The Chronisia ...

	.. ดินแดนแห่งคำเล่าขาน .. .. ตำนานลี้ลับโบราณ .. .. รอผู้สืบสานการผจญภัย .. .. ปฐมบทแห่งการเริ่มต้นของสิ่งที่เคยจบลง .. ..... The Chronisia ..... Part I. สู่อาณาจักรแห่งทะเลทรายผู้โดดเดี่ยว ...	Part I : Into Nienna Telemmaite...    - Chapter 1 : The Ways of Fate ...    - Chapter 2 : Travel with the Witch ...    - Chapter 3 : Confused Day ...    - Chapter 4 : The Revealed Secret ...    - Chapter 5 : An Accident ...    - Chapter 6 : To Volunteer ...    - Chapter 7 : Into Chronisia ...    - Chapter 8 : Evil Sword ...    - Chapter 9 : The Isolated Desert ...    - Chapter 10 : The Midnight Carcass...    - Chapter 11 : ...    - Chapter 12 : ...    - Chapter 13 : ...    - Chapter 14 : ...    - Chapter 15 : ...

================================================================================

*นิยายเรื่องนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากจินตนาการ ไม่ได้มีส่วนความของเป็นจริง หรือ ถูกต้องตามหลักการณ์ใดๆไม่*

================================================================================

๏Prologue๏

ณ แดนดินอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้ สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติครบทั้งสี่ฤดูตลอดปี ทวีปที่ซึ่งเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่หลากหลายนานานับไม่ถ้วน ดินแดนแห่งนี้จึงมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ แบ่งเขตที่อยู่อาศัยกันในแต่ละภูมิประเทศ ถึงแม้มันจะมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่เพรียบพร้อม แต่มันก็ไม่ได้เป็นเหตุจูงใจแก่มนุษย์ที่จะมาปักหลักอาศัยอยู่ ณ ทวีปแห่งนี้ เพราะมันได้รับสมญานามว่า ทวีปแห่งโลกสุดท้าย .. "ครอนนิเซียร์" (Chronisia) ดินแดนแห่งตำนานและคำเล่าขาน

ตำนาน ที่กล่าวกันมารุ่นสู่รุ่นนั้น ได้เล่ากันมาว่า "ครอนนิเซียร์" เต็มไปด้วยสถานที่โบราณจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งไม่สามารถบ่งบอกความเก่าแก่ของมันได้ อีกทั้ง มีความประหลาดคือ สถานที่เหล่านั้นไม่มีร่องรอย หรือ หลักฐานพบได้เลยว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น สมัยก่อนเคยมีกษัตริย์หลากหลายประเทศมากมายจากนอกทวีป ส่งนักสำรวจและทหารเข้ามายังที่นี่ หมายจะครอบครองในดินแดนส่วนนี้ แต่หาได้ทำสำเร็จไม่ ... และมิมีผู้ใดรอดกลับไปยังที่ที่ตนมาเลยสักคน ...

กาลเวลาล่วงเลยไป หลายร้อยปี ทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกลืม และถูกตราว่าเป็นเขตอันตรายแห่งหนึ่งบนผืนโลก ผู้คนค่อย ๆ ลืมตำนานเหล่านี้ไป จนกระทั่ง..มีสมาคมยักษ์ใหญ่ซึ่งตั้งขึ้นด้วยเงินทุนจำนวนหลายแสนล้าน สมาคมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาอารยธรรมโบราณ รวมทั้งเวทมนต์โบราณอันพิศดารบนดาวดวงนี้ .. สมาคม"รูนทินน์"

ด้วยเหตุนี้เอง สถานที่ที่สมาคม"รูนทินน์"สนใจมากที่สุด คงไม่พ้นทวีปลึกลับอย่าง"ครอนนิเซียร์"แน่นอน ทางสมาคมจึงทุ่มเงินมูลค่าหลายหมื่นล้านทองคำ ในการจัดการแข่งขัน ค้นหาอารยธรรมต่าง ๆ ใน"ทวีปครอนนิเซียร์"แห่งนี้ โดยป่าวประกาศไปทั่วโลก รับสมัครผู้กล้าที่จะมีบุกเบิกตามเงื่อนไขที่ทางสมาคมกำหนดไว้ให้ไปทำภารกิจ โดยผู้ชนะจะได้ทองคำมากมายมหาศาลอีกทั้ง ตำแหน่งพิเศษผู้พิทักษ์ระดับสูงของสมาคมด้วย ในการแข่งครั้งนั้น มีผู้สนใจจำนวนมาก การแข่งขันดำเนินไปหลายเดือน จนกระทั่ง .... "ไม่เหลือผู้รอดชีวิตในการแข่งขัน" ทำให้สมาคมถูกเพ่งเล็งจากทั่วโลกว่าเป็นการแข่งขันที่ส่งผู้คนไปเสียชีวิตเปล่า.. แต่ทางสมาคมก็ได้ชี้แจงว่าผู้เข้าสมัครการแข่งขันทุกคนเต็มใจที่จะรับภารกิจ .. ปัญหานี้คาราคาซังอยู่นาน จนกระทั่ง กาลเวลาล่วงเลยไปทำให้ผู้คนได้ลืมเลือนเรื่องนี้...

20 ปี ผ่านไป... ประธานสูงสุดของสมาคม"รูนทินน์" ได้ถูกเปลี่ยนเป็นครั้งแรก โดยประธานคนเก่าได้เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ.. ประธานคนใหม่ ได้คิดที่จะริเริ่มสานงานต่อโดยการจัดการแข่งขันอีกเป็นครั้งที่สอง โดยตั้งเงื่อนไขขึ้นมาอีกหลายข้อเพื่อจะทำการรักษาความปลอดภัยให้ดีมากกว่าเก่า ซึ่งรัฐสภาโลกก็เห็นชอบ เพราะเบื้องหลังสมาคม"รูนทินน์"ได้ทำการให้เงินอุดอย่างลับ ๆ เพื่อให้ทางรัฐยินยอมที่จะเปิดให้ทำการแข่งขันอีกครั้ง

สมาคมได้ประกาศที่จะเริ่มในการแข่งขันครั้งที่ 2 ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วภายในเวลาสัปดาห์เดียว ทำให้เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก และที่สำคัญ ก็มีผู้สนใจในรางวัลที่สมาคมตั้งขึ้นอีกเช่นกัน นั่นคือ เงินรางวัลมากมายกว่าการแข่งขันครั้งแรกกว่า 3 เท่าตัว ... โดยสถานที่จัดการแข่งขันก็ยังคง คือ "ทวีปครอนนิเซียร์" เช่นเดิม ภายใต้ชื่อการแข่งขัน "The Chaos of Chronisia 2nd" ...

[สิ้นสุด Prologue]

================================================================================

๏About to Chronisia๏ 



"ทวีปครอนนิเซียร์" ... หรือที่ผู้คนเรียกกันติดปากว่า "ทวีปแห่งโลกสุดท้าย" ผืนดิน ณ ที่แห่งนี้ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลพอสมควร จึงถูกเรียกว่าเป็นทวีป ๆ หนึ่งเลยทีเดียว หากแต่ภายหลัง มีการค้นพบดินแดนต่าง ๆ บนโลกใบนี้ ทำให้ทวีปครอนนิเซียร์ดูเล็กลงไปถนัดตาถ้าเทียบกับทวีปอื่น ๆ

ครอนนิเซียร์เป็นทวีปที่เต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ จากการสำรวจพื้นที่ของสมาคม"รูนทินน์" ได้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุดเพียงสถานที่ต่าง ๆ ที่ถูกเรียกขึ้นตามตำนานเท่านั้น ไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับความเป็นมา ภูมิอากาศของทวีปครอนนิเซียร์มีหลากหลายแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 โซนใหญ่ ๆ ดังนี้

I . อาณาเขต Nienna Telemmaite , The Isolated Desert
สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตพื้นที่โซนทิศตะวันออกของครอนนิเซียร์ ผืนดินเต็มไปด้วยทะเลทราย และ พื้นที่ที่แห้งแล้งแตกระแหง ดินแดนแห่งนี้เทียบเป็นอัตราส่วน 1 ใน 10 ของพื้นที่ทวีปครอนนิเซียร์ทั้งหมด ทำให้อาณาจักรนี้เป็นพื้นที่ที่เล็กที่สุดในทั้ง 5 อาณาจักรบนครอนนิเซียร์ นอกจากจะมีพื้นที่ที่เล็กที่สุดแล้ว สภาพภูมิอากาศค่อนข้างร้อนมากจนถึงขีดสุดเช่นกัน สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่จึงเป็นพวกที่สามารถทนทานความร้อนได้ หรือ จำพวกอาศัยอยู่ใต้ผืนทะเลทราย ถึงแม้จะมีสภาพแวดล้อมทั้งอากาศและสถานที่ที่ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่ได้ แต่ก็มีสิ่งก่อสร้างอารยธรรมโบราณตั้งอยู่ตระหง่านกลางทะเลทราย รวมทั้งรังที่อยู่อาศัยของสัต ว์ดุร้ายเจ้าถิ่นอีกด้วย ด้วยเหตุต่าง ๆ นี้เอง ทางสมาคมรูนทินน์จึงสถาปนาชื่อให้กับอาณาจักรแห่งนี้ตามตำนานเล่าขานว่า .. เนียนนา ทะเลทรายผู้โดดเดี่ยว

II . อาณาเขต Itarille Elensar , The Rune Forest
สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตพื้นที่โซนทิศใต้ ดินแดนที่เต็มไปด้วยหมู่เมกไม้นานาพันธุ์ และ พืชพันธุ์ที่แปลกประหลาด พื้นที่แห่งนี้เทียบเป็นอัตราส่วน 3 ใน 10ของพื้นที่ทวีปครอนนิเซียร์ทั้งหมด อาณาจักรแห่งป่าไม้นี้จึงเป็นเขตพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปครอนนิเซียร์เลยทีเดียว สภาพถูมิอากาศชุ่มชื้นตลอดทั้งปี ทำให้ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์มากมายหลายประเภทที่มารวมตัวกันอยู่อาศัย อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง สถานที่เก่าแก่โบราณของอาณาจักรแห่งป่า มีมากมายหลายที่นัก แต่สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดน่าจะเป็น ต้นไม้ใหญ่ยักษ์มโหฬาร ที่ตั้งสูงอยู่ใจกลางของอาณาจักร ว่ากันว่า ในโพรงของต้นไม้ยักษ์ต้นนั้นเป็นสถานที่อยู่อาศัยของพวก"แฟรี่" แต่ก็ไม่มีข้อมูลใดๆนอกจากคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมา และ ตำนานโบราณ อาณาจักรแห่งป่านี้ถูกเรียกว่า .. อิทาริลล์ ป่าไม้แห่งมนตรา

III . อาณาเขต Aranel Telemnar , The Winter Garden
สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตพื้นที่โซนทิศเหนือ ดินแดนที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีช่วงระยะเวลากลางคืนมากกว่ากลางวันอย่างน่าประหลาด ว่ากันว่าอาณาจักรแห่งนี้เป็นดินแดนต้องสาปจากปีศาจร้ายเมื่อครั้งก่อนกาล พื้นที่ทั้งหมดเทียบเป็นอัตราส่วน 2 ใน 10 ของครอนนิเซียร์ สภาพภูมิอากาศคงไม่ต้องบรรยายถึง นั่นคืออุณหภูมิหนาวเย็น ติดลบตลอดปี มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยพวกที่ร่างกายที่มีสภาพเดียวกับน้ำแข็ง หรือ พวกที่มีขนหนาฟูฟ่องสามารถทนความหนาวได้ดี สถานที่อารยธรรมโบราณทั้งหมดถูกฝังไว้ใต้น้ำแข็งและหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นอย่างลึกลับ ตามตำนานเรียกอาณาจักร์แห่งนี้ว่า .. อราเนล สวนเหมันต์

IV . อาณาเขต Earwen Nenharma , The Mysterious Swarm River
สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตพื้นที่โซนทิศตะวันออก ดินแดนที่เต็มไปด้วยแม่น้ำหลากสาย ไหลเชื่อมต่อกันไปมาราวกับใยแมงมุม และ มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลมากที่สุดใน 5 อาณาจักร อีกทั้ง ยังมีทะเลสาบรวมอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้รวมทั้งสิ้น 3 แห่งด้วยกัน ดินแดนลุ่มแม่น้ำแห่งนี้กินเนื้อที่เทียบเป็นอัตราส่วน 2 ใน 10 ของพื้นที่บนครอนนิเซียร์ทั้งหมด สภาพภูมิอากาศอบอุ่น มอนเตอร์ที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสัต ว์น้ำ หรือ พวกมอนสเตอร์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สถานเก่าแก่โบราณได้ดินแดนแห่งนี้ นั่นคือ สิ่งก่อสร้างที่ถูกค้นพบจากการแข่งขันในครั้งแรก ว่าอยู่ภายใต้ทะเลสาบทั้งสามแห่งในอาณาจักร ซึ่งแทบจะไม่มีข้อมูลใด ๆ เลยนอกเหนือจากนั้น และ ยังมีตำนานเกี่ยวกับอาณาจักรนี้อีกด้วยว่าเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของพวก มนุษย์ครึ่งมัจฉา หรือ ที่เรียกกันว่าเงือกนั่นเอง อาณาจักนี้ถูกเรียกขานว่า .. อาร์เวน ลุ่มน้ำปริศนา

V . อาณาเขต Inwe Anwamane , The Mountain of Paradise
สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตพื้นที่โซนกลางของทวีปครอนนิเซียร์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยเทือกเขามากมายนานับไม่ถ้วน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ไม่ก็เป็นเทือกเขา มีลักษณะเป็นแนวเทือกเขาห้อมล้อมอาณาเขตรอบนอกเป็นชั้น ๆ เข้าสู่ภายใน และ อาณาจักรนี้ก็เต็มไปด้วยถ้ำ โพรงต่าง ๆ ที่อยู่ตามภูเขาเหล่านั้น ดินแดนแห่งนี้เทียบเป็นอัตราส่วน 2 ใน 10 ของพื้นที่ทวีปครอนนิเซียร์ทั้งหมด สภาพภูมิอากาศค่อนข้างหนาวเย็น อันเนื่องจากเป็นที่สูง หากแต่เว้นไว้ที่หนึ่ง คือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่กลางของอาณาจักร ที่พร้อมที่จะระเบิดทุกเวลา สถานที่ที่น่าสนใจในดินแดนแห่งนี้ ก็เห็นจะเป็นหอคอยสูงเฉียดฟ้า ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เคียงข้างภูเขาไฟอันร้อนระอุนั่นเอง อาณาจักรแห่งเทือกเขานี้ถูกเรียกไว้ตามตำนานว่า .. อินเว เทือกเขาแห่งดินแดนสุขาวดี

***แผนที่ใช้สำหรับชั่วคราวเวอร์ชั่นวาดเอง -*- ลายมือแย่หน่อยน้า + ภาพใหญ่โหลดโหด***

+ + ** http://img204.imageshack.us/my.php?image=chronisiamaxcopymj2.jpg ** + +