NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้เอ๋อ my stupid's boy

    ลำดับตอนที่ #3 : 02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.13K
      450
      1 ต.ค. 62

    ไอ้เอ๋อ 02




       

      

         เปลือกตากลมค่อยๆ ขยับปรืออย่างช้าๆ ก่อนจะกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับแสง สิ่งแรกที่มันรับรู้คือกลิ่นหอมสะอาดของน้ำยาฆ่าเชื้อกับเพดานสีขาว ต่อมาคือความรู้สึกที่เจ็บไปทั่วสรรพยางค์กาย โดยเฉพาะที่หัว มือเล็กยกขึ้นจับหัวตัวเองแล้วร้องออกมาเสียงดัง มันเจ็บ จนน้ำตาไหล และเริ่มร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก


         “พี่สิงห์ๆ น้องคนนั้นฟื้นแล้ว” เสียงนายแพทย์หนุ่มประจำห้องฉุกเฉินร้องเรียก ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่หน้าห้อง ร่างสูงโปร่งรีบลุกขึ้นและเข้าไปหาคนที่เขาพึ่งจะขี่รถชนหมาดๆ พอเข้าไปเขาถึงได้เห็นใบหน้าชัดๆ ของเด็กหนุ่มเต็มตา


         “ผู้ชายหรือผู้หญิงวะ?” เขาเผลออุทานออกมาเสียงเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เด็กคนนั้น ที่บอกว่าเด็กนั่นก็เพราะเขาอายุเข้าเลขสามแล้ว คงไม่มีใครกล้าค้านแน่ๆ


         “ฮรืออ นะโมเจ็บครับ ฮรืออ หลวงตาจ๋านะโมเจ็บ” เสียงหวานๆ ร้องไห้จ้า เรียกหาแต่หลวงตา ทั้งคำพูดคำจา พาเอาทั้งแพทย์และพยาบาลพากันสงสัยว่าเด็กคนนี้ปรกติดีอยู่รึเปล่า


         “ใจเย็นนะครับน้อง เจ็บตรงไหนเดี๋ยวพี่หมอดูให้นะ” หมอหนุ่มพยายามเดินเข้าไปใกล้ แต่ไอ้เอ๋อของเรามันดันร้องกรี๊ดเสียงดังลั่นห้อง เหตุเพราะว่ามันกลัวหมอฉีดยา จากประสบการณ์ของมัน หมอคือตัวอันตราย พอมันเห็นก็เลยร้องกรี๊ดลั่น จนทุกคนในห้องนั้นพากันตกใจ


         “ไอ้เมืองอย่าพึ่งเข้าไปใกล้ กูว่าน้องไม่ปรกติ ถอยออกมาก่อน แล้วมีใครติดต่อญาติได้ไหม?” เสียงของสิงห์ดังขึ้นพร้อมกับจับตัวรุ่นน้องเอาไว้ไม่ให้เขาไปใกล้มากกว่านี้ ไอ้เอ๋อมันขดตัวอยู่บนที่นอนไม่กล้าขยับไปไหนเช่นกัน มันกวาดตามองทุกคนอย่างไม่ไว้ใจ ยิ่งหลวงตากับพี่ต้าของมันไม่อยู่ด้วยยิ่งแล้วใหญ่


         “ไม่ได้เลยค่ะคุณสิงห์ น้องไม่เอกสารอะไรติดตัวมาเลย” นางพยาบาลคนหนึ่งตอบ


         “น้องชื่ออะไรครับ” สิงห์ถามเสียงนุ่ม


         “ฮึก..นะโม หนูชื่อ ฮึกนะโม” ไอ้เอ๋อมันตอบกลับเสียงเบาๆ พร้อมกับขยับหนีสิงห์ไปด้วย พอน้องเริ่มตอบสนองและมีอาการที่สงบลง สิงค์จึงใช้โอกาสนี้ขยับเข้าไปใกล้อีก


         “ไม่ต้องกลัวพี่นะ พี่เป็นหมอ (หมา) ”


         “ฮรืออ นะโมไม่ชอบหมอ ไม่ชอบหมอ ฮรือออ” ไอ้เอ๋อมันร้องจ้าขึ้นมาอีก


         “แต่หมอใจดีนะ”


         “ฮึก หมอใจร้าย หมอฉีดยาเจ็บ ฮึก หมอใจร้าย” แน่นแล้วเด็กคนนี้น่าจะมีสิทธิ์พิการทางสมองหรือเรียกว่าออทิสติก สิงห์คิดอยู่คนเดียวในใจ


         “หมอไม่ฉีดยาแล้วครับ เห็นไหม หมอไม่มีเข็มอยู่ในมือแล้ว” ไอ้เอ๋อมองตามที่มือของสิงห์เมื่อไม่เห็นของที่ว่ามันก็เริ่มสงบลงอีกครั้ง


         “นะโมอยากกลับบ้าน” มันส่งสายตาอ้อนๆ ไปให้กับหมอหมาในหมู่หมอคน วินาทีนั้นดูเหมือนหมอหมาจะสตั้นไปสักสิบวิได้ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะสายตาหวานๆ ของมันทำเอาใจหมอหมาสั่นราวแปดริกเตอร์ได้มั้ง มันเป็นพลังดามเมจขั้นรุนแรง อย่างหมอหมาไม่เคยเจอมาก่อน แย่แล้วไอ้สิงห์!!


         “บะ บ้าน เหรอ ดะ ได้สิได้ เดี๋ยวพากลับบ้านะ” สิงห์ก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด จนสามารถนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ได้ ไอ้เอ๋อเมื่อเห็นว่าไม่มีใครทำอะไรมันแล้วมันก็เริ่มที่จะเข้าหาทุกคนด้วยท่าทีที่ไร้เดียงสาเหมือนเคย พอเริ่มที่จะไว้ใจทุกคนมันก็เริ่มอยากรู้อยากเห็น ทุกอย่างมันดูน่าสนใจไปหมดสำหรับมัน มันยิ้มมันหัวเราะและดูสนอกสนใจหมอหมาเป็นพิเศษ


         “พี่จ๋า นะโมหิวน้ำ” มันจะร้องเรียกหมอหมาว่าพี่จ๋าๆ ทุกครั้งที่มันต้องการอะไร และนั่นทำให้หมอหมาต้องคอยอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลจนไม้เมืองเริ่มสงสัยถึงพฤติกรรมที่ค่อนข้างแปลกไปของรุ่นพี่ตัวเอง


         “พี่สิงห์ตัวร้ายหายไปไหนวะ?” เขาพึมพำกับภาพที่เห็น

    รอไม่นานสารวัติก็มาถึงโรงพยาบาล พอเขาเห็นหน้าไอ้เอ๋อก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ


         “คุณลุงงงงงงงงงงง”


         “นะโม มาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี้ยะ หลวงตาตามหาทั่วหมู่บ้าน วุ่นวายกันทั้งหมู่บ้านแล้ว” ใช่เพราะตั้งแต่ไอ้เอ๋อมันไม่กลับวัด หลวงตาก็เกณคนตามหามันเสียจ้าระหวั่น ไอ้เอ๋อมันรู้เรื่องที่ไหนมันนั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมกับโยกตัวไปมา มือมันก็กวักเรียกคุณลุงของมันไปด้วย


         “มาหานะโมเหรอ จะพานะโมไปกินขนมใช่ไหม? ^^”


         “คุณตำรวจรู้จักน้องด้วยเหรอครับ?” สิงค์เอ่ยปากถามเพราะดูท่าทางเด็กเอ๋อคนนี้จะสนิทกับคุณตำรวจเป็นอย่างดี


         “ครับ มันเป็นเด็กวัดในหมู่บ้านใกล้ๆ นี่แหละครับ เห้ออ นึกว่าโดนใครลากไปข่มขืนซะแล้ว ยิ่งเอ๋อๆ อยู่ด้วย” นายตำรวจพูดออกมาด้วยความโล่งใจ ไอ้เอ๋อมันก็เป็นเหมือนลูกเหมือนหลานของเขา ที่เห็นมันมาตั้งแต่เล็กๆ คอยดูคอยสอนเวลาเขาไปเยี่ยมหลวงตาที่วัด


         “เอ่ออ คุณตำรวจหมายถึง?”


         “อ่อ ไอ้เอ๋อ เอ่อหมายถึงนะโมมันเป็นเด็กกำพร้าครับมีคนเอามันมาทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่แบเบาะ เพราะมันเป็นแบบนี้ มันไร้เดียงสา จนบางครั้งมันก็ไม่รู้ว่าคนไหนดีคนไหนร้าย ใครใจดีกับมัน มันก็ตามเขาไปหมดแหละครับ” ทุกๆ คนพยักหน้า พร้อมกับมองไปที่ไอ้เอ๋อเป็นตาเดียว มันเห็นว่าทุกคนมองมาที่มัน มันก็ยิ้ม


         “แหนะมอง นะโมทำไม? ชอบนะโมอะจิ คึคึคึ ไม่ได้ๆ ลูกพี่สั่งไว้ ว่าห้ามไม่ให้นะโมชอบใคร” มันพูดออกมาโดยไม่คิดอะไร


         “ใครคือ ลูกพี่?” สิงค์เอ่ยถาม


         “อ่อ หัวโจกของเด็กวัยรุ่นในหมุ่บ้านนั่นแหละครับ มันชื่อ ไอ้ต้า”


         “แล้วนี่มันไปโดนอะไรมาเหรอครับ หรือว่าโดนทำร้าย?”


         “เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ คือน้องโดนรถชน”


         “ห๊า!!! แล้วใครเป็นคนชนครับ” นายตำรวจอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ


         “ผมเองครับ” สิงค์ยอมรับออกมา


         “คุณ?”


         “ครับ ผมเอง ผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง”



         หลังจากคุยธุระเรื่องคดีทั้งหมดจบคุณหมอหมาก็โดนตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเสียค่าปรับพร้อมกับรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญให้ไอ้เอ๋อ สิงห์อาสาไปส่งไอ้เอ๋อให้เพราะเขาต้องเข้าไปกราบขอโทษหลวงตาด้วยที่ขี่รถชนไอ้เอ๋อมัน


         “นั่งดีๆ นะครับ”


         “อื้อๆ นั่งดีๆ” ไอ้เอ๋อกระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะรถ หมอหมาเอาหมวกกันน็อกสวมให้ แต่มันเบี่ยงตัวหลบเพราะไม่ชอบ


         “ไม่เอา ไม่เอา นะโมไม่ใส่ นะโมอึดอัด” มันบอกพร้อมกับจะถอดหมวกออก


         “ไม่ได้ครับต้องใส่มันอันตราย” สิงห์รีบจับหมวกเอาไว้


         “งืออ นะ โมไม่ชอบนะโม ไม่อยากใส่ พี่จ๋านะโมไม่ชอบ -3-” มันส่ายหน้าไปมาอย่างน่ารักพร้อมกับทำปากจู๋ใส่


         “-////- มะ ไม่ใส่ไม่ได้นะ ถ้าดื้อพี่จะฉีดยานะ” หมอหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก (^///^) น่ารักเกินไปแล้ว!! พอได้ยินคำว่าฉีดยาไอ้เอ๋อมันก็ทำตาโตขึ้นมาทันที


         “ไม่ฉีด งื้อืออออ นะโใส่ก็ได้” มันรีบคว้าหมวกกลับมาใส่เหมือนเดิม ถึงจะไม่ชอบแต่มันต้องอดทนเพราะเข็มมันน่ากลัวกว่าหมวกเป็นไหนๆ พอจัดการเด็กเอ๋อเรียบร้อยหมอหมาก็ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์พร้อมกับสตารท์รถ


         “*0* ว้าวววววววว” ทันทีที่หน้ามันต้องลมเย็นยามค่ำคืนมันก็ร้องว้าวออกมาพร้อมกับโบกมือไปมาจนรถส่าย


         “นะโมนั่งดีๆ สิครับเดี๋ยวตกนะ เอามือกอดเอวพี่จ๋าไว้สิ” ตอนที่บอกกับไอ้เอ๋อถ้ามีใครมาเห็นสีหน้ากรุ้มกริ่มของหมอหมา คงจะคิดได้อย่างเดียวเลยว่า หมอคนนี้กำลังจะพาไอ้เอ๋อไปทำมิดีมิร้ายแน่ๆ แต่ก็นะใครๆ ที่อยู่ใกล้มัน โดนดาเมจความน่ารักเข้าไปใครจะทนไหว

         

         “หืม กอดเหรอ ได้ๆ นะโมชอบกอด” หมับ!! มันกอดเข้าเต็มรักจนอีกคนถึงกับสะดุ้ง “คิคิคิ พี่จ๋าขี่รถเก่งจัง พี่จ๋าขี่เร็วได้ไหม นะโมชอบ ลมมันตีน่าสนุกดี”


         “หึหึ” หมอหมาหัวเราะให้กับความใสซื่อแบบเด็กๆ ของไอ้เอ๋อ ถ้าสิงห์เป็นผู้ชายใจร้ายละก็นะโมไม่มีทางถึงวัดแน่ๆ


         “พี่จ๋าหัวเราะทำไม?”


         “หืม พี่ เอ่อ พี่มีความสุขมั้ง^^”


         “อ๋อออออ มีความสุข หลวงตาก็เคยบอกนะโม ถ้าเราหัวเราะเราจะมีความสุข คึคึคึคึคึคึ”


         สุดเส้นทางการขี่มอเตอร์ไซโต้ลมของไอ้เอ๋อมันแล้ว สิงค์จอดรถที่หน้ากุฏิหลังใหญ่ แต่เด็กเอ๋อกลับไม่ยอมลงจากรถ ร่างเล็กเอียงคอชะโงกไปด้านหน้า


         “พี่จ๋า เอาอีกๆ” มือมันเกาะแน่นอยู่ที่เอวหนาของสิงห์


         “ไม่ได้แล้ว ถึงแล้วเราต้องลง” สิงห์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ


         “ฮึก แต่นะโมไม่อยากลงนี่ -3-”


         “นะโมครับ ลงก่อนนะ เราต้องพักผ่อน ไม่เจ็บแผลเหรอ”


         “เจ็บกว่านี่ก็เคยแล้ว นะโมทนได้” คำพูดของไอ้เอ๋อมันทำให้สิงค์ใจกระตุก จากคำบอกเล่าของสารวัต นะโม โดนกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็ก และนั่นทำให้เขานึกสงสารเด็กคนนี้มากๆ สิงค์ยิ้มอ่อนๆ พร้อมกับลงจากมอเตอไซต์คันโต เขาค่อยๆ ถอดหมวกกันน็อกออกจากหัวของนะโม


         “เอาไว้พรุ่งนี้พี่มารับไปขี่รถเล่นนะ เรานะ ลงมาก่อน หลวงตาคงเป็นห่วงแย่แล้ว” เขาลูบมือลงบันหัวทุยของไอ้เอ๋อ ที่มีผ้าพันแผลไว้รอบหัวอย่างแผ่วเบา สิงค์รู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้มากๆ


         “หลวงตา *0* หลวงตา!! ” เหมือนไอ้เอ๋อมันจะสำนึกได้ว่ามีคนแก่ๆ รอมันอยู่ มันถึงได้รีบลงจากรถแล้วพุ่งไปยังกุฎิหลวงตาทันที โดยมีสิงค์วิ่งตามมาติดๆ


         “หลวงตาจ๋า.....” มันเรียกหลวงตาบัวเสียงหวาน จนหลวงตาออกมาจากกุฎิด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก ตอนหลวงตารับโทรศัพท์จากสารวัต ว่าไอ้เอ๋อมันโดนรถชนอยู่โรงพยาบาลก็ลมแทบจับหัวใจจะวาย แต่พอรู้ว่ามันไม่เป็นอะไรมากก็คลายกังวล บนกุฎิไม่ได้มีแค่หลวงตา แต่มีไอ้ต้านั่งคอยไอ้เอ๋ออยู่ด้วย หน้ามันเครียดจนคิ้วขมวดเป็นปม


         “ไอ้เอ๋ออออ!! ” ต้าเรียกมันด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ เขารู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่ามันหายไปใจหนึ่งก็เป็นห่วงอีกใจก็เบื่อระอา เพราะมันหาแต่เรื่องมาให้ตลอด


         “ลูกพี่^^”


         “อ่าวแล้วใครละนะโม” หลวงตาถามถึงคนที่ยืนซ้อนหลังไอ้เอ๋ออยู่


         “อ๋อพี่จ๋าจ้ะหลวงตา พี่จ๋าขี่มอไซชนนะโมจนกระเด็นเลย ^0^” สิงห์โอบไหล่นะโมไว้ พร้อมกับยิ้มแห้งๆ เขารู้สึกผิดจริงๆ ที่ทำให้น้องเจ็บตัว


         “ห๊ะ!! ...นี่มึงเป็นคนขี่รถชนไอ้เอ๋อเองเหรอ” ไอ้ต้ามันเดือดขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนทำให้ไอ้เอ๋อเจ็บตัว แถมยังทำท่าสนิทสนมกับเบ้ของมันอีก ยิ่งเห็นมันยิ่งหงุดหงิดแทบจะกระโจนใส่ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านล่างให้ได้


         “ใจเย็นสิไอ้ต้า เอ็งก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” หลวงตาปรามพร้อมกับเรียกให้ไอ้เอ๋อขึ้นไปหา พอขึ้นไปหลวงตาจับมันพลิกไปพลิกมา เมื่อเห็นว่ามันไม่เป็นอะไรมากแค่หัวแตกกับถลอกตามแขนขานิดหน่อย เขาก็โล่งใจ แต่ไอ้ต้ามันกลับรู้สึกตรงกันข้ามมันโมโหสุดๆ


         “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับหลวงตาที่ทำน้องเจ็บตัว ผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง” สิงห์เอ่ย หมอหมาพร้อมจะรับผิดชอบเด็กคนนี้จริงๆ เขาอยากจะอุปการะไอ้เอ๋อด้วยซ้ำถ้าทำได้ เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กนี่สุดๆ เวลาสบตามันทำให้เขารู้สึกอยากจะปกป้องดูแล


         “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกโยม นะโมมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่พามันไปหาหมอก็พอแล้ว” หลวงตาเอ่ยพร้อมกับลูบหัวทุยของไอ้เอ๋อไปด้วย


         “ครับ” เขาจำต้องยอมเพราะน้ำเสียงของหลวงตา เหมือนจะไม่อยากให้เขาทำอะไรไปมากกว่านี้ อาจจะเกรงใจหรือไม่ไว้ใจก็ตาม สิงห์หันไปมองเด็กน้อยในสายตาของเขาด้วยความเสียดายเขาอยากจะรู้จักนะโมให้มากกว่านี้แท้ๆ เมื่อคุยธุระเรียบร้อย สิงห์กล่าวขอโทษหลวงตากับนะโมอีกครั้ง


         “พี่จ๋าขอโทษนะที่ทำให้นะโมเจ็บตัว^^”


         “อื้อ นะโมไม่เจ็บแล้ว พี่จ๋าจะกลับแล้วหรอ?” ไอ้เอ๋อมันเอียงคอถาม


         “ครับ” สิงห์ตอบกลับเสียงนุ่มเขายกมือขึ้นยีหัวทุยของไอ้เอ๋อ แต่กลับเจอสายตาไม่พอใจจากไอ้ต้าร์ รุ่นพี่ตัวร้ายของไอ้เอ๋อ แค่เจอหน้ากันครั้งแรกก็สร้างความร้าวแนในชีวิตให้เขาแล้ว


         “ไม่กลับไม่ได้เหรอ นอนกับนะโมก็ด้ายยน้า^^”


         “ไอ้เอ๋อ!! ขึ้นไปนอนได้แล้วไป” เสียงของต้าร์ตะคอกใส่ พร้อมกับส่งสายตาโหดๆ ไปให้ ไอ้เอ๋อมันเลยผงะไปนิด เพราะกลัวลูกพี่คนนี้สุดๆ มันทั้งรักทั้งกลัวเลยละ


         “งือออ อยากให้พี่จ๋านอนด้วย” มันยังดื้อ สิงห์อมยิ้มน้อยๆ กับความซื่อของไอ้เอ๋อ


         “ไม่ได้ มึงจะนอนกับคนแปลกหน้าได้ยังไง ขนาดกูคนกันเองยังไม่กล้านอนกับมึงเลย ไปๆ ขึ้นบ้าน” ไม่ว่าเปล่ามันใช้มือของมันผลักไอ้เอ๋อเสียแทบกระเด็น ให้เดินขึ้นกุฏิ


         “ถ้าอย่างนั้นผมลาละครับหลวงตา ไว้ผมจะมาเยี่ยมน้องใหม่”


         “เจริญพรโยม ไปดีมาดีละ”


         “ไปแล้วไม่ต้องกลับมายิ่งดี! ”


         “^^ผมจะมาบ่อยๆ นะครับ” สิงห์หันไปพูดกับต้าร์แล้วขี่รถกลับออกไป เขาหัวเราะน้อยๆ ในลำคอเมื่อเห็นลางอะไรบางอย่างจากชายที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกพี่ของเด็กเอ๋อของเขา....


    to be con...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×