กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งผิดหวังในรักเนื่องจากคนรักของตนได้มาทิ้งไปจึงกำลังจะฆ่าตัวตาย
ขณะนั้นเองมีพระธุดงส์รูปหนึ่งผ่านมาพบเข้าจึงได้กล่าวให้สติกับสีกา ว่า \"โยมจะทำอะไรรึ\"
หญิงสาวตอบ \"อิชั้นจะฆ่าตัวตายเพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม มีแฟนๆ ก็มาทิ้งไปเจ้าค่ะ\"
พระธุดงส์จึงได้เทศนาให้หญิงสาวฟังว่า \"เหตุใดโยมจึงต้องเสียใจเล่าในเมื่อคนที่ควรจะเสียใจควรจะเป็นแฟนของโยมสิ\"
หญิงสาวหยุดคิดและถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า \"ทำไมล่ะเจ้าคะ\"
พระธุดงส์ตอบว่า \"ในเมื่อโยมมิได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญไปเลยน่ะสิ\"
หญิงสาวตั้งใจฟังพระธุดงส์แล้วก็ตอบกลับไปว่า \"ไม่จริงหรอกค่ะดิชั้นสูญเสียแฟนอันเป็นที่รักยิ่งไปนะเจ้าค่ะ\"
พระธุดงส์ตอบ \"โยมได้สูญเสียคนที่มิได้รักและห่วงใยโยมซึ่งจะมีค่าอันใด แต่แฟนโยมซิที่สูญเสียคนที่รักและห่วงใยเค้าเช่นโยม ใครควรจะเสียใจกว่ากันล่ะโยม\"
....
ความรัก..ไม่ขึ้นกับระยะเวลา
ไม่ต้องถามหาเหตุผล
บางเบา..ราวจะหลุดลอยยามเอื้อมมือคว้า
หากแต่ยังคงแน่นหนา..เกินกว่าจะตัดใจได้
ความรัก..ทำให้คนที่เคยแข็งกร้าวโยนลงทันใด
ทำให้คนที่ไม่เคยมีดวงตาไว้เพื่อมองใคร
รู้จักการเปิดหัวใจ..รับความรู้สึกสดใสและอบอุ่น                                                           
หากเมื่อถึงวันที่ความรักจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ไม่ได้รับการตอบรับ..คลื่นความรู้สึกที่ตรงกันจากอีกฝ่าย
การมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์นี้..จึงเกิดได้หลากหลาย
ต่างคน..ต่างจิต..ต่างใจ
หลายคน..เพียรปรับเปลี่ยนความถี่ ด้วยคาดหวัง
บางคน..เลือกที่จะปิดเครื่องรับส่งสัญญาณระหว่างกัน
ฉันเองเคยคิด..ที่จะปิดมันลงไปในวันพลาดหวัง
เสียน้ำตา..เสียใจ..เป็นทุกข์
แต่ทำไม่ลง..เพราะยังคงมีคลื่นของความห่วงใยจากใครคนนั้นส่งตอบมาเสมอ
สุดท้ายที่ทำได้..คือเลือกที่จะปรับเอาไว้รับสัญญาณหนึ่ง
สัญญาณของ\"มิตรภาพ\"ที่ไม่เคยจางหาย
สัญญาณจาก\"พี่ชาย\"ที่ส่งให้น้องสาวคนนี้
ไม่เคยมี..และจะไม่มีวันลบเลือน
แม้ว่าในวันข้างหน้า..สัญญาณนั้นอาจไม่ถูกส่งมาอีกแล้ว
แต่จะเป็นไรไป..ในเมื่อมันจะยังคงอยู่ในหัวใจของฉัน
ตลอดกาล   
...................
เคยได้ยินเรื่องปีกอีกข้างของคนเรามั๊ย
ชั้นเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีปีกคนละข้างตั้งแต่เกิด
เมื่อเราโตขึ้นก็มักจะแสวงหาปีกอีกข้างหนึ่ง
เพื่อที่จะช่วยกันทำให้เราบินไปสู่จุดหมายได้อย่างมั่นคง
เมื่อปีกทั้งสองได้มาเจอกัน
ก็ต้องดูว่าใช่คู่เดียวกันรึเปล่า
ถ้าไม่ใช่ก็ต้องตามหาคู่ต่อไป
แต่ถ้าใช่แรกๆก็ต้องปรับเข้าหากัน ศึกษาซึ่งกันและกัน
จนกระทั่งปีกทั้งสองข้างเป็นเหมือนหนึ่งเดียวกัน
คอยประคับประคองกันไปสุดทาง
ก็คงเหมือนกับความรักน่ะแหละ
ถ้าไม่ใช่ก็ผ่านเลยไป
ถ้าใช่ก็ต้องมาเรียนรู้กัน
แต่บางครั้งคนเราก็หาปีกอีกข้างได้แล้วแต่ก็ไม่รู้จักรักษา
สุดท้ายก็ได้แต่มาเจ็บ ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก
ได้แต่นั่งคิดถึงปีกอีกข้างที่หายไป
 
เพราะฉะนั้น ถ้าใครได้อ่านเรื่องราวอันนี้
ชั้นก็อยากจะบอกไว้หน่อยนึงว่า
คำว่า \"รัก\" ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้าย
ขอให้คุณรัก และกล้าที่จะบอกว่ารักออกไป
พร้อมๆกับคอยดูแลความรักนั้นไว้ให้ดี
ชั้นเชื่อว่า ปีกอีกข้างของคุณ จะไม่มีวันหายไปแน่นอน
หวังว่าความรู้สึกของชั้นจะไปถึงใครคนนั้น
เพราะชั้นไม่มีความกล้าเหลืออยู่ที่จะพูดออกไปเอง
เพราะชั้นผิดเองคนเดียว
\"ขอให้ปีกอีกข้างของชั้นมีความสุข
และได้พบกับปีกอีกข้างที่แท้จริงของเขาเอง\"
อ่านแล้วก้อติชมด้ายนะคะ..รับฟังทุกข้อค่ะ..*-*..*๐*...>๐<\"..
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น