ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #19 : ดอกไม้ที่หายสาปสูญ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 349
      7
      2 ส.ค. 55

    เมฆหมอกอาจจะผ่านพ้นไปโดยไม่รอวีรบุรุษ...

    แล้ววีรบุรุษ์มันคืออะไรกันล่ะ...!?

    ในสงครามมันแตกต่างจากปีศาจตรงไหน?

    ลูเซียสนั่งหาวหวอดๆ ขณะที่นาซิสซาหน้าตาบิดเบี้ยวหลังจากสูบน้ำโคล่าเย็นเฉียบเข้าไปรวดเดียวครึ่งแก้ว "ว้าย! ปวดหัวจัง!" เธอร้องอย่างมีความสุขที่สุดหลังจากกลืนมันลงคอ

    "อย่าทำเป็นเล่น ที่รัก น้ำชนิดนี้มันเป็นกรดสูงมาก... เซเวอรัสเคยบอกชั้นว่า ถ้าเอาเนื้อดิบใส่มันจะสุกในพริบตา และถ้าปล่อยไว้สามวันติดกัน เนื้อที่ว่าก็จะถูกย่อยสลายหายไป เพราะฉะนั้นกินอะไรเข้าไปก็สงสารท้องตัวเองบ้าง" ลูเซียสพูดแบบไม่สบอารมณ์

    "จ้า... สามี, แต่ชั้นก็เคยได้ยินลิลี่พูดเหมือนกันว่าในท้องเราก็มีสารป้องกันไม่ให้กรดย่อยกระเพาะตัวเองเหมือนกัน ไม่งั้นเวลาย่อยอาหารน้ำย่อยก็คงย่อยท้องเราจนหมดแล้วล่ะ" นาซิสซาหัวเราะชอบใจ "คำถาม... เราจะขึ้นไปบนนั้นมั้ย" เธอพูดพลางชี้ไปที่รถไฟเหาะตีลังกา "ได้ยินว่ามันน่ากลัวมากกว่าไม้กวาด เพราะไม้กวาดเราควบคุมมันตามใจชอบ แต่ไอ้เจ้านั่น มันควบคุมเรา!"

    ลูเซียสหันไปหาเซเวอรัสที่นิ่งสงบราวกับบาทหลวงที่ปฏิญาณอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะอยู่อย่างเงียบๆ หลังจากลงมาจากแก้วกาแฟหมุนได้ ก่อนจะตอบอย่างจริงจัง "ชั้นว่าเราไม่พร้อม เพราะไกด์ของเราไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะปฏิบัติภารกิจ"

    โดยสัตย์จริงเซเวอรัสไม่ก็คุ้นกับเครื่องเล่นมักเกิ้ลเช่นกัน และนี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาหลังจากลูเครเซียได้ตั๋วฟรีมาสามใบแต่ติดธุระมาไม่ได้เลยให้เซเวอรัสแทน และเดรโกก็ไม่มีวันได้รับอนุญาตจากเบริฟรอทหรือบรูตัสให้มาที่โลกมักเกิ้ล ลาภลอยจึงตกอยู่ที่ลูเซียสและนาซิสซาที่มาเดทกันที่สวนสนุกดิสนี่ย์แลนด์โดยมีเซเวอรัสเป็นตัวแถม

    "ชั้นอยากลองนั่งไอ้นั่นดูจัง!" นาซิสซาชี้ไปที่ชิงช้าสวรรค์

    "ท่าทางมันช้านะ เซเวอรัส ไหวมั้ย" ลูเซียสดูเป็นห่วงเพื่อนมาก

    เซเวอรัสไม่ตอบ อยู่ในภาวะที่ราวกับแม่ชีในมูลนิธิการกุศลที่สาบานตนว่าจะอยู่ในความเงียบ...

    "ชั้นว่าเราไม่ต้องถามเค้าหรอก ลากเค้าขึ้นไปเลยดีกว่า" ลูเซียสสรุป

    "ได้โปรดเถอะ เซวี เธอเกิดและโตในโลกมักเกิ้ล ไม่เคยเล่นเครื่องเล่นพวกนี้จริงเหรอ!?" นาซิสซาคราง

    "พูดยังก่ะเค้าสามารถไปไหนได้นอกจากฮอกวอร์ต ตรอกไดแอก้อน และหน้าปากซอยบ้านตัวเอง" ลูเซียสพูดอย่างจริงจัง ว่าแล้วสองผัวเมียก็ช่วยกันลากเซเวอรัสไปที่ชิงช้าสวรรค์เหมือนลากแมวลงอ่างน้ำ

    "ว้าวววว! พวกมักเกิ้ลนี่ก็เข้าใจเล่นแฮะ!" นาซิสซาพูดอย่างมีความสุขหลังจากได้เห็นทั้งหมดของสวนสนุกจากมุมสูง

    ลูเซียสรู้สึกสบายใจ เช่นเดียวกับเซเวอรัสที่ดูจะใจชื่นขึ้นบ้างก่อนจะเหลือบไปเห็นบางสิ่ง!?

    ที่กระเช้าที่พวกเค้าสามคนนั่ง มันไม่ได้ถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ขนาดใหญ่เหมือนอย่างกระเช้าอื่น แต่มันเหมือนใช้ลวดผูกไว้แก้ขัดไปก่อน นั่นทำให้ทำให้ใจหวิวอย่างประหลาด กูว่าแล้ว! เมื่อกี้มันแกว่งแปลกๆ!? และเมื่อเห็นของแบบนั้นกับตาแล้ว ไอ้ที่แกว่งตามปกติก็เหมือนจะแกว่งหนักกว่าเดิมในความรู้สึก... ลูเซียสเกาะลูกกรงด้านข้างไว้แน่นราวกับจะกลัวตก

    เซเวอรัสและนาซิสซาหันมามองท่าทางของลูเซียสผู้ที่ดูเหมือนจะลืมไปว่าตัวเองเป็นพ่อมด พยายามถามสาเหตุของอาการสั่นเทา ก่อนจะมองตามสายตาของลูเซียสไปเห็นของแบบเดียวกัน "เฮ้ย! อย่าทำแบบนี้นะ!" เซเวอรัสสะอึก แล้วรีบเกาะลูกกรงอีกข้างพร้อมๆ กับนาซิสซา ไม่มีใครมีสติพอจะนึกออกเลยว่าควรชักไม้กายสิทธิ์ออกมาเตรียมไว้ก่อน

    เมื่อกระเช้าลงถึงด้านล่าง ทั้งสามรีบตะกายออกจากชิงช้าสวรรค์ทั้งๆ ที่มันยังไม่ทันหยุด!

     

     

     

    หัวสามหัวชนกันสามมุม คนสามคนนอนเหยียดยาว ลูเซียสรู้ดีว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวแถมจริงๆ เพราะเค้าแก่กว่าสองคนนี้หกปี จริงๆ แล้วที่ตรงนี้เป็นของเด็กสามคนที่เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกันต่างหาก ลิลี่ นาซิสซา และ เซเวอรัส แน่นอนว่าการมีแค่เค้ากับนาซิสซาเป็นเรื่องธรรมดาเพราะพวกเค้าคือครอบครัว แต่เมื่อมีเซเวอรัสมาอยู่ด้วย มันกลายเป็นเรื่องของเพื่อน และแน่นอนว่าถ้าลูเซียสไม่มาอยู่ในตำแหน่งนี้ นาซิสซากับเซเวอรัสจะรู้สึกถึงช่องว่างขนาดใหญ่ที่หายไปและไม่อาจจะอยู่อย่างสนุกได้

    บางครั้งเค้าก็แค้นใจโชคชะตา! แค้นใจจอมมารที่ฆ่าลิลี่! แค้นใจตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย!

    เค้าอ่อนแอเกินไปสำหรับการปกป้องคนสำคัญงั้นสินะ!?

    "ลูเซียส ไปไหนเหรอ" นาซิสซาถามเมื่อเห็นสามียันตัวลุกขึ้น

    "ชั้นจะไปซื้อแซนวิสมาให้ นี่เย็นแล้วนะ"

    "งั้นฝากด้วย" สองคนพูดพร้อมกัน

    "เอาอะไรดีล่ะ"

    "แซนวิชอเมริกัน(เบอร์เกอร์)สองอัน" นาซิสซาสั่ง "เอาโคล่ามาด้วย

    "ครัวซองแซนวิชครับ น้ำส้มด้วย ขอบคุณ" เซเวอรัสเอาบ้าง

    ลูเซียสเดินออกไป

    เพียงแต่วันนั้น มีอะไรบางอย่างที่เค้าต้องตะลึง...!

    ลูเซียสมองเห็นเด็กสองคน ฝาแฝด อายุเท่ากับเดรโก-ลูกชายของเค้า เด็กแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทั้งทรงผม สีผม สีตา สีผิว ต่างกันแค่อย่างเดียว คือเสื้อผ้า คนหนึ่งใส่กางเกงส่วนอีกคนใส่กระโปรง เด็กชายกับเด็กหญิงเหรอ!?

    ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้านั่นมัน... ใบหน้าของซิเรียส แบล็กตอนเป็นเด็กชัดๆ!

    แต่ยังจะมีเด็กที่เหมือนซิเรียส แบล็ก แถมเป็นเด็กแฝดมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรกัน! แล้วมันก็ทำให้เค้านึกได้... ป้าของเค้ามีลูกแฝด! เด็กสองคนนั้น-เป็นลูกพี่ลูกน้องของเค้าที่เกิดจากพี่สาวของพ่อกับซิเรียส แบล็ก!?

    วินาทีนั้น ลูเซียสวิ่งเข้าไปแล้วตะโกนสุดเสีย

    "อะพอลโล่! อาร์เทมีส!"

    เด็กสองคนหันขวับมา... นาทีนี้เค้าแน่ใจว่าเค้าไม่พลาด เพราะถ้าไม่ใช่ เด็กสองคนนี้จะไม่หันมาแน่นอน!

    วินาทีนั้น บางสิ่งพุ่งผ่านเค้าไป!

    ........................................

    ..............................................................

    ..............................................

    เสียงคิกคักของเด็กผู้หญิงดังข้างๆ หู

    ลูเซียสลืมตาและยันตัวลุกขึ้น... ตรงหน้าเค้าคือเด็กผู้หญิงสี่คน... คนหนึ่งเหมือนกับเจมส์ หรืออาจจะแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะที่ขมับซ้ายมีรอยแผลเป็นที่ดูหน้ากลัว ทำให้ลูเซียสเปรียบเทียบเธอกับแฮร์รี่มากกว่าเจมส์ แต่หน้าตาของเด็กคนนี้ดูหวานกว่าและเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจน ผมของหล่อนยุ่งเหยิงชี้ไปทุกทิศทุกทาง แต่เมื่อมองข้างหลังจะเห็นผมเปียเล็กๆ ที่ยาวจนถึงกลางหลัง ตาฟ้าที่ส่องประกายผ่านกรอบแว่น เธอดูน่ารักมากแม้จะมีตำหนิ(แผลเป็น)  จากเด็กผู้หญิงสวมแว่น  เค้าเห็นเด็กผู้หญิงอีกคนที่ดูราวกับภาพของเซเวอรัสในวัยเด็ก แต่มีข้อผิดพลาดที่จงใจทำให้เกิดความแตกต่าง นั่นคือจมูกของหล่อนที่เป็นสันคมสวยงาม แต่ทุกอย่างเหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน เด็กผู้หญิงคนที่สาม--คล้ายรีมัส ลูปิน แต่ลูเซียสไม่สนใจรายละเอียดอีกแล้ว เค้าหยุดที่เด็กผู้หญิงคนที่สี่

    ราวกับโหยหาเธอมาชั่วชีวิต เธอมีผมสีบลอนซ์เกือบจะขาว หยิกสลวยเป็นคลื่นเหมือนลูเครเซีย ตาสีน้ำเงินเข้มเหมือนกับไพลิน ใบหน้าของเธอคล้ายกับนาซิสซา ผู้หญิงที่เค้าเลือกเป็นภรรยา

    "ตกลง... เธอคิดยังไงกับกับการที่รุ่นพี่ริดเดิ้ลขอเธอเป็นเจ้าสาว" เสียงสนทนาหยุดความสนใจของลูเซียสต่อเด็กผู้หญิงตรงหน้า เค้าหันไปมองเด็กผู้หญิงที่เหมือนลูปิน "แถมมาขอกับพ่อเธอด้วย"

    "อันที่จริงเค้าก็เป็นคนที่น่ารัก แถมสนิทกับพ่อ แต่ว่า พ่อคงไม่ยกชั้นให้เค้าหรอก เห็นบอกว่า... เค้าดูจะขาดความเป็นมนุษย์และไม่เรียนรู้ที่จะรัก... อะไรทำนองนั้น" เด็กสาวที่เหมอนเซเวอรัสตอบ

    "ความจริง.. เธอไม่ต้องการการแต่งงานหรอกไอลีน" เด็กผู้หญิงที่เหมือนแฮร์รี่พูด "เจ้าชายน่ะไม่ต้องการสามีหรอก"

    "มันก็จริง!" ไอลีนว่า ก่อนจะกระโดดลงจากที่นั่งคนดูไปที่สนาม แล้วเดินเข้าไปหากลุ่มนักฟุตบอลที่กำลังคุยกัน แต่ไม่ได้คุยกับพวกเค้า เธอหยิบลูกบอลขึ้นอย่างถือวิสาสะ แล้วเริ่มเดาะบอล "ถ้าไม่ติดว่าชั้นเป็นผู้นำตระกูลต่อจากพ่อก็ไม่คิดจะหาสามีหรอก"

    ความเก่งในกีฬาของหล่อนมันมากจริงๆ! คราวนี้ทุกสายตาจ้องมองดูไอลีน พริ้นซ์ เดาะบอลแบบไม่วางตา เธอต่างจากลูกชายของเธออย่างฟ้ากับเหว เซเวอรัสไม่มีความสามารถในกีฬาแม้แต่อย่างเดียว แต่ไอลีนได้ความเก่งจากพ่อ แล้วไม่คิดจะเผื่อแผ่มาหาลูกบ้าง ไอลีนเตะลูกบอลลงตระกร้าอย่างสวยงาม ทำให้ลูเซียสที่มองตามลูกบอลไปสังเกตเห็นชายหนุ่มที่นั่งตรงนั้นด้วย ดูคล้ายลิลี่อย่างน่าประหลาด แต่ไม่มีทางเกี่ยวพันธ์ทางสายเลือดใดๆ กับลิลี่แน่ๆ เพราะเค้าจำคิ้วและจมูกนั่นได้ชัด นั่นคือโทไบอัส สเนป!

    จากท่าทางของสเนป-เจ้าหนุ่มรูปหล่อแต่ดูไร้น้ำยา และ ไอลีน พริ้นซ์ เจ้าชายสำหรับนักเรียนฮอกวอร์ตทุกคน พวกเค้าพบกันที่นี่เหรอ!? แล้วทำไมพวกเค้ามาลงเอยที่การแต่งงานกันได้!? ลูเซียสจับต้นชนปลายไม่ถูกจริงๆ

    จนกระทั่งการแข่งฟุตบอลเสร็จสิ้น สเนปเดินเข้ามาพูดกับไอลีนที่กำลังจะกลับพร้อมๆ กับเพื่อน

    "เธอ... มาเป็นแบบวาดรูปให้ชั้นหน่อยได้มั้ย"

    เฮ้ย..! ทื่อๆ แบบนี้เลยเหรอ!?

    ภาพรอบๆ ตัวเปลี่ยนไป ไอลีนกำลังเป็นแบบให้สเนปวาดรูปจริงๆ และเขาวาดรูปเธอ ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกปลายผู้กัน เส้นสี และทำให้สาวน้อยรอบๆดูตื่นเต้นกับผลงานของมักเกิ้ลหนุ่ม ลูเซียสรู้ชัดว่าสเนปเป็นคนร่ำรวยจากบ้านและห้องของเขา แต่อะไรบางอย่างได้ผลักดันให้เขาไปอยู่อย่างน่าสังเวชที่ตรอกช่างปั่นฝ้าย

    ทำไมล่ะ!?

    คำตอบได้อย่างรวดเร็วเมื่อเด็กสาวทั้งหมดจากไป และมีผู้หญิงท่าทางสูงศักดิ์ปรากฏตัวเข้ามาในห้อง คู่หมั้นของโทไบอัส สเนป ความรักใคร่ชอบพอที่เธอมีต่อเค้าปรากฏชัด ก่อนจะเห็นความโกรธสุดขีดตามมาเมื่อเห็นภาพวาดที่เต็มไปด้วยความรักและความโหยหา "เลวที่สุด! ชั้นด้อยกว่าแม่นี่ตรงไหน!?" หล่อนกรีดร้องอย่างเหลืออดแล้ววิ่งจากไป

    ทั้งหมดชัดเจนมาก... ลูเซียสเข้าใจโดยไม่ต้องใช้เวลา...

    สเนปรักไอลีน แต่ไม่ใช่แบบที่เค้ารักนาซิสซา!

    ไอลีนคือตัวแทนของแสงสว่าง ความหวังและอิสระภาพ เค้าประทับใจในความสดใสของเธอ เค้าเลือกเธอเป็นเป้าหมายของเค้า และไม่รู้ว่าโดยวิธีการใด เค้าได้เธอมา แต่นั่นทำให้ลูเซียสโกรธจนอึดอัด

    โทไบอัส สเนปทำลายความสว่างไสวของไอลีนแล้วผลักเธอลงสู่ความมืดและความขมขื่นของเค้า แน่นอนว่าไอลีนไม่สามารถหนีจากมันได้ เธออาจจะมีความมั่นใจและความภาคภูมิ แต่มันไม่เหมือนกัน เมื่อเธอมีภาพของพ่อเธอเป็นแบบอย่างและทำให้เธอไม่เชื่อว่าเธอจะได้รับความเจ็บปวดจากผู้ชายที่เป็นคู่ชีวิต เธอคงทำอะไรไม่ถูกเมื่อมันเกิดขึ้น

    ไอลีนคือตัวแทนของแสงสว่างและอิสระภาพ ทีแรกโทไบอัสคงคิดว่าตนสามารถที่จะมีความสุขบริบูรณ์ได้ขอแค่มีหล่อน แต่มันไม่ใช่ คุณชายและคุณหนูสูงศักดิ์ที่ไม่รู้จักความยากลำบากแบบบ้านๆ จะสามารถอดกลั้นต่อสภาพที่ต้องสิ้นไร้ไม้ตรอกในสลัมได้แค่ไหนกัน กับค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นเมื่อมีลูกเกิดมา! ความทุกข์สาหัสทำให้เค้าเลือกที่จะผลักความทุกข์ไปที่เมียลูกที่ไม่รู้เรื่องอะไรงั้นเหรอ!? เซเวอรัสที่น่าสงสาร! เค้าทำกับนักเรียนของตัวเองเหมือนที่พ่อทำกับเค้า แม้จะไม่เคยทุบตีแต่เค้าก็ทำร้ายจิตใจของพวกเด็กๆ ไม่แตกต่างจากที่พ่อเค้าทำกับเค้า!

    ........................................

    ......................................................

    ..............................................

    ....................................

     

     

     

    "คุณครับ เป็นไรรึเปล่า"

    ลูเซียสมองไปรอบๆ อย่างตกใจ เมื่อกี้เค้าหลับไปนานแค่ไหน

    "เอ่อ! ผม!"

    "เมื่อกี้คุณวูบ เราเลยประคองคงมาที่ร่มไม้"

    "ขอบคุณครับ" ลูเซียสดึงเอานาฬิกามาตรวจดู ดูเหมือนเค้าจะวูบไปแค่สามนาทีเอง ลูเซียสลุกขึ้นแล้วรีบไปซื้อของกินด้วยความกระวนกระวายใจ และยังต้องทนฟังคำบ่นของภรรยา

    "เซเวอรัสสั่งครัวซองแซนวิสไม่ใช่เหรอ แล้วชั้นก็สั่งเบอร์เกอร์ด้วย แล้วไหงเธอเอาพิซซ่ามาได้ล่ะเนี่ย!?! ที่สำคัญ เอาโคล่ามาทำบ้าอะไรตั้งสี่กระป๋อง เรามีกันสามคนเองนะยะ!!"
    -----------------------------------------

    "พ่อครับ ผมกลับมาแล้ว"

    เงียบ

    "พ่อครับ ผมซื้อไก่อบมาด้วย ทานข้าวรึยังครับ"

    เงียบ

    เซเวอรัสชินแล้วล่ะกับท่าทางแบบนี้ของพ่อตัวเอง เค้าจัดแจงอาหารแล้วเอาไปเสริฟถึงที่พร้อมกับรินเหล้าองุ่นให้เรียบร้อย จากนั้นดึงเอาหนังสือพิมพ์ที่วางบนโต๊ะมาอ่าน ก่อนจะสะดุดกับข่าว "ฆาตรกรแหกคุก" เซเวอรัสอ่านมันอย่างตั้งใจ

    ขณะนี้มีผู้ร้ายแหกคุก... บุรุษที่ท่านเห็นในรูปนี้คือ ซิเรียส แบล็ก เป็นฆาตรกรที่โหดร้ายเลือดเย็น มีอาวุธปืนในมือและเป็นอันตราย ถ้าผู้ใดพบเห็นขอให้อย่าข้องแวะ ให้นึกถึงความปลอดภัยของตนเป็นอันดับแรก ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเอฟบีไอในการค้นหาและจับกุม

    "จดหมายประหลาดๆ มาที่นี่ เสียงเหมือนนายจ้างของแก สั่งแกว่าห้ามไปตามหาฆาตรกรเด็ดขาด"

    "พ่ออ่านจดหมายกัมนาทของผมเหรอ!?"

    "ชั้นต้องอ่านเรอะ มันดังซะขนาดนั้น!" เค้าตะคอกลูกชายเหมือนเคย "ไอ้ซิเรียส แบล็กนี่มันเป็นใครวะ ถึงต้องกลัวว่าแกจะออกไปตามหามัน"

    "แบล็ก.. เป็น.. คนที่ขายลิลี่ให้จอมมาร" เซเวอรัสพูดเสียงแหบ

    "เด็กสาวคนนั้นเหรอ"

    "ครับ... ใช่"

    "เธอตายเพราะหมอนี่"

    "ครับ... ใช่"

    "แกรักหล่อนมาก"

    "ครับ..."

    "แล้วแกอยู่โดยไม่มีหล่อนมาได้ยังไง ทำไมไม่ตายพร้อมกับหล่อนไปเลย" ราวกับดาบแหลม พุ่งแทงหัวใจ วูบหนึ่งหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลหยดลงมา และเมื่อตาสีเขียวเหลือบมาเห็น เค้าก็พูดกับลูกชายแบบขอไปที "ชั้นก็พูดไปงั้นแหละ อย่ามาทำสำออยนักเลยน่า"

    "พ่อไม่ต้องกังวลหรอก เมื่อมันจบแล้ว ผมจะรีบตามเธอไป"

    แล้วสองพ่อลูกก็อยู่ในความเงียบ ไม่พูดอะไรกันอีก

     

     


    ในความมืดของห้อง และกลิ่นจางๆ ของน้ำที่เน่าเสีย

    ฝีเท้าของพ่อเดินผ่านมาที่ประตูห้อง  เซเวอรัสไม่อยากสนใจมัน จนกระทั่งบานประตูเปิดออก แล้วร่างสูงก็เดินผ่านเข้ามา

    วินาทีนั้น! กับความอึดอัดที่กดทับอกเค้า มือที่อุดปากเพื่อไม่ให้เสียงร้องรอดออกมาได้! บางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อสำหรับคนอื่น แต่กับเซเวอรัส- มันไม่เหลืออะไรที่จะมานั่งสงสัยหรือไตร่ถามเหตุผลได้เกิดขึ้นกับเค้าเสียแล้ว

    และเค้ารู้มากไปกว่านั้น มันไม่ใช่เจตนา! ฟังดูเหลือเชื่อแต่มันไม่ใช่เจตนา!

    "ไอลีน... ไอลีน..."

    เสียงครางปนสะอื้นดังก้อง แม้จะเจ็บปวด อับอาย และขมขื่น เซเวอรัสก็ไม่ชักไม่กายสิทธิ์ออกมา

    เพราะมันเป็นแค่ฝันของพ่อ มันไม่ใช่ความจริง...

    ใช่ เมื่อมันเป็นความฝันของพ่อ! มันจะเป็นความจริงได้อย่างไร!?

    ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง...!

    เซเวอรัสรู้ว่าพ่อรักแม่ แม้จะไม่เหมือนที่เค้ารักลิลี่! แต่พ่อรักแม่ไม่ผิดแน่! ส่วนเค้า... ไม่ได้มีค่าอะไรมากไปกว่าตัวแทนของแม่ในยามที่พ่อหลับและของดูต่างหน้าแม่ในยามที่พ่อตื่น!?

    เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง! เพราะไม่ใช่เรื่องจริงเค้าถึงทนได้!?

    อดทนเพราะรักพ่อ! เพราะถ้าไม่รักพ่อก็ไม่เหลือใครอีกแล้วที่เป็นญาติของตนจริงๆ ใช่แล้ว...

    ความรักของเค้า! มันก็แค่ความสิ้นหวังเท่านั้นเอง!!

    เช้าวันนั้น ทุกอย่างถูกพัดผ่านไปราวกับมันเป็นแค่ฝันจริงๆ แต่ชายผู้หนึ่งกับลากสังขารที่บอบช้ำออกไปจากบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูดได้ไปที่โบสถ์

    สำหรับการสารภาพบาป! ต่อบาทหลวงคนเดียวที่สามารถรับฟังเรื่องนี้ได้! คนเดียวเท่านั้น!

    "เมื่อคือนี้ผมมีความสัมพันธ์ต้องห้ามกับพ่อ"

    เสียงที่ดังขึ้นในห้องสารภาพบาปสร้างความเจ็บปวดให้กับคนรับฟังเสมอ "เค้าเจตนารึเปล่า"

    "เปล่า...เค้าละเมอ... เค้าฝันถึงแม่"

    "งั้นคุณก็ไม่ใช่คนบาป แต่เป็นเหยื่อที่ถูกกระทำย่ำยี" เสียงที่อ่อนโยนปลอบโยน "คุณบริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระเจ้า"

    "ไม่... ผมสามารถยกไม้กายสิทธิ์ได้ถ้าผมต้องการ แต่ผมไม่ทำ"

    มือยื่นออกจากห้องข้างๆ มาเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มของเซเวอรัส "คุณไม่กล้าทำลายความสุขของพ่อแม้แต่ในความฝัน! กลับไปเถอะเซเวอรัส! บาปของคุณได้รับการยกโทษให้แล้ว!" บาทหลวงประกาศการให้อภัยโดยไม่ซักต่อด้วยซ้ำ

    "ขอบคุณมากครับหลวงพ่อ... อเล็กซ์!" เซเวอรัสพูดอย่างแผ่วเบา

     

     


    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×