อำไพศาลีศรีสุริยเทพ
..เจาะตำนานภูเขากินคน..
ผู้เข้าชมรวม
120
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ประวัติศาสตร์ เกร็ดความรู้ ไทย ทะลุมิติ เวทย์มนต์ อนาคต อดีต ต่างโลก เรื่องเล่าขาน แฟนตาซี เรื่องสั้น ไทย4สมัย ยุคสมัยใหม่
อำไพศาลีศรีสุริยะเทพ
“..โยม จะไม่มีวันมีความสุขบนโลกภายนอก เพราะชีวิตของโยมได้ถูกกำหนดมาให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ร่มกาสาวพักตร์ เท่านั้น..”
..คำพูดนั้นเหมือนจะค่อยๆ กลายเป็นความจริงให้เห็นทีละน้อยๆ จากการที่เขาจะพยายามเริ่มทำสิ่งใดก็มักจะถูกบางกลุ่มคนพยายามเข้ามาฉกฉวยเอาผลประโยชน์จากความพยายามของเขาไปเสมอๆ จนเริ่มท้อและเข้าใจสุดท้ายจึงต้องยอมปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามคำทำนายนั้นในที่สุด
พระหนุ่ม.. ผู้เกิดเบื่อหน่ายชีวิตทางโลกเนื่องจาก..ที่ผ่านมามักจะเจอแต่ผู้คนที่มีนิสัยไม่รู้จักพอ จ้องแต่จะเอารัดเอาเปรียบและการกัดกินกันเองทั้งเป็นของอมนุษย์บางจำพวกอันนำมาซึ่งความน่าเบื่อหน่ายและปัญหาให้เขาต้องวุ่นวายกลุ้มใจตลอดเวลา ..จนเหมือนชีวิตของเขามิได้ถูกกำหนดมาให้ใช้ชีวิตเช่นปุถุชนที่ชอบการแข่งขันทั่วไปดังเช่นคำทำนายของพระป่ารูปหนึ่งที่เคยได้ทำนายไว้.. สุดท้ายจึงได้หันหลังให้กับชีวิตสามัญชนคนทั่วไปเพื่อหันไปบวชเรียนและเคร่งครัดศึกษาในหลักปฏิบัติธรรมคำสั่งสอนในทางพุทธศาสนาอย่างเต็มที่..
..โดยพระหนุ่มก็มักจะสนใจในการออกธุดงค์โปรดสัตว์และแสวงหาสัจจะธรรมความจริงของชีวิตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในภาระกิจของสงฆ์ที่ควรปฏิบัติ ..บ่อยครั้งเขาจึงพยายามหาโอกาสเหมาะสมเพื่อออกเดินทางรอนแรมไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ หวังตั้งใจจะไปโปรดสัตว์และเพื่อสวดมนต์ภาวนาขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นๆ ช่วยอำนวยพรต่อสรรพวิญญาณของบรรพชนในต่างท้องถิ่นห่างไกล รวมทั้งเพื่อการจำศีลภาวนาหวังหาคำตอบเพื่อความเข้าใจในชีวิตภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบและห่างไกลความวุ่นวายและมากเรื่องราวจากผู้คน อยู่เป็นกิจวัตร...
.. และในจุดหมายปลายทางของการเดินทางออกธุดงค์ครั้งนี้..พระหนุ่มก็ตั้งใจจะไปเพื่อจำศีลภาวนา ณ ถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริเวณที่เคยเป็นศูนย์กลางเมืองเก่าโบราณในยุคแรกเริ่มของอารยธรรมโบราณในดินแดนแถบถิ่นเกิดของตน.. ครั้นเมื่อพระหนุ่มเดินทางไปถึงยังสถานที่ดังกล่าวก็สังเกตเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่ราบลุ่มและมีเขาโดดตั้งอยู่บนกลางพื้นที่ราบนั้นเพียงลูกเดียวอย่างโดดเดี่ยวจึงทำดูโดดเด่นและน่าเกรงขาม ลักษณะภูเขาขนาดย่อมที่มีถ้ำอยู่เกือบจะบนสุดของยอดภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่นับถือทั่วไปของชุมชนในละแวกนั้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและมีตำนานเล่าขานต่างๆ นานาชวนให้น่าขนลุกมากมายส่วนใหญ่จะออกไปในทิศทางเดียวกันว่า..หากผู้ที่ได้รุกล้ำเข้าไปในบริเวณภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วมักจะไม่ได้มีโอกาสกลับมาสู่โลกภายนอกได้อีก ..แต่เนื่องจากพระหนุ่มคิดว่าตนมาด้วยจุดประสงค์ที่ดี..แตกต่างกับโจรขโมยที่มักจะมีจุดประสงค์อันเลวร้ายส่วนใหญ่ที่หวังจะเข้าพื้นที่เพื่อหมายโจรกรรมสิ่งของมีค่าที่ยังอาจหลงเหลืออยู่ในพื้นที่นั้นออกไปเพื่อลักลอบทำการค้าวัตถุโบราณ..จึงทำให้พระหนุ่มเกิดความกล้าที่จะนำตัวเองเข้าไปพิสูจน์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่เคยมีผู้กล่าวอ้างนั้นด้วยความมั่นใจ
.. ระหว่างทางเดินขึ้นสู่บริเวณถ้ำบนยอดภูเขาศักดิ์สิทธิ์..ค่อนข้างจะดูแห้งแล้งแปลกตาแม้แต่ในยามปลายฤดูฝนเช่นนี้ก็ยังคงเห็นเศษใบไม้แห้งตกอยู่เกลื่อนปกคลุมกระจายอยู่ทั่วไป อาจจะเป็นเพราะทำเลโดดเดี่ยวของภูเขาจำทำให้มีกระแสลมพัดไหลเวียนถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งรอบๆ บริเวณก็ยังเต็มไปด้วยพรรณไม้อายุสั้นที่ไม่กักเก็บน้ำที่เกิดขึ้นอยู่เต็มพื้นที่โดยรอบลักษณะเป็นพุ่มกอโดยเฉพาะพุ่มไม้ไผ่ใหญ่น้อยที่กระจายตัวส่งเสียงลำต้นเสียดสีไปมาจนทำให้น่ากังวลเพราะอาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดไฟป่าในหน้าแล้งโดยง่ายอีกด้วย ...แต่กับความชื้นที่ยังพอจะคงหลงเหลือในช่วงของปลายฤดูฝนนี้จึงทำให้พระหนุ่มพอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้บ้างว่าอาจช่วยบรรเทาได้บ้างหากจะเกิดอุบัติเหตุเรื่องไฟป่าก็คงไม่กลายเป็นเหตุรุนแรงไปจนกระทบถึงภาระกิจที่ตนได้ตั้งใจไว้ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ก้าวแรก..เมื่อพระหนุ่มได้ย่างกรายเข้าไปยังบริเวณปากถ้ำก็ต้องตกตะลึงและรู้สึกยำเกรงกับภาพแกะสลักหินมากมายที่เป็นรูปเคารพแทนองค์เทพเจ้าต่างๆ ที่ถูกรังสรรค์ออกมาได้อย่างวิจิตรงดงามราวกับเหมือนยังมีชีวิตที่ทรงพลานุภาพทำให้พระหนุ่มต้องอ่อนน้อมและรู้สึกเคารพศรัทธาเป็นอย่างมากและอดนึกชมเชยช่างฝีมือผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถทางด้านศิลปะกรรมในอดีตที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธาของตนต่อความเชื่อทางศาสนาที่พวกเขามีอยู่เต็มในจิตใจจนสามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นความศรัทธานั้นได้ชัดเจนผ่านทางผลงานแกะสลักทั้งหมดภายในถ้ำแห่งนี้
..ครั้นเมื่อ พระหนุ่มปฏิบัติภาระกิจที่ตั้งใจไว้ผ่านไปได้ประมาณสามวัน..ก็พลันเกิดฝนตกหนักถึงสองวันสองคืนต่อเนื่องคล้ายจะเป็นเหมือนฝนสั่งลาช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจึงทำให้ฝูงงูและสัตว์ป่ามีพิษต่างๆ ที่อาศัยอยู่รอบบริเวณเขาลูกนั้นต่างพากันไปหาที่หลบอากาศที่จู่ๆ ก็เกิดหนาวเย็นขึ้นมาอย่างกะทันหันนั้นอย่างพร้อมเพรียงรวมกันอยู่บริเวณปากถ้ำที่พระธุดงค์หนุ่มรูปนั้นพำนักปักกลดปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่ ทำให้พระธุดงค์หนุ่มนั้นไม่สามารถออกจากถ้ำเพื่อไปทำกิจวัตรอื่นได้ตามปรกติ เป็นเหตุให้พระหนุ่มจึงจำต้องลองเสี่ยงเดินลึกเข้าไปสำรวจยังภายในตัวของตัวถ้ำนั้น ด้วยความหวังว่าปลายอีกด้านของถ้ำนั้นน่าจะมีทางออกที่ปลอดภัยรออยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้ ...
..พระป่าองค์นั้นจึงได้ค่อยๆ เริ่มเสี่ยงเดินเข้าในถ้ำนั้นลึกเข้าไปเรื่อยๆๆ พร้อมกับแสงจากเทียนเล่มน้อยในมือ กระทั่งถึงบริเวณรอยแยกใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีร่องน้ำขังที่อยู่ภายในกึ่งกลางของภูเขาลูกนั้นโดยสังเกตได้จากปริมาณของหยดน้ำที่ทยอยหยดซึมผ่านจากบรรดาก้อนหินย้อยที่มีอยู่มากมายเกลื่อนบริเวณภายในกลางเขาลูกนั้น..
...และแล้ว จู่ๆ ความสว่างเดียวจากแสงเทียนในมือของพระหนุ่มก็ค่อยๆ ริบหรี่ลงเรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณความชื้นที่มีมากขึ้นในอากาศที่อบอ้าวภายในถ้ำนั้นจึงทำให้การสำรวจเริ่มเต็มไปด้วยอุปสรรค...และด้วยการสูญเสียการทรงตัวแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นของพระธุดงค์หนุ่มก็ถึงกับต้องลื่นล้มเนื่องจากเหยียบโดนคราบตะครันที่เกาะสะสมอยู่บนก้อนหินทรงกลมมนเหล่านั้นมานาน ทำให้ตัวของเขาหล่นร่วงไปจนหัวกระแทกเข้ากับชะง่อนหินและตกลงไปพาดอยู่บนแท่นหินที่กำลังขวางการไหลของน้ำภายในร่องน้ำนั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ...
..หลังจากที่พระธุดงค์รูปนั้นเหมือนจะเริ่มได้สติ..ก็พยายามปีนป่ายกลับขึ้นมาจากร่องน้ำนั้นอีกครั้ง..แล้วรีบประคับประคองตนค่อยๆ เดินทางไปจนถึงปลายทางออกอีกด้านหนึ่งของอุโมงค์ของถ้ำนั้นตามแสงไฟดวงน้อยที่ส่องนำทางให้เห็นอยู่บริเวณปลายอุโมงค์ จนในที่สุดเขาก็สามารถนำพาตัวเองออกมาจากถ้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นได้สำเร็จ
..บรรยากาศของอีกด้านหนึ่งของภูเขานั้นช่างดูแปลกแตกต่างกับภูเขาอีกด้านโดยสิ้นเชิงราวกับเสมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่ยังไม่มีผู้คนได้เข้าไปรบกวนธรรมชาติมากนักจึงทำให้ด้านนี้ของภูเขายังมีลักษณะของป่าทึบอันอุดมสมบูรณ์อย่างน่าอัศจรรย์ใจและด้วยทัศนวิสัยที่ดีไร้ซึ่งหมอกควัน พระหนุ่มจึงสามารถมองสังเกตออกไปได้ไกลถึงชุมชนที่ตั้งอยู่เป็นจุดๆ กระจายตัวอยุ่ทั่วไปได้อย่างชัดเจน โดยที่ไม่ไกลจากเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้ก็เหมือนจะมีผู้คนสัญจรไปมาให้เห็นคล้ายเป็นชุมชนเล็กๆ ที่น่าจะมีผู้คนอยู่อาศัยอยู่ค่อนข้างจะหนาตาพอสมควร พระหนุ่มจึงไม่รอช้าที่จะรีบประคับประคองตนเดินทางตรงไปยังหมู่บ้านที่เห็นนั่น ทันที
...ที่นี่คือ..ที่ไหนกันนะ!?!...เมื่อพระธุดงค์หนุ่มรูปนั้นเดินทางลงถึงบริเวณชุมชนก็ยิ่งเริ่มคลางแคลงใจขณะที่เขากำลังเดินท่ามกลางผู้คนที่ดูแตกต่างอยู่ภายในสถานที่คล้ายจะเป็นเหมือนตลาดของชุมชนที่มีผู้คนเดินสวนกันไปมาด้วยเครื่องแต่งกายค่อนข้างจะโบราณแปลกตา อีกทั้งของแห้งสีสันสดใสต่างๆ ที่วางจำหน่ายตามร้านข้างทางก็ยังดูไม่คุ้นเคยทั้งรูป รส กลิ่น เสียง..อีกด้วย
“...อีกฟากหนึ่งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ช่างดูแตกต่างตามถนนหนทางก็มีโคสวยงามลักษณะดีเดินเพ่นพ่านไปมา” ..พระหนุ่มนึกทึ่งอยู่ภายในใจท่ามกลางเสียงพูดคุยอื้ออึงของผู้คนที่กำลังสื่อสารกันด้วยภาษาที่ยากจะเข้าใจ..ทำให้พระหนุ่มเกิดความสับสนและไม่แน่ใจในที่มาอันแน่ชัดของตัวเขาเสียแล้วที่เหมือนหลุดมาอยู่อีกซีกโลกหนึ่งในขณะนี้ ..
.. และความรู้สึกอันเลือนลางถึงความไม่ปลอดภัยจากบรรดาสัตว์มีพิษที่อาจจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นได้อีกเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนั้นบนถ้ำแห่งนั้นจึงส่งผลให้พระหนุ่มจำต้องเลือกที่จะหยุดภาระกิจบำเพ็ญภาวนาไว้เท่านั้นและยังไม่คิดกลับไปที่ถ้ำนั้นอีกจนกว่าจะแน่ใจในความปลอดภัย ขณะพยายามทำตัวให้กลมกลืนเพื่อจะไม่อยากให้เป็นจุดสังเกตว่าตนนั้นแปลกแยกเนื่องจากขณะนี้มีความมอมแมมของเครื่องแต่งกายนักบวชที่เพิ่งประสบเหตุก็เหมือนเสียรูปทรงไปเกือบทั้งสิ้น... พระหนุ่มจึงได้แต่คอยพยายามใช้สายตามองหาถึงสิ่งที่พอจะคุ้นเคยเพื่อจะหาหนทางนำตนสู่ภูมิลำเนาดั้งเดิมได้โดยเร็วที่สุด แต่..ด้วยความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียและความสับสน..ทำให้พระธุดงค์หนุ่มจึงต้องแอบหลบเข้าไปนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อทบทวนเหตุการณ์ที่ก็ยังไม่ค่อยชัดเจนในหัวที่เพิ่งได้รับความกระทบกระเทือนมาแบบไร้คำตอบ..และแล้วพระหนุ่มได้เกิดผล็อยหลับไปอยู่บริเวณโคนใต้ต้นไม้นั้นอันค่อนข้างจะลับตาผู้คนนั่นเอง..
..ในภวังค์.. พระหนุ่มก็พลัน..ฝันเห็นเหตุการณ์แปลกๆ ที่ตนไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยงข้องด้วยแต่อย่างใด ..ซึ่งในภาพฝันนั้นพระหนุ่มสังเกตเห็นเป็นภาพเหตุการณ์ของผู้นำของกลุ่มชุมชนแห่งนั้นที่ได้รับเครื่องบรรณาการจากบรรดาพ่อค้าโดยเป็นพระพุทธรูปบูชาที่ทำจากหินแกะสลักหลากสีสันต่างลีลา ท่าทางและหลากหลายขนาดจำนวนมากมายที่ดูสวยงามอ่อนช้อย... แต่แล้วจู่ๆ ภาพในความฝันนั้นก็ถูกกลบเกลื่อนด้วยฝูงชนเผ่าอันธพาลต่างศาสนาที่กำลังเข้าโจมตีบุกปล้นสดมภ์และพยายามทำลายสิ่งปลูกสร้างสวยงามรวมถึงพระพุทธรูปหินแกะสลักเหล่านั้นจนทำให้ชนผู้นำกลุ่มต้องพากันลำเลียงสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาลี้ภัยออกไปทางทะเล
พระหนุ่มสะดุ้งตื่น !! ..ขณะที่เห็นมีชายสูงอายุที่แต่งตัวสะอาดสะอ้านกำลังวางชุดอาหารสำเร็จรูปไว้ที่ข้างกายของพระหนุ่มเหมือนต้องการจะทำทานทั่วไปอย่างไม่ได้เฉพาะเจาะจงแล้วค่อยๆ เดินจากไป พระหนุ่มจึงแสดงตนขอรับอาหารนั้นพร้อมทั้งอวยพรชายผู้นั้นด้วยความสุภาพ แล้วค่อยๆ จัดการกับอาหารหน้าตาแปลกๆ ที่มีรสชาดของเครื่องเทศเข้มข้นฉุนขึ้นจมูกจนทำให้รู้สึกหายง่วงทันทีนั้นเป็นที่เรียบร้อยด้วยเวลาไม่นาน
..จากนั้น..พระหนุ่มก็รีบลุกขึ้นเพื่อออกเดินทางต่อทันทีโดยหวังจะมองหาวัดสักแห่งเพื่อจะใช้เป็นที่พักชั่วคราวให้ได้ก่อนเวลาค่ำและได้เหลือบมองไปยังกลุ่มคนที่กำลังกระเทาะหินส่งเสียงดังก้องกังวาลอย่างต่อเนื่องแบบไม่ได้จังหวะมาจากอีกฟากหนึ่งของถนนซึ่งดูเหมือนสีหน้าของทุกคนในโถงหินนั้นกำลังตั้งใจและขะมักเขม่นกระเทาะหินกันอย่างมีเป้าหมายการเพื่อให้ก้อนหินธรรมดากลับมีลวดลายสวยงามขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์อยู่ในดงดอนของกองก้อนหินใหญ่น้อยที่ดูคล้ายเป็นสถาบันหรือสถานที่ส่งเสริมฝีมืออาชีพช่างแกะสลักหินโดยเฉพาะ
.. หลังจากที่พระหนุ่มหยุดยืนทึ่งกับผลงานที่ตั้งโชว์ไว้บริเวณด้านหน้าโถงนั้นภายใต้เสียงเคาะหินอันดังต่อเนื่องอย่างน่ารำคาญได้เป็นเวลานาน..ก็ปรากฏมีผู้ชายร่างกายแข็งแรงผู้หนึ่งคล้ายเป็นหัวหน้าผู้ดูแลสถานที่แห่งนั้นเดินเข้ามาพยายามจะทักทายด้วยภาษาถิ่นของเขาพร้อมด้วยการเขย่าหน้าไปทางซ้ายขวาตลอดเวลาระหว่างการสื่อสารนั้นด้วยไมตรีและเริ่มกวักมือเรียกเหมือนให้เดินตามเพื่อเข้าไปชมผลงานอื่นๆ ที่อยู่ด้านใน.. ซึ่งพระหนุ่มก็ไม่กล้าจะปฏิเสธจึงตัดสินใจเดินตามเข้าไปบริเวณโรงงานสลักหินนั้นโดยดีเพื่อหวังจะรักษามิตรภาพไว้..และเมื่อพระหนุ่มเดินเข้าไปถึงด้านในของโถงหินนั้นก็เห็นว่าภายในถูกเจาะสกัดจนเป็นห้องโถงใหญ่อีกห้องที่คล้ายเป็นบริเวณที่พักรวมของคนงานทุกๆ คน
...และแล้ว ชายกำยำผู้นั้นก็ยื่นชุดคนงานให้ชุดหนึ่งยัดใส่ในมือของพระหนุ่มแล้วเขาก็รีบเดินกลับออกไปทำงานของเขาต่อทันที
...พระหนุ่มรับเสื้อผ้าเก่าๆ ชุดนั้นไว้แบบงงๆ..เพราะยังไม่เข้าใจในภาษาพูดและกริยาแปลกๆ นั้น.....จากนั้นไม่นานก็มีชายหนุ่มที่ดูอ่อนวัยกว่าอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพระหนุ่มแล้วเริ่มทำท่าทางเหมือนอธิบายให้พอให้เข้าใจได้ว่าต้องการให้พระหนุ่มเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมือนคนงานอื่นๆ เนื่องจากหัวหน้างานเขาสังเกตเห็นในความสนใจต่องานศิลปะกรรมจากการแกะสลักหินที่ตั้งแสดงไว้จึงให้โอกาสพระหนุ่มได้ทดลองฝีมือแกะสลักหินเพื่อหาประสบการณ์ด้วยมือของตัวเอง....
..พระหนุ่มกำลังอยู่ภายใต้ความสับสนในการจะเลือกทางเดิน ณ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้กับทางเลือกที่มีไม่มากนัก สุดท้ายพระหนุ่มจึงจำใจต้องทำตามคำแนะนำสั่งการนั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปด้วยความคลางแคลงใจว่าการใช้ชีวิตต่อไปของเขานั้นจะเป็นเพียงระยะชั่วคราวหรือตลอดไปบนดินแดนแห่งความไม่คุ้นเคยแห่งนี้..เมื่อพระหนุ่มเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จก็ถูกเด็กหนุ่มคนเดิมที่ยืนเฝ้าอยู่นั้นเข้ามาช่วยจัดรัดตรึงตกแต่งเสื้อผ้าอีกครั้งเพื่อไม่ให้ดูรุ่มร่ามแล้วค่อยพาตัวอดีตพระหนุ่มไปเริ่มบทเรียนเพื่อให้รู้ถึงวิธีการใช้เครื่องมือแบบง่ายที่ใช้แกะสลักหินตามหลักสูตรของพวกเขาแทบจะทันที ...
...จากพระหนุ่มที่เคยเคร่งครัดปฏิบัติธรรมกลับต้องจับพลัดจับพรูให้ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมฝึกแกะสลักหินที่มองดูคล้ายกับค่ายฝึกทหารมากกว่า..โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเพียงที่พักและอาหารประทังหิวเพื่อความอยู่รอดไปวันต่อวันเท่านั้น แต่อย่างไรเสียก็คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการที่พระหนุ่มจะต้องเดินเร่ร่อนต่อไปโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง..
...กระทั่งเวลาได้ผ่านไปหลายวัน.. อดีตพระหนุ่มก็เริ่มจะผ่อนคลายจากความเครียดสับสนกลับกลายมาเป็นความตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้เคล็ดลับของกรรมวิธีจะทำก้อนหินแข็งแกร่งนั้นให้อ่อนนุ่มลงเหมือนเป็นแค่แท่งไม้ที่ง่ายต่อการสลักลายและเริ่มเป็นความผูกพันธ์กับภาระกิจร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะกับทุกๆ คนภายใต้ผู้ดูแลที่มักจะมอบหมายหน้าที่ให้ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานตลอดเวลาจนเหมือนจะขาดซี่งคนใดคนหนึ่งไปเสียไม่ได้เลย สุดท้ายอดีตพระหนุ่มเองก็กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกอยู่ในระบบขับเคลื่อนของกลุ่มไปโดยแทบจะไม่รู้ตัว..
..จากวัน..เป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์..กลายเป็นเดือนเป็นปี..สุดท้ายอดีตพระหนุ่มจึงต้องติดพันวงจรภาระกิจนั้นเรื่อยมา...จนกระทั่งเริ่มจะชำนาญในการใช้เครื่องมือต่างๆ ได้ดีคล้ายเหมือนมีพรสวรรค์ในงานแกะสลักหินชนิดต่างๆและเริ่มจะมีผลงานตนเองที่ถูกเลือกให้ออกมาตั้งประดับไว้หน้าสถานที่แห่งนั้นร่วมกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ กับลวดลายที่สวยแปลกตาโดดเด่นโดยอยู่ภายใต้การถูกจับตามองของผู้นำกลุ่มเรื่อยมา..
..เวลาผ่านไปประมาณสองปี..
..และแล้ว ก็มีประกาศแจ้งถึงกำหนดการของ ..งานเทศกาลสร้างบุญใหญ่ของผู้นำประจำแคว้นที่จะเปิดรับนักบวชชาวพุทธ พราหมณ์และอาสาสมัครทั่วไปที่เต็มใจเพื่อออกเดินทางร่วมออกเดินทางเพื่อช่วยเผยแผ่พุทธศาสนาในดินแดนแห่งใหม่ตามวาระที่มีการเฉลิมฉลองของเมืองเพื่อเป็นพุทธบูชาพระศาสดาที่ตนนับถือดังเช่นบรรพชนเคยปฏิบัติมาแล้วให้เป็นไปตามประเพณี.. โดยยังจะให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลสกุลช่างฝีมือต่างๆ ที่ต้องอาจจะต้องพำนักอยู่ต่างแดนเป็นเวลานานจนเสร็จสิ้นภาระกิจการก่อสร้างเทวะสถานและรูปเคารพ ณ ดินแดนใหม่..ร่วมกับเครือข่ายสมณะสงฆ์และคณะพราหมณ์พร้อมพระโคคู่ศักดิ์สิทธิ์หลายคู่ซึ่งเป็นของกำนัลของเมืองที่จะเป็นเสมือนชุดผู้นำบูชเพื่อประกอบพิธีอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอัญเชิญพระพุทธรูปมงคลต่างๆ ขึ้นประดิษฐานตามหลักโหราศาสตร์ให้เป็นสัญลักษณ์พุทธศาสนาอำนวยพรยังดินแดนแห่งใหม่นั้นให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ..โดยความสำคัญครั้งนี้ก็ยังจะมีเป้าประสงค์หลักเพิ่มเติมว่าต้องการสร้างอุโบสถสถานเพื่อเป็นที่สถานที่ทำการอุปัชฌาย์ให้กำเนิดพระสงฆ์ท้องถิ่นบนพื้นที่แห่งนั้นในนามกองทัพแห่งพุทธธรรมตามคำขอของพระศาสดาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาอีกด้วยโดยหวังจะให้เป็นใบบุญต่อยอดทางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองบนดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ผืนใหม่โดยหวังปลอดภัยจากกลุ่มกองโจรที่เห็นต่างที่มักคอยเข้าบุกรุกทำลายสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา...อีกด้วย
...เมื่ออดีตพระหนุ่มได้ยินประกาศนั้นจากหัวหน้างานก็รีบเสนอตัวขอเป็นอาสาสมัครร่วมเดินทางเพื่อแสดงความศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้น ทันที..ซึ่งก็มีเพื่อนๆ ที่ไม่สะดวกร่วมเดินทางก็ต่างร่วมอนุโมทนาบุญกันถ้วนหน้าโดยต่างก็ได้ฝากผลงานอันวิจิตรทางพุทธศาสนาของตนมายังดินแดนแห่งใหม่เพื่อร่วมถวายเป็นพุทธบูชากันอย่างมากมายหลายชิ้นงานหวังเพื่อให้ใช้เป็นต้นแบบ
..และแล้วก็ถึงวันออกเดินทาง..
..โดยระหว่างการเดินทางอยู่บนเรือของอดีตพระหนุ่มขณะนี้ที่พอจะเข้าใจภาษาพูดสื่อสารของชนท้องถิ่นขึ้นมาบ้างแล้ว ก็ได้แต่ลอบหาโอกาสเพื่อไปนั่งฟังตำนานเล่าขานตำนานโบราณต่างๆ ของแต่ละกลุ่มชนโดยหวังว่าจะมีการกล่าวถึงดินแดนที่ตนได้พลัดหลงมาอยู่ว่าเป็นที่ใดกันแน่..และเนื่องจากช่างฝีมือเป็นผู้มีหน้าที่หลักในการแกะสลักหินรูปเคารพและก่อสร้างเทวสถานให้ออกมาดูสวยงามน่านับถือต่อผู้พบเห็น จึงกลายเป็นที่ต้อนรับและสามารถเข้าได้กับชนชั้นทุกกลุ่มชนชั้นได้ดีไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนหลักที่ต้องการออกเผยแผ่ศาสนาโดยมีกลุ่มสมณะสงฆ์และพราหมณ์เป็นแกนนำและกลุ่มผู้ค้าที่เดินทางเพื่อด้านธุระกิจที่อนุญาตให้ใช้พาหนะที่ใช้เดินทางกันอยู่เป็นประจำซึ่งอีกทั้งผู้ค้าบางส่วนก็ยังเป็นชนชั้นนำและเชื้อพระวงศ์ทางใต้ที่ชอบการผจญภัยท่องเที่ยวร่วมไปกับการเดินทางในครั้งนี้ด้วย
..กับตำนานเรื่องเล่ามากมายที่ส่วนใหญ่เน้นเรื่องคุณธรรม ..มักจะเกิดขึ้นขณะระหว่างการเดินทางทะเลที่ต้องใช้เวลานานนับเดือน ซึ่งมีเวลาว่างอย่างเหลือเฟือที่จะรังสรรค์สร้างเรื่องราวเพื่อป้องปรามบางคนที่อาจจะหาโอกาสก่อเหตุลักขโมยทรัพย์สินกันเองบนเรือจนอาจเกิดความวุ่นวายได้ จึงต้องใช้อุบายแยบยลสร้างตำนานที่มีบทลงโทษออกมาแนวน่ากลัวสำหรับใช้ลงโทษผู้ก่อความผิดว่าจะต้องได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาหัส...โดยบางตำนานก็ได้กล่าวว่าระหว่างทางจะมีผู้พิทักษ์ที่ปกป้องคอยดูแลทางทะเลที่มีร่างกายใหญ่โตคอยตรวจสอบผู้คนอยู่เป็นระยะๆ และมักจะผุดขึ้นจากน้ำขึ้นมาเพื่อลากเอาคนที่จิตใจไม่ดีลงน้ำไปด้วยก่อนที่จะถึงจุดหมายอีกฟากฝั่ง..ด้วยกุศโลบายนี้จึงช่วยทำให้คดีลักขโมยกันระหว่างการเดินทางลดน้อยลงจนแทบจะไม่มีเกิดขึ้นอีกเลย
...แต่ทว่า..ตำนานหนึ่งนั้นได้ทำให้อดีตพระหนุ่มให้ความสนใจฟังเป็นพิเศษนั้นเป็นตำนานเกี่ยวกับ..องค์พระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ์ ที่ได้ถูกสร้างขึ้นให้เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเพราะสร้างจากดวงแก้วของเทวดาหากผู้ใดได้ครอบครองก็จะทรงอำนาจเหนือคนทั้งปวง..ซึ่งเจ้าของ เดิมเป็นพ่อค้าผู้ประสบความสำเร็จที่ได้ตั้งใจถวายเพื่อเอาใจผู้ครองแว่นแคว้นผู้ดูแลด้านภาษีอากรเพียงเพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกลุ่มของตนในการทำการค้ายามที่ต้องสัญจรผ่านไปทางแว่นแคว้นดังกล่าวเท่านั้น..แต่ด้วยคำสรรเสริญแต่งเติมจากผู้คนต่างๆ นานา ที่พยายามเล่าขานสร้างตำนานจนเกินจริง..จนกระทั่งชื่อเสียงของความยิ่งใหญ่ของพระพุทธมหาจักรพรรดิ์ดังกล่าวนั้นจึงได้ย้อนกลับมาทำให้ผู้ปกครองแคว้นนั้นให้ต้องตกเป็นเป้าโจมตีให้กับฝ่ายที่เห็นต่างทางศาสนาอยู่แล้วนำมาอ้างเป็นเหตุผลเข้าท้าทายและบุกปล้นสดมภ์เมืองนั้นอยู่เสมอๆ.....กระทั่งผู้นำที่ได้ครอบครองพระพุทธมหาจักรพรรดิ์นั้นจำต้องออกอุบายอัญเชิญส่งพระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ์นี้ต่อให้กับเชื้อพระวงศ์อื่นๆ ที่เพิ่งได้เริ่มขยายอาณาเขตไปยังภูมิภาคอื่นใกล้เคียงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงการถูกระรานเรื่อยมา.. ซึ่งก็ได้ผลตามที่คาดไว้
......แต่เรื่องแปลกก็คือทุกครั้งที่มีการอัญเชิญพระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ์นี้เพื่อไปประดิษฐาน ณ ดินแดนใดแม้แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม..กลับดูเหมือนว่าจะสร้างปัญหาให้กับแว่นแคว้นต่างๆ นั้นเช่นกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเกิดขึ้นให้เจ้าผู้ครองเมืองนั้นต้องร้อนใจอยู่เสมอๆ จึงเป็นเหตุให้จำต้องถูกอัญเชิญเปลี่ยนที่ประดิษฐานไปตลอดเวลา..จนกลายเป็นตำนานเรื่องเล่าขานถึงบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า..ผู้ที่มีบารมีแท้จริงที่ต้องเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์เท่านั้นถึงจะได้ครอบครองพระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ์พระองค์นี้....จึงเป็นที่มาของการก่อสงครามแว่นแคว้นเพื่อแย่งชิงพระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ์นี้กันอย่างจริงจังในระยะต่อมาระหว่างกลุ่มของผู้นำแว่นแคว้นที่หวังจะตั้งตนเป็นใหญ่โดยหมายจะใช้พระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ์นี้เป็นเครื่องมือแสดงบุญญาบารมีของตนที่เหนือกว่าผู้นำแว่นแคว้นข้างเคียงเพื่อผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะมาจากการที่เมืองรองที่ด้อยกว่าจะมีหน้าที่ต้องคอยส่งเครื่องบรรณาการให้เมืองหลักผู้มากบารมีและสิทธิ์ในการร้องขอกองกำลังสมทบช่วยรบจากเมืองรองต่างๆ ในการทำสงครามและรวมถึงสิทธิ์ในการเลือกสมรสได้ตามใจชอบของผู้นำกลุ่มนั้นอีกด้วย ..แต่แล้วสุดท้ายพระพุทธมหาจักรพรรดิ์พระองค์นั้นก็ได้กลับหายสาปสูญไปโดยไร้ร่องรอยเนื่องจากความละโมบของกลุ่มชนผู้นำที่ไม่รู้จักพอนั่นเอง
...โดยท้ายตำนานก็ยังมีการทำนายกันไว้ว่าเมื่อใดพระพุทธศาสนาเรืองรองและมีผู้ปกครองครองธรรม ณ สถานที่แห่งนั้นจะปรากฏ..พระพุทธรูปมหาจักรพรรดิ..อีกครั้ง..
.. พระมหาจักรพรรดิ์..!?! อดีตพระหนุ่มพึมพำ..ขณะภาพทรงจำเก่าๆ ที่คล้ายภาพแห่งความฝันเริ่มผุดขึ้นมาให้เห็นเปรียบเทียบถึงความเกี่ยวเนื่องของตำนานที่เพิ่งได้ยินด้วยหูของตัวเองกับพระพุทธรูปประจำท้องถิ่นของตนในทันที
..และแล้วก็เริ่มมีคำอธิบายเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้ค้าคนสำคัญแกนนำกลุ่มผู้ร่วมเดินทางว่า .. “...ดินแดนใหม่นั้นยังไม่มีระบบและระเบียบแบบแผนชัดเจนในการปกครองและการนับถือศาสนาใดชัดเจนเพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังหลงงมงายกับพิธีกรรมบูชายัณห์ให้ภูติผีปิศาจอยู่แบบชนเผ่าโบราณ ...การทำการติดต่อค้าขายที่ผ่านมาจึงยังไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร ...การเดินทางครั้งนี้ในนามของคณะเผยแผ่พุทธศาสนาถือเป็นโอกาสที่ดีให้มีการอัญเชิญคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรและพระพุทธรูปหินศิลาต้นแบบมากมายหลายองค์เพื่อมานำทางเพื่อปูพื้นฐานทางด้านพุทธศาสนาหวังให้ช่วยขัดเกลาจิตใจของคนพื้นเมืองให้เป็นอารยะชนภายใต้แนวทางของพระพุทธศาสนาโดยหวังให้มีการเลิกแนวคิดเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่นและเลิกงมงายกับพิธีกรรมสังเวยแบบพื้นบ้านเหล่านั้นไปเสียที ..โดยการเดินทางครั้งนี้..สำหรับบางคนก็เป็นไปเพื่อการค้นหาข่าวคราวญาติของตนที่ห่างหายกันไปนานจากการนำพาผู้คนออกแสวงบุญครั้งก่อนหน้านั้น ที่ได้มาปักหลักอยู่แบบถาวรเพื่อช่วยปูทางไว้ก่อนบ้างแล้ว และบ้างก็หวังว่าจะไปช่วยสานต่อภาระกิจด้านพุทธศาสนาให้เข้มแข็งแรงขึ้นอีกโดยกลุ่มผู้มีศรัทธาแรงกล้าในคำสอนของพุทธศาสนาที่ได้อาสาพากันร่วมเดินทางมา ...ภายใต้กลุ่มพราหมณ์ได้รับมอบหมายหน้าที่มาจากชนชั้นผู้นำให้เป็นหัวเรือใหญ่ในการช่วยแนะนำแนวทางการประกอบพิธีอัญเชิญสิ่งศักดิ์ลงมาสถิตย์ ณ ศาสนาสถานในดินแดนแห่งใหม่นี้ให้ตรงตามหลักคำบัญชาจากสวรรค์ให้ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ที่พราหมณ์ชำนาญเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามจารีตเพื่อจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองมากสูงสุด” ...
…ผ่านไปประมาณสามสัปดาห์....เรือโดยสารก็ได้ลอยมาสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างสวัสดิภาพ
... ภาพชายฝั่งด้านทะเลมอญกับความยิ่งใหญ่ของพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์เขียวขจีสลับทิวเขาใหญ่น้อยอันกว้างไกลสุดสายตากับสิ่งก่อสร้างแรกเริ่มของพุทธเจดีย์ใหญ่น้อยที่กำลังทยอยก่อกำเนิดขึ้นอยู่ทั่วบริเวณตามชุมชนใหญ่น้อยทั่วไป ก็ทำให้ชายหนุ่มและผู้ร่วมเดินทางทุกคนถึงกับอ้าปากค้างถึงความอุดมสมบูรณ์บนดินแดนอันสงบสุขแห่งนี้กันถ้วนหน้า
“.. การเดินทางมาเผยแผ่คำสอนของกลุ่มทางพุทธศาสนาของเรานี้มิใช่ครั้งแรก..และเรายังคงมีเป้าหมายชัดเจนในการจะมาสานต่อเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางพระพุทธศาสนาให้กับพื้นที่นี้ให้เป็นเมืองแห่งความสุขสมบูรณ์ภายใต้พุทธศาสนา(เชนหรือเจนนิกาย เป็นลักษณะนิกายที่มีลักษณะผสมนับถือทั้งพุทธศาสนาและลัทธิพราหมณ์ฮินดู)ของเราโดยมีองค์พระกฤษณะและองค์พระสุริยเทพจะเป็นผู้อำนวยพรและช่วยนำทางให้พวกเราไปยังใจกลางที่ตั้งที่เหมาะสมในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับพวกเราเอง...” .. เป็นคำประกาศจากกลุ่มสมณะสงฆ์และพราหมณ์ผู้อาวุโสที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำการเดินทางกล่าวเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ร่วมเดินทางให้มีเป้าหมายร่วมกันก่อนทุกคนจะลงสัมผัสพื้นที่แห่งความหวังแห่งใหม่นั้น
ขณะที่แผนกดูแลสัตว์เลี้ยงรีบทำพิธีเชิญลาและวัวศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ได้ออกไปอวยพรแทะเล็มหญ้าและถ่ายมูลไปทั่วบริเวณ และบางส่วนต่างก็ช่วยกันเตรียมเทียมเกวียนต่อขึ้นไว้เพื่อรอบรรทุกพระพุทธรูปหินศิลาต้นแบบที่ได้รับมาทั้งหมดเพื่อจะทยอยอัญเชิญไปยังสถานที่เหมาะสมต่อไปตามหลักศาสนาต่อไป
..โดยต่างเฝ้ารอเวลาเหมาะสมอัญเชิญวัวศักดิ์สิทธิ์ได้พักผ่อนเต็มที่และสงบนิ่งดีแล้วก็จะเป็นผู้นำพากลุ่มผู้คนด้านศาสนาและพระพุทธรูปเหล่านี้ไปยังเส้นทางที่พระกฤษณะและพระสุริยะเทพได้กำหนดไว้แล้ว ณ ใจกลางของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่นี้ ...
..ขณะที่กลุ่มร่วมเดินทางเพื่อมาทำการค้าต่างก็ได้ช่วยเหลือเตรียมการณ์ของกลุ่มเผยแผ่ศาสนาอย่างเต็มกำลังก่อนจะขอแยกไปเพื่อติดต่อพ่อค้าท้องถิ่นเพื่อเสนอสิ่งแลกเปลี่ยนและข้อตกลงร่วมกันเหมือนที่รุ่นก่อนเคยได้ทำกันมาจนเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
..เมื่อข่าวคราวการมาถึงของกลุ่มศาสนาศักดิ์สิทธิ์ได้กระจายออกไป...ผู้คนท้องถิ่นก็ต่างเริ่มทยอยมาชื่นชมบารมีของคณะบุคคลและพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้อัญเชิญข้ามทะเลมากันอย่างต่อเนื่องอีกทั้งต่างก็นำสิ่งของประดับมีค่าส่วนตัวมาร่วมบริจาคและช้างป่าผ่านการฝึกฝนเพื่อมาร่วมสมทบในการร่วมขบวนเดินทางและเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนากันตามศรัทธาที่มีอย่างมากมายคล้ายเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองเปิดศักราชใหม่ทางพุทธศาสนายิ่งใหญ่ที่นำมาซึ่งความสุขให้กับกลุ่มชนบนดินแดนใหม่นี้ที่รักความสงบโดยปราศจากการต่อต้านแต่อย่างใด... ร่วมกับกลุ่มครอบครัวของกลุ่มผู้ที่ได้เคยเดินทางล่วงหน้ามาเมื่อก่อนหน้านี้ที่บางส่วนก็ได้เริ่มมีการตั้งรกรากมีครอบครัวกับชนพื้นถิ่นจนมีสมาชิกครอบครัวจำนวนมากบนแผ่นดินใหม่นี้ก็ได้แวะเวียนมาทำการสักการะ ทักทายพร้อมให้คำแนะนำสถานที่เหมาะสมที่จะเริ่มสร้างเมืองในย่านต่างๆ อย่างต่อเนื่องเต็มกำลัง
... โดยมีความเห็นสุดท้ายร่วมกันของกลุ่มคณะสงฆ์และหัวหน้าพราหมณ์ผู้ได้รับการแต่งตั้งว่าเห็นสมควรจะปล่อยให้กลุ่มประชากรที่เดินทางมาก่อนหน้านั้นที่เริ่มแข็งแรงและปรับตัวได้แล้วคงอยู่ในพื้นที่ติดชายฝั่งเดิมไว้เพื่อเป็นเมืองหน้าด่านเพื่อคอยคัดกรองกลุ่มชนอันธพาลต่างศาสนาที่อาจจะพลัดหลงและตามมาทำลายล้างพระพุทธศาสนาได้อีกบนดินแดนแห่งใหม่นี้..โดยจะมิให้อันธพาลต่างศาสนาเข้ามาเหยียบบนดินแดนอันสงบสุขนี้ได้อีกต่อไป
จากนั้น..คาราวานกองทัพธรรมโดยการนำของคณะสงฆ์และพราหมณ์..ก็พร้อมกันค่อยๆ เคลื่อนออกเดินทางไปพร้อมภาระกิจเพื่อเสาะแสวงหาสถานที่เหมาะสมที่จะมีเขาพระสุเมรุเป็นหลักใจในพื้นที่อันเหมาะสมต่อไปเพื่อจะก่อสร้างให้เป็นเมืองชั้นในเพื่อช่วยเสริมความมั่นคงให้กับพระพุทธศาสนาในดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้เพื่อการันตีว่าความเหน็ดเหนื่อยของพวกเขาจะคุ้มค่าและเป็นรากฐานให้ลูกหลานได้เติบโตภายใต้บารมีของพระพุทธศาสนาอย่างที่พวกเขาได้ตั้งใจและช่วยสานต่อในการดำรงรักษาพระธรรมให้คงอยู่สืบต่อไปชั่วกาลนาน โดยได้พากันออกเดินทางผ่านหุบเขาเข้าไปตามทางเกวียนท้องถิ่นลึกเข้าไปยังผืนแผ่นดินใหญ่ดังที่ได้ร่วมกันอธิษฐานตั้งใจไว้ ..
...ผ่านไปหลายสัปดาห์...
..และแล้ว ขบวนอันเชิญเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ก็รอนแรมผ่านป่าเขาได้พบปะอวยพรผู้คนพื้นถิ่นจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงพื้นที่อันเหมาะสมในสายตาของคณะพราหมณ์ผู้อาวุโส ที่สามารถมองไปเห็นภูเขาอันตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยวกลางพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์อย่างมาก จึงได้เริ่มทำพิธีกรรมอัญเชิญพระกฤษณะและพระศรีอารยเมตตรัยขึ้นประดิษฐาน ณ ยอดเขาแห่งนั้นและเริ่มกำหนดหมุดหมายจานแผ่นจารึกฝังลงใต้ผืนดินเพื่อประกาศสร้างเป็นศาสนาสถานบนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์อันมีทำเลอันเหมาะสมตามตำราพราหมณ์สูตรนั้นโดยได้รับการสนับสนุนจากผู้นำถิ่นและชนพื้นเมืองอย่างเต็มกำลัง
และอดีตพระหนุ่มก็ยังได้รับหน้าที่ให้เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ถูกคัดเลือกให้ได้ร่วมเดินทางไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ร่วมสลักเทวสถานร่วมกับกลุ่มผู้นำพราหมณ์เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญพระกฤษณะเพื่อประดิษฐานเป็นศูนย์กลางเพื่ออำนวยพรให้กับชุมชนในอาณาเขต และอดีตพระหนุ่มนั้นยังได้รับหน้าที่สำคัญให้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมถวายการแกะสลักหินเป็นพระกฤษณะ พระศรีอริยเมตตรัยและพุทธรูปปางต่างๆ ตามที่หัวหน้าพราหมณ์ได้กำหนดไว้ให้ปรากฏภายในผนังถ้ำแห่งนั้นให้มีความน่าเลื่อมใสในหมู่ผู้คนที่ได้พบเห็นและหมายให้เป็นดั่งเทว
สถานและปฏิมากรรมรูปเคารพอันศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาลูกนั้นให้ผู้คนได้กล่าวขานกันต่อไปชั่วลูกหลานซึ่งช่างผู้รับหน้าที่ก็มีรูปแบบอันชัดเจนนั้นอยู่แล้วในใจจากความทรงจำในอดีต ..นั่นเอง
และเนื่องจากอดีตพระหนุ่มที่ไม่ต้องการให้ใครมาประสบเหตุเช่นเดียวกันกับตนซึ่งเสมือนเป็นการถูกลงโทษที่ได้ล่วงเกินไปยังเทวะสถานอันศักดิ์สิทธิ์...อดีตพระหนุ่มจึงได้ร่วมออกความคิดเห็นให้ควรมีการเจาะห้องโถงเพิ่มเติมบริเวณโคนเขาเพื่อแยกใช้ทำพิธีกรรมตามความสำคัญโดยเห็นควรให้แยกชัดเจนระหว่างโถงบริเวณของเทวะสถานและโถงบริเวณสำหรับใช้เป็นที่บูชาสักการะของชนชั้นผู้นำ พระสงฆ์ใช้ถือศีลภาวนาและประชาชนทั่วไปแทนการก่อสร้างศาสนสถานเพิ่มเติมบนยอดเขาเพื่อเป็นที่สถิตย์ขององค์เทพปกป้องผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่อาจต้องใช้เวลาและทรัพยาการที่มากกว่า ซึ่งทางคณะพราหมณ์ก็ให้ความเห็นด้วยกับแนวคิดนั้นโดยได้สั่งโยกย้ายให้กำลังส่วนเกินไปช่วยคณะสงฆ์สร้างในส่วนของศาสนสถานที่อยู่บนพื้นราบภายในตัวเมืองแทนเพื่อพร้อมจะใช้ประกอบพิธีอุปัชฌาย์ให้กับคนในพื้นที่ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้สู่เพศสมณะสงฆ์เพื่อช่วยเผยแผ่หลักคำสอนทางพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปบนดินแดนแห่งความสงบสุขแห่งนี้ไปตราบกาลนาน
ภายในตัวเมืองยังมีการปันส่วนได้อย่างเหมาะสมเพื่อเตรียมให้เป็นสถานที่สำหรับใช้ประดิษฐานพระสุริยเทพและโบสถ์พราหมณ์เพื่อใช้ประกอบพิธีตามพราหมณ์สูตรเคียงคู่กับโบสถทางพุทธศาสนาที่จะมีใบเสมาเป็นหลักเพื่อจุดประสงค์ที่สามารถใช้ประกอบพิธีอุปัชฌาย์เพิ่มจำนวนพระสงฆ์ให้กับคนในพื้นที่ได้เป็นหน่อเนื้อนาบุญด้านพุทธศาสนาต่อไป
สุดท้าย..อดีตพระหนุ่มก็ได้มีโอกาสเข้ารับการอุปัชฌาย์เป็นภิกษุสงฆ์อีกครั้ง ณ ดินแดนแห่งนั้น หลังเสร็จสิ้นภาระกิจจำรักสร้างเทวะสถานและยังได้กลายเป็นผู้นำกลุ่มที่สำคัญในด้านหลักคำสอนทางด้านพุทธศาสนาที่ถูกต้องและเคร่งครัดประจำอยู่ในภูมิภาคดินแดนที่เพิ่งจะเริ่มแรกในการเข้าสู่ยุคของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ โดยช่วงบั้นปลายก็ได้เลือกที่จะส่งตัวเองไปบริเวณที่มีแหล่งหินทรายแดงที่มีพื้นที่อยู่ห่างลงไปทางใต้เล็กน้อยที่มีผู้คนอยู่อาศัยหนาแน่นมากกว่าหวังสร้างสถาบันเพื่อส่งต่อวิชาการแกะสลักหินให้คงอยู่ต่อไปโดยเน้นพื้นฐานงานลวดลายบนใบเสมาและธรรมจักรจนถึงงานขั้นสูงจำรักผนังถ้ำให้เป็นเทวะสถานซึ่งได้สร้างลูกศิษย์ไว้มากมายโดยหวังจะให้เป็นเมืองอันอำไพศาลีทางด้านพุทธศาสนาที่ตนได้เคยพิสูจน์เห็นถึงความน่าอัศจรรย์มากับตัวเองเพียงแต่ท่านมิได้บอกกล่าวแก่ใครเนื่องจากมีกฏของสงฆ์ที่ห้ามการพูดปดพูดเพ้อเจ้ออาจนำพาความเสื่อมเสียขาดความน่าเชื่อถือในตนไปได้..นั่นเอง
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อำ​​ไพศาลีศรีสุริยะ​​เทพ
“..​โยม ะ​​ไม่มีวันมีวามสุบน​โลภายนอ ​เพราะ​ีวิอ​โยม​ไ้ถูำ​หนมา​ให้้อ​ใ้ีวิอยู่​ใ้ร่มาสาวพัร์ ​เท่านั้น..”
..ำ​พูนั้น​เหมือนะ​่อยๆ​ ลาย​เป็นวามริ​ให้​เห็นทีละ​น้อยๆ​ าารที่​เาะ​พยายาม​เริ่มทำ​สิ่​ใ็มัะ​ถูบาลุ่มนพยายาม​เ้ามาวย​เอาผลประ​​โยน์าวามพยายามอ​เา​ไป​เสมอๆ​ น​เริ่มท้อ​และ​​เ้า​ใสุท้ายึ้อยอมปล่อยีวิ​ให้​เป็น​ไปามำ​ทำ​นายนั้น​ในที่สุ
พระ​หนุ่ม.. ผู้​เิ​เบื่อหน่ายีวิทา​โล​เนื่อา..ที่ผ่านมามัะ​​เอ​แ่ผู้นที่มีนิสัย​ไม่รู้ัพอ ้อ​แ่ะ​​เอารั​เอา​เปรียบ​และ​ารัินัน​เอทั้​เป็นออมนุษย์บาำ​พวอันนำ​มาึ่วามน่า​เบื่อหน่าย​และ​ปัหา​ให้​เา้อวุ่นวายลุ้ม​ใลอ​เวลา ..น​เหมือนีวิอ​เามิ​ไ้ถูำ​หนมา​ให้​ใ้ีวิ​เ่นปุถุนที่อบาร​แ่ันทั่ว​ไปั​เ่นำ​ทำ​นายอพระ​ป่ารูปหนึ่ที่​เย​ไ้ทำ​นาย​ไว้.. สุท้ายึ​ไ้หันหลั​ให้ับีวิสามันนทั่ว​ไป​เพื่อหัน​ไปบว​เรียน​และ​​เร่รัศึษา​ในหลัปิบัิธรรมำ​สั่สอน​ในทาพุทธศาสนาอย่า​เ็มที่..
..​โยพระ​หนุ่ม็มัะ​สน​ใ​ในารออธุ์​โปรสัว์​และ​​แสวหาสัะ​ธรรมวามริอีวิึ่​เป็นส่วนหนึ่​ในภาระ​ิอส์ที่วรปิบัิ ..บ่อยรั้​เาึพยายามหา​โอาส​เหมาะ​สม​เพื่อออ​เินทารอน​แรม​ไปยัสถานที่ศัิ์สิทธิ์่าๆ​ หวัั้​ใะ​​ไป​โปรสัว์​และ​​เพื่อสวมน์ภาวนาอพร่อสิ่ศัิ์สิทธิ์​แห่นั้นๆ​ ่วยอำ​นวยพร่อสรรพวิาอบรรพน​ใน่าท้อถิ่นห่า​ไล รวมทั้​เพื่อารำ​ศีลภาวนาหวัหาำ​อบ​เพื่อวาม​เ้า​ใ​ในีวิภาย​ใ้บรรยาาศที่​เียบสบ​และ​ห่า​ไลวามวุ่นวาย​และ​มา​เรื่อราวาผู้น อยู่​เป็นิวัร...
.. ​และ​​ในุหมายปลายทาอาร​เินทาออธุ์รั้นี้..พระ​หนุ่ม็ั้​ใะ​​ไป​เพื่อำ​ศีลภาวนา ถ้ำ​​แห่หนึ่ึ่​เป็นบริ​เวที่​เย​เป็นศูนย์ลา​เมือ​เ่า​โบรา​ในยุ​แร​เริ่มออารยธรรม​โบรา​ในิน​แน​แถบถิ่น​เิอน.. รั้น​เมื่อพระ​หนุ่ม​เินทา​ไปถึยัสถานที่ัล่าว็สั​เ​เห็น​ไ้ว่า​เป็นพื้นที่ราบลุ่ม​และ​มี​เา​โั้อยู่บนลาพื้นที่ราบนั้น​เพียลู​เียวอย่า​โ​เี่ยวึทำ​ู​โ​เ่น​และ​น่า​เราม ลัษะ​ภู​เานาย่อมที่มีถ้ำ​อยู่​เือบะ​บนสุอยอภู​เาศัิ์สิทธิ์อัน​เป็นที่นับถือทั่ว​ไปอุมน​ในละ​​แวนั้นมาั้​แ่อีนถึปัุบัน​และ​มีำ​นาน​เล่าาน่าๆ​ นานาวน​ให้น่านลุมามายส่วน​ให่ะ​ออ​ไป​ในทิศทา​เียวันว่า..หาผู้ที่​ไ้รุล้ำ​​เ้า​ไป​ในบริ​เวภู​เาศัิ์สิทธิ์​แล้วมัะ​​ไม่​ไ้มี​โอาสลับมาสู่​โลภายนอ​ไ้อี ..​แ่​เนื่อาพระ​หนุ่มิว่านมา้วยุประ​ส์ที่ี..​แ่าับ​โร​โมยที่มัะ​มีุประ​ส์อัน​เลวร้ายส่วน​ให่ที่หวัะ​​เ้าพื้นที่​เพื่อหมาย​โรรรมสิ่อมี่าที่ยัอาหล​เหลืออยู่​ในพื้นที่นั้นออ​ไป​เพื่อลัลอบทำ​าร้าวัถุ​โบรา..ึทำ​​ให้พระ​หนุ่ม​เิวามล้าที่ะ​นำ​ัว​เอ​เ้า​ไปพิสูน์ถึวามศัิ์สิทธิ์ที่​เยมีผู้ล่าวอ้านั้น้วยวามมั่น​ใ
.. ระ​หว่าทา​เินึ้นสู่บริ​เวถ้ำ​บนยอภู​เาศัิ์สิทธิ์..่อน้าะ​ู​แห้​แล้​แปลา​แม้​แ่​ในยามปลายฤูฝน​เ่นนี้็ยั​เห็น​เศษ​ใบ​ไม้​แห้อยู่​เลื่อนปลุมระ​ายอยู่ทั่ว​ไป อาะ​​เป็น​เพราะ​ทำ​​เล​โ​เี่ยวอภู​เาำ​ทำ​​ให้มีระ​​แสลมพั​ไหล​เวียนถ่าย​เทอยู่ลอ​เวลา อีทั้รอบๆ​ บริ​เว็ยั​เ็ม​ไป้วยพรร​ไม้อายุสั้นที่​ไม่ั​เ็บน้ำ​ที่​เิึ้นอยู่​เ็มพื้นที่​โยรอบลัษะ​​เป็นพุ่มอ​โย​เพาะ​พุ่ม​ไม้​ไผ่​ให่น้อยที่ระ​ายัวส่​เสียลำ​้น​เสียสี​ไปมานทำ​​ให้น่าัวล​เพราะ​อา​เสี่ย่อารทำ​​ให้​เิ​ไฟป่า​ในหน้า​แล้​โย่ายอี้วย ...​แ่ับวามื้นที่ยัพอะ​หล​เหลือ​ใน่วอปลายฤูฝนนี้ึทำ​​ให้พระ​หนุ่มพอรู้สึอุ่น​ใึ้นมา​ไ้บ้าว่าอา่วยบรร​เทา​ไ้บ้าหาะ​​เิอุบัิ​เหุ​เรื่อ​ไฟป่า็​ไม่ลาย​เป็น​เหุรุน​แร​ไปนระ​ทบถึภาระ​ิที่น​ไ้ั้​ใ​ไว้ สถานที่ศัิ์สิทธิ์​แห่นี้
้าว​แร..​เมื่อพระ​หนุ่ม​ไ้ย่าราย​เ้า​ไปยับริ​เวปาถ้ำ​็้อะ​ลึ​และ​รู้สึยำ​​เรับภาพ​แะ​สลัหินมามายที่​เป็นรูป​เารพ​แทนอ์​เทพ​เ้า่าๆ​ ที่ถูรัสรร์ออมา​ไ้อย่าวิิรามราวับ​เหมือนยัมีีวิที่ทรพลานุภาพทำ​​ให้พระ​หนุ่ม้ออ่อนน้อม​และ​รู้สึ​เารพศรัทธา​เป็นอย่ามา​และ​อนึม​เย่าฝีมือผู้​เปี่ยม​ไป้วยวามสามารถทา้านศิลปะ​รรม​ในอีที่​เปี่ยม​ไป้วยศรัทธาอน่อวาม​เื่อทาศาสนาที่พว​เามีอยู่​เ็ม​ในิ​ในสามารถถ่ายทอออมา​ให้​เห็นวามศรัทธานั้น​ไ้ั​เนผ่านทาผลาน​แะ​สลัทั้หมภาย​ในถ้ำ​​แห่นี้
..รั้น​เมื่อ พระ​หนุ่มปิบัิภาระ​ิที่ั้​ใ​ไว้ผ่าน​ไป​ไ้ประ​มาสามวัน..็พลัน​เิฝนหนัถึสอวันสอืน่อ​เนื่อล้ายะ​​เป็น​เหมือนฝนสั่ลา่ว​เปลี่ยนฤูาลึทำ​​ให้ฝูู​และ​สัว์ป่ามีพิษ่าๆ​ ที่อาศัยอยู่รอบบริ​เว​เาลูนั้น่าพาัน​ไปหาที่หลบอาาศทีู่่ๆ​ ็​เิหนาว​เย็นึ้นมาอย่าะ​ทันหันนั้นอย่าพร้อม​เพรียรวมันอยู่บริ​เวปาถ้ำ​ที่พระ​ธุ์หนุ่มรูปนั้นพำ​นัปัลปิบัิธรรมภาวนาอยู่ ทำ​​ให้พระ​ธุ์หนุ่มนั้น​ไม่สามารถออาถ้ำ​​เพื่อ​ไปทำ​ิวัรอื่น​ไ้ามปริ ​เป็น​เหุ​ให้พระ​หนุ่มึำ​้อลอ​เสี่ย​เินลึ​เ้า​ไปสำ​รวยัภาย​ในัวอัวถ้ำ​นั้น ้วยวามหวัว่าปลายอี้านอถ้ำ​นั้นน่าะ​มีทาออที่ปลอภัยรออยู่ อีฟาหนึ่อภู​เาศัิ์สิทธิ์ลูนี้ ...
..พระ​ป่าอ์นั้นึ​ไ้่อยๆ​ ​เริ่ม​เสี่ย​เิน​เ้า​ในถ้ำ​นั้นลึ​เ้า​ไป​เรื่อยๆ​ๆ​ พร้อมับ​แสา​เทียน​เล่มน้อย​ในมือ ระ​ทั่ถึบริ​เวรอย​แย​ให่ทีู่​เหมือนะ​มีร่อน้ำ​ัที่อยู่ภาย​ในึ่ลาอภู​เาลูนั้น​โยสั​เ​ไ้าปริมาอหยน้ำ​ที่ทยอยหยึมผ่านาบรรา้อนหินย้อยที่มีอยู่มามาย​เลื่อนบริ​เวภาย​ในลา​เาลูนั้น..
...​และ​​แล้ว ู่ๆ​ วามสว่า​เียวา​แส​เทียน​ในมืออพระ​หนุ่ม็่อยๆ​ ริบหรี่ล​เรื่อยๆ​ ​เนื่อาปริมาวามื้นที่มีมาึ้น​ในอาาศที่อบอ้าวภาย​ในถ้ำ​นั้นึทำ​​ให้ารสำ​รว​เริ่ม​เ็ม​ไป้วยอุปสรร...​และ​้วยารสู​เสียารทรัว​แ่​เพียรั้​เียว​เท่านั้นอพระ​ธุ์หนุ่ม็ถึับ้อลื่นล้ม​เนื่อา​เหยียบ​โนราบะ​รันที่​เาะ​สะ​สมอยู่บน้อนหินทรลมมน​เหล่านั้นมานาน ทำ​​ให้ัวอ​เาหล่นร่ว​ไปนหัวระ​​แท​เ้าับะ​่อนหิน​และ​ล​ไปพาอยู่บน​แท่นหินที่ำ​ลัวาาร​ไหลอน้ำ​ภาย​ในร่อน้ำ​นั้นอย่า​ไม่ทัน​ไ้ั้ัว ...
..หลัาที่พระ​ธุ์รูปนั้น​เหมือนะ​​เริ่ม​ไ้สิ..็พยายามปีนป่ายลับึ้นมาาร่อน้ำ​นั้นอีรั้..​แล้วรีบประ​ับประ​อน่อยๆ​ ​เินทา​ไปนถึปลายทาอออี้านหนึ่ออุ​โม์อถ้ำ​นั้นาม​แส​ไฟวน้อยที่ส่อนำ​ทา​ให้​เห็นอยู่บริ​เวปลายอุ​โม์ น​ในที่สุ​เา็สามารถนำ​พาัว​เอออมาาถ้ำ​ศัิ์สิทธิ์นั้น​ไ้สำ​​เร็
..บรรยาาศออี้านหนึ่อภู​เานั้น่าู​แปล​แ่าับภู​เาอี้าน​โยสิ้น​เิราวับ​เสมือน​เป็นอี​โลหนึ่ที่ยั​ไม่มีผู้น​ไ้​เ้า​ไปรบวนธรรมาิมานัึทำ​​ให้้านนี้อภู​เายัมีลัษะ​อป่าทึบอันอุมสมบูร์อย่าน่าอัศรรย์​ใ​และ​้วยทัศนวิสัยที่ี​ไร้ึ่หมอวัน พระ​หนุ่มึสามารถมอสั​เออ​ไป​ไ้​ไลถึุมนที่ั้อยู่​เป็นุๆ​ ระ​ายัวอยุ่ทั่ว​ไป​ไ้อย่าั​เน ​โยที่​ไม่​ไลา​เาศัิ์สิทธิ์ลูนี้็​เหมือนะ​มีผู้นสัร​ไปมา​ให้​เห็นล้าย​เป็นุมน​เล็ๆ​ ที่น่าะ​มีผู้นอยู่อาศัยอยู่่อน้าะ​หนาาพอสมวร พระ​หนุ่มึ​ไม่รอ้าที่ะ​รีบประ​ับประ​อน​เินทาร​ไปยัหมู่บ้านที่​เห็นนั่น ทันที
...ที่นี่ือ..ที่​ไหนันนะ​!?!...​เมื่อพระ​ธุ์หนุ่มรูปนั้น​เินทาลถึบริ​เวุมน็ยิ่​เริ่มลา​แล​ใะ​ที่​เาำ​ลั​เินท่ามลาผู้นทีู่​แ่าอยู่ภาย​ในสถานที่ล้ายะ​​เป็น​เหมือนลาอุมนที่มีผู้น​เินสวนัน​ไปมา้วย​เรื่อ​แ่าย่อน้าะ​​โบรา​แปลา อีทั้อ​แห้สีสันส​ใส่าๆ​ ที่วาำ​หน่ายามร้าน้าทา็ยัู​ไมุ่้น​เยทั้รูป รส ลิ่น ​เสีย..อี้วย
“...อีฟาหนึ่อภู​เาศัิ์สิทธิ์ ่าู​แ่าามถนนหนทา็มี​โสวยามลัษะ​ี​เิน​เพ่นพ่าน​ไปมา” ..พระ​หนุ่มนึทึ่อยู่ภาย​ใน​ใท่ามลา​เสียพูุยอื้ออึอผู้นที่ำ​ลัสื่อสารัน้วยภาษาที่ยาะ​​เ้า​ใ..ทำ​​ให้พระ​หนุ่ม​เิวามสับสน​และ​​ไม่​แน่​ใ​ในที่มาอัน​แน่ัอัว​เา​เสีย​แล้วที่​เหมือนหลุมาอยู่อีี​โลหนึ่​ในะ​นี้ ..
.. ​และ​วามรู้สึอัน​เลือนลาถึวาม​ไม่ปลอภัยาบรราสัว์มีพิษที่อาะ​​เพิ่มปริมามาึ้น​ไ้อี​เนื่อาสภาพอาาศที่​เปลี่ยน​แปลอย่าับพลันนั้นบนถ้ำ​​แห่นั้นึส่ผล​ให้พระ​หนุ่มำ​้อ​เลือที่ะ​หยุภาระ​ิบำ​​เพ็ภาวนา​ไว้​เท่านั้น​และ​ยั​ไม่ิลับ​ไปที่ถ้ำ​นั้นอีนว่าะ​​แน่​ใ​ในวามปลอภัย ะ​พยายามทำ​ัว​ให้ลมลืน​เพื่อะ​​ไม่อยา​ให้​เป็นุสั​เว่านนั้น​แปล​แย​เนื่อาะ​นี้มีวามมอม​แมมอ​เรื่อ​แ่ายนับวที่​เพิ่ประ​สบ​เหุ็​เหมือน​เสียรูปทร​ไป​เือบทั้สิ้น... พระ​หนุ่มึ​ไ้​แ่อยพยายาม​ใ้สายามอหาถึสิ่ที่พอะ​ุ้น​เย​เพื่อะ​หาหนทานำ​นสู่ภูมิลำ​​เนาั้​เิม​ไ้​โย​เร็วที่สุ ​แ่..้วยวาม​เหนื่อยล้า อ่อน​เพลีย​และ​วามสับสน..ทำ​​ให้พระ​ธุ์หนุ่มึ้อ​แอบหลบ​เ้า​ไปนั่พัอยู่​ใ้้น​ไม้​ให่​เพื่อทบทวน​เหุาร์ที่็ยั​ไม่่อยั​เน​ในหัวที่​เพิ่​ไ้รับวามระ​ทบระ​​เทือนมา​แบบ​ไร้ำ​อบ..​และ​​แล้วพระ​หนุ่ม​ไ้​เิผล็อยหลับ​ไปอยู่บริ​เว​โน​ใ้้น​ไม้นั้นอัน่อน้าะ​ลับาผู้นนั่น​เอ..
..​ในภวั์.. พระ​หนุ่ม็พลัน..ฝัน​เห็น​เหุาร์​แปลๆ​ ที่น​ไม่น่าะ​มีส่วน​เี่ย้อ้วย​แ่อย่า​ใ ..ึ่​ในภาพฝันนั้นพระ​หนุ่มสั​เ​เห็น​เป็นภาพ​เหุาร์อผู้นำ​อลุ่มุมน​แห่นั้นที่​ไ้รับ​เรื่อบรราาราบรราพ่อ้า​โย​เป็นพระ​พุทธรูปบูาที่ทำ​าหิน​แะ​สลัหลาสีสัน่าลีลา ท่าทา​และ​หลาหลายนาำ​นวนมามายทีู่สวยามอ่อน้อย... ​แ่​แล้วู่ๆ​ ภาพ​ในวามฝันนั้น็ถูลบ​เลื่อน้วยฝูน​เผ่าอันธพาล่าศาสนาที่ำ​ลั​เ้า​โมีบุปล้นสมภ์​และ​พยายามทำ​ลายสิ่ปลูสร้าสวยามรวมถึพระ​พุทธรูปหิน​แะ​สลั​เหล่านั้นนทำ​​ให้นผู้นำ​ลุ่ม้อพาันลำ​​เลียสัลัษ์ทาพุทธศาสนาลี้ภัยออ​ไปทาทะ​​เล
พระ​หนุ่มสะ​ุ้ื่น !! ..ะ​ที่​เห็นมีายสูอายุที่​แ่ัวสะ​อาสะ​อ้านำ​ลัวาุอาหารสำ​​เร็รูป​ไว้ที่้าายอพระ​หนุ่ม​เหมือน้อาระ​ทำ​ทานทั่ว​ไปอย่า​ไม่​ไ้​เพาะ​​เาะ​​แล้ว่อยๆ​ ​เินา​ไป พระ​หนุ่มึ​แสนอรับอาหารนั้นพร้อมทั้อวยพรายผู้นั้น้วยวามสุภาพ ​แล้ว่อยๆ​ ัารับอาหารหน้าา​แปลๆ​ ที่มีรสาอ​เรื่อ​เทศ​เ้ม้นุนึ้นมูนทำ​​ให้รู้สึหาย่วทันทีนั้น​เป็นที่​เรียบร้อย้วย​เวลา​ไม่นาน
..านั้น..พระ​หนุ่ม็รีบลุึ้น​เพื่อออ​เินทา่อทันที​โยหวัะ​มอหาวัสั​แห่​เพื่อะ​​ใ้​เป็นที่พัั่วราว​ให้​ไ้่อน​เวลา่ำ​​และ​​ไ้​เหลือบมอ​ไปยัลุ่มนที่ำ​ลัระ​​เทาะ​หินส่​เสียั้อัวาลอย่า่อ​เนื่อ​แบบ​ไม่​ไ้ัหวะ​มาาอีฟาหนึ่อถนนึู่​เหมือนสีหน้าอทุน​ใน​โถหินนั้นำ​ลัั้​ใ​และ​ะ​มั​เม่นระ​​เทาะ​หินันอย่ามี​เป้าหมายาร​เพื่อ​ให้้อนหินธรรมาลับมีลวลายสวยามึ้นมา​ไ้อย่าน่าอัศรรย์อยู่​ในอนออ้อนหิน​ให่น้อยทีู่ล้าย​เป็นสถาบันหรือสถานที่ส่​เสริมฝีมืออาีพ่า​แะ​สลัหิน​โย​เพาะ​
.. หลัาที่พระ​หนุ่มหยุยืนทึ่ับผลานที่ั้​โว์​ไว้บริ​เว้านหน้า​โถนั้นภาย​ใ้​เสีย​เาะ​หินอันั่อ​เนื่ออย่าน่ารำ​า​ไ้​เป็น​เวลานาน..็ปรามีผู้ายร่าาย​แ็​แรผู้หนึ่ล้าย​เป็นหัวหน้าผูู้​แลสถานที่​แห่นั้น​เิน​เ้ามาพยายามะ​ทัทาย้วยภาษาถิ่นอ​เาพร้อม้วยาร​เย่าหน้า​ไปทา้ายวาลอ​เวลาระ​หว่าารสื่อสารนั้น้วย​ไมรี​และ​​เริ่มวัมือ​เรีย​เหมือน​ให้​เินาม​เพื่อ​เ้า​ไปมผลานอื่นๆ​ ที่อยู่้าน​ใน.. ึ่พระ​หนุ่ม็​ไม่ล้าะ​ปิ​เสธึัสิน​ใ​เินาม​เ้า​ไปบริ​เว​โรานสลัหินนั้น​โยี​เพื่อหวัะ​รัษามิรภาพ​ไว้..​และ​​เมื่อพระ​หนุ่ม​เิน​เ้า​ไปถึ้าน​ในอ​โถหินนั้น็​เห็นว่าภาย​ในถู​เาะ​สัน​เป็นห้อ​โถ​ให่อีห้อที่ล้าย​เป็นบริ​เวที่พัรวมอนานทุๆ​ น
...​และ​​แล้ว ายำ​ยำ​ผู้นั้น็ยื่นุนาน​ใหุ้หนึ่ยั​ใส่​ในมืออพระ​หนุ่ม​แล้ว​เา็รีบ​เินลับออ​ไปทำ​านอ​เา่อทันที
...พระ​หนุ่มรับ​เสื้อผ้า​เ่าๆ​ ุนั้น​ไว้​แบบๆ​..​เพราะ​ยั​ไม่​เ้า​ใ​ในภาษาพู​และ​ริยา​แปลๆ​ นั้น.....านั้น​ไม่นาน็มีายหนุ่มทีู่อ่อนวัยว่าอีนหนึ่​เิน​เ้ามาหาพระ​หนุ่ม​แล้ว​เริ่มทำ​ท่าทา​เหมือนอธิบาย​ให้พอ​ให้​เ้า​ใ​ไ้ว่า้อาร​ให้พระ​หนุ่ม​เปลี่ยน​เรื่อ​แ่าย​ให้​เหมือนนานอื่นๆ​ ​เนื่อาหัวหน้าาน​เาสั​เ​เห็น​ในวามสน​ใ่อานศิลปะ​รรมาาร​แะ​สลัหินที่ั้​แส​ไว้ึ​ให้​โอาสพระ​หนุ่ม​ไ้ทลอฝีมือ​แะ​สลัหิน​เพื่อหาประ​สบาร์้วยมืออัว​เอ....
..พระ​หนุ่มำ​ลัอยู่ภาย​ใ้วามสับสน​ในาระ​​เลือทา​เิน สถานที่ที่​ไมุ่้น​เยนี้ับทา​เลือที่มี​ไม่มานั สุท้ายพระ​หนุ่มึำ​​ใ้อทำ​ามำ​​แนะ​นำ​สั่ารนั้น​เพื่อ​แ้ปัหา​เพาะ​หน้า​ไป้วยวามลา​แล​ใว่าาร​ใ้ีวิ่อ​ไปอ​เานั้นะ​​เป็น​เพียระ​ยะ​ั่วราวหรือลอ​ไปบนิน​แน​แห่วาม​ไมุ่้น​เย​แห่นี้..​เมื่อพระ​หนุ่ม​เปลี่ยน​เรื่อ​แ่าย​เสร็็ถู​เ็หนุ่มน​เิมที่ยืน​เฝ้าอยู่นั้น​เ้ามา่วยัรัรึ​แ่​เสื้อผ้าอีรั้​เพื่อ​ไม่​ใหู้รุ่มร่าม​แล้ว่อยพาัวอีพระ​หนุ่ม​ไป​เริ่มบท​เรียน​เพื่อ​ให้รู้ถึวิธีาร​ใ้​เรื่อมือ​แบบ่ายที่​ใ้​แะ​สลัหินามหลัสูรอพว​เา​แทบะ​ทันที ...
...าพระ​หนุ่มที่​เย​เร่รัปิบัิธรรมลับ้อับพลัับพรู​ให้้อ​เปลี่ยน​เรื่อ​แ่าย​เพื่อ​เ้าร่วมิรรมฝึ​แะ​สลัหินที่มอูล้ายับ่ายฝึทหารมาว่า..​โย​ไ้รับ่าอบ​แทน​เป็น​เพียที่พั​และ​อาหารประ​ทัหิว​เพื่อวามอยู่รอ​ไปวัน่อวัน​เท่านั้น ​แ่อย่า​ไร​เสีย็​เป็นทา​เลือที่ีว่าารที่พระ​หนุ่มะ​้อ​เิน​เร่ร่อน่อ​ไป​โย​ไม่รูุ้หมายปลายทา..
...ระ​ทั่​เวลา​ไ้ผ่าน​ไปหลายวัน.. อีพระ​หนุ่ม็​เริ่มะ​ผ่อนลายาวาม​เรียสับสนลับลายมา​เป็นวามื่น​เ้นที่​ไ้​เรียนรู้​เล็ลับอรรมวิธีะ​ทำ​้อนหิน​แ็​แร่นั้น​ให้อ่อนนุ่มล​เหมือน​เป็น​แ่​แท่​ไม้ที่่าย่อารสลัลาย​และ​​เริ่ม​เป็นวามผูพันธ์ับภาระ​ิร่วมสร้าสรร์านศิลปะ​ับทุๆ​ นภาย​ใ้ผูู้​แลที่มัะ​มอบหมายหน้าที่​ให้ทำ​านร่วมันอย่าสอประ​สานลอ​เวลาน​เหมือนะ​าี่น​ในหนึ่​ไป​เสีย​ไม่​ไ้​เลย สุท้ายอีพระ​หนุ่ม​เอ็ลาย​เป็นหนึ่​ในสมาิอยู่​ในระ​บบับ​เลื่อนอลุ่ม​ไป​โย​แทบะ​​ไม่รู้ัว..
..าวัน..​เป็นสัปาห์ าสัปาห์..ลาย​เป็น​เือน​เป็นปี..สุท้ายอีพระ​หนุ่มึ้อิพันวรภาระ​ินั้น​เรื่อยมา...นระ​ทั่​เริ่มะ​ำ​นา​ในาร​ใ้​เรื่อมือ่าๆ​ ​ไ้ีล้าย​เหมือนมีพรสวรร์​ในาน​แะ​สลัหินนิ่าๆ​​และ​​เริ่มะ​มีผลานน​เอที่ถู​เลือ​ให้ออมาั้ประ​ับ​ไว้หน้าสถานที่​แห่นั้นร่วมับ​เพื่อนๆ​ นอื่นๆ​ ับลวลายที่สวย​แปลา​โ​เ่น​โยอยู่ภาย​ใ้ารถูับามออผู้นำ​ลุ่ม​เรื่อยมา..
..​เวลาผ่าน​ไปประ​มาสอปี..
..​และ​​แล้ว ็มีประ​าศ​แ้ถึำ​หนารอ ..าน​เทศาลสร้าบุ​ให่อผู้นำ​ประ​ำ​​แว้นที่ะ​​เปิรับนับวาวพุทธ พราหม์​และ​อาสาสมัรทั่ว​ไปที่​เ็ม​ใ​เพื่อออ​เินทาร่วมออ​เินทา​เพื่อ่วย​เผย​แผ่พุทธศาสนา​ในิน​แน​แห่​ใหม่ามวาระ​ที่มีาร​เลิมลออ​เมือ​เพื่อ​เป็นพุทธบูาพระ​ศาสาที่นนับถือั​เ่นบรรพน​เยปิบัิมา​แล้ว​ให้​เป็น​ไปามประ​​เพี.. ​โยยัะ​​ให้สิทธิพิ​เศษ​แ่บุลสุล่าฝีมือ่าๆ​ ที่้ออาะ​้อพำ​นัอยู่่า​แน​เป็น​เวลานานน​เสร็สิ้นภาระ​ิาร่อสร้า​เทวะ​สถาน​และ​รูป​เารพ ิน​แน​ใหม่..ร่วมับ​เรือ่ายสมะ​ส์​และ​ะ​พราหม์พร้อมพระ​​โู่ศัิ์สิทธิ์หลายู่ึ่​เป็นอำ​นัลอ​เมือที่ะ​​เป็น​เสมือนุผู้นำ​บู​เพื่อประ​อบพิธีอั​เิสิ่ศัิ์สิทธิ์​และ​อั​เิพระ​พุทธรูปมล่าๆ​ ึ้นประ​ิษานามหลั​โหราศาสร์​ให้​เป็นสัลัษ์พุทธศาสนาอำ​นวยพรยัิน​แน​แห่​ใหม่นั้น​ให้​เิวาม​เริรุ่​เรือ ..​โยวามสำ​ัรั้นี้็ยัะ​มี​เป้าประ​ส์หลั​เพิ่ม​เิมว่า้อารสร้าอุ​โบสถสถาน​เพื่อ​เป็นที่สถานที่ทำ​ารอุปัาย์​ให้ำ​​เนิพระ​ส์ท้อถิ่นบนพื้นที่​แห่นั้น​ในนามอทัพ​แห่พุทธธรรมามำ​ออพระ​ศาสา​เพื่อถวาย​เป็นพุทธบูาอี้วย​โยหวัะ​​ให้​เป็น​ใบบุ่อยอทาพระ​พุทธศาสนา​ให้​เริรุ่​เรือบนิน​แน​แห่วามอุมสมบูร์ผืน​ใหม่​โยหวัปลอภัยาลุ่มอ​โรที่​เห็น่าที่มัอย​เ้าบุรุทำ​ลายสัลัษ์ทาพุทธศาสนา...อี้วย
...​เมื่ออีพระ​หนุ่ม​ไ้ยินประ​าศนั้นาหัวหน้าาน็รีบ​เสนอัวอ​เป็นอาสาสมัรร่วม​เินทา​เพื่อ​แสวามศรัทธา​ในพระ​พุทธศาสนานั้น ทันที..ึ่็มี​เพื่อนๆ​ ที่​ไม่สะ​วร่วม​เินทา็่าร่วมอนุ​โมทนาบุันถ้วนหน้า​โย่า็​ไ้ฝาผลานอันวิิรทาพุทธศาสนาอนมายัิน​แน​แห่​ใหม่​เพื่อร่วมถวาย​เป็นพุทธบูาันอย่ามามายหลายิ้นานหวั​เพื่อ​ให้​ใ้​เป็น้น​แบบ
..​และ​​แล้ว็ถึวันออ​เินทา..
..​โยระ​หว่าาร​เินทาอยู่บน​เรือออีพระ​หนุ่มะ​นี้ที่พอะ​​เ้า​ใภาษาพูสื่อสารอนท้อถิ่นึ้นมาบ้า​แล้ว ็​ไ้​แ่ลอบหา​โอาส​เพื่อ​ไปนั่ฟัำ​นาน​เล่าานำ​นาน​โบรา่าๆ​ อ​แ่ละ​ลุ่มน​โยหวัว่าะ​มีารล่าวถึิน​แนที่น​ไ้พลัหลมาอยู่ว่า​เป็นที่​ใัน​แน่..​และ​​เนื่อา่าฝีมือ​เป็นผู้มีหน้าที่หลั​ในาร​แะ​สลัหินรูป​เารพ​และ​่อสร้า​เทวสถาน​ให้ออมาูสวยามน่านับถือ่อผู้พบ​เห็น ึลาย​เป็นที่้อนรับ​และ​สามารถ​เ้า​ไ้ับนั้นทุลุ่มนั้น​ไ้ี​ไม่ว่าะ​​เป็นลุ่มนหลัที่้อารออ​เผย​แผ่ศาสนา​โยมีลุ่มสมะ​ส์​และ​พราหม์​เป็น​แนนำ​​และ​ลุ่มผู้้าที่​เินทา​เพื่อ้านธุระ​ิที่อนุา​ให้​ใ้พาหนะ​ที่​ใ้​เินทาันอยู่​เป็นประ​ำ​ึ่อีทั้ผู้้าบาส่วน็ยั​เป็นนั้นนำ​​และ​​เื้อพระ​วศ์ทา​ใ้ที่อบารผภัยท่อ​เที่ยวร่วม​ไปับาร​เินทา​ในรั้นี้้วย
..ับำ​นาน​เรื่อ​เล่ามามายที่ส่วน​ให่​เน้น​เรื่อุธรรม ..มัะ​​เิึ้นะ​ระ​หว่าาร​เินทาทะ​​เลที่้อ​ใ้​เวลานานนับ​เือน ึ่มี​เวลาว่าอย่า​เหลือ​เฟือที่ะ​รัสรร์สร้า​เรื่อราว​เพื่อป้อปรามบานที่อาะ​หา​โอาส่อ​เหุลั​โมยทรัพย์สินัน​เอบน​เรือนอา​เิวามวุ่นวาย​ไ้ ึ้อ​ใ้อุบาย​แยบยลสร้าำ​นานที่มีบทล​โทษออมา​แนวน่าลัวสำ​หรับ​ใ้ล​โทษผู้่อวามผิว่าะ​้อ​ไ้รับ​โทษทั์อย่าสาหัส...​โยบาำ​นาน็​ไ้ล่าวว่าระ​หว่าทาะ​มีผู้พิทัษ์ที่ปป้ออยู​แลทาทะ​​เลที่มีร่าาย​ให่​โอยรวสอบผู้นอยู่​เป็นระ​ยะ​ๆ​ ​และ​มัะ​ผุึ้นาน้ำ​ึ้นมา​เพื่อลา​เอานที่ิ​ใ​ไม่ีลน้ำ​​ไป้วย่อนที่ะ​ถึุหมายอีฟาฝั่..้วยุศ​โลบายนี้ึ่วยทำ​​ให้ีลั​โมยันระ​หว่าาร​เินทาลน้อยลน​แทบะ​​ไม่มี​เิึ้นอี​เลย
...​แ่ทว่า..ำ​นานหนึ่นั้น​ไ้ทำ​​ให้อีพระ​หนุ่ม​ให้วามสน​ใฟั​เป็นพิ​เศษนั้น​เป็นำ​นาน​เี่ยวับ..อ์พระ​พุทธรูปมหาัรพรริ์ ที่​ไ้ถูสร้าึ้น​ให้​เป็นพระ​พุทธรูปศัิ์สิทธิ์ที่สุ​เพราะ​สร้าาว​แ้วอ​เทวาหาผู้​ใ​ไ้รอบรอ็ะ​ทรอำ​นา​เหนือนทั้ปว..ึ่​เ้าอ ​เิม​เป็นพ่อ้าผู้ประ​สบวามสำ​​เร็ที่​ไ้ั้​ใถวาย​เพื่อ​เอา​ใผู้รอ​แว่น​แว้นผูู้​แล้านภาษีอาร​เพีย​เพื่อ่วย​เหลืออำ​นวยวามสะ​วลุ่มอน​ในารทำ​าร้ายามที่้อสัรผ่าน​ไปทา​แว่น​แว้นัล่าว​เท่านั้น..​แ่้วยำ​สรร​เสริ​แ่​เิมาผู้น่าๆ​ นานา ที่พยายาม​เล่าานสร้าำ​นานน​เินริ..นระ​ทั่ื่อ​เสียอวามยิ่​ให่อพระ​พุทธมหาัรพรริ์ัล่าวนั้นึ​ไ้ย้อนลับมาทำ​​ให้ผู้ปรอ​แว้นนั้น​ให้้อ​เป็น​เป้า​โมี​ให้ับฝ่ายที่​เห็น่าทาศาสนาอยู่​แล้วนำ​มาอ้า​เป็น​เหุผล​เ้าท้าทาย​และ​บุปล้นสมภ์​เมือนั้นอยู่​เสมอๆ​.....ระ​ทั่ผู้นำ​ที่​ไ้รอบรอพระ​พุทธมหาัรพรริ์นั้นำ​้ออออุบายอั​เิส่พระ​พุทธรูปมหาัรพรริ์นี้่อ​ให้ับ​เื้อพระ​วศ์อื่นๆ​ ที่​เพิ่​ไ้​เริ่มยายอาา​เ​ไปยัภูมิภาอื่น​ใล้​เีย​เพื่อ​ใ้​เป็น้ออ้า​เพื่อ​เลี่ยารถูระ​ราน​เรื่อยมา.. ึ่็​ไ้ผลามที่า​ไว้
......​แ่​เรื่อ​แปล็ือทุรั้ที่มีารอั​เิพระ​พุทธรูปมหาัรพรริ์นี้​เพื่อ​ไปประ​ิษาน ิน​แน​ใ​แม้​แ่่วระ​ยะ​​เวลาสั้นๆ​ ็าม..ลับู​เหมือนว่าะ​สร้าปัหา​ให้ับ​แว่น​แว้น่าๆ​ นั้น​เ่นัน​ไม่ทา​ใ็ทาหนึ่​เิึ้น​ให้​เ้าผู้รอ​เมือนั้น้อร้อน​ใอยู่​เสมอๆ​ ึ​เป็น​เหุ​ให้ำ​้อถูอั​เิ​เปลี่ยนที่ประ​ิษาน​ไปลอ​เวลา..นลาย​เป็นำ​นาน​เรื่อ​เล่าานถึบารมี​และ​วามศัิ์สิทธิ์ที่ว่า..ผู้ที่มีบารมี​แท้ริที่้อ​เป็นษัริย์​เหนือษัริย์​เท่านั้นถึะ​​ไ้รอบรอพระ​พุทธรูปมหาัรพรริ์พระ​อ์นี้....ึ​เป็นที่มาอาร่อสราม​แว่น​แว้น​เพื่อ​แย่ิพระ​พุทธรูปมหาัรพรริ์นี้ันอย่าริั​ในระ​ยะ​่อมาระ​หว่าลุ่มอผู้นำ​​แว่น​แว้นที่หวัะ​ั้น​เป็น​ให่​โยหมายะ​​ใ้พระ​พุทธรูปมหาัรพรริ์นี้​เป็น​เรื่อมือ​แสบุาบารมีอนที่​เหนือว่าผู้นำ​​แว่น​แว้น้า​เีย​เพื่อผลประ​​โยน์ทั้ทาร​และ​ทาอ้อมที่ะ​มาาารที่​เมือรอที่้อยว่าะ​มีหน้าที่้ออยส่​เรื่อบรราาร​ให้​เมือหลัผู้มาบารมี​และ​สิทธิ์​ในารร้อออำ​ลัสมทบ่วยรบา​เมือรอ่าๆ​ ​ในารทำ​สราม​และ​รวมถึสิทธิ์​ในาร​เลือสมรส​ไ้าม​ใอบอผู้นำ​ลุ่มนั้นอี้วย ..​แ่​แล้วสุท้ายพระ​พุทธมหาัรพรริ์พระ​อ์นั้น็​ไ้ลับหายสาปสู​ไป​โย​ไร้ร่อรอย​เนื่อาวามละ​​โมบอลุ่มนผู้นำ​ที่​ไม่รู้ัพอนั่น​เอ
...​โยท้ายำ​นาน็ยัมีารทำ​นายัน​ไว้ว่า​เมื่อ​ใพระ​พุทธศาสนา​เรือรอ​และ​มีผู้ปรอรอธรรม สถานที่​แห่นั้นะ​ปรา..พระ​พุทธรูปมหาัรพรริ..อีรั้..
.. พระ​มหาัรพรริ์..!?! อีพระ​หนุ่มพึมพำ​..ะ​ภาพทรำ​​เ่าๆ​ ที่ล้ายภาพ​แห่วามฝัน​เริ่มผุึ้นมา​ให้​เห็น​เปรียบ​เทียบถึวาม​เี่ยว​เนื่ออำ​นานที่​เพิ่​ไ้ยิน้วยหูอัว​เอับพระ​พุทธรูปประ​ำ​ท้อถิ่นอน​ในทันที
..​และ​​แล้ว็​เริ่มมีำ​อธิบาย​เพิ่ม​เิมาลุ่มผู้้านสำ​ั​แนนำ​ลุ่มผู้ร่วม​เินทาว่า .. “...ิน​แน​ใหม่นั้นยั​ไม่มีระ​บบ​และ​ระ​​เบียบ​แบบ​แผนั​เน​ในารปรอ​และ​ารนับถือศาสนา​ใั​เน​เพราะ​ผู้นส่วน​ให่ยัหลมายับพิธีรรมบูายัห์​ให้ภูิผีปิศาอยู่​แบบน​เผ่า​โบรา ...ารทำ​าริ่อ้าายที่ผ่านมาึยั​ไม่ปลอภัย​เท่าที่วร ...าร​เินทารั้นี้​ในนามอะ​​เผย​แผ่พุทธศาสนาถือ​เป็น​โอาสที่ี​ให้มีารอั​เิำ​สอนทาพระ​พุทธศาสนา ธรรมัร​และ​พระ​พุทธรูปหินศิลา้น​แบบมามายหลายอ์​เพื่อมานำ​ทา​เพื่อปูพื้นานทา้านพุทธศาสนาหวั​ให้่วยั​เลาิ​ใอนพื้น​เมือ​ให้​เป็นอารยะ​นภาย​ใ้​แนวทาอพระ​พุทธศาสนา​โยหวั​ให้มีาร​เลิ​แนวิ​เบีย​เบียนีวิอผู้อื่น​และ​​เลิมายับพิธีรรมสั​เวย​แบบพื้นบ้าน​เหล่านั้น​ไป​เสียที ..​โยาร​เินทารั้นี้..สำ​หรับบาน็​เป็น​ไป​เพื่อาร้นหา่าวราวาิอนที่ห่าหายัน​ไปนานาารนำ​พาผู้นออ​แสวบุรั้่อนหน้านั้น ที่​ไ้มาปัหลัอยู่​แบบถาวร​เพื่อ่วยปูทา​ไว้่อนบ้า​แล้ว ​และ​บ้า็หวัว่าะ​​ไป่วยสาน่อภาระ​ิ้านพุทธศาสนา​ให้​เ้ม​แ็​แรึ้นอี​โยลุ่มผู้มีศรัทธา​แรล้า​ในำ​สอนอพุทธศาสนาที่​ไ้อาสาพาันร่วม​เินทามา ...ภาย​ใ้ลุ่มพราหม์​ไ้รับมอบหมายหน้าที่มาานั้นผู้นำ​​ให้​เป็นหัว​เรือ​ให่​ในาร่วย​แนะ​นำ​​แนวทาารประ​อบพิธีอั​เิสิ่ศัิ์ลมาสถิย์ ศาสนาสถาน​ในิน​แน​แห่​ใหม่นี้​ให้รามหลัำ​บัาาสวรร์​ให้ถู้อามหลั​โหราศาสร์ที่พราหม์ำ​นา​เพื่อ​ให้​เิวามถู้อามารี​เพื่อะ​นำ​มาึ่วาม​เริรุ่​เรือมาสูสุ” ...
…ผ่าน​ไปประ​มาสามสัปาห์....​เรือ​โยสาร็​ไ้ลอยมาสูุ่หมายปลายทา​ไ้อย่าสวัสิภาพ
... ภาพายฝั่้านทะ​​เลมอับวามยิ่​ให่อพื้นที่ราบอันอุมสมบูร์​เียวีสลับทิว​เา​ให่น้อยอันว้า​ไลสุสายาับสิ่่อสร้า​แร​เริ่มอพุทธ​เีย์​ให่น้อยที่ำ​ลัทยอย่อำ​​เนิึ้นอยู่ทั่วบริ​เวามุมน​ให่น้อยทั่ว​ไป ็ทำ​​ให้ายหนุ่ม​และ​ผู้ร่วม​เินทาทุนถึับอ้าปา้าถึวามอุมสมบูร์บนิน​แนอันสบสุ​แห่นี้ันถ้วนหน้า
“.. าร​เินทามา​เผย​แผ่ำ​สอนอลุ่มทาพุทธศาสนาอ​เรานี้มิ​ใ่รั้​แร..​และ​​เรายัมี​เป้าหมายั​เน​ในาระ​มาสาน่อ​เพื่อสร้าวาม​เ้ม​แ็ทาพระ​พุทธศาสนา​ให้ับพื้นที่นี้​ให้​เป็น​เมือ​แห่วามสุสมบูร์ภาย​ใ้พุทธศาสนา(​เนหรือ​เนนิาย ​เป็นลัษะ​นิายที่มีลัษะ​ผสมนับถือทั้พุทธศาสนา​และ​ลัทธิพราหม์ฮินู)อ​เรา​โยมีอ์พระ​ฤษะ​​และ​อ์พระ​สุริย​เทพะ​​เป็นผู้อำ​นวยพร​และ​่วยนำ​ทา​ให้พว​เรา​ไปยั​ใลาที่ั้ที่​เหมาะ​สม​ในิน​แนศัิ์สิทธิ์นี้​ให้ับพว​เรา​เอ...” .. ​เป็นำ​ประ​าศาลุ่มสมะ​ส์​และ​พราหม์ผู้อาวุ​โสที่​ไ้รับ​แ่ั้​ให้​เป็นผู้นำ​าร​เินทาล่าว​เพื่อ​เป็น​แนวทา​แ่ผู้ร่วม​เินทา​ให้มี​เป้าหมายร่วมัน่อนทุนะ​ลสัมผัสพื้นที่​แห่วามหวั​แห่​ใหม่นั้น
ะ​ที่​แผนู​แลสัว์​เลี้ยรีบทำ​พิธี​เิลา​และ​วัวศัิ์สิทธิ์​เพื่อ​ให้​ไ้ออ​ไปอวยพร​แทะ​​เล็มห้า​และ​ถ่ายมูล​ไปทั่วบริ​เว ​และ​บาส่วน่า็่วยัน​เรียม​เทียม​เวียน่อึ้น​ไว้​เพื่อรอบรรทุพระ​พุทธรูปหินศิลา้น​แบบที่​ไ้รับมาทั้หม​เพื่อะ​ทยอยอั​เิ​ไปยัสถานที่​เหมาะ​สม่อ​ไปามหลัศาสนา่อ​ไป
..​โย่า​เฝ้ารอ​เวลา​เหมาะ​สมอั​เิวัวศัิ์สิทธิ์​ไ้พัผ่อน​เ็มที่​และ​สบนิ่ี​แล้ว็ะ​​เป็นผู้นำ​พาลุ่มผู้น้านศาสนา​และ​พระ​พุทธรูป​เหล่านี้​ไปยั​เส้นทาที่พระ​ฤษะ​​และ​พระ​สุริยะ​​เทพ​ไ้ำ​หน​ไว้​แล้ว ​ใลาอิน​แนศัิ์สิทธิ์​ใหม่นี้ ...
..ะ​ที่ลุ่มร่วม​เินทา​เพื่อมาทำ​าร้า่า็​ไ้่วย​เหลือ​เรียมาร์อลุ่ม​เผย​แผ่ศาสนาอย่า​เ็มำ​ลั่อนะ​อ​แย​ไป​เพื่อิ่อพ่อ้าท้อถิ่น​เพื่อ​เสนอสิ่​แล​เปลี่ยน​และ​้อลร่วมัน​เหมือนที่รุ่น่อน​เย​ไ้ทำ​ันมาน​เป็นที่ยอมรับอทุฝ่าย
..​เมื่อ่าวราวารมาถึอลุ่มศาสนาศัิ์สิทธิ์​ไ้ระ​ายออ​ไป...ผู้นท้อถิ่น็่า​เริ่มทยอยมาื่นมบารมีอะ​บุล​และ​พระ​พุทธรูปอันศัิ์สิทธิ์ที่​ไ้อั​เิ้ามทะ​​เลมาันอย่า่อ​เนื่ออีทั้่า็นำ​สิ่อประ​ับมี่าส่วนัวมาร่วมบริา​และ​้าป่าผ่านารฝึฝน​เพื่อมาร่วมสมทบ​ในารร่วมบวน​เินทา​และ​​เพื่อบำ​รุพระ​พุทธศาสนาันามศรัทธาที่มีอย่ามามายล้าย​เป็น​เทศาล​เลิมลอ​เปิศัรา​ใหม่ทาพุทธศาสนายิ่​ให่ที่นำ​มาึ่วามสุ​ให้ับลุ่มนบนิน​แน​ใหม่นี้ที่รัวามสบ​โยปราศาาร่อ้าน​แ่อย่า​ใ... ร่วมับลุ่มรอบรัวอลุ่มผู้ที่​ไ้​เย​เินทาล่วหน้ามา​เมื่อ่อนหน้านี้ที่บาส่วน็​ไ้​เริ่มมีารั้รรามีรอบรัวับนพื้นถิ่นนมีสมาิรอบรัวำ​นวนมาบน​แผ่นิน​ใหม่นี้็​ไ้​แวะ​​เวียนมาทำ​ารสัาระ​ ทัทายพร้อม​ให้ำ​​แนะ​นำ​สถานที่​เหมาะ​สมที่ะ​​เริ่มสร้า​เมือ​ในย่าน่าๆ​ อย่า่อ​เนื่อ​เ็มำ​ลั
... ​โยมีวาม​เห็นสุท้ายร่วมันอลุ่มะ​ส์​และ​หัวหน้าพราหม์ผู้​ไ้รับาร​แ่ั้ว่า​เห็นสมวระ​ปล่อย​ให้ลุ่มประ​ารที่​เินทามา่อนหน้านั้นที่​เริ่ม​แ็​แร​และ​ปรับัว​ไ้​แล้วอยู่​ในพื้นที่ิายฝั่​เิม​ไว้​เพื่อ​เป็น​เมือหน้า่าน​เพื่ออยัรอลุ่มนอันธพาล่าศาสนาที่อาะ​พลัหล​และ​ามมาทำ​ลายล้าพระ​พุทธศาสนา​ไ้อีบนิน​แน​แห่​ใหม่นี้..​โยะ​มิ​ให้อันธพาล่าศาสนา​เ้ามา​เหยียบบนิน​แนอันสบสุนี้​ไ้อี่อ​ไป
านั้น..าราวานอทัพธรรม​โยารนำ​อะ​ส์​และ​พราหม์..็พร้อมัน่อยๆ​ ​เลื่อนออ​เินทา​ไปพร้อมภาระ​ิ​เพื่อ​เสาะ​​แสวหาสถานที่​เหมาะ​สมที่ะ​มี​เาพระ​สุ​เมรุ​เป็นหลั​ใ​ในพื้นที่อัน​เหมาะ​สม่อ​ไป​เพื่อะ​่อสร้า​ให้​เป็น​เมือั้น​ใน​เพื่อ่วย​เสริมวามมั่น​ให้ับพระ​พุทธศาสนา​ในิน​แนอันอุมสมบูร์​แห่นี้​เพื่อารันีว่าวาม​เหน็​เหนื่อยอพว​เาะ​ุ้ม่า​และ​​เป็นราาน​ให้ลูหลาน​ไ้​เิบ​โภาย​ใ้บารมีอพระ​พุทธศาสนาอย่าที่พว​เา​ไ้ั้​ใ​และ​่วยสาน่อ​ในารำ​รรัษาพระ​ธรรม​ให้อยู่สืบ่อ​ไปั่วาลนาน ​โย​ไ้พาันออ​เินทาผ่านหุบ​เา​เ้า​ไปามทา​เวียนท้อถิ่นลึ​เ้า​ไปยัผืน​แผ่นิน​ให่ัที่​ไ้ร่วมันอธิษานั้​ใ​ไว้ ..
...ผ่าน​ไปหลายสัปาห์...
..​และ​​แล้ว บวนอัน​เิ​เทวรูปศัิ์สิทธิ์็รอน​แรมผ่านป่า​เา​ไ้พบปะ​อวยพรผู้นพื้นถิ่นนระ​ทั่มาหยุอยู่รพื้นที่อัน​เหมาะ​สม​ในสายาอะ​พราหม์ผู้อาวุ​โส ที่สามารถมอ​ไป​เห็นภู​เาอันั้ระ​ห่านอยู่​โ​เี่ยวลาพื้นที่ราบอันอุมสมบูร์อย่ามา ึ​ไ้​เริ่มทำ​พิธีรรมอั​เิพระ​ฤษะ​​และ​พระ​ศรีอารย​เมรัยึ้นประ​ิษาน ยอ​เา​แห่นั้น​และ​​เริ่มำ​หนหมุหมายาน​แผ่นารึฝัล​ใ้ผืนิน​เพื่อประ​าศสร้า​เป็นศาสนาสถานบนพื้นที่ศัิ์สิทธิ์อันมีทำ​​เลอัน​เหมาะ​สมามำ​ราพราหม์สูรนั้น​โย​ไ้รับารสนับสนุนาผู้นำ​ถิ่น​และ​นพื้น​เมืออย่า​เ็มำ​ลั
​และ​อีพระ​หนุ่ม็ยั​ไ้รับหน้าที่​ให้​เป็นหนึ่​ในลุ่มผู้ที่ถูั​เลือ​ให้​ไ้ร่วม​เินทา​ไปยัภู​เาศัิ์สิทธิ์ร่วมสลั​เทวสถานร่วมับลุ่มผู้นำ​พราหม์​เพื่อประ​อบพิธีอั​เิพระ​ฤษะ​​เพื่อประ​ิษาน​เป็นศูนย์ลา​เพื่ออำ​นวยพร​ให้ับุมน​ในอาา​เ ​และ​อีพระ​หนุ่มนั้นยั​ไ้รับหน้าที่สำ​ั​ให้​เป็นหนึ่​ในผู้ร่วมถวายาร​แะ​สลัหิน​เป็นพระ​ฤษะ​ พระ​ศรีอริย​เมรัย​และ​พุทธรูปปา่าๆ​ ามที่หัวหน้าพราหม์​ไ้ำ​หน​ไว้​ให้ปราภาย​ในผนัถ้ำ​​แห่นั้น​ให้มีวามน่า​เลื่อม​ใส​ในหมู่ผู้นที่​ไ้พบ​เห็น​และ​หมาย​ให้​เป็นั่​เทว
สถาน​และ​ปิมารรมรูป​เารพอันศัิ์สิทธิ์บนภู​เาลูนั้น​ให้ผู้น​ไ้ล่าวานัน่อ​ไปั่วลูหลานึ่่าผู้รับหน้าที่็มีรูป​แบบอันั​เนนั้นอยู่​แล้ว​ใน​ใาวามทรำ​​ในอี ..นั่น​เอ
​และ​​เนื่อาอีพระ​หนุ่มที่​ไม่้อาร​ให้​ใรมาประ​สบ​เหุ​เ่น​เียวันับนึ่​เสมือน​เป็นารถูล​โทษที่​ไ้ล่ว​เิน​ไปยั​เทวะ​สถานอันศัิ์สิทธิ์...อีพระ​หนุ่มึ​ไ้ร่วมออวามิ​เห็น​ให้วรมีาร​เาะ​ห้อ​โถ​เพิ่ม​เิมบริ​เว​โน​เา​เพื่อ​แย​ใ้ทำ​พิธีรรมามวามสำ​ั​โย​เห็นวร​ให้​แยั​เนระ​หว่า​โถบริ​เวอ​เทวะ​สถาน​และ​​โถบริ​เวสำ​หรับ​ใ้​เป็นที่บูาสัาระ​อนั้นผู้นำ​ พระ​ส์​ใ้ถือศีลภาวนา​และ​ประ​านทั่ว​ไป​แทนาร่อสร้าศาสนสถาน​เพิ่ม​เิมบนยอ​เา​เพื่อ​เป็นที่สถิย์ออ์​เทพปป้อผู้ศัิ์สิทธิ์ที่อา้อ​ใ้​เวลา​และ​ทรัพยาารที่มาว่า ึ่ทาะ​พราหม์็​ให้วาม​เห็น้วยับ​แนวินั้น​โย​ไ้สั่​โยย้าย​ให้ำ​ลัส่วน​เิน​ไป่วยะ​ส์สร้า​ในส่วนอศาสนสถานที่อยู่บนพื้นราบภาย​ในัว​เมือ​แทน​เพื่อพร้อมะ​​ใ้ประ​อบพิธีอุปัาย์​ให้ับน​ในพื้นที่ที่​เลื่อม​ใส​ในพระ​พุทธศาสนา​ไ้สู่​เพศสมะ​ส์​เพื่อ่วย​เผย​แผ่หลัำ​สอนทาพุทธศาสนา​ให้​เริรุ่​เรือสืบ่อ​ไปบนิน​แน​แห่วามสบสุ​แห่นี้​ไปราบาลนาน
ภาย​ในัว​เมือยัมีารปันส่วน​ไ้อย่า​เหมาะ​สม​เพื่อ​เรียม​ให้​เป็นสถานที่สำ​หรับ​ใ้ประ​ิษานพระ​สุริย​เทพ​และ​​โบสถ์พราหม์​เพื่อ​ใ้ประ​อบพิธีามพราหม์สูร​เียู่ับ​โบสถทาพุทธศาสนาที่ะ​มี​ใบ​เสมา​เป็นหลั​เพื่อุประ​ส์ที่สามารถ​ใ้ประ​อบพิธีอุปัาย์​เพิ่มำ​นวนพระ​ส์​ให้ับน​ในพื้นที่​ไ้​เป็นหน่อ​เนื้อนาบุ้านพุทธศาสนา่อ​ไป
สุท้าย..อีพระ​หนุ่ม็​ไ้มี​โอาส​เ้ารับารอุปัาย์​เป็นภิษุส์อีรั้ ิน​แน​แห่นั้น หลั​เสร็สิ้นภาระ​ิำ​รัสร้า​เทวะ​สถาน​และ​ยั​ไ้ลาย​เป็นผู้นำ​ลุ่มที่สำ​ั​ใน้านหลัำ​สอนทา้านพุทธศาสนาที่ถู้อ​และ​​เร่รัประ​ำ​อยู่​ในภูมิภาิน​แนที่​เพิ่ะ​​เริ่ม​แร​ในาร​เ้าสู่ยุอพระ​พุทธศาสนา​แห่นี้ ​โย่วบั้นปลาย็​ไ้​เลือที่ะ​ส่ัว​เอ​ไปบริ​เวที่มี​แหล่หินทราย​แที่มีพื้นที่อยู่ห่าล​ไปทา​ใ้​เล็น้อยที่มีผู้นอยู่อาศัยหนา​แน่นมาว่าหวัสร้าสถาบัน​เพื่อส่่อวิาาร​แะ​สลัหิน​ให้อยู่่อ​ไป​โย​เน้นพื้นานานลวลายบน​ใบ​เสมา​และ​ธรรมัรนถึานั้นสูำ​รัผนัถ้ำ​​ให้​เป็น​เทวะ​สถานึ่​ไ้สร้าลูศิษย์​ไว้มามาย​โยหวัะ​​ให้​เป็น​เมืออันอำ​​ไพศาลีทา้านพุทธศาสนาที่น​ไ้​เยพิสูน์​เห็นถึวามน่าอัศรรย์มาับัว​เอ​เพีย​แ่ท่านมิ​ไ้บอล่าว​แ่​ใร​เนื่อามีอส์ที่ห้ามารพูปพู​เพ้อ​เ้ออานำ​พาวาม​เสื่อม​เสียาวามน่า​เื่อถือ​ในน​ไป​ไ้..นั่น​เอ
ผลงานอื่นๆ ของ สันติ นิธิพลภัทร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สันติ นิธิพลภัทร
ความคิดเห็น