ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กาล..ภพ

    ลำดับตอนที่ #36 : กรรมที่เคยฆ่าเต่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 83
      2
      26 เม.ย. 58

     

    กาล..ภพ
          ตอน ๓๖ : กรรมที่เคยฆ่าเต่า

     

                “เห็นว่าเดี๋ยวนี้กำลังสะสมเรื่องผี”

                ฉันชะงักค้างขณะกำลังตักเอามาม่าคัพนูดเดิ้ลที่ให้พี่ศักดิ์จอดซื้อให้กินในปั๊มน้ำมันหันมามองหน้าคู่สนทนา

                “ก็ไม่เชิงสะสมหรอกมั้งพี่ ดันอุตริอยู่ดีไม่ว่าดีน่ะสิ แต่บังเอิญมันมีแต่ผี แล้วก็เป็นผีนรกเสียด้วย ผีธรรมดาไม่ค่อยเห็นมีนะ”

                ฉันตอบไปตามตรง วันๆ เจอแต่นรกขุมนั้นขุมนี้จนชักจะเอียน เรื่องชั่วๆ นี่มันก็คล้ายกันไปหมด เวลาตัดสินโทษนี่ทำไมแตกต่างกัน

                “จะฟังหมดไหมล่ะ นรกมีตั้ง แปดร้อยกว่าขุม แบ่งเป็นขุมใหญ่แปดขุมแล้วย่อยลงไปอีก ลึกที่สุดก็ขุมอเวจี”

                ฉันฟังพี่ศักดิ์อธิบายเรื่องนรกเงียบๆ เขี่ยกุ้งแห้งตัวจิ๋วที่กำลังพองน้ำจนนิ่มเข้าปาก อืมมม แปดร้อยกว่าขุมงั้นรึ ดูท่าฉันคงจะแก่ตายไปก่อนซะละมัง ไม่ได้การ คงจะต้องวางแผนชีวิตใหม่

                “สงสัยต้องกำหนดเวลาล่ะพี่ ว่าจะฟังถึงแค่ช่วงเวลานี้ อันที่จริงก็อยากจะเลิกแล้วเหมือนกันนะ แต่ก็กลัวว่าจะติดหนี้เขา ตอนนี้มันมีหลายเรื่องทบกันเป็นดินพอกหางหมูไปหมดจนไม่รู้จะจัดการมันยังไง เบื้องต้นก็แค่จดบันทึกไว้ กำหนดเส้นตายถ้าหมดเวลาก็เลิกฟังไปเรียบเรียงเนื้อหา แล้วก็หาอะไรอย่างอื่นที่มันจรรโลงใจบ้าง อย่างวันนี้ว่าจะไปฟังหลวงตาไมท่านเทศน์แถวสมุทรสาครพี่สนใจไหม?”

                พี่ศักดิ์ปฏิเสธที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกัน ฉันตัดสินใจนอนค้างที่บ้านเบญจาก่อนออกเดินทางในวันถัดไปเพราะเห็นว่าเป็นเวลาดึกพอสมควร หากจะเสียเวลาขับไปขับมาก็คงจะไม่ได้นอนกันพอดี สู้นอนให้เต็มที่แล้วค่อยออกทีเดียวพรุ่งนี้เช้าน่าจะดีกว่า

                ***  ***  ***  ***  ***  ***  ***
     

                ออกเดินทางกันแต่เช้าพร้อมเบญจา เพื่อไปฟังเทศน์ธรรมของหลวงตาไม ซึ่งปกติท่านจะอยู่วัดป่าในจังหวัดนครราชสีมา วันนี้ท่านมาใกล้ๆ จึงถือโอกาศแวะไปฟังเสียหน่อย เนื้อหาวันนี้ของหลวงตา เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจท่านเล่าถึงเรื่องราวความซนในวัยเด็ก และกรรมที่ท่านทำโดยถูกบังคับ นับว่าท่านโชคดีนักที่ได้ชดใช้กรรมและได้ขออโหสิกันในชาตินี้ แต่พวกเราที่ไม่ได้ปฏิบัติเช่นท่าน คงจะหาโอกาศเช่นนั้นได้ยากนัก

                ท่านเล่าถึงตอนที่ท่านป่วยเข้าโรงพยาบาลในปี ๒๕๔๐ ท่านเล่าว่าอาการของท่านจะนอนก็ไม่ได้ ฉันได้เพียงแค่วันละคำสองคำ มันกลืนไม่ลงมันทรมาณ ไข้ขึ้นสูงอยู่ตลอดเวลา ในเมื่อนอนไม่ได้ท่านก็นั่ง เป็นหนักเกือบสองสัปดาห์ หน้าอกเหมือนกับจะระเบิดเหมือนมีอะไรมาบีบมาเผา เหงื่อแตกไม่หยุด อันที่จริงมันไม่ใช่เหงื่อหรอก  มันเป็น ยางตาย’ (ภาษาอีสาน)

                สุดท้ายที่ทำอะไรไม่ได้แล้วท่านจึงตัดสินใจตายเป็นตาย นั่งภาวนาดูแต่ลมหายใจเข้าออก ภาวนาอยู่อย่างนั้น ถ้ามันจะตายก็ให้มันตายไปเสีย

                หลวงตาท่านนั่งสมาธิภาวนาเตรียมตัวตาย ภาวนาไปเรื่อยจนถึงเที่ยงคืน เกิดภาพนิมิตเห็นเต่ามานอนหงายดิ้นกะแด่ว กะแด่วอยู่ตรงหน้า หน้าอกมันแตกเลือดเต็มนองพื้นมันดิ้นใจจะขาดนะ 

                พอเห็นเต่าตัวนั้นเท่านั้นแหละ นึกไปตอนตอนเด็กๆ เคยเอาสันมีดเนี๊ยะ ตีอกเต่า เพราะฆ่าเต่าไม่เป็น แต่มีพ่อตาคนหนึ่งบอก

    “ตีหน้าอกมันลูก” 

    เราก็จัดเลย ฟาดป๊าปมันก็ไม่ยอมตาย ตีมันซ้ำจนกว่ามันจะตายจนหน้าอกมันแตก พอนิมิตฉายเห็นถึงช่วงตรงนี้เท่านั้นแหละโยมเอ๋ยยยย เหมือนเกิดกระแสดูดเข้ามาตรงหน้าอกเลย ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้เรากำลังชดใช้ให้เขาอยู่

    น้ำตาเกิดไหลด้วยความสงสารเต่าตัวนั้น ความไม่รู้เดียงสา ผู้ใหญ่สั่งให้ทำ เราก็ทำไปตามกิเลศ โดยไม่รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ ในวันนั้นที่เราต้องทำเพราะพ่อตาคนนั้นน่ะเขาบอกว่าวันนี้เราไม่มีอาหาร เราต้องเผาเต่าตัวนี้กิน ถ้าเรารู้ว่าต้องมาชดใช้กรรมถึงเพียงนี้เราจะไม่ยอมทำเด็ดขาด

    แกสั่งให้เราก่อกองไฟ แล้วก็ฆ่าเต่า ด้วยความที่เราเด็กเนอะ เขาบอกให้เราทำเราก็ทำไปตามนั้น เขาบอกให้ฆ่าให้เอามีดคอยฟันหัวของมัน ฟันคอของมัน เราก็ยืนรอมันนิ่งๆ พอมันโผล่หัวออกมา เราจะฟันมันก็หดหัวกลับลงไป เลยไม่รู้จะไปฟันมันตรงไหน ฆ่ามันไม่ได้เสียที ทั้งเหนื่อยทั้งหิวข้าวจนตาลาย

    จนพ่อตาต้องมาเร่งแนะบอกให้เราฟันตรงอกมัน มันจะได้ตาย

    นี่ ดู๊ ดู มาสอนให้เราฆ่ามันอีกแน่ะ ดูตอนนี้มันจะมาฆ่าเราแล้วเห็นไหม

    ตอนนั้นเราก็ทำตามที่เขาบอกนะ จับเต่าตัวนั้นหงายท้องเลย ฟาดด้วยสันมีดลงไป สันปังตอนี่แหละโพละลงไปเลย!!! หน้าอกมันแตกเลย เราถึงได้เจ็บอยู่ตอนนี้

    เห็นแล้วสงสารจับจิต ทำไม๊ ทำไมตอนนั้นเราถึงได้ไปทำเขาไว้แบบนั้น พาลนึกตำหนิไปถึงพ่อตาคนที่ใช้เรา ตอนนั้นเราเป็นเด็กเขาใช้เราก็ทำตามอย่างว่าง่าย ไม่ได้รู้เรื่องบาปกรรม สุดท้ายกรรมมันก็ตกอยู่ที่เราผู้ที่เป็นคนทำ

    พอนึกไปถึงตอนนั้น เต่ามันก็มองจ้องเราอยู่ พอเห็นน้ำตาเราไหล ตามันก็กระพริบปริบๆ ตามันก็เล็กๆ เนาะ พอน้ำตาตกลง เต่ามันก็ร้องไห้ เราก็ร้องไห้เหมือนกัน นั่งภาวนาอยู่แบบนั้นหนะ ต่างคนก็ต่างสงสารกัน

    พอหลังจากนั้นมาเพ่งที่หัวใจของตัวเอง ที่มันเจ็บมันปวดมันบีบ เห็นหัวใจมันทำงานนะ เวลามันบีบมันสูบเลือดมันมีเส้นเลือนผ่านมาทางนี้ ท่านทำท่าวาดผ่านจากทางด้านหน้าอกด้านขวา มันเป็นเส้นเลือดใหญ่ออกจากหัวใจมา ดำปื๊ดอยู่จุดหนึ่ง พองขึ้น พองขึ้น ขนาดเท่านี้ หลวงตาท่านพูดพร้อมยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ดูเทียบกับนิ้วหัวแม่มือ

    เส้นเล็กๆ จนเขียวปึด เหมือนมันใกล้ระระเบิด โอ๊ยมันปวดตรงนี้เอง วันนั้นหมอเอกซเรย์ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงตั้ง ๑๒ ครั้ง ไม่ยักเจออะไร อาจารย์หมอตั้ง ๗ คน ต่างก็ลงความเห็นว่าหลวงพ่อเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา

    “โอ๊ย หลวงพ่อไม่ได้เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวผมจัดยาแก้ปวดให้กลับไปฉันซักวันสองวันก็หาย”

    พอเราได้ยินอย่างนั้นแล้ว โอนึกว่าเขาจะส่งเราไปตายแล้ว” หลวงตาพูดพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก็เลยพูดเลยนะ

    “เอาล่ะ หมอ เป็นไข้อยากจัดยาก็จัดเถิด แต่ขออาตมาถามหน่อย อาตมาไม่ได้เรียนมานะ หมอก็ยืนเต็มอยู่ เวลาหัวใจมันทำงานมันจะบีบตัวอย่างนี้ใช่ไหม?พูดพร้อมกำมือแล้วยกนิ้วโป้งหุบเข้าขณะที่หลวงตาเทศน์อยู่

    “มันมีเส้นเลือดใหญ่อยู่ หัวใจผ่านมาใต้นมนี้ใช่ไหม มีไหม?” หลวงพ่อถามย้ำอีกครั้ง

    “ครับ มีครับ”

    “เออ ถ้ามีฟังนะ เมื่อคืนนี้ อาตมาเห็นไข้มันอุดอยู่ตรงนี้” พูดพร้อมกับชี้ลงใต้ราวนมด้านขวา

    “มันเป็นก้อนผสมกับเลือดจนดำแล้ว เหมือนกับลูกกระสุนมันอุดอยู่ตรงนี้ เวลาหัวใจมันสูบฉีดเนี่ย เลือดมันจืดๆ เลือดมันไปไม่ได้ ตรงเนี๊ยะ ตอนเนี้ย มันเขียวปึดเลย ขนาดนี้เนี่ย”  พร้อมยกนิ้วนิ้วเปรียบเทียบ “มันใกล้จะระเบิดแล้ว”

    “โอ๊ยย เอ็กซเรย์ใหม่”

    พอบรรดาอาจารย์หมอได้ยินอาตมาเล่าไปแบบนั้นต่างก็เข็นอาตมาไปเอ็กซเรย์อีกรอบ พอผ่านอุโมงเอ็กซเรย์ออกมาเท่านั้นแหละ

    “ผ่าตัดด่วน  หลวงพ่อผ่าตัดด่วนๆ!!”

    อาจารย์หมอคนเมื่อซักครู่ พูดขึ้นโดยที่ยังไม่ทันได้นั่งคุยกันเลย จะเอาอาตมาไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนั้นท่าเดียว เราได้แต่ยิ้มถามเขาไป

    “จะรีบไปไหนล่ะหมอ ใจเย็นๆ ก่อน ใจเย็นๆ” นี่คนป่วยเป็นเรานะ แต่ดูหมอเหมือนว่าจะเป็นคนใกล้ตายเสียเองอย่างไรอย่างนั้น

    “ใจเย็นไม่ได้แล้วหลวงพ่อ นี่ๆ ดูสิเส้นเลือดมันจะระเบิดแล้ว ถ้ามันระเบิดตอนนี้นะ ตายแน่”

    “เออน่า ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบผ่า”

    “ใจเย็นอะไรล่ะหลวงพ่อ  คนป่วยน่ะหลวงพ่อนะ จะให้ผมทำยังไง”

    “ยาดีๆ ที่ศิริราชมีบ้างไหม?”

    “ยาอะไรหลวงพ่อ”

    “เอ้า นี่เป็นหมอไม่ใช่หรือ?” ท่านพูดด้วยความตลก

    “ไขมันอุดตันก็เอายาละลายไขมันอย่างดี ผลเลือดตอนนี้มันไปทำลายตับ ตับมันก็สกัดน้ำตาลไม่ได้ ทำให้น้ำตาลขึ้นสูง โรคเบาหวานมาพร้อมกันกับอาการป่วย ก็เลยว่าขอยาลดน้ำตาลกับยาละลายไขมันนะ”

    “ครับๆ ยาสองตัวนี้ ไม่ผ่านะครับ” อาจารย์หมอรับคำรีบไปจัดยามาให้ตามอาตมาขอ

    พอได้ยาหมอก็ย้ายไปนอนห้องพิเศษแล้วก็นั่งภาวนาต่อ โอ๊ยย ทีนี้มันเบาลงเลยนะโยม เพียงสองชั่วโมงเท่านนั้นล่ะ หน้าอกนี้มันเย็นลงไป เย็นลงไป มันละลาย พอไขมันละลายเช้ามาวันใหม่ไปเอ็กซเรย์ดู เส้นเลือดเริ่มเป็นปกติ มันก็ไม่เจ็บไม่ปวดอีก

    นี่เห็นไหม อานิสงค์ของการภาวนา เห็นเต่า เห็นเจ้ากรรมนายเวร เขาร้องไห้ก็คงเมตตาสงสารเรานะ แต่มันเป็นกรรมที่เราต้องชดใช้ แม้จะทำไปเพราะไม่รู้ แต่กรรมก็คือกรรม

    พอเราได้เห็นกัน ก็เลยได้ขออโหสิกรรมแก่กัน นี่ละภาวนาไปเห็นกรรมมันถึงจะปลดกรรม อานิสงค์ของการภาวนา ไม่ต้องไปแก้ดวงแก้กรรมที่ไหน เราแก้ได้ที่ตัวเราเองนี่แหละ  

    ฉันนั่งฟังเทศน์ของหลวงตาจนจบ จึงชวนเบญจาไปเที่ยวต่อที่ตลาดน้ำอัมพวา เพราะเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกมาก ระหว่างขับรถก็นึกย้อนไปถึงเรื่องของหลวงตา

    ‘แล้วถ้าเราปฏิบัติไม่ถึงแบบหลวงตา เผลอๆ สงสัยคงต้องชดใช้กรรมจนตายกระมัง ยิ่งโง่ๆ อยู่เสียด้วยสิ ฮา ฮา ฮา’




    TALK: จริงๆ ผู้เขียนค่อนข้างชอบเรื่องกฏแห่งกรรมตั้งแต่เด็ก ทำไมถึงชอบก็ไม่รู้ รู้แต่ชอบอ่ะ อาจจะรู้สึกสะใจว่า กรรมสนองแล้ว ฮ่าๆ ซาดิส ประมาณนั้นละมัง
    สนใจในเรื่องทำสิ่งใด แล้วต่อไปจะพบกับสิ่งใด 
    มีจัดทำเพจ กฏแห่งกรรม ธรรมจัดสรร รวบรวมคำสอนพระอาจารย์และเรื่องราวต่างๆ เอาไว้อ่าน 
    เรื่องไหนที่เห็นว่าดี เห็นว่ามีประโยชน์ก็จะนำมาเขียนต่อลงในนี้ 



    write on April 26 2015 
    ** โครงเรื่องจาก หลวงตาไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง จังหวัด นครราชสีมา

    https://www.facebook.com/narainakaraj/posts/701377909972751:0 

     

                 

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×