ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #18 : ภาระกิจของสามเกลอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 380
      6
      14 ก.ค. 55

    "ลูเซียส!"

    นั่นไง! เซเวอรัสกลับชาติมาเกิดติดต่อมาแล้ว!?

    "ลูเซียส! ได้ยินชั้นมั้ย!"

    "ได้ยิน... ทำชั้นหลุดออกภวังค์ได้เชียวนะ"

    "โอเค... นายมีหนังสือเกี่ยวกับบาซิลิสซ์มั้ย"

    "มี... จะเอาไปทำอะไร แล้วที่ฮอกวอร์ตไม่มีเหรอ"

    "มี แต่มันไม่ละเอียดพอ ได้โปรดเถอะ ลูเซียส ชั้นเจ็บเข่าจะแย่แล้ว!"

    "รอเดียวนะ..."

    ลูเซียสเดินหายไปก่อนจะมาพร้อมหนังสือ

    "อ่านเกี่ยวกับชนิด"

    "มีสองแบบ คือบาซิลิสซ์แท้กับบาซิลิสซ์เทียม ของแท้คือไข่ไก่ที่แม่งูเอาไปเลี้ยง มันซึมซับพลังอำนาจแห่งพิภพผ่านไข่งูที่รายล้อม แต่ของเทียมก็คือไข่งูที่เกิดและได้รับการเลี้ยงจากบาซิลิสซ์แท้และรับการถ่ายทอดซึมซับจากบาซิลิสซ์แท้"

    "ขอบคุณ!" ว่าแล้วก็หายไปจากเตาผิง

    "ชั้นยังพูดไม่จบเลยเจ้าเด็กบ้า"

     

     

     

    วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า... แน่นอนที่สุด เว้นแต่จะบวกคำที่มีความหมดสอดคล้องกัน อาธิเช่นคำว่า คืบ คลาน ลาก เลื้อย กระดืบๆ อะไรประมาณนั้น

    เซเวอรัสามเค้าเกี่ยวกับบาซิลิสซ์ทำไม!?

    "ลูเซียส!"

    ...ดูเหมือนจะมาแล้ว...

    "รีบมาที่ฮอกวอร์ตด่วนเลย เจอเรื่องไม่ดีแล้ว"

    "นัดเจอกันที่ไหน" ลูเซียสถามโดยไม่มองไปที่เตาผิง

    "ห้องชั้นสิ! จะไปไหนได้อีก!"

    เพราะงั้นเค้าจึงต้องไป...

    .............................

    .....................................................

    ..................................

    "ชั้นคิดว่าสัตว์ร้ายของสลิธีรีนคือบาซิลิสซ์"

    นั่นไง! มาแล้ว!?

    "มีเด็กนักเรียนโดนมันเล่นงานไปแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร งูตัวใหญ่ขนาดนั้นเลื้อยไปไหนมาไหนโดยไม่มีใครเห็นได้ยังไงกัน"

    "รู้ได้ไงว่าเป็นงู บาซิลิสซ์อาจจะเป็นไก่ก็ได้"

    "เพราะชั้นไม่คิดว่าสลิธีรีนจะขังไก่ไว้ในห้องลับน่ะสิ อย่างลืมว่าสัญลักษณ์ของบ้านนี้คืองูเชียวนะ"

    "นั่นสิ ถ้าบอกว่าเรเวนคลอคือคนที่สร้างห้องลับแล้วขังบาซิลิสซ์ไว้ก็น่าเชื่อหน่อยว่ามันจะเป็นไก่"

    เงียบกันไปทั้งคู่ ซักพักลูเครเซียพูดขึ้น "เซเวอรัส เธอรู้ว่าเป็นบาซิลิสซ์จากเวทมนตร์ของมันใช่มั้ย"

    "ใช่... ข้อแรกคือคุณนายนอริสที่กลายเป็นหิน ข้อที่สองมันเป็นสัตว์ของสลิธีรีน ข้อที่สามเมอร์ทิลจอมคร่ำครวญเป็นเหยื่อมาแล้ว เธอตายจากการสบตา"

    "บอกดัมเบิลดอร์รึยัง"

    "ยัง... เอริสขอไม่ให้ผมทำ"

    "ดีนี่" ลูเซียสพูดอย่างพอใจ "แล้วเรียกชั้นมาทำหอกอะไรที่นี่ ชั้นไม่คิดว่าทายาทสลิธีรีนจะเล่นงานเดรโกหรอกนะ"

    "ไม่หรอกค่ะ... แต่หลานชายทางวิญญานของพวกเราต้องสงสัยว่าจะขโมยของในห้องทำงานของเซเวอรัส" ลูเครเซียบอก

    "อะไรนะ!? หมายถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์เหรอ!? เค้าจะขโมยของไปทำไม"

    "น้ำยาสรรพรส จากของที่ขโมยไปนะ" เซเวอรัสตอบเรียบๆ

    "เชื่อเลย! แล้วเธอก็ไม่บอกดัมเบิลดอร์!" ลูเครเซียมองอย่างไม่อยากเชื่อ

    "สำหรับเรื่องนี้ผมบอก!" เซเวอรัสคำราม "แต่เค้าไม่ว่าอะไร มันทำให้ผมต้องขอให้คุณกับพี่ชายมาไง!"

    "ต้องการให้เราทำอะไร" ทั้งสองพูดพร้อมกัน

    "มีรากเอลเดอร์งอกออกมาที่ท่อระบายน้ำ"

    ฝาแฝดกระพริบตา มันเกี่ยวอะไรกับบาซิลิสซ์เนี่ย!?

    "ไม่เอาน่า ชั้นจริงจังนะลูเซียส! ชั้นเคยได้ยินจากพ่อนายว่ารากเอลเดอร์ที่ล้ำเขตแดนออกมาแปลว่าข่ายอาคมเสียหาย ถึงจะยังไม่รู้ว่าอะไรแต่ระหว่างจัดการกับงูยักษ์กับป้องกันไม่ให้ฮอกวอร์ตพังชั้นเลือกอย่างหลัง"

    "แล้วมันจะมาพูดเรื่องบาซิลิสซ์ทำไมวะถ้ามันเรียกเรามาเพราะเรื่องนี้" ลูเซียสหันไปคุยกับน้องสาว

    "เป็นไปได้ว่าการเคลื่อนไหวของบาซิลิสซ์จะทำให้อาคมบางส่วนถูกทำลาย" หญิงสาวตอบ "ชั้นว่าชั้นพอรู้แล้วล่ะว่าเซเวอรัสมีธุระอะไรกับพวกเรา"

    "งั้นเหรอ!? อะไรล่ะ!" ลูเซียสเลิกคิ้ว

    "เค้าอยากได้คนที่คิดเลขเก่งๆ กับคนที่ชำนาญการร่ายเวทย์แบบฉับพลันมาช่วย แต่พอดีว่านี่เป็นเรื่องลับก็เลยเรียกเรามาไง"

    "แล้วจะพาเราเข้าเรื่องบาซิลิสซ์ก่อนทำไม" ลูเซียสตั้งคำถาม เซเวอรัสเปิดหนังสือให้ดู

    "ให้ชั้นเอาหลอดฟูลออเรสเซนส์มาติดให้ดีมั้ย" ลูเครเซียถามหลังจากเห็นลูเซียสเพ่งมองอย่างยากลำบากในความมืด

    ...มีสัตว์บางชนิดที่ไม่สามารถนำเข้าเขตอาคมของฮอกวอร์ตได้ หนึ่งในนั้นคือบาซิลิสซ์...!

    "เข้าใจล่ะ! การที่บาซิลิสซ์สามารถผ่านออกมาทำร้ายผู้คนได้เพราะมันใครทำอะไรบางอย่างกับอาคมก่อนสินะ" ลูเซียสเข้าใจในที่สุด "แล้วนายต้องการให้พวกเราช่วยให้อาคมคืนสภาพเดิมเหรอ"

    "ใช่... อย่างน้อยที่สุดถ้าเราทำสำเร็จเราอาจจะทำให้บาซิลิสซ์ไมสามารถขึ้นมาทำร้ายใครได้อีก"

    "แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่"

    "คืนนี้เลย"

    ...ดูมัน คิดจะทำอะไรก็ทำ...!

     

     

     


    หลังจากขลุกอยู่กับเวทมนตร์ในหนังสือ ในที่สุดสามสหายก็มาถึงจุดเจ้าปัญหา เซเวอรัสร่ายเวทย์แล้วทำให้ข่ายอาคมสั่นสะเทือน... ตอนนั้นเอง ปรากฏอักขระรูนจำนวนมากขึ้นมา... มันคือจำนวน.. แน่นอนว่ามันให้รวมจำนวนทั้งหมดภายสิบสามนาที แล้วจึงจะสามารถเข้าไปจัดการกับเขตอาคมได้ แต่ลูเซียสไม่สามารถบวกเลขอย่างอ้อยอิ่งได้ เพราะมันไม่ได้มีมนตร์ล๊อคแค่จุดเดียวแน่! เวลาสิบสามนาทีจริงไม่ใช่เวลาที่มาก ลูเซียสจัดการบวกเลขอย่างรวดเร็ว และให้น้องสาวป้อนรหัสด้วยเวทมนตร์

    "ช่วยเร็วกว่านี้หน่อยลูเซียส" เซเวอรัสพูดหลังจากทำไปได้สี่ข้อ "เรามีโจทย์ที่ต้องแก้หนึ่งร้อยข้อและห้ามผิดแม้แต่ข้อเดียว"

    ทำไมมาบอกตอนนี้วะ! แล้วลูเซียสก็เร่งสปีดขึ้น

    จากนั้นก็เจอโจทย์ใหม่ๆ ให้แก้อีกโดยเพิ่มจากบวกอย่างเดียวเป็นอย่างอื่นด้วย แล้วลูเซียสก็ได้ทำหมดทั้งบวก-ลบ-คูณ-หาร

    จากสิบสามนาทีเหลือสองนาที ลูเซียสทำโจทย์ติดต่อกันมาแปดสิบสองข้อโดยไม่หยุดพัก! แล้วมันก็ยังไม่หมด!? แถมมันยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีทั้งยกกำลัง-ถอดราก-หาค่าพาย ไปจนถึงคำนวนองศา!?!

    ลูเซียสเริ่มเกลียดเซเวอรัส เรวิล ฮัฟเฟิลพัฟเพราะการตั้งโจทย์ที่ไม่รู้จะยากไปไหน!

    "เร็วเข้าลูเซียส! มีเวลาให้ทำอีกสี่สิบวินาที!" เซเวอรัสเริ่มเชียร์หลังจากลูเซียสแก้โจทย์ติดต่อกันเก้าสิบสามข้อโดยไม่หยุดและเริ่มปวดหัวตุบๆ นี่มันยังเหลืออีกเยอะมั้ยเนี่ย!?

    "ห้ามผิดนะพี่ชาย! ไม่งั้นเราต้องมานั่งทำกันใหม่แต่ต้น!" ลูเครเซียสำทับ

    แง! ยัยน้องบ้า! ลองมาเป็นชั้นดูบ้างสิฟะ!

    โจทย์ข้อที่หนึ่งร้อย! กับเวลาห้าวินาที! ลูเซียสคิดโดยให้วิธีกวาดตามองอย่างเดียวเพราะไม่มีเวลาคำนวน! พื้นที่ของห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีรีนก็คือ!?

    "แปดสิบเอ็ดตารางเมตร!" ลูเซียสตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับเลือดกำเดาที่หยดย้อยออกจากจมูก ลูเครเซียยิงคำตอบทันที

    ข่ายอาคมถูกคลี่คลาย... ลูเซียสล้มลงสลบเหมือดกับพื้น....

    ..................................................................

    ..............................................

    ...........................

    ตลกเกินไปแล้ว...

    เค้าคิดว่าเค้าเห็นลิลี่!?

    เพื่อนที่ตายจากไปนานแสนนานกำลังโบกมือให้เค้าในแสงสลัว... เค้าตายแล้วเหรอ!?

    แต่เมื่อจะเดินไปหา มันกลับหายไป!?

    ลูเซียสรู้สึกเหมือนหลงทางอยู่ในความมืด

    แต่แล้วก็มีแสงสว่าง... เค้าหันไปมอง... แม้ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่รู้สึกโหยหาเธอเหลือเกิน โหยหาผู้หญิงตรงหน้า...

    เธอมีดวงตาสีฟ้า ผมสีบลอนด์เกือบจะเป็นสีขาว หยิกสลวยเป็นคลื่น เหมือนผมของลูเครเซีย... น่าแปลก ใบหน้าของเธอดูคล้ายนาซิสซา แต่ไม่ใช่นาซิสซา

    ลอยยิ้มของเธอติดตาตรึงใจอย่างประหลาด....

    เธอเป็นใคร!?

    "นี่คือแม่ของเธอ"

    กับเสียงที่ไพเราะ... ลูเซียสหันขวับและพบอาเทน่า ทำไมอาเทน่ามาอยู่นี่!? เธอตายแล้วไม่ใช่เหรอ!?

    "แม่ผมเหรอ"

    "ผู้ชายมักเลือกผู้หญิงที่มีพิมพ์เหมือนแม่... ลูเซียส, นั่นคืออะโพดิตี้, แม่ของเธอ แม่ของลูเครเซีย"

    ลูเซียสตะลึง... เค้าเห็นพ่อ แต่เค้าไม่เคยรู้จักแม่เลย

    ลูเครเซียก็ไม่เคยเห็นแม่เหมือนกัน... ทำไม!?

    ทำไมแม่ทิ้งผมกับน้อง!?

    กับน้ำตาที่คลอ... การเป็นผู้นำตระกูลมัลฟอยมันเป็นสิ่งไร้ค่า... ผมไม่เคยต้องการมัน มันอยากให้แม่พาผมไปด้วย อยากให้เราสี่คนอยู่ด้วยกัน แล้วแม่กลับทิ้งผม

    แม่ทิ้งผมทำไม!?

    "หล่อนไม่ได้ทิ้งเธอ"

    ลูเซียสชะงักกับคำพูดที่เหมือนล่วงรู้ความในใจ... หันไปมองอาเทน่า น้ำตานองหน้า

    ลูเซียสไม่ใช่ลูเซียสอีกแล้ว แต่กลายเป็นเด็กเล็กๆ คนหนึ่ง!

    "ไม่ได้ทิ้ง" ทวนคำด้วยความรู้สึกวาบหวิว

    "ไม่ได้ทิ้ง... แต่จำเป็นต้องนำไปให้ตระกูลมัลฟอยเลี้ยง แม่ของเธอไม่ได้จากเธอไปเพราะไม่รักลูก แต่เพราะรักมากจึงต้องนำไปให้  เป็นความจำเป็นของแม่ที่อยากให้ลูกมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะในสภาพไหนก็อยากให้มีชีวิตอยู่ อย่างแข็งแรง อย่างปลอดภัย"

    "แม่..."

    "ตอนนี้" อาเทน่าจับไหล่เด็กชาย "ได้เวลาแล้วที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันห่างหายของแม่กับลูกชาย"

    กับอ้อมแขนที่อ้ากว้าง... ลูเซียสเดินเข้าไปหา ถูกโอบไว้ด้วยอ้อมแขนที่อบอุ่น อบอวนด้วยความหวานอันแสนคิดถึง วินาทีนั้นราวกับจะรื้อฟื้นความทรงจำในวัยเยาว์กลับคือมา

    เด็กชายผละออกอย่างเจ็บปวด

    "ลูเซียส?"

    "ผมทำไมได้... ผมสกปรกเกินกว่าจะกอดแม่ ผมเป็นผู้เสพความตาย ไม่มีใครให้อภัยผมได้หรอก"

    "ลูเซียส!!" กับเสียงที่ดังก้อง แล้วจิตใจก็ล่องลอย

    ..........................................................

    .....................................

    ......................

    .............

    "ลูเซียส!"

    ลูเซียสลืมตา เห็นเซเวอรัส เห็นลูเครเซีย...

    น้ำตาไหลพราก อาลัยความฝันจนไม่รู้จะทำไง ได้แต่ดึงทั้งคู่ลงมากอด แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับความอบอุ่นที่ได้รับจากแม่...

    ไม่มีอะไรแทนแม่ได้จริงๆ

     

     

     

    "ลูเซียส..."

    "หือ" ชายผมสีเงินตอบหลังหลับมาพักใหญ่

    "พี่ฝันเห็นแม่เหรอ"

    "รู้ได้ไง!?"

    "ตอนที่ชั้นกับเซเวอรัสจัดการกับรากเอลเดอร์ด้วยกัน ชั้นก็เห็นแม่ ในภวังค์ ชั้นเห็นแม่แค่คนเดียว ชั้นกลายเป็นเด็กแล้วเข้าไปกอดแม่ แม่อบอุ่นมากเลย"

    "ชั้นก็เหมือนกัน... กลายเป็นเด็กแล้วเข้าไปกอดแม่"

    "เห็นป้าอาเทน่าด้วยใช่มั้ย"

    "ใช่"

    "เหมือนกันเลย... เพราะเราเป็นวิญญาณดวงเดียวกันสินะ"

    ลูเซียสมองน้อง... เราเป็นวิญญาณดวงเดียวกันเหรอ จริงสิ! เกือบลืมไปแล้ว....

    เราเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสายสัมพันธ์ของแฝดทางวิญญาณ

    "ลูเซียส" น้องสาวพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน

    "ว่าไง"

    "ถ้าชั้นกับนาซิสซาตกหน้าผาพร้อมกับพี่จะช่วยใคร"

    "คงต้องช่วยนาซิสซาก่อน"

    ลูเครเซียยิ้ม "ดีแล้วล่ะ"

    "แต่อย่าเข้าใจผิดนะ ชั้นทำแบบนั้นเพราะเธอเก่งกว่า ยังไงก็ต้องรักษาตัวรอดได้!" ลูเซียสกังวลกับความรู้สึกของน้องสาวขึ้นมาทันที เมื่อเธอมองมาทางเค้า "แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ชั้นต้องรีบไปช่วยอยู่แล้ว!"

    "ไม่ต้องก็ได้"

    "ชั้นจะทำ!" ลูเซียสจริงจัง รู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก "ชั้นสัญญา!"

    "ชั้นหมายถึง ต้องเลือกช่วยคนเดียว อีกคนปล่อยให้ตายน่ะ"

    "แล้วทำไมโจทย์ต้องเป็นแบบนั้นล่ะ!"

    "เพราะ..."

    "ทำไม!?"

    "เพราะ..." ลูเครเซียหันหน้าหนี ไม่สามารถพูดได้...

    ชั้นรู้ว่าระหว่างเราสองคน ถ้าวันนั้นมาถึง ต้องมีคนหนึ่งตาย... พี่ชายคะ... ชั้นไม่มีใครสำคัญมากพอที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่มีพี่ได้ เพราะงั้นหากต้องเลือก ชั้นยอมตายเพื่อให้พี่อยู่... ที่ถามแบบนี้อย่างน้อยก็จะได้วางใจว่าพี่จะอยู่ จะไม่ตายตามชั้น!

    "ถ้าโจทย์เป็นแบบนั้น... หลังจากช่วยนาซิสซาแล้ว ชั้นจะกระโดดลงไปตายข้างๆ ศพเธอ"

    "ลูเซียส!?"

    "ชั้นพูดจริงๆ นะ!"

    สองพี่น้องมองหน้ากัน ใบหน้าที่เหมือนกันราวกับเป็นเวอร์ชั่นเพศชาย-หญิงของอีกฝ่ายมีน้ำตาคลอทั้งคู่ แล้วไหลออกมาพร้อมกันอย่างอิสระ ก่อนจะกอดกันแนบแน่น

    "งั้นชั้นขอ..." ลูเครเซียเรียกร้อง "ถ้าชั้นตายพี่ห้ามตายตาม! ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อมีความสุขในส่วนของชั้นด้วยเข้าใจมั้ย!"

    "ชั้นไม่--"

    "สัญญาสิเจ้าพี่บ้า!!"

    "จ้าๆ สัญญาก็ได้!"

    "ห้ามคืนคำด้วยนะตาบ้า!"

    "รู้แล้วๆ ไม่คืนคำหรอก!"

    เซเวอรัสที่ยืนฟังอยู่ข้างนอกถอนใจ แล้วเดินจากไปเงียบๆ

     

     

     

    "เซเวอรัส! ขอเข้าไปหน่อย!"

    "เข้ามาเลยลูเซียส"

    ลูเซียสเดินเข้ามาแล้วนั่งลงในความมืด... ก่อนจะพูดเบาๆ "ชั้นปล่อยมันไปแล้ว"

    "ด๊อบบี้เหรอ"

    "อืม..."

    "มันรู้มั้ย"

    "มันคิดว่าคนที่ปล่อยมันคือแฮร์รี่ พอตเตอร์"

    เซเวอรัสยิ้มจางๆ "นายเป็นคนใจดีนะลูเซียส ถ้าเจ้าเอลฝ์นั่นรู้คงไม่อยากไปจากนายตลอดชีวิตแน่"

    "ให้มันไปเถอะ... ชั้นไม่อยากเล่นละครอีกแล้ว..."

    "ความดีทั้งหมดจะไปตกที่พอตเตอร์"

    "ให้มันไปเถอะ ยังไงแฮร์รี่มันก็หลานชั้น... อีกอย่าง มันเขินนะที่จะทำตัวเป็นคนน่ารัก สลิธีรีนคนไหนทำตัวแบบนั้นจะถูกคนอื่นหาว่าเป็นพวกตอแหลทุกคน นายก็รู้นี่"

    นั่นสินะ.... สลิธีรีนมักถูกมองว่าไม่ดีอยู่แล้ว เพราะงั้นเรกูรัสที่ทำตัวเป็นคนดีจริงๆ ถึงได้...

    "ไม่มีสลิธีรีนคนไหนจะเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ได้เหมือนโลกิหรอกนะ"

    "เอ๊ะ...?"

    "ไม่มีอะไรหรอก" ลูเซียสรีบพูด "ว่าแต่... ดัมเบิลดอร์ไม่รู้ใช่มั้ยเรื่องที่ชั้นพาลูเครเซีย..."

    "ดัมเบิลดอร์ไม่ใช่พระเจ้า เค้าไม่รู้ทุกอย่างหรอกนะ"

    "นั่นสินะ..."

    ทั้งคู่หัวเราะพร้อมๆ กัน

    "นายไม่มีอะไรจะฝอยให้ชั้นฟังบ้างเหรอ"

    "ก็... กิลเดอรอย ล๊อคฮาร์ท ไปจากฮอกวอร์ตแล้ว ไม้กายสิทธิ์ของวิสลี่ย์ทำผิดน่ะ"

    "มิน่า ดูอารมณ์ดีเป็นบ้าเลยนะ"

    "ก็จริงๆ เค้ากวนชั้นมากเกินไปแล้ว"

    "แล้วนายคิดจะกลับบ้านมั้ย"

    "กลับสิ... จะให้ชั้นไปนอนโรงแรมรึไง"

    "ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะตบตีนายก็ได้น่ะเหรอ"

    "นั่นพ่อชั้นนะ... อีกอย่าง ทำไมเราจะต้องหลบหนีด้วย ทำไมไม่เผชิญหน้ากับมัน ตายก็ตาย อยู่ก็อยู่ ดีกว่ามั้ย"

    "เข้มแข็งจนน่าประทับใจเลยนะ"

    "ลูเซียสก็เข้มแข็งเหมือนกัน... ไม่มีใครทุ่มเทเพื่อชั้นได้มากเท่านายมาก่อนเลยนะ ตอนนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนที่นายถูกพ่อทุบตีแต่ก็ไม่โต้ตอบเพราะเห็นแก่ชั้น" เซเวอรัสถอนใจ "ไม่รู้ว่าจะมีใครทำเรื่องแบบนี้ได้บ้าง"

    "ว่าแล้วชั้นก็ต้องไปโลกมักเกิ้ลบ้างแล้วสินะ เพราะนาซิสซาเธออยากดื่มโคล่าน่ะ"

    "โอเค... เดรโกรู้จะรับได้มั้ยเนี่ยว่าแม่เค้าอยากดื่มน้ำอัดลม"

    "นั่นสินะ... ว่าแต่... เซเวอรัส..."

    "ว่าไง"

    "ถ้านายเดรโกกับแฮร์รี่อยู่ในอันตรายถึงชีวิต... ต้องเลือกช่วยได้คนเดียว นายจะช่วยใคร"

    "...ก็จะลองทำดู"

    "ทำอะไร...?"

    "ทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ทั้งคู่รอดชีวิตไง"

    วินาทีนั้นลูเซียสหัวเราะสุดเสียง ก่อนจะค่อยๆ เบาลงจนกลายเป็นการสะอื้นไห้ จนเซเวอรัสตกใจทำอะไรไม่ถูก... นั่นสินะ แทนที่จะตอบทันทีว่าจะเลือกใคร น่าจะลองคิดถึงความจริงหน่อยว่า เวลานั้นเราทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้ทั้งคู่รอด ในเมื่อทั้งคู่ก็คือคนที่เรารักมากๆ เหมือนกัน

    การปลอบโยนของเซเวอรัสแทบไม่มีความสำคัญ... เมื่อเทียบกับคำตอบที่เค้าได้จากเซเวอรัส...

    บางที... เมฆหมอกแห่งฝันร้ายก็อาจสามารถเคลื่อนผ่านไปได้โดยไม่ต้องรอวีรบุรุษ...

     

     


    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×