ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Harry Potter]กรง(ฉบับดั้งเดิม/วาย)

    ลำดับตอนที่ #3 : ในห้องสีขาว(-_-)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 64


    ...............อยากมีความสุข อยากมีความสุขอีกสักครั้งหนึ่ง................
    .............เพราะมีเธอ เพราะมีรอยยิ้มชวนละลาย ในความทรงจำอันแสนลึกล้ำ...............
    ...............เพราะรักเธอ เพราะคิดถึงเธอ ชั้นจึงไม่เคยที่จะออกจากกรงไปได้เลย............
    .............ชั้นยอมอยู่ในพันธนาการที่เรียกว่ากรง กรงที่ชั้นสร้างขึ้นเพื่อขังหัวใจ..........
    .....................หัวใจของชั้น จิตวิญญาณของชั้น ในกรง.......... 
    .............เพื่อให้มันเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว..............

    .................ลิลี่ เอฟเวนส์..................
     

     



    เปลือกตาสีเทาค่อยๆ เปิดออกช้าๆ ก่อนที่มือเรียวบางจะค่อยๆ ยกขึ้นมาลูบหน้าหลังจากที่ตื่นจากฝัน นาน.........นานมาก กว่าจะยันตัวขึ้นนั่ง ที่นี่ไม่มีอะไรที่น่าอภิรมย์นัก เป็นห้องโล่งๆ ทุกอย่างเป็นสีขาวโพลนไปหมด ไม่ว่าจะเตียง ตู้ โซฟาข้างหน้าต่าง หรือแม้แต่ห้องน้ำ มีหน้าต่างติดลูกกรงและร่ายอาคมอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการหลบหนี 

    เซเวอรัส สเนปพาร่างที่บอบช้ำของตัวเองไปที่ประตู มือผอมๆ ยกขึ้นคลำกลอนประตู และโดยสันชาติญาณของพ่อมดศาสตร์มืด ร่างบางรู้ทันว่าที่นี่มีการลงอาคมป้องกันไว้อย่างแน่นหนา 

    ไม่มีอะไรที่ช่วยให้หนีไปได้ ไม่มีอะไรที่จะใช้ฆ่าตัวตายได้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำหนดไว้แล้วว่าจะให้เค้าใช้เวลาที่เหลืออยู่ในสภาพใด และห้องสีขาวก็แทบจะทำให้เค้าสติแตก เพราะมันเหมือนกับห้องที่อยู่ในโรงพยาบาลบ้า 

    ดวงตาสีดำที่จ้องไปที่หน้าต่างที่ติดลูกกรงยิ่งทำให้เค้าโหยหาอิสระภาพอย่างทรมาน...................

    '...............ไม่ต้องดิ้นรนหรอกครับศาสตราจารย์.................. ไม่นานคุณก็จะได้พักผ่อนอย่างสงบ................'

    "ปัดโธ่เว้ยยย!!!!!!" ตะโกนสุดเสียงพร้อมกับเหวี่ยงเท้าไปที่ประตูสุดแรง (เจ็บเท้าแทบตาย)ให้ตายสิ เค้าทำบ้าอะไร ร่างบางเดินพล่านราวกับเสือติดจั่นอยู่ในห้องสีขาว ก่อนจะทรุดลงกับพื้นเพราะรู้สึกร้าวที่เท้าข้างที่เตะประตูเมื่อกี้

    ดวงตาสีดำมองไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ท้องฟ้าสีคราม สเนปจ้องไปที่จุดนั้นนานแสนนาน จนในที่สุดอารมณ์ที่เดือดพล่านก็สงบลงช้าๆ สีฟ้านั้นสงบเหมือนตาสีฟ้าของดัมเบิลดอร์ คนๆ หนึ่งที่ทำให้เค้าสงบลงได้ และที่สุดปลายฟ้า เค้าเห็นเงาเลือนลางของหญิงสาว

    โดยไม่รู้ตัว............ น้ำตาใสๆ ของเค้าไหลลงมาอาบแก้ม.................


    ********************************************************



    "เป็นไงบ้าง" 

    เสียงของแฮร์รี่ดังขึ้นทำให้รอนหันมามองอย่างพิศวง "นายคงไม่ได้ถามถึงชั้นหรอกมั้ง" 

    แฮร์รีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี 

    "ที่ถามถึงน่ะ ทั้งนายทั้งหมอนั่นนั่นแหละ" 

    เดรโกฟื้นมาได้ 3 วันแล้วแต่ยังไม่ยอมพูดอะไรกับใคร แฮร์รี่ และ รอน เปิดประตูเข้ามาในห้องคนป่วย ทำให้เฮอร์ไมโอนี่กับจินนี่ถึงกับร้องออกมาอย่างยินดี "แฮร์รี่............ มาเยี่ยมเดรโกเหรอ" 

    "อื้อ........... นายเป็นไงบ้าง"

    "..............................................." 

    รอนถอนใจ "เสียเวลาเปล่า.............หมอนั่นไม่พูดอะไรกับใครเลย เอาแต่นั่งพิจารณาดอกลิลี่"

    "ดอกลิลี่" แฮร์รื่เลิกคิ้วอย่างพิศวง "นี่นายมีรสนิยมอย่างงั้นเองเหรอ"

    แฮร์รี่ก้มหน้าลงดมกลิ่นของดอกลิลี่ ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่ชื่อเหมือนแม่ของเค้า ก่อนจะนิ่วหน้าอย่างครุ่นคิด 

    .............เหมือนเคยได้กลิ่นแบบนี้ที่ไหนมาก่อน..........

    "เป็นอะไรไปเหรอแฮร์รี่" จินนี่ถามอย่างกังวล

    "พอดี............ ชั้นรู้สึกว่ากลิ่นนี้คุ้นๆ น่ะ"

    รอนถอนใจอย่างกระอักกระอวน มันต้องคุ้นอยู่แล้วล่ะ ก็เรียนกับหมอนั่นมาตั้ง 6 ปี..............เจ้าของกลิ่นนี้มีแค่คนเดียวในฮอกวอสต์............ 

    ........................สเนป........................

    "กระทรวงเวทมนตร์ตามหาสเนปกันให้วุ่น จนป่านนี้ยังไม่พบตัว" เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรายงาน แฮร์รี่สังเกตเห็นวูบหนึ่งว่าเดรโก มัลฟอยเหมือนจะมีปฏิกิริยาขึ้นมาวูบหนึ่ง "บางคนตั้งข้อสังเกตว่า เค้าคงตายไปแล้ว แต่กระนั้นก็ยังมีคำสั่งให้ค้นหาตัวต่อไปตราบเท่าที่ยังไม่พบศพ เธอก็รู้ ว่า............"

    ดวงตาสีน้ำตาลหลุบลง "พวกเค้ากลัวว่าสเนปจะทำให้โวลเดอร์มอร์กลับมาได้อีกครั้ง"

    "เดรโก" จินนี่อ้าปากค้าง เมื่อร่างผอมสูงลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งเข้าไปจับแขนไว้ เล่นเอารอนหึงไปวูบหนึ่งเหมือนกัน 

    "กลับไปที่เตียงเถอะ............ เธอยังไม่หายดีนะ" 

    ไม่มีคำตอบจากเด็กหนุ่ม มีเพียงตาสีเงินที่มองไปไกลลิบโลก ในหัวมีเพียงภาพเงาดำและกลิ่นดอกลิลี่ที่ขจรขจาย

    "ชั้นรู้ว่าเธอเป็นห่วงสเนป เอ่อ.........ศาสตราจารย์สเนป เพราะว่าเธอชอบเค้า แล้วเค้าก็ปกป้องเธอ" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางกลอกตาไปทางแฮร์รี่ เพราะกลัวจะไปกระทบกระเทือนความรู้สึกของเพื่อนรัก "แต่เค้าไม่เป็นไรหรอก เค้าเก่งจะตาย"

    "วันเกิดเค้า.................."

    "เดร..............." จินนี่พิศวง เป็นครั้งแรกนับแต่ฟื้นสติ ที่เดรโกพูด "อีกสามเดือน............. ศาสตราจารย์สเนปจะอายุครบ 39 ปี" 

    แฮร์รี่เดินออกไปจากห้องเฉยๆ เพราะไม่อยากฟังเรื่องของสเนป ทำให้พลาดบางสิ่งไปอย่างน่าเสียดาย คำพูดที่ทำให้ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่ รอน และจินนี่เบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง

    "ศาสตราจารย์สเนปชอบดอกลิลี่มากเลย............... ถ้าให้เค้าเป็นของขวัญวันเกิดล่ะก็เค้าต้องดีใจมากแน่ๆ"

    "ชอบดอกลิลี่" รอนอ้าปากค้าง "สเนปนี่นะ"

    "ร้องเพลงเพราะด้วย" เดรโกพูดอย่างเลื่อนลอย "น่าเสียดาย.......... ในคืนวันคริสต์มาสของทุกปีคนที่ได้ฟังเค้าร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าทุกปีมีแต่ดัมเบิลดอร์"

    ทุกคนยืนอึ้ง............. ไม่มีใครเคยคาดคิดสิ่งที่ได้ยิน.................... สเนปร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า ชอบดอกไม้ ฟังดูเหมือนเรื่องตลกที่เป็นไปไม่ได้ แต่จากท่าทางของเดรโก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ล้อเล่น

    ...........................สายลมพัดผ่าน พัดเอาความทรงจำในอดีตมาให้..................................

    ในช่วงเวลาที่เป็นนิรันดรมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอ จะมีซักวันมั้ยที่คนอื่นๆ จะได้ซึมซับความทรงจำดีๆ เหล่านั้นไว้เหมือนที่เค้าได้ซึมซับมัน

    ........................................................................................................................

    ............................................................................................

    ..................................................................

     

     



    นาน....................... นานแค่ใหนแล้ว............... กี่วันแล้ว......................? ที่เค้าถูกขังไว้ในห้องสีขาวนี่ 

    ตอนนี้ ยาสำหรับกินเพื่อแทนอาหารได้หมดไปแล้ว เเละเซเวอรัสก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีอะไรเหลือ นอกจากกากเดนแห่งร่างอันปรักหักพังที่ไม่ช้ามรณะกาลก็จะซื้อเอาไป 

    เว้นแต่......................... พอตเตอร์จะกลับมา........ 

    พอตเตอร์.......................? 

    มือเรียวบางยกขึ้นเพื่อจัดการบีบคอตัวเอง น้ำหนักที่กดลงเรื่อยๆ บนลำคอทำให้อึดอัด แต่ไม่เป็นไรหรอก อีกนิดเดียวเท่านั้น เค้าก็จะสบายแล้ว....................

    แต่ไม่สำเร็จแฮะ.............

    เซเวอรัสหอบฮักๆ อย่างเหนื่อยอ่อน นี่คือการแก้แค้นสินะ พอตเตอร์.............. ทิ้งชั้นไว้ในกรงนกที่ไม่มีทางออก แล้วแกล้งลืมให้อาหาร จะตายเองก็ตายไม่ได้

    นี่มันนานเท่าไหร่........... กี่วันแล้วที่เซเวอรัสเดินไปมาอย่างว้าวุ่นอยู่ในห้องสีขาวนี่ จนกระทั้งในที่สุดก็ล้มลงนอนอย่างหมดท่า.............. นี่คือความคิดของเค้าก่อนที่สติจะดับวูบลง 

     

     

     



    น้ำเย็นไหลจากฝักบัวมาต้องร่าง เซเวอรัสหนาวสะท้าน และสะดุ้งตื่นจากการหลับไหล ลืมตาขึ้นมาเพียงเพื่อจะพบว่า ตัวเองนอนอยู่บนพื้นกระเบื้องสีขาว ในห้องน้ำ แฮร์รี่ยืนค้ำอยู่เหนือตัวเค้าและมองลงมาอย่างเย็นชา 

    "อาบน้ำ ล้างหน้า แล้วแปรงฟันให้เรียบร้อย ผมจะรอข้างนอก" 

    แฮร์รี่เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูปัง ความเครียดที่สะสมทำให้เค้ารู้สึกอยากจะตวาดไอ้เด็กระยำนั่นให้สุดเสียง แต่แทนที่จะทำแบบนั้น เซเวอรัสกลับแค่ยันตัวขึ้นนั่ง ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อทำตามคำสั่ง เพราะในหัวเค้ามันมึนชาไปหมด

    สายน้ำที่ไหลผ่านร่างกายดูจะทำให้อะไรๆ ดีขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้มีสติรู้คิด ความจริงแล้วเค้าหนีออกไปไม่ได้ไม่อยากเท่าไหร่หรอก อาจจะต้องเล่นละครนิดหน่อย แล้วก็ฉวยโอกาสตอนเผลอ ใช่......... เซเวอรัสหลับตาลง.......... ตอนนี้เค้าชักจะปลอดโปร่งขึ้นมาแล้วจริงๆ สิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×