ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last of your expectation

    ลำดับตอนที่ #8 : ความแข็งแกร่งของจตุราชา

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 54


    แฮร์รี่มองดูชายที่หน้าตาคล้ายเค้าอย่างประหลาด  ที่กำลังยิ้มเยือนมายังเค้า  อายุเกือบจะร้อยปีแล้ว... อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับมักกอนนากัล  บอกให้รู้ว่าชายผู้นี้อาจจะเป็นคนที่เกี่ยวพันธ์กับพ่อแม่ของเค้าก็ได้  แฮร์รี่สะบัดศีรษะก่อนจะถูกยิงคำถามกลับมาจากการพินิจใจอันเฉียบคมของอีกฝ่าย

    "ไม่ต้องพยายามปฏิเสธหรอก  แฮร์รี่  ชั้นมีความเกี่ยวพันธ์กับพ่อของเธอจริงๆ"

    "นายรู้เหรอว่าชั้นคิดอะไรอยู่" แฮร์รี่ถามโดยไม่รู้ตัว, เหมือนถูกสะกดจิต

    "เธอเหมือนย่า... ไม่สิ  เหมือนพ่อของเธอมาก  ก็เลยพลอยเหมือนย่าของเธอไปด้วย" เฟรย์พูดอย่างเรียบเรื่อย "ในบรรดาพี่น้องทั้งหมดเฟรยากับชั้นนับว่าสนิทกันมากที่สุดแล้ว  และเราสองคนยังหน้าเหมือนกันมากด้วย... เธอเป็นหลานของเฟรยา, มันก็ช่วยไม่ได้ที่ชั้นจะนึกเอ็นดูบ้าง, ฟังดูอาจจะแปลกๆ นะ  แฮร์รี่  แต่ชั้นเป็นพี่ชายของย่าของเธอ  พูดง่ายๆ ชั้นเป็นลุงแท้ๆ ของเจมส์  พอตเตอร์"

    แฮร์รี่เหมือนไปยืนอยู่ขอบนรก, แม้เค้าจะผ่านอะไรมามาก  แต่ก็ไม่มากพอที่จะยอมรับว่าคนในครอบครัวของเค้าเป็นผู้เสพความตาย!!  นั่นทำให้เค้าตะโกนออกไปสุดเสียง

    "แกโกหก!"

    "บอกเค้าสิลูเครเซีย, ว่ามันเป็นความจริง" เฟรย์ยังคงถือไม่ที่เหนือกว่า  และแน่นอน  ลูเครเซียไม่ตอบ  เพราะตอนนี้แฮร์รี่คงไม่พร้อมจะรับอะไร  และการโกหกมันก็ไม่ช่วยอะไรด้วย

    "นายกลับมาได้ยังไง.... นายตายไปแล้วนี่!  โวลเดอร์มอร์สั่งฆ่าจตุราชาเพราะ--"

    "เพราะเค้าไม่สามารถไว้ใจกลุ่มผู้วิเศษที่มีพลังเวทย์มากผิดปกติอย่างเราได้" เฟรย์ตัดบทก่อนที่ลูเครเซียจะพูดจบ "ใครจะไว้ใจได้ถ้ามีเวอร์ล๊อค(พ่อมด-แม่มดศาสตร์มืด)ที่มีพลังมากถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อยของที่ตัวเองมี  แล้วมาอยู่เคียงข้างถึงสี่คน  เพราะเท่ากับว่ามีสองคนร่วมมือกันก็สามารถพิชิตเค้าลงอย่างง่ายดาย  น่าสงสารจอมมาร, เค้าจำเป็นต้องรับเราไว้ทั้งๆ ที่ไม่ไว้ใจเพื่อเป็นหนังหน้าไฟป้องกันดัมเบิลดอร์  เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ถึงสี่คนหรอก  แค่ชั้นกับอาเทน่าก็พอแล้ว!  เพราะดัมเบิ้ลดอร์น่ะเมื่อเทียบกับพลังของเราสองคนรวมกันแล้ว! มันก็แค่สามในสี่เท่านั้นเอง!!"

    "อย่ามาดูถูกดัมเบิ้ลดอร์นะ!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน  ชูไม้กายสิทธิ์ออกมา "ดัมเบิ้ลดอร์เป็นพ่อมดที่เก่งที่สุดที่แม้แต่โวลเดอร์มอร์ยังกลัว!!"

    "อ้อ... เหรอ! งั้น.. บอกชั้นหน่อยซิ  คุณนายวิสลี่ย์! ดัมเบิ้ลดอร์หายหัวไปไหนในช่วงที่จอมมารเรืองอำนาจ  ถ้าเรื่องที่ไม่ออกไปเผชิญหน้ากับกิลเดวัลน่ะใช่  เพราะตาแก่วิตถารนั่นดันไปมีความรู้สึกพิเศษกับพ่อมดบังกาเรียเข้าให้! แต่ลอร์ดโวลเดอร์มอร์!  มีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมเผชิญหน้าโดยตรงแล้วปล่อยให้คนมากมายต้องถูกฆ่าตาย!! ชั้นจะบอกความจริงให้ฟัง!!!  เพราะตาแก่นั่นกลัวจตุราชาจับหัวใจไงล่ะ!!!!"

    เฮอร์ไมโอนี่สะอึก  เพราะมันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้  ดัมเบิลดอร์รออะไรอยู่  ทำไมไม่ไปตามหาและทำสงครามกับโวลเดอร์มอร์  ทำไมต้องปล่อยให้โวลเดอร์มอร์หายตัวไปเพราะเผชิญหน้ากับแฮร์รี่  เค้ามัวเชื่อคำพยากรณ์แล้วรอคอยเด็กชายผู้ถูกเลือกอยู่ได้ยัง!!

    "แต่นายกับเพื่อนๆ ก็ถูกโวลเดอร์มอร์สั่งฆ่าอยู่ดี  ถ้าเก่งนักทำไมถูกโวลเดอร์มอร์สั่งฆ่าล่ะ  ตอนนี้เหลือคนเดียวโด่เด่เลยนี่นา!!" รอนพยายามทับถม  แต่สิ่งที่ตอบกลับคือเสียงหัวเราะเย็นเยือก

    "ใครว่า... จตุราชายังอยู่ครบต่างหาก  คิดเหรอว่าผู้เสพความตายกระจอกๆ ยี่สิบคนจะเก็บพวกเราได้"

    "ตลกนะ" เฮอร์ไมโอนี่ว่า "ถ้าเป็นจริงพวกคุณหายหัวไปตอนที่โวลเดอร์มอร์กลับมา"

    "เราไม่สนใจหรอก... ของมีตำหนิแบบนั้น,  เราต้องการเจ้าแห่งศาสตร์มืดที่ไร้ตำหนิต่างหาก"

    ลูเครเซียหลับตา  รู้สึกเจ็บปวด  แต่ก็ฝืนลืมตาขึ้นมา "นายฆ่าเฟรยากับเลาเรสด้วยสินะ"

    "...ก็  ไม่ผิดนะ"

    "ขอถามอีกครั้ง!" ลูเครเซียตะโกน  และแสงเจิดจ้าก็ปรากฏที่มือทั้งสองข้าง "นายฆ่าคุณโอดินกับคุณแคสก้าด้วยรึเปล่า"

    "...แล้ว, ถ้าชั้นไม่ปฏิเสธล่ะ?"

    ลูเครเซียร้องอย่างเหลืออดแล้วแสงสว่างจ้าที่มือทั้งสองก็รุนแรงขึ้น  เหมือนเธอพร้อมจะโจมตีคนตรงหน้าแล้ว "แม้แต่พ่อแม่ของนายก็ทำไดลงคอเชียวเหรอ!! นายยังเป็นคนอยู่รึเปล่า!!!"

    "โอ๊ะๆๆ" ท่าทางเฟรย์ดูสนุกกับการยั่วโทสะ "ทำอะไรระวังหน่อยนะ  เซเวอรัสอยู่ในมือชั้นไม่ใช่เหรอ" พูดพลางดึงเซเวอรัสขึ้นมา  ทำให้ลูเครเซียชะงัก "อันที่จริงชั้นก็ไม่ได้ฆ่าพ่อกับแม่ซะหน่อยนะ  แค่ไม่ช่วยเท่านั้นเอง..." จากนั้นก็ตวัดไม้กายสิทธิ์แล้วทำให้พวกแฮร์รี่กระเด็นไปคนละทิศละทาง  ส่วนลูเครเซียโดนเข้าเต็มๆ กระเด็นกลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้น  และจากนั้น!  โดยไม่ต้องออกเสียง! แสงสีเขียวพุ่งเข้าไปที่อกของอเล็กซ์ที่พยายามยืนขึ้น! ท่ามกลางความตกใจของทุกคน!  ทอมที่ช่วยปกป้องเด็กสามคนกับหนึ่งศพได้ทันเวลาทำให้พวกเค้าไม่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไปหันมาพบกับร่างของอเล็กซ์ที่ลอยสูงแล้วมาตกตรงหน้าเค้า "เป็นแค่มักเกิ้ล  ไม่น่าคิดมาลองดีกับพ่อมดเลย... จุๆๆ" เสียงนั้นบอกชัด 'ไม่แยแส'  แต่ทอม, กรีดร้องสุดเสียง  น้ำตาท่วมใบหน้า.. วิ่งเข้าไปประคองร่างของอเล็กซ์ที่นอนนิ่งตาเบิกกว้างอยู่กับพื้น  ขณะที่พวกบาทหลวงตัวสั่นไม่เว้นคน ทุกคนล้วนบาดเจ็บและกลัวจนไม่มีใครขยับได้

    "แบบนี้... ค่อยเป็น 'เจ้าแห่งศาสตร์มืดที่ไร้ตำหนิ' ขึ้นมาหน่อย"

    ทอมเงยหน้าขึ้นมองดูเฟรย์  เมอร์กัน  ใบหน้าหล่อเหลานั่นยิ้มอย่างเอ็นดู  ทอมหายใจหอบ "ทำไมต้องฆ่าหลวงพ่ออเล็กซ์!?"

    "ก็แค่, ไม่ได้เสกคำสาปพิฆาตมาเกือบสี่สิบปี  ก็เลยลองวอร์มอัพนิดหน่อย"

    "อะไรนะ! จะบอกว่าแค่เล่นๆ เหรอ! แกเห็นชีวิตคนเป็นอะไร!!" บาทหลวงเซเวอรัสที่ไม่มีบทพูดมานานคำรามออกมาอย่างสุดจะทน "อเล็กซ์เค้าทำอะไรให้แกวะ!!!"

    "ทำอะไรเหรอ?" เฟรย์ทำท่าใช้ความคิด "ก็... การที่เค้ามีตัวตนอยู่นี่แหละ  ถ้าเธอจะเข้าใจความหมายของชั้นนะ"

    แต่คำพูดนั้นกลับเหมือนดาบแหลม  แทงที่หัวใจของแฮร์รี่เต็มจัง  เพราะทั้งคำพูดและท่าทาง  มันเหมือนเจมส์ พอตเตอร์--พ่อของเค้าในความทรงจำของสเนปอย่างน่าตกใจ! ราวกับจะบอกให้รู้ว่าเจมส์ได้นิสัยเกเรชอบรังแกคนอื่นมาจากใคร!?!  ทั้งสีหน้าแววตาของเค้าก็เหมือนตอนที่เจมส์ตอบคำถามลิลี่เกี่ยวกับเหตุผลที่แกล้งสเนปไม่มีผิด!! แฮร์รี่ตวัดไม้กายสิทธิ์เพื่อปฏเสธความจริงที่อยู่ตรงหน้า

    "เซ็ตตร้ำซัมปร้า!!"

    แต่แล้วคาถานั้นกลับไม่ให้ผลกับเฟรย์ เมอร์กัน  หากมันทำให้บาทหลวงหนุ่มต้องบาดเจ็บ!? เฟรย์กระชากร่างของบราเทอร์เซเวอรัสขึ้นมาบังคาถา  แล้วเลือดก็พุ่งออกจากบาดแผลที่อกและใบหน้าที่ปรากฏอย่างน่ากลัวราวกับถูกกรีดด้วยแผลที่มองไม่เห็น

    "มะ! ไม่นะ!?!" แฮร์รี่คราง "ชั้นไม่ได้!" จากนั้นก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะเสียงร้องของลูกชาย  เค้าหันไปเห็นอัลที่วิ่งเข้าไปคุกเข่าข้างสเนปและร้องไห้คร่ำครวญ  สเนปกำลังโชกเลือดและดิ้นอยู่กับพื้นอย่างทรมาน

    "ดีใจด้วยนะแฮร์รี่  ไม่นึกว่าเธอจะมีคาถาที่เยี่ยมมากขนาดนี้" เฟรย์ชื่นชมด้วยใจจริง "แถมให้ผลได้น่ากลัวมากด้วย... เซเวอรัสที่น่าสงสาร... คงจะเจ็บปวดมากสินะ... ใช่... ต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เพราะคาถาเมื่อกี้ไม่ได้ใช้กับร่างกาย  แต่โจมตีเข้าที่ดวงวิญญานโดยตรงเลยทีเดียว"

    "เซเวอรัส... พระเจ้า!  ไม่นะ!" ทอมครวญคราง  ไม่กล้าขยับเพราะเห็นชัดว่าอีกฝ่ายสามารถใช้เซเวอรัสเป็นตัวประกันได้จริงๆ  ลูเครเซียยันตัวขึ้นท่ามกลางบาทหลวงสองคนที่ช่วยพยุง  กระอักกระไอเป็นเลือด  แต่ก็ยังฝืนพูด

    "นี่เหรอจตุราชา! ใช้ตัวประกันแบบนี้มันขี้ขลาดชัดๆ!"

    "ไม่ใช่ก็ได้" โยนเซเวอรัสลงกับพื้น  เป็นโอกาสให้เฮอร์ไมโอนี่ที่รอโอกาสมานานยิงคาถาออกไป  แต่กลับถูกปัดป้องอย่างไม่น่าเชื่อ  และรอนก้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย  เฟรย์ลอยตัวสูงเหนือพื้นแล้วหลบการโจมตีและโต้ตอบอย่างสวยงามจนแทบจะคารวะให้ถ้าไม่ติดว่าเป็นศัตรู  ในที่สุดแฮร์รี่ก็เข้าร่วมด้วยกัน "มาเลย! จะสามรุมหนึ่งหรือสิบรุมหนึ่งชั้นก็ไม่ซีเรียสหรอกนะ! เพราะชั้นน่ะเก่งมาก!"

    ที่มันพูดก็ไม่ผิด  เพราะทั้งสามคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดพ่อมดจากการสร้างชื่อกำจัดโวลเดอร์มอร์กลับกลายเป็นเหมือนเด็กทารกเมื่อมีการเทียบชั้นพลังเวทย์  จากนั้นรอนก็กระเด็นกระดอนออกไป  แล้วก็เฮอร์ไมโอนี่ที่กลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้น  ทั้งคู่โชกเลือดเช่นเดียวกับแฮร์รี่ที่ถูกฟาดลงกับพื้นอย่างหมดท่า  ไม้กายสิทธิ์กระเด็นจากมือ  พวกเด็กๆ ที่พยายามเข้ามาช่วยก็โดนคำสาปแบบเบาะๆ ลอยออกไปคนละทิศละทางเหมือนถูกวิลโลจอมหวดฟาดจนกระจุย

    แฮร์รี่หอบแฮ่กๆ กับพื้น  ขณะที่ถูกเชยคางขึ้น  ไม่ไหวแล้ว หมอนี่เก่งเกินไป!

    "เธอมันอวดดีนะหลานชายที่รัก... แค่กำจัดเจ้าแห่งศาสตร์มืดได้ก็คิดว่าตัวเองเก่งแล้วเหรอ?  ชั้นจะบอกความจริงให้แฮร์รี่... เธอเก่งเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าจอมมารเท่านั้นแหละ... เพราะเค้าแพ้ทางเธอด้วยความโง่บัดซบของเค้าเอง  ถ้าเค้าไม่เชื่อคำพยากรณ์โง่ๆ นั่น  เธอคงเป็นแค่ไอ้เด็กแว่นธรรมดามากกว่าจะเป็นวีรบุรุษ!" เค้าหัวเราะอย่างสะใจ "จะว่าไปแล้ว... ความแข็งแกร่งของเค้าในวันที่เค้ากลับมาน่ะ  เทียบกับตอนนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำไป"

    วินาทีที่เค้าคิดว่าเค้าจะต้องตายด้วยมือของเฟรย์  แสงสว่างอีกดวงหนึ่งกับพุ่งมาแล้วทำให้เฟรย์ต้องหลบฉาก  ร่างของเอรีส  มัลฟอยยืนตระหง่ายอยู่ตรงหน้าเค้าอย่างปกป้อง  สายตาบอกชัด จะไม่ยอมให้เฟรย์ทำร้ายแฮร์รี่!!

    "ถอยไปนะเฟรย์! ชั้นไม่ยอมให้นายแตะต้องใครอีกแล้ว!"

    "แล้วนายจะทำอะไร!? มัลฟอย! ทุ่มพลังทั้งหมดปกป้องเด็กนั้นแล้วตายในสภาพเดียวกับไอลีน พริ้นซ์เหรอ!?" ดวงตาของเอรีสเปลี่ยนไปทันที  แต่เค้าไม่หลุดอะไรออกมา  เฟรย์ทรุดลงแล้วอุ้มเอาบราเทอร์เซเวอรัสขึ้นมาพลางพูด "อย่าพยายาม, มัลฟอย...นายไม่มีวันชนะชั้นได้หรอก! อีกอย่าง  ถ้านายตายใครจะช่วยปกป้องเจ้าพวกนั้น" ว่าแล้วก็เกิดแสงสีแดงล้อมรอบ  กับคำพูดที่ทั้งอ่อนโยนและหยามเย้ย "แล้วพบกันใหม่!" ก่อนไปยังไม่ลืมที่จะหันไปหาทอม "ลอร์ดโวลเดอร์มอร์! ถ้าอยากได้คนสำคัญของท่านคืนล่ะก็!  กลับมาหาพวกเราแล้วทำตามสัญญาซะ!"

    เฟรย์ไปแล้ว  ทิ้งให้เหล่าผู้บาดเจ็บจำปรักในความหวาดกลัวสุดจะบรรยาย  เวลานี้ตระหนักชัดแล้ว  ช่วงเวลาก่อนโวลเดอร์มอร์หายตัวไปเพราะเผชิญหน้ากับแฮร์รี่ที่เป็นทารกนั้น  เป็นยุคที่น่ากลัวมากเพียงใด!!











    "ขอโทษนะ  ถ้าชั้นมาเร็วกว่านี้  ชั้นคงไม่ยอมให้พวกมันฝ่าอาเขตมาได้" เอรีสบอกทุกคนที่กำลังทำแผล "ขอโทษ"

    "พ่อไปไหนมาคะ" ลูเครเซียถาม

    "พ่อเห็นไลชา, เลยกลัวว่าพวกจตุราชาจะเคลื่อนไหว  เลยกลับไปที่บ้านปู่กับย่าให้แน่ใจว่าลูเซียสจะปลอดภัย"

    "ลูเซียสไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ"

    "ไม่..."

    "แล้วเค้าเห็นพ่อมั้ย"

    "ไม่.... พ่อไม่ได้ให้เค้ารู้ว่าพ่อไปดูแล" ลูเครเซียรู้ว่าพ่อของเธอคงอยากกอดลูกชายและลูกสะใภ้ใจจะขาดแต่ก็กดตัวเองไว้กับที่ "แต่ทีมานี่เห็นพ่อ,  เธอเข้ามาทักทาย  พ่อเลยถามเกี่ยวกับการต้องอยู่โดยไม่มีลูกชายของเธอ  เลยนึกออกเลยว่าด๊อบบี้ได้นิสัยแบบนี้มาจากใคร" เค้าหัวเราะเบาๆ "เหมือนทีมานี่  แม่ของเค้านั่นเอง"

    เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้ว, แม่ของด๊อบบี้ชื่อมาทีน่าเหรอ?

    พวกแฮร์รี่และเด็กๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมการอาละวาดครั้งนี้ไม่มีพวกมักเกิ้ลได้รับบาดเจ็บหรือตาย  เพราะที่นี่ได้ถูกวางข่ายอาคมกั้นไว้อย่างหนาแน่น  แม้วัดทั้งหมดจะพังลงก็ไม่มีมักเกิ้ลคนไหนเฉลียวใจ  การที่เฟรย์  เมอร์กันสามารถฝ่าอาณาเขตเข้ามาได้ย่อมนับว่ามีพลังร้ายกาจจริงๆ

    อาการบาดเจ็บไม่ถึงกับสาหัสมาก  แต่ความเจ็บใจมันมากกว่า  จนถึงตอนนี้แฮร์รี่ก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเค้าพึ่งเจอกับพี่ชายแท้ๆ ของย่า, ลุงแท้ๆ ของพ่อ  และเท่ากับว่ามีศักดิ์เป็นปู่ของเค้าด้วย  แต่อีกฝ่ายก็ชั่งเหมือนเจมส์เหลือเกิน  แม้จะพยายามปฏิเสธเพียงไร  แต่ท่าทาง, สีหน้า, แววตา เหมือนเจมส์ไม่มีผิด...!

    แม้แฮร์รี่จะไม่เคยรู้จักกับพ่อจริงๆ จังๆ แต่เค้าเคยเห็นทั้งหมดนั้นในความทรงจำอันเลวร้ายของสเนป!

    และด้วยคำๆ นี้  เค้าหวนกลับไปสู่ความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง  เมื่อครั้งที่เค้าได้เห็นด้านหนึ่งของพ่อผ่านความทรงจำของสเนป  พ่อที่ร้ายกาจและหยิ่งจองหองเหมือนที่สเนปเคยพร่ำบอกเค้าทุกประการ! แฮร์รี่เริ่มเย็นเยือกเมื่อคิดถึงพ่อ! พ่อของเค้าไปได้นิสัยแบบนั้นมาจากไหน! จากการเลี้ยงดูอย่างเทิดทูลบูชา!? หรือว่าพันธุกรรม!

    ถ้าเป็นพันธุกรรม  แปลว่าเค้าก็มีพันธุกรรมแบบนั้นอยู่ในตัวด้วยสิ เพราะเค้าก็มีสายเลือดแบบเดียวกับเฟรย์  เมอร์กัน!

    ทอมนั่งร้องไห้อยู่ข้างศพของอเล็กซ์  พวกเค้าจากกันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปรับใจคืนดีกัน..!  และเมื่อเอรีสเดินเข้าไปจับไหล่เพื่อปลอบโยน  เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดก็ทำให้ทุกคนช๊อก

    "ผมคือโวลเดอร์มอร์ใช่มั้ย"

    "เธอพูดอะไร" เอรีสพยายามสงบแม้จะตกใจมาก

    "เลิกปิดบังซะที!" เสียงของทอมลดความรุนแรงลง  แต่น้ำตายังไหลอาบหน้า "เจ้าหมอนั่นเรียกผมว่าโวลเดอร์มอร์"

    "นั่่นเพราะเธอเหมือน--"

    "เหมือนเหรอ" ทอมหัวเราะอย่างเจ็บปวดก่อนจะพูดออกมาแกมสำลัก "ถ้าแค่เหมือน  ทำไมพวกคุณต้องเผลอเปรียบเทียบผมกับโวลเดอร์มอร์ในเวลาที่พวกคุณไม่ทันระวังตัว  แล้วยังใช้คำว่า 'สมัยที่ยังเป็นโวลเดอร์มอร์' อยู่บ่อยๆ  แล้วผมก็มีความทรงจำน่ากลัวนั่นอยู่ในหัว  ไม่ใช่แค่ความทรงจำ  แต่ผมรู้สึกราวกับเป็นประสบการณ์จริงด้วยซ้ำ  ขอร้องล่ะ! ชีวิตของเซเวอรัสแขวนอยู่บนเส้นด้ายแบบนี้แล้วยังจะโกหกอีกเหรอ!"

    "เธอพูดถูก" เอรีสถอนใจ  พยายามที่จะไม่ร้องไห้ "เธอไม่ใช่ทอม  โลกิ  ริดเดิ้ล, แต่เป็น ทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล" เค้ามองตรงไปที่มองที่มองเค้าอย่างไม่เชื่อแม้จะเตรียมใจแล้ว  แต่แฮร์รี่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ตกใจยิ่งกว่า "เธอคือลอร์ดโวลเดอร์มอร์"

    "โวลเดอร์มอร์ตายแล้ว... แล้วผมมาอยู่นี่ได้ยังไง" ทอมเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า

    "เธอตายแล้วเพราะการสะท้อนกลับของคำสาปพิฆาต... แต่ไนจัสอะโพคาลิฟนำวิญญานของเธอออกจากแดนมรณะหลังจากเซเวอรัสนิดหน่อย  นั่นเป็นเหตุผลที่พวกยมทูตตามไล่ล่าพวกเธอไง"

    "แล้ว... ถ้าผมไม่ตายพวกมันก็ไม่หยุดงั้นสิ"

    "ใช่..."

    "แล้วทำให้โวลเดอร์มอร์คืนชีพมาเพื่ออะไร" ทอมน้ำตาไหลพรากๆ "สงสารหรือเพื่อความสะใจ"

    "โวลเดอร์มอร์ไม่มีความรัก  ทำให้เค้าไม่สามารถใช้การได้ในวันพิพากษา  เพราะงั้น  พระเจ้าจึงให้เค้ากลับมาสู่โลกเพื่อเรียนรู้ที่จะรัก  และทำงานของพระองค์  จากนั้นก็เรียกชีวิตเค้ากลับคืน  โวลเดอร์มอร์ที่คืนชีพอีกครั้งได้มาอยู่ตรงนี้แล้วคือเธอ, ทอม"

    ทอมหัวเราะ... รู้สึกอึดอัดจนอยากจะตายซะตรงนี้  ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินช้าๆ จากทุกคน... แต่บาทหลวงโยเซฟรีบตะโกนเรียก "ทอม!!  เธอถูกนำกลับมาเพราะยังมีความจำเป็นต่อโลก!! เธอจะตายไม่ได้นะ!! ไม่ว่ายังไงก็ห้ามคิดสั้นเด็ดขาด!!"

    แต่ทอมไม่ตอบ  แฮร์รี่มองดูทอมที่เดินจากไป  เห็นได้ชัด  โซซัดโซเซ!  เค้าหันมาถามเอรีสทันที "ทอมคือโวลเดอร์มอร์... จริงเหรอครับ?!"

    "ใช่... เค้าเป็น" เจคอบกับโยเซฟทำท่าจะออกไป  แต่เอรีสห้าม "ไม่.. เค้าต้องการเวลาตามลำพัง  ถึงเวลาแล้วเราค่อยไปหาและพูดกับเค้า"

    "ใครคืออาเทน่าคะ" เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    "อาเทน่า  มัลฟอย ไม่สิ อาเทน่า  แบล็ก เธอเป็นพี่สาวฝาแฝดของชั้น  แต่เธอมีพลังมาก  ทว่าที่เธอได้เป็นที่รู้จักโดดเด่นเพราะเธอไม่ได้ฝักใฝ่ที่จะเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืด  และแน่นอน  เธอไม่มีวีรกรรมปราบศาสตร์มืดเหมือนดัมเบิ้ลดอร์  ถ้าดัมเบิ้ลดอร์ไม่ปราบกิลเดวัล หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่พิชิตโวลเดอร์มอร์ก็คงไม่มีชื่อเสียงอะไร  นั่นแหละพี่สาวของชั้นชอบเก็บตัว  เพราะมันไม่ถึงเวลาของเธอ แต่เธอแข็งแกร่งมาก" เอรีสกอดไหล่ของตัวเอง  สั่นอย่างไม่รู้ตัว "แข็งแกร่งขนาดว่าสามารถที่จะต่อสู้กับโวลเดอร์มอร์ในตอนนั้นที่แข็งแกร่งกว่าตอนที่พวกเธอกำจัดเค้าเมื่อสิบเก้าปีก่อนหลายขั้นได้อย่างสูสีทีเดียว, และเพราะเธอมีความห่างชั้นจากโวลเดอร์มอร์เพียงเล็กน้อยจึงทำให้เธออาจจะสามารถที่จะพิชิตโวลเดอร์มอร์ได้ด้วยซ้ำ"

    "แล้วทำไมถึงบอกว่าเธอนามสกุลแบล็กล่ะ" รอนถามในที่สุดเพื่อจะได้ยินคำตอบที่ชวนตะลึงที่สุดจากเอรีส

    "เธอ, เป็น 'ภรรยา' ของ ซิเรียส  แบล็ก"








    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×