสที่เอ่อล้นจากดวงตาซึ่งเคลือบไปด้วยคำถามและความตกใจ ไหลลงอาบแก้มเนียน ภาพนั้นทำให้คนรักอย่างไคแทบล้มทั้งยืน เขาก้าวเข้าไปใกล้คยองซูแต่กลับโดนถอยห่าง ในที่สุดทั้งสองคนก็วิ่งตามกันออกไปจากห้องซ้อม เหลือเพียงแอลที่ยืนล้วงกระเป๋าพิงขอบประตูด้วยสายตาว่างเปล่า และซองยอลที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม
“กลับบ้านเถอะ” ซองยอลเม้มปากแน่นและพยักหน้า หลังจากที่แอลกล่าวเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ มือหยาบส่งออกมารับกระเป๋าของซองยอลหมายจะเอาไปถือ หากแต่ซองยอลกลับวางมือของตนลงไปแทน มือนุ่มที่แอลบอกว่าชอบบีบกระชับฝ่ามือใหญ่ ส่งผ่านความเว้าวอนให้เขาใจทั้งทางสัมผัสและสายตา
หัวใจดวงน้อยของซองยอลฟีบลงอีกครั้ง อีกแล้วหรือ... ที่เขาต้องเป็นต้นเหตุของปัญหา?
TBC.
(sarnyosp) เชื่อเถ้อะเวลาบอกว่าดราม่าไม่นานอหรอก ๕๕๕ ตอนนี้ก็เช่นกัน
อีกสองตอนจบแล้วง่า ใจหายเนอะ T _ T ปั่นฟิคหัวปั่นเลยจ้า ใกล้ปิดเล่มแล้ว!
เดี๋ยวไปปั่นสเปต่อ เย่ๆ
ปล. เผื่อใครที่ไม่ได้ติดตาม exo ไค = จงอิน คนเดียวกันนะคะ :)
ในเล่มมีสเปไคโด้ด้วยนะ อย่าลืมติดตาม แอร้ นี่ไคยอลมาจากไหนฟะ ๕๕๕
ฝากฟิคเรื่องใหม่ด้วยนะคะ สำหรับใครที่อ่านฟิค exo คู่ชานแบคนะ เป็นฟิคที่เราเขียนคู่กับพี่มินาค่ะ :D
ฝากติดตามกันด้วยนะ ลองอ่าน จิ้มลิ้งค์นี้เลยค่ะ :)
อย่าลืมติดแท็ก #hstg เวลาเวิ่นเรื่องนี้ในทวิตนะ จุ้บบ
@_88kraisis
ความคิดเห็น