ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Harry Potter]กรง(ฉบับดั้งเดิม/วาย)

    ลำดับตอนที่ #19 : ทุกย่างก้าวอันปวดร้าว(-_-)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.39K
      34
      22 ต.ค. 64

    “..............ตามหาชั้นด้วยสติปัญญาของเธอ.......…”

    เฮอร์ไมโอนี่อ่านข้อความหวัดๆ เบียดๆ ที่สเนปทิ้งไว้ให้เธอซ้ำไปซ้ำมาอย่างว้าวุ่นจนไม่รู้จะทำยังไง  ตอนนี้คนที่พอจะช่วยอะไรพวกเธอได้ก็มีแค่ลูปินเท่านั้น  ส่วนรอนและเนวิลล์ออกตามแฮร์รี่ไปแล้ว  ทำไมถึงยังมีแก่ใจมาเล่นเกมกับเธออีกนะ  แล้วเดรโก ทั้งๆ ที่รู้เต็มอกว่าการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งจะเผาผลาญพลังมากแค่ไหนแท้  ทำไมยังกล้าพาออกไปอีก

    เจ้าชายเลือดผสมเชี่ยวชาญด้านการปรุงยาจนน่าตกใจ  งั้นเค้าน่าจะรู้ว่ายาอะไรเป็นยาอะไรจากการดมกลิ่น  เห็นสีได้มั้ยนะ  จะว่าไปแล้วสเนปเคยเยาะเย้ยน้ำยาของแฮร์รี่ว่าอะไรบ้างนะ...............?

    สเนปไม่ได้ดูน้ำยาของนักเรียนทุกคนตลอดเวลา  แต่เค้าสามารถบอกได้ทุกครั้งว่าใครพลาดอะไรไปบ้าง  เห็นได้ชัดว่าแค่กลิ่นหรือสีเค้าก็สมารถบอกได้ว่ายาอะไรเป็นยาอะไร.............

    แล้วถ้ามีกลิ่นยาติดเสื้อเดรโกไป  แล้วยังยาที่เอาไปให้ดื่มด้วย  สเนปจะสามารถอ่านใจเธอออกได้มั้ยนะว่าเธอกำลังคิดจะปรุงยาอะไร...............?  

    ไม่น่า  แค่นั้นไม่น่าจะรู้

    .........แต่ถ้าสเนปอ่านเธอออกล่ะ  เค้าสอนเธอมาตั้ง 6 ปีเชียวนะ..........

    เด็กสาวรู้สึกถึงหัวใจที่กระทบกับซี่โครง........... ถ้าเค้ารู้  เค้าต้องคาดเดาได้ว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นอีก  ตาเค้ามองเห็น  และสภาพจิตใจที่ถดถอยของเดรโกจะทำให้สเนปพินิจใจเดรโกได้มั้ย............. ถ้าได้  ก็จะรู้ว่าตอนนี้พวกเธอคิดจะทำอะไร  และในฐานะอาจารย์สอนปรุงยาที่เธอยอมรับโดยไร้ความลำเอียงหรืออคติใดๆ วว่าเค้าเก่งที่สุด  เค้าคงรู้ผลของยาที่เธอกำลังจะปรุงโดยไม่อยาก  โอกาสของมันเท่าที่เธอคำนวณ  ไม่น่าเกิน 1 ใน 10

    สเนปไม่คิดจะเสี่ยงกับโอกาสแค่ 10% รึ รึว่าเธอไม่เชี่ยวชาญพอจนให้เค้าต้องมาคำนวณใหม่และได้ขอสรุปว่า ไม่มีโอกาสที่จะสำเร็จ  

    ไม่น่า.......... เธอพลาดขนาดนั้นเลยเหรอ............

    “............เป็นคำตอบที่ลอกมาจากตำรามาตรฐานแทบคำต่อคำเลยนะ.........…”

    เฮอร์ไมโอนี่ทรุดลงอย่างใจหาย  เป็นครั้งแรกที่เธอคิดถึงคำพูดเยาะเย้ยของสเนปในฐานะคำสอนของครู  คนที่คิดประดิฐศาสตร์มืดและสูตรยาสารพัดสูตรได้ด้วยตนเองอย่างสเนป  คงพอใจคำตอบที่ไม่เข้าท่า  แต่ผ่านการกลั่นกรองทางความคิดมาแล้วมากกว่าคำตอบที่ใครๆ ก็หามาได้โดยการอ่านหนังสือและท่องจนขึ้นใจ

    และตอนนี้......... ในฐานะลูกศิษย์  คงไม่สายถ้าเธอจะยึดคำสอนที่ทำให้เธอไม่พอใจมาตลอดเอาไว้..........

    คนเรา........... ถ้าคิดว่าตัวเองมีโอกาสตายมากกว่าอยู่  เค้าจะทำอะไรกันนะ........... แน่นอนว่าไม่ใช่การทิ้งความหวังสุดท้ายแน่ๆ สเนปสอนอะไรเธอไว้บ้างนะ.......... “เราต้องยืดหยุ่นและหาวิธีใหม่ๆ เสมอ”

    ...............ทำสิ่งที่เราไม่มีโอกาสทำ  หรือไม่เคยคิดจะทำ.............

    เด็กสาวรีบไปที่เตาผิงทันที  คราวนี้ขอให้เธอคิดถูกด้วยเถอะ......................!!!



    “ศาสตราจารย์มักกอนนากัลคะ!!!”

    “คุณเกรนเจอร์” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลอ้าปากค้างอย่างพิศวง  ก่อนจะลุกจากกลุ่มอาจารย์มาที่เตาผิง “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า”

    “เห็นศาสตราจารย์สเนปบ้างมั้ยคะ”

    “เซเวอรัส......... ทำไม”

    “ช่วยให้คนไปดูที่สุสานของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์แล้วส่งข่าวมาด่วนเลยนะคะ  ว่าเห็นช่อดอกไม้ที่พึ่งวางอยู่รึเปล่า  ที่สำคัญ ถ้าเห็นช่วยถามลักษณะคนที่ไปเยี่ยมหลุมศพให้ด้วยนะคะ”

    แม้จะเป็นคำขอที่แปลกพิกล  แต่มิเนอร์ว่าก็จัดการให้โดยเร็ว  และไม่นานลูปินก็มาที่ห้องผู้ป่วยของสเนปอย่างร้อนรนพร้อมกับนกฮูก  และเฮอร์ไมโอนี่ก็แน่ใจชัด............

    เดรโกกับสเนปไปเยี่ยมหลุมศพของดัมเบิลดอร์จริงๆ......................


    *****************************************************

     

    “ชั้นอยากดื่มชาร้อนๆ ซักถ้วยจัง........... แล้วก็เค้ก........ ชั้นไม่เคยได้กินเค้กวันเกิดตัวเองมาก่อนเลย”

    เสียงที่อ่อนละโหยทำให้เดรโกอ่อนใจ  แม้จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ากินเข้าไป  แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแต่พูดเรื่อยเปื่อยก็ยังอดตามใจไม่ได้  เพราะเด็กหนุ่มรู้ดี  นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว  เด็กหนุ่มร่างสูงค่อยๆ เช็ดเหงื่อที่พรูออกมาทั้งๆ ที่อากาศเย็นจัดให้ แล้วพาไปที่ร้านเบอร์เกอรี่มักเกิ้ลที่เห็นแต่ไกลๆ

    ชุดพ่อมดทำให้ทั้งสองดูสะดุดตา  แต่เดรโกไม่แคร์  เพราะอย่างน้อยๆ พวกมักเกิ้ลก็ไม่ได้รู้จักอาจารย์ของเค้าในฐานะผู้เสพความตาย  หรือฆาตกรชั่วช้าที่ฆ่าดัมเบิลดอร์

    เค้กก้อนเล็กๆ และชาอุ่นๆ ทำให้รู้สึกสดชื้นได้ไม่นาน  เพราะหลังจากที่เดินออกมาจากร้านได้เพียง 20 ฟุต  ร่างบางก็อาเจียนทุกอย่างออกมาจนหมด  เพราะตอนนี้ร่างกายของชายตรงหน้ารับอะไรไม่ได้นอกจากน้ำเท่านั้น

     

    “อยากได้ดอกลิลี่..........แม่ก็ชอบดอกลิลี่” ร่างผอมพูดอย่างยากลำบาก “แต่พ่อ........ พ่อไม่ชอบดอกไม้  เพราะงั้นให้เค้าจัดไม้ประดับให้ดีกว่า”

    “งั้นผมว่าดอกฟอร์กิฟมีน๊อทดีกว่ามั้ยครับ  แปลว่าอาจารย์ไม่ลืมพวกเค้าไง” เสียงของเดรโกแห้งผาก

    “นั่นสิ........ เรา ไป.......กันเถอะ”

    “ผมไปเองครับ........... อาจารย์นั่งพักนะครับ”

    “งั้นขอดอกกุหลาบให้อีกช่อ  สีขาวนะ  แล้วก็สีอีกช่อสีเหลือง...........ขอบคุณ”

    เดรโกวิ่งไปที่ร้านดอกไม้อย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อหนีจากภาพหน้าสลดตรงหน้า  ในใจกรีดร้องอย่างทรมาน  ทว่าเป็นการกรีดร้องที่ไร้เสียงโดยสิ้นเชิง



    "ชั้นจำตาสีเขียวคู่นั้นได้ตั้งแต่แรกที่เจอเธอ......... 
    จำใบหน้าที่ชั้นแค้นเสมอได้ทันทีที่พานพบ............ 
    ความรวดร้าวในอดีตทำให้ชั้นไม่กล้าคว้าความสุขไว้........... 
    จึงทำร้ายเธอซ้ำๆ แม้อยากมีความสุขมากเพียงใด.........

    เธอเห็นชั้นดั่งคนที่ฆ่า พ่อ-แม่ของเธอ............... 
    เห็นเป็นคนชั่วช้าที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย........ 
    สิ่งที่จะชดใช้ให้เธอได้คงมีแค่ลมหายใจ................ 
    ที่ยังคงไว้ รอให้เธอบดขยี้มัน.....................

    นานแค่ไหนแล้วที่ยอมเป็นนกน้อยในกรง........... 
    และกล้ำกลืนความเจ็บช้ำไว้ภายในใจ.............. 
    ไม่อาจบอกเธอได้ว่ารักเธอมากเพียงใด................ 
    เพราะกลัวใจที่ขุ่นแค้นของเธอจะเหยียบย้ำมัน...........................

    นกสีขาวสุดท้ายก็ไม่อาจโผบิน........................ 
    เฝ้าสกัดกลั้นน้ำตามิให้ไหลรินและล้นหลั่ง................ 
    ขาก็ไร้เรี่ยวแรงเฉกเช่นหัวที่ไร้พลัง.................... 
    คอยแต่วันที่ความตายจะคืบคลานเข้ามา..................…"

    “อาจารย์เริ่มแต่งบทกวีอีกแล้ว”

    “เหรอ..........…”

    “ใครเป็นคนที่อยู่ในบทกวีนั่นกันแน่ครับ”

    “ลูกของเธอ”

    “เธอที่อาจารย์จะเอาดอกกุหลาบขาวไปเยี่ยมเหรอครับ”

    “อืม.............…” เสียงนั้นแผ่วจนแทบจะเหมือนเสียงกระซิบ ร่างผอมลุกจากหลุมศพของพ่อกับแม่ช้าๆ

    “พ่อของอาจารย์เป็นมักเกิ้ลเหรอครับ”

    “ใช่........…”

    แต่แล้วร่างผอมก็ซวนเซล้มลงกับพื้นอีกครั้ง  แต่เคราะห์ดีเดรโกรับเอาไว้ก่อนที่หัวจะฟาดพื้น  ก่อนจะเบิกตา กว้างอย่างตระหนกเมื่อเห็นชัดว่ารอยช้ำที่แฮร์รี่ฝากเอาไว้ทั่วร่างเริ่มกลับมาอีกครั้ง

    “ชั้นรู้สึกเพลียน่ะ” พูดพลางขยับมือข้างที่เคยถูกหักนิ้วอย่างเจ็บปวด เพราะรอยช้ำและความเจ็บปวดที่หวนกลับมาอีกครั้ง “เรายังต้องไปที่ก๊อดริกโฮโล่อีก”

    “ใครคือเจ้าของกุหลาบสีเหลืองครับ” เสียงของเด็กหนุ่มแทบจะไม่ใช่เสียงของมนุษย์

    “สามีของเธอ”

    “เธอที่อาจารย์รักเหรอครับ”

    เซเวอรัสพยักหน้า

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปช้าๆ ร่างที่เคยเดินไปด้วยกันเริ่มเปลี่ยนมากึ่งอุ้มกึ่งพยุง  ขณะที่บาดแผลที่ปิดไปแล้วของร่างผอมกะหร่องและซีดจัดค่อยๆ ปริแยกออกช้าๆ ตอนนี้เดรโกใช้พลังไปมากเกินกว่าที่ร่างกายที่ยังบาดเจ็บจะรับไหว  ในที่สุดร่างกายของเค้าก็อุทรออกมาด้วยเลือดกำเดาที่ไหลลงมา  เด็กหนุ่มปาดเลือดออกแล้วค่อยๆ เดินต่อไป

     

     

     

     



    ไกลออกไปเด็กหนุ่มอีกคนกำลังวิ่งไล่ตามสัตว์วิเศษอย่างบ้าคลั่งอย่างที่เค้าไม่มีทางทำได้ในอดีต...........เคยได้ยินว่า แม้แต่คนใกล้ตายก็จะรอดชีวิต ถ้าได้ดื่มเลือดยูนิคอร์น แต่มันเป็นการกระทำที่เลวร้ายที่สุด แต่..................

    ตอนนี้แฮร์รี่พร้อมที่จะทำมันแล้ว ร่างผอมสูงวิ่งไล่ตามยูนิคอนเพียงเพื่อจะเอาเลือดของมันมา

    ต่อให้ต้องขายวิญญาณให้ปีศาจเค้าก็ต้องช่วยเซเวอรัสให้ได้..................

    "แต่นั่นจะทำให้เค้าต้องถูกสาป เธอทนได้หรือ ถ้าคนที่เธอรักมากกว่าทุกอย่างจะต้องทุกข์ทรมาน"

    เสียงของเซนเทอร์ตัวหนึ่งดังขึ้นเมื่อแฮร์รี่เท้าหลังของยูนิคอนหนุ่มทำให้เค้ากระเด็น หล่นลงมานอนกับพื้นอย่างหมดสภาพ เด็กหนุ่มถูกขัดขวางอย่างสิ้นเชิง ไม่มีหนทางที่จะดึงชีวิตของคนที่เค้ารักที่สุดเอาไว้จริงๆ หรือ
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×