So Luky !! ขอบคุณอีกทีสำหรับเรื่องราว - So Luky !! ขอบคุณอีกทีสำหรับเรื่องราว นิยาย So Luky !! ขอบคุณอีกทีสำหรับเรื่องราว : Dek-D.com - Writer

    So Luky !! ขอบคุณอีกทีสำหรับเรื่องราว

    เมื่อเธอคนนี้คนที่มีแว่นตาหนาเตอะทรงผมสุดปอบได้มาเจอกับ 'คุณรักแท้' จะเกิดอะไรขึ้น จะสมหวังหรือไม่ตามมาอ่านกันเลย!

    ผู้เข้าชมรวม

    31

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    31

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 พ.ค. 59 / 22:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                                                          บทที่ 1 บทเริ่มต้นของเรื่องราว

                  มันเริ่มขึ้นตอนไหนกันนะความรู้สึกนี้น่ะ อ้อ คงเป็นตอนที่ฉันรู้สึกโชคร้ายที่สุดในชีวิตล่ะมั้ง ว่าแต่ตอนไหนล่ะฉันก็โชคร้ายที่สุดในชีวิตอยู่ทุกวันนี่นา คงจะเป็นตอนที่ใบไม้เพียงใบหนึ่งหล่นตอนที่เดินผ่าน ฉันคงจะมองมันและเมื่อเขาคนนั้นเดินผ่านมา! ปิงโก! ต้องใช่แน่ๆเลย แต่ตอนนั้นฉันดันสะดุดเท้าตัวเองล้มหัวโขกพื้นหัวเข่าถลอกเลือดไหลกระโปรงเปิดหวอออกแว่นตาสายตาสั้นสามร้อยห้าสิบดันหักแถมแตกละเอียดนั่นคงจะโชคร้ายมากๆเลยล่ะ แต่ฉันรู้สึกว่าโชคร้ายไม่เท่าที่ฉันได้เห็นใบหน้าของเขาคนนั้นเพียงแค่สามวินาที!! พระเจ้าไม่เห็นใจกันเลยล่ะ!

              หลังจากที่ฉันพยายามจะนึกเรื่องราวตอนมอต้นที่เคยผ่านมาของตัวเองให้หลานรักนามว่าโทม่าฟัง ฉันก็ดันนึกถึงเรื่องที่ติดตรึงฝังใจขึ้นมา เฮ้อ มันผ่านมาตั้งนานแล้วนะยัยแซมเปอร์!!

         “โถ่! น้าแซมเร็วๆสิครับนี่ผมรอน้ามาสิบนาทีแล้วนะรอจนน้าจะได้เป็นป้าแล้ว อย่าทำให้ซัมเมอร์ของน้ากล่อยสิครับ”

         “เออน่ารอหน่อยก็ไม่ได้วัยรุ่นนี่ใจร้อนจริงๆเลย ตอนน้าเป็นวัยรุ่นไม่เห็นจะเป็นแบบแกเลยนะ-^-+”

         “น้าจะไปมีเวลาใจร้อนได้ไงเล่า ฮ่าๆๆ แค่เดินช้าๆแบบเดินจงกลมน้ายังหกล้มทุกๆยี่สิบห้าก้าวเลย ฮ่าๆๆๆ”

              ก็ถูกของมันนะเฮ้ย อ้อทุกคนคงสงสัยว่าฉันเป็นใคร สวัสดีค่ะฉันชื่อแซมเปอร์ นิศิษย์นักศึกษาของมหาลัยชื่อดังที่ไม่เหมือนใครปิดมอไม่ตรงกับใครเปิดมอก็ไม่ตรงกับใครด้วย ฉันเรียนคณะอักษรศาสตร์ค่ะ ปีนี้ก็จะขึ้นปีสองแล้วแบบตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ อยากจะจบเร็วๆมีงานทำเร็วๆ เพราะจะได้ไม่ต้องมารบกวนที่อยู่อาศัยของพี่สาว พี่สาวฉันชื่อแอนเดอร์ ทำงานเป็นดีไซเนอร์ออกแบบชุดเสื้อผ้าแบรนด์แอนเดอร์กิจการตัวเองอยู่ที่เชียงใหม่ ได้มาแต่งงานกับเทอเนอดา คนอังกฤษ แล้วมีลูกชายวัยห้าขวบชื่อโทม่า นั่นเอง คือฉันมีพี่สองคนคือพี่จินดากับพี่แอนเดอร์พี่แอนเดอร์คือพี่คนโต ส่วนพี่จินดาเป็นคนเล็กทำงานเป็นหมอที่โรงพยาบาลชื่อดัง พี่ทั้งสองคนทั้งสวยและทั้งเก่ง ส่วนฉันเป็นน้องคนสุดท้องที่ทั้งไม่สวยไม่เก่ง และที่สำคัญที่สุดคือโชคร้ายที่สุดในโลกด้วย เพราะดูหน้าตาเธอสิหัวฟูๆหน้ารูปไข่ถึงแม้ผิวจะขาวแต่ยังไงก็ไม่เคยลอดพ้นออกมาจากแว่นหนาเตอะนี่เลย! ฉันสายตาสั้นตั้งสามร้อยห้าสิบเลยล่ะคิดดู ทำไมฟ้าช่างแกล้งคนไม่มีทางสู้T^T ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะที่โทม่าพูดมาไม่ได้เวอร์เกินไปเลยซักนิดมันดูน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ฉันเป็นคนซุ่มซ่ามสุดๆเลยล่ะ เพราะแค่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องมีสะดุดละ ถ้าไม่สดุดก็ล้มเลยค่ะ มันเป็นอะไรที่คับแค้นใจยิ่งกว่าโดนเครือข่ายโทรศัพท์หลอกกินตังค์อีกค่ะ เพราะฉะนั้นฉันเลยต้องใส่แต่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว ถ้าเป็นกระโปรงจะเป็นกระโปรงยาว อะไรก็ยาวไว้ก่อนอ่ะป้องกันการบาดเจ็บให้ถึงที่สุด และในกระเป๋าที่ฉันพกติดตัวไว้ตลอดก็จะมีพวกอุปกรณ์ทำแผลติดไว้ตลอดค่ะ เพราะมันเป็นแบบนี้ไงฉันเลยไม่มีใครคบ ที่จริงก็มีอยู่สองคน คือยัยข้าว กับยัยขวัญ สองคนนี้เป็นฝาแฝดกัน เขาน่ารักมากเลยล่ะฮ่าๆๆๆๆ

         “เฮ่ น้าวิญญาณออกจากร่างรึไง น้า! น้าแซม!!

         “อ้ากก!! อะไรเล่าตกใจหมดเลย”

         “ก็น้าเอาแต่เหม่ออ่ะ สรุปจะเล่าให้ฟังมั้ยเรื่องราวตอนมัธยมของน้าอ่ะ”

         “โอเค เล่าๆๆ น้าเก็บมันมานานมากละอยากละบาย เรื่องมันอาจจะยาวไปหน่อยนะแต่น้าก็ชอบล่ะ ฮ่าๆๆ”

         “เล่ามาอย่าให้ขาดแม้แต่คำเดียวเลยนะน้า ผมมีเวลาทั้งเดือนให้น้าเลยเนื่องจากผมพึ่งอกหักจากน่านฟ้ามา=_=

         “ฮ่าๆๆๆ ตั้งใจฟังล่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า........น้าได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเอกชนวาดฝันที่เชียงใหม่เนี่ยล่ะ มันเป็นโรงเรียนที่สวยนะ ฮ่าๆๆๆ แล้วชีวิตใหม่ของน้าก็เริ่มขึ้น................”

     

         ในเช้าวันหนึ่งที่มีอากาศสดใสและสดชื่น ฉันได้แต่คิดในใจว่านี่แหละ วันนี้แหละจะเป็นวันเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ดีๆและจะได้พบแต่โชคดี อ่าฮ่า^O^!!’ แต่หาใช่ไม่ ฉันยังคงเดินสะดุดเท้าตัวเองล้มเหมือนเดิม=_= อยากจะเจ็บมากแต่ชิน! การที่ฉันได้มาเข้าโรงเรียนแห่งนี้เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตมากๆ เพราะดันมาเข้าตอนมอสี่น่ะสิ แล้วแบบโรงเรียนแห่งนี้เขาไม่รับเด็กนักเรียนเข้าตอนมอสี่หรอกนะเขาจะรับเด็กที่กำลังจะขึ้นมอต้นเท่านั้น! แค่นั้นยังไม่พอนะฉันดันมาตอนม.4 เทอมสองอีกTOT แค่นี้ฉันก็เห็นอนาคตตัวเองลอยมารางๆแล้วค่ะ แล้วทำไมฉันต้องย้ายโรงเรียนด้วยล่ะ? ก็เพราะต้องตามมาอยู่เชียงใหม่กับพี่ๆของฉันไงเพราะพ่อและแม่ฉันเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต ฉันเลยเหลือแต่พี่ๆที่ฉันจะอยู่ด้วยได้ ฉันเป็นเด็กนักเรียนที่ไม่ธรรมดาเลยล่ะ โชคร้ายอย่างไม่ธรรมดา!!!

         ฉันยืนทำใจกับชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ที่นี่อย่างช่วยไม่ได้แล้วก็ก้าวเดินเข้าโรงเรียนไป ฉันเจอยามฉันก็ทักยาม ฉันเจอครูฉันก็ไหว้ครู ฉันเจอหมาฉันก็ทักหมา ฉันเจอรูปปั้นฉันก็ทักรูปปั้น แต่พอฉันเจอเพื่อนมนุษย์ฉันกับแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า ทุกคนเดินผ่านฉันไปอย่างรังเกียจเดียดฉัน อาจจะเป็นเพราะเสื้อผ้าที่ฉันใส่อยู่ก็ได้ เสื้อแขนยาว กระโปรงยาวคลุมข้อเท้า ผมหยิกฟูยุ่งเหยิง กับแว่นตาหนาเตอะที่มองยังไงก็แว่นตาคุณยายชัดๆ นี่มันไม่เหมือนมนุษย์เลยT^T ฉันมันเหมือนสัตย์ประหลาดที่มีแว่นตาเป็นอาวุธ ฮือๆ เข้ามาสิใครแกล้งแม่จะถอดแว่นตาตบเลยTOT

         “เฮ้ๆ เธอน่ะ เธอนั่นแหละ เป็นเด็กใหม่เหรอไม่เคยเห็นหน้าเลย”

    เสียงใครน่ะ ฉันหันไปมองตามเสียงเรียกนั่นช้าๆ ฉันกลัวฉันจะล้มอ่ะT^T แล้วฉันก็ได้พบกับความตะลึง! ตะลึง! โอ้...พระ....เจ้า.... นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย อยากรู้มั้ยฉันเห็นอะไร ฉันเห็นเธอคนนั้นก็คือเธอคนนี้เธอพวกนี้แยกร่างได้ เธอพวกนี้แปลกกว่าฉันอีก เธอพวกนี้มีสองคนที่เหมือนกันเป๊ะๆ! งงไว้ก่อนพ่อสอนไว้~

         “อ้าวเงียบทำไมอ่ะ ฮ่าๆๆๆ อะไรกันทำไมทำหน้างงขนาดนั้น ทำเหมือนไม่เคยเจอฝาแฝดอย่างนั้นแหละ ฮ่าๆๆๆ”

         “อะ..เอ่อ.. สะ..สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแซมเปอร์ม.4 ห้องสอง ค่ะ”

         ฉันไหว้พวกเธอที่มีหน้าเหมือนกันสองคน สองคนเชียวนะ ฉันงงมากถึงมากที่สุด ฝาแฝดเป็นแบบนี้เองสินะหน้าของพวกเขาสองคนเหมือนกันมากชุดนักเรียนเหมือนกันเสื้อกันหนาว(ที่จริงต้องบอกว่ากันแดด)สีแดงเหมือนกัน นาฬิกาสีชมพูเหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนกันหมดยกเว้นผมที่มัดไปคนละทาง คงมัดไว้เผื่อเพื่อนๆจำไม่ได้ว่าเป็นใครเป็นใครมั้ง ความคิดดี แต่ถ้าจะดีขอเปลี่ยนเป็นเสื้อได้มั้ยสีเสื้อน่ะ เด่นและแยกออกง่ายว่าใครเป็นใคร=_=

         “ห้องเดียวกันเลย^O^! ขวัญนี่ไงเด็กใหม่ที่จะมาวันนี้”

         “อ่าฮะ ไม่เป็นเหมือนที่คิดแฮะ ฮ่าๆๆๆ”

         “สวัสดีฉันชื่อข้าว แล้วนี่ก็พี่ฉันชื่อขวัญ พวกเราเป็นแฝดกันน่ะเธอคงไม่งงนะ ฮ่าๆๆ”

         “งง” ฉันพูดพร้อมกับพยักหน้า

         “ฮ่าๆๆๆ เธอนี่ตรงชะมัด ฮ่าๆๆๆ ฉันถูกชะตากับเธอมากเลยล่ะเปอร์ ขอเรียกเปอร์นะ”

         “อ่าได้สิตกลง”

         “งั้นฉันจะเรียกเธอว่าแซม ฮ่าๆๆๆ เธอจะได้แยกออกว่าใครเป็นใคร จำไว้นะฉันชื่อขวัญฉันเรียกเธอว่าแซม”

         “และฉันชื่อข้าวฉันเรียกเธอว่าเปอร์ ไม่งงนะ”

         “เอ่อขอโทษที่ยังงงอยู่ แหะๆ”

         พอฉันพูดจบ พวกเธอสองคนก็หันหน้านิ่งๆเข้าไปหากัน โอเคตอนนี้พวกเธอคงไม่อยากรู้จักฉันแล้วล่ะ

         “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

         แต่เปล่าเลยสองสาวกลับหัวเราะปล่อยก๊ากออกมาซะเสียงดังแบบไม่ห่วงสวยกันเลยทีเดียว พวกเธอคงเป็นประเภทสวยไม่แคร์สื่อสินะดีจัง ส่วนฉันก็คงจะเป็นประเภทผีแคร์สื่อT^T หน้าตาเหมือนกระสือที่กลัวคนทุกประเภทที่ไม่เคยรู้จัก ยัยแซมเปอร์ขีเหร่T^T

         “เปอร์เธอนี่ตรงชะมัด ฮ่าๆๆฉันชอบบบบ”

         “จริงเห็นด้วย ฮ่าๆๆ โอเคผ่าน เธอผ่านบททดสอบ เธอได้เป็นเพื่อนกับพวกเรา”
                    “หืม งง
    =_=

         ฉันยังคงงงอยู่ดี ผ่านบททดสอบงั้นเหรอ ทำไมฉันไม่เข้าใจ มันมึน มันอึน มันหมุนติ้ว มันเบลอๆ มันแกว่งไปแกว่งมา มันร้องอ๊อดอ๊อด

         “อ้อ พวกเราสองคนคิดว่าเด็กใหม่ที่เข้ามาต้องน่ารักและนิสัยดีแน่เลย แต่เข้ากลางเทอมแบบนี้คงไม่มีเพื่อนก็เลยจะมาทำความรู้จักไว้น่ะถ้าเด็กใหม่เป็นพวกเฟคใส่กันก็จะเลิกยุ่งไม่คบไม่คุย ลาขาด แต่พอเป็นเธอทุกอย่างก็โอ ฮ่าๆๆๆ ถึงแม้การแต่งตัวและแว่นตาโตๆของเธอจะไม่ผ่านก็ตาม ฮ่าๆๆ”

         “ฉันผ่านด้วยสองคำเนี่ยนะ-O-!?

         “เธอจริงใจ โอเคเข้าเรียนกัน ฮ่าๆๆๆ อ้อ ที่โรงเรียนนี้ไม่มีเข้าแถวนะ มีแต่ชั่วโมงรักชาติทุกวันศุกร์คาบสุดท้ายหนึ่งชั่วโมงที่ทุกคนต้องรวมตัวกันที่โรงยิมน่ะ”

         “อ้อ โอเค อันนี้เข้าใจ” ฉันผยักหน้าขึ้นลง

         “ฮ่าๆๆ แล้วเธอจำฉันได้รึยังเปอร์”

         “ได้เธอชื่อข้าวมัดผมไปทางขวา”

         “ส่วนฉัน”

         “เธอชื่อขวัญมัดผมไปทางซ้าย ขอบคุณพระเจ้าที่อย่างน้อยการมัดผมของพวกเธอไม่เหมือนกัน เอเมน”

    แล้วขวัญกับข้าวก็หันหน้าเข้าหากันเหมือนเดิม แล้วก็ปล่อยก๊ากออกมาจนคนทั้งสองข้างทางหันมามองกันเป็นตาเดียว นี่คือความโชคดีในความโชคร้าย ซึ้งใจTOT แต่พอฉันกำลังคิดยังไม่ทันสุดความคิดฉันก็...

         “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

         ตุบ!! เหยียบกระโปรงตัวเองล้มอย่างแรงจนทุกคนในบริเวณนั้นหันมามองอย่าง อึ้ง ทึ่ง เสียว จากนั้นในหัวก็คงจะคิดต่อด้วยความรู้สึก โหด มัน ฮา ตามกันมาเป็นแพ็กเก็ท

         “โอ้....นี่..เอง..สินะ..เหตุผลของการแต่งตัว..ด้วยชุดยาวๆ...”

         พอฉันเริ่มลุกขึ้นมาสำรวจร่างกายของตัวเองว่ามีอะไรตรงไหนเจ็บหรือถล

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×