คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 04
ไอ้เอ๋อ 4
ความอร่อยของเค้กในวันนี้ไอ้เอ๋อมันจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด แต่ไม่รู้ว่าปากมันเล็กไปหรือเค้กมันชิ้นใหญ่ไป หน้ามันถึงได้เต็มไปด้วยครีมสดของเค้ก สิงห์คอยเช็ดคราบเลอะๆ ให้จนเขาแอบบ่น
“กินเลอะจังเลยครับ”
“งืม ง่ำๆ อะหย็อยๆ ง่ำๆ” ตอนนี้มันเลอะไปทั้งมือแล้ว เพราะช้อนมีนะแต่มันไม่ใช้ ถนัดสุดก็มือนี่แหละ กินไปดูดนิ้วไป ดูน่าอร่อย กินไปเกือบครึ่งหนึ่ง ไอ้เอ๋อก็นั่งตบพุงกางๆ ของมันเบาๆ
“อะ เอา กลับวัดได้ไหม นะโมอยากเอา ไปแบ่งน้องๆ แบ่งเพื่อน” มันถามพร้อมกับชี้ไปที่เค้กที่เหลือ แล้วมองสิงห์อย่างมีความหวัง ถึงมันจะเอ๋อมันจะโง่แต่มันก็นึกคนอื่นเสมอ มันใจดีกับเด็กๆ แล้วก็พวกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยด้วย เพื่อนมันเยอะมาก มาก มากจนนับไม่ถูก
“ได้สิ อยากกินอะไรอีกไหม เดี๋ยวพี่พาไปซื้อ” ไอ้เอ๋อมันทำหน้าลังเล มันอยากกินอีก แต่ท้องของมันรับอะไรไม่ไหวแล้ว ดวงตากลมโตกวาดสายตาไปทั่วๆ ร้าน จนกระทั่งมันไปสะดุดเข้ากับกล่องคุกกี้ลายน่ารักๆ เข้า
“อะ เอา อันนั้น อันสีชมพู เอาไปฝากหลวงตา” นิ้วเรียวชี้ไปที่ชั้นวางขนม ตากลมๆ ของมันโตขึ้นแทบจะทัน
“ ได้ครับ ปะเราเอาเค้กไปใส่กล่อง แล้วไปจ่ายเงินกันนะ นะโมไปหยิบ ของที่อยากได้มาสิ” พอได้รับอนุญาตมันก็เดินไปที่ชั้นวางขนมทันทีแล้วหยิบกล่องขนมกล่องที่ใหญ่ที่สุดออกมา ไหนๆ ก็จะซื้อให้แล้ว มันเลยอยากได้กล่องใหญ่ๆ จะได้แบ่งกันกินหลายๆ คน มันหยิบมากอดไว้แนบอก เหมือนกลัวว่าขนมจะหายไป จนสิงห์ต้องเดินไปแย่งมาจ่ายเงิน แล้วพามันออกจากร้าน ด้านหลังมีไอ้เอ๋อเดินกอดถุงขนมไว้แน่น
หลังจากนั้นเขาก็พามันกลับมาที่วัด ตะวันก็เกือบจะตกดินแล้ว แต่แทนที่มันจะยิ้ม มันกลับค่อยๆ หุบยิ้มลงอย่างช้าๆ ก่อนจะสะดุ้งแรง สายตามันมองไปยังจุดจุดเดียวคือหน้ากุฏิหลวงตา ร่างสูงยืนกอดอกมองมาที่มัน
“ลูกพี่ ยะ ยะแย่แล้ว แย่แล้ว” ไอ้เอ๋อยืนตัวสั่นๆ มันจิกเล็บตัวเองไปมา เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง มันค่อยๆ เดินไปหา ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน
“ไปไหนมา” ไอ้ต้าถามมันด้วยน้ำเสียงต่ำๆ มันอุตส่าห์รีบกลับมาหากลัวไอ้เอ๋อมันจะเหงา แต่พอมาถึงไอ้เอ๋อมันกลับไม่อยู่เสียนี่ ใจก็นึกห่วงกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายแต่พอมารู้จากปากพระลูกวัดว่ามีคนมารับมันออกไปข้างนอก ไอ้ต้าร์มันรู้ได้ทันทีเลยว่าใครเป็นคนมารับไอ้เอ๋อออกไป และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์แล่นเข้ามาจอด ภาพที่เห็นคือไอ้เอ๋อมันกอดเอวอีกคนไว้แน่น แค่นั้นมือใหญ่ของมันก็กำแน่นจนเห็นเส้นเลือด
“ปะ ปะไป กินขนม” มันตอบ ไอ้ตาร์สูดลมหายใจลึก พร้อมกับยืนเท้าเอว อย่างสงบสติอารมณ์ ดวงตาดุๆ ของมันกวาดมองทั่วร่างกายของไอ้เอ๋อ
“เสื้อผ้าพวกนี้ ใครซื้อให้” มันจับแขนเสื้อของไอ้เอ๋อแล้วสะบัดทิ้ง
“พะ..พี่สิงห์จ้ะ พะ พี่สิงห์พาไปร้านขายของที่ใหญ่ๆ”
“แล้วมึงไปทำไมวะ!! ” ต้าร์เผลอตะคอกใส่ไอ้เอ๋อ ไอ้เอ๋อมันตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว สิงห์ที่ยืนเฝ้าสังเกตอยู่เห็นท่าไม่ดี เขาเลยเดินไปหานะโมที่ยืนตัวสั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่
“ใจเย็นสิน้อง น้องทำให้นะโมกลัว” สิงห์เอ่ยเสียงนุ่มๆ แต่สายตาของเขามันไม่ได้ดูนุ่มนวลเหมือนน้ำเสียง สายตาของสิงห์แข็งกร้าวและดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ เขาเดินมาจับไหล่ของนะโมไว้ และปลอบให้นะโมสงบลง
“มึงมาเสือกอะไรด้วย!! ” ต้าร์มันตวาดใส่เสียงลั่น
“หึหึ พูดจาไม่น่ารักเลยนะครับ น้องต้าร์” สิงห์ยิ้มเหี้ยมใส่
“ใครน้องมึงมิทราบ กูไม่เคยมีพี่หน้าตาแบบมึง ไสหัวไปได้แล้ว!! ส่วนมึงไอ้อ๋อ ตามกูมานี่เลย” พูดจบมันก็กระชากแขนไอ้เอ๋อให้เดินตาม สิงห์เป็นคนที่อารมณ์เย็น เขายกยิ้มมุมปากแล้วเดินตามสองคนนั้นไปอย่างเงียบๆ เขาได้ยินไอ้ต้าร์มันสบถหยาบออกมาหลายคำพร้อมกับทำหน้าดุไอ้เอ๋อไปด้วย
“ไอ้เอ๋อมึงนี่นะทำไมชอบให้กูโมโหอยู่เรื่อยเลยวะ กูบอกว่าเย็นๆ จะมารับ แล้วเสือกหนีไปกับใครก็ไม่รู้ -*- “
“นะโม เปล่านะ นะโมไม่ได้หนี นะโมไปเที่ยว ลูกพี่อย่าโกรธเลยนะๆ นี่ นะโมเอาขนมมาฝากด้วยนะ” ไอ้เอ๋อมันพยายามเอาใจลูกพี่มันสุดๆ มันไม่สนแรงบีบที่แขนของมันด้วยซ้ำมันกลัวอยู่อย่างเดียว คือกลัวไอ้ต้าร์จะทิ้งมัน ไม่เล่นกับมัน มันคิดอยู่แค่นั้น สิงห์มองพฤติกรรมทุกอย่างของไอ้เอ๋อพร้อมกับคิดวิเคราะห์ไปด้วย ประเมินจากสายตา “ไอ้ต้าร์มีความสำคัญกับไอ้เอ๋อไม่ใช่น้อย” และสิงห์ก็คิดว่าเขาจะต้องทำยังไงให้มีความสำคัญมากกว่าไอ้ต้าร์ ลูกพี่ขี้หวงของไอ้เอ๋อ ให้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุก สิงห์ไม่ได้เจออะไรที่ท้าทายความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว
“กูไม่กินของจากคนแปลกหน้า มึงเองก็ด้วยทิ้งไปให้หมดเลยนะของพวกนี้” ไอ้ต้าร์พยายามจะแย่งขนมในมือไอ้เอ๋อไปแต่ ไอ้เอ๋อมันเอาหลบ ไม่ยอมให้ มันหวงของของมันเหมือนกัน
“ไม่เอา นี่มันของๆ นะโมนะ ลูกพี่จะแย่งมันไปไม่ได้!! ”
“นี่มึงกล้าขึ้นเสียงกับกูแล้วเหรอไอ้เอ๋อ” มันได้ขึ้นเสียงใส่มันแค่ตกใจ
“ไม่นะ ไม่ใช่ อย่าเอาของนะโมไป” ไอ้ต้าร์มันพยายามยื้อแย่งกล่องเค้กในมือไอ้เอ๋อ
“เอามาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เอ๋ออ ไอ้เชี้ยะ เอ๋อออ” สองคนยื้อยุดกันไปมาต่างคนต่างไม่ยอม
“พอได้แล้วครับเด็กๆ” สิงห์เอ่ยแทรกระหว่างสงครามการแย่งขนมด้วยเสียงนุ่มๆ
“พี่จ๋า ฮึก ขนมของนะโม”
“^^ครับ เดี๋ยวพี่คุยให้เองนะ” สิงห์สบโอกาสดึงนะโมมาอยู่ข้างๆ กายอีกครั้ง
“เหอะทำเป็นพูดจาหวานหู กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่” ไอ้ต้าร์กัดฟันพูด
“ก็ไม่ต่างจากน้องสักเท่าไหร่หรอก ว่าไหมครับ? ^^ เรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะครับ เรื่องแค่นี้เอง” แม้คำพูดจะฟังดูแล้วนุ่มหู แต่สายตานี่เชือดเฉือนฝ่ายตรงข้ามย่อยยับ
“กูไม่คุยอะไรกับมึงทั้งนั้น “ไอ้ต้าร์หันหลังให้ “อ่อ แล้วอีกอย่าง มึงห้ามมายุ่งกับไอ้เอ๋อมันอีกเป็นอันขาด อย่าหาว่ากูไม่เตือนก็แล้วกัน”
“คงไม่ได้หรอกครับ พี่ว่าพี่รู้สึกถูกชะตากับนะโมมากๆ อยากจะมาเจอบ่อยๆ อีกอย่างพี่ก็อายุเยอะกว่าน้องหลายปี กรุณาพูดจาให้ความเคารพกันนิดนึงก็ดี อย่าหาว่าพี่สั่งสอนเลยนะ แต่กิริยาแบบน้องแถวบ้านพี่เค้าเรียกว่าก้าวร้าว ไร้การอบรมสั่งสอนที่ดีมา คนอื่นเค้าจะมองไม่ดี ^^”
“นี่มึง!! ” ไอ้ต้าร์มันรู้ว่ามันโดนด่าแบบผู้ดี สองมือมันกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ มันหันไปมองไอ้เอ๋อที่ยืนมองอยู่ กับมือที่กำลังจับกับมือสิงห์ไว้แน่น เพราะว่ามันดันเสียงดัง มันกำลังโกรธและนั่นทำให้ไอ้เอ๋อของมันยิ่งหวาดกลัวในตัวของมัน ไอ้ต้าร์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินหนีออกไป ด้วยความคุกรุ่นในใจ
“ละ ลูกพี่ พี่ต้าร์” ไอ้เอ๋อมันพยายามจะเรียกไอ้ต้าร์เอาไว้ แต่ก็โดนสิงห์ห้ามไว้เสียก่อน
“ปล่อยต้าร์เค้าไปเถอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง เรานะเอาของไปเก็บก่อนไหม” สิงห์ชูถุงเสื้อผ้ากับถุงขนมให้นะโมดู ไอ้เอ๋อมันพยักหน้าก่อนจะเดินนำไปที่ห้องนอนของตัวเองซึ่งอยู่ถัดไปจากห้องของหลวงตา แต่ขณะที่มันเดินมันก็ยังเหลียวหลังไปมองทางที่ไอ้ต้าร์มันพึ่งเดินหนีไป สายตามันดูเศร้าๆ และเป็นกังวล พอมาถึงไอ้เอ๋อมันเปิดประตูห้องมันเข้าไป โดยที่มีสิงห์เดินตาม ในห้องของไอ้เอ๋อมีแค่ฟูกที่นอนเก่าๆ กับหมอนแล้วก็ผ้าห่มที่พับเรียบร้อย มีพัดลมตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ปลายฟูกมุ้งถูกตลบเก็บไว้อย่างดี สิงห์กวาดสายมองไปรอบๆ เขาอดที่จะทึ่งไม่ได้ว่า ห้องของมันจะสะอาดและเรียบร้อยขนาดนี้ ในห้องแทบจะไม่มีฝุ่นเลย สิงห์วางถุงเสื้อผ้าลงบนที่นอนของไอ้เอ๋อ
“เราไม่มีตู้เสื้อเหรอนะโม” ไอ้เอ๋อมันส่ายหน้าบอกว่าไม่มี
“แล้วอยากได้ไหม?” สิงห์เริ่มเสนอของที่ตัวเองอยากจะซื้อให้ทันที อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้เขาก็จะช่วย
“ไม่อยากได้ นะโมมีราวตากผ้าแล้ว” ไอ้เอ๋อมันตอบยิ้มๆ มันไม่มีตู้เสื้อผ้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เสื้อผ้ามันทุกตัวถูกแขวนที่ราวที่ใต้ถุนมาตลอด มันไม่จำเป็นสำหรับคนอย่างไอ้เอ๋อ
“อย่างนั้นเหรอ นะโมไม่อยากมีของใช้ที่เป็นของตัวเองบ้างเลยเหรอครับ หืม” ไอ้เอ๋อมันได้ฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“คิคิคิ นะโมไม่เคยอยากได้อะไรหรอกนะโม นะอยู่แบบพอเพียง” มันตอบเสียงใสพร้อมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นไม้ตรงข้ามกับพี่จ๋าของมัน ในหัวมันนึกถึงน้องๆ แล้วก็หลวงตา ว่าจะแบ่งขนมยังให้เท่าๆ กัน
“หึหึ เป็นเด็กดีจริงๆ นะเรานะ” สิงห์ยกมือขึ้นลูบหัวไอ้เอ๋อมันอย่างเอ็นดู ไอ้เอ๋อมันเลยส่งยิ้มหวานมาให้แทน
“คิคิคิ นะโม เด็กดี นะโมไม่ดื้อ ด้วยน้า^^”
“ครับ รู้แล้วเรานะไม่ดื้อเลยยยยย” สิงห์ใช้น้ำเสียงกึ่งประชดกึ่งขำ เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มยุ้ยๆ ของนะโมอีกครั้งด้วยความหมันเขี้ยว
“อร้ายยย นะโมเจ็บๆ >0<” ด้วยความน่ารักแบบเอ๋อๆ มันได้สร้างความรู้สึกที่ดีต่อคนที่ได้สัมผัสอย่างสิงห์ รอยยิ้มของมันทำให้หัวใจของใครบางคนเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ สิงห์ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจรอวันที่มันเติมจนเต็ม วันนั้นเขาคงเผยความรู้สึกนี้ออกมาได้โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หมอหมายิ้มรับกับความใสซื่อของเด็กผู้ชายคนหนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาแค่ต้องรอ รอให้น้องโตกว่านี้อีกหน่อย จิตอกุศลของถึงจะทำงาน ตอนนี้ เป็นพี่ชายที่แสนดีไปก่อนละกัน
“นะโมเอ๊ยยย นะโม อยู่ไหมลูก” เสียงแหบๆ ของหลวงตาตะโกนเรียกไอ้เอ๋อจากประตู
“จ๊ะ หลวงตา นะโมอยู่นี่” พอได้ยินเสียงเรียกของหลวงตาไอ้เอ๋อก็ลุกพรวดแล้ววิ่งไปที่ประตู
“อ่าวอยู่ในห้องเรอะ วันนี้หายไปไหนมาทั้งวันเลยเอ็ง”
“ไปกินขนมกับพี่จ๋ามาจ้ะ” มันตอบซื่อๆ หลวงตาขมวดคิ้วยุ่ง เพราะเสื้อผ้าที่ไอ้เอ๋อมันใส่ สิงห์เดินออกมาจากห้องนะโมพอดี และยกมือไหว้หลวงตา
“นมัสการครับหลวงพ่อ ผมพานะโมไปกินขนมเองครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไปโดยไม่บอก” สิงห์เอ่ยเสียงสุภาพพร้อมส่งยิ้ม ไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มแล้ววิ่งกลับไปด้านใน ก่อนจะออกมาพร้อมกับขนมกล่องใหญ่
“พี่จ๋าซื้อให้ นะโมเอามาให้หลวงตานะ หลวงตาจะได้กินกับน้ำขมๆ” ไอ้เอ๋อมันรีบบอกเพราะกลัวหลวงตาจะดุเอาเรื่องหนีไปเที่ยวไกลๆ หลวงตามองมันด้วยความอ่อนใจ เพราะมันเป็นแบบนี้หลวงตาถึงได้ห่วง มันไม่รู้ว่าคนที่เขาหามันนั้นมีจุดประสงค์อะไรบ้าง หลวงตาเบนสายตากลับมาที่พี่จ๋าของมัน หลวงตาวันชราภาพมองหน้าของสิงห์พินิจพิเคราะห์ชคนแก่ไม่เคยไว้ใจใคร ไม่มีใครที่เอ็นดูไอ้เอ๋อของเขาแล้วไม่หวังผลอะไร เว้นเสียแต่ตัวเขาเองที่รักไอ้เอ๋อเหมือนลูกแท้ๆ คนหนึ่ง
“เกรงใจโยมจริงๆ วันหลังอย่าไปตามใจมันมากมันจะเสียคนเอา อาตมาเองก็ไม่มีเงินมากพอจะซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ให้มันใส่หรอก ถ้าเกิดวันหนึ่งมันอยากได้ขึ้นมาอาตมาจะลำบาก เพราะอาตมาไม่มีให้มัน” หลวงตาเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“......”
“แล้วนี่โยมจะกลับเลยไหม อาตมาจะได้ให้นะโมเขาไปทำธุระให้”
“ครับก็กะว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน” ในเมื่อโดนไล่แบบนี้ เขาก็ไม่ควรที่จะอยู่ต่อ สิงห์กราบลาหลวงตาแล้วหันไปลาไอ้เอ๋อ
“พี่ไปก่อนนะ แล้วจะแวะมาเล่นด้วยใหม่” สิงห์ยิ้มอ่อนให้ไอ้เอ๋อที่ยืนมองเขาอยู่ด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะไม่มีใครมาเล่นกับมัน ไอ้ต้าร์ก็งอนมันหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ พอสิงห์ขี่รถกลับไปหลวงตาจึงเรียกนะโมไปอบรมเรื่องการไปไหนกับคนแปลกหน้า
ด้านไอ้ต้าร์ที่ทั้งโมโหแล้วก็น้อยใจไอ้เอ๋อ มันเดินหิวปลาตัวใหญ่กลับมาที่ริมคลอง ตรงนั้นมันเตรียมอุปกรณ์สำหรับย่างปลาไว้พร้อม มันจะไปรับไอ้เอ๋อมากินปลาย่างที่มันตกได้ แค่ความภาคภูมิมิใจทั้งหมดของมันต้องพังทลายเพราะของแพงๆ ที่ไอ้เอ๋อมันได้มานั้นเทียบไม่ติดกับปลาของมันสักนิด ปลาตัวใหญ่มันไร้ค่าไปโดยปริยาย ไอ้ต้าร์มันโยนปลาลงถัง แล้วนั่งบนพื้นหญ้าริมคลองอย่างเจ็บใจ
“ไอ้เชี้ยะ เอ๋อออ มึงนะมึง” มันพึมพำออกมา พร้อมกับทอดสายตามองไปยังผืนน้ำด้านล่าง อย่างเหม่อลอย
..................................................................................................................
หลังจากวันนั้น ไอ้เอ๋อมันก็ไม่เห็นไอ้ต้าร์อยู่หลายวัน พอไปที่บ้านพ่อกับแม่ของไอ้ต้าร์ก็บอกว่า ต้าร์มันไปค่ายที่ต่างจังหวัด พรุ่งนี้ถึงจะกลับ ไอ้เอ๋อมันเลยเดินคอตกกลับมา ด้วยความที่ไม่รู้จะไปไหน มันเลยเดินไปที่โรงน้ำชา ที่นั่นมักจะมีคนแก่ๆ ออกมาเล่นหมากรุกกันเป็นประจำ มันเปลี่ยนเส้นทางที่จะกลับวัดไปเป็นที่โรงน้ำชาแทน แค่มันก้าวเข้าไปที่โรงน้ำชากลางหมู่บ้าน เสียงร้องทักมันก็ดังลั่น
“อาเอ๋อออ หายหน้าไปนานเลยนะเอ็ง” แปะซ้งเอ่ยทักทายไอ้เอ๋อทันทีที่มันก้าวเข้ามา แปะซ้งเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมากับเรือสำเภากับพ่อแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง และตั้งรกรากอยู่ในเมืองไทยสืบทอดมาจนปัจจุบัน อายุก็ใกล้จะลงโรงแล้ว มือเหี่ยวๆ กวักเรียกไอ้เอ๋อให้เข้าไปหา
“สวัสดีจ้า แปะซ้ง วันนี้นะโม ว่างก็เลยแวะมาหา อิอิ^^” มันพูดทักทายแต่สายตามันจับจ้องที่กล่องเหล็กเก่าบนชั้นวางของ ในกล่องคือชุดหมากรุกที่ทำจากไม้ ของรักของหวงของมัน เพราะมันใช้แรงงานหาเงินมาซื้อด้วยตัวของมันเอง
“เหรออออ นึกว่าไม่มีคนเล่นด้วยถึงได้มา” เจ๊กลากเสียงยาวล้อเลียนไอ้เอ๋อ เขาทั้งเอ็นดูและรักมันเหมือนหลานคนหนึ่ง
“มาๆ วันนี้มาประลองกันสักตั้ง” ซ้งรีบท้าไอ้เอ๋อมันแข่งหมากรุกทันที เรื่องหมากรุกไว้ใจไอ้เอ๋อได้ แต่ยังไม่ทันจะแข่ง จู่ๆก็มีชายชุดดำประมาณสี่ห้าคนเดินเข้ามา พวกมันไม่พูดอะไรมากมันมาถามหา แปะซ้งนั่นแหละ พอแปะซ้งเห็นคนพวกนั้นก็รีบวิ่งไปหลบที่ด้านหลังร้านด้วยความหวาดกลัว ชายแก่ได้แต่แอบมองมาจากหลังร้านผ่านรูเล็กๆ ที่กำแพง พอพวกนั้นไม่ได้คำตอบที่ต้องการมันก็ทำลายข้าวของจนเสียหาย ยังดีที่มันไม่ได้ทำร้ายใคร ไอ้เอ๋อ มันเห็นแบบนั้นก็รีบห้าม
“พี่ อย่า อย่า ทำ อย่า” มันเข้าไปจับแขนของหนึ่งในพวกนั้นเอาไว้ไม่ให้ทำลายของ ของแปะซ้ง
“ไอ้เด็กนี่ เกะกะ ออกไป!!! ” มันผลักไอ้เอ๋อจนกระเด็นล้มกลิ้งลงกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เอ๋อมันก็ไม่ได้ลดละความพยายาม มีหลายคนหนีออกจากโรงน้ำชาไปแล้ว เหลือแต่พวกที่อยากรู้อยากเห็นกับหลานของแปะซ้ง ที่คอยห้ามไอ้เอ๋อไม่ให้เข้าไปยุ่ง แต่ไอ้หลิวมันแค่เด็กปอ6จะไปมีปัญญาห้ามไอ้เอ๋อที่โตกว่ายังไงไหว มันร้องไห้จ้า ปากก็ร้องห้ามไอ้เอ๋อไปด้วย
“ไม่นะ อบ่ายุ่งกับของๆ นะโมนะ” ทันทีที่พวกนั้นแตะกล่องเหล็กไอ้เอ๋อมันก็รีบลุกไปคว้า แต่ไม่ทันมันถูกถีบออกมาจนล้มกลิ้งอีกครั้ง ไอ้เอ๋อพยายามจะแย่งกล่องเหล็กคืน มันคลานไปจับขาของพวกคนร้ายเอาไว้อย่างไม่นึกกลัว ผลที่ได้คือมันโดนเตะจนล้มคว่ำไปอีกรอบ ครั้งนี้เลือดกบปากมันแน่นอน
“ไอ้เอ๋อออ” เสียงร้องของคนที่เหลือดังขึ้นทันที เพราะไอ้เอ๋อมันแน่นิ่งไป ถ้าสังเกตดีๆ มือของมันยังไม่ปล่อยขากางเกงของไอ้คนที่ทำร้ายมันด้วยซ้ำ แปะซ้งที่ทนดูไม่ไหว จำต้องออกมาจากที่ซ่อนเพื่อปกป้องไอ้เอ๋อ ไม่มีใครรู้ว่าแปะซ้งไปทำอะไรไว้กับคนพวกนี้ พวกมันถึงได้ตามมาเล่นเขาถึงที่ ชายชราพาตัวเองออกไปขวางไม่ให้คนพวกนั้นทำร้ายนะโมอีก
“อย่าทำมันเลย อย่าทำมัน” เจ๊กรีบยกมือไหว้ขอร้องไม่ให้ทำร้ายไอ้เอ๋อมันอีก
“หึ ยอมออกมาแล้วเหรอไอ้แก่ หนี้ที่ค้างไว้เมื่อไหร่จะจ่าย เฮียเค้าให้มาทวง!! ” มันตะคอกใส่เจ็กที่กำลังพยุงไอ้เอ๋อให้ลุกขึ้นมันยังรู้สึกมึนและเจ็บหลังมากๆ สติมันอยู่ครบแล้วตอนนี้ สายตามันมองไปที่กล่องเหล็กที่พื้น มันพยายามจะคลานไปเก็บ แต่ก็ถูกไอ้คนใจร้ายเตะทิ้งจนตัวหมากรุกระเด็นไปทั่ว มันพยายามจะไปเก็บแต่แรงมันไม่มีสักนิด
“ยะ อย่า เอาของนะโมคืนมานะ” เสียงมันเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
“ว่ายังไง! เจ๊ก หรือต้องให้ไอ้เด็กนี่มันเจ็บตัวมากกว่า แปะถึงจะยอมจ่าย” หนึ่งในพวกนั้นกระชากหัวไอ้เอ๋อมันขึ้นจากพื้น มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับพยายามจะสู้ตามที่กำลังมันจะมี น้ำตามันไหลพรากด้วยความกลัว
“ไอ้เอ๋อมันไม่เกี่ยว มันไม่รู้เรื่องอย่าไปยุ่งกับมัน ลื้อปล่อยมันไปเถอะ” แปะร้องออกมาทันที ไอ้เอ๋อตัวมันสั่นสะท้าน และเริ่มหายใจติดขัด มันไม่ชอบความรุนแรงและกลัวมากๆ ด้วย เพราะตอนเด็กๆ มันโดนทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง และหนึ่งในนั้นก็ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน
“อย่า ทำ เจ็บ ฮึก อย่าทำนะโม ฮรือออ หลวงตาจ๋า” มันร้องออกมาเสียงดังสองมือของมันยกขึ้นกุมหัวตัวเองโดยสัญชาตญาณ ภาพในหัวมันคืออดีตที่ มันกำลังโดนทำร้าย ดวงตากลมหลับแน่น
“ไอ้พงศ์มึงปล่อยมันไปเหอะ ดูดิ แมร่งกลัวจนฉี่ราดแล้วนั่น” คนที่ชื่อพงศ์ก้มมองไอ้เอ๋อแล้วมันกำทำหน้ายี้ใส่ก่อนจะเหวี่ยงไอ้เอ๋อให้กระเด็นไปอีกทาง ด้วยความขยะแขยง ไอ้เอ๋อล้มกลิ้งไปบนพื้นปูนจนเป็นแผลถลอกเลือดซิบออกมาจากผิวสวยๆ ของมัน
“พงศ์ฉันขอเวลาสักสองสามวันนะ ลูกชายยังไม่กลับจากส่งของที่ภาคใต้เลย เดี๋ยวได้เงินมาฉันจะรีบเอาไปคืนให้เลยนะ วันนี้ฉันไม่มีจริงๆ” แปะพยายามจะขอร้อง พวกมันมองแปะซ้งด้วยแววตาหยามเหยียด
“ก็ได้ แค่สามวันเท่านั้นนะ ถ้าผิดนัดอีกละก็ ทั้งเจ๊ก ทั้งไอ้เด็กปัญญาอ่อนนี่ โดนดีแน่” มันขู่ พร้อมกับเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก แปะซ้งรีบประคองไอ้เอ๋อมันลุกแล้วพาไปทำแผลทั้งที่มันยังมีอาการหวาดผวาอยู่ เรื่องนี้เขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้ไอ้เอ๋อมันมารับเคราะห์แทนแบบนี้ แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือคนสติดีๆ มีปัญญาครบไม่มีใครออกตัวมาช่วยเหลือเขาหรือไอ้เอ๋อเลยสักคน ชายชราทำแผลให้ไอ้เอ๋อด้วยน้ำตาคลอหน่วย
“อั๊ว ขอโทษนะเอ๋อเอ้ยย อั๊วไม่รู้ว่าอีพวกนั้นมันจะชั่วเกินมนุษย์แบบนี้” แปะบอกด้วยความรู้สึกผิดและสงสาร ใบหน้าสวยๆ ของไอ้เอ๋อมันเหยเกทุกครั้งที่แป๊ะทายาให้มัน
“นะโมกลัวจ้ะ แปะ T^T” พอแปะได้ยินสีหน้าของเขาก็เครียดลงอีก เพราะคำขู่ของคนพวกนั้น แปะกลัวไอ้เอ๋อจะเดือดร้อนไปด้วย เรื่องนี้เขาคงต้องปรึกษาหลวงตาบัว แปะถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ มันมืดแปดด้านไปหมด ไอ้ที่บอกว่าอีกสามวันมันก็ใช่ว่าจะแน่นอน เขาแค่คาดเดาว่าบุตรชายคนโต ตัวต้นเหตุที่ทำให้ทั้งเขาและไอ้เอ๋อต้องมาเจ็บตัวแบบนี้มันจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพร้อมกับเงินที่เขาไปกู้ให้มันไปลงทุนขายของ ตั้งแต่ได้เงินมันก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆติดต่อไม่ได้มาหลายวันแล้ว
“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว” ก่อนจะหันไปสั่งหลิวหลานชายให้ช่วยเก็บกวาดของที่หล่นกระจาย ยังดีที่ไม่ลามไปถึงของขายในร้าน ส่วนใหญ่ที่มันพังก็จะมีแค่โต๊ะกับกระดานหมากรุกเท่านั้น ดวงตาสีอ่อนกวาดมองร้านของตนเองอีกครั้งด้วยความปวดใจ พร้อมกับลูบหัวปลอบไอ้เอ๋อไปด้วย
แปะซ้งพาไอ้เอ๋อมาส่งที่วัดพร้อมกับคำอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แปะดูเครียดมากกว่าเดิมเมื่อหลวงตาแสดงท่าทีหนักใจ
“อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะดูแลมันได้อีกนานเท่าไหร่” หลวงตาทอดสายตาไปยังไอ้เอ๋อที่นอนหลับอยู่ในห้อง พร้อมกับนึกถึงเวลาที่เหลืออยู่ของตนเองที่ชราภาพมากแล้ว
“กระผมต้องขอโทษหลวงตาด้วยนะครับที่เป็นต้นเหตุให้ไอ้เอ๋อมันมาเดือดร้อนด้วย”
“เรื่องนั้นเป็นเหตุสุดวิสัย แล้วอีกอย่างไอ้เอ๋อมันก็คงจะรักโยมกับโรงน้ำชานั้นมาก เลยไม่อยากให้ใครมาทำลาย แต่ปัญหาจากตรงนี้นี่สิถ้าโยมชัยไม่กลับมา โยมซ้งจะทำยังไง” หลวงตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หนักใจ แปะซ้งก้มหน้าเงียบไม่พูดเพราะเองก็คิดไม่ตก บทสนทนาของคนสองคน นั้นทำให้หมอหมาที่เดินเข้ามาหาไอ้เอ๋อได้ยินเข้าพอดี
“ให้น้องไปอยู่กับผมไหมครับ?”
“!!!!!! ”
to be con....
ได้โปรดให้กำลังใจเราด้วยการ กดติดตาม คอมเม้นติชมด้วย นะคะ รักผู้อ่านทุกคน
ความคิดเห็น