คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Dark Lord
"...เมื่อสองพันปีก่อน พ่อมดผู้หนึ่งได้ทำสัญญากับอะโพคาลิฟ-ฟา เพื่อได้มาซึ่งอำนาจ โดยสัญญานั้นระบุว่า เมื่อลูกสาวเป็นผู้ใหญ่ต้องใช้เธอเป็นเครื่องบูชายันตร์ พ่อมดได้เป็นพ่อมดที่เรืองอำนาจจริง ทว่า เวลาแห่งสัญญาใกล้เข้ามาทุกที เพราะแม้จะพยายามไม่รักลูกสาว แต่ก็ไม่สามารถห้ามใจตนได้ ยิ่งนานวัน ยิ่งลูกสาวโตขึ้น พ่อมดก็ยิ่งกลุ้มใจ..."
"แล้วสุดท้ายเป็นไงคะ" ลิลี่ถาม หลวงแม่ลูเครเซียยิ้ม
"ลูกสาวก็เติบใหญ่อย่างปกติและกลายเป็นยายแก่ไปตามอายุ"
"ไม่เห็นมีอะไรเลย" นาซิสซาพ่นลมออกจากจมูก
"แน่ล่ะ เธอเป็นเด็ก แต่เรื่องนี้ชั้นจงใจเล่าให้พี่ชายที่เป็นผู้นำตระกูลมัลฟอยฟังนี่" ลูเครเซียหัวเราะ "ว่าไง ลูเซียส"
"เรื่องนี้... เป็นตำนานที่โด่งดังมากในหมู่พ่อมดศาสตร์มืด... เพราะพ่อมดคนนั้นเป็นคนแรกที่ไม่ต้องบูชายันตร์เหยื่อตามสัญญา"
"หมายความว่าก่อนหน้าที่ต้องบูชายันตร์เหรอฮะ" เซเวอรัสท่าทางสนใจ "แล้วพ่อมดทำไงถึงโกงอะโพคาลิฟ-ฟาได้ล่ะ"
"เรื่องนี้เป็นคำถามที่ถือเป็นกฏสำหรับพ่อมดศาสตร์มืดทุกคนเหมือนกัน คือใครก็ตามที่เป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่แท้จริงต้องเคยได้ยินตำนานเรื่องนี้ และตอบคำถาม รวมถึงชั้นด้วย"
"แล้วลูเซียสตอบคำถามว่าไงคะ" ลิลี่ถามอย่างสนใจเพราะมันอาจจะเป็นคำตอบของเธอในอนาคต
"ชั้นรู้วิธีการ แต่คลางใจสำหรับขั้นตอน เพราะตามเหตุการณ์นั้น ขณะบูชายันตร์ต้องไม่มีใครนอกจากเหยื่อกับผู้ทำพันธสัญญา... และ..." ลูเซียสกระดากปากที่จะพูด
"และ?" นาซิสซากระตุ้น "บอกเราเถอะ เราไม่คิดมากหรอก"
"การบูชายันตร์ต้องใช้หญิงสาวพรหมจรรย์"
เซเวอรัสลุกขึ้นเหมือนศพและไปที่โลงศพของแม่ ด้วยความเจ็บปวดสุดประมาณ...
ลูเซียสเดินเคียงข้างเซเวอรัสหลังงานศพเสร็จสิ้น... ไหล่เล็กของเซเวอรัสดูเปราะบางจนรู้สึกหดหู่ เค้าคิดถึงคำพูดของไอลีน... สิ่งที่เธอขอร้องเค้า และในที่สุด กับความรับผิดชอบที่มี เหมือนพี่เหมือนน้อง ลูเซียส มัลฟอยเอื้อมไปยังร่างที่อยู่ไม่ไกลนักและจับไหล่เล็กๆ ไว้ มันสั่นสะท้านเมื่อหันกลับมา ลูเซียสกอดเซเวอรัสแนบแน่น
"ไม่เป็นไร... ชั้นอยู่นี่เซเวอรัส ชั้นอยู่นี่!"
"ลูเซียส... ฮึก... ลูเซียส!"
ทั้งคู่อยู่ในความเงียบนานมากกว่าจะมีบางสิ่งเข้ามาขัดจังหวะ... มันคืออะไรบางอย่างที่ทำให้ขนลุกซู่ มันเป็นมวลพลัง แบบเดียวกับที่เค้าพบในตอนที่ชายคนนั้นปรากฏตัว เค้าหันหลังไปแล้วพบกับชายคนหนึ่งที่จากนี้ไปอาจจะไม่มีใครกล้าเอ่ยนามของเค้า!?
"เธอมีมุมที่อ่อนโยนนะ"
"น่ะ... นายท่าน!"
"ชั้นเอง" ลอร์ด โวลเดอร์มอร์กระซิบอย่างอ่อนโยน แต่มันกลับรู้สึกน่าขนลุก "เด็กคนนั้นเป็นลูกของไอลีน พริ้นซ์ใช่มั้ย"
"ไม่ใช่!!" ลูเซียสร้องอย่างหวาดกลัวไปยังชายต่อไปจะเปลี่ยนเค้าให้เป็นปีศาจ กันเซเวอรัสไปไว้ข้างหลัง โวลเดอร์มอร์หัวเราะชอบใจ
"ไม่ต้องกลัวหรอกลูเซียส ชั้นไม่ทำอะไรเธอหรอก... ที่แน่ๆ ชั้นว่านั่นเป็นลูกของไอลีน เพราะเค้าเหมือนไอลีน--เหมือนโลกิเปี๊ยบเลย"
"ลูเซียส! เกิดอะไรขึ้น!"
เสียงของนาซิสซาที่ดังขั้นเหมือนจะทำให้ทุกอย่างยิ่งเลวร้าย... ลูเซียสกันเธอและลิลี่ที่พึ่งมาถึงไปข้างหลัง สั่นราวกับลูกนก เด็กหญิงสองคนและเด็กชายตะลึงมองลูเซียสที่พยายามจะต่อสู้กับใครบางคนที่เค้ารู้ว่าไม่สามารถ!? หรืออย่างน้อยที่สุดแค่พยายามอย่าให้อีกฝ่ายแตะต้องเค้าหรือเด็กที่อยู่ข้างหลัง และเซเวอรัสกับลิลี่มองเห็นมากกว่าแค่อาการสั่น แต่เห็นความกลัว!
ราวกับว่า ในโลกนี้ คงไม่มีอะไรที่ลูเซียสจะกลัวเท่ากับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว!
"คุณคือ... ผู้ชายคนนั้นนี่!" นาซิสซาร้องขึ้นอย่างตกใจหลังพิจารณาใบหน้าหล่อเหลานั่นพักหนึ่ง "ผู้ชายที่เบลลาชอบ!"
"ถามจริง!?" ลิลี่คราง
"น้องสาวของเบลลาทริกซ์นี่ นาซิสซา... ชั้นจำได้แล้ว" เค้ากระซิบ "แสดงว่าเด็กผู้หญิงผมแดงข้างๆ คงไม่ใช่ลูกมักเกิ้ล.. ใช่มั้ย" ก่อนที่นาซิสซาจะตอบ 'ถ้าเป็นลูกมักเกิ้ลแล้วมันเสียหายตรงไหน' ลูเซียสชิงตอบทันทีเพราะกลัวเด็กผู้หญิงจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด
"ลูกผสม... เหมือนกับเด็กผู้ชายข้างหลังผม ผมสนใจพวกเค้าถ้าท่านไม่รังเกียจผมขอที่จะ--"
"อาจจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้เสพความตายที่ดีทั้งสามคน ในอนาคต สำหรับเธอ ชั้นว่ายังมีคุณสมบัติไม่พอ" เค้าสะบัดเสื้อคลุมแล้วเดินจากไป "แต่อนาคต! เธอจะเป็นสาวกที่ยอดเยี่ยมของชั้น! ลูเซียส! แน่นอนว่าต้องเป็น เพราะชื่อของเธอไม่ใช่ชื่อธรรมดา มันเป็นชื่อของลูกชายคนเดียวของกริฟฟินดอร์เลยนี่" จากนั้นเค้าหันมามอง "จริงมั้ย!" และหายไป
ลูเซียสทรุดลงกับพื้น และร้องไห้อย่างน่าสมเพช... เด็กสามคนที่ได้รับการปกป้องในครั้งตอนนี้กลายเป็นคนปลอบคนที่พยายามปกป้อง แม้ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผู้ชายคนนั้นต้องหน้ากลัวมากแน่ๆ ลิลี่กัดฟันกรอด
"คนพรรค์นั้นน่ะ ถ้าต้องให้เบลลาทริกซ์คบกับเค้า สู้ให้เธอพิการไปเลยดีกว่า!"
"เค้าพูดถึงผู้เสพความตาย ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้เสพความตายรึเปล่านะ!"
"เอ๊ะ! ผู้เสพความตาย!?" ลิลี่มองอย่างงุงง
"เธอไม่เคยได้ยินเหรอ กลุ่มผู้วิเศษลึกลับใต้การนำของผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าลอร์ด โวลเดอร์มอร์ เค้าพูดกันไปทั่วทั้งโลกผู้วิเศษแล้วนะ ถึงจะไม่ค่อยได้ยินในโรงเรียนก็เถอะ เพราะมันน่ากลัวมาก เด็กที่รู้เรื่องมักจะเป็นเด็กปีสามขึ้นไปเพราะได้ไปได้ยินที่ฮอกมีดส์มาบ้างแล้ว แต่ก็ห้ามไม่ให้พูดกับเด็กรุ่นน้อง แต่อีกไม่นานเรื่องนี้อาจจะดังไปถึงรั้วโรงเรียนก็ได้" นาซิสซาอธิบาย ลิลี่เกาหัว
"ไม่เคย... เซวีเคยไม่ยินมั้ย"
"ไม่แน่ใจ... แต่นาซิสซา, ถ้ายังไม่ดังเข้าไปในโรงเรียนผมกับลิลี่คงไม่เคยได้ยินหรอกครับ เราน่ะอยู่ในโลกมักเกิ้ลนะ แต่ปีนี้เราจะเข้าปีสามแล้ว คงมีโอกาสได้ยินกับหูตอนไปฮอกมีดส์"
"ลูเซียสฮะ"
"ชั้นไม่เป็นไรแล้ว"
เค้ากอดเซเวอรัสไว้ และเมื่อคลายอ้อมกอด ลูเซียสขมวดคิ้วเมื่อเห็นบางสิ่งที่ซอกคอของเด็กชาย...
....รอยช้ำน่ากลัว....
แต่เซเวอรัสเหมือนจะรู้ตัวและไม่ต้องการให้ใครเห็น เค้ากระชับคอเสื้อไว้แน่น และดวงตาบอกชัดว่ามันเป็นความลับ...
****************************************************
มีหลายอย่างที่เค้ายังไม่ยอมบอกให้ใครรู้...
ตอนที่แม่ไปส่งเค้าที่สถานีรถไฟนั้น เป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะอยู่บ้านของเรา เซเวอรัสไม่รู้เลยว่าแม่ไป จนเมื่อกลับบ้านหลังปิดเทอมวันคริสมาสต์ หลวงพ่อเอรีสจึงบอกว่าแม่จะไม่กลับมาอีกแล้ว ทำไมแม่ทิ้งเค้าไป ทิ้งเค้าไว้กับพ่อ... เค้ารู้ในภายหลังว่าแม่ได้ไปเพราะแม่ต้องไปตามหาคนที่ฆ่าตากับยาย อันที่จริงแม่หนีไปเพราะกลัวว่าคนที่ตามหาแม่จะฆ่าเค้าและพ่อ แม่เสียสละมาก... เซเวอรัสไม่เคยเห็นตากับยายของตัวเอง แต่เค้ารู้ว่าแม่จะรู้เรื่องของเค้าเสมอถ้าเค้าตอบจดหมายของแม่ผ่านนกฮูกที่นำจดหมายของแม่มาส่ง มันเต็มไปด้วยหยดน้ำตาของแม่ ความเจ็บปวดที่แม่ไม่อยู่มีน้อยกว่าความเจ็บปวดที่เห็นน้ำตาของแม่ เพราะงั้นเค้าจะไม่ทำให้แม่เป็นห่วง ทุกครั้งที่ตอบจดหมายของแม่ เค้าจะเล่าแต่เรื่องดีๆ ให้แม่ฟัง
แม่ไม่รู้บางสิ่งที่เกิดกับเค้า!
วันนั้นเป็นวันปิดเทอมภาคฤดูร้อน พ่อที่เมามากได้มาหาเค้าที่ห้องในคืนหนึ่ง กับคำพร่ำรัก กับความรู้สึกที่แท้จริงที่ไม่ต้องการจะเสีย แต่ทำไม่ได้เพราะไม่ต้องการเสียลูก สัญญากันแล้วว่าจะปกป้องลูก... เซเวอรัสเข้าใจความหมายของพ่อชัดในวันที่ลูเซียสตอบเกี่ยวกับปัญญาโลกแตกที่พ่อมดศาสตร์มืดทุกคนต้องตอบเพราะเป็นหนึ่งในการเป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่แท้จริง
เครื่องบูชายันตร์ต้องเป็นพรหมจรรย์!?
แม้จะไม่รู้ว่าใครคือคนที่ใช้เค้าเป็นเครื่องสังเวย แต่พ่อก็ได้ตัดทางของมันในคืนนั้น วันที่เค้าอายุเพียงสิบสองปี... ไม่มีทางขัดขืน... หลังจากกำปั้นทึ่ทุบลงมาจนสะลึมสะลือ... พ่อได้ปล้นเอาพรหมจรรย์ของเค้าไปในคืนนั้น และพ่อก็เปลี่ยนไป เป็นโหดร้ายกับเค้า ทุบตีเค้าและทำให้เค้ากลายเป็นสินค้า... จากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งในปีถัดมาหลังจากที่แม่ตาย
เค้าไม่เคยบอกแม่ก่อนที่เธอจะตายว่าเค้าถูกพ่อข่มขืน!
และจะไม่บอกใครว่า พ่อขายเค้าแบบไหน!?
กับลมหายใจหอบลึก... จอมมารนำเค้ากลับมาสู่พื้นที่เยือกเย็น เซเวอรัส สเนปสั่นเมื่อพบว่าโวลเดอร์มอร์เข้าไปในจิตใจของเค้ามากเพียงไร!? ชายร่างผอมสูงหลังหน้ากากกำลังมองตรงมา หน้ากากของเค้าไม่เหมือนหน้ากากของผู้เสพความตาย มันเหมือนขี้ผึ้ง ดวงตาของเค้าเหมือนเต็มไปด้วยเส้นเลือกฝอยมากมายที่แตกตัว มันจัดเจนในความมืดเมื่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้
"เจ้ายังคงรักพ่อของเจ้าทั้งๆ ที่เค้าทำร้ายเจ้า" เค้ากระซิบ "เจ้าพยายามที่จะรักพ่อหลังจากที่เจ้าเสียแม่ เพราะเค้าไม่เหลือใครแล้วนอกจากเค้า หรือเพราะถือว่าเค้าเป็นคนแรกที่ได้ร่างของเจ้าไปกันแน่... เซเวอรัสที่น่าสงสาร"
เซเวอรัสถอยกรูดไปอย่างเสียขวัญ ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำพูดใดๆ เค้ามองหาใครซักคนที่จะช่วยเหลือ ไม่มีใครในห้องนอกจาก..
"นายท่าน..."
"ว่าไง ลูเซียส"
"เค้าอยากเปลี่ยนแปลงมันครับ"
"เป็นสาวกของข้า เพราะหวังให้ข้าเปลี่ยนแปรงเจ้ารึพ่อหนุ่ม"
"ครับ" เสียงนั้นเย็นชา
"เด็กอายุสิบห้า! เนี่ยนะ!" เสียงของโวลเดอร์มอร์มีรอยเย้ยหยัน บุรุษผู้นี้เมื่อสองปีก่อนนาซิสซายังเรียกชื่อเค้าให้ฟังอยู่ แต่ตอนนี้สิ ทั่วทั้งโลกเวทมนตร์ไม่มีใครกล้า "ข้าไม่เห็นว่าเค้าอยากจะเปลี่ยนนะ!"
"เค้าอยากเปลี่ยนมัน แต่เค้าอาจจะไม่รู้"
"เค้าเป็นของเจ้า"
คำตอบเรียบง่าย แต่ลูเซียสได้รู้แล้วว่าเซเวอรัสเป็นอิสระ... อย่างน้อยก็ตอนนี้!
ในคฤหาสมัลฟอย... เซเวอรัสรับชามาดื่มด้วยมือที่สั่นเหมือนตอนที่เค้ารับชาจากบาร์ตี้ เคร้าซ์... ลูเซียสมองดูเด็กหนุ่มอย่างเห็นใจ เค้ารู้ว่าเค้าไม่ควรทำ แต่การเป็นผู้เสพความตายคงดีกว่าการเป็นโสเภณีเด็กเป็นแน่ เพราะเซเวอรัสทุกข์ทรมานกับมัน ไม่ได้สนุกซะหน่อย...
สำหรับเซเวอรัส... แม้จะเจ็บที่มีคนรู้อดีตของเค้ามากขึ้น แต่ลูเซียสคือคนที่นำเค้าออกมาจากการรุมย่ำยีนั่น ถ้าไม่แล้ว คืนนี้เค้าคงได้นอนกับผู้ชายรวดเดียวสี่คนแล้ว! แม้ลูเซียสจะเปลี่ยนไปมาก ดูหยิ่งและภาคภูมิขึ้น แต่ภายในเค้าเป็นคนเดิม
"ลูเซียส..." กับเสียงร้ำไห้ที่ไม่มีใครได้ยินนอกจากชายผมสีเงินตรงหน้า เซเวอรัสอ่อนแอราวกับเด็ก "ขอบคุณที่มาช่วย!"
"ไม่เป็นไรหรอก" เสียงนั้นอ่อนโยนขัดกับท่าทางเย็นชา มือลูบหัวอย่างเมตตาจนเซเวอรัสรู้สึกได้ "คืนนี้เธอนอนที่นี่เถอะ แล้วกลับไปที่โรงเรียนซะ เรื่องร่างกายของเธอ ชั้นขอซื้อจากพ่อเธอแล้วและจะเอาเงินไปให้เค้า" ลูเซียสพูดพลางลูบที่ซอกคอเบาๆ "ยุงมักเกิ้ลนี่กัดเจ็บชะมัดเลย"
"ยุงที่ไหนก็เหมือนกันทั้งนั้นและ" เซเวอรัสตอบด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา "มาสิ ผมจะดูให้!"
เสื้อคลุมถูกถอดออก เผยผิวขาวซีดที่มีปื้นสีแดงเต็มไปหมด ดูแทบไม่เชื่อว่าเป็นยุงกัน มันเหมือนรอยกัดของแมลงมีพิษมากกว่า แต่เซเวอรัสสาบานได้ว่ามันคือยุง เพราะตอนที่ลูเซียสกับนาซิสซาไปพาเค้าออกมาจากที่นั่น เซเวอรัสอายจนไม่กล้าสู้หน้าและวิ่งหนีกลับบ้านไปโดยไม่พูดอะไร ทว่า... ไม่กล้าเข้าบ้าน... เด็กหนุ่มนั่งร้องไห้ที่ริมคลองเน่าเหม็น และไม่นานลูเซียสและนาซิสซาก็มาเจอเข้า ทั้งคู่พยายามกล่อมให้เค้าไปพบจอมมาร ตอนนี้เซเวอรัสขำออกมาเมื่อนึกถึงตอนนั้น ลูเซียสที่กำลังกล่อมเค้าพลางตบยุงเป็นระยะ และนาซิสซาที่เอามือปัดยุงไปทั่ว แต่ก็ไม่บ่นซักคำ
"ขำอะไร" ลูเซียสหน้าแดงกล่ำขณะหันหลังมาคุยกับเด็กหนุ่มที่กำลังทายาให้ "มีหน้าที่ทายาก็ทาไปสิ!"
"ผมกำลังคิดว่า... เด็กที่เกิดและโตในสลัมอย่างผมเนี่ยหนังหนาจนยุงกัดไม่เข้า.. หรือว่าผิวคุณหนูของลูเซียสกับนาซิสซามันบางเกินไปกันแน่"
"พูดถึงผิวคุณหนู... นาซิสซาตอนนี้อาจจะกำลังมีลิลี่ทายาให้อยู่เหมือนกันมั้ง"
"เรื่องลิลี่น่ะ..."
วางใจเถอะ... ชั้นกำชับนาซิสซาไม่ให้บอกใคร แม้แต่ลิลี่" เค้าถอนใจก่อนพูดอย่างจริงจัง "แต่ยังไงเธอก็ต้องบอกลิลี่...! เรื่องพรรค์นั้นไม่มีทางปกปิดใครได้ตลอดหรอกนะ! โดยเฉพาะคนที่อยู่ในโลกมักเกิ้ลน่ะ!"
"ผมจะบอก... ในซักวัน!"
เซเวอรัสหลับไปแล้ว... อีกครั้งที่ลูเซียสเปิดดูบันทึกนั่น หลังจากรับฝากสมุดกิ๊กก๊อกเล่มหนึ่งจากจอมมาร.... สมุดที่ถูกทำขึ้นในโลกมักเกิ้ล จอมมารที่เกลียดมักเกิ้ลเข้าไส้นี่นะ!? แต่ยังไงก็ตาม เค้าไม่กล้าเปิดดูซักหน้าเดียว! ของๆ จอมมาร อย่าว่าแต่เปิดดูเลย ขนาดจะจับยังต้องใส่ถุงมือกันเวทย์
เค้ากลัวเกินไปรึเปล่า... บางทียังสงสัย!?
กลับมาที่สมุดบันทึกที่ก๊อดริก กริฟฟินดอร์จงใจส่งมอบให้ลูกชาย ลูเซียส เกล็นเดล กริฟฟินดอร์... เค้าอ่านมันไปเพียงสามบทนับแต่ได้มา มันมีแต่เรื่องของโลกิทั้งๆ ที่น่าจะเป็นคนละสมัยกัน แต่เวลาที่เค้ามีทุกข์เค้าต้องการโลกิมากกว่าใคร จึงช่วยไม่ได้ที่จะเปิดออกอ่านอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของโลกิ!?
ลูเซียสมายืนที่ฮอกวอร์ต แต่ไม่ใช่ฮอกวอร์ตสมัยโลกิ มันเก่ากว่านั้น!? เค้าเห็นนักเรียนในชุดโบราณที่ตอนนี้เลิกใช้ไปแล้วเดินเต็มไปหมด และเห็นผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเค้าสองคนเดินคุยกันอย่างสนิทสนม คนหนึ่งคือคนเผือกที่มีผมสีขาวหยิกเป็นคลื่นและรวบไว้ข้างหลังผูกริบบิ้นสีแดงและตาสีแดงเหมือนกระต่าย อยู่ในชุดสีขาวขลิบทอง ส่วนอีกคนอยู่ในชุดสีดำ ผมดำเป็นเงายาวถึงกลางหลังและดวงตาสีทองกระจ่างเหมือนมานาเกีย ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างออกรส และจากการพูดคุยลูเซียสสามารถรู้ได้ว่าพวกเค้าเป็นใคร
ลูเซียส เกล็นเดล กริฟฟินดอร์ และ เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟ!?
นั่นทำให้เค้าตื่นเต้น เค้ากำลังมองดูชายสองคนที่ชื่อเหมือนเค้ากับเพื่อนสนิทของเค้า แถมทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน และทั้งคู่มีความสำคัญมากเกินกว่าจะถูกละเลย ลูเซียส กริฟฟินดอร์คือบิดาแห่งวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ถ้าไม่มีเค้าทุกอย่างในอดีตคงกลายเป็นนิทานเหมือนหลายเรื่องในขณะนี้เช่นเครื่องรางยมทูตที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่เพราะไม่มีการค้นคว้าทางประวัติศาสตร์เท่าที่ควร บุตรแห่งกริฟฟินดอร์ผู้นี้ทำให้เราในยุคถัดมามีโอกาสเรียนรู้อดีตเพื่อเข้าใจปัจจุบันและอนาคต น่าเสียดายที่หลักฐานที่เกิดจากการค้นคว้าของท่านตกมาถึงยุคนี้น้อยมากเพราะถูกเก็บดีเกินไป บ้างก็ถูกเผาไปในส่งคราม แต่ถ้าเรียนประวัติศาสตร์เวทมนตร์แล้วไม่พูดถึงย่อมไม่ได้ ศาสตราจารย์บินส์มักกล่าวถึงอย่างชื่นชมเสมอซึ่งทุกคนจะได้ยินถ้าไม่หลับในวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ซะก่อน
ขณะที่เซเวอรัส ฮัพเฟิลพัฟคือบิดาคณิตศาสตร์ของโลกเวทมนตร์... น่าเสียดายที่วิชาตัวเลขมหัศจรรย์ไม่ให้วิชาบังคับ ทำให้พ่อมดส่วนใหญ่บวกลบคูณหารเป็นอย่างเดียว... ทั้งที่วิชานี้มีความสำคัญมากสำหรับคนที่จะเรียนมหาเวทย์ขั้นสูง! คิดไปก็เสียดาย สิ่งที่เค้าพบและสอนนั้นมีคนในโลกเวทมนตร์ให้ความสำคัญน้อยมาก ขณะที่พวกมักเกิ้ลกับได้เรียนทุกอย่างเหมือนที่ศาสตราจารย์พยายามสอนทั้งๆ ที่พวกมันไม่รู้จักเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟด้วยซ้ำ!
ลูเซียสจำได้เมื่อตอนที่เค้าฆ่าภารโรงมักเกิ้ลโดยไม่ตั้งใจเพราะถูกพบขณะที่มองดูสิ่งที่อยู่บนกระดานดำของนักเรียนมักเกิ้ลระดับมัธยมและตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น! คณิตศาสตร์ระดับสูงที่ในโลกเวทมนตร์นั้น จะมีก็แต่ในตำราที่เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟินพัฟเขียน เป็นวิชาบังคับของพวกมักเกิ้ล!? น่าขำอาเธอร์ วิสลี่ย์ผู้โง่เง่าเหลือเกิน! เค้าไม่มีวันรู้ว่าทำไมเครื่องบินจึงบินได้ทั้งๆ ที่มักเกิ้ลไม่มีเวทมนตร์! ความลับของความเจริญรุ่งเรืองของมักเกิ้ลก็คือคณิตศาสตร์นั่นเอง!
ลูเซียส มัลฟอยถึงกับน้ำตาซึมเมื่อมีโอกาสได้ฟังคำบรรยายของปรมาจารย์แห่งคณิตศาสตร์ของโลกผู้วิเศษ เค้านั่งยองย่อเหนือพื้นที่เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟกำลังเขียนด้วยกิ่งไม้ บรรยายกฏสัมพันธ์ของตัวเลขและองศาของมุมให้ลูเซียส กริฟฟินดอร์ฟัง มันเป็นสิ่งที่สมัยเรียนนั้นเรียนยังไงก็ไม่รู้เรื่อง! เพราะอาจารย์ที่สอนวิชานี้ในฮอกวอร์ตมีความเข้าใจไม่มากพอ แต่เมื่อฟังจากปากของผู้บุกเบิกวิชาตัวเลขมหัศจรรย์แล้วมันง่ายเหลือเกิน!
แต่.. เดี๋ยว!? ทำไมวันนี้เค้าถึงได้รู้เรื่องนี้ล่ะ!?
คำตอบกระจ่าง! ทั้งหมดเป็นความทรงจำอีกทีหนึ่ง! มันถูกเก็บไว้ในห้องต้องประสงที่โลกิเข้าไปพบและที่นั่นมีอัสลันเทียอยู่ด้วย!
"โลกิ สูตรคณิตศาสตร์เมื่อกี้นี้!?"
"ใช่" โลกิตอบเบาๆ "มันคือคำตอบของกระดาษแผ่นนี้ ถ้ามีใครเข้าใจมันจะเป็นเรื่องน่ากลัวมาก เพราะนั่นหมายความว่าฮอกวอร์ตจะไม่ใช่สถานที่ๆ ปลอดภัยที่สุดในโลกอีกแล้ว!"
ลูเซียสตะลึง ขณะที่จอมมารหาวิธีแทบตายที่จะฝ่าการคุ้มกันด้วยเวทย์ของฮอกวอร์ต แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่รู้ความลับของเวทมนตร์นั่น
แต่ตอนนี้ความลับนั่นกำลังอยู่ในหัวของเค้างั้นเหรอ...
TBC.
ความคิดเห็น